ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC EXO :‹ 7Days ›: KAIHUN

    ลำดับตอนที่ #2 : 7Days : kai x sehun - I

    • อัปเดตล่าสุด 8 มี.ค. 57


    7Days

    KAI x SEHUN
    เนื้อหาในฟิคเรื่องนี้ไม่มีส่วนข้องเกี่ยวกับความจริงแต่อย่างใด เป็นเรื่องที่ผู้แต่งคิดขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น

    ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

    1

     

            คิม จงอิน อายุ 26 ปี อาชีพสถาปนิก งานอดิเรกชอบถ่ายรูป ชอบเที่ยว ลักษณะนิสัย ชอบทำอะไรตามใจตัวเอง รักอิสระ เจ้าชู้ เสือผู้หญิง แต่นั่นมันก็แค่เมื่อก่อน

                 ครึ่งชีวิตที่ผ่านมาตัวเขาเองก็อยู่คนเดียวมาตลอดอยู่แล้วเพราะฉะนั้นไอการที่ต้องอยู่คนเดียวไปเรื่อยๆมันก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเขาสักนิดเดียว

                ก็แค่ตัวคนเดียวมาตลอด...

               

                ร่างหนาสมส่วนนั่งเหม่อมองแก้วกาแฟที่ส่งกลิ่นหอมมีควันจางๆลอยขึ้นมาแตะจมูกแต่ว่าชายหนุ่มก็ไม่มีท่าทีที่จะยกมันขึ้นมาดื่มแต่อย่างใด อาจจะเพราะสติของเจ้าตัวกำลังล่องลอย

                ลอยกลับไปเมื่อไม่กี่ชั่งโมงที่แล้ว...

     
     

               

                เหมือนว่าอวัยวะทุกส่วนถูกให้หยุดสั่งการร่างหนายังคงยืนนิ่งจ้องมองใบหน้าของผู้ร่วมห้องที่มีสภาพไม่ต่างจากเขา ใบหน้าขาวใสริมฝีปากแดงที่อ้าออกน้อยๆรูปหน้าที่คุ้นเคยแม้ว่าจะดูเปลี่ยนไปนิดหน่อยตรงส่วนสูงที่สูงขึ้น ใบหน้าขาวที่ยังคงเป็นประกายโดดเด่นแต่ดูไม่มีชีวิตชีว่าเหมือนแต่ก่อนในความรู้สึกของจงอิน

                ร่างบางในชุดเสื้อยืดกางเกงวอร์มสบายๆมือข้างซ้ายถือแผ่นกระดาษแผ่นเล็กที่จงอินเดาได้ว่าคงเป็นแผ่นเดียวกับที่เขาฝากไว้เมื่อวานโดยไม่ต้องสงสัย

                แม้ใบหน้าจะเรียบนิ่งแต่จงอินก็ไม่แน่ใจว่าเขาสามารถควบคุมแววตาตัวเองได้หรือไม่ มือที่ถือกล้องสั่นเบาๆอย่างยากที่จะควบคุมจนต้องบีบตัวกล้องเอาไว้แน่น

                เจ็ดปี...

                มันนานจนรู้สึกชาได้ขนาดนี้เชียวหรือ?

     

                “เอ่อ..” จงอินครางออกมาเบาๆก่อนที่จะก้มหน้าหลบสายตาอย่างไม่รู้ว่าจะเอามันไปวางไว้ที่ไหนดี          “สวัสดีครับหัวหน้าสถาปนิกสินะครับ โลกกลมดีนะครับคุณคิมจงอิน” เสียงหวานที่เอ่ยออกมาทำจงอินชะงักก่อนใบหน้าหล่อจะค่อยๆเงยมองร่างที่ยืนทำหน้านิ่งอยู่ที่เดิม

                ไม่มีร่องรอยอาการวูบไหวใดๆเหมือนเมื่อไม่กี่นาทีก่อน

                ไม่มี...

     

                “นายเป็น..ประธานบริษัทเหรอเซฮุน” เสียงแหบพร่าเปล่งออกมาเสียงเบาแม้ว่าจงอินจะคิดว่าเขาเอ่ยออกมาเต็มเสียงแล้วแท้ๆ แต่ทำไมมันรู้สึกว่าไม่ว่าจะเอ่ยอะไรออกไปตอนนี้ประโยคมันพาลจะเบาหวิวลอยลมผ่านคนตรงหน้าไปยังไงยังงั้น

                ร่างบางไม่ตอบอะไรเพียงแต่ยกยิ้มน้อยๆแล้วพยักหน้าเบาๆ ร่างหนากลืนน้ำลายเหนียวลงคออย่างยากลำบาก ไม่รู้ว่าจะเอายังไงต่อไป

                คนที่เขาเคยตามหาแทบพลิกแผ่นเดินเมื่อเจ็ดปีก่อน

                คนที่เขาเคยโหยหา

                คนที่เขาเคยเฝ้าคิดถึง

                การกลับมาเจอกันครั้งนี้ทำให้ความรู้สึกทั้งหมดที่เก็บสะสมว่าตีกันมั่วจนแทบทะลัก มันบ่งบอกได้ว่าที่ผ่านมา เขาไม่เคยลืมเซฮุนเลย

     

               

                “ทำตัวตามสบายเถอะครับ เรื่องอะไรที่มันผ่านมาแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะ”

                ประโยคที่เอ่ยออกมาไม่ได้ช่วยให้จงอินผ่อนคลายเลยแม้แต่น้อย แต่มันกลับเหมือนก้อนหินหนักๆที่ทับลงมาบนอกเขายังไงยังงั้น

                “ผมเข้าไปจัดการตัวเองก่อน คุณก็ด้วยนะครับอย่าสายล่ะ”

                “...” ร่างโปร่งยกยิ้มบางก่อนจะเดินผ่านตัวจงอินไปแต่ก็ก้าวถอยหลังมาเผชิญหน้า มองจงอินที่ยังคงนิ่ไม่พูดไม่จาอยู่ตรงนั้น

                “ยินดีที่ได้ร่วมงานนะครับ คุณคิมจงอิน”

    มือขาวยื่นมาตรงหน้าพร้อมกับรอยยิ้มเดิมที่มองแล้วไม่ได้ทำให้หัวหน้าสถาปนิกอย่างคิมจงอินรู้สึกดีขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย ค่อยๆก้มมองมือขาวที่ยื่นมาต้องหน้าก่อนจะตัดสินใจยกมือขึ้นมากระชับกับเรียวมือบางเพียงหลวมๆเท่านั้น ก่อนเซฮุนจะเป็นฝ่ายผละมือออกมาค้อมหัวแล้วเดินผ่านไป

               

                กว่านาทีที่จงอินยังคงยืนอยู่ที่เดิมให้ความรู้สึกที่หนักอึ้งภายในไหลเวียน อย่างที่ไม่รู้ว่าจะปลดปล่อยมันออกมายังไง หลับตาลงช้าๆกัดฟันไล่เหตุการณ์เมื่อกี้ออกไป ความทรงจำต่างๆที่เคยมีร่วมกับคนตัวบางเมื่อกี้วนเวียนฉายซ้ำราวกับวีดีโอม้วนเก่าที่ยังคงฝังแน่นอยู่ในจิตใต้สำนึก มือกร้านยกมือขึ้นมาลูบใบหน้าตัวเองแรงๆเพื่อหวังจะหยุดความคิดและความรู้สึกบ้าๆนี่สักที

                เมื่อกี้ไม่ใช่เซฮุนของเขา

                ไม่มีอีกแล้ว


                เด็กคนนั้นเปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนไปมากจริงๆ 

     

    .

     

               

                “เดี๋ยวเราจะไปที่รีสอร์ทกันเลยนะครับ คุณเซฮุนไปกับคุณจงอินแล้วกันนะครับ จะได้มีเวลาคุยรายละเอียดกันเลย”

     

                ประโยคที่ได้รับมาทำให้เซฮุนแอบหงุดหงิดในใจเล็กๆที่จะต้องมาอยู่ใกล้ชิดกับแฟนเก่า ถึงในสมองของเขาจะประมวลว่าไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษกับคนตรงหน้าแล้ว แต่เขาก็อยากจะเข้าใกล้ผู้ชายที่ชื่อคิมจงอินให้น้อยที่สุด แต่ดูเหมือนมางานนี้จะเป็นไปได้ยาก

                “รีบขึ้นรถสิคุณ มัวแต่ยืนใจลอยอยู่นั่นล่ะ” เสียงจากเดินหลังเรียกให้ร่างโปร่งยืนอยู่ข้างรถหันกลับไปมอง ผู้ชายที่เขาไม่อยากเข้าใกล้คนนั้นกำลังเดินอ้อมไปอีกฝั่งพร้อมทั้งแทรกตัวเข้าไปที่นั่งฝั่งคนขับเรียบร้อย ทำอะไรไม่ได้นอกจากเปิดประตูแล้วแทรกตัวเข้าไปตรงนี่นั่งด้านข้าง

                ความเงียบและอึดอัดก่อตัวขึ้นทันทีอย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะบรรยากาศแบบนี้มันเหมือนเมื่อเจ็ดปีที่แล้วที่นั่งแบบนี้ ตำแหน่งแบบนี้

                คุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก

                จงอินที่พยายามทำตัวให้ปกติแสร้งทำเป็นจัดของในรถของตัวเองไปพลางๆรอบมองปฏิกิริยาคนข้างๆที่ขยับตัวยุกยิกไปมาเพื่อจะคาดเข็มขัดนิรภัยให้กับตัวเองแต่ก็ไม่สำเร็จ จนคนแอบมองต้องเผลออมยิ้มออกมา

                คนตัวหนาเอี้ยวตัวดันร่างคนตัวขาวให้กลับมานั่งเฉยๆแล้ว เอื้อมมือดึงเข็มขัดจากอีกฝั่งตัวคนตัวบางมาติดเข้าให้ลงล็อค เสี้ยวนาทีที่สบตากันเหมือนกับลมหายใจของผู้ถูกกระทำติดขัด ตัวแข็งทื่อตกใจกับการกระทำของคนตรงหน้า

                หัวใจเต้นผิดจังหวะหรือเปล่าเซฮุน

     

                ลมหายใจผ่อนลงเมื่อคนแก่กว่าผละตัวออกมาราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เซฮุนลอบมองใบหน้าด้านข้างของคนที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายปี ใบหน้าที่ไม่เปลี่ยนแปลงอะไรไปมากนักทั้งก็เสน่ห์เหลือร้ายในการกระทำและใบหน้าที่หล่อเหลาทำให้จงอินดูโตเป็นผู้ใหญ่ที่เพอร์เฟ็คมากเลยทีเดียว

                “อย่ามองนานครับท่านประทาน เดี๋ยวท่านจะตกหลุมรักผมอีกรอบ

                พูดแล้วก็เหยียบคันเร่งพุ่งทะยานรถออกไป โดยไม่หันกลับมามองสีหน้าเซฮุนที่เส้นประสาทเหมือนจะแตกเปรี้ยะๆอยู่ในหัว

                แต่ความกวนตีนชอบพูดจายียวนกวนประสาทยังคงเดิมสินะ คิมจงอิน

     
     

    .

     

     

                ร่างหนาลอบมองใบหน้าขาวที่กำลังตั้งอกตั้งใจดูแปลนแผ่นใหญ่ก้มมองแล้วเงยขึ้นมองรอบๆรีสอร์ทแห่งนี้ ที่เสร็จแล้วไปแล้วกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็น คนตัวขาวที่ดูตั้งใจและจริงจังในแบบที่จงอินไม่เคยเห็นมาก่อน

                มีเสน่ห์ไปอีกแบบ

                “ส่วนการตกแต่งก็ประมาณนี้ครับแต่ละห้อง ส่วนประปาอีกสองวันจะมีคนมาเดินท่อแล้วใช้ได้ปกติ”

                จงอินอธิบายรายละเอียดขณะที่ดวงตาของฝ่ายตรงข้ามยังคงมองไปรอบๆตัวบ้านตกแต่งสไตล์โมเดิร์นแต่ใช้วัสดุเป็นไม้ซะส่วนใหญ่เพื่อให้เข้ากับธรรมชาติ จนคนอธิบายไม่แน่ใจว่าที่ใบหน้านั่นขยับขึ้นลงเป็นเพราะเข้าใจที่เขาพูดหรือเพราะจิตหลุดไปกับบรรยากาศสวยสบายๆริมทะเลนี้แล้ว

                “ถ้าคุณมีอะไรที่ต้องการให้เพิ่มเติมก็บอกผมได้เลยนะครับ”

                “โอเคครับ” เสียงหวานขานรับแต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ได้สนใจคู่สนทนาเลยแม้แต่น้อย ดวงตากลมจ้องไปยังผืนทรายด้านล่างที่มีเกลียวคลื่นซัดเข้ามาก่อนจะล่าถอยกลับไปฝากรอยไว้กับทรายละเอียดสีขาว

                “อยากลงไปเล่นเหรอ”

                คนใจลอยสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงทุ้มกระซิบอยู่ข้างๆหู ก่อนจะสะบัดหน้าหันกลับมาอย่างรวดเร็ว จนจมูกโด่งรั้นชนเข้าสันจมูกของอีกคน ต่างฝ่ายต่างผงะกับอุบัติเหตุเมื่อครู่ เซฮุนรู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนขึ้นแปลกๆเมื่อสบตาเข้ากับนัยน์ตาวาวเข้มที่สั่นไหวอยู่ตรงหน้า ก่อนที่ทั้งคู่จะเสหลบไปคนละทาง

                “เอ่อ.. นี่ก็เย็นมากแล้ว คุณอยากกลับโรงแรมเลยไหม?” คนแก่กว่าเอ่ยถามโดนไม่ได้หันไปมองคู่สนทนาตรงๆ

                 “กลับเลยดีกว่าครับ” เซฮุนตอบรับอ้อมแอ้มก้มหน้าเดิมตามหลังร่างหนาที่เดินนำออกไป ซ้ำยังคงรู้สึกถึงความร้อนบนใบหน้าของตัวเองกับเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ อยากจะตบหน้าตัวเองที่รีบหันมาจนมันกลายเป็นแบบนี้

                แล้วไออาการวูบไหวในช่องท้องนั่นอีก

                เขาคงกำลังอายนั่นแหละ อายที่ทำอะไรเฟอะฟะแบบนั้นออกไป

     
     

    .

     


     

                ตั้งแต่กลับมาจากรีสอร์ททั้งจงอินและเซฮุนก็ไม่ได้คุยกันอีก แม้แต่ประโยคเดียว...

                ไม่ใช่ว่าเจ้าของร่างผมสีเข้มจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังโดนหลบหน้าอยู่ ตอนทานอาหารเมื่อเห็นหน้าเขาเจ้าตัวก็ขอตัวขึ้นห้องทั้งที่อาหารในจานยังพึ่งพร่องไปนิดเดียวเท่านั้น

                ไม่เข้าใจ..

               

                แต่เมื่อก้าวเข้ามาในห้องภาพแรกที่เห็นคือร่างโปร่งที่นั่งอยู่บนเก้าอี้บนโต๊ะอาหารมีโน๊ตบุ๊ควางอยู่ ใบหน้าจริงจังที่ยังคงจับจ้องกับหน้าจอนั้นอย่างตั้งใจ ไม่รู้สึกตัวแม้ว่าเขาจะเดินเข้ามาใหม่ในห้อง

                แม้ในใจจะอยากทักอยากคุยแค่ไหนก็ตาม

                แต่ภาพตรงหน้าก็ต้องทำให้เขาหยุดความคิดเอาไว้

     

     

                กึก!

                แรงสั่นสะเทือนเรียกให้ต้องเบนสายตามองบางอย่างที่ถูกวางลงบนโต๊ะ แก้มทรงสูงบรรจุน้ำสีขาวมีวางมาตรงหน้า เงยหน้าอีกนิดก็พบใบหน้าที่คุ้นเคยยืนยิ้มบางๆให้เขาอยู่ก่อนแล้ว

                หน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ เหตุการณ์เมื่อเย็นแล่นเข้ามาในหัวทำให้ยิ่งรู้สึกทำตัวไม่ถูก

                เซฮุนไม่เข้าใจตัวเองเท่าไหร่ที่ตลอดหัวค่ำนี้เขาถึงหลบหน้าคนตรงหน้าที่พ่วงตำแหน่งหัวหน้าสถาปนิก และแฟนเก่า ของเขา

                “อ..อะไร”

                อยากจะตบปากตัวเองทั้งๆที่พูดออกไปธรรมดาเหมือนปกติ แต่ทำไมมันถึงติดขัดขาดห้วงแบบนี้ก็ไม่รู้

                “ก็เห็นๆอยู่ นมอุ่นไง”

    รอยยิ้มมุมปากพร้อมกับคำตอบยียวนนั้น เรียกให้ใบหน้าขาวขมวดยุ่งไปหมด

    แต่เซฮุนก็รู้ดีว่าสิ่งนี้ก็เป็นหนึ่งในเสน่ห์ของอีกฝ่าย อย่างปฏิเสธไม่ได้

    “ผมหมายถึงคุณเอามาทำไม”

    จริงๆโตจนอายุปาเข้าไปครึ่งห้าสิบแล้วไม่ใช่ไม่รู้ว่าอีกคนเอามาทำไมแต่ก็อดจะเอ่ยออกไปไม่ได้อาจจะเป็นเพราะเขากระดากอายเกินไปที่จะเอ่ยคำว่าขอบคุณมากกว่า

    “เอามาให้ดื่มไงครับ ทำงานดึกๆแบบนี้.. จำได้ว่าคุณชอบดื่มมันก่อนนอน”

    “...”

    “ผมเป็นห่วง”

    ขณะที่รู้สึกมึนเบลอกับประโยคเมื่อครู่ เจ้าของคำพูดก็เดินหันหลังห่างออกไปจากตัวเกือบจะถึงประตูห้องนอนแล้ว

    “ม..ไม่ใช่! ผมไม่ได้ชอบดื่มนมงี่เง่านี้แล้ว!” คนตัวขาวโพร่งออกไปอย่างไม่ทันได้คิดอะไร จนคนแก่กว่าหยุดเดินแต่ก็ยังไม่ได้หันหน้ากลับมามองคนที่นั่งอยู่

    “ตอนนี้ผมชอบดื่มกาแฟ..”

    “อย่าเข้าใจผิดว่าคุณรู้จักผมดี เพราะตอนนี้ผมไม่ใช่คนเก่าอีกแล้วโปรดเข้าใจด้วย”

    ไม่มีเสียงตอบรับใดๆทั้งสิ้น ความเงียบโรยตัวจนเซฮุนได้ยินเสียงหายใจรุนแรงของตัวเอง ไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกมาจากริมฝีปากของร่างหนา มีเพียงแผ่นหลังกว้างที่ห่างออกไปและหายเข้าไปหลังบานประตูเข้มนั้น

    ไม่รู้ทำไมภาพตรงหน้าที่ทำให้ลมหายใจเซฮุนขาดห้วงอย่างแปลกประหลาด ความรู้สึกแปลบๆที่หัวใจ ราวกับถูกโยนขึ้นแล้วดิ่งลงมายังคงตราตรึง

    เพียงเพราะคำพูดธรรมดาของผู้ชายคนนั้น

    ทำให้เส้นความรู้สึกเขารวนจนไม่สามารถควบคุมได้ขนาดนี้เชียวหรือ?

    มือเรียวยกขึ้นมาลูบหน้าตัวเองแรงๆเพื่อหวังคลายความรู้สึกบางอย่างให้ออกไป สูดหายใจเข้าลึกๆมองแก้วนมสีขาวขุ่นที่ยังคงวางอยู่ที่เดิม ก่อนจะยกมันขึ้นมาจรดริมฝีปากลิ้มรสชาติอ่อนนุ่มอบอุ่นที่ทำให้เขารู้สึกสงบลงได้

    โกหก...

    ไม่ว่ายังไงเซฮุนก็ยังคงชอบรสชาติของนมไม่เปลี่ยนแปลง

     
     

    .


     

               

                ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่กับการนั่งปล่อยให้ความคิดมากมายไหลผ่านหัวสมอง

                คิมจงอินไม่รู้อะไรเลย..

                ไม่รู้แม้กระทั่งว่าตัวเองจะจัดการกับความรู้สึกเจ็บปวดเหล่านี้ได้ยังไง

    “อย่าเข้าใจผิดว่าคุณรู้จักผมดี เพราะตอนนี้ผมไม่ใช่คนเก่าอีกแล้วโปรดเข้าใจด้วย”

                จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าประโยคนี้มันเข้ามาเล่นวนซ้ำในหัวเขามานานแค่ไหนแล้วตั้งแต่ประตูปิดลง เขาก็รู้สึกไร้เรี่ยวแรงมาซะดื้อๆ

                ทั้งที่ปกติแล้วเขาเก่งกับการจัดการความรู้สึกตัวเองมากที่สุด แต่ทำเป็นไม่เป็นไร ทำเป็นไม่รู้สึก ง่ายจะตายไป...

                ตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมาจงอินคิดว่าเขาทำมันได้ดี

                แต่มันกลับมาพัง พังไม่เป็นท่า..

     

                ประตูบานเดิมเปิดออกก่อนร่างหนาจะแทรกตัวออกมาช้าๆ ดวงตาคู่คมกรอกมองร่างที่ฟุบหลับคาโน๊ตบุ๊คราคาแพงก่อนจะต้องถอนหายใจออกมา หลังจากที่เขาทนเสียงเรียกร้องของส่วนลึกในจิตใจไม่ไหวออกมาเผชิญหน้ากับร่างที่มีอิทธิพลความคิดเขาอีกครั้ง

                ยืนนิ่งมองภาพตรงหน้าด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย

                แก้วนมของเขาที่เหลืออยู่กว่าครึ่งแก้ว

                เขาไม่เคยเห็นเซฮุนเหน็ดเหนื่อย และทำงานหนักแบบนี้มาก่อน

                ร่างหนาก้าวเดินมาหยุดลงใกล้ๆคนที่หลับใหลไม่รู้เรื่องรู้ราว เรียวคิ้วสวยยังคงขมวดมุ่นทั้งๆที่หลับอยู่ ริ้วรอยความเครียดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ เรียกให้นัยน์คมที่จ้องมองต้องสั่นไหว มือกร้านยกขึ้นไล้ไปสัมผัสข้างแก้มใสแผ่วเบา เลื่อนขึ้นไปแตะนิ้วลงที่หว่างคิ้วสวยเบาๆจนมันคลายออกพร้อมกับหัวกลมที่ขยับยุกยิกอย่างโดนรบกวน

                ประธานบริษัท ตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ ทั้งภาระ แรงกดดัน ต่างๆมากมาย แบกอยู่บนบ่าเล็กๆของคนตรงหน้า จงอินรู้ดีว่าเซฮุนไม่เคยอยากได้ตำแหน่งนี้

                เซฮุนของเขาเป็นแค่เด็กทั่วๆไป ที่อยากมีอิสระในอาชีพที่เขาทำ อยากมีความสุขในเส้นทางชีวิตเรียบง่าย

    โอเซฮุนที่มีรอยยิ้มสดใสส่งมาให้เขาเสมอ

                ถึงจะรู้อยู่แก่ใจว่าคนตรงหน้าเปลี่ยนไปแล้ว บุคคลตรงหน้าเขาที่มีศักยภาพพร้อมที่จะดูแลกว่าร้อยพันชีวิตในบริษัทใหญ่โต ในเจ็ดปีที่ผ่านมานี้เด็กคนนี้เข้มแข็งขึ้นมาก และเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถดูแลตัวเองได้แล้ว

                แต่ในสายตาของคิมจงอินแล้ว โอเซฮุนก็ยังเป็นคนที่ไม่เหมาะที่จะต้องไปดูแลใคร

                คนๆนี้สมควรที่จะได้รับการดูแลมากกว่า..

                “คงเหนื่อยมากสินะเซฮุนนา..”

                “คงฝืนมากเลยสินะ..”

                คำถามที่ร่ำร้องอยู่ในอกของเขา มันทั้งเจ็บ ทั้งชา ทุกครั้งที่เห็นคนตรงหน้าย่ำแย่

                แบ่งมาได้ไหม.. ความทุกข์ของนาย

                ให้พี่ได้ดูแลนาย...

     
     

     

    TBC.

     

    งงงวย แต่ช่างมันเถอะ แต่งไปแล้วรู้สึกเจ็บ แต่ไม่รู้อ่านแล้วจะเจ็บปะ

    โฮ ดราม่าแต่งยากเนอะ แต่ช่างเถอะ มาอัพละหวังว่าจะเมตตาฟิคเรื่องนี้

    เป็นหนึ่งกำลังใจที่ช่วยสร้างเสริมให้แต่งไปจนจบได้อย่างไม่ทะลักทุเลมากนัก 555555555

    แท็กทวิต #ไคฮุนเจ็ดวัน

     

     

               

                

    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×