ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Wing of Release

    ลำดับตอนที่ #2 : บันทึกลับ... แซ่กๆๆ... (เซ็นเซอร์)

    • อัปเดตล่าสุด 8 มิ.ย. 51



    จะว่าไปบทนำนี้ก็ไม่เรียกว่าเนื้อหาภาคสองหรอกนะแค่การปูพื้น + สรุปภาค Destiny นั่นแหละครับ ^^

    คือ... บันทึกนี้เป็นบันทึกที่ผมแอบไปจิ๊กมาจากคนดังคนหนึ่ง มาให้อ่านกันเลยนะนี่
    (ถ้าหมอนั่นรู้มันร้องไห้แน่ หึหึ)



    ======================



        
    บันทึกลับของ... แซ่กๆๆ... (เซ็นเซอร์)

         ขออภัยที่ต้องปิดบังชื่อแต่มันจำเป็น ความจริงผมเกือบจะลืมชื่อจริงผมไปแล้วล่ะ


         ส่วนอะไรดลใจให้ผมเขียนไดอารี่นี่ ก็คงต้องบอกว่าวิญญาณนักเขียนเข้าสิงแล้วครับ... บอกก่อนผมชายแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มแต่มันก็ต้องมีบ้างที่จะระบายอะไรกันสักหน่อย...

         ยิ่งคนแบบผมนี่!


         หลังจากนิยายเรื่อง "สายธาราฯ" วางแผงเป็นครั้งแรกนับมาก็จวนจะสี่ปีแล้ว ตอนแรกผมก็ไม่คิดหรอกนะว่ามันจะขายดิบขายดีอะไรขนาดนั้น ดีจนคนอ่านอยากจับผมกระทืบตายโทษฐาน "จบเศร้า"


         ก็ผมอ้างอิงจากความจริงนี่...


         สุดท้ายก็ไปไหนไม่รอดต้องไปพึ่งเพื่อนผมที่เป็นยอดหมอนินจา และเขาก็โยนกลองไปให้ยอดกุนซือ... แน่ล่ะผมไม่มีทางเลือกนี่นาสาบานได้ ถ้าไม่อยากตายเพราะแฟนนิยายนะ


         แต่...


         ใครเล่าจะรู้ว่ามันเป็นการหนีแมวเข้าอ้อมอกไดโนเสาร์พันธุ์ T- Rex...


         คุณรู้ไหมครับว่าผมต้องเผชิญกับอะไร

         คุณคงจะตอบว่าใครจะไปรู้วะ บางคนคงแถมคำด่าผมมาด้วยสิท่า

         จะเล่าก็ได้... ผมคงไม่ต้องกลัวหรอกมั้ง เพราะบันทึกนี้ของผม... ของคนอย่างผมที่ถูกองค์กรหนึ่งปิดข่าวสารทั้งหมดไว้เงียบกริบที่สุด รับรองได้บันทึกนี้คงไม่รั่วไหลไปให้ใครอ่านหรอก


         ทำไมน่ะหรือครับเพราะผมเป็นผู้นำสารลับขององค์กรนรกนั่น มีชื่อตำแหน่งสุดแสนจะหรูหราว่า Phantom Agency แปลว่า "ตัวแทนในเงามืด" เท่ไหมครับคุณว่า?

         แต่ให้ตายสิมันก็คือเบ๊ดีๆนี่เอง งานสารพัดโดนโยนมาให้ผมจนอยู่ไม่ติดที่ เริ่มตั้งแต่คอยสืบข่าวมาแจ้งให้ท่านหัวหน้า การส่งข้อความให้ผู้นำแคว้นต่างๆ โดยหน้าฉากผมเป็นนักหนังสือพิมพ์ธรรมดา...

         อ่อ... การเจรจานี่ก็คล้ายๆข่มขู่นั่นแหละครับ แต่คงไม่ง่ายนักที่คุณผู้นำที่เคารพจะเก็บ หรือจะตามจองล้างจองผลาญผมคนนี้


         หึหึ


         ก็ผมเข้าไปแบบสวมหน้ากากทั้งหน้า... หน้ากากเวทไม่มีทางหลุดแน่ ที่สำคัญผมไม่ได้ไปคนเดียวผมไปกับกองกำลังนรกที่เพื่อนผมเสี้ยมสอนมาอย่างดี

         ฟังไม่ผิดครับนรกจริงๆ ก็พี่แกเล่นใช้เทคโนโลยีเหนือชั้นยังไม่พอ มิหนำซ้ำยังมีเทคโนโลยีเวทมนตร์มาช่วยเสริม ซึ่งที่มากับผมเป็นกลุ่มที่คัดมาเป็นพิเศษจาก 12 หน่วยนรกนั่น... ใช่ครับพวกที่ตามผมนี่เรียกว่า "ไอ้โคตรนรก" ก็คงไม่ผิดนัก

         เขียนไปเขียนมา... ถ้ามีใครมาเห็นเข้า ผมจะโดนส่งไปนรกขุมไหนหว่า...

         ชักเสียวไส้เหมือนกันแฮะ...


         แต่เอาน่าแฉมาตั้งขนาดนี้แล้ว (อันนี้ผมทำเสียงแข็งไปงั้นแหละครับ ใจจริงผมยังกลัวตายอยู่นา)

         องค์กรที่ว่านั่นนะครับเป็นองค์กรใหญ่ระดับคุมโลกอยู่เบื้องหลังทีเดียว เพราะสัญญาที่ให้ไว้กับปีศาจ... ฟังแล้วน่าหัวร่อ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อมันเป็นไปแล้ว


         และที่เป็นเช่นนี้ได้ก็เพราะห้าแกนนำสำคัญ...


         แกนแรกนายทหารเกษียณอายุแต่อำนาจยังตามมาไม่ขาดเป็นที่รู้จักไปทั่ว... แต่หลังฉากใครจะไปตรัสรู้ว่าตาแก่นี่เป็นผู้ควบคุมการสร้างยุทโธปกรณ์ ระดับที่เอาเทคโนโลยีซึ่งไม่มีใครในโลกเคยเห็นเอาไว้เสริมกองกำลัง


         แกนต่อมาเป็นน้องชายของคนข้างบนนั่นแหละครับเกษียณตามกันมา รายนี้สวมบทพระบู๊ควบคุม จัดสรรบุคลากรขององค์กร... แน่นอนครับว่ารวมกองกำลังนรกที่เพื่อนผมเป็นคนจัดหาและฝึกมานั่นด้วย...


         แกนที่ดูจะธรรมดาที่สุดก็คือนักธุรกิจคนหนึ่ง ซึ่งทำหน้าที่ในการจัดการดูแลเรื่องต่างๆ และเป็นผู้สร้างหน้าฉากขององค์กรให้กลายเป็น บริษัทกิ๊กก๊อกที่จะล่มแหล่มิล่มแหล่


        
    ฮะๆๆ


         ล่มแน่ครับความจริงแล้วคุณพี่กระจายเงินเก็บไปยังธนาคารทั่วโลกด้วยนามแฝงต่างกันไปปิดข่าวโดยองค์กรเช่นเคย และนั่นแหละครับตัวเงินที่แท้จริง มันถึงขนาดทำเศรษฐกิจโลกล่มได้เชียวนา ปิดบังเนียนแค่ไหนคิดเองครับ


         คนต่อมา... ถ้าไม่มีคุณเจ้าของโรงเรียนตัวเงินทุนคนนี้งานก็คงไม่ราบรื่นเท่านี้หรอก เพราะเดิมทีเขาก็เป็นมหาเศรษฐีติดอันดับโลกอยู่แล้ว ขานี้ค่อนไปทางบริหารโรงเรียนของตนมากกว่า ไม่ค่อยมีปัญหากับผมหรอกครับ


        
    และ...


         คราวนี้ถึงเสียทีเจ้านายผม...

         เฮ้อ... ขอถอนหายใจหนึ่งเฮือก...

         พี่แกเป็นมนุษย์ที่น่ากลัวกว่าปีศาจครับขอสาบานด้วยสัตย์จริง ผมยืนยันไม่เปลี่ยนคำพูดเพราะปีศาจก็อยู่ข้างหมอนี่เสมอ นั่งโขกหมากบ้าอะไรก็ไม่รู้กันอยู่นั่น ตัวปีศาจผมขาวเองถ้าจะนับเป็นผู้ช่วยพิเศษขององค์กรก็คงได้ครับ เพราะคำปรึกษาเรื่องเทคโนโลยีเวทต่างๆก็มาจากหมอนั่น และยังเป็นผู้ช่วยเจ้านายผมในเรื่องการจัดสรรข้อมูลเสียอีกแน่ะ

         และ... งานทั้งหลายแหล่ก็จะประดังใส่หัวผม...

         เจ้านายครับ เจ้านายเล่นทำงานกันสองคนสั่งผมคนเดียวก็ตายสิครับ หนึ่งมนุษย์หนึ่งปีศาจที่เคยป่วนโลกด้วยสมองของตนมารวมหัวกันจิกใช้ผมเนี่ย มันน่าไหมล่ะครับ!!!


         ผมยอมรับว่าในยุคพรรณนี้สงครามไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน

         เพราะองค์กรบ้านี่...

         สัญญาที่ให้ไว้กับท่านเทพปีศาจเป็นจริงแล้ว


         แต่...


         แล้วผมล่ะใครมองบ้าง...

         ผมเองก็เคยคิดจะเก็บท่านเจ้านายอยู่เหมือนกัน แต่ก็อีกนั่นแหละเก็บไปแล้วจะได้อะไร... ผมไม่แน่ใจว่าเด็กผีจะไปลากพ่อมันขึ้นมาจากนรกให้หรือเปล่า...

         ไม่สิ ต้องลากแน่ผมขอฟันธง

         ผมไม่ได้ฝันหรือเพี้ยนหรอกนะ... ที่ผมพูดไปคือเบื้องหลังของโลกนี้ที่จริงแท้ที่สุด


         ไม่เป็นไร ผมไม่ขอให้คุณเชื่อ ก็อย่างที่ว่าผมก็แค่ระบายลงในที่ซึ่งผมคิดว่า "น่าจะ" ปลอดภัย


         เอาเป็นว่า... กระดาษแผ่นนี้ผมเปิดเผยให้ใครไม่ได้เลยก็แล้วกันแม้แต่คนในด้วยกัน...

         แหงล่ะครับ...ไปแฉปนด่าซะขนาดนี้ ผมมิวายต้องกลายเป็นศพเพราะองค์กรนรกนี่แน่!!!



         ลงชื่อ <บุคคลที่ซวยที่สุดในโลก>



    ===================================


    ไอ้ท้องเหล่ขึ้นไปข้างบนแล้วส่ายหน้าไปมา เอ่ยเสียงค่อยจับความได้ว่า...

    "ลับบ้านแกคนอ่านเต็มไปหมด..."


    ป.ล. มีใครเดาไม่ออกบ้างไหมครับว่าหมอนี่คือใคร เอิ้กๆ


    ละครสั้นแบ๋ไต๋แอบเนียน

    "คุณบู... ผมมีอะไรจะบอก" ไอ้ท้องว่า...

    "ไม่ต้องผมไม่อยากรู้" อีกฝ่ายตอบ

    "รู้สึกคนอ่านลืมคุณไปกันหมดแล้วนะเนี่ยขอแสดงความเสียใจด้วยครับ"

    "!!!"
    (อย่ามาทำให้ชีวิตผมรันทดกว่านี้ได้เปล่าครับไอ้คุณคนเขียน!!)



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×