คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : COURAGE : ตอนที่ 5 ไคเมร่า (Chimera) 1
คอราจ : ตอนที่ 5
1 ไคเมร่า (Chimera)
หลังจากเลิกคลาสวิชาเวททุกคนก็มารวมกันอยู่ที่บ้านของเซฮุนเพื่อรอทานอาหารเย็น ใช่...ที่พักของเซฮุนไม่ใช่แค่กระท่อมแต่มันคือบ้านซึ่งลู่หานไม่มีทางได้เห็นเพราะบ้านของเซฮุนอยู่เกือบท้ายทะเลสาบ เมื่อก่อนที่พักของเซฮุนก็เป็นกระท่อมนี่แหละแต่ถูกสร้างใหม่เป็นบ้านไม้มีระเบียงยื่นลงไปในทะเลสาบ เป็นที่นั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจและเป็นทางเดินเชื่อมไปถึงห้องน้ำ
เข้าใจแล้วที่ชานยอลบอกว่าไปบ้านเซฮุนแล้วจะไม่อยากกลับบ้านตัวเองเพราะบ้านเซฮุนมีทุกอย่างเหมือนที่บ้านในโลกมีจริงๆ
แบคฮยอนบอกว่าครอบครัวของเซฮุนสนับสนุนเรื่องเงินสมทบของโรงเรียนเลยสามารถยื่นเรื่องขอสร้างบ้านให้เซฮุนได้ ตัวแบคฮยอนเองก็ได้รับสิทธิ์เหมือนกัน แต่แบคฮยอนก็ไม่เอาเพราะยังไงเขาก็มาขลุกอยู่ที่นี่อยู่แล้วไม่จำเป็นต้องมีแบบนี้อีกหลังให้มันยุ่งยาก
บอกตรงๆ ว่าอิจฉามากแต่เงินไม่หนาเท่าเขาเราก็อยู่แบบกากๆ ไปเถอะ
“ลู่หานกินอะไรไหม?” แบคฮยอนเห็นลู่หานนั่งชมวิวอยู่ข้างนอกเลยยื่นหน้าออกมาถาม
“ยังไม่หิวอ่ะ...แต่มีขนมไหม?”
“มีมั้ง?...เข้ามาข้างในสิ อากาศมันยังร้อนอยู่นะ” แบคฮยอนบอกด้วยความเป็นห่วง
“อืม ก็ว่าจะเข้าไปพอดี”
ที่ออกมาข้างนอกก็มีอยู่สองเหตุผล ตรงนี้วิวดีควรค่าแก่การออกมาดู อีกเหตุผลคือรำคาญไอ้พวกข้างใน เล่นเกมต่อสู้แล้วเชียร์กันอย่างลุ้นจัด พอตัวเองแพ้ก็ทำท่าเสียใจอย่างกับญาติเสีย
“เฮ้! ชนะแล้วโว้ยยย เชรด!!!~” ไคลุกขึ้นถอดเสื้อหมุนควงแรงๆ อยู่เหนือศีรษะ ลู่หานส่ายหน้าหน่ายๆ พอเข้ามาก็เจอเสียงดังและความวุ่นวายทันที เขาเกลียดเสียงดังและผู้คนพลุกพล่านแต่ทำไงได้ ข้างนอกมันร้อนเลยต้องมานั่งทนดูไอ้พวกนี้เล่นเกมกระทืบเท้าต่อยโซฟาจนจะพังอยู่แล้ว
“สามพันมาเลยครับบบ” เทาที่อยู่ทีมเดียวกับไคแบมือพลางทำหน้าทะเล้นส่งให้ชานยอลกับเซฮุน ชานยอลกับเซฮุนเหลือบมองหน้ากันก่อนจะควักเงินออกมาให้คนละครึ่ง เทาหัวเราะเสียงแหลมก่อนจะหันไปปะทะฝ่ามือกับไค
“ไอ้พวกนี้นี่เล่นแบบนี้บ่อยไหม?” ลู่หานถามดีโอที่นั่งอ่านหนังสือและใส่หูฟังอยู่ เขารู้ว่าดีโอไม่ได้เปิดเพลงฟัง เพียงแค่ใส่หลอกไว้ไม่ให้ไอ้พวกนั้นมากวนต่างหาก
“ประจำ” ดีโอตอบแต่สายตายังจับจ้องอยู่ที่หนังสือ ไม่นานแบคฮยอนก็เดินกลับมาพร้อมกับขนมหลายซองในอ้อมอก เจ้าพวกนั้นเห็นขนมก็รีบรี่เข้าไปหยิบแต่แบคฮยอนก็เอี้ยวตัวหลบได้ทัน
“ให้ลู่หานเลือกก่อน”
“โห” พวกนั้นโห่ร้องออกมาพร้อมกัน แต่แบคฮยอนก็หยักไหล่ก่อนจะวางซองขนมบนโต๊ะแล้วให้ลู่หานเลือก ลู่หานหยิบมั่วๆ มาหนึ่งถุงก่อนจะแกะกิน เขาไม่สนใจอยู่แล้วว่ามันจะเป็นขนมอะไร ขอแค่กินได้ก็พอ
“ดีโอไม่กินหรอ?” แบคฮยอนถามพลางยื่นถุงขนมให้ดีโอ
“...” ดีโอไม่ตอบแต่ยื่นมือมาหยิบขนมไปโดยที่ไม่ได้มองอะไรทั้งสิ้นนอกจากหนังสือในมือ
“เวลาดีโออ่านหนังสือเขาก็จะเป็นแบบนี้แหละ” แบคฮยอนลดเสียงเบาพูดกับลู่หาน
“คงอินมาก” ลู่หานลากเสียงยาวประชด
“ได้ยินนะ”
“แล้วเราจะไม่ออกไปดูข้างนอกกันบ้างหรอ? แบบว่า...เผื่อฝั่งนั่นคิดจะทำอะไรแผลงๆ” ลู่หานถามแบคฮยอน
“เวลานี้พวกนักเรียนของเราก็คงพักผ่อนหย่อนใจกันอยู่ที่กระท่อม ส่วนพวกนั้นคงพักอยู่ในที่ที่โรงเรียนจัดไว้ให้นั่นแหละ จากสถิติที่ผ่านๆ มานะ...บางทีพวกนั้นก็มาพร้อมกับของแถมเหมือนปีที่แล้ว เข้ามาป่วนในเวลาเรียนบ้าง แต่ตอนบ่ายๆ แบบนี้ก็คงเหนื่อยเหมือนพวกเราแหละ ตอนเย็นเราก็ต้องแบ่งพื้นที่โรงอาหารให้พวกเขาด้วยนะ”
“อ้าว ไหงงั้นล่ะ”
“เซ็งใช่ไหมล่ะ?”
“สุดๆ แค่คิดว่าจะต้องเจอไอ้มาร์คบ้าบอนั่นก็ฉุนแล้ว ถ้ามันยังไม่เข็ดมันต้องเข้ามาจุ้นจ้านกับฉันแน่ๆ หรือไม่ก็มาวอแวกับกิ๊กเก่าแบบนายแทน” แบคฮยอนแกล้งมองค้อนลู่หานกับสรรพนามล้อเลียนนั่น ลู่หานยิ้มยิงฟันคืนไปก่อนจะกินขนมแล้วหันไปสนใจพวกบ้าเกมบ้าง
“ไม่ได้แดกกูหรอก อ้าว...สัส!” ไคสบถออกมาอย่างหัวเสีย ระหว่างที่เขาหันมาทำหน้าล้อเลียนใส่เซฮุน เซฮุนก็จัดการบังคับจอยเกมให้ตัวละครแสดงท่าไม้ตายออกมาเล่นงานตัวละครของไคจนล้มพับไป เซฮุนหันไปปะทะฝ่ามือกับชานยอลบ้างที่เอาคืนพวกนั้นได้
“เลิกเล่นโว้ยเลิกเล่น!” ไคเขวี้ยงจอยทิ้งก่อนจะชิ่งหนีมาแทรกตัวนั่งข้างดีโอ ดีโอละสายตาจากหนังสือไปมองหน้าไคก่อนจะเขยิบให้ไคนั่งทำให้สองคนที่เหลือต้องมาเบียดกันแทน
คือว่าโซฟามันก็นั่งเต็มที่ได้สามคนอะนะ แล้วยังจะมาเบียดนี่อีกคือร้ะ?
ลู่หานโคลงศีรษะก่อนจะลุกออกจากโซฟาแล้วบอกแบคฮยอนว่าจะไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งความจริงจะชิ่งหนีออกไปนั่งตากลมอยู่คนเดียวตรงระเบียงต่างหาก เขาเท้าแขนทั้งสองข้างกับราวระเบียงก่อนจะทอดสายทองพื้นน้ำที่กระเพื่อมลงน้อยเพราะแรงลม
คนพวกนี้แม่งวุ่นวายชิบ...
แต่ลู่หานก็ยิ้มออกมาเมื่อความวุ่นวายนั้นมันทำให้เขาคิดถึงเวลาที่เล่นสนุกกับเพื่อนๆ แต่ที่คอราจคือโลกใหม่ของเขา ยังไงเขาก็ต้องปรับตัวให้ได้ในเร็ววัน ลู่หานหมุนตัวกะจะเดินไปเข้าห้องน้ำเพราะรู้สึกอยากจะเข้าขึ้นมาจริงๆ พอมาถึงห้องน้ำก็เตรียมจะผลักประตูเข้าไปแต่ประตูก็ถูกเปิดออกโดยร่างสูงที่ไม่รู้ว่าออกมาเข้าห้องน้ำตั้งแต่เมื่อไหร่
ทำไมเซฮุนเดินผ่านเขาไปโดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยล่ะ
“ออกมาสิ ฉันจะเข้าห้องน้ำ” ลู่หานบอกคนที่ตัวสูงกว่าด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เซฮุนยืนค้างอยู่ในห้องนั้นมาได้ประมาณห้าวินาทีแล้ว แถมยังยกแขนเท้าไว้กับขอบประตูทำหน้านิ่งแต่รู้สึกถึงความกวน กลายเป็นว่าตอนนี้เซฮุนบังทางเข้าโดยสมบูรณ์
โอ๊ยยย จะมากวนตีนอะไรตอนนี้ครับ?
“นี่ ไม่ต้องมากวนกันหรอกนะ ฉันปวดฉี่จะเข้าห้องน้ำโว้ย” ลู่หานโวยออกมาแต่เซฮุนก็ยังยกยิ้มมุมปากไม่สะทกสะท้านอะไรทั้งนั้น
“ก็บ้านฉัน ฉันจะอยู่ตรงไหนก็ได้”
“โอเค เข้าใจ แต่ช่วยออกมาก่อนเถอะ ปวดฉี่จริงๆ นะ จะให้ฉี่ราดตรงนี้ไหมล่ะ?”
“ไม่อายก็ตามใจ”
เออ...หมดความอดทนละ
ลู่หานหมุนตัวเตรียมจะเดินออกไป ไอ้หมอนี่นี่มันจะอะไรหนักหนา กวนประสาทกันชะมัด กลับไปฉี่ที่กระท่อมเราก็ได้วะ สบายใจกว่าเยอะ
“ทำเป็นโกรธ แกล้งแค่นี้เอง” แต่ยังไม่ทันที่ลู่หานจะก้าวไปไหน คนแขนยาวก็ยื่นแขนมาคว้าข้อมือลู่หานไว้ ก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วอ้อมมาอยู่หน้าลู่หาน
ถ้าปวดขี้อยู่นี่ตดอัดหน้าไปแล้วบอกเลย
“คนปวดฉี่ยังจะมีอารมณ์มาแกล้งอีกนะ ปล่อยเลยจะเข้าห้องน้ำแล้ว ไม่ไหวแล้ว” ลู่หานมองตาเขียวก่อนจะสะบัดมือให้ออกจากการกอบกุมซึ่งเซฮุนก็ยอมปล่อยออกง่ายๆ ร่างบางเดินเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว พอเปิดประตูออกมาอีกครั้งเขาก็ยังเจอเซฮุนยืนอยู่ที่เดิม
“ทำไมยังอยู่”
“ก็บอกแล้วว่านี่บ้านฉัน ฉันจะอยู่ตรงไหนก็ได้”
“ครับๆ เข้าใจแล้วครับ ผมจะไสหัวออกจากบ้านคุณเดี๋ยวนี้แหละครับ” ลู่หานพูดอย่างประชดก่อนจะเดินชนไหล่เซฮุนจนร่างสูงเซ เซฮุนยกยิ้มขำก่อนจะเดินตามร่างเล็กแล้วดึงแขนลากให้ลู่หานมายืนอยู่ตรงระเบียงด้วยกัน
“ลากมาทำไม จะออกไปแล้วเนี่ย”
“มีเรื่องจะคุยด้วย”
“อ่ะๆ มีอะไรก็ว่ามา” ลู่หานปีนขึ้นนั่งราวระเบียงก่อนจะยกมือกอดอก เซฮุนหันหลังให้ทะเลสาบก่อนจะถามร่างเล็กที่นั่งเชิดปากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“นายอ่านใจคนได้ด้วยหรอ?”
“อืม ฉันสามารถ...แต่ฉันจะอ่านได้ก็ต่อเมื่อจ้องตาคนๆ นั้นแล้วแทรกพลังจิตของตัวเองเข้าไปในความคิดเขาเพื่อแอบฟัง”
“นายสะกดจิตได้รึเปล่า?”
“ไม่...มั้ง? ฉันไม่เคยลอง แต่ถ้าทำได้ฉันก็ไม่อยากสะกดจิตใครหรอก ใครๆ ก็อยากมีชีวิตเป็นอิสระกันทั้งนั้น”
“อืม...เป็นคนมีสาระเหมือนกันนะเนี่ย”
“ขอโทษนะถ้าฉันทำตัวไร้สาระให้นายเห็น” น้ำเสียงประชดประชัน
“แล้ว...เคยควบคุมอะไรนอกจากสิ่งของบ้างไหม?”
“ไม่อ่ะ ตอนอยู่ที่โลกฉันก็คิดแค่ว่ามีพลังก็ดี ฉันอยากได้อะไรก็บังคับให้พวกมันลอยมาหา ถึงแม้มันจะอยู่สูงขนาดไหนก็ไม่จำเป็นต้องปีน อ้ออีกอย่างที่ฉันทำได้ก็คือตามหาคน แต่ว่าต้องมีของที่เกี่ยวกับคนๆ นั้นนะ ยกเว้นเพื่อนสนิทกับครอบครัว ฉันไม่จำเป็นต้องใช้ของ...อาจจะเพราะใจสื่อถึงกัน”
“กลับไปนายควรถามพ่อนายนะว่าท่านทำอะไรได้บ้าง” ลู่หานสัมผัสได้ว่าประโยคนี้ไม่ใช่ประโยคกวนประสาทแต่อย่างใด บวกกับความจริงจังที่ฉายอยู่บนหน้าเซฮุนแล้วเขาจึงทำได้แค่เพียงพยักหน้าแล้วถามออกไป
“นายถามฉันทำไม?”
“นายออกไปนอกเคสของพลังควบคุมแล้ว ฉันคิดว่าอาจารย์เซนดริกก็คงสงสัย”
“หมายความยังไง?”
“ฉันก็ไม่แน่ใจ เอาไว้นายไปถามพ่อนายมาให้ฉันก่อนถ้านายกับพ่อสามารถทำได้เหมือนกันฉันก็จะสรุปว่านายมีพลังควบคุมเหมือนเดิม แต่ถ้ามีบางอย่างที่พ่อนายทำไม่ได้แต่นายทำได้เราต้องมาคุยกันอีกที”
“ทำไมฉันพลังของฉันถึงก่ำกึ่งล่ะ?”
“จริงอยู่ที่ว่าพลังควบคุมสามารถแทรกเข้าไปในจิตคนและควบคุมคนพวกนั้นได้ แต่รู้อะไรไหมลู่หาน...”
“...”
“พลังควบคุมอ่านความคิดของคนอื่นไม่ได้ นั่นทำให้ฉันสงสัยพลังในตัวนาย”
“...ก็ยังไม่แน่นี่นา เอาไว้ฉันไปถามพ่อฉันก่อนแล้วกัน” ลู่หานเงียบไปเมื่อได้ยินเซฮุนพูดแบบนั้น เขาก็ไม่แน่ใจในตัวเองเหมือนกันว่าตัวเองสามารถทำอะไรได้อีก เห็นทีต้องรีบกลับไปหาพ่อเร็วๆ ซะแล้ว
“เอาแต่ถามฉัน แล้วเรื่องของนายล่ะ ฉันรู้ว่าพายุฝุ่นแค่นั้นน่ะพื้นๆ” ลู่หานแบมือข้างตัวแล้วยักไหล่ทำท่าประกอบ
“ถ้าร่วงลงไปจะขำให้”
“อย่าลีลา อยากเห็น” ลู่หานเคลื่อนตัวลงจากราวระเบียงกลับมายืนเหมือนเดิมก่อนจะหันไปมองทะเลสาบที่ห้อมล้อมไปด้วยภูเขา
“อย่าตกใจล่ะ” เซฮุนหันมาบอกคนที่ยืนจดจ่ออยู่ข้างๆ ก่อนจะทอดสายตาไปที่ภูเขาลูกหนึ่ง จดจ้องมันอยู่อย่างนั้นจนสักพักลู่หานก็รู้สึกถึงสายลมที่พัดเข้ามาวูบใหญ่ ร่างบางละสายตาจากเขาลูกนั้นมามองลมที่พัดมาจากด้านข้างแทนแล้วมองไปตามทิศทางของลม ลมนั่นพัดไปทางภูเขาลูกที่เซฮุนมองอยู่ มันเริ่มก่อตัวเป็นวงกว้างจนกลายเป็นพายุหมุนขนาดเล็ก ลู่หานเห็นต้นไม้พลิ้วไหวไปตามแรงลมก่อนที่พายุจะเริ่มขยายวงมากขึ้นและระดับความแรงที่เริ่มเพิ่มขึ้นจนต้นไม้นั้นหลุดออกมาหมุนวนอยู่ในพายุ ร่างบางหันมองคนข้างกายอย่างร้อนรน เขาส่งเสียงเรียกให้เซฮุนหยุดแต่เหมือนเจ้าตัวจะจดจ่ออยู่ในสมาธิจนตัดขาดจากโลกภายนอก
ลู่หานจะไม่เลิกลั่กเลยถ้าเจ้าพายุลูกนั้นไม่เคลื่อนเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนรู้สึกถึงแรงลม เขารับรู้ได้ว่าเซฮุนกำลังพยายามบังคับอยู่เพราะพายุลูกนั้นเหมือนจะเข้ามาแล้วก็ถอยออกไป มันเป็นแบบนั้นอยู่ตลอดแต่ดูเหมือนเซฮุนจะดึงพายุออกได้ไม่เท่าที่มันเข้ามา ทำให้ร่างบางนึกไปถึงคำของผอ. ที่จับคู่เขากับเซฮุนเพราะเขามีพลังควบคุม อาจจะช่วยให้เซฮุนสามารถบังคับพายุได้ดีกว่านี้
เอาวะ! ไม่เคยลองของใหญ่ก็ลองมันวันนี้แหละไอ้ลู่!
ถึงแม้ทะเลสาบจะกว้างและภูเขาลูกนั้นก็อยู่ไกลพอสมควร แต่พายุที่เริ่มเพิ่มขนาดและใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทำเกิดลมพัดกระทบถึงตัวเขาแล้ว ลู่หานไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน เพียงแค่เพ่งสมาธิไปที่พายุนั่นแล้วใช้กระแสจิตพยายามควบคุมให้พายุถอยกลับไปหรือไม่ก็แตกตัวออก แต่เขากลับทำอะไรไม่ได้เลยมิหนำซ้ำพายุก็เคลื่อนเข้ามาใกล้ทุกวินาที
ลู่หานตกใจกับลมที่พัดมาวูบใหญ่จนเผลอจับมือเซฮุนไว้แน่น ฉับพลันในสมองของเขาก็มีภาพไหลเข้ามาไม่หยุดหย่อนแต่ที่พอจับได้คือเสียงคุ้นหูที่กำลังตะโกนดังลั่นอยู่ในหัวของเขา
‘ถอยออกไป โธ่เอ้ย! ไอ้พายุบ้า ถอยไปสิโว้ย!’
ลู่หานจำได้ดีว่านั่นคือเสียงของเซฮุน นี่เขายังไม่ได้มองตาเซฮุนเลยนะเพียงแค่จับมือเฉยๆ ก็ได้ยินความคิดของคนอื่นแล้วหรอ? แต่อาจจะไม่ใช่...ก่อนหน้านี้ชานยอลก็จับมือเขาทำไมไม่เห็นได้ยินอะไรเลย แต่ช่างมันก่อนเถอะ...ลู่หานละความสนใจก่อนจะส่งเสียงบอกเซฮุน
‘นายบังคับมันยังไง’
‘นายเข้ามาได้ยังไง’
‘เฮ้ ตอนนี้ไม่สำคัญหรอกนะ ฉันไม่เห็นอะไรในหัวนายทั้งนั้นแหละนอกจากนายตะคอกพายุอยู่’
‘ฉันเริ่มจากสายลมแรก แล้วก็ลมนั่นมันก็ดูดมารวมกันเอง’
‘พลังที่เกิดคือที่ๆ รวมจิตนายอีกที่ ถ้าจิตนายไม่ได้เรียกมัน มันก็ไม่มีทางมา ดึงจิตนายออกมาจากพายุนั่น ฉันจะพยายามช่วยเท่าที่ทำได้’
‘จะดึงกลับมายังไง’
‘เลิกสนใจลมมันสิ’
‘ถ้าเลิกสนใจมันก็พัดเข้ามาดิวะ’
‘อาจจะเพราะว่านายใจร้อนอยากจะรีบควบคุมมันให้ได้มากกว่า ฉันว่านายฝังจิตใต้สำนึกนายไว้ที่พายุนั่นแล้วล่ะ’
‘ทำไมเวลานี้รู้เยอะจังเลยหา!’
‘ไม่รู้เว้ย แป๊บนะ เหมือนฉันจิตนายเจอแล้ว’
ลู่หานหยุดโทรจิตก่อนจะจับสัญญาณจิตของเซฮุนได้มันเป็นวิธีเดียวกับที่เขาใช้หาคน อาจเป็นเพราะตอนนี้เขาจับมือของเซฮุนอยู่เลยสามารถหามันเจอได้ ร่างบางเห็นว่ากลางพายุนั้นไม่ได้เคลื่อนไหว มันหยุดนิ่ง สิ่งที่เคลื่อนไหวคือลมภายนอกที่วิ่งวนอยู่ พายุลูกใหญ่นี้อาจจะเกิดจากจิตใจของเซฮุนที่มีความวิตกกังวลเพราะเขาได้ยินเสียงความคิดเซฮุนไหลตีกันอยู่ตลอดเวลา ยิ่งเขาคิดมากพายุก็ยิ่งพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ
ลู่หานเริ่มทรงตัวไม่อยู่เมื่อพายุเข้ามาใกล้มากขึ้น แรงลมที่พัดกระหน่ำเข้ามาตลอดทำให้เขาต้องรีบดึงเซฮุนออกมาให้เร็วก่อนที่พายุจะเคลื่อนเข้ามาใกล้มากกว่านี้
‘เซฮุน นายต้องเลิกคิดอะไรระหว่างที่นายควบคุมมัน อย่ากังวล ไม่ต้องคิดอะไร ลมคือธรรมชาตินายเข้าใจถึงธรรมชาติของลมใช่ไหม? ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติของมันสิ’
‘…’
เซฮุนไม่ตอบลู่หานในความคิดแต่ลู่หานก็รู้สึกได้ว่าเสียงที่ตีกันเริ่มเบาลงแล้ว ร่างบางดึงสติตัวเองกลับมาแล้วมองไปยังพายุข้างหน้าที่เริ่มพัดช้าลงก่อนจะกลายเป็นลมหมุนเหมือนในตอนแรกแล้วแตกกระจายออกไป แต่กระนั้นการแตกกระจายของลมก็รุนแรงพอที่จะทำให้พวกเขาปลิวได้ เซฮุนกดหัวลู่หานให้นั่งลงแอบอยู่หลังระเบียงด้วยกัน ลมที่พัดเข้ามาเอื่อยๆ ทำให้รู้ว่าทุกอย่างกลับเข้าสู่ปกติแล้ว
ลู่หานจมอยู่ในอกเซฮุน...เขาถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วเงยหน้าขึ้นมองเซฮุนก่อนจะหัวเราะออกมา ถ้าเกิดพายุนั่นเข้ามาใกล้กว่านี้พวกเขาอาจจะโดนดูดเข้าไปลอยเคว้งคว้างในนั้นแล้วแต่ที่หัวเราะออกมานี่มันก็บรรยายความรู้สึกไม่ถูกทั้งโล่งใจทั้งขำเซฮุนที่ความคิดตีกันเหมือนเด็กๆ
เซฮุนเห็นลู่หานขำแล้วก็หัวเราะตามเพราะเขาก็หัวเราะให้กับความงี่เง่าของตัวเองที่อยากเอาชนะพายุนั่นโดยลืมไปว่ามันก็แค่ลมจำนวนมากที่มารวมกัน มันก็แค่ธรรมชาติที่เราไม่มีทางควบคุมมันได้สมบูรณ์
“เฮ้ยเกิดอะไรขึ้นวะเซพารัม ลมพัด...!” ไคที่พรวดพราดออกมาข้างนอกเกือบจะเกาะขอบประตูไว้ไม่ทันเมื่อเห็นภาพของสองคนที่กำลังนั่งหัวเราะอยู่ ตามมาด้วยเทา ดีโอ แบคฮยอนและชานยอล
“โอ๊ะโอ...” ดีโอแอบอยู่หลังไคก่อจะร้องออกมาเบาๆ
“แม่งขำห่าไรกันวะ?” เทามองสองคนตรงหน้าที่ยังขำใส่กันไม่หยุดทั้งคู่ผละออกจากกันก่อนจะนั่งลงกับพื้นแล้วขำกันอยู่เหมือนเดิม
“จะรู้ไหมครับ ก็อยู่ด้วยกัน” ชานยอลตอบกวนประสาทเทาไป ก่อนจะเหลือบมองคนตัวเล็กที่ได้ชื่อว่าแฟนของเซฮุนซึ่งยืนอยู่ข้างเขา ถึงแบคฮยอนจะเป็นคนดีขนาดไหนแต่มาเห็นบรรยากาศดีๆ แบบนี้ระหว่างแฟนกับคนอื่นมันก็ต้องมีไม่พอใจกันบ้าง
แต่แบคฮยอนก็ยังยิ้ม...ยิ้มแบบไม่มีอะไรแอบแฝงด้วย ชานยอลมั่นใจว่าความอิจฉาหรือความกังวลไม่ได้ลอยเข้ามาอยู่ในหน้าแบคฮยอนแม้แต่น้อย หรือว่าแบคฮยอนจะเป็นคนดีเกินไปวะ? เขามั่นใจว่าแบคฮยอนมาทันเห็นสองคนนั้นกอดกันแน่ๆ แต่เห็นขนาดนี้แล้วยังไม่รู้สึกอะไรเลยหรอ…?
แล้วเมื่อไหร่จะเลิกกันสักทีล่ะ...?
ชานยอลอยากจะยกมือทึ้งหัวที่คิดอะไรบ้าๆ ออกไป เขารักกันของเขาก็ดีอยู่แล้วเปล่าวะ คิดอะไรของมึงไอ้ไฟเยอร์
“โอ๊ะ มีอะไรกันหรอ...อ๋อ ลมเมื่อกี้สินะ” ลู่หานเลิกหัวเราะเมื่อรู้สึกว่าท้องตัวเองเกร็งไปหมด ร่างบางเอามือกุมท้องก่อนจะลุกขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนมายืนออกันอยู่ที่ประตู
“อืม เกิดอะไรขึ้นทำไมลมพัดมาวูบแรงจัง” ไคถามออกไปอย่างคาใจ แต่ที่คาใจกว่าคือทำไมพวกมึงไปกอดกันได้วะ? กูเห็นก่อนหน้านี้ยังจิกกัดกันอยู่เลย
“พอดีว่าเล่นสนุกกันมากเกินไปหน่อยน่ะ ขอโทษด้วยแล้วกันนะ” ลู่หานบอกแทนเซฮุน เมื่อเห็นเจ้าตัวเงียบไป เซฮุนก็คงกลัวเหมือนกัน ถ้าหากหยุดพายุนั่นไม่ทันกระท่อมในละแวกนี้รวมถึงบ้านของเขาก็คงไม่เหลือแน่ๆ
“พวกนายหันมาญาติดีกันตั้งแต่เมื่อไหร่?” ชานยอลถามออกไป
“เอาเถอะ ยังไงก็เป็นคู่หูกัน ญาติดีกันตั้งแต่วันนี้ก็คงไม่แปลก” เซฮุนตัดบทก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน ลู่หานมองตามเซฮุนไปอย่างงงๆ เมื่อกี้เขาได้ยินอะไรผิดหรือเปล่านะ นี่หมอนั่นยอมรับในตัวเขาบ้างแล้วใช่ไหม?
ความจริงเขาก็ไม่ได้เกลียดอะไรเซฮุนหรอก แค่หมั่นไส้ที่หมอนั่นชอบทำหน้านิ่งใส่เท่านั้น เขาน่ะอยากผูกมิตรให้ได้จะตายแต่เซฮุนก็ยังตีนิ่งสนิทใส่เขาตลอดแล้ววันนี้ดันมายอมรับง่ายๆ แบบนี้อ่ะนะ
โอเค...ถือว่าเราสนิทกันแล้วก็ได้
“งั้นลู่หานก็เป็นน้องเล็กของกลุ่มเราแล้วอ่ะดิ” ไคดีดนิ้วมือให้เกิดเสียงดังก่อนจะเข้ามากอดคอลู่หานแล้วเดินเข้าไปข้างในด้วยกัน
“น้องต้องเชื่อฟังพี่ๆ เข้าใจไหม?” ไคควงกำปั้นเข้ากับขมับลู่หาน ลู่หานร้องโอดโอยก่อนจะดีดตัวออกมาจากวงแขนไค
“ฉันก็คงไม่ได้อายุน้อยที่สุดหรอกใช่ไหม? ดูแล้วดีโอกับแบคฮยอนก็น่าจะพอๆ กับฉัน”
“ฉันยี่สิบสาม” ดีโอตอบ
“ฉันยี่สิบสี่” คนโดนพาดพิงคนที่สองก็บอกออกไปเหมือนกัน ลู่หานเบิกตากว้างอย่างตกใจ เห็นหน้าเด็กด้วยกันทั้งคู่ไม่นึกว่าจะแก่กว่าเขาหลายปี
“นายล่ะชานยอล”
“ความจริงนายควรจะเรียกฉันว่าพี่ ฉันเท่าแบคฮยอน”
“ฉันยี่สิบเอ็ดส่วนไคยี่สิบ เซฮุนก็อายุเท่าแบคฮยอนกับชานยอล” ลู่หานหันหน้าไปทางเทาพลางทำหน้าฉงนเป็นคำถาม เทาบอกอายุของตัวและคนที่เหลือให้เสร็จสรรพ
“แล้วนายล่ะ?” ไคถาม
“ฉันสิบแปด...” ลู่หานตอบเสียงเบา ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองตัวลีบแปลกๆ ไคไม่น่าเริ่มเรื่องนี้เลยรู้จักกันโดยไม่บอกอายุก็ดีอยู่แล้ว แต่ก็เข้าใจดีว่าคนเกาหลีให้ความสำคัญในเรื่องการเคารพกันและกันมาก แต่อยู่นี่ขอใช้สันดานฝรั่งไม่ได้หรอ? ไอๆ ยูๆ อะไรแบบนี้
“ฮ่ะๆๆๆๆ จ๋อยดิจ๋อย ฉันรอดพ้นแล้วโว้ยยย” ลู่หานหรี่ตามองไคที่ดีใจเกินเหตุ อาจจะเพราะไคเป็นน้องเล็กมาก่อนเลยรู้สึกว่าตัวเองได้รับการปลดปล่อยแล้ว
“ขอโทษนะ...ใครบอกว่าจะอยู่กลุ่มพวกนายหรอ? ฉันยังไม่ได้พูดสักคำเลยนะ” ลู่หานแย้งออกไป
“ไหนๆ นายก็สนิทกับพวกเราแล้ว บ้านเซฮุนถ้าไม่ใช่คนสนิทก็ไม่ได้เข้าหรอกนะ ยอมเป็นน้องเล็กซะดีๆ เถอะ” ไคสาวเท้าเข้ามาใกล้ก่อนจะแกล้งยกมือขึ้นคล้ายจะบีบคอลู่หาน
“ขืนฉันยอมรับพวกนายก็ใช้ฉันตายเลยดิวะ”
“เรียกพี่ดิเฮ้ย ยังมาวะเว้ยอยู่นั่นแหละ” คราวนี้ไคอยากจะบีบคอลู่หานขึ้นมาจริงๆ ไอ้เด็กนี่มันกวนได้กวนดี
“ขอโทษนะ พอดีติดเชื้อฝรั่งไปแล้ว ไอขอตัวนะยู” ลู่หานยกมือโบกลาก่อนจะรีบก้าวออกจากบ้านเซฮุนไป
“กระแดะขึ้นมาเลยนะมึง” ไคด่าตามหลังคนตัวเล็กที่วิ่งตัวลีบออกไป
ความจริงเขาก็ไม่ซีเรียสหรอกถ้าเด็กนั่นจะใช้สรรพนามเหมือนเดิม ก็เรียกมาตั้งแต่ต้นแล้วจะให้เปลี่ยนก็คงแปลกๆ ก็เหมือนกับพวกเขานี่แหละถึงอายุจะต่างกันแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากแถมยังคุยเหมือนเพื่อนรุ่นเดียวกันด้วยซ้ำ
“นายไม่ต้องไปสนใจที่ไคพูดหรอก ทำตามใจนายเถอะพวกเราไม่เครียดเรื่องอายุอยู่แล้วขอแค่ให้เกียรติกันก็พอ” ชานยอลเดินตามลู่หานออกมาก่อนจะเดินข้างกัน
“นายห่างกับฉันตั้งหกปีเลยนะ ฉันรู้สึกเกรงใจนายขึ้นมาตั้งแต่ตอนรู้อายุเลยล่ะ” ลู่หานพูดความด้วยความเถรตรงทำให้ชานยอลขำเบาๆ ก่อนจะยกมือขยี้หัวลู่หานสองสามที
“ไม่ต้องไปสนใจมันหรอก ทำเหมือนไม่รู้จักอายุกันไปก็ได้ พวกฉันก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน”
“ในโรงเรียนนี้นายสนิทกับพวกนี้ที่สุดหรอ?”
“อืม เทาเป็นคนดึงฉันเข้าไปน่ะตอนที่เขาเป็นคู่หูกับฉัน ถึงพวกฉันจะดูทำอะไรเถื่อนๆ ไปบ้างในบางทีแต่เดี๋ยวนายก็เข้าใจ”
“เอาเป็นว่าจะพยายามเข้าใจ อยู่กับพวกนายก็สนุกดี”
“ฉันว่าเราควรกลับไปอาบน้ำแล้วรอเวลามาทานข้าวกัน” ชานยอลเสนอความเห็นซึ่งลู่หานก็พยักหน้ารัวเห็นด้วยอย่างยิ่ง
“ก็จริงอย่างที่นายว่า ฉันก็อยากอาบน้ำแล้วเหมือนกัน”
“เดี๋ยวไอ้พวกนั้นมันก็คงแยกย้ายกันไป ไปเจอกันที่นู้นเลยก็ได้”
“จำเป็นต้องไปตั้งแต่ห้าโมงเพื่อไปจองโต๊ะไหม?”
“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกน่า เขาแบ่งฝั่งไว้ให้แล้ว เข้าไปเดี๋ยวก็รู้”
“โอเค งั้นบาย เจอกันใหม่ตอนกินข้าว” ลู่หานโบกมือลา ชานยอลยกมือโยกหัวลู่หานไปหนึ่งทีเพราะความทะเล้นของเจ้าตัว
ชานยอลแยกตัวออกไปเพราะถึงกระท่อมของเขาก่อน ลู่หานเดินเรื่อยเปื่อยกลับไปที่กระท่อมตัวเองพร้อมกับความคิดที่ล่องลอย
อยู่ไปนานๆ ที่นี่ก็ไม่ได้แย่อะไร...คนที่อยู่ที่นี่ก็มีพลังวิเศษด้วยกันทั้งนั้น หลายคนอาจจะเจ็บปวดจากการไม่มีเพื่อนและถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดแต่พอมาอยู่ที่นี่ได้เจอคนที่เหมือนกัน ทุกคนต่างเข้าอกเข้าใจกันดี มิตรภาพและความผูกพันก็เริ่มก่อตัวขึ้นทีละน้อย
มินซอกน่าจะมีพลังวิเศษบ้างจะได้มาอยู่ที่นี่ด้วยกัน พอคิดถึงชื่อเจ้าตัวแล้วก็คิดถึงเจ้าของชื่อไปกันใหญ่ ป่านนี้เพื่อนตัวกลมของเขาจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ ถ้าหนีไปมีเพื่อนใหม่แล้วจะเตะอัดหน้าให้ ลู่หานเวอร์ชั่นใหม่โหดest นะมินนี่
Talk : อันนี้เอามาลงก่อนนะ กลัวคนอ่านหลังๆ ค้าง ถ้าเจอคำผิดหรือปย.ไหนที่งงๆ ก็บอกได้เลยนะคะ จะขอบคุณมาก T/\T
111214
ช่วงตอบคอมเม้นท์กับไรท์หลิวสวยที่สุดในสิบโลก (มโนสินะ)
-
ฮุนฮานนนนนนนนนน เลิฟๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ รอค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาา /// เราก็เลิฟฮุนฮานเหมือนกัน เลิฟยูด้วยอะฮิ~! ฬ///ฒ#22
-
รอฉากฮุนฮาน เลิฟๆๆๆๆกันอยู่ค่าาาาาาาาาาาาา /// มาละจ้า แตไม่รู้ว่าพอใจไหม จัดไปแค่นี้ก่อน คึๆ#21
-
เราก็เชียร์ชานลู่นะ แต่ไม่อ่ะเราชิปฮุนฮาน ชอบบบบบบบบบบบบบบบ /// ขอให้ชิปฮุนฮานต่อไปค่ะ เพราะเราก็ชิบต่อไปและตลอดไป ฮิ้ววววว~#20
-
เซฮุนมีแบคแล้ว เปลี่ยนเป็นชานลู่แล้วกันนะ ฮ่าๆๆๆๆ ชอบพลังลู่หานจัง สะใจมากๆๆๆ มาร์คโดนไปมากๆระวังหลงรักลู่นะ สู้ๆจ้าไรท์ ///ทำไมเม้นเด้งไปอยู่ตอนที่หนึ่งล่ะนั่น เว็บรวนหรืม พลังพี่ลู่มีอะไรซ่อนอยู่ค่ะ อยากให้ติดตามไปเรื่อยๆ ขอบคุณน้ากำลังใจเวลอัพระดับสิบ#19
-
รอฮุนฮานอยู่ววววววว*-* /// ชอบคนนี้จังเม้นท์ให้ตลอด มาไวเคลมไว 555#18
-
เมื่อฮุนฮานจะออกกกกกกก ;-; /// มาแย้วววว หลังจากนี้ก็จะมาเป็นระลอกๆ#17