คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : วันแตกแยก
ฉันยังไม่ได้บอกเรื่องที่พัทขอแต่งงานกับใครเพราะตอนนี้ทุกๆคนในบ้านกำลังอยู่ในอาการเคร่งเครียดยังไงไม่รู้ โดยเฉพาะแม่เพราะแม่ตั้งคำถามแปลกๆกับฉัน
“ถ้าแม่กับพ่อเลิกกันลูกจะอยู่กับแม่ใช่ไหมลูกแต่พี่เก่งเค้าจะอยู่กับพ่อเพราะเค้ามีงานที่บริษัทที่ต้องรับผิดชอบ”
“แม่คะ หนูไม่รู้นะคะว่าแม่กับพ่อทะเลาะอะไรแต่ว่าแม่ควรจะใช้เหตุผลให้มากๆเพราะมันจะมีผลกระทบระยะยาวนะคะแม่” แม่เงียบไม่พูดอะไรแต่น้ำตาแม่เริ่มคลอเบ้าทั้งที่ฉันไม่รู้อะไรเลยว่าพ่อกับแม่ทะเลาะอะไรกัน
“พี่เก่งพ่อแม่เราท่านเป็นอะไรไปเหรอช่วงนี้ท่านดูแปลกๆกัน” ฉันถามพี่ชายที่นั่งดูทีวีอยู่ในห้องรับแขก
“พี่ก็ไม่รู้หรอกเพราะช่วงนี้พี่งานยุ่งมากๆไหนจะงานที่บริษัท ไหนจะเรื่องเดียร์” เดียร์ที่ว่าคือแฟนของชายฉันเองซึ่งคบกันมาหลายปีแล้วซึ่งมีแผนจะแต่งงานกันในกลางปีนี้
“ทำไมเหรอคะพี่เดียร์ทำไม” ฉันถามประสาคนที่สนิทกันเพราะฉันกับพี่เดียร์ก็สนิทกันมากเพราะเวลาที่พี่เดียร์มาที่บ้านก็จะมาคุยเล่นอยู่กับฉัน
“ช่างเถอะ ว่าแต่วันนี้วันหยุดเราไม่ไปไหนเหรอ” พี่ชายฉันเปลี่ยนเรื่องทันที
“นัดกับยัยออยไว้แล้วค่ะ เดี๋ยวยัยออยก็มาแล้ว” ฉันพูดยังไม่ทันขาดคำวินมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งก็วิ่งเข้ามาจอดหน้าบ้านพร้อมกับเสียงแป้นแล้นของยัยออยที่ดังเข้ามาในบ้าน
“โย้ ยัยกานต์ว่าเพื่อนจะไปกันหรือยัง” ยัยออยตะโกนข้ามรั้วเข้ามาในบ้าน
“เออ จะไปแล้วรออยู่ตรงนั้นนะยะเดี๋ยวฉันเอารถออกก่อน” ฉันตะโกนจากในบ้านไปบอกยัยออยที่ยืนชะโงกหน้าไปมาอยู่หน้าบ้าน แล้วก็เดินถือกุญแจรถออกไปเอารถออกทันที
ระหว่างที่ฉันขับรถอยู่ยัยออยก็พูดขึ้น
“นี่ ช่วงนี้ฉันฝันเห็นแกด้วยล่ะ”
“หือ ฝันเห็นฉันยังไง”
“ฉันฝันว่าเธออยู่ในชุดไทยโบราณประมาณนั้นแหละย่ะ เอ๊ะหรือว่าจะเป็นชุดแต่งงานเพราะในฝันมีคุณพัทด้วยนะ”
“ฉันว่าแกเพ้อเจ้อไปเองแล้วล่ะ เพราะงานแต่งฉันต้องสไตล์โมเดิร์นเท่านั้นย่ะ”
“เออนี่แกรู้เปล่าว่ายัยโคโยตี้ที่อยู่ข้างบ้านฉันตอนนี้มีเสี่ยมาติดได้เงินทีเป็นแสนเลยนะ” ยัยออยเปลี่ยนเรื่อง
“แกนี่นะ เรื่องชาวบ้านรู้หมดจริงๆ”
“จริงนะแก ฉันเห็นกับตาว่ามีรถBMWสีดำมารับยัยนั่นที่บ้านทุกวันเลย” BMW สีดำฉันกำลังคิดถึงรถของพ่อฉันก็เป็นBMWสีดำเหมือนกัน แต่ในประเทศไทยก็ไม่ได้มีรถพ่อฉันคันเดียวสักหน่อย
“แกๆ คิดอะไรอยู่อ่ะแก เดี๋ยวสิบล้อก็คาบไปกินหรอกย่ะ ขับรถนั่งเหม่อ” ยัยออยเรียกฉันที่กำลังอยู่ห้วงความคิดให้ได้สติขึ้นมาอีกครั้ง
“เปล่าๆไม่มีอะไร” แล้วฉันก็ขับรถต่อไปโดยไม่พูดอะไรอีกมีแต่ยัยออยที่นั่งพูดเรื่องนั้นเรื่องนู้นตลอดทางจนถึงห้างที่พวกเราจะมาช็อปลดราคากัน ถึงจะเป็นคุณหนูบ้านรวยแต่ฉันก็ชอบของลดราคานะ อิอิ
“ว้าววววว แกดูชุดนี้สิ สวยมากแถม sale 50 เปอเซ็นต์ด้วยนะแก”ยัยออยลากฉันไปดูชุดที่เธอบอกว่าสวยจนฉันแถมหกล้มหน้าคว่ำ แล้วฉันก็ดูนั่นดูนี่ไปเรื่อยจนกระทั่งมาเจอชุดเดรสสีชมพูขาวชุดหนึ่งที่โดนใจฉันมาก
ฉันมองป้ายราคาแล้วจัดการหยิบชุดๆนั้นให้พนักขายไปพร้อมกับบัตรเครดิตของฉันทันที ขณะที่ฉันกำลังยืนรอพนักงานขายเอาชุดกลับมาให้ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งแต่งตัวเปรี้ยวเข็ดฟันเดินเข้ามา ที่ใกล้ๆฉันพร้อมกับถามพนักงานขายขึ้นว่า
“น้องคะชุดเดรสที่อยู่ตรงนี้เมื่อกี้ไปไหนแล้วคะ”
“อ๋อ เมื่อกี้คุณคนนี้เค้าซื้อเรียบร้อยแล้วค่ะ” พนักงานขายพูดพร้อมชี้มาที่ฉัน
“เอ๊ะ แต่เมื่อกี้ฉันบอกแล้วว่าฉันจองนี่นา” สงสัยจะมาซื้อชุดเดียวกับฉันแต่โทษทีฉันไวกว่าย่ะ ฮ่าฮ่า
“เอ๊ะ ยังไงเมื่อกี้ฉันบอกแล้วไงว่าฉันจองชุดนั้น” ยัยเปรี้ยว(ตั้งชื่อให้ชั่วคราว)เริ่มขึ้นเสียงกับพนักงาน
“ชุดได้แล้วค่ะ” พนักงานขายอีกคนส่งถุงชุดมาให้ฉัน ฉันจึงรีบลี้ภัยให้พ้นจากยัยเปรี้ยวอย่างเร่งด่วน
“นี่เธอ ชุดนั้นฉันจองแล้วนะยะ” ยัยเปรี้ยวเดินเข้ามาขวางหน้าฉันไว้ งานเข้าแล้วไงกิ่งกานต์
“ขอโทษนะคะแต่ฉันซื้อแล้ว” ฉันก็ไม่ยอมเหมือนกันเอาสิ
“นี่เอาให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ” ยัยเปรี้ยวพูดพร้อมกับดึงถุงชุดของฉันแต่เรื่องอะไรใครจะยอมฉันจ่ายเงินแล้วก็ไม่ยอมให้หยุดมือไปหรอกฉันก็ดึงไว้สุดชีวิตเหมือนกัน แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
“มีอะไรเหรอครับ หนูน้ำฝน” เป็นเสียงที่คุ้นหูฉันมาก
“ป๋าขา ก็นังเด็กนี่สิคะมันแย่งชุดของฝนไปอ่ะค่ะ”ยัยฝนกรด(รู้ชื่อแล้ว)ทำเสียงออดอ้อนคนที่หล่อนเรียกว่าป๋าฉันจึงเงยหน้าขึ้นมองป๋าของหล่อนซะหน่อยว่าใครแล้วฉันก็ตกใจแทบช็อก
“คุณพ่อ” ฉันตะดกนออกมาอย่างตกใจว่าป๋าของยัยฝนกรดคือพ่อของฉันเอง
“กานต์” คุณพ่อทำเสียงตกใจไม่แพ้กัน แล้วยัยออยก็เดินเข้ามายืนข้างๆฉัน
“มีไรวะแก อ้าวคุณลุงสวัสดีค่ะ”ยัยออยหันไปสวัสดีคุณพ่อฉันแต่ฉันไม่ได้สนใจอะไรแล้ว
“นี่มันอะไรกันคะคุณพ่อ คุณพ่อนอกใจคุณแม่มากับยัยผู้หญิงหน้าด้านคนนี้เหรอคะ” ฉันแผดเสียงถามคุณพ่ออย่างโมโหที่เจอคาหนังคาเขาว่าคุณพ่อติดผู้หญิง
“นี่เธอว่าใครหน้าด้านยะหะ” ยัยฝนกรดหันมาถามฉัน
“ก็เธอไง ยังไงรู้สถานะตัวเองหรือไงว่าเป็นเมียน้อยชาวบ้านเค้าหรือรู้แล้วยังทำหน้าด้านไร้ยางอายอีกเหรอ” ฉันพ่นคำหยาบคายใส่หน้ายัยฝนกรดอย่างโกรธแค้น
“กานต์ฟังพ่อก่อนนะลูก” พ่อทำเสียงอ่อนพูดขึ้นแต่ฉันไม่ฟัง
“ไม่ค่ะถ้าคุณพ่อไม่เลิกยุ่งกับยัยนี่หยูไม่ยอมจริงๆด้วย”แล้วฉันก็หันหลังเดินออกมาโดยที่มียัยออยเดินตามหลังฉันออกมา
ฉันขับรถจนถึงบ้านแล้วแยกกับยัยออยแล้วก็เดินขึ้นบนห้องนอนอย่างอารมณ์เสีย ใช่คุณแม่ที่คุณแม่มีท่าทางแปลกๆเพราะคุณแม่ต้องรู้เรื่องนี้แน่ๆ ฉันร้องไห้จนเจ็บตาแล้วก็เผลอหลับไปดึกเท่าไหร่ไม่รู้ฉันตื่นขึ้นมาเพราะเสียงโวยวายจากข้างล่าง
“ฉันจะไม่ทนกับคุณอีกต่อไปแล้ว กับที่ผ่านมาฉันทนได้ทุกอย่างแต่คราวนี้คุณทำให้ลูกเสียใจฉันจะไม่ทนอีกแล้ว” เสียงคุณแม่นั่นเองกำลังทะเลาะกับคุณพ่องั้นเหรอฉันเปิดประตูห้องออกมาดู
“ผมก็ทนคุณมามากแล้วเหมือนกัน แต่เพราะลูกหรอกนะผมถึงทนแต่ครั้งนี้มันสุดทนแล้วเหมือนกัน ผมทำงานแทบตายแต่ไม่ได้อะไรเลยเมียที่บ้านก็ยังหาเรื่องชวนทะเลาะอีก” พ่อพูดอย่างหัวเสีย
“คุณอย่ามาพูดว่าฉันหาเรื่องทะเลาะเพราะถ้าคุณไม่ทำตัวนอกลู่นอกทางอย่างนี้ฉันก็ไม่อยากทะเลาะกับคนอย่างคุณหรอกนะ”
“ทำไมคนอย่างผมมันทำไม” พ่อขึ้นเสียงดังขึ้นพร้อมบอกอารมณ์ที่โมโหอย่างถึงที่สุด
“คุณก็น่าจะรู้ว่าถ้าพ่อไม่บังคับฉันฉันก็จะไม่มีวันแต่งงานกับคนสกปรกอย่างคุณ” แม่มองหน้าพ่ออย่างเอาจริง
เพ๊ยะ!!! คุณพ่อฟาดฝ่ามือโดนใบหน้าคุณแม่อย่างจังใบหน้าแม่หันไปทางแรงตบ ฉันไม่รอช้ารีบวิ่งจากบันไดชั้นสองมาจากประตูห้องลงมากอดคุณแม่ไว้
“คุณพ่อคะคุณพ่อจะทำเกินไปแล้วนะคะ” ฉันพูดพร้อมกับกอดคุณแม่ที่มีน้ำตาคลอเบ้าอยู่ปริ่มๆ
“แม่ไม่เป็นอะไรหรอกลูก”คุณแม่หันมาบอกกับฉันแล้วหันไปทางพ่อแล้วพูดต่อว่า
“ถ้าคุณทำกับฉันแบบนี้ ก็ได้งั้นเราแยกกันอยู่ดีกว่า” ว่าแล้วคุณแม่ก็เดินขึ้นไปบนห้องโดยที่ฉันวิ่งตามหลังไป แม่เข้ามาในห้องนอนแล้วหยิบกระเป๋าเดินทางขึ้นมาเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าอย่างรีบร้อน
“คุณแม่คะ คุณแม่จะไปไหนคะ” ฉันถามในขณะที่แม่กำลังเก็บเสื้อผ้า
“ไปให้พ้นจากที่นี่” คุณแม่ตอบโดยที่ยัดผ้าลงกระเป๋ารูดซิบโดยไม่หันมามองฉันเลย และแล้วคุณพ่อก็เปิดประตูห้องเข้ามากับใบหน้าที่ดูอ่อนลง
“กานต์ พ่อขอคุยกับแม่แปบนึงนะลูก” พ่อหันมาบอกฉันเสียงเรียบๆ ฉันรู้หน้าที่ทันทีจึงเดินออกมาจากห้อง
“คุณผมขอโทษนะที่ทำไม่ดีกับคุณเมื่อกี้” คุณพ่อพูดขึ้นหลังจากเงียบอยู่นานโดยไม่รู้ว่าฉันแอบแง้มประตูห้องฟังอยู่
“คุณทำไปแล้วนี่ จะพูดยังไงให้คุณดูดีขึ้นก็พูดได้นี่คะ” แม่ประชดเสียงแข็ง
“ผมขอโทษจริงๆ ถ้าเกิดว่าคุณอยากให้ผมทำอะไรให้เป็นการไถ่โทษผมยอมทำให้คุณหมดทุกอย่างเลยคุณต้องการอะไรคุณบอกผมสิ”
“งั้นฉันขออยู่แยกกับคุณสักพักเผื่อมันจะทำให้ทั้งฉันและคุณคิดอะไรๆขึ้นมาได้ เมื่อถึงตอนนั้นจะเอายังไงฉันกับคุณค่อยมาคุยกันอีกทีดีไหมคะ”
“ไม่ครับผมไม่ต้องการอยู่ห่างคุณถ้าเราจะคุยกันก็คุยกันเดี๋ยวนี้เลย”
“คุณคิดว่าตอนนี้มันจะมีอะไรดีขึ้นเหรอคะ เราสองคนยังไม่รู้ใจตัวเองเลยว่าเราต้องการอะไร ถ้าเราได้อยู่กับตัวเองได้ทบทวนอะไรหลายๆอย่างกับตัวเองมันจะทำให้เราค้นพบความต้องการจริงๆของเราถึงวันนั้นคุณค่อยมาบอกแล้วฉันจะมาบอกคุณอีกทีแล้วกันนะคะว่าเรายังต้องการกันและกันอยู่หรือเปล่า ปล่อยฉันไปเถอะค่ะหากคุณยังต้องการฉันจริงๆ” คุณแม่อธิบายยาวเหยียดเพื่อโน้มน้าวใจคุณพ่อ
“ก็ได้ แต่ว่าผมต้องการขออะไรคุณสักอย่างได้ไหม”
“อะไรล่ะค่ะ ถ้ามันไม่มากเกินไปที่ผู้หญิงอย่างฉันจะให้คุณได้ฉันก็จะทำให้ค่ะ”
“คุณพายัยกานต์ไปด้วยได้ไหม” ห๊า ว่าไงนะคุณพ่อจะให้ฉันไปกับคุณแม่ด้วยหรือว่าคุณพ่อคิดจะจัดการฉันให้พ้นทางเพราะยังไงคุณแม่ก็ไม่อยู่แล้ว ฉันเปิดประตูเข้าไปอย่างรวดเร็ว
“คุณพ่อ คิดจะกำจัดหนูไปอีกคนใช่ไหมคะถึงจะให้หนูไปอยู่กับคุณแม่” ฉันโวยวายขึ้นทำให้ทั้งสองท่านหันมามองที่ฉันอย่างตกใจ แต่ขณะนี้ฉันโกรธจนลืมเรื่องที่แอบฟังเมื่อกี้ไปแล้ว
“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะลูกฟังพ่อก่อน พ่อต้องการให้แม่มีคนดูแลและคนคนนั้นก็คือลูก อีกอย่างพ่อขอสัญญากับภรรยาและลูกสาวของพ่อเลยนะว่าพ่อจะปรับตัวให้ดีขึ้น เพราะฉะนั้นพ่ออยากให้ลูกไว้ใจพ่อแล้วทำหน้าที่ที่พ่อมอบให้ลูกทำในฐานะพ่อจะได้ไหมลูก”
“ค่ะ” เมื่อได้ฟังคำพูดของคุณพ่อทำให้ฉันอ่อนลงและตกลงที่จะไปกับคุณแม่ด้วย
หลังจากที่ฉันเก็บเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นแล้วก็เดินมาที่รถพร้อมกับคุณแม่และคุณพ่อที่เดินมาส่งส่วนพี่เก่งไปทำงานที่ต่างจังหวัดจะกลับมาวันมะรืนนี้
“โชคดีนะคุณ กานต์พ่อฝากดูแลแม่ด้วยนะ”
“ค่ะคุณพ่อ ไม่ต้องห่วงนะคะหนูจะดูแลคุณแม่ให้ดีที่สุดค่ะ” ฉันรับปากคุณพ่ออย่างหนักแน่นแล้วเปิดประตูรถข้างคนขับขึ้นไปนั่งข้างๆคุณแม่ที่นั่งที่คนขับรออยู่แล้ว รถเคลื่อนออกจากบ้านหลังนี้ที่ฉันอยู่มายี่สิบสี่ปี โดยที่ฉันไม่รู้เลยว่าจุดหมายปลายทางนั้นอยู่ที่ไหน
ความคิดเห็น