คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : คุยกับไอ้ท้องฟ้า 02 ว่าด้วยเรื่อง 'นิยายเกมออนไลน์'
เรียนท่าน Cidius ขืนผมทำอย่างที่ท่านว่าไว้ในเว็บบอร์ด...ที่ให้ไปไล่วิเคราะห์เจาะนิยายออนไลน์อันดับต้น... สงสัยผมคงจะโดนแฟนของเรื่องเหล่านั้นรุมยำใหญ่แน่ครับ เนื่องจากเมื่อเจ้าของเรื่องยังไม่ได้มีคำสั่งมาแล้วเสนอหน้าไปยุ่ง ใคร ๆ ก็คงมองว่าไอ้ท้องฟ้ามันโจมตีชาวบ้านชัวร์ (ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยสักนิด... คนจะโดนเหยียบตายอ่ะผม!!)
เพราะฉะนั้น... ถ้ายังไงผมขอเป็นการวิเคราะห์ภาพรวมของตลาดนิยายเกมออนไลน์ในมุมมองของตัวเองน่าจะดีกว่านะ สำหรับท่านที่สนใจและอยากจะลองเขียนนิยายแนวนี้ขึ้นมาบ้าง (ส่วนตัวไอ้ท้องฟ้าไม่สนใจเลยครับยกเว้นจะมีไอเดียที่น่าสนใจจริง ๆ ขึ้นมาบ้าง...)
จุดเด่นที่ทำให้นิยายแนวนี้ดังขึ้นมาได้ เป็นเพราะคนที่เล่นเกมออนไลน์นั้นมีเยอะมาก เริ่มตั้งแต่เด็กอายุไม่ถึงสิบขวบดี ไปจนกระทั่งสี่สิบ ห้าสิบ ก็เคยพบมาแล้ว ดังนั้นคนจำนวนมากจึงไม่ต้องปรับพื้นฐานความคิดในการอ่านมากนัก
เพราะพื้นฐานของเกมออนไลน์นั้นแทบจะไม่มีอะไรแตกต่างกันมากเลย แนวเกมซ้ำ ๆ กันเสียเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นโดยตัวรูปแบบของเกมแต่ละเกมนั้นไม่ใช่จุดเด่นอะไรเลย แล้วอะไรล่ะที่วัดความสำเร็จของนิยายแนวนี้ได้
ข้อแรกผมมองว่ามันคือ 'การเข้าถึงครับ'
ลองคิดดูง่าย ๆ ครับสิ่งที่คนต้องการจากนิยายเกมออนไลน์ส่วนใหญ่ก็คือจินตนาการที่เกินความจริง เพราะถ้าเหมือนจริงเขาก็ไปเล่นเกมกันดีกว่าครับเสียเวลาเก็บเลเวลหมด (ฮา)
คำว่าเกินความจริงในที่นี้ก็อย่างเช่น การเป็นเกมเสมือนจริงที่คนเล่นเหมือนได้เดินด้วยเท้า หยิบของด้วยมือ ได้ยินด้วยหู และมองด้วยตาของตนเอง ความรู้สึกยิ่งใกล้เคียงความเป็นจริงมาคนส่วนมากก็ยิ่งรู้สึกอินตามไปด้วย หากเทียบกับเกมที่เล่นแล้วไม่รู้สึกอะไรเลย(มีแต่ความคิด) ก็จะทำให้ไม่รู้สึกลุ้นมากนักครับ
หากว่ากันตามตรงแล้วเกมที่เล่นแล้วเจ็บตัวจริง ใครจะอยากเล่นอ่ะครับ แบบฟันกันทั้งเรื่องเจ็บตัวทั้งเรื่อง คนแบบนั้นไม่มีหรอกครับ(เออหรือว่ามี พวกมาโซฯ อะไรนั่น) ในความเป็นจริงแค่มีดบาดมือ หรือแค่จะฉีดยาเราก็เครียดกันแล้วนา แต่เมื่อเป็นนิยายความรู้สึกนั่นแหละที่จะกระตุกต่อมฮา หรือกระตุ้นอารมณ์กดดันให้มากขึ้นได้เป็นอย่างดีเลยเชียว
เรื่องต่อมาคือมิติของเกมกับความเป็นจริงครับ เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญเนื่องจากว่าเราต้องทำให้คนรู้สึกว่า 'เกมก็คือเกม' ณ ที่นั่น เวลานั้นยังมีคนเล่นอยู่นะ ถึงมันจะเป็นเกมที่ดีและสนุกเพียงใดก็ตาม แต่คนเราก็ยังต้องมีชีวิต การมองข้ามพื้นฐานของเรื่องนี้แล้วเน้นแต่เกมอย่างเดียวเลยแล้วมันจะต่างกับแฟนตาซีทั่วไปอย่างไรหรือครับ ? คำตอบคือแทบจะไม่
ซึ่งผมมองว่ายิ่งชีวิตจริงได้รับผลกระทบจากเกมมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้คนสนใจ และยกระดับเนื้อเรื่องให้มีความโดดเด่นขึ้นมาทันตาเลยครับ ไม่อย่างนั้นมันก็เป็นแค่การเล่นเกมที่ไม่มีจุดมุ่งหมายอื่น พอคนอ่านมองไม่เห็นเป้าหมายของนิยาย บางทีก็จะทำให้ความรู้สึกเริ่มห่างไกลจากนิยายนั้นมากขึ้นครับ
ซึ่งเรื่องมิตินี่ก็ต้องดูคู่กับเรื่อง carácter ประกอบกันไปด้วยครับ ขอยกตัวอย่างเช่น
นายเอ เข้ามาเล่นเกมเพราะอยากเกรียน แต่เกรียนจนโดนจีเอ็มหมายหัว (โดยจีเอ็มนั่นบังเอิญเป็นคนรู้จักนอกจอ)
นายบี เข้ามาเล่นเกมเพื่อฆ่าเวลา เล่นให้สนุกกับเกมไปเรื่อย
นายซี เข้ามาเล่นเกมเพราะจีบสาว จีบไปจีบมาดันเจอช้างน้ำนอกจอ
นายดี เข้ามาเล่นเกมเพราะโดนเพื่อนชวน เล่นไปเล่นมาแล้วติด
นายอี เข้ามาเล่นเกมเพราะกะจะตามสืบว่าลูกหลานตัวเองใช้ชีวิตกันแบบไหน (แอบเนียน)
นายเอฟ เด็กขี้แยไร้เพื่อนเข้ามาเล่นเกมเพราะอยากคลายเครียด แต่กลับไปผูกตัวเองกับเหตุการณ์เหนือคาดหมาย และได้เพื่อนใหม่นอกเกมมาเป็นจำนวนมาก
นายจี เข้ามาเล่นเกมเพราะตนเป็นคนพิการในโลกความจริง และในเกมกลับกลายเป็นบุคคลสำคัญขึ้นมา.. (ข้อสุดท้ายนี่ขอยกตัวอย่าง Avatar เลยครับ)
ในแต่ละเหตุการณ์ก็จะมีน้ำหนักของตัวเองอยู่ ระดับความน่าสนใจก็จะเพิ่มขึ้นตาม 'มิติ' และ 'ตัวละคร' นั่นแหละครับ เรื่องความแตกต่างของตัวเกมค่อนข้างเป็นเรื่องเล็กในความคิดของผมนะ ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าหากระบบเกมซับซ้อนและแตกต่างออกไปก็ยิ่งต้องบรรยายมากขึ้น ซึ่งแนวออนไลน์ส่วนใหญ่ขี้เกียจมานั่งทำความเข้าใจตัวเกมใหม่ แต่เพียงแค่อยากเห็นความแตกต่างทางความคิดในสิ่งที่เขาคุ้นเคยมากกว่า
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมไม่ได้บอกว่าตัวเกมต้องซ้ำซากจำเจเสมอไปนะครับ ในทางกลับกันบางทีแค่ลองเปลี่ยนอะไรง่าย ๆ ก็เป็นไอเดียได้แล้ว ยกตัวอย่างเช่นเกมเลี้ยงสัตว์ แล้วใช้สัตว์นั้นมาเป็นคู่หูที่น่ารักน่าชัง(ดีกันบ้างทะเลาะกันบ้าง เล่นมุขเอไอเฟื่อน ๆ อะไรบ้างก็ได้) แล้วทั้งคู่ต้องเดินทางไปด้วยกัน สู้ไปด้วยกัน โดยตัวเอกเป็นตัวรั่วมีสัตว์พิสดารหรืออะไรก็ว่าไป พอออกไปนอกเกมก็มีระบบแบบ ทามาก็อต หรือโปรแกรมลงมือถือ พกพาไปเลี้ยงดูที่ไหนก็ได้(แต่ต้องล้ำหน่อยนาไม่ใช่จุด ๆ แบบเก่า) ซึ่งแบบนั้นจะทำให้เราสามารถสร้าง Event ทั้งในทั้งนอกเกมได้อีกมากโขเลยทีเดียว
หรือกระทั่งระบบสคิลที่ซ้ำซากจำเจ แบบของที่ใคร ๆ ก็มีมันเฉย ๆ อ่ะครับ บางครั้งก็ต้องสร้างจุดเด่นบางอย่างขึ้นมาเช่น ไอเท็มลับ สคิลลับ แบบแปลก ๆ ให้ตัวเอกไปทำอีเวนท์แล้วได้มาเป็นของตัวเองเป็นต้น
ภาพรวมคร่าว ๆ ในความคิดผมก็แบบนี้แหละ และคิดว่ามาแลกเปลี่ยนความคิดแบบนี้น่าจะมีประโยชน์กว่านั่งวิจารณ์เรื่องต่าง ๆ นะ ^^
ความคิดเห็น