ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : เสน่ห์(ซาตาน)สาว
นับตั้งแต่ธิดาแห่งเอดินเบิร์กกลับมายังโรงเรียนพระราชา เรียกความคึกคักให้แก่ห้องอาหารดราก้อนเป็นอย่างมากจากเหล่านักเรียนชายรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ที่ต่างพากันนั่งที่ห้องอาหารดราก้อนกันไม่ขาดสาย จุดประสงค์เพื่อที่จะใกล้ชิดและยลโฉมความงามของธิดาแห่งเอดินเบิร์ก 
“ดารี่เสน่ห์แรงจริงๆเนอะ ลอรี่” เสียงซาตานอารมณ์ดีถามขึ้นและคำตอบที่ได้ก็เป็นเหมือนเดิมทุกครั้ง
เฟี้ยว!ฉีก!
“ท่าทางนายจะอยากตายมากใช่มั้ย ลูคัส!” เสียงหงุดหงิดปนข่มขู่ของหลวงพี่นักบวชแห่งป้อมอัศวินที่ไม่ได้ทำให้ซาตานขี้เล่นกลัวเลยแม้แต่น้อย
“นั้นสิ! ตั้งแต่ดาเรียกลับมาห้องอาหารของเราก็ทำกำไรได้ดีเกินคาด ปีนี้งบประมาณของป้อมอัศวินคงหลุดจากอาถรรพ์ตัวแดงได้แน่ๆ” เสียงสนับสนุนคำพูดของซาตานแห่งป้อมอัศวินของเจ้าชายโรเวน ฮาเวิร์ดเสนาธิการคนสำคัญเอ่ยขึ้น
“แหม! ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกโรเวน นายไม่เห็นเหรอว่าเกือบครึ่งหนึ่งของห้องอาหารดราก้อนก็คับคั่งไปด้วยเหล่านักเรียนหญิงที่ชื่นชมในตัวเสนาธิการผู้หล่อเหลาทั้งสองและสองผู้คุมกฎมากฝีมือ” ธิดาป้อมคนสวยแซวกลับ
“ฉันว่าที่หนุ่มๆมากันเยอะคงอยากจะมาทำความรู้จักกับดารี่แน่ๆเลยแต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาทำความรู้จักสักคนเลยเนอะ ลอรี่!”
เฟี้ยว!ฉึก! เป้ามีดขาประจำเอี้ยวตัวหลบด้วยหลบมีดบินอย่างเคยชิน
“ถ้าแกอยากตายไวนักฉันจะสงเคราะห์ให้”
“คงไม่มีใครหน้าไหนกล้าเข้าใกล้ดาเรียหรอก ก็ในเมื่อเธอมีบอดิการ์ดน้อยๆอยู่ทั้งคนใช่มั้ยจ๊ะ ไชน์” โซมาเนียผู้คุมกฎสาวถามหนุ่มน้อยหนึ่งเดียวในโต๊ะ หารู้ไม่ที่หนุ่มๆทั้งหลายไม่กล้าเข้ามาใกล้ธิดาป้อมคนสวยเลยแม้แต่คนเดียวเป็นเพราะทุกคนยังไม่อยากเป็นเหยื่อของเหล่าผู้คุมกฎที่นั่งรายล้อมธิดาป้อม
“.....” 
ความเงียบและสายตาที่ดูเย็นชาแต่มีความอบอุ่นซ่อนอยู่ภายในเป็นคำตอบที่ทุกคนในโต๊ะรู้ดีว่าเจ้าตัวเป็นเด็กที่รักพี่สาวมากเพียงใด หนุ่มน้อยตัวเล็กท่าทางสุขุม ผู้มีผมสีดำรัตติกาล นัยน์ตาสีแดงเพลิงดูดุดัน เย็นชาและจะเย็นชามากขึ้นถ้ามีหนุ่มๆไม่พึ่งประสงค์เข้ามาใกล้ธิดาป้อมคนสวย
“ไม่ต้องทำหน้าดุขนาดนั้นก็ได้ ไชน์ ฉันรับรองจะว่าจะไม่มีผู้ชายคนไหนเข้าใกล้ดาเรียได้” โซมาเนียรับปากกับไชน์ แต่ไม่ทันจะได้รักษาสัญญาบุรุษที่ไม่พึ่งประสงค์ในสายตาไชน์ก็มาถึง
“สวัสดีครับ! ดาเรียขอนั่งด้วยจะได้มั้ยครับ” ทุกสายตาหันไปมองยังต้นเสียง จะมีบุรุษที่ไหนกล้าเข้ามาในกลุ่มของเหล่าผู้มีอำนาจในป้อมอัศวินถ้าไม่ใช่ อาเธอร์ เลโอนาท บริสตั้น บุคคลที่ไม่น่าพึ่งประสงค์ที่สุดในสายตาของไชน์ และหนุ่มๆทุกคนในโต๊ะ จริงๆแล้วเจ้าชายอาเธอร์ต้องจบการศึกษาไปตั้งแต่ปีที่แล้วถ้าไม่เป็นเพราะถูกเรียกกลับไปปฏิบัติภารกิจภายในราชวงศ์ทำให้ปีนี้เจ้าชายใจสิงห์ต้องกลับมาเรียนปี 7 ที่นี้อีกครั้ง
“เชิญค่ะ! ที่นี้เป็นที่สาธารณะไม่จำเป็นต้องขออนุญาตหรอกค่ะ” ธิดาคนสวยพูดเชิญพร้อมรอยยิ้มหวานที่ทำให้เจ้าชายใจสิงห์ถึงกับใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
“ท่านอาเธอร์ลมอะไรหอบท่านให้มานั่งทานอาหารที่ห้องอาหารดราก้อนได้หรือรสชาติอาหารของห้องอาหารปราสาทขุนนางแย่ ท่านจึงต้องมาทานที่นี้” เจ้าชายโรเวนถามพร้อมรอยยิ้มเย็นๆ เรียกความสนใจเจ้าชายใจสิงห์ให้ระจากดวงหน้าสวยหวานของธิดาป้อม
“ก็แค่อยากลองเปลี่ยนบรรยากาศทั้งทิวทัศน์และรสชาติอาหารดู ท่านคงจะไม่ว่ากระไรใช่มั้ยเจ้าชายโรเวน” เจ้าชายใจสิงห์ตอบพร้อมกับยิ้มเหยียดเป็นเชิงท้าทาย
“ในเมื่อท่านอาเธอร์หัวหน้าปราสาทขุนนางให้เกียรติเปลี่ยนบรรยากาศมายังห้องอาหารดราก้อน มีหรือพวกเราจะไม่ต้อนรับ” คำตอบพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตรแต่ดูเยือกเย็นของเจ้าชายโรเวน ที่ทำให้บรรยากาศรอบๆโต๊ะเย็นตามไปด้วย
เจ้าชายแห่งซาเลสชะงักกับรอยยิ้มเยือกเย็นและบรรยากาศที่เย็นยะเยือก ความคิดแล่นเข้ามาในห้วงคิดพร้อมกับการสังเกตอากัปกิริยาของคนตรงหน้า อะไรที่ทำให้เจ้าชายคนสำคัญแห่งเจมิไนถึงกับเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ได้หรือว่าจะเป็นเพราะธิดาป้อมแล้ววิเวียนนนานีย่าล่ะ
“แล้วรสชาติอาหารของที่นี้ถูกใจท่านอาเธอร์หรือเปล่าค่ะ?” เสียงใสของธิดาป้อมถามขัดจังหวะสงครามเย็น และดึงเจ้าชายใจสิงห์ให้หลุดจากห้วงความคิด
“รสชาติอาหารของที่นี้ก็ไม่เลวนัก แต่ที่ถูกใจเรามากเป็นพิเศษเห็นจะเป็นการได้นั่งทานอาหารร่วมกับธิดาคนงามแห่งเอดินเบิร์ก” คำพูดจีบสาวของเจ้าชายใจสิงห์เรียกสายตาดุจากเหล่าผู้คุมกฎและหนุ่มน้อยนัยน์ตาสีเพลิงให้ลุกโชติช่วง
“แหม! ท่านอาเธอร์นี้ละก็”ท่าทางเขิลอายของธิดาป้อมทำเอาเหล่าผู้คุมกฎทั้งหลายรวมทั้งไชน์มองอย่างตกตะลึงว่าสาวน้อยตรงหน้าหลงคารมหนุ่มไปซะแล้ว
แต่ทุกคนต้องคิดใหม่เมื่อธิดาคนสวยที่ใครๆเห็นว่าอ่อนหวานได้แผลงฤทธิ์
“ฉันเพิ่งจะรู้เดี๋ยวนี้เองว่าท่านอาเธอร์สามารถเรียกงูออกมาได้เหมือนกับลูคัส แต่ของท่านดูจะตัวใหญ่กว่าและคงจะหนักมากเมื่ออยู่บนหัวแบบนี้” คำพูดตอกกลับที่ทำเอาคนฟังอึ้งไปตามๆกันโดยเฉพาะเจ้าชายอาเธอร์ เลโอนาทถึงกับหน้าขึ้นสีแดงเรื่อเพราะตั้งแต่จีบสาวมาไม่มีสาวคนใดกล้าปฏิเสธและทำให้เค้าเสียหน้าได้ถึงเพียงนี้
เธอแน่มาก ดาเรีย  เดอร์ลาวินนี่ ฉันจะทำให้เธอเป็นผู้หญิงของฉันให้ได้ คำสาบานที่อาเธอร์ประกาศลั่นกับตัวเองในห้วงคิดก่อนที่จะลุกออกจากโต๊ะ
“ท่านอาเธอร์อิ่มแล้วเหรอค่ะ? ยังไม่ได้ทานสักคำเลย” เสียงใสยังคงตามรังควานอาเธอร์
“ผมนึกขึ้นได้ว่ามีนัดประชุมก่อนเข้าเรียนต้องขอตัว” ว่าเสร็จเจ้าตัวก็ลุกออกไปโดยไม่หันกลับมามอง
เสียงหัวเราะในลำคอของทุกคนบนโต๊ะดังขึ้นหลังจากที่หัวหน้าปราสาทขุนนางคนสำคัญลุกออกไปก่อนที่จะหัวเราะดังขึ้นเรื่อยๆอย่างสะใจแม้แต่นักบวชหน้าบูดและเด็กน้อยท่าทางสุขุมยังหัวเราะออกมาเต็มที่
รู้จักซาตานสาวแห่งป้อมอัศวินน้อยไปเสียแล้วอาเธอร์ เลโอนาท บริสตั้น
#######################################
Tonix: อยากให้เพื่อนๆโพสเข้ามาเยอะๆ อยากรู้ว่าอ่านแล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง เพราะนี้เป็นเรื่องแรกของข้าพเจ้าไม่มีประสบการณ์ในการแต่งficมาก่อน อยากจะให้เพื่อนๆช่วยโพสติชมเข้ามา จะด่าก็ได้ข้าพเจ้าจะได้เอาไปปรับปรุงแก้ไขficของข้าพเจ้าเองเจ้าค่ะ
“ดารี่เสน่ห์แรงจริงๆเนอะ ลอรี่” เสียงซาตานอารมณ์ดีถามขึ้นและคำตอบที่ได้ก็เป็นเหมือนเดิมทุกครั้ง
เฟี้ยว!ฉีก!
“ท่าทางนายจะอยากตายมากใช่มั้ย ลูคัส!” เสียงหงุดหงิดปนข่มขู่ของหลวงพี่นักบวชแห่งป้อมอัศวินที่ไม่ได้ทำให้ซาตานขี้เล่นกลัวเลยแม้แต่น้อย
“นั้นสิ! ตั้งแต่ดาเรียกลับมาห้องอาหารของเราก็ทำกำไรได้ดีเกินคาด ปีนี้งบประมาณของป้อมอัศวินคงหลุดจากอาถรรพ์ตัวแดงได้แน่ๆ” เสียงสนับสนุนคำพูดของซาตานแห่งป้อมอัศวินของเจ้าชายโรเวน ฮาเวิร์ดเสนาธิการคนสำคัญเอ่ยขึ้น
“แหม! ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกโรเวน นายไม่เห็นเหรอว่าเกือบครึ่งหนึ่งของห้องอาหารดราก้อนก็คับคั่งไปด้วยเหล่านักเรียนหญิงที่ชื่นชมในตัวเสนาธิการผู้หล่อเหลาทั้งสองและสองผู้คุมกฎมากฝีมือ” ธิดาป้อมคนสวยแซวกลับ
“ฉันว่าที่หนุ่มๆมากันเยอะคงอยากจะมาทำความรู้จักกับดารี่แน่ๆเลยแต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาทำความรู้จักสักคนเลยเนอะ ลอรี่!”
เฟี้ยว!ฉึก! เป้ามีดขาประจำเอี้ยวตัวหลบด้วยหลบมีดบินอย่างเคยชิน
“ถ้าแกอยากตายไวนักฉันจะสงเคราะห์ให้”
“คงไม่มีใครหน้าไหนกล้าเข้าใกล้ดาเรียหรอก ก็ในเมื่อเธอมีบอดิการ์ดน้อยๆอยู่ทั้งคนใช่มั้ยจ๊ะ ไชน์” โซมาเนียผู้คุมกฎสาวถามหนุ่มน้อยหนึ่งเดียวในโต๊ะ หารู้ไม่ที่หนุ่มๆทั้งหลายไม่กล้าเข้ามาใกล้ธิดาป้อมคนสวยเลยแม้แต่คนเดียวเป็นเพราะทุกคนยังไม่อยากเป็นเหยื่อของเหล่าผู้คุมกฎที่นั่งรายล้อมธิดาป้อม
“.....” 
ความเงียบและสายตาที่ดูเย็นชาแต่มีความอบอุ่นซ่อนอยู่ภายในเป็นคำตอบที่ทุกคนในโต๊ะรู้ดีว่าเจ้าตัวเป็นเด็กที่รักพี่สาวมากเพียงใด หนุ่มน้อยตัวเล็กท่าทางสุขุม ผู้มีผมสีดำรัตติกาล นัยน์ตาสีแดงเพลิงดูดุดัน เย็นชาและจะเย็นชามากขึ้นถ้ามีหนุ่มๆไม่พึ่งประสงค์เข้ามาใกล้ธิดาป้อมคนสวย
“ไม่ต้องทำหน้าดุขนาดนั้นก็ได้ ไชน์ ฉันรับรองจะว่าจะไม่มีผู้ชายคนไหนเข้าใกล้ดาเรียได้” โซมาเนียรับปากกับไชน์ แต่ไม่ทันจะได้รักษาสัญญาบุรุษที่ไม่พึ่งประสงค์ในสายตาไชน์ก็มาถึง
“สวัสดีครับ! ดาเรียขอนั่งด้วยจะได้มั้ยครับ” ทุกสายตาหันไปมองยังต้นเสียง จะมีบุรุษที่ไหนกล้าเข้ามาในกลุ่มของเหล่าผู้มีอำนาจในป้อมอัศวินถ้าไม่ใช่ อาเธอร์ เลโอนาท บริสตั้น บุคคลที่ไม่น่าพึ่งประสงค์ที่สุดในสายตาของไชน์ และหนุ่มๆทุกคนในโต๊ะ จริงๆแล้วเจ้าชายอาเธอร์ต้องจบการศึกษาไปตั้งแต่ปีที่แล้วถ้าไม่เป็นเพราะถูกเรียกกลับไปปฏิบัติภารกิจภายในราชวงศ์ทำให้ปีนี้เจ้าชายใจสิงห์ต้องกลับมาเรียนปี 7 ที่นี้อีกครั้ง
“เชิญค่ะ! ที่นี้เป็นที่สาธารณะไม่จำเป็นต้องขออนุญาตหรอกค่ะ” ธิดาคนสวยพูดเชิญพร้อมรอยยิ้มหวานที่ทำให้เจ้าชายใจสิงห์ถึงกับใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
“ท่านอาเธอร์ลมอะไรหอบท่านให้มานั่งทานอาหารที่ห้องอาหารดราก้อนได้หรือรสชาติอาหารของห้องอาหารปราสาทขุนนางแย่ ท่านจึงต้องมาทานที่นี้” เจ้าชายโรเวนถามพร้อมรอยยิ้มเย็นๆ เรียกความสนใจเจ้าชายใจสิงห์ให้ระจากดวงหน้าสวยหวานของธิดาป้อม
“ก็แค่อยากลองเปลี่ยนบรรยากาศทั้งทิวทัศน์และรสชาติอาหารดู ท่านคงจะไม่ว่ากระไรใช่มั้ยเจ้าชายโรเวน” เจ้าชายใจสิงห์ตอบพร้อมกับยิ้มเหยียดเป็นเชิงท้าทาย
“ในเมื่อท่านอาเธอร์หัวหน้าปราสาทขุนนางให้เกียรติเปลี่ยนบรรยากาศมายังห้องอาหารดราก้อน มีหรือพวกเราจะไม่ต้อนรับ” คำตอบพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตรแต่ดูเยือกเย็นของเจ้าชายโรเวน ที่ทำให้บรรยากาศรอบๆโต๊ะเย็นตามไปด้วย
เจ้าชายแห่งซาเลสชะงักกับรอยยิ้มเยือกเย็นและบรรยากาศที่เย็นยะเยือก ความคิดแล่นเข้ามาในห้วงคิดพร้อมกับการสังเกตอากัปกิริยาของคนตรงหน้า อะไรที่ทำให้เจ้าชายคนสำคัญแห่งเจมิไนถึงกับเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ได้หรือว่าจะเป็นเพราะธิดาป้อมแล้ววิเวียนนนานีย่าล่ะ
“แล้วรสชาติอาหารของที่นี้ถูกใจท่านอาเธอร์หรือเปล่าค่ะ?” เสียงใสของธิดาป้อมถามขัดจังหวะสงครามเย็น และดึงเจ้าชายใจสิงห์ให้หลุดจากห้วงความคิด
“รสชาติอาหารของที่นี้ก็ไม่เลวนัก แต่ที่ถูกใจเรามากเป็นพิเศษเห็นจะเป็นการได้นั่งทานอาหารร่วมกับธิดาคนงามแห่งเอดินเบิร์ก” คำพูดจีบสาวของเจ้าชายใจสิงห์เรียกสายตาดุจากเหล่าผู้คุมกฎและหนุ่มน้อยนัยน์ตาสีเพลิงให้ลุกโชติช่วง
“แหม! ท่านอาเธอร์นี้ละก็”ท่าทางเขิลอายของธิดาป้อมทำเอาเหล่าผู้คุมกฎทั้งหลายรวมทั้งไชน์มองอย่างตกตะลึงว่าสาวน้อยตรงหน้าหลงคารมหนุ่มไปซะแล้ว
แต่ทุกคนต้องคิดใหม่เมื่อธิดาคนสวยที่ใครๆเห็นว่าอ่อนหวานได้แผลงฤทธิ์
“ฉันเพิ่งจะรู้เดี๋ยวนี้เองว่าท่านอาเธอร์สามารถเรียกงูออกมาได้เหมือนกับลูคัส แต่ของท่านดูจะตัวใหญ่กว่าและคงจะหนักมากเมื่ออยู่บนหัวแบบนี้” คำพูดตอกกลับที่ทำเอาคนฟังอึ้งไปตามๆกันโดยเฉพาะเจ้าชายอาเธอร์ เลโอนาทถึงกับหน้าขึ้นสีแดงเรื่อเพราะตั้งแต่จีบสาวมาไม่มีสาวคนใดกล้าปฏิเสธและทำให้เค้าเสียหน้าได้ถึงเพียงนี้
เธอแน่มาก ดาเรีย  เดอร์ลาวินนี่ ฉันจะทำให้เธอเป็นผู้หญิงของฉันให้ได้ คำสาบานที่อาเธอร์ประกาศลั่นกับตัวเองในห้วงคิดก่อนที่จะลุกออกจากโต๊ะ
“ท่านอาเธอร์อิ่มแล้วเหรอค่ะ? ยังไม่ได้ทานสักคำเลย” เสียงใสยังคงตามรังควานอาเธอร์
“ผมนึกขึ้นได้ว่ามีนัดประชุมก่อนเข้าเรียนต้องขอตัว” ว่าเสร็จเจ้าตัวก็ลุกออกไปโดยไม่หันกลับมามอง
เสียงหัวเราะในลำคอของทุกคนบนโต๊ะดังขึ้นหลังจากที่หัวหน้าปราสาทขุนนางคนสำคัญลุกออกไปก่อนที่จะหัวเราะดังขึ้นเรื่อยๆอย่างสะใจแม้แต่นักบวชหน้าบูดและเด็กน้อยท่าทางสุขุมยังหัวเราะออกมาเต็มที่
รู้จักซาตานสาวแห่งป้อมอัศวินน้อยไปเสียแล้วอาเธอร์ เลโอนาท บริสตั้น
#######################################
Tonix: อยากให้เพื่อนๆโพสเข้ามาเยอะๆ อยากรู้ว่าอ่านแล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง เพราะนี้เป็นเรื่องแรกของข้าพเจ้าไม่มีประสบการณ์ในการแต่งficมาก่อน อยากจะให้เพื่อนๆช่วยโพสติชมเข้ามา จะด่าก็ได้ข้าพเจ้าจะได้เอาไปปรับปรุงแก้ไขficของข้าพเจ้าเองเจ้าค่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น