ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ........(คิดชื่อตอนไม่ออกอ่ะ>๐
สายลมเย็นยามราตรีพัดผ่านม่านสีลาเวนเดอร์ปลิวไสว เปิดทางให้แสงจันทร์สาดส่องเข้ามายังภายในห้องหัวหน้าป้อมชั้นปี 3 ที่ตอนนี้มีเพียงหัวขโมยและนักฆ่านั่งคุยกันอย่างสนุกสนานโดยปราศจากเจ้าชายน้ำแข็ง
\"แกลองคิดดูว่าพี่ดาเรียจับคาโลมันแช่แข๊งได้เจ๋งจริงปรกติมีแต่คาโลจะจับคนอื่นแช่แข๊ง\" เสียงของหัวขโมยที่ยินดีและชื่นชมในฝีมือของธิดาป้อมคนสวยที่สามารถต่อกรกับคาโลได้
\"เป็นทั้งเป้าซ้อมธนูและดาบ ไหนจะยังเป็นหนูทดลองยาอีก ไอ้คาโลมันก็ยอมทำทุกอย่างไม่อยากจะเชื่อ\" นักฆ่าที่เห็นด้วยกับเพื่อนหัวขโมยตัวดี
\"ลองนึกภาพคาโลมันเป็นเด็กแล้วโดนพี่ดาเรียแกล้งสารพัด ไม่รู้ว่ามันจะทำหน้าขรึมเหมือนตอนนี้หรือเปล่า\" คิลพยักหน้าเห็นด้วยก่อนที่ทั้งคู่จะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
ปัง!
ไอเย็นที่แผ่ขยายออกมาจากร่างที่เพิ่งจะก้าวเข้ามาในห้องบ่งบอกว่าอารมย์บ่จอยสุดๆทำเอาทั้งเฟรินและคิลเสียวสันหลังวาบ งานนี้ท่าทางจะกลายเป็นประติมากรรมประดับห้องเป็นแน่
\"แกว่ามันจะได้ยินที่พวกเราคุยกันมั้ยว่ะ คิล!\" ไม่ทันทีคิลจะได้ตอบ บรรยากาศภายในห้องกลับยิ่งลดอุณหภูมิลงด้วยความรวดเร็ว
\"มันได้ยินแน่นอน\" คำตอบจากคิล ฟิลมัส ทำเอาเฟรินถึงกับน้ำลายหนืดคอขึ้นมาทันที ท่าทางว่าทั้งเค้าและคิลต้องโดนมันจับแช่แข๊งชัวร์
\"นายคุยกับคาโลล่ะกัน ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีธุระต้องไปคุยกับโรมัน คุยเสร็จก็ไปตามฉันที่ห้องไอ้โรล่ะกันนะ\"ว่าจบร่างของนักฆ่าก็อัตรธานหายไปจากห้องด้วยความรวดเร็ว ทิ้งไว้ให้หัวขโมยรับมือกับสถานการณ์ตรงหน้าเพียงลำพัง
คุยกะโรโกหกมาได้คำโตนะไอ้นักฆ่าปัญญาอ่อนกลับมาแก....ตายแน่ คิล ฟิลมัส
ประโยคคาดโทษผุดขึ้นมาในห้วงคิดของเฟริน แต่เรื่องนี้ยังเป็นเรื่องเล็กเมื่อเทียบกับบรรยากาศภายในห้องที่ยังไม่มีทีท่าว่าอุณหภูมิจะหยุดลดจนเธอรู้สึกน้ำลายเหนียวคอ และที่แย่ที่สุดเห็นจะเป็นเครื่องผลิตน้ำแข็งที่กำลังทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ แผ่ไอเย็นลดอุณหภูมิภายในห้องลงฮวบฮาบ ชวนเสียวสันหลังไม่น้อย
เอาว่ะ!ผิดก็ต้องขอโทษ
\"คาโล\" เสียงเรียกที่ไม่ได้รับการตอบสนองใดๆจากเจ้าของชื่อ นอกจากไอเย็นที่หนาวจับใจ
มันโกรธจัด สงสัยต้องใช้ลูกอ้อนเพิ่มอุณหภูมิห้อง ว่าแล้วแหวนลงอาคมก็ถูกถอดออกจากนิ้ว กลายร่างหนุ่มน้อยหัวขโมยให้เป็นสาวน้อย ร่างอรชร ดวงตาสีน้ำตาลคู่โต ผมสีน้ำตาลที่เคยยาวประบ่ากลับยาวสยายรับกับใบหน้ารูปไข่
\"คาโล!นายโกรธฉันเหรอ?\" เสียงหวานอ้อนจากเจ้าหญิงสองดินแดนเรียกนัยน์ตาสีฟ้าคู่สวยให้หันมาสบนัยน์ตาของเธอ
\"คาโล!นายไม่บอกฉันจะรู้มั้ยว่านายเป็นอะไร\" เจ้าหญิงหัวขโมยยังคงใช้ลูกอ้อนต่อไปอย่างไม่ลดละหวังว่าจะหลอมน้ำแข๊งให้ละลาย
\"เรื่องสมัยเด็กของฉันไม่ใช่เรื่องตลกที่พวกนายจะเอามาพูดล้อเล่นได้ มันถือว่าเป็นการหยามศักศรีดิ์\" คำพูดเย็นชาเฉียบขาดของเจ้าชายเมืองนักรบทำให้เฟรินถึงกับสะอึ้ก
\"ก็ใครมันจะไปรู้ว่าเรื่องของนายห้ามเอามาพูดล้อเล่น ถ้าพูดไม่ได้ก็น่าจะบอกกันก่อน\" เจ้าหญิงหัวขโมยยังเถียงคอเป็นเอ็น
ตั้งใจจะขอโทษมันแล้วทำไมยังจะไปต่อปากต่อคำกับมันอีกคำพูดในห้วงคิดที่ตรงกันข้ามกับสีหน้าของเจ้าหญิงหัวขโมยที่ตอนนี้สีหน้าเย็นชาไม่แพ้เจ้าชายเมืองนักรบ
\"ตอนนี้รู้แล้วก็ควรหยุดพูด\" คำสั่งจากคนถนัดสั่งของเจ้าชายคาโล
ใจเย็นๆไว้เฟริน! มันบ้าศักศรีดิ์มาแต่ไหนแต่ไร ขอโทษมันซะเรื่องจะได้จบๆ  เฟรินพยายามอดทนไม่ให้เส้นอารมณ์ของตัวเองขาดจนเสียเรื่อง
\"คาโล ฉันผิดไปแล้วยกโทษให้ฉันนะ\" พยายามอ้อนมันเข้าไว้
\".....\"
\"ฉันถือว่าความเงียบเป็นคำตอบว่านายให้อภัย\" แต่ก่อนที่ร่างบางจะเดินออกจากห้องไปเพื่อไปตามเพื่อนนักฆ่าปัญญาอ่อน มือแกร่งก็คว้าข้อมือบางแล้วรั้งเข้าหาตัว ก่อนที่ร่างบางจะทันตั้งตัวมารู้สึกตัวอีกที ใบหน้าของทั้งสองก็ห่างกันไม่กี่นิ้วจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจของกันและกัน ร่างบางพยายามดิ้น แต่แรงสาวรึจะสู้ชายหนุ่มได้
\"ฉันยังไม่ได้บอกเลยว่าให้อภัย\" ใบหน้าราวสลักยังคงเรียบเฉยพอๆกับน้ำเสียง หากประกายแวววาวในดวงตาสีฟ้าคู่สวยคู่นั้นและรอยยิ้มมีเลศนัย สังหรณ์ของเพศหญิงกำลังเตือนให้เฟรินรู้ว่ากำลังต้องเจอเรื่องให้เปลืองตัวในเร็วๆนี้
\"ก็นายไม่ตอบฉันก็ถือซะว่านายให้อภัย\" เฟรินตอบพร้อมกับหยิบหน้ากากฟาโรห์ขึ้นมาสวมซ่อนใบหน้าที่เริ่มขึ้นสี
\"ฉันยังไม่ได้ลงโทษคนทำผิดเลย\" ใบหน้าราวสลักโน้มลงมาช้าๆประกบริมฝีปากสีกุหลาบ ดวงตาสีน้ำตาลปรือลงเมื่อสัมผัสถึงรสจูบแสนหวานละมุนปานน้ำผึ้งที่บุรุษที่เค้าประนามว่าเป็นนักรักชั้นอนุบาลเบื้องหน้ามอบให้ ต่างฝ่ายต่างควาญหาความหวานซึ่งกันและกัน หลังจากร่างสูงถอนริมฝีปากออกไป ใบหน้าหวานก็แดงซ่าน
น่ารักจริงๆ ร่างสูงกระตุกยิ้มอย่างมีเลศนัย
#######################################
Tonix: อ่านแล้วถูกใจไม่ถูกใจช่วยโพสด้วยนะเจ้าค่ะ  ตอนที่ 3 ไม่มีเจ๊ดาเรียโผล่มาไม่ต้องเป็นห่วงเดี๋ยวเจ๊แกก็กลับมาแน่นอน เจ๊แกตายยาก
ดาเรีย : นินทาอะไรย่ะเดี๋ยวแม่ก็จับแช่แข็งซะเลยนิ  เรื่องนี้เป็นเรื่องของฉันนะย่ะตอนหน้าเอาฉันออกมาอวดโฉมได้แล้ว ให้แต่คู่พระนางขโมยซีนอยู่ได้
Tonix: สวยแต่ขี้บ่น คุณผู้อ่านอย่าหลงเชื่อภาพลักษณ์ภายนอกของเจ๊แกง่ายๆนะเจ้าค่ะ
ดาเรีย : นินทาอะไรอีก ถ้ามีเวลาว่างมานินทาคนอื่น เอาเวลาไปอัพฟิคต่อสิย่ะ  ตอนหน้าเจอกันแน่นอนค่ะจะคว้าตัวไชน์มาให้ท่านผู้อ่านได้ยลโฉมกัน(ถ้าคว้ามาได้นะรายนั้นขี้อายชอบเก็บตัว)  มีความสุขกับการอ่านฟิคของดาเรียนะค่ะ อยากให้เพิ่มเติมหรืออยากแนะนำอะไรก็โพสมาบอกกันได้ค่ะ
ปล.ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะเจ้าค่ะ อยากให้โพสติชมหลังจากที่อ่านไปแล้วข้าพเจ้าจะได้เอามาเป็นแนวทางในการแต่งฟิคและเป็นกำลังใจเจ้าค่ะ 
\"แกลองคิดดูว่าพี่ดาเรียจับคาโลมันแช่แข๊งได้เจ๋งจริงปรกติมีแต่คาโลจะจับคนอื่นแช่แข๊ง\" เสียงของหัวขโมยที่ยินดีและชื่นชมในฝีมือของธิดาป้อมคนสวยที่สามารถต่อกรกับคาโลได้
\"เป็นทั้งเป้าซ้อมธนูและดาบ ไหนจะยังเป็นหนูทดลองยาอีก ไอ้คาโลมันก็ยอมทำทุกอย่างไม่อยากจะเชื่อ\" นักฆ่าที่เห็นด้วยกับเพื่อนหัวขโมยตัวดี
\"ลองนึกภาพคาโลมันเป็นเด็กแล้วโดนพี่ดาเรียแกล้งสารพัด ไม่รู้ว่ามันจะทำหน้าขรึมเหมือนตอนนี้หรือเปล่า\" คิลพยักหน้าเห็นด้วยก่อนที่ทั้งคู่จะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
ปัง!
ไอเย็นที่แผ่ขยายออกมาจากร่างที่เพิ่งจะก้าวเข้ามาในห้องบ่งบอกว่าอารมย์บ่จอยสุดๆทำเอาทั้งเฟรินและคิลเสียวสันหลังวาบ งานนี้ท่าทางจะกลายเป็นประติมากรรมประดับห้องเป็นแน่
\"แกว่ามันจะได้ยินที่พวกเราคุยกันมั้ยว่ะ คิล!\" ไม่ทันทีคิลจะได้ตอบ บรรยากาศภายในห้องกลับยิ่งลดอุณหภูมิลงด้วยความรวดเร็ว
\"มันได้ยินแน่นอน\" คำตอบจากคิล ฟิลมัส ทำเอาเฟรินถึงกับน้ำลายหนืดคอขึ้นมาทันที ท่าทางว่าทั้งเค้าและคิลต้องโดนมันจับแช่แข๊งชัวร์
\"นายคุยกับคาโลล่ะกัน ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีธุระต้องไปคุยกับโรมัน คุยเสร็จก็ไปตามฉันที่ห้องไอ้โรล่ะกันนะ\"ว่าจบร่างของนักฆ่าก็อัตรธานหายไปจากห้องด้วยความรวดเร็ว ทิ้งไว้ให้หัวขโมยรับมือกับสถานการณ์ตรงหน้าเพียงลำพัง
คุยกะโรโกหกมาได้คำโตนะไอ้นักฆ่าปัญญาอ่อนกลับมาแก....ตายแน่ คิล ฟิลมัส
ประโยคคาดโทษผุดขึ้นมาในห้วงคิดของเฟริน แต่เรื่องนี้ยังเป็นเรื่องเล็กเมื่อเทียบกับบรรยากาศภายในห้องที่ยังไม่มีทีท่าว่าอุณหภูมิจะหยุดลดจนเธอรู้สึกน้ำลายเหนียวคอ และที่แย่ที่สุดเห็นจะเป็นเครื่องผลิตน้ำแข็งที่กำลังทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ แผ่ไอเย็นลดอุณหภูมิภายในห้องลงฮวบฮาบ ชวนเสียวสันหลังไม่น้อย
เอาว่ะ!ผิดก็ต้องขอโทษ
\"คาโล\" เสียงเรียกที่ไม่ได้รับการตอบสนองใดๆจากเจ้าของชื่อ นอกจากไอเย็นที่หนาวจับใจ
มันโกรธจัด สงสัยต้องใช้ลูกอ้อนเพิ่มอุณหภูมิห้อง ว่าแล้วแหวนลงอาคมก็ถูกถอดออกจากนิ้ว กลายร่างหนุ่มน้อยหัวขโมยให้เป็นสาวน้อย ร่างอรชร ดวงตาสีน้ำตาลคู่โต ผมสีน้ำตาลที่เคยยาวประบ่ากลับยาวสยายรับกับใบหน้ารูปไข่
\"คาโล!นายโกรธฉันเหรอ?\" เสียงหวานอ้อนจากเจ้าหญิงสองดินแดนเรียกนัยน์ตาสีฟ้าคู่สวยให้หันมาสบนัยน์ตาของเธอ
\"คาโล!นายไม่บอกฉันจะรู้มั้ยว่านายเป็นอะไร\" เจ้าหญิงหัวขโมยยังคงใช้ลูกอ้อนต่อไปอย่างไม่ลดละหวังว่าจะหลอมน้ำแข๊งให้ละลาย
\"เรื่องสมัยเด็กของฉันไม่ใช่เรื่องตลกที่พวกนายจะเอามาพูดล้อเล่นได้ มันถือว่าเป็นการหยามศักศรีดิ์\" คำพูดเย็นชาเฉียบขาดของเจ้าชายเมืองนักรบทำให้เฟรินถึงกับสะอึ้ก
\"ก็ใครมันจะไปรู้ว่าเรื่องของนายห้ามเอามาพูดล้อเล่น ถ้าพูดไม่ได้ก็น่าจะบอกกันก่อน\" เจ้าหญิงหัวขโมยยังเถียงคอเป็นเอ็น
ตั้งใจจะขอโทษมันแล้วทำไมยังจะไปต่อปากต่อคำกับมันอีกคำพูดในห้วงคิดที่ตรงกันข้ามกับสีหน้าของเจ้าหญิงหัวขโมยที่ตอนนี้สีหน้าเย็นชาไม่แพ้เจ้าชายเมืองนักรบ
\"ตอนนี้รู้แล้วก็ควรหยุดพูด\" คำสั่งจากคนถนัดสั่งของเจ้าชายคาโล
ใจเย็นๆไว้เฟริน! มันบ้าศักศรีดิ์มาแต่ไหนแต่ไร ขอโทษมันซะเรื่องจะได้จบๆ  เฟรินพยายามอดทนไม่ให้เส้นอารมณ์ของตัวเองขาดจนเสียเรื่อง
\"คาโล ฉันผิดไปแล้วยกโทษให้ฉันนะ\" พยายามอ้อนมันเข้าไว้
\".....\"
\"ฉันถือว่าความเงียบเป็นคำตอบว่านายให้อภัย\" แต่ก่อนที่ร่างบางจะเดินออกจากห้องไปเพื่อไปตามเพื่อนนักฆ่าปัญญาอ่อน มือแกร่งก็คว้าข้อมือบางแล้วรั้งเข้าหาตัว ก่อนที่ร่างบางจะทันตั้งตัวมารู้สึกตัวอีกที ใบหน้าของทั้งสองก็ห่างกันไม่กี่นิ้วจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจของกันและกัน ร่างบางพยายามดิ้น แต่แรงสาวรึจะสู้ชายหนุ่มได้
\"ฉันยังไม่ได้บอกเลยว่าให้อภัย\" ใบหน้าราวสลักยังคงเรียบเฉยพอๆกับน้ำเสียง หากประกายแวววาวในดวงตาสีฟ้าคู่สวยคู่นั้นและรอยยิ้มมีเลศนัย สังหรณ์ของเพศหญิงกำลังเตือนให้เฟรินรู้ว่ากำลังต้องเจอเรื่องให้เปลืองตัวในเร็วๆนี้
\"ก็นายไม่ตอบฉันก็ถือซะว่านายให้อภัย\" เฟรินตอบพร้อมกับหยิบหน้ากากฟาโรห์ขึ้นมาสวมซ่อนใบหน้าที่เริ่มขึ้นสี
\"ฉันยังไม่ได้ลงโทษคนทำผิดเลย\" ใบหน้าราวสลักโน้มลงมาช้าๆประกบริมฝีปากสีกุหลาบ ดวงตาสีน้ำตาลปรือลงเมื่อสัมผัสถึงรสจูบแสนหวานละมุนปานน้ำผึ้งที่บุรุษที่เค้าประนามว่าเป็นนักรักชั้นอนุบาลเบื้องหน้ามอบให้ ต่างฝ่ายต่างควาญหาความหวานซึ่งกันและกัน หลังจากร่างสูงถอนริมฝีปากออกไป ใบหน้าหวานก็แดงซ่าน
น่ารักจริงๆ ร่างสูงกระตุกยิ้มอย่างมีเลศนัย
#######################################
Tonix: อ่านแล้วถูกใจไม่ถูกใจช่วยโพสด้วยนะเจ้าค่ะ  ตอนที่ 3 ไม่มีเจ๊ดาเรียโผล่มาไม่ต้องเป็นห่วงเดี๋ยวเจ๊แกก็กลับมาแน่นอน เจ๊แกตายยาก
ดาเรีย : นินทาอะไรย่ะเดี๋ยวแม่ก็จับแช่แข็งซะเลยนิ  เรื่องนี้เป็นเรื่องของฉันนะย่ะตอนหน้าเอาฉันออกมาอวดโฉมได้แล้ว ให้แต่คู่พระนางขโมยซีนอยู่ได้
Tonix: สวยแต่ขี้บ่น คุณผู้อ่านอย่าหลงเชื่อภาพลักษณ์ภายนอกของเจ๊แกง่ายๆนะเจ้าค่ะ
ดาเรีย : นินทาอะไรอีก ถ้ามีเวลาว่างมานินทาคนอื่น เอาเวลาไปอัพฟิคต่อสิย่ะ  ตอนหน้าเจอกันแน่นอนค่ะจะคว้าตัวไชน์มาให้ท่านผู้อ่านได้ยลโฉมกัน(ถ้าคว้ามาได้นะรายนั้นขี้อายชอบเก็บตัว)  มีความสุขกับการอ่านฟิคของดาเรียนะค่ะ อยากให้เพิ่มเติมหรืออยากแนะนำอะไรก็โพสมาบอกกันได้ค่ะ
ปล.ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะเจ้าค่ะ อยากให้โพสติชมหลังจากที่อ่านไปแล้วข้าพเจ้าจะได้เอามาเป็นแนวทางในการแต่งฟิคและเป็นกำลังใจเจ้าค่ะ 
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น