คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตำนาน นกกระเรียนพันตัว
ฉากชีวิตของเด็กหญิงชาวญี่ปุ่นที่สร้างตำนานการพับนก สัญลักษณ์แห่งความหวังนี้เปิดฉากขึ้นเมื่อ 59 ปีก่อน ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ.2488 เวลา 8.15 น.เครื่องบิน ทิ้งระเบิดของสหรัฐอเมริกา ได้ส่งระเบิดปรมาณูลูกแรกลงที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น
แรงระเบิดสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างราว 13 ตร.กม. ทำลายเมืองฮิโรชิม่า ราบเป็นหน้ากลอง โศกนาฏกรรมครั้งนั้น ทางการญี่ปุ่นระบุว่ามีพลเรือนเสียชีวิตจากเหตุระเบิด 118,661 คน แต่การประเมินต่อมาชี้ว่า ยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดอาจสูงถึง 140,000 คน จากประ ชากรทั้งหมด 350,000 คน...!
สามวันหลังฮิโรชิม่าถูกถล่ม สหรัฐฯส่งระเบิดล้างโลกลูกที่สองไปทิ้งที่เมืองนางาซากิ ล้าง ผลาญชีวิตผู้คนไปอีกราว 74,000 คน การทิ้งระเบิดสองลูกนี้ทำให้ญี่ปุ่นยอมพ่ายในสงครามโลก ครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ.2488 อย่างไม่มีเงื่อนไข...!
ในครั้งนั้นเด็กหญิง "ซาดาโกะ ซาซากิ" วัย 2 ขวบ คือหนึ่งในไม่กี่คนที่รอดชีวิตมาจากระเบิด ปรมาณูที่ฮิโรชิม่า หลังจากนั้นซาดาโกะซัง เติบโตขึ้นตามวัยพร้อมความฝันที่จะเป็นนักวิ่งของโรง เรียน จวบจนเธออายุได้ 11 ขวบ แพทย์ตรวจพบว่าเธอเป็น "โรคลูคีเมีย" เนื่องจากพิษของกัมมัน ตภาพรังสีจากระเบิดล้างโลก ทำให้เม็ดเลือดขาวที่สร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายเกิดไปทำลายเม็ด เลือดแดง
หลังจากนั้น ไม่นานสุขภาพของเธออ่อนแอลงเรื่อยๆ ความรุนแรงของโรคนี้ทำลายเรี่ยวแรง ของเธอจนหมดสิ้น ปากและเหงือกบวมเป่ง เคี้ยวอาหารไม่ได้ มือบวมพอง ต้องนอนอยู่ที่โรง พยาบาลตลอดเวลา ความฝันของเธอที่จะเป็นนักวิ่งทีมโรงเรียนเริ่มริบหรี่ลงทุกขณะ
แต่แล้วเมื่อเพื่อนของซาดาโกะไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล เล่าตำนานปรัมปราของญี่ปุ่นที่เชื่อ ว่านกกระเรียนมีอายุถึง 1,000 ปี ใครก็ตามที่พับนกกระเรียนกระดาษได้ครบ 1,000 ตัว สิ่ง ศักดิ์สิทธิ์จะประทานความหวังให้ ทำให้คนๆ นั้นมีสุขภาพแข็งแรง สามารถอธิษฐานขอพรได้ จาก นั้นนกกระเรียนพันตัวจึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง ของเด็กหญิงซาดาโกะ และนับตั้งแต่ นั้นมาเธอเพียรหากระดาษทุกชนิดที่สามารถหามาได้ พยายามใช้มืออันบวมพองและเจ็บปวดพับ นกกระเรียนตัวแล้วตัวเล่า ด้วยความหวังว่ามันจะสร้างปาฎิหาริย์ ให้เธอรอดพ้นจากโรคร้ายนี้
แต่ซาดาโกะมิอาจหลีกพ้นสัจธรรมแห่งชีวิตเธอหมดลมหายใจเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2498 ด้วยวัยเพียง 12 ปี ขณะที่พับนกกระเรียนได้ 644 ตัว
ในวันฝังศพของเธอ เพื่อนๆ ร่วมชั้นเรียนจึงได้ช่วยกันพับนกกระเรียนอีก 356 ตัวทำให้มีนก กระเรียนครบ 1,000 ตัว ตามความมุ่งหมายใส่ลงในหลุมฝังศพของเธอ
จากความเพียรไม่ย่อท้อของซาดาโกะที่ยังคงพับนกกระเรียนจนวันสุดท้ายของชีวิต จึงมีคนนำ เรื่องราวของเธอมารวมเป็นเล่มและตีพิมพ์ ต่อมาคนหนุ่มสาวทั่วญี่ปุ่นรวบรวมเงินกันเพื่อ"สร้างอนุ สาวรีย์สำหรับซาดาโกะ และเด็กๆ ที่ต้องตายเพราะระเบิดปรมาณู"
อนุสาวรีย์หนูน้อยซาดาโกะทำพิธีเปิดในปี พ.ศ.2501 ตั้งอยู่ภายใน"สวนสันติภาพ"หรือ "พีซ เมโมเรียล พาร์ค (The Peace Memorial Park) ณ เมืองฮิโรชิมา" อนุสาวรีย์ถูกสร้างขึ้น ด้วยคอนกรีตทรงโดม ที่จำลองแบบมาจากลักษณะของลูกระเบิดปรมาณู ภายในโดมมีแผ่นหินอ่อนจา รึกข้อความ"สันติภาพจงมีแก่มวลมนุษยชาติในโลก"
รูปปั้นซาดาโกะอยู่ในลักษณะ ยืนชูแขนทั้งสองข้างไปข้างหน้า โดยมีรูปนกกระเรียนกระดาษ อยู่ในอุ้งมือทั้งสอง เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้ชาวญี่ปุ่นและชาวโลกตระหนักถึงพิษภัยของสงครามรวมทั้งยัง ได้กำหนดให้ทุกวันที่ 6 สิงหาคม ของทุกปีเป็น "วันสันติภาพ" โดยในวันนี้จะมีผู้คนจากทั่วสารทิศพับ นกกระเรียนมาวางไว้ที่รอบๆ ฐานอนุสาวรีย์ของซาดาโกะ เป็นพันเป็นหมื่นตัวเพื่อเป็นเครื่องเตือน ใจให้ชาวโลกตระหนักถึงพิษภัยแห่งสงครามและเป็นความหวังที่จะร่วมมือกันสร้างสันติภาพให้เกิด บนโลกใบนี้อย่างแท้จริง
จากเรื่องราวการพับนกของหนูน้อยซาดาโกะ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า กองทัพนกที่จะโปรยปราย เหนือน่านฟ้า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในวันที่ 5 ธันวาคม จะเป็นตัวแทนแห่งสันติภาพ สื่อความ ปรารถนาดี ความรู้สึกห่วงใยของคนไทยทั้งประเทศไปสู่พี่น้องในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่ง ผลให้สถานการณ์ที่ร้อนระอุคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ความคิดเห็น