คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เข้าตากรรมการ!!
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เชิญ..” ร่างสูงเต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างคนสุขภาพหมุนลูกบิดประตูเข้าไปในห้องทำงานสีขาวอย่างเงียบๆทันทีที่สิ้นเสียงอนุญาต น้ำเสียงอันทรงอำนาจชวน
สนทนาทันทีที่พบกัน
“นั่งก่อนสิ”
“ครับ ผู้กำกับมีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ” คนตัวสูงกว่าเริ่มเปิดปากเข้าเรื่องทันทีที่ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเจ้าของร่างท้วมอย่างคนมีสง่าราศี สายตาของผู้ที่ผ่านประสบการณ์มานานหรี่ลงเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตอบ
“คุณคงรู้เรื่องคดีค้าสิ่งผิดกฎหมายของนายโอบกิจมาบ้าง ผมอยากให้คุณบุกไปทลายรังของมันที่ชายแดนทางเหนือ”
“แต่คดีนี้เรามอบหมายให้ตำรวจแถบนั้นจัดการแล้วไม่ใช่หรือครับ ผมเกรงว่า...” ความคิดที่คิดจะค้านชะงักลงเมื่อถูกแทรกด้วยเสียงอันหนักแน่นทรงอำนาจของผู้เป็นาย
“ไม่มีคำว่าแต่ เปมทัต งานนี้เบื้องบนเร่งลงมาแล้ว ผมคิดว่าผมไว้ใจคุณได้”
“ครับ มีเวลาให้ผมกี่วันครับ”
“2 เดือน ก่อนปีใหม่นี้ คุณต้องจัดการเรื่องทุกอย่างให้เรียบร้อย มันจะเป็นผลงานให้ตัวคุณเอง และกรมตำรวจของเราด้วย”
ไม่ใช่ว่าเขานั้นเกี่ยงงอนในหน้าที่การงาน หากแต่ชายแดนทางเหนืองั้นหรือ... ที่ๆเขาไม่อยากย้อนกลับไปแม้เพียงเศษเสี้ยวของช่วงชีวิต ที่ซึ่งเป็นบ้านเกิดของแม่ผู้ให้กำเนิดของเขา ทำไมความดีใจที่จะได้กลับไปสู่ความอบอุ่นของญาติผู้ใหญ่ถึงได้กลายเป็นความเจ็บปวดที่หัวใจเช่นนี้ ปัญหาใหญ่กำลังถาโถมเข้ามาในชีวิตของเขาแล้วสินะ...
ห้องสี่เหลี่ยมสีหม่นด้วยแสงสลัวจากดวงไฟดวงเดียวบริเวณกลางห้อง สาดส่องบุรุษรูปร่างสูงคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนโต๊ะตัวใหญ่ อีกสามคนยืนล้อมร่างท้วมของใครอีกคนไว้เกิดเป็นเงาขึ้นบนฝาผนัง ประหนึ่งกำลังจะสำเร็จโทษชายผู้นั้นก็ไม่ปาน
“ผมไม่ได้ใจร้อน แต่ด้วยเวลาและเหตุผลหลายๆอย่าง ทำให้เราต้องรีบบุกทลายรังของมันอย่างรีรอไม่ได้ ทุกคนคงเข้าใจ” เปมทัตเอ่ยอย่างใจเย็น จะบอกได้อย่างไรเล่าว่าเหตุผลหนึ่งในหลายๆอย่างคือใจของเขานั่นล่ะที่มันไม่อยากไปอยู่แถวชายแดนทางเหนือนาน
“แต่กระผมคิดว่า เราต้องค่อยๆขยับเข้าไปใกล้ๆมันอย่างเงียบๆนะครับสารวัตร บุกไปแบบไม่รู้เหนือรู้ตาย ยังไงเราก็มีแต่เสียกับเสีย ผมเข้าน่ะเข้าใจ๊… เข้าใจ คนหนุ่มอย่างสารวัตรและไอ้สามคนที่ยืนทำหน้าเป็นหมาเฝ้าทองให้เจ้าของบ้านรอบตัวผม แต่สารวัตรครับ สารวัตรไม่เคยได้ยินที่ขงเบ้งพูดหรอครับว่า... รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ” น้ำเสียงฮึ่มฮั่มไม่ได้ดังมาจากผู้ที่ถูกสนทนาด้วย หากแต่มันออกมาจากลำคอของหมาทั้งสามนายที่ยืนล้อมทองอยู่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเห็นด้วย หรืออยากทุบตาลุงตาตี่ลงพุงตรงหน้ากันแน่
“แผนของจ่านะหรือ...” ชายหนุ่มทำท่าครุ่นคิด ก่อนจะเอ่ยต่อ “มันก็อาจจะใช้ได้อยู่ แต่ผมกลัวว่าหล่อนจะเป็นอันตรายไปเสียก่อน ชีวิตของคนคนหนึ่งกว่าพ่อแม่จะเลี้ยงดูมาจนโตนะจ่า ใครจะยอมให้ลูกตัวเองไปผจญในแดนนรกแบบนั้นกันล่ะ” ยกเว้นเขา.... ประโยคที่ชายหนุ่มต่อท้ายนั้นใจ
“ที่สำคัญ ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไว้ใจยากที่สุดนะจ่า ที่นี่ประเทศไทย ไม่ใช่สหรัฐฯ เราไม่ได้กำลังดูหนังบู๊แอ็คชั่นกันอยู่ที่จะได้หาสายลับสาวสวยมาทำงานให้เราได้อย่างสนิทใจน่ะ” ศรันย์เอ่ยแย้งขึ้นมาอีกคน
“แต่ผมคิดว่าเราน่าจะหาได้นะ ผู้หญิงหน้าตาดีๆซักคนที่ไว้ใจได้น่ะ หรือนายว่าไงกริช” ชยินเสนอแนวคิดอีกคน พร้อมกับหาแนวร่วมเป็นเพื่อนข้างๆด้วยไปในตัว
“ผมก็เห็นด้วยกับจ่าเฉยและชยินนะครับสารวัตร” กริชกล่าว
“สามเสียงต่อสองเสียงนะครับสารวัตร ผมบอกแล้วว่าแผนนี้ยังไงก็ได้ผล” จ่าเฉยพูดไปหัวเราะไปอย่างคนอารมณ์ดีที่ไม่เคยเครียดกับเรื่องใดๆในชีวิต
“เฮ้อ.... ถือว่าประชาธิปไตยละกัน งั้นผมมอบหมายหน้าที่นี้ให้ทั้งสามคน ไปหาผู้หญิงที่สวยพอจะส่งไปล่อไอ้เสี่ยตัณหากลับนั่นในรังของมัน เราอาจจะต้องหาจากคนในพื้นที่นั้น พรุ่งนี้ 6 โมงเช้าเราจะออกเดินทางกัน”
“รับทราบครับ” จ่าเฉย กริช ชยิน ผู้ได้รับมอบหมายหน้าที่ขานรับกันอย่างแข่งขันก่อนการประชุมจะเสร็จสิ้นลง
ตลาดสดเมืองเชียงใหม่
“ข้าวราดแกงร้อนๆ ขนมหวานอร่อยๆ มาแล้วจ้า เร่เข้ามา เอ้า! เร่เข้ามา.... ช้าหมดอดนะจ๊ะ ข้าวราดแกงสูตรโบราณจ้า” เสียงใสตะโกนเจื้อยแจ้วดัง
ไปทั่วตลาด ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาหลายคนอดไม่ได้ที่จะหันไปมองเจ้าของเสียงว่าจะน่ารักสดใสเหมือนเสียงของเจ้าหล่อนรึเปล่า
“ถุงละ 20 ค่ะ รับกี่ถุงดีคะ นี้ขนมจีนน้ำยาสูตรโบราณจ้ะ ทานคู่กับผักสดรับรองว่าคุณจะติดใจ..” เสียงโฆษณาและเสียงลูกค้าดังสลับกันไปมาจนฟังดูวุ่นวาย ก็ที่นี่มันตลาดสดเมืองเชียงใหม่นี่ จะไม่ให้วุ่นวายได้ยังไง คนภาคกลางที่ขึ้นมาอยู่ที่นี่แล้วยังติดทานอาหารภาคกลางอยู่ก็มีมาก พวกฝรั่งที่มาอยู่แล้วไม่ถูกใจอาหารเหนือแต่ยังฝังใจกับอาหารไทยของภาคกลางก็มีไม่น้อย จึงไม่แปลกที่ร้านข้าวแกง “แม่วรรณา” จะขายดีเป็นเทน้ำเทท่าอยู่ทุกวัน
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด.....
“Help me !!! Stolen my wallet Help me!!!”
เฟี้ยว.... ว ว ว ว ตุ้บ โครมมมมมม !!!
สากกะเบืออันเขื่องถูกปาจากแผงลอยร้านข้าวแกงตรงดิ่งเข้ากระแทกหน้าผากโจรวิ่งราวทันที เสียงของล้มโครมครามกระจายเต็มพื้น พร้อมๆกับที่ร่างบางของแม่สาวน้อยเสียงใสที่ยืนขายข้าวแกงอยู่ดีๆก็แปลงร่างเป็นซุปเปอร์แมนกระโดดข้ามหม้อข้าวหม้อแกงลงไปคร่อมร่างขมุกขมอมของไอ้โจรมือไวทันที เศษผักที่ร่วงหล่นกระจายอยู่บนพื้นถูกหยิบขึ้นมาฟาดหน้ายัดปากโจรชั่วไม่ยั้ง ก่อนที่มือบางจะกระชากกระเป๋าจากผู้ร้ายส่งคืนให้กับสตรีต่างชาติเจ้าของกระเป๋าที่วิ่งตามมาในภายหลัง
“เห้ย!! ลูกพี่ๆ ตายแล้ว... หมดสวยหมดเบยยยย ทำไมไปคร่อมผู้ชายยังง้านนนนน” เสียงเล็กๆของเจ้าอ้วนตัวน้อยดังขึ้นทางด้านหลังของหญิงสาว พร้อมๆกับร่างกลมกลิ้งที่วิ่งเข้ามาหาลูกพี่สาวอย่างตื่นตระหนก
ใจก็สบถไปตามประสาเด็ก นี่เจ้าตัวแค่หนีไปทำความรู้จักกับลูกหมาตัวใหม่หลังตลาดแปบเดียว เกิดเหตุวินาศสันตโรขึ้นขนาดนี้เชียวรึนี่ เด็ก 8 ขวบกลุ้มใจจริงๆ!!
“เงียบน่าส้มฉุน เอ็งไม่เห็นหรอว่าไอ้ชั่วนี่มันไปขโมยกระเป๋าเขามาน่ะ แล้ว.....”
ผลั่ก!!!
ไม่ทันขาดคำ แม่ซุปเปอร์แมนสาวหงายหลังทันทีด้วยฤทธิ์ฝ่าเท้ามหากาฬของโจรวิ่งราวที่ถูกคร่อม แล้วมันก็ตะเกียกตะกายจะออกวิ่งต่อ ถ้าไม่ถูกสกัดไว้ด้วยลุงยามหนวดเฟิ้มประจำตลาดสองคนที่เข้ามาดักหน้าไว้ก่อน
ร่างบางพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น โดยมีส้มฉุนเข้ามาช่วย พร้อมกับบ่นเสียยืดยาวเป็นคนแก่ในร่างเด็ก
“ปล่อยไม่ได้เลยนะ โตแล้วไม่ดูแลตัวเองจริงๆ... จิ๊ โอ๊ย!” ยังไม่ทันจะจบคำบ่นดี มะเหงกลูกใหญ่ก็ถูกประเคนเข้าที่หัวโก๊ะเข้าให้ หล่อนยังไม่ลืมที่จะหันไปถามถึงความปลอดภัยของสตรีชาวต่างชาติที่ยืนอยู่ด้านหลัง
“เอ่อ... ข๊อบ คุณ ม๊าก น่ะ คะ ที ชั่ว ชั้น เมื่อ สัก ครู่ นี๊...” สุภาพสตรีต่างชาติเจ้าทุกข์หันมาเอ่ยขอบคุณแม่สาวมีน้ำใจอีกครั้งด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณพูดไทยได้ด้วย คนไทยมีอะไรก็ช่วยเหลือกันค่ะ” ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรเช่นเดียวกัน
“คุณ ชื่อ อา ไร คะ”
“ฉันชื่อ ข้าวหอม ค่ะ”
ในขณะที่การแนะนำตัวระหว่างสองสาวต่างวัยกำลังดำเนินไปนั้น หาได้รอดพ้นสายตาดุจพญาเหยี่ยวของนายตำรวจลงพุงกับสองหนุ่มข้างๆไม่ ดวงตาตี่เป็นประกายวิบวับส่งสัญญาณให้สองคนข้างๆทันที
ย้อนไปเมื่อ 2 วันก่อน....
“อะไรที่ทำให้ผมสามารถเชื่อได้ว่าเขาไว้ใจได้และตั้งอยู่บนความสุจริตน่ะจ่า?” ชายหนุ่มปรายตาออกไปนอกห้องกระจกสีดำภายในเทาเฮ้าส์เล็กๆที่เขาเช่าไว้เป็นศูนย์บัญชาการและพักอาศัยชั่วคราว
“พวกเธอประกอบอาชีพสุจริตนะครับสารวัตร คนซ้ายนี่เป็นช่างทำผม รู้เรื่องราวของผู้หญิงที่มาอยู่กับเหยื่อมากมาย เพราะเธอช่างพูดช่างคุย อีกอย่างสารวัตรดูหุ่นเธอสิครับ เร้าใจขนาดไหน!”
“ขวาล่ะ”
“คนขวานี่สรรพคุณแม่เจ๋งเป้งกว่าคนซ้ายครับ เธอเป็นหมอนวด เธอยังไม่เคยเสียตัวให้ใคร สารวัตรลองคิดดูสิครับว่าคนทำอาชีพนี้ แล้วยังครองตัวให้รอดพ้นปากเหยี่ยวปากกามาได้นี่ เธอสุดยอดจริงๆนา... อีกอย่างเธอก็เคยเข้าไปบริการเหยื่อมาแล้วด้วย รู้จริงเห็นจริงในรังของมันเลย”
“จ่าลองแล้วหรือถึงได้รู้ว่าหล่อนไม่เคยเสียตัวมาน่ะ หืม..?”
“เอ่อ... สารวัตรก็ ไอ้จ่าเฉยคนนี้ถึงรูปร่างหน้าตาจะดีเสียจนสาวๆมองเหลียวหลัง แต่ก็รักเดียวใจเดียวแค่เมียที่บ้านนะครับผม” พูดไปมืออวบอูมก็เริ่มยกขึ้นมาปาดเหงื่อที่ซึมชื้นออกมาจากศีรษที่มีผมหลอมแหลมเต็มทน ทั้งๆที่แอร์ก็เย็นฉ่ำขนาดนี้ เปมทัตนึกขันกับท่าทางของจ่าที่เขาเคารพมาตั้งแต่เพิ่งบรรจุใหม่ๆ ผ่านงานมาด้วยกันก็มา เสี่ยงตายมาก็เยอะแล้ว เขาเคารพเจ้าตัวเหมือนญาติผู้ใหญ่คนสำคัญท่านหนึ่งในชีวิต หากแต่เมื่ออยู่ในหน้าที่แล้ว เขายังคงต้องรักษาระเบียบวินัยเอาไว้ ดั่งเช่นที่เขาต้องซ่อนเสียงหัวเราะเอาไว้เบื้องหลัง แล้วตีหน้าขรึมใส่ เพื่อให้งานที่ได้รับมอบหมายเดินไปข้างหน้าเสียที
ลางสังหรณ์บางอย่างบอกจ่าเฉยผู้ภักดีผู้นี้ว่านายน้อยของเขาคนนี้ต้องไม่พอใจสาวงามสองนางที่เขาหามาเป็นแน่
"ผมคิดว่าแผนนี้มันคงไม่ได้ผลแล้วล่ะมั้งจ่า! ดูแต่ละคนซิจ่า ดำขนาดนี้! ถ้าส่งเข้าไปหาพวกมัน ไม่ต้องถึง
กับวิสามัญพวกมันหรอก คงได้เสื่อมสมรรถภาพตายกันยกรังแน่!"
"โถ่.. สารวัตรครับ ใจเย็นๆสิ นี่ใจคอจะให้จ่าเฉยคนนี้หาให้ได้เลยใช่มั้ย ไอ้ขาว สวย หมวย เอ็กซ์ เนี้ยยยย"
“ก็ถ้าหาไม่ได้ จ่าก็เตรียมเก็บข้าวเก็บของออกจากกรมได้เลยครับจ่า!!”
นี่ล่ะ! สาเหตุที่ทำให้เขาสามคนต้องมานั่งจิบโอเลี้ยงกันจนท้องอืด เพียงเพราะหนึ่งในผู้รับผิดชอบ
จอมพูดน้อยอย่างกริชเสนอว่า สาวสวยที่มีคุณสมบัติครบอย่างที่พวกเขาต้องการอาจจะไม่จำเป็นต้องอยู่ใน
สถานที่สวยๆงามๆ หากแต่ในตลาดสด และเช้าๆอย่างนี้ ก็เป็นอะไรที่พวกเขาไม่คาดคิดเหมือนกันว่าจะพบ
หล่อน!
________________________________________________________________________________
อยากได้คอมเม้นเพื่อเป็นน้ำมันขับเคลื่อนเครื่องยนต์จัง T^T
ความคิดเห็น