คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Intro..
ถ้าไม่ทำอะไรเลยแต่แรกมันก็คงจะดีกว่านี้....ถ้าไม่ตกลงไปแต่แรกก็คงไม่เป็นแบบนี้...ถ้าสุดท้ายต้องเป็นแบบนี้ ไม่มีจุดเริ่มต้นเลยดีกว่า....
“เฮ้ย ไอ่ชาเมื่อไหร่มึงจะกลับเนี่ย” เสียงปลายสายที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าโมโหกำลังเข้าหูซ้ายและกำลังจะทะลุหูขวาผมเรียบร้อย
“เออ เดี๋ยวกลับ รีบอยู่ ใจเย็นดิ”ผมตอบแบบขอไปที ก็รู้ๆกันอยู่ว่าความเร็วของผมเต่ายังอาย คิดเอาล่ะกัน
“มึงกำลังคิดจะเดินให้ช้าที่สุด เพื่อกวนประสาทกุใช่ป่ะ”ยังไม่ได้คิดเลยนะ แต่ยอมรับว่าน่าสนใจ
“เปล่า แต่ว่าจะทำ ขอบคุณที่แนะนำ” พูดได้เพียงเท่านั้นปลายสายก็ตัดไป ผมได้แต่ถอนหายใจกับความอารมณ์ร้อนเหมือนพายุของน้องชายผมจริงๆ คือตอนนี้ผมกำลังอยู่ระหว่างทางจะเดินกลับบ้าน แต่ที่วันนี้ต้องรีบเป็นพิเศษก็เพราะว่ามันเป็นวันเกิดของแม่ผม ที่บ้านเรามีกันแค่สามคน คือ แม่ ผม แล้วก็เฟรม น่าแปลกใช่มั้ยที่ผมเป็นพี่แต่มันเรียกผมว่ามึง-.- ช่างเหอะ ผมชินล่ะห่างกันปีเดียวก็แบบนี้แหละ
ขณะคิดไรเพลินๆเกี่ยวกับของขวัญของแม่ ก็มีรถมอเตอร์ไซด์ที่เรียกว่าอะไรนะ?ชอปเปอร์หรือเปล่า?ไม่รู้สิ ผมไม่ยุ่งเรื่องรถ เรียกว่าบ้านนอกเลยดีกว่า มาจอดเทียบข้างๆ ผมมองซ้ายมองขวา ผมคนเดียวเลยนี่หว่าทั้งถนน เอาแล้วไงกุ
คนบนรถแค่มองผมแล้วยิ้ม(ทั้งที่ยังใส่หมวกกันน็อค)แล้วก็จากไป รอยยิ้มนั่นให้หลายความรู้สึกอย่างประหลาด ทั้งน่ากลัวแต่ก็ดูสดใสในเวลาเดียวกัน เอ๊ะ ผมเป็นอะไรของผมเนี่ย เฟรมบอกให้รีบนี่นา ในที่สุดผมก็ตัดสินใจวิ่ง ทั้งๆที่ไม่ค่อยได้วิ่ง แต่สัญชาตญาณของผมมันกำลังสั่งให้วิ่ง วิ่ง วิ่ง แล้วก็วิ่ง วิ่งไปให้ได้เร็วที่สุด
เมื่อถึงบ้าน ผมก็ยอมรับกับสัญชาตญาณของผม รถมอเตอร์ไซด์คนนั้นมันจอดอยู่หน้าบ้านนี่เอง ต้องมีอะไรแน่ๆ
“แม่ เฟรม”ผมตะโกนเรียกทันทีที่เปิดประตูได้
“โอ๊ย ตะโกนทำไม มาสายแล้วยังประจานตัวเองอีก”เสียงของเฟรมบ่น น่าแปลกว่าวันนี้ผมกลับดีใจบอกไม่ถูกที่ได้ยินมันบ่น ผมคงคิดถึงถ้าไม่ได้ยินอีก
“อย่ามองแบบนั้น จะอ้วก”ไอ่เหีย อุตส่าห์เอ็นดู
“ฮ่าฮ่าฮ่า มากันพร้อมหน้าแล้วก็กินข้าวเถอะลูก”แม่มักจะหัวเราะแบบนี้เสมอ ผมรักแม่มาก แม่มักหัวเราะให้ผมเสมอ ทั้งๆที่เมื่อ3เดือนก่อนพ่อได้จากพวกเราโดยการฆ่าตัวตาย และไม่บอกหรือสั่งเสียอะไร แม่ต้องเศร้ามาก แต่ไม่เคยแสดงความเสียใจให้ผมเห็น และผมเดาว่าเฟรมก็ต้องรู้สึกอย่างเดียวกัน แม่คือคนที่เราจะรักมากที่สุด..
“เดี๋ยวก่อนนะ ช่วยบอกทีได้มั้ยว่ามอเตอร์ไซด์หน้าบ้านนั่นของใคร”ผมถามขึ้นเพราะไม่มีใครคิดจะตอบข้อสงสัยของผมก่อนถาม หรือไม่ทันได้สังเกตกัน?
“ถามได้จังหวะดีหนิ”และแล้วชายคนนั้นก็เปิดประตูเข้ามา สีหน้าของแม่เปลี่ยนไป มันกลายเป็นความหวาดกลัว ผมเดาว่าแม่ต้องรู้จักเค้าแน่ๆ แต่ผมกับเฟรมได้แต่มองหน้ากันอย่างงุนงง
“สวัสดีครับ คุณยังจำผมได้หรือเปล่า”มันหันไปถามแม่ผม ในขณะที่แม่ผมคงล้มลงไปแล้ว ถ้าไม่มีเฟรมประคองไว้
“นายเป็นใคร?”ผมจะไม่ยอมให้แม่ผมหวาดกลัวแบบนี้หรอกนะ ผมสัญญา ผมจะปกป้องแม่ให้ได้
“ฉันเป็นใคร ไม่ต้องรู้หรอก แต่อยากรู้ไหมว่าทำไมพ่อของนายถึงฆ่าตัวตาย..”
“ไม่ พวกเค้าไม่จำเป็นต้องรู้”เสียงของแม่ที่ดูเด็ดเดี่ยวกว่าแต่ก่อนแทรกขึ้นมา
“หึหึ นี่แปลว่าพวกเค้ายังไม่รู้สินะ ”
“แกเป็นใคร!! แกบอกมานะ แกเป็นใคร ทำไมรู้จักพ่อฉัน”เสียงของเฟรมที่เกือบจะดุดัน แต่ตรงคำว่าพ่อเสียงกลับสั่นเครือลงไป
“ฉันชื่อเศรษฐพงศ์ พ่อของพวกนายติดหนี้พ่อของฉันอยู่100ล้าน ไม่ต้องบอกแล้วมั้ง ว่าทำไมรู้จักพ่อนาย”เสียงของมันฟังดูเย้ยหยัน จนกระตุ้นอารมณ์ในตัวผม
ไม่ทันได้รู้สึกตัว ผมก็ต่อยเข้าที่หน้ามันไปแล้ว
“ยอมรับว่านายกล้ามากที่ทำแบบนี้ แต่จะบอกอะไรให้นะ ฉันไม่ใจร้ายขนาดนั้น ผมคิดว่าคุณน้าก็ทราบใช่มั้ยว่าจริงๆแล้วพ่อผมเป็นคนเมตตา”ดวงตาของแม่เบิกกว้างขึ้นกว่าเดิม มันต้องมีอะไรแน่ๆ
“คราวนี้เค้าต้องการอะไร บ้านเราไม่มีอะไรจะให้อีกแล้ว”แม่ตะโกนกลับไป
“ตอนแรกพ่อบอกว่าเราคงต้องยึดบ้านหลังนี้ แต่ว่าผมเมตตากว่าพ่อนะ ผมจึงเปลี่ยนใจ..”มันพูดแล้วหันมามองผม ไม่รู้ทำไม แต่รู้สึกว่าขนมันลุกวาบทั้งตัว
“ผมจะให้คุณน้ากับน้องเฟรมอยู่สบายๆใช้ชีวิตตามปกติ แค่เพียงคุณน้ายกให้ลูกชายคนโตคุณน้าไปเป็นลูกน้องผม ทำงานชดใช้จนกว่าจะครบ100ล้าน”แค่ได้ฟังผมถึงกับอึ้ง
“ไม่ พวกเราไม่มีทางยอม คชายังต้องไปเรียน เค้ายังมีความฝัน ต้องไม่ไปจมปลักอยู่แบบนั้น”ผมซึ้งกับคำพูดของแม่จนน้ำตาจะไหล
“พวกเรายอมนอนข้างถนนดีกว่าต้องเสียใครไป นายเอาบ้านเราไปได้เลย”ผมซึ้งกับเฟรมเหมือนกัน แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลา
“ให้ไปเป็นลูกน้องไม่ได้ต้องไม่เรียนซะหน่อย ก็เรียนปกตินั่นแหละ แค่ต้องมาเวลาที่เรียกใช้ เท่านั้นเอง เห็นมั้ย ผมใจดีจะตาย”มันพูดยิ้มๆ ผมชักจากกลัวเป็นเกลียดรอยยิ้มของมันแล้วสิ
“ไม่ แกจะเอาคชาไปไม่ได้ เอาไปไม่ได้”เสียงของแม่เข้าขั้นโหยหวนไปทุกที ผมจะปกป้องแม่ ผมสัญญาไว้แล้ว ผมสัญญากับหลุมศพพ่อว่าจะดูแลแม่กับเฟรมให้ดีที่สุด
“ผมจะไปครับแม่ ดูแลแม่ดีๆนะเฟรม”ผมหันไปยิ้มให้เฟรม
“ไม่ต้องมาปั้นยิ้มหรอก ไม่เชื่อ เห็นแล้วขยะแขยง”นี่ปากมึงหรอเฟรม น่าช่วยมั้ยเนี่ย
“ฮ่าฮ่าฮ่า คิดแบบนั้นก็ตามใจ แต่นายมีพรสวรรค์มากกว่าพี่ นายยังไปได้ไกลกว่าพี่ พี่รอได้เรียนทีหลังได้ ความฝันของพี่คือการทำให้แม่กับแกมีความสุข”ประโยคหลังผมตั้งใจพูดกับแม่มากกว่า
ผมตัดสินใจเดินออกจากบ้านด้วยความสมัครใจผมได้ยินเสียงแม่ร้องไห้ตามหลังมา ผมไม่อยากทำให้แม่เสียใจ แต่ดูจากการที่เฟรมไม่วิ่งออกมาแปลว่ามันต้องเข้าใจ ว่าเรื่องนี้คือสิ่งที่ผมตัดสินใจแล้ว และผมไม่มีวันเปลี่ยนใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมยังคงสัญญาว่าจะดูแลแม่และเฟรม ซึ่งนี่ก็ถึงเวลาแล้วที่จะทำตามสัญญา
“ว่ากันง่ายๆแบบนี้ก็ดี ฉันรู้นะว่านายคิดอะไรอยู่ ฉันสัญญาว่าจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับแม่และน้องนายอีก”
“อย่าสัญญา ถ้าจะทำไม่ได้”ประโยคสุดท้าย ผมไม่รู้พูดออกไปได้ยังไง แต่ผมก็พูดออกไปแล้ว มันได้แต่มองแล้วยิ้มน้อยๆ เกลียดจริงๆยิ้มแบบนี้ ว่าแต่ผมเรียกแต่มันๆ จริงๆมันชื่ออะไรนะ? เศรษฐพงศ์ใช่มั้ย นี่ผมต้องเรียกมันว่าท่านเศรษฐพงศ์หรือเปล่า?
“อ้าว คิดไรอยู่นั่นแหละ ขึ้นมาได้แล้ว”มันโยนหมวกกันน็อคมาให้ เฮ้ออ ต้องไปแล้วหรอ ยังไม่ทันเก็บของใช้ส่วนตัวเลยอ่ะ แต่ถ้าให้ผมเดินกลับเข้าบ้านไปตอนนี้ ผมคงไม่ใจแข็งพอจะเดินออกมาได้อีกต่อไป ไว้ค่อยซื้อทีหลังล่ะกัน คิดได้เพียงเท่านี้ มอเตอร์ไซด์ก็ออกตัวกระชากอย่างแรง จนผมแทบปลิวตกลงไป ว่าแต่การเป็นลูกน้องมันนี่ ผมต้องทำอะไรบ้าง?
ไม่ได้ตั้งใจให้พี่เต๋าดาร์คน้าาา มันมาเอง
พี่คชาอย่างเท่อ่ะเอาจริง แต่ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะเจอกับอะไร หึหึ ยังมีปริศนาของพ่อแม่พี่คชาและพ่อพี่เต๋าที่ซ่อนไว้ด้วย
แล้วก็อย่าคิดว่าพี่เฟรมจะออกมาแค่นี้ บทของเค้ายังมีอีกเยอะ
ใครที่แอบต้นเจมส์ เดี๋ยวพี่สองคนเค้าจะตามมาทีหลังนะคะ แต่ไม่เยอะเท่าไหร่
อยากให้ช่วยติดตามให้กำลังใจ ขอบคุณ'ถ้า'มีคนเม้นนะคะ มันเป็นกำลังใจที่อยากให้แต่งต่อไป
สัญญาว่าจะพยายามเข้ามาอัพเรื่อย ช่วยกันเม้นหน่อยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ :)
ฝีมืออาจยังไม่ดี แต่สัญญาว่าเตยจะมาแก้ไขนะ
ความคิดเห็น