ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : อดีตที่ถูกเปิดเผย
สวัสดีเจ้าค่ะ!ท่านผู้อ่านทุกท่าน มาอัพต่อแล้วเจ้าค่ะ อ่านแล้วช่วยติชมแนะนำหน่อยนะเจ้าค่ะ ข้าพเจ้าจะเอาไปปรับปรุงFicของข้าพเจ้าให้ดียิ่งๆขึ้นไปนะเจ้าค่ะ
#######################################
ภายในห้องนั่งเล่นของเหล่านักเรียนป้อมอัศวินชั้นปีสามที่ตอนนี้จับกลุ่มคุยกันเรื่องธิดาคนงามของป้อมอัศวิน
"พี่ดาเรียสวยสมกับที่เป็นธิดาแห่งเอดินเบิร์กจริงๆ ถ้าไม่เห็นกับตาคงคิดว่าเรนอนสวยที่สุดในป้อมอัศวิน จริงมั้ยว่ะคิล" หัวขโมยตัวดีหันไปถามความคิดเห็นของเพื่อนนักฆ่า
"ฉันไม่เถียงว่าพี่ดาเรียไม่สวย แต่เรนอนเค้าก็สวยในแบบของเค้า" คิลตอบ
"ก็แน่สิ!แกมองแต่เรนอนคนเดียวนิ คนอื่นที่แกมองคงเป็นแค่ตัวประกอบ" คำพูดของเฟรินทำเอาคนฟังถึงกับหน้าขึ้นสีแดงเรื่อ
"แกก็มั่วแต่อายไปได้คิล ถ้าแกชอบเรนอนก็บอกเค้าไปเลย หรือถ้าแกไม่รู้ว่าจะทำยังไง ฉันเป็นคนสอนแกได้นะโว้ย" คิลมองหน้าหัวขโมยผู้อ้างตัวจะเป็นอาจารย์ สงสารคาโลมันจริงๆไม่รู้ไปตกหลุมรักเจ้าหญิงที่ไม่เหมือนเจ้าหญิงได้ยังไงกัน
"ไม่ล่ะ ขอบใจ!แต่ฉันว่าแกเก็บวิชาของแกไปใช้กะไอ้คาโลมันก็แล้วกัน"
คำพูดของคิลทำเอาเจ้าคนที่เป็นเจ้าหญิงที่ไม่เหมือนเจ้าหญิงถึงจับชะงังหน้าขึ้นสี ก่อนที่จะแยกเขี้ยวใส่
"แต่ผมว่าพี่ดาเรียไม่ได้มีแค่ความสวยอย่างเดียวนะครับ ดูเวทย์ที่เธอใช้ตอนแนะนำตัวสิครับ เปลี่ยนจากผู้ชายมาเป็นผู้หญิงได้ท่าทางว่าจะเป็นเวทย์ชั้นสูงนะครับ" คำพูดของซีบิล เด็กหนุ่มที่สุภาพที่สุดในชั้นปีเรียกความสนใจจากทุกคนๆในกลุ่มได้เป็นอย่างดี
"นั้นสิ ฉันยังไม่เคยเห็นเวทย์อย่างนี้มาก่อนเลย" ครี้ด ธันเดอร์เห็นด้วยกับคำพูดของซีบิลพร้อมกับทุกคนในกลุ่มที่พยักหน้าเห็นด้วย แต่แล้วทุกสายตาก็เหลือบไปมองห้องสมุดเคลื่อนที่ประจำชั้นปี ที่ตอนนี้นั่งจิบน้ำชาอย่างสบายอารมณ์ โรได้แต่ยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นสายตาทุกคู่จับจ้องมายังเค้าเพื่อขอคำตอบ
"เวทย์รวมร่าง เป็นเวทย์ชั้นสูงที่รวมเอาร่างของผู้ใช้เวทย์และมังกรให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน" โรอธิบายพลางยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบ ซึ่งนิสัยของโรอันนี้เป็นที่รำคาญแก่เพื่อนทุกคน นี้มันจะอธิบายโดยไม่มียึกยักๆยั่วความอยากรู้ไม่เป็นหรือไง
นัยน์ตาสีเขียวมีประกายเจ้าเล่ห์อย่างรู้ทันความคิดหงุดหงิด แต่เจ้าของดวงตาทั้งหลายกลับต้องฝืนยิ้มประจบเอาใจเพราะอยากได้ข่าวสาร
"เวทย์รวมร่างสามารถทำให้ผู้ใช้เวทย์สามรถใช้พลังของมังกรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น"
"แต่ที่พวกเราเห็นนั้นเป็นเด็กผู้ชายนะครับไม่ใช่มังกร" ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยกับคำถามของซีบิล
"ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกันเท่าที่รู้มาก็รู้แค่ว่ารวมร่างกับมังกร แต่ที่แน่ๆเด็กที่ชื่อไชน์นั้นต้องไม่ใช่เด็กธรรมดาๆแน่นอน" คำพูดทิ้งปริศนาไว้ของโรยิ่งทำให้ต่อมอยากรู้ของเฟรินเพิ่มมากขึ้น มันต้องรู้อะไรแน่ๆไอ้ขอทานกำมะลอแต่ไม่ยอมบอก
"แต่ถ้าพวกนายอยากรู้กันมากทำไมไม่ไปถามพี่ดาเรียเองเลยล่ะหรือไม่พวกนายก็ถามนักเวทย์อันดับหนึ่งของชั้นปีสิ"
ทุกคนหันไปมองเจ้าชายน้ำแข็งแล้วก็หันกลับมาบอกเฟรินเป็นสายตาเดียวกัน เป็นเชิงว่าแกไปถามสิ ไอ้คาโลมันคงบอกแน่ๆถ้าแกถามมัน ทำเอาเจ้าหัวขโมยตัวดีได้แต่ยิ้มฝืดๆแต่ก็ต้องจำใจถาม
"เฮ้!คาโล นายก็มีเชื้อสายนักเวทย์ของสโนว์แลนด์เหมือนพี่ดาเรีย พอจะรู้อะไรเกี่ยวกับเวทย์รวมร่างบ้างมั้ย" แต่แทนที่จะได้คำตอบจากคาโล กลับกลายเป็นความเงียบมาจากคนถูกถาม
มันเหม่อ!
"เฮ้ย!คาโล ฉันถามไม่ได้ยินเหรอ" เสียงตะโกนถามอีกครั้งของเฟรินทำเอาเจ้าชายมาดมากถึงกับสะดุ้ง
"นายเป็นอะไรของนาย ตั้งแต่กลับมาจากประชุมนายก็เอาแต่เงียบไม่พูดอะไรเลย(ซึ่งปรกติก็พูดน้อยอยู่แล้ว)"
"เปล่า" คำตอบสั้นๆได้ใจความตามสไตล์เจ้าชายมาดมาก ทำเอาเฟรินถึงกับหงุดหงิด ถ้ามันจะพูดมากกว่านี้มันจะตายหรือไง
"ฉันจะกลับห้องนอน" สิ้นเสียงเจ้าชายก็ลุกจากเก้าอี้เดินจากไป ทำเอาทุกคนได้แต่มองหน้าอย่างงงๆ
"แกว่ามันเป็นอะไรไปว่ะคิล"
"ฉันว่ามันก็เป็นปรกติของมันนะ ถ้ามันเกิดร่าเริงเหมือนนายสิแปลก"
เมื่อเข้ามายังห้องนอนทั้ง 2 คนยังเห็นเจ้าชายนั้งเหม่อลอย โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าพวกเค้าเข้าห้องมาแล้ว
"หรือว่ามันจะมีปัญหาอย่างที่แกว่าไว้ว่ะเฟริน" คบกันมานานไม่เคยเห็นมันนั่งเหม่อได้ขนาดนี้ ปรกติมันออกจะเป็นพวกมีประสาทสัมผัสไว
"นายไปถามไอ้คาโลมันหน่อยสิคิล ว่ามันเป็นอะไรหรือเปล่า" หัวขโมยตัวดีรีบยัดตำแหน่งหน่วยกล้าตายให้นักฆ่าอย่างไม่ลังเล
"คาโล!เป็นอะไรรึเปล่า?" ไม่มีคำตอบใดๆหลุดออกมาจากปากเจ้าชาย
"เฮ้ย!คาโล ไอ้คิลถามแกไม่ได้ยินเหรอไง" เสียงตวาดของเฟรินเรียกสติกลับคืนมายังเจ้าชาย
"ฉันไม่ได้เป็นอะไร จะนอน" คำตอบห้วนๆจากเจ้าชายน้ำแข๊ง ทำเอาเส้นอารมณ์ของเฟรินขาดผึ่ง
"เออ!แกจะเป็นอะไรก็เรื่องของแกไอ้ก้อนน้ำแข๊งงี่เง่า" เฟรินตะโกนเสร็จก็หันมาล้มตัวลงนอน หงุดหงิดโว้ย คนเรารึอุตส่าห์เป็นห่วงแต่ดูมันทำ
คิล ฟิลมัสที่ดูเหตุการณ์มาโดยตลอดได้แต่เกาหัวแกรกๆ ก่อนที่จะถอนหายใจแล้วล้มตัวลงนอน ผัวเมียทะเลาะกันอย่าลงไปยุ่ง
#######################################
"เฟริน!ฉันว่าคาโลมันอาการแย่แล้วนะ ตั้งแต่เช้ามานี้มันก็เอาแต่นั่งเหม่อไม่พูดไม่จาอะไรกับใครเลยนะ" คิลว่าพลางก็เหลือบมองเจ้าชายแห่งคาโนวาลที่ตอนนี้เอาแต่นั่งจิ้มอาหารในจานอย่างกับคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อตัว
"เอื่อง อ๋อง อัน" หัวขโมยที่ไม่มีที่ท่าว่าจะสนใจอะไรนอกจาก เขมือบอาหารตรงหน้า
"ไม่ต้องรีบร้อนขนาดนั้นหรอก เฟรี่" เสียงและวิธีการเรียกชื่อแบบเฉพาะตัว ทำเอาเฟรินต้องหยุดการกิน(เขมือบ)เอาไว้ชั่วคราวเพื่อมองคนตรงหน้า
"พวกฉันนั่งด้วยจะได้มั้ย?" สองเสนาธิการซ้ายขวา สี่ผู้คุมกฏและธิดาป้อมคนสวย มาขอนั่งด้วยมีใครบ้างจะกล้าขัด
"เชิญฮะ" เฟรินเชิญทุกคนนั่ง
"คนนี้เหรอโซมาเนีย เฟริโอน่า เกรเดเวล เดอะปรินเซส ออฟ เดมอส!" เสียงใสๆของดาเรียที่ทำเอาเฟรินถึงกับเคลิ้มเมื่อได้ยิน
"ยินดีที่ได้รู้จักนะ เฟริโอน่า" เสียงและรอยยิ้มที่ทำให้เฟรินหลงใหล เสียอย่างเดียวไอ้ชื่อลิเกนั้นทำเอาเสียอารมณ์ไปได้โขเลย
"ยินดีที่ได้รู้จักครับ แต่ไม่ต้องเรียกผมว่าเฟริโอน่าหรอกครับ เรียกเฟรินเฉยๆดีกว่า"
"จ้ะ!เฟริน"
"ทางนี้ก็คงเป็นคิล ฟิลมัส นักฆ่าแห่งซาเรสสินะ น่ารักดีจัง" คำชมที่เรียกสีแดงเรื่อบนหน้านักฆ่าขี้อาย
"ยินดีที่ได้รู้จักครับ" เสียงพูดตะกุกตะกักฟังก็รู้ว่าเจ้าตัวเขิลมากแค่ไหนของนักฆ่าเรียกรอยยิ้มบนใบหน้าของคนทั้งโต๊ะได้
"ส่วนนั้นก็....คาโล วาเนบบลี เจ้าชายแห่งหอคอยงาช้าง ไม่พบกันนานนะ คาโล!" เสียงใสเรียกชื่อเจ้าชายมาดน้ำแข็งของธิดาป้อมคนสวย เรียกสายตาของเจ้าชายเจ้าของชื่อที่เฟรินเห็นแล้วสาบานได้ว่ามันเป็นสายตาตื่นเหมือนคนโดนจับได้ว่าทำความผิดก่อนที่คาโลจะปรับสายตาให้กลับมานิ่งและเย็นชาเหมือนดังเดิม
"ยังเงียบเหมือนเดิมเลยนะคาโล หรือว่าเธอยังโกรธฉันเรื่องเมื่อสมัยเด็กๆอยู่"
"อ้าว!รู้จักกันมาก่อนเหรอ? ดาเรีย" โซมาเนียถามด้วยความแปลกใจ
"อืม...เรารู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก ท่านป้าแม่ของคาโลเป็นลูกพี่ลูกน้องกับแม่ฉันเอง" ดาเรียตอบพร้อมรอยยิ้มที่เฟรินและคิลเห็นแล้วรู้สึกว่าเหมือนรอยยิ้มของซาตานผู้คุมกฏไม่มีผิดเพี้ยน(เจ้าเล่ห์)
"และคาโลก็เป็นลูกศิษย์ของฉันเอง เมื่อก่อนสั่งอะไรก็ทำตามทุกอย่างที่สั่ง"
ลูกศิษย์คนอย่างคาโล วาเนบบลีผู้มีมาดอย่างกับพญาสิงห์เป็นลูกศิษย์พี่ดาเรีย ไม่น่าเชื่อ!เฟรินคิด ในขณะที่ทุกคนก็คงคิดแบบเดียวกับเค้าเป็นแน่
"คาโล!จะแล้งน้ำใจไม่ทักทายฉันซักคำเลยเหรอ" ไม่มีเสียงตอบรับจากเจ้าชายที่ท่านเรียก แต่เป็นสายตาดุปรามมายังผู้ถาม
"ผมขอตัว" ว่าแล้วเจ้าชายก็ลุกออกไปด้วยความรวดเร็ว ทิ้งให้ทุกคนยกเว้นดาเรียยังงงเป็นไก่ตาแตกอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น
"ทำไมมันต้องทำหน้าโกรธขนาดนั้นว่ะ? คิล" แต่ก่อนที่คิลจะได้ตอบ
"คงจะเป็นเรื่องสมัยเด็กๆของพวกเรา" ดาเรียเอ่ยขึ้น "ถ้าจะให้เล่าจริงๆคงจะยาว เอาเป็นว่าเมื่อก่อนเวลาฉันเรียนเวทย์ วิชาดาบ วิชาปรุงยาอะไรมาก็จะมาสอนให้คาโลเสมอๆ แต่มันก็เป็นธรรมดาใช่มั้ยเวลาเราได้วิชามาใหม่ก็อยากลอง ฉันเลยให้คาโลเป็นหนูทดลองเสมอก่อนที่ฉันจะสอน ไม่ว่าจะเป็นตอนร่ายเวทย์ เพลงดาบ ปรุงยา ฉันก็ให้คาโลเป็นหนูทดลองตลอด"
รอยยิ้มผุดขึ้นมาบนหน้าสวยๆของธิดาขัดกับเสียงเล่าเรื่องที่ดูเหมือนจะสำนึกผิดกับการกระทำของตนในอดีต
"แต่ก็ไม่มีอะไรร้ายแรงนะ แค่...โดนฉันจับแช่แข็ง เป็นเป้าซ้อมธนูและดาบ กินยาที่ฉันปรุงแล้วกลายเป็นตัวอะไรแปลกๆหรือไม่ก็เป็นโรคประหลาดๆหน่ะ" เสียงหัวเราะน้อยๆของดาเรียทำเอาเฟรินถึงกับเสียวสันหลังวาบ ก่อนที่จะจมอยู่ในห้วงความคิด"คนๆนี้เหมือนพี่ลูคัส ซาตานในร่างสาวสวย สวยโหด"
#######################################
Tonix : จบตอนที่ 2 แล้วเย้ๆๆๆ
ดาเรีย : จบแล้วก็รีบๆแต่งตอนที่ 3 ต่อสิ คนอ่านจะได้ไม่ต้องรอนาน
Tonix : เดี๋ยวสิเจ๊ ช่วงนี้อาจารย์ยิ่งบ้าๆอยู่สั่งการบ้านมากะให้นักเรียนตายกันไปข้าง อุตส่าห์ปลีกตัวอกมาอัพตอนที่ 2 ได้ก็ดีแค่ไหนแล้ว
ดาเรีย : งั้นก็รีบๆทำการบ้านซะสิ ฉันยังอยากออกมาให้ท่านผู้อ่านได้อ่านนะ อย่าดองเข้าใจ๋!!!
#######################################
ภายในห้องนั่งเล่นของเหล่านักเรียนป้อมอัศวินชั้นปีสามที่ตอนนี้จับกลุ่มคุยกันเรื่องธิดาคนงามของป้อมอัศวิน
"พี่ดาเรียสวยสมกับที่เป็นธิดาแห่งเอดินเบิร์กจริงๆ ถ้าไม่เห็นกับตาคงคิดว่าเรนอนสวยที่สุดในป้อมอัศวิน จริงมั้ยว่ะคิล" หัวขโมยตัวดีหันไปถามความคิดเห็นของเพื่อนนักฆ่า
"ฉันไม่เถียงว่าพี่ดาเรียไม่สวย แต่เรนอนเค้าก็สวยในแบบของเค้า" คิลตอบ
"ก็แน่สิ!แกมองแต่เรนอนคนเดียวนิ คนอื่นที่แกมองคงเป็นแค่ตัวประกอบ" คำพูดของเฟรินทำเอาคนฟังถึงกับหน้าขึ้นสีแดงเรื่อ
"แกก็มั่วแต่อายไปได้คิล ถ้าแกชอบเรนอนก็บอกเค้าไปเลย หรือถ้าแกไม่รู้ว่าจะทำยังไง ฉันเป็นคนสอนแกได้นะโว้ย" คิลมองหน้าหัวขโมยผู้อ้างตัวจะเป็นอาจารย์ สงสารคาโลมันจริงๆไม่รู้ไปตกหลุมรักเจ้าหญิงที่ไม่เหมือนเจ้าหญิงได้ยังไงกัน
"ไม่ล่ะ ขอบใจ!แต่ฉันว่าแกเก็บวิชาของแกไปใช้กะไอ้คาโลมันก็แล้วกัน"
คำพูดของคิลทำเอาเจ้าคนที่เป็นเจ้าหญิงที่ไม่เหมือนเจ้าหญิงถึงจับชะงังหน้าขึ้นสี ก่อนที่จะแยกเขี้ยวใส่
"แต่ผมว่าพี่ดาเรียไม่ได้มีแค่ความสวยอย่างเดียวนะครับ ดูเวทย์ที่เธอใช้ตอนแนะนำตัวสิครับ เปลี่ยนจากผู้ชายมาเป็นผู้หญิงได้ท่าทางว่าจะเป็นเวทย์ชั้นสูงนะครับ" คำพูดของซีบิล เด็กหนุ่มที่สุภาพที่สุดในชั้นปีเรียกความสนใจจากทุกคนๆในกลุ่มได้เป็นอย่างดี
"นั้นสิ ฉันยังไม่เคยเห็นเวทย์อย่างนี้มาก่อนเลย" ครี้ด ธันเดอร์เห็นด้วยกับคำพูดของซีบิลพร้อมกับทุกคนในกลุ่มที่พยักหน้าเห็นด้วย แต่แล้วทุกสายตาก็เหลือบไปมองห้องสมุดเคลื่อนที่ประจำชั้นปี ที่ตอนนี้นั่งจิบน้ำชาอย่างสบายอารมณ์ โรได้แต่ยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นสายตาทุกคู่จับจ้องมายังเค้าเพื่อขอคำตอบ
"เวทย์รวมร่าง เป็นเวทย์ชั้นสูงที่รวมเอาร่างของผู้ใช้เวทย์และมังกรให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน" โรอธิบายพลางยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบ ซึ่งนิสัยของโรอันนี้เป็นที่รำคาญแก่เพื่อนทุกคน นี้มันจะอธิบายโดยไม่มียึกยักๆยั่วความอยากรู้ไม่เป็นหรือไง
นัยน์ตาสีเขียวมีประกายเจ้าเล่ห์อย่างรู้ทันความคิดหงุดหงิด แต่เจ้าของดวงตาทั้งหลายกลับต้องฝืนยิ้มประจบเอาใจเพราะอยากได้ข่าวสาร
"เวทย์รวมร่างสามารถทำให้ผู้ใช้เวทย์สามรถใช้พลังของมังกรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น"
"แต่ที่พวกเราเห็นนั้นเป็นเด็กผู้ชายนะครับไม่ใช่มังกร" ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยกับคำถามของซีบิล
"ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกันเท่าที่รู้มาก็รู้แค่ว่ารวมร่างกับมังกร แต่ที่แน่ๆเด็กที่ชื่อไชน์นั้นต้องไม่ใช่เด็กธรรมดาๆแน่นอน" คำพูดทิ้งปริศนาไว้ของโรยิ่งทำให้ต่อมอยากรู้ของเฟรินเพิ่มมากขึ้น มันต้องรู้อะไรแน่ๆไอ้ขอทานกำมะลอแต่ไม่ยอมบอก
"แต่ถ้าพวกนายอยากรู้กันมากทำไมไม่ไปถามพี่ดาเรียเองเลยล่ะหรือไม่พวกนายก็ถามนักเวทย์อันดับหนึ่งของชั้นปีสิ"
ทุกคนหันไปมองเจ้าชายน้ำแข็งแล้วก็หันกลับมาบอกเฟรินเป็นสายตาเดียวกัน เป็นเชิงว่าแกไปถามสิ ไอ้คาโลมันคงบอกแน่ๆถ้าแกถามมัน ทำเอาเจ้าหัวขโมยตัวดีได้แต่ยิ้มฝืดๆแต่ก็ต้องจำใจถาม
"เฮ้!คาโล นายก็มีเชื้อสายนักเวทย์ของสโนว์แลนด์เหมือนพี่ดาเรีย พอจะรู้อะไรเกี่ยวกับเวทย์รวมร่างบ้างมั้ย" แต่แทนที่จะได้คำตอบจากคาโล กลับกลายเป็นความเงียบมาจากคนถูกถาม
มันเหม่อ!
"เฮ้ย!คาโล ฉันถามไม่ได้ยินเหรอ" เสียงตะโกนถามอีกครั้งของเฟรินทำเอาเจ้าชายมาดมากถึงกับสะดุ้ง
"นายเป็นอะไรของนาย ตั้งแต่กลับมาจากประชุมนายก็เอาแต่เงียบไม่พูดอะไรเลย(ซึ่งปรกติก็พูดน้อยอยู่แล้ว)"
"เปล่า" คำตอบสั้นๆได้ใจความตามสไตล์เจ้าชายมาดมาก ทำเอาเฟรินถึงกับหงุดหงิด ถ้ามันจะพูดมากกว่านี้มันจะตายหรือไง
"ฉันจะกลับห้องนอน" สิ้นเสียงเจ้าชายก็ลุกจากเก้าอี้เดินจากไป ทำเอาทุกคนได้แต่มองหน้าอย่างงงๆ
"แกว่ามันเป็นอะไรไปว่ะคิล"
"ฉันว่ามันก็เป็นปรกติของมันนะ ถ้ามันเกิดร่าเริงเหมือนนายสิแปลก"
เมื่อเข้ามายังห้องนอนทั้ง 2 คนยังเห็นเจ้าชายนั้งเหม่อลอย โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าพวกเค้าเข้าห้องมาแล้ว
"หรือว่ามันจะมีปัญหาอย่างที่แกว่าไว้ว่ะเฟริน" คบกันมานานไม่เคยเห็นมันนั่งเหม่อได้ขนาดนี้ ปรกติมันออกจะเป็นพวกมีประสาทสัมผัสไว
"นายไปถามไอ้คาโลมันหน่อยสิคิล ว่ามันเป็นอะไรหรือเปล่า" หัวขโมยตัวดีรีบยัดตำแหน่งหน่วยกล้าตายให้นักฆ่าอย่างไม่ลังเล
"คาโล!เป็นอะไรรึเปล่า?" ไม่มีคำตอบใดๆหลุดออกมาจากปากเจ้าชาย
"เฮ้ย!คาโล ไอ้คิลถามแกไม่ได้ยินเหรอไง" เสียงตวาดของเฟรินเรียกสติกลับคืนมายังเจ้าชาย
"ฉันไม่ได้เป็นอะไร จะนอน" คำตอบห้วนๆจากเจ้าชายน้ำแข๊ง ทำเอาเส้นอารมณ์ของเฟรินขาดผึ่ง
"เออ!แกจะเป็นอะไรก็เรื่องของแกไอ้ก้อนน้ำแข๊งงี่เง่า" เฟรินตะโกนเสร็จก็หันมาล้มตัวลงนอน หงุดหงิดโว้ย คนเรารึอุตส่าห์เป็นห่วงแต่ดูมันทำ
คิล ฟิลมัสที่ดูเหตุการณ์มาโดยตลอดได้แต่เกาหัวแกรกๆ ก่อนที่จะถอนหายใจแล้วล้มตัวลงนอน ผัวเมียทะเลาะกันอย่าลงไปยุ่ง
#######################################
"เฟริน!ฉันว่าคาโลมันอาการแย่แล้วนะ ตั้งแต่เช้ามานี้มันก็เอาแต่นั่งเหม่อไม่พูดไม่จาอะไรกับใครเลยนะ" คิลว่าพลางก็เหลือบมองเจ้าชายแห่งคาโนวาลที่ตอนนี้เอาแต่นั่งจิ้มอาหารในจานอย่างกับคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อตัว
"เอื่อง อ๋อง อัน" หัวขโมยที่ไม่มีที่ท่าว่าจะสนใจอะไรนอกจาก เขมือบอาหารตรงหน้า
"ไม่ต้องรีบร้อนขนาดนั้นหรอก เฟรี่" เสียงและวิธีการเรียกชื่อแบบเฉพาะตัว ทำเอาเฟรินต้องหยุดการกิน(เขมือบ)เอาไว้ชั่วคราวเพื่อมองคนตรงหน้า
"พวกฉันนั่งด้วยจะได้มั้ย?" สองเสนาธิการซ้ายขวา สี่ผู้คุมกฏและธิดาป้อมคนสวย มาขอนั่งด้วยมีใครบ้างจะกล้าขัด
"เชิญฮะ" เฟรินเชิญทุกคนนั่ง
"คนนี้เหรอโซมาเนีย เฟริโอน่า เกรเดเวล เดอะปรินเซส ออฟ เดมอส!" เสียงใสๆของดาเรียที่ทำเอาเฟรินถึงกับเคลิ้มเมื่อได้ยิน
"ยินดีที่ได้รู้จักนะ เฟริโอน่า" เสียงและรอยยิ้มที่ทำให้เฟรินหลงใหล เสียอย่างเดียวไอ้ชื่อลิเกนั้นทำเอาเสียอารมณ์ไปได้โขเลย
"ยินดีที่ได้รู้จักครับ แต่ไม่ต้องเรียกผมว่าเฟริโอน่าหรอกครับ เรียกเฟรินเฉยๆดีกว่า"
"จ้ะ!เฟริน"
"ทางนี้ก็คงเป็นคิล ฟิลมัส นักฆ่าแห่งซาเรสสินะ น่ารักดีจัง" คำชมที่เรียกสีแดงเรื่อบนหน้านักฆ่าขี้อาย
"ยินดีที่ได้รู้จักครับ" เสียงพูดตะกุกตะกักฟังก็รู้ว่าเจ้าตัวเขิลมากแค่ไหนของนักฆ่าเรียกรอยยิ้มบนใบหน้าของคนทั้งโต๊ะได้
"ส่วนนั้นก็....คาโล วาเนบบลี เจ้าชายแห่งหอคอยงาช้าง ไม่พบกันนานนะ คาโล!" เสียงใสเรียกชื่อเจ้าชายมาดน้ำแข็งของธิดาป้อมคนสวย เรียกสายตาของเจ้าชายเจ้าของชื่อที่เฟรินเห็นแล้วสาบานได้ว่ามันเป็นสายตาตื่นเหมือนคนโดนจับได้ว่าทำความผิดก่อนที่คาโลจะปรับสายตาให้กลับมานิ่งและเย็นชาเหมือนดังเดิม
"ยังเงียบเหมือนเดิมเลยนะคาโล หรือว่าเธอยังโกรธฉันเรื่องเมื่อสมัยเด็กๆอยู่"
"อ้าว!รู้จักกันมาก่อนเหรอ? ดาเรีย" โซมาเนียถามด้วยความแปลกใจ
"อืม...เรารู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก ท่านป้าแม่ของคาโลเป็นลูกพี่ลูกน้องกับแม่ฉันเอง" ดาเรียตอบพร้อมรอยยิ้มที่เฟรินและคิลเห็นแล้วรู้สึกว่าเหมือนรอยยิ้มของซาตานผู้คุมกฏไม่มีผิดเพี้ยน(เจ้าเล่ห์)
"และคาโลก็เป็นลูกศิษย์ของฉันเอง เมื่อก่อนสั่งอะไรก็ทำตามทุกอย่างที่สั่ง"
ลูกศิษย์คนอย่างคาโล วาเนบบลีผู้มีมาดอย่างกับพญาสิงห์เป็นลูกศิษย์พี่ดาเรีย ไม่น่าเชื่อ!เฟรินคิด ในขณะที่ทุกคนก็คงคิดแบบเดียวกับเค้าเป็นแน่
"คาโล!จะแล้งน้ำใจไม่ทักทายฉันซักคำเลยเหรอ" ไม่มีเสียงตอบรับจากเจ้าชายที่ท่านเรียก แต่เป็นสายตาดุปรามมายังผู้ถาม
"ผมขอตัว" ว่าแล้วเจ้าชายก็ลุกออกไปด้วยความรวดเร็ว ทิ้งให้ทุกคนยกเว้นดาเรียยังงงเป็นไก่ตาแตกอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น
"ทำไมมันต้องทำหน้าโกรธขนาดนั้นว่ะ? คิล" แต่ก่อนที่คิลจะได้ตอบ
"คงจะเป็นเรื่องสมัยเด็กๆของพวกเรา" ดาเรียเอ่ยขึ้น "ถ้าจะให้เล่าจริงๆคงจะยาว เอาเป็นว่าเมื่อก่อนเวลาฉันเรียนเวทย์ วิชาดาบ วิชาปรุงยาอะไรมาก็จะมาสอนให้คาโลเสมอๆ แต่มันก็เป็นธรรมดาใช่มั้ยเวลาเราได้วิชามาใหม่ก็อยากลอง ฉันเลยให้คาโลเป็นหนูทดลองเสมอก่อนที่ฉันจะสอน ไม่ว่าจะเป็นตอนร่ายเวทย์ เพลงดาบ ปรุงยา ฉันก็ให้คาโลเป็นหนูทดลองตลอด"
รอยยิ้มผุดขึ้นมาบนหน้าสวยๆของธิดาขัดกับเสียงเล่าเรื่องที่ดูเหมือนจะสำนึกผิดกับการกระทำของตนในอดีต
"แต่ก็ไม่มีอะไรร้ายแรงนะ แค่...โดนฉันจับแช่แข็ง เป็นเป้าซ้อมธนูและดาบ กินยาที่ฉันปรุงแล้วกลายเป็นตัวอะไรแปลกๆหรือไม่ก็เป็นโรคประหลาดๆหน่ะ" เสียงหัวเราะน้อยๆของดาเรียทำเอาเฟรินถึงกับเสียวสันหลังวาบ ก่อนที่จะจมอยู่ในห้วงความคิด"คนๆนี้เหมือนพี่ลูคัส ซาตานในร่างสาวสวย สวยโหด"
#######################################
Tonix : จบตอนที่ 2 แล้วเย้ๆๆๆ
ดาเรีย : จบแล้วก็รีบๆแต่งตอนที่ 3 ต่อสิ คนอ่านจะได้ไม่ต้องรอนาน
Tonix : เดี๋ยวสิเจ๊ ช่วงนี้อาจารย์ยิ่งบ้าๆอยู่สั่งการบ้านมากะให้นักเรียนตายกันไปข้าง อุตส่าห์ปลีกตัวอกมาอัพตอนที่ 2 ได้ก็ดีแค่ไหนแล้ว
ดาเรีย : งั้นก็รีบๆทำการบ้านซะสิ ฉันยังอยากออกมาให้ท่านผู้อ่านได้อ่านนะ อย่าดองเข้าใจ๋!!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น