ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GIVE ME YOUR LOVE ปลดล็อคประตูรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : INTRO

    • อัปเดตล่าสุด 2 ต.ค. 53


    INTRO

     

    ใช่ครับ...ผมเชื่อเรื่องพรหมลิขิต ผมรู้ว่าผมรักใคร ผมรู้ว่าผมต้องการอะไร

    แต่รู้ไหมครับว่าบางที...สิ่งที่ผมคิดมันอาจจะผิดพลาดบ้างก็เป็นได้นะ...

     

     

     

    กริ๊ง !!!!

    เสียงนาฬิกาปลุกที่หัวเตียงดังขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ร่างสูงเอื้อมมือไปปิดมันแล้วเอาผ้าห่มมาคลุมโปงต่อ นี่มันวันเสาร์น้า T^T ขอนอนต่อสักนิดเหอะ ร่างสูงคิดอย่างหงุดหงิดในใจ แต่หานึกไม่ว่าที่เขาตั้งนาฬิกาปลุกไว้เพราะเขามีนัดสำคัญในวันนี้

    ปังๆๆ !

    “โจคยูฮยอน นายจะให้ฉันเขามาลากคอนายถึงเตียงเลยใช่มั๊ยฮะ ! คยูฮยอน !”เสียงใสอันคุ้นหูดังมาจากอีกฟากหนึ่งของประตูห้อง ร่างสูงจิ๊ปากอย่างเซ็งๆ ไม่ได้กลัวอะไรหรอกนะ แค่หวาดๆแค่นั้นเอง = =” (มันต่างกันตรงไหนยะ?)

    “มาแล้วๆ”ร่างสูงขานรับแล้วลุกไปเปิดประตูอย่างงัวเงีย

    “เสียงนาฬิกาปลุกนายมันดังไปสามบ้าน แปดบ้าน แต่นายกลับไม่ยอมตื่น ฉันอุตส่าห์ไม่ขึ้นมาปลุกนายเพราะเห็นนายบอกว่านายตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอนคุยโทรศัพท์กันเมื่อคืน แต่นายนี่มันนนนน”ร่างบางพูดพลางหยิกแขนของร่างสูงอย่างหมั่นไส้

    “โอ๊ยๆ ๆ ๆ ฉันเจ็บนะ”คยูฮยอนว่า

    “ก็อยากให้เจ็บไงเลยหยิกน่ะ”ร่างบางพูด

    “ทำไมนายไม่อ่อนโยนแบบพี่นายบ้างนะ ตัวแค่นี้แต่โหดเป็นบ้า”ร่างสูงพูด แต่หารู้ไม่ว่ามันสะเทือนถึงจิตใจของร่างบางอย่างรุนแรง

     

     

     

    เพราะรู้ว่านายไม่เคยรักฉัน

    เพราะรู้ว่านายมองแต่พี่ชายของฉัน

    เพราะรู้ว่าไม่มีทางเปลี่ยนใจนายได้

    กฎของความเป็นเพื่อนมันค้ำคอฉัน

    แล้วฉันจะทนได้นานสักแค่ไหนกันนะ...

     

     

    “ไปอาบน้ำแต่งตัวเร็วๆเลยไป”ร่างบางเปลี่ยนเรื่องแล้วรีบดันหลังของคยูฮยอนให้เดินไปทางห้องน้ำ

    “เออๆๆๆ รอแปปนึงละกัน”ร่างสูงบอกแล้วหันมาขยี้ผมของซองมินอย่างเอ็นดู ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป

    “เฮ้อ...แค่เค้าขยี้ผมใจก็เต้นแรงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ยะ”ร่างบางพูดกับตัวเองพลางกุมอกตัวเองเพื่อสัมผัสการเต้นที่ผิดปกติไปของหัวใจ

     

     

     

    ร่างสูงออกมาจากห้องนอนแล้วตรงไปยังห้องรับแขก ซองมินมองคงตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม คยูฮยอนเดินมาเกี่ยวคอซองมินไว้แล้วลากไปด้วยกัน

    “รอฉันนานรึเปล่า?”คยูฮยอนถาม

    “ไม่นานหรอก”ใช่มันไม่นาน ไม่นานเท่าที่ซองมินรอเขาหรอก...

    “งั้นไปกันเหอะ ดงแฮคงรอเราสองคนจนรากงอกแล้ว”ว่าแล้วทั้งสองคนก็เดินกอดคอกันออกไปจากบ้าน ซองมินลอบมองร่างสูงเป็นระยะๆ เขาชอบตอนที่คยูฮยอนขับรถเป็นที่สุด เพราะเขาสามารถแอบมองคยูฮยอนได้ยาวนาน ตอนนี้ก็เช่นกัน ร่างสูงสนใจแต่ถนนเบื้องหน้าโดยหารู้ไม่ว่าคนที่นั่งอยู่เบาะข้างๆนั่งมองตนเองมานานแล้ว

    “นายคิดว่าฉันเหมาะกับพี่ชายนายรึเปล่า”ร่างสูงถาม

    “เอ่อ...ก็ไม่รู้สิ”ร่างบางไม่อยากตอบคำถามแบบนี้เลยให้ตายเถอะ

    “นายต้องรู้สิ นายเป็นเพื่อนฉันนะ เข้าข้างกันหน่อยสิ”คยูฮยอนพูด

    “ไม่เข้า !”ร่างบางตะคอก

    เอี๊ยดด ด ด  !

    คยูฮยอนหยุดรถอย่างกะทันหันแล้วหันมามองซองมินอย่างเอาเรื่อง

    “ทำไมนายพูดแบบนี้ ทำไมฉันถึงไม่เหมาะกับพี่นาย พูดให้มันดีๆนะอีซองมิน ! “ร่างสูงถาม

    “เพราะนายมันขี้เซา นายมันยังเด็ก โตกว่านี้แล้วค่อยมารักพี่ฉันเหอะ”ซองมินพูดแล้วยักคิ้วให้ร่างสูงอย่างกวนอารมณ์ คยูฮยอนจิ๊ปากอย่างขัดใจแล้วขับรถต่อไป

    “คนอย่างนายมันจะไปรู้อะไร ร้อยวันพันปีฉันยังไม่เคยเห็นนายคบกับใครหรือรักใครเลย”คยูฮยอนพูด

    “นายต่างหากที่ไม่รู้อะไร...”

    “นายว่าไงนะ”คยูฮยอนถาม

    “เปล่าหรอก ไม่มีอะไร”

     

     

    คนที่ไม่เคยรู้อะไรเลยคือนายคนเดียว จิตใจฉันมันร้องเรียกหานายมานานแล้ว แต่นายไม่เคยได้ยิน..

    นายไม่เคยรับรู้ ! นายมันโง่ที่สุด !

     

     

    “กว่าจะมาถึงนะคุณเพื่อนที่เคารพ”อีดงแฮทักเพื่อนสองคนที่มาเลตเกือบครึ่งชั่วโมงอย่างกวนๆตามนิสัยของตน

    “ก็คยูฮยอนน่ะสิ ตื่นสาย ขี้เซาชะมัด”ซองมินโยนความผิดไปทางคยูฮยอนก่อนจะแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ร่างสูง

    “แต่นายก็ชวนฉันทะเลาะนะ เราถึงได้มาสายอย่างงี้ไง”คยูฮยอนพูด

    “พอๆ ๆ ๆ ฉันเชื่อซองมิน จบป่ะ?”ดงแฮพูดแล้วเดินเข้าไปยังร้านขายหนังสือ

    “พวกนายจะมาซื้ออะไรกันบ้างเนี่ยะ”คยูฮยอนถามอย่างใคร่รู้

    “มีของที่จะซื้อแล้วกัน ไม่งั้นไม่นัดออกมาช๊อปปิ้งกันหรอก”ซองมินพูดอย่างกวนๆอีกครั้ง

    “นายนี่มัน...”คยูฮยอนนึกประโยคไปเถียงร่างบางไม่ได้จึงต้องจำใจเดินตามดงแฮเข้าร้านขายหนังสือไป ฮึ๊ย ! ฝากไว้ก่อนเถอะซองมิน !

     

     

     

     

    ดงแฮเดินดูหนังสือไปเรื่อยๆ เวลาว่างเขาก็ชอบอ่านหนังสือนี่แหละ หาความรู้ใส่สมองจะได้มีความรู้เยอะๆ แต่ทว่าพอร่างบางดูหนังสือได้ไม่นาน สายตาก็ไปสบกับบุคคลอีกคนที่ยืนมองตนอยู่นานแล้ว

    “คิมคิบอม...”ร่างบางเอ่ยชื่อของคนตรงหน้าอย่างยากลำบากก่อนจะหันหลังแล้วเตรียมจะเดินหนี

    “จะไปไหน?”แต่ทว่าก็เดินหนีไม่ทันเพราะบัดนี้ คิมคิบอมได้คว้าแขนของเขาไว้แล้ว

    “จะไปไหนมันก็เรื่องของฉัน นายอย่ามายุ่ง !”ดงแฮพูดแล้วพยายามสลัดแจนตัวเองให้หลุดจากการเกาะกุมของร่างสูง

    “นายจะหลบหน้าฉันไปอีกนานเท่าไรฮะดงแฮ?”

    “ตลอดชาติไปเลย ฉันเกลียดคนอย่างนายที่สุด!”ร่างบางตะคอก

    “เหรอ? รู้สึกว่าคืนนั้นนายบอกรักฉันทั้งคืนเลยนี่”คิบอมพูดอย่างยียวน

    “หยุดพูดเรื่องเลวๆพวกนั้นซะ ฉันไม่มีทางกลับไปโง่งมงายเหมือนเมื่อก่อนหรอก ไม่มีวัน”ดงแฮมองคนตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง

    “ฮึ ! นายคิดเหรอว่าฉันจะปล่อยนายไปง่ายๆน่ะ ฉันจะทำให้นายตกอยู่ในหลุมของฉันไปตลอดกาล”

    “ทำไมนายต้องทำแบบนี้...”ดงแฮถาม ในใจก็หวังลึๆว่าจะได้ยินคำว่า รักจากปากของร่างสูง

    “เพราะฉันปล่อยนายไปไม่ได้น่ะสิ...คนที่มาบอกว่าเกลียดฉัน คนๆนั้นต้องหลงรักฉันทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่งนาย”แต่ทว่า

    คำตอบกลับทำให้ร่างบางรู้สึกแย่ขึ้นไปอีก

    “นายมันเห็นแก่ตัวที่สุดเลยคิมคิบอม”ร่างบางพูดแล้วผละตนเองออกมาห่างจากคิบอม

    “สิ่งที่ฉันเสียไปฉันจะถือว่าทำบุญทำทาน นายมันแย่มากคิบอม ฉันจะไม่มีวันกลับไปรักคนอย่างนายอีก คนอย่างนายมันไร้ค่า ไอ้ผู้ชายเฮงซวย !”ดงแฮพูดจบก็เดินออกไปจากตรงนั้นทันที

     

     

    “คิดเหรอว่าจะหนีฉันพ้น...ไม่มีวันซะหรอกอีดงแฮ!”คิบอมพูดกับตัวเองแล้วแสยะยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย

     

     

     

    ดงแฮรีบเดินออกไปจากร้านขายหนังสือ ทำเอาคยูฮยอนและซองมินมองหน้ากันไปมองหน้ากันมาอย่างเลิกลั่กกับอาการของเพื่อนรักอีกคน ก่อนจะเข้าใจเหตุผลเมื่อทั้งสองหันไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งในร้านขายหนังสือ

    “คิมคิบอม...”คยูฮยอนพึมพำ

    “นายคาสโนว่านี่เอง”ซองมินพูด คิมคิบอมน่ะได้ชื่อว่าเป็นคาสโนว่าตัวพ่อของโรงเรียน เขาเป็นโฮสต์ชื่อดังของโซล ที่เขาเป็นโฮสต์ไม่ใช่เพราะว่าจนหรืออะไรหรอก เพราะตระกูลของเขาก็เป็นถึงอภิมหาเศรษฐีอันดับต้นๆของเกาหลี เขาเพียงต้องการหาความสุขใส่ตัวแค่นั้นเอง

     

     

     

     

    บ้านตระกูลอี

    “นี่คือคุณหมอฮันคยอง เขาจะมาดูแลลูกตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”อีจองมิน บิดาของอีฮยอคแจ แนะนำคุณหมอคนใหม่แก่ลูกชายอันเป็นที่รัก

    “สวัสดีครับคุณหมอ ผมอีฮยอคแจครับ”ร่างบางโค้งให้ร่างสูงตรงหน้าเล็กน้อย ฮันคยองเองก็โค้งให้ฮยอคแจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่น้อย

    “คุณหมออายุเท่าเรานั่นแหละฮยอคแจ...ตระกูลเขาดูแลเรามาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ คุณหมอฮันคยองเป็นหมอที่เก่งมากนะ พ่อเชื่อว่าเขาจะต้องดูแลลูกอย่างดี

    “ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”ฮยอคแจพูดแล้วยิ้มให้ร่างสูงอย่างเป็นมิตร

    “ครับ”ฮันคยองตอบรับ ร่างบางมองร่างสูงอย่างไม่วางตา เขารู้สึกถูกชะตากับคนๆนี้เหลือเกิน...




    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    อยากแต่งแนวนี้มานานละ วันนี้ได้แต่งสักที
    เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ !!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×