ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic.The Thief of Baramos]จอมเวทย์แห่งแดนสโนว์แลนด์

    ลำดับตอนที่ #1 : การกลับมาของธิดาป้อมอัศวิน

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ย. 48




    ก๊อกๆ “ขออนุญาตค่ะ”



    “เชิญ”



    “สวัสดีค่ะ! ท่านมหาปราชญ์เลโมธี”



    “เจ้ากลับมาเอดินเบิร์กตั้งแต่เมื่อไร ทำไมไม่แจ้งข่าวมาบอก ข้าจะได้เตรียมการต้อนรับเจ้า” มหาปราชญ์ถามไถ่สาวน้อยตรงหน้าคละเคล้ากับความยินดีที่ได้เจอหน้ากันอีกครั้ง



    “มิเป็นไรค่ะ หนูแค่ไปทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย แค่ได้กลับมาเอดินเบิร์กอีกครั้งหนูก็พอใจแล้ว อีกอย่างนะค่ะหนูมิได้เป็นคนใหญ่คนโตที่ไหน เป็นแค่นักเรียนคนหนึ่งของโรงเรียนพระราชาแห่งนี้ มิต้องเสียเวลามาต้อนรับหนูหรอกค่ะ” สาวน้อยยิ้มให้เป็นคำตอบปิดท้ายว่าเธอยินดีที่ท่านที่เธอเคารพใส่ใจและเป็นห่วงในตัวเธออย่างยิ่ง



    “รบกวนเจ้าจริงๆ ต้องไปทำงานต่างแดนเป็นเวลานาน” คำพูดที่บ่งบอกว่าผู้พูดรู้สึกเกรงใจมาก



    “มิได้รบกวนอะไรเลยคะท่านมหาปราชญ์เลโมธี สโนว์แลนด์เป็นบ้านเกิดของหนู ได้ไปที่นั้นก็เหมือนกลับไปเยี่ยมบ้านเกิด และที่สำคัญมันเป็นหน้าที่ของธิดาแห่งเอดินเบิร์กที่ได้รับมอบหมาย หนูรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เป็นฑูตสันตะวาไมตรีให้แก่เอดินเบิร์ก และยังได้รับใช้ท่านที่หนูเคารพเป็นยิ่งนัก”



    “เมื่อเจ้าพูดถึงเพียงนี้ ข้าก็ขอขอบใจเจ้าจริงๆ” มหาปราชญ์เลโมธีก็ก้มหัวขอบคุณสาวน้อยตรงหน้าจากใจจริง



    “มิต้องค่ะ! ท่านมหาปราชญ์เลโมธี” สาวน้อยลุกลี้ลุกลนทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นกิริยาท่าทางของคนตรงหน้า “หนูยังนำของที่ท่านต้องการมาให้ด้วยค่ะ ท่านแม่หวังว่าสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์แก่ท่านและเอดินเบิร์ก”



    “มันจะมีประโยชน์แน่นอน ต้องขอบใจเจ้าอีกครั้ง”

    สาวน้อยรู้สึกปิติยินดีที่ได้รับคำชื่นชมจากคนที่เธอให้ความเคารพ แต่อย่างไรก็ตามความปิติยินดีในครั้งนี้ก็ไม่เท่ากับความยินดีที่ได้กลับมายังโรงเรียนพระราชาแห่งนี้อีกครั้ง ถึงแม้จะไม่ได้เรียนกับเพื่อนๆชั้นปีเดียวกันที่ตอนนี้ต่างจบกันไปหมดแล้ว แต่คนอย่างเธอเรื่องแค่นี้ถือว่าเล็กน้อย เพราะว่าไม่ว่าจะอยู่ชั้นปีไหนเธอก็สามารถมีความสุขได้ตลอด

            

                            *..................................................................................................................... *



    “ทุกคน” เสียงมาทิลด้าเจ้าแม่แห่งชั้นปีที่3ของป้อมอัศวินดังขึ้น แต่เสียงอึกทึกของเจ้าพวกลิงทโมนทั้งหลายก็ไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดสนใจต้นเสียงแม้แต่น้อย สายตาของมาทิลด้าหันไปยังบุรุษมาดมาก(ตลอดการ)ที่ยังคงรักษามาดได้อย่างดีเยี่ยมผู้ไม่มีที่ท่าว่าจะให้ความช่วยเหลือใดๆแก่เธอ



    เฮ้อ...ผู้ชายป้อมอัศวินพึ่งไม่ได้จริงๆ สาวน้อยคิดอย่างเอือมระอา



    ปัง!



    แทบจะทันทีที่เสียงเปิดประตูดังขึ้นทุกสายตาในห้องต่างจับจ้องไปยัง 2 บุรุษที่ย่างก้าวเข้ามายังห้องนั่งเล่น เป็น 2 ร่างที่ทำให้เหล่าลิงทโมนทั้งหลายกลายเป็นหุ่นนิ่งทันที



    “มีประชุมด่วนกันทำไมยังไม่รีบไปกันรึ” ซาตานแห่งป้อมอัศวินผู้ที่ยังคงมียิ้มละไมบนใบหน้า ถามพร้อมน้ำเสียงที่ผู้ฟังต้องเสียวสันหลังไปตามๆกัน



    “มันน่าจับเชือดซะให้หมด” เสียงสบถจากนักบวชแห่งป้อมอัศวินดังขึ้น ยิ่งทวีความหนาวให้เหล่าลิงทโมน



    เมื่อ 2 ผู้คุมกฎมาเป็นผู้เชิญด้วยตนเอง ลิงโทนทั้งหลายก็รับจรลีไปประชุมด้วยความรวดเร็ว เหตุเพราะไม่อยากเป็นเป้าลองความคมมีดบินลือชื่อของนักบวช และเป็นหนูทดลองบทลงโทษที่สร้างสรรค์ของซาตาน แต่มีหรือคนอย่างเฟริน เดอเบอโรว์ จะอดใจไม่ถามถึงเหตุผลของการประชุมในครั้งนี้ได้



    “เออ...พี่ลอเรนซ์ฮะ มีประชุมอะไรกันเหรอฮะ”



    คำตอบที่ได้จากนักบวชเป็นสายตาดุ และท่าทางที่พร้อมขว้างมีดใส่เป้าลองความคมของมีดอย่างเฟริน ทำเอาเจ้าหัวขโมยตัวดีต้องรีบสาวเท้าตามเพื่อนๆไปโดยเร็ว



    “เกิดอะไรขึ้น ทำไมจะต้องรีบประชุมกันขนาดนี้ เอดินเบิร์กประกาศสงครามกับเดมอสหรือไงกัน”

    คำพูดของคนปากเบาที่เรียกเสียงหัวเราะจากขอทานผู้รอบรู้ ถึงกับทำให้เต้าตัวดีต้องหันมาแยกเขี้ยวใส่



    “หัวเราะอะไรของแก ไอ้โร!”



    “ช่างคิดดีนิเฟรินแต่ต้องบอกว่าผิด ได้ข่าวว่าพี่โรเวนต้องการให้พวกเราไปต้อนรับการกลับมาของบุคลสำคัญแห่งป้อมอัศวิน” มันไปรู้มาได้ไงว่ะ แต่ก็ช่างเหอะ มันเป็นห้องสมุดเคลื่อนที่มีเรื่องไหนบ้างที่มันไม่รู้ ถ้ามันไม่รู้นี้สิแปลก เฟรินคิดแล้วก็ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยก่อนที่จะถามคำถามเจ้าห้องสมุดเคลื่อนที่อีก



    “แล้วเป็นหญิงหรือชาย”



    “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นหญิงหรือชาย” โรตอบคำถามพร้อมกับทำสีหน้าครุ่นคิดเพื่อเค้นหาคำตอบ

    คำตอบที่ทำเอาเฟรินถึงกับฉงน คนอย่างโร เซวาเรสผู้รอบรู้ก็มีเรื่องที่ไม่รู้เหมือนกัน คืนนี้ต้องกลับไปเขียนบันทึกของหัวขโมยแล้วว่า ห้องสมุด(โร เซวาเรส)ก็มีขีดจำกัดในการให้คำตอบเหมือนกัน

            

                               *..................................................................................................................... *



    ณ. ห้องประชุมที่บัดนี้คลาคลั่งไปด้วยนักเรียนทุกชั้นปีของป้อมอัศวินที่ต่างตื่นเต้นว่าจะได้พบใครที่พวกเค้าต้องมาต้อนรับ



    “เงียบ” น้ำเสียงเยือกเย็นของผู้คุมกฎลอเรนซ์ ดอร์น ที่ทำเอาเสียงนักเรียนในห้องประชุมเงียบราวกับปาฏิหาริย์



    “นายเก่งจัง ลอรี่”



    เฟี้ยว!ฉึก!



    “ถ้านายยังไม่อยากตาย อย่าเรียกชื่อนั้นอีก ลูคัส!!!” เสียงข่มขู่ที่ทำเอาซาตานขี้เล่นต้องยกมือยอมแพ้ แต่ก็อดยิ้มไม่ได้ ก็ในเมื่อคนตรงหน้ามันน่าหยอกน้อยเสียเมื่อไร



    “ที่พวกเรามาพร้อมกันในวันนี้ เพื่อที่จะต้อนรับธิดาแห่งป้อมอัศวินหรือธิดาแห่งเอดินเบิร์ก ที่เพิ่งจะกลับมาจากภารกิจของตน” สิ้นเสียงของเสนาธิการฝ่ายซ้ายคนสำคัญ ห้องที่เงียบกลับฮือฮาขึ้นมาอีกครั้ง



    “มีตำแหน่งธิดาป้อมด้วยเหรอ” เฟรินถามคิลด้วยความงุนงง



    “นอกจากตำแหน่งต่างๆที่นายรู้อยู่แล้ว ก็ยังมีตำแหน่งธิดาประจำบ้านพักหรือที่พวกเราชาวป้อมอัศวินเรียกว่าธิดาป้อม แต่ละบ้านพักจะมีเพียงธิดาได้เพียงหนึ่งเดียว” คำตอบที่มาจากโร เซวาเรส เดอะ ไลฟ์บรารี่ ออฟ ทริสทอร์ ฉายาที่เฟรินตั้งให้เนื่องจากมันแสนรู้ไปซะทุกเรื่อง



    “แล้วธิดาแห่งเอดินเบิร์กที่พี่โรเวนพูดถึงเมื่อกี่ล่ะ” เฟรินยังคงถามคำถามต่ออย่างไม่เกรงใจห้องสมุดเคลื่อนที่ เพราะเค้ารู้ว่าคนตรงหน้าสามารถให้คำตอบเค้าได้ทุกเรื่อง



    “ก็คือ เมื่อแต่ละบ้านพักมีธิดาแล้วก็จะต้องส่งเข้าประกวดอีกครั้งเหมือนเป็นรอบชิงชนะเลิศเพื่อคว้าตำแหน่งธิดาแห่งเอดินเบิร์ก คนที่ได้รับตำแหน่งก็จะต้องไปเป็นทูตสันตวะไมตรีให้แก่เอดินเบิร์ก ส่วนสถานที่ที่จะไปเชื่อมสัมพันธไมตรีก็แล้วแต่มหาปราชญ์เลโมธีต้องการจะให้ไปที่ไหน” เฟรินกับคิลได้แต่พยักหน้ารับคำตอบจากขอทานผู้รอบรู้ สมแล้วที่เป็นห้องสมุดเคลื่อนที่ ถ้ามันไม่รู้สิแปลกไม่งั้นคืนนี้ต้องไปเพิ่มข้อสองให้กับบันทึกหัวขโมยแน่ๆ เฟรินคิดอย่างพอใจ ก่อนที่จะเริ่มการทำงานของปากที่เบาได้เสมอต้นเสมอปลาย



    “เป็นถึงธิดาแห่งเอดินเบิร์กอย่างนี้ต้องสวยมากล่ะสิ มันต้องลองจีบหน่อยแล้ว”

    นักฆ่าที่นึกปลงสังเวชกับเจ้าเพื่อนตัวดีที่ไม่ได้คิดเลยว่าจริงๆแล้วมันเป็นถึงเจ้าหญิงแห่งเดมอสและบารามอส สงสัยเดมอส บารามอสและคาโนวาลต้องล่มสลายเพราะมันแน่ๆ



    “หัวขโมยอย่างนายน่าจะรู้อยู่แก่ใจว่า ไม่มีผู้หญิงคนไหนยอมลดตัวมาคบด้วยหรอก” คำพูดของเจ้าชายน้ำแข็ง ทำให้เฟรินต้องหันแยกเขี้ยวใส่



    “นักเรียนตั้งแต่ชั้นปีที่4ขึ้นไปคงรู้จักเธอเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่ชั้นปีที่ 1 ปี 2และปี 3 คงยังงงอยู่ว่าธิดาป้อมเป็นใคร และตำแหน่งนี้มีความสำคัญอย่างไร ปีนี้ทุกคนจะได้ทำความรู้จักเป็นอย่างดีแน่นอน โดยเฉพาะสาวๆทุกคนที่ปีนี้ต้องลงชิงชัยในการประกวดธิดาประจำป้อมพร้อมๆกับธิดาป้อมคนเดิม” เสียงฮือฮามากกว่าโดยเฉพาะเสียงของสาวประจำป้อมอัศวินเดิมเมื่อได้รับข่าวสารใหม่จากเสนาธิการฝ่ายซ้าย



    “เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เชิญธิดาแห่งป้อมอัศวิน”



    ทุกสายตาจับจ้องไปยังประตู แต่กลับไม่มีร่างใดปรากฏออกมา



    “ธิดาแห่งป้อมอัศวิน”เสียงเรียกเยือกเย็นของเจ้าชายโรเวน ฮาเวิร์ด ตังขึ้นเตือนสติสาวน้อยผู้เป็นเจ้าของตำแหน่งให้หยุดเล่นได้แล้ว



    “ขอโทษๆ แหย่เล่นนิดหน่อยเองอย่าโกรธไปเลยนะโรเวน” ทุกสายตาหันมามองยังต้นเสียงที่ดังขึ้นเป็นต้องตกตะลึง เพราะเจ้าของเสียงแทนที่จะเป็นสาวน้อยผู้เป็นธิดาแห่งป้อมอัศวินกลับกลายเป็นชายหนุ่ม เจ้าของผมสีดำรัตติกาล นัยน์ตาสีเพลิงเร่าร้อน ใบหน้าหล่อเหลาราวรูปสลักจากช่างฝีมือเอก ท่าทางที่สุขุมเยือกเย็นทำเอาสาวๆทั้งหลายหน้าขึ้นสีทันทีที่ได้เห็น



    “เล่นพอแล้ว ดารี่ ทุกคนจะเข้าใจผิดเอาได้ว่าประกวดธิดาป้อมเป็นการประกวดสาวประเภทสอง” เสียงซาตานแห่งป้อมอัศวินผู้มีรอยยิ้มละไม ขบขันกับความคิดขี้เล่นของเจ้าหล่อน



    “พอแล้วล่ะ ไชน์ “สิ้นเสียงก็มีแสงสว่างเปล่งออกมาจากร่างของหนุ่มหล่อที่บัดนี้คว้าใจสาวไปหลายคน เมื่อแสงสว่างดับไปก็ปรากฏร่างของ เด็กชายอายุประมาณ 6 ขวบ ผมสีดำรัตติกาล นัยน์ตาสีเพลิงเยือกเย็นกับท่าทางที่ดูสุขุมเกินเด็ก และสาวสวยผู้มีผมสีดำรัตติกาลยาวสยายรับกับใบหน้ารูปไข่ นัยน์ตาสีเทาเงินที่แลดูเยือกเย็นแต่แผงไปด้วยเสน่ห์ที่ราวกับต้องมนต์สะกดไม่ให้ละจากสายตาคู่นี้ ผิวชุดกระโปรงลำลองเปิดไหล่ชวนมองโชว์ผิวขาวอมชมพูราวกับกลีบกุหลาบ ทำให้ทุกคนในห้องตกตะลึงกับความงาม และเวทของสาวสวยตรงหน้าที่แปลกอย่างหาดูที่ใดมิได้



    “สวัสดีค่ะ! ดาเรีย เดอลาวินนี่ เดอะ วิชน์ ออฟ สโนว์แลนด์ค่ะ และนี้ก็ไชน์ เป็นน้องชายของฉันเองค่ะ” เสียงใสราวกับนางฟ้าขับกล่อมร้องเพลงแนะนำตัวเองอย่างร่าเริง ทำลายความเงียบในห้องให้ทุกคนหลุดออกจากอาการตกตะลึง และปรบมือแสดงความยินดีต้อนรับอย่างกึกก้อง

                                 *..................................................................................................................... *



    Tonix: จบตอนแรกแล้วเจ้าค่ะ หวังว่าคงจะถูกใจเพื่อนๆนักอ่านทุกคนนะเจ้าค่ะ ฟิกนี้แต่งสนองตัณหาเจ้าพี่สุดเลิฟของข้าพเจ้าเอง เนื่องจากเจ้าพี่อ่านแล้วก็เกิดอาการบารามอสริซึ้มร้อนถึงน้องอย่างข้าพเจ้าต้องมาแต่งฟิกให้มันเฮ้ยเจ้าพี่สุดเลิฟอ่านเป็นการด่วน (จริงแล้วโดนบังคับให้แต่ง) เรื่องนี้เป็นฟิกเรื่องแรกในชีวิตของข้าพเจ้า อ่านแล้วรู้สึกยังไงก็เม้มติชมได้นะเจาค่ะฝากตัวละครใหม่ของข้าพเจ้าไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะเจ้าค่ะ



    ดาเรีย: ขอฝากตัวฝากใจ และเป็นกำลังใจให้ดาเรียและไชน์ด้วยนะค่ะ^_^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×