ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สายลับเขย่ารัก

    ลำดับตอนที่ #2 : เข้าตากรรมการ!!

    • อัปเดตล่าสุด 13 ธ.ค. 55



                    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

                    “เชิญ..” ร่างสูงเต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างคนสุขภาพหมุนลูกบิดประตูเข้าไปในห้องทำงานสีขาวอย่างเงียบๆทันทีที่สิ้นเสียงอนุญาต  น้ำเสียงอันทรงอำนาจชวน

    สนทนาทันทีที่พบกัน

    “นั่งก่อนสิ”

    “ครับ  ผู้กำกับมีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ” คนตัวสูงกว่าเริ่มเปิดปากเข้าเรื่องทันทีที่ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเจ้าของร่างท้วมอย่างคนมีสง่าราศี  สายตาของผู้ที่ผ่านประสบการณ์มานานหรี่ลงเล็กน้อย  ก่อนจะเอ่ยตอบ

    “คุณคงรู้เรื่องคดีค้าสิ่งผิดกฎหมายของนายโอบกิจมาบ้าง  ผมอยากให้คุณบุกไปทลายรังของมันที่ชายแดนทางเหนือ”

    “แต่คดีนี้เรามอบหมายให้ตำรวจแถบนั้นจัดการแล้วไม่ใช่หรือครับ  ผมเกรงว่า...” ความคิดที่คิดจะค้านชะงักลงเมื่อถูกแทรกด้วยเสียงอันหนักแน่นทรงอำนาจของผู้เป็นาย

    “ไม่มีคำว่าแต่ เปมทัต งานนี้เบื้องบนเร่งลงมาแล้ว  ผมคิดว่าผมไว้ใจคุณได้”

    “ครับ  มีเวลาให้ผมกี่วันครับ”

    2 เดือน ก่อนปีใหม่นี้ คุณต้องจัดการเรื่องทุกอย่างให้เรียบร้อย  มันจะเป็นผลงานให้ตัวคุณเอง  และกรมตำรวจของเราด้วย”


    ไม่ใช่ว่าเขานั้นเกี่ยงงอนในหน้าที่การงาน  หากแต่ชายแดนทางเหนืองั้นหรือ... ที่ๆเขาไม่อยากย้อนกลับไปแม้เพียงเศษเสี้ยวของช่วงชีวิต  ที่ซึ่งเป็นบ้านเกิดของแม่ผู้ให้กำเนิดของเขา  ทำไมความดีใจที่จะได้กลับไปสู่ความอบอุ่นของญาติผู้ใหญ่ถึงได้กลายเป็นความเจ็บปวดที่หัวใจเช่นนี้  ปัญหาใหญ่กำลังถาโถมเข้ามาในชีวิตของเขาแล้วสินะ...

     

     

     

     

                    ห้องสี่เหลี่ยมสีหม่นด้วยแสงสลัวจากดวงไฟดวงเดียวบริเวณกลางห้อง  สาดส่องบุรุษรูปร่างสูงคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนโต๊ะตัวใหญ่  อีกสามคนยืนล้อมร่างท้วมของใครอีกคนไว้เกิดเป็นเงาขึ้นบนฝาผนัง  ประหนึ่งกำลังจะสำเร็จโทษชายผู้นั้นก็ไม่ปาน

    “ผมไม่ได้ใจร้อน  แต่ด้วยเวลาและเหตุผลหลายๆอย่าง  ทำให้เราต้องรีบบุกทลายรังของมันอย่างรีรอไม่ได้  ทุกคนคงเข้าใจ” เปมทัตเอ่ยอย่างใจเย็น  จะบอกได้อย่างไรเล่าว่าเหตุผลหนึ่งในหลายๆอย่างคือใจของเขานั่นล่ะที่มันไม่อยากไปอยู่แถวชายแดนทางเหนือนาน 

    “แต่กระผมคิดว่า  เราต้องค่อยๆขยับเข้าไปใกล้ๆมันอย่างเงียบๆนะครับสารวัตร  บุกไปแบบไม่รู้เหนือรู้ตาย  ยังไงเราก็มีแต่เสียกับเสีย  ผมเข้าน่ะเข้าใจ๊เข้าใจ  คนหนุ่มอย่างสารวัตรและไอ้สามคนที่ยืนทำหน้าเป็นหมาเฝ้าทองให้เจ้าของบ้านรอบตัวผม  แต่สารวัตรครับ สารวัตรไม่เคยได้ยินที่ขงเบ้งพูดหรอครับว่า... รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ” น้ำเสียงฮึ่มฮั่มไม่ได้ดังมาจากผู้ที่ถูกสนทนาด้วย  หากแต่มันออกมาจากลำคอของหมาทั้งสามนายที่ยืนล้อมทองอยู่  ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเห็นด้วย  หรืออยากทุบตาลุงตาตี่ลงพุงตรงหน้ากันแน่


    “แผนของจ่านะหรือ...” ชายหนุ่มทำท่าครุ่นคิด  ก่อนจะเอ่ยต่อ “มันก็อาจจะใช้ได้อยู่  แต่ผมกลัวว่าหล่อนจะเป็นอันตรายไปเสียก่อน  ชีวิตของคนคนหนึ่งกว่าพ่อแม่จะเลี้ยงดูมาจนโตนะจ่า  ใครจะยอมให้ลูกตัวเองไปผจญในแดนนรกแบบนั้นกันล่ะ” ยกเว้นเขา.... ประโยคที่ชายหนุ่มต่อท้ายนั้นใจ


    “ที่สำคัญ  ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไว้ใจยากที่สุดนะจ่า  ที่นี่ประเทศไทย  ไม่ใช่สหรัฐฯ เราไม่ได้กำลังดูหนังบู๊แอ็คชั่นกันอยู่ที่จะได้หาสายลับสาวสวยมาทำงานให้เราได้อย่างสนิทใจน่ะ” ศรันย์เอ่ยแย้งขึ้นมาอีกคน


    “แต่ผมคิดว่าเราน่าจะหาได้นะ  ผู้หญิงหน้าตาดีๆซักคนที่ไว้ใจได้น่ะ  หรือนายว่าไงกริช” ชยินเสนอแนวคิดอีกคน  พร้อมกับหาแนวร่วมเป็นเพื่อนข้างๆด้วยไปในตัว


    “ผมก็เห็นด้วยกับจ่าเฉยและชยินนะครับสารวัตร” กริชกล่าว


    “สามเสียงต่อสองเสียงนะครับสารวัตร  ผมบอกแล้วว่าแผนนี้ยังไงก็ได้ผล” จ่าเฉยพูดไปหัวเราะไปอย่างคนอารมณ์ดีที่ไม่เคยเครียดกับเรื่องใดๆในชีวิต


    “เฮ้อ.... ถือว่าประชาธิปไตยละกัน  งั้นผมมอบหมายหน้าที่นี้ให้ทั้งสามคน  ไปหาผู้หญิงที่สวยพอจะส่งไปล่อไอ้เสี่ยตัณหากลับนั่นในรังของมัน  เราอาจจะต้องหาจากคนในพื้นที่นั้น  พรุ่งนี้ 6 โมงเช้าเราจะออกเดินทางกัน”


    “รับทราบครับ”  จ่าเฉย  กริช  ชยิน  ผู้ได้รับมอบหมายหน้าที่ขานรับกันอย่างแข่งขันก่อนการประชุมจะเสร็จสิ้นลง

     

     

     

             


       ตลาดสดเมืองเชียงใหม่
                “ข้าวราดแกงร้อนๆ ขนมหวานอร่อยๆ มาแล้วจ้า เร่เข้ามา เอ้า
    ! เร่เข้ามา.... ช้าหมดอดนะจ๊ะ  ข้าวราดแกงสูตรโบราณจ้า” เสียงใสตะโกนเจื้อยแจ้วดัง

    ไปทั่วตลาด  ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาหลายคนอดไม่ได้ที่จะหันไปมองเจ้าของเสียงว่าจะน่ารักสดใสเหมือนเสียงของเจ้าหล่อนรึเปล่า

    “ถุงละ 20 ค่ะ รับกี่ถุงดีคะ  นี้ขนมจีนน้ำยาสูตรโบราณจ้ะ  ทานคู่กับผักสดรับรองว่าคุณจะติดใจ..” เสียงโฆษณาและเสียงลูกค้าดังสลับกันไปมาจนฟังดูวุ่นวาย  ก็ที่นี่มันตลาดสดเมืองเชียงใหม่นี่  จะไม่ให้วุ่นวายได้ยังไง  คนภาคกลางที่ขึ้นมาอยู่ที่นี่แล้วยังติดทานอาหารภาคกลางอยู่ก็มีมาก  พวกฝรั่งที่มาอยู่แล้วไม่ถูกใจอาหารเหนือแต่ยังฝังใจกับอาหารไทยของภาคกลางก็มีไม่น้อย  จึงไม่แปลกที่ร้านข้าวแกง “แม่วรรณา” จะขายดีเป็นเทน้ำเทท่าอยู่ทุกวัน

     

    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด.....

    Help me !!! Stolen my wallet Help me!!!

    เฟี้ยว.... ว ว  ว ว  ตุ้บ โครมมมมมม !!!

    สากกะเบืออันเขื่องถูกปาจากแผงลอยร้านข้าวแกงตรงดิ่งเข้ากระแทกหน้าผากโจรวิ่งราวทันที   เสียงของล้มโครมครามกระจายเต็มพื้น  พร้อมๆกับที่ร่างบางของแม่สาวน้อยเสียงใสที่ยืนขายข้าวแกงอยู่ดีๆก็แปลงร่างเป็นซุปเปอร์แมนกระโดดข้ามหม้อข้าวหม้อแกงลงไปคร่อมร่างขมุกขมอมของไอ้โจรมือไวทันที  เศษผักที่ร่วงหล่นกระจายอยู่บนพื้นถูกหยิบขึ้นมาฟาดหน้ายัดปากโจรชั่วไม่ยั้ง  ก่อนที่มือบางจะกระชากกระเป๋าจากผู้ร้ายส่งคืนให้กับสตรีต่างชาติเจ้าของกระเป๋าที่วิ่งตามมาในภายหลัง

     

    “เห้ย!! ลูกพี่ๆ ตายแล้ว... หมดสวยหมดเบยยยย  ทำไมไปคร่อมผู้ชายยังง้านนนนน”  เสียงเล็กๆของเจ้าอ้วนตัวน้อยดังขึ้นทางด้านหลังของหญิงสาว  พร้อมๆกับร่างกลมกลิ้งที่วิ่งเข้ามาหาลูกพี่สาวอย่างตื่นตระหนก 

    ใจก็สบถไปตามประสาเด็ก  นี่เจ้า
    ตัวแค่หนีไปทำความรู้จักกับลูกหมาตัวใหม่หลังตลาดแปบเดียว  เกิดเหตุวินาศสันตโรขึ้นขนาดนี้เชียวรึนี่  เด็ก 8 ขวบกลุ้มใจจริงๆ!!
     

    “เงียบน่าส้มฉุน  เอ็งไม่เห็นหรอว่าไอ้ชั่วนี่มันไปขโมยกระเป๋าเขามาน่ะ แล้ว.....”


    ผลั่ก!!!


     ไม่ทันขาดคำ  แม่ซุปเปอร์แมนสาวหงายหลังทันทีด้วยฤทธิ์ฝ่าเท้ามหากาฬของโจรวิ่งราวที่ถูกคร่อม  แล้วมันก็ตะเกียกตะกายจะออกวิ่งต่อ   ถ้าไม่ถูกสกัดไว้ด้วยลุงยามหนวดเฟิ้มประจำตลาดสองคนที่เข้ามาดักหน้าไว้ก่อน  

    ร่างบางพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น  โดยมีส้มฉุนเข้ามาช่วย  พร้อมกับบ่นเสียยืดยาวเป็นคนแก่ในร่างเด็ก

    “ปล่อยไม่ได้เลยนะ  โตแล้วไม่ดูแลตัวเองจริงๆ... จิ๊ โอ๊ย!” ยังไม่ทันจะจบคำบ่นดี  มะเหงกลูกใหญ่ก็ถูกประเคนเข้าที่หัวโก๊ะเข้าให้  หล่อนยังไม่ลืมที่จะหันไปถามถึงความปลอดภัยของสตรีชาวต่างชาติที่ยืนอยู่ด้านหลัง

    “เอ่อ... ข๊อบ คุณ ม๊าก น่ะ คะ ที ชั่ว ชั้น เมื่อ สัก ครู่ นี๊...” สุภาพสตรีต่างชาติเจ้าทุกข์หันมาเอ่ยขอบคุณแม่สาวมีน้ำใจอีกครั้งด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
     

    “ไม่เป็นไรค่ะ  คุณพูดไทยได้ด้วย  คนไทยมีอะไรก็ช่วยเหลือกันค่ะ” ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรเช่นเดียวกัน

    “คุณ ชื่อ อา ไร คะ”

    “ฉันชื่อ  ข้าวหอม ค่ะ”


    ในขณะที่การแนะนำตัวระหว่างสองสาวต่างวัยกำลังดำเนินไปนั้น  หาได้รอดพ้นสายตาดุจพญาเหยี่ยวของนายตำรวจลงพุงกับสองหนุ่มข้างๆไม่  ดวงตาตี่เป็นประกายวิบวับส่งสัญญาณให้สองคนข้างๆทันที

     

     

     

    ย้อนไปเมื่อ 2 วันก่อน....


    “อะไรที่ทำให้ผมสามารถเชื่อได้ว่าเขาไว้ใจได้และตั้งอยู่บนความสุจริตน่ะจ่า?” ชายหนุ่มปรายตาออกไปนอกห้องกระจกสีดำภายในเทาเฮ้าส์เล็กๆที่เขาเช่าไว้เป็นศูนย์บัญชาการและพักอาศัยชั่วคราว

    “พวกเธอประกอบอาชีพสุจริตนะครับสารวัตร  คนซ้ายนี่เป็นช่างทำผม  รู้เรื่องราวของผู้หญิงที่มาอยู่กับเหยื่อมากมาย  เพราะเธอช่างพูดช่างคุย  อีกอย่างสารวัตรดูหุ่นเธอสิครับ  เร้าใจขนาดไหน!

    “ขวาล่ะ”

    “คนขวานี่สรรพคุณแม่เจ๋งเป้งกว่าคนซ้ายครับ  เธอเป็นหมอนวด  เธอยังไม่เคยเสียตัวให้ใคร  สารวัตรลองคิดดูสิครับว่าคนทำอาชีพนี้  แล้วยังครองตัวให้รอดพ้นปากเหยี่ยวปากกามาได้นี่  เธอสุดยอดจริงๆนา... อีกอย่างเธอก็เคยเข้าไปบริการเหยื่อมาแล้วด้วย  รู้จริงเห็นจริงในรังของมันเลย”

    “จ่าลองแล้วหรือถึงได้รู้ว่าหล่อนไม่เคยเสียตัวมาน่ะ หืม..?

    “เอ่อ... สารวัตรก็  ไอ้จ่าเฉยคนนี้ถึงรูปร่างหน้าตาจะดีเสียจนสาวๆมองเหลียวหลัง  แต่ก็รักเดียวใจเดียวแค่เมียที่บ้านนะครับผม” พูดไปมืออวบอูมก็เริ่มยกขึ้นมาปาดเหงื่อที่ซึมชื้นออกมาจากศีรษที่มีผมหลอมแหลมเต็มทน  ทั้งๆที่แอร์ก็เย็นฉ่ำขนาดนี้  เปมทัตนึกขันกับท่าทางของจ่าที่เขาเคารพมาตั้งแต่เพิ่งบรรจุใหม่ๆ  ผ่านงานมาด้วยกันก็มา  เสี่ยงตายมาก็เยอะแล้ว   เขาเคารพเจ้าตัวเหมือนญาติผู้ใหญ่คนสำคัญท่านหนึ่งในชีวิต  หากแต่เมื่ออยู่ในหน้าที่แล้ว  เขายังคงต้องรักษาระเบียบวินัยเอาไว้  ดั่งเช่นที่เขาต้องซ่อนเสียงหัวเราะเอาไว้เบื้องหลัง  แล้วตีหน้าขรึมใส่  เพื่อให้งานที่ได้รับมอบหมายเดินไปข้างหน้าเสียที  

    ลางสังหรณ์บางอย่างบอกจ่าเฉยผู้ภักดีผู้นี้ว่านายน้อยของเขาคนนี้ต้องไม่พอใจสาวงามสองนางที่เขาหามาเป็นแน่


    "ผมคิดว่าแผนนี้มันคงไม่ได้ผลแล้วล่ะมั้งจ่า!  ดูแต่ละคนซิจ่า ดำขนาดนี้! ถ้าส่งเข้าไปหาพวกมัน  ไม่ต้องถึง

    กับวิสามัญพวกมันหรอก คงได้เสื่อมสมรรถภาพตายกันยกรังแน่!"



    "โถ่.. สารวัตรครับ ใจเย็นๆสิ  นี่ใจคอจะให้จ่าเฉยคนนี้หาให้ได้เลยใช่มั้ย ไอ้ขาว สวย หมวย เอ็กซ์ เนี้ยยยย" 

     

    “ก็ถ้าหาไม่ได้  จ่าก็เตรียมเก็บข้าวเก็บของออกจากกรมได้เลยครับจ่า!!




                นี่ล่ะ! สาเหตุที่ทำให้เขาสามคนต้องมานั่งจิบโอเลี้ยงกันจนท้องอืด  เพียงเพราะหนึ่งในผู้รับผิดชอบ

    จอมพูด
    น้อยอย่างกริชเสนอว่า  สาวสวยที่มีคุณสมบัติครบอย่างที่พวกเขาต้องการอาจจะไม่จำเป็นต้องอยู่ใน

    สถานที่สวยๆงามๆ  หากแต่ในตลาดสด และเช้าๆอย่างนี้ 
    ก็เป็นอะไรที่พวกเขาไม่คาดคิดเหมือนกันว่าจะพบ

    หล่อน!

     







    ________________________________________________________________________________


    อยากได้คอมเม้นเพื่อเป็นน้ำมันขับเคลื่อนเครื่องยนต์จัง T^T




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×