คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Dream Box ผู้พิทักษ์ความฝัน by -ลูกหมู-
Dream Box ผู้พิทักษ์ความฝัน by -ลูกหมู- (ระดับคอมเมนต์ 3)
สวัสดีครับ เริ่มต้นก็ต้องทักทายกันก่อน...โครงการคอมเม้นต์นิยายนี้หลายคนอาจจะจำไม่ได้แล้วว่ามันมีอยู่ในโลกใบนี้ หรือไม่ก็คิดว่าไอ่ท้องฟ้ามันดองสนิทล้มเลิกโครงการไปเรียบร้อย... (อันที่จริงก็เกือบไปแล้วแหละ)
นิยายเรื่อง Dream Box ผู้พิทักษ์ความฝัน ของคุณหมูนี่ ผมอ่านชื่อแล้วความรู้สึกแว่บแรกบอกว่าเป็นเรื่องเบา ๆ น่ารัก ๆ สไตล์คล้ายไลท์โนเบลของญี่ปุ่นเลย (แต่แอบเห็นชื่อตอนแล้วก็ลังเลนิด ๆ อยู่เหมือนกันแฮะ)
พอเข้าบทนำมาผมก็ยิ่งมั่นใจว่าเรื่องนี้เบา...สีตัวอักษรมันเบาไปครับ นี่เป็นสิ่งที่นักเขียนหลายคนเผชิญอยู่โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวเพราะสีตัวอักษรของเด็กดีนี่ถ้าไม่ปรับมันจะไปลงอยู่ที่ auto คนเขียนเห็นว่ามันดำแต่อันที่จริงมันเทานะนั่น ซึ่ง...จะทำให้อ่านในเว็บยากขึ้นจมเลย บางคนเห็นสีแบบนี้แล้วหนีก็มีนะครับ
ส่วนทางแก้ง่ายมากเลย...เข้าไปแก้ไขนิยายกด ctrl+a คลุมให้หมดแล้วกดเลือกสีเป็น ‘สีดำ’ ช่องเล็ก ๆ นั่นแหละครับอย่าได้ใช้ออโต้ทีเดียวเชียว
เกริ่นนำจบแค่นี้ละกัน จากนี้จะเริ่มเข้าเรื่องคอมเม้นต์จริงจังกันสักที เริ่มต้นกันที่บทนำ...ถ้าเป็นระดับอื่นผมคงข้ามไป แต่เมื่อเป็นระดับ 3 แล้ว...ผมว่าสำนวนของคุณหมูยังมีอะไรแปลก ๆ อยู่มากนะนี่ ถึงบทนี้จะสั้นมากแต่แววก็บอกเลยล่ะว่าระดับบทบรรยายของคุณหมูมันเหลื่อมกับประโยคพูดพอสมควร และนั่นทำให้กระบรรยายไม่เชื่อมกับคำพูดเท่าที่ควรครับ
คุณหมูอาจจะคิดว่าการบรรยายคือการใช้สำนวนสวย ใช้คำที่ยกระดับขึ้นมาจากปกติ แต่อันที่จริงผมไม่คิดอย่างนั้นนะ ในทางกลับกันผมคิดว่าการบรรยายคือ ‘ตัวเชื่อมเนื้อเรื่อง’ มากกว่า หรือพูดให้ง่ายขึ้นมาอีกหน่อยก็คือส่วนสำคัญที่จะทำให้เนื้อเรื่องทั้งหมดลื่นไหลไปโดยตลอดรอดฝั่งนั่นเอง ดังนั้นคำบรรยายมันก็ควรจะอยู่ในระดับเดียว...หรือระดับที่ใกล้เคียงกับคำพูดมากกว่าจะกระโดดไประโดดมา
เปิดตอนที่ 2 ยิ่งทำให้ผมรู้สึกถึงความเป็นไลท์โนเวลหรือ หนังสือการ์ตูนที่มีภาพประกอบด้วย แต่ในนิยายแล้วเราไม่สามารถเห็นทั้งรูปและเสียงพร้อมกันได้ เราต้องพยายามที่จะไล่เรียงลำดับของสิ่งที่เกิดขึ้นให้เป็นนิยาย ซึ่งโดยปกติแล้วจะลำดับการเขียนโดยบรรยายให้เห็นภาพก่อนแล้วจึงใส่เสียงลงไป เพื่อดึงอรรถรสของคนอ่านให้ได้มากที่สุดครับ อย่างเช่นก่อนที่จะมีเสียง “จ๋อม” ก็อาจจะมีการบอกสถานที่กันนิดหน่อยประมาณว่า...(ข้างล่างนี่ผมเขียนเล่น ๆ นะ)
น้ำใสในบ่อถูกโอบด้วยแนวหิน...บางสิ่งบางอย่างเม็ดกลม ๆ จำนวนนับไม่ถ้วนโปรยปรายลงสู่บ่อ
จ๋อม!
เสียงอาหารเม็ด....
จะเห็นว่าสิ่งที่ผมใส่เพิ่มไปมันก็แค่ประโยคง่าย ๆ ประโยคเดียวเท่านั้นเอง (เหมือนใส่รูปให้ดูก่อนแบบการ์ตูนแหละครับ)
ส่วนอื่นไหลลื่นดีครับ ภาษาของเหล่าเทพดูเหมือนจะมีหลายยุคผสมกัน แต่กลับดูเข้ากันได้แบบแปลก ๆ ก็ไม่ถือว่ามีอะไรเสียหายครับถ้ามันเข้ากันได้ดีแบบนี้ (ผมว่าดีกว่าบทนำมากเลยแฮะ)
-สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่พวกเขาเป็นตาเดียว << แปลกครับใช้ทางดีกว่า
-นัยนตา ลืมการันต์ครับ
-เรื่องนี้รวมวัฒนธรรมญี่ปุ่นกับฝรั่ง หรือมีทูตเทพจากต่างแดนกันล่ะนี่ แปลก ๆ นิดหน่อยที่มีแฟรี่ออกมาแฮะ
ตอนที่ 3 ผมว่าคุณหมูตัดบทเร็วมาก ระวังคนอ่านจะตามจังหวะไม่ทันนะ เพราะอย่างว่านิยายไม่ใช่การ์ตูนที่มีภาพอยู่แล้วน่ะครับ ดังนั้นทุกครั้งที่ตัดฉากจึงควรมีภาพวิวทิวทัศน์บ่งบอกสถานที่สักหน่อย การตัดฉากบ่อยเกินไปจึงทำให้นิยายท่านขาดตรงจุดนี้ไปพอสมควร (คล้ายการ์ตูนที่ไม่ค่อยวาด background น่ะครับ) คนเขียนเรามีภาพในหัวอยู่แล้วจึงไม่เป็นไร แต่คนอ่านไม่ใช่ ตรงจุดนี้เป็นสิ่งพึงระวังพอสมควรครับ (ผมโดนบ่นบ่อย...)
-ตอนนี้กำลังจะเกิดเรื่องแล้วสินะนี่ แววรบราฆ่าฟันแผ่ออกมาเต็มที่เลยนะนี่ เอิ้ก ๆ
-และต้องขอชมส่วนสุดท้ายของตอนครับ (ตั้งแต่ แสงแดดส่องกระทบทุ่งกว้าง เป็นต้นไป...) ส่วนนี้เขียนนำเสนอทั้งภาพ ทิวทัศน์ และชีวิตของตัวละคร ได้ดีเลยเชียว ถ้าเขียนแบบนี้ทั้งเรื่องผมว่าจะหรูมากเลยเชียว
ตอนที่ 4 ฉากต่อสู้เขียนได้กระชับ รวดเร็วใช้ได้เลยล่ะครับ เพียงแต่มันแปลก ๆ ตรงใช้เสียงเยอะไปนิดนี่สิ อันที่จริงใช้บรรยายเข้าเสริมน่าจะทำให้น่าสนใจขึ้นอีกพอสมควรเลยล่ะ
ตอนที่ 5 “จะรีบไปไหนเล้า” << จงใจเลียนเสียงสูงหรือเปล่าครับ แต่ผมว่ามันก็แปลก ๆ อยู่ดีนะ
-เจ้าชาคุนี่มันเปิดเผยข้อมูลง่ายจังแฮะ (ถามว่าชื่ออะไรก็ตอบ ถามว่ามีพวกกี่คนก็ตอบ -0-)
-และก็ทำให้เริ่มรู้สึกว่าคุณหมูอาจจะไม่ถนัดการบรรยายก็ได้ (หรืออาจจะขี้เกียจหว่า) เพราะอ่านจากตอน 3 ก็เขียนได้ดีนี่นา...ตอน 5 นี่คำบรรยายคุณหมูสั้นมากเลย ถ้าผมไม่ได้อ่านการ์ตูน ดูเมะบ่อยคงตามไม่ทันอ่ะครับ (และจะต้องมีแน่ ๆ นักอ่านนิยายที่อ่านตามเรื่องของคุณหมูไม่ทัน)
-ที่ห้วนที่สุดก็บรรทัดสุดท้ายเลยครับ น่าจะต้องเติมอะไรสักนิดนะ (ส่วนตัวผมคงใส่ว่า พริบตานั้นชายหนุ่มก็หายตัวไป...) อะไรประมาณนั้นมั้ง...
ตอนที่ 6 คำผิด....สัตรู (คำนี้ชัดมาก)
-แอบขำสุซาคุครับ “อ้าว...ผู้หญิงหรอกรึ ดี แบบนี้ข้าจะได้ตบเจ้าแบบไม่เกรงใจ” นี่ตกลงถ้าบู๊กับผู้ชายก็จะเกรงใจไม่ตบให้เสียโฉมใช่เปล่าครับ 555+
ตอนที่ 7
บทสนทนาดูมีชีวิตดี ตอกย้ำเรื่องจุดแข็งของคุณหมูได้ดีมาก แต่ทฤษฎีเรื่องกล่องแห่งความฝันนี่มันออกแปลก ๆ นิดหน่อย ผมยังไม่ค่อยเข้าใจแฮะ
ตอนที่ 8
บทบรรยายเยอะขึ้น และดีขึ้นพอสมควรครับ (สงสัยจะเขียนมาพักนึงแล้ว ก็เลยเริ่มจับจังหวะได้ เริ่มเข้าที่แล้วสู้ต่อไปครับ!) ^^
ตอนที่ 9
เบี๊ยกโกะมันลุกขึ้นมาตอนไหนอ่ะ ย่อหน้าที่ 3 มันยังนอนอยู่เลย มาย่อหน้าที่ 7 โอตะมันดันมาอยู่ข้างหลังเบี๊ยกโกะได้เฉยเลย (ดำดินมาเตะ ?)
-ยิ่งอ่านสุซาคุ แล้วยิ่งขำแฮะ น่าจะเป็นตัวละครที่มีชีวิตที่สุดในตัวละครทั้งหมดแล้ว บทรั่วเอาเรื่องเลย (ขนาดบู๊กันยังเหมือนแสดงฉากสาวตบกันอีก) แล้วท่าไม้ตายสุดท้าย... จะตามเผาไหม้...ลามเลีย... นี่มันอะไรนี่ จะมีลวนลามโผล่มาอีกอย่างให้ Y เล่นหรือเปล่านิ!
-สรุปเก็นบุเก่งสุดในกลุ่มผู้พิทักษ์สินะ...
ตอนที่ 10
-เจาะแขนตัวเอง...ให้ไฟเผากระดูกเล่น << แล้วมันรอดมาได้ไงเนี่ย...
ตอนที่ 13-15 (ขอรวบเลยนะ)
-สารภาพว่าตอนนี้ผมตามไม่ทันครับ คามิยะกับฮานาโกะ ที่คุยกันบนดาดฟ้ามันแปลกนิดหน่อย แค่เรื่องที่ตอบในห้องเรียนเหมือนคนมึน ๆ เมา ๆ กลับเอามาคิดเป็นตุเป็นตะแบบแปลก ๆ ตัวคามิยะเองรู้ทั้งรู้ว่าเป็นฝัน แถมยังแค่ครั้งเดียวแต่ก็ยังอยากให้คนอื่นเชื่อว่ามันเป็นของจริง มันมีอยู่จริงอีก...?
-ว่าแต่เซริวกับซุสาคุแอบมาเล่นตลกอะไรกับเด็กหว่า...หรือว่า...หรือว่าเรื่องจริง ๆ กำลังจะเริ่มจากตรงนี้ครับคุณหมู! ให้พวกเหล่าเทพเข้ามาให้ความฝันเด็กแทนกล่องที่โดนชิงไป อะไรประมาณนั้นน่ะ...
ป.ล. เป็นเทพแต่โดนเด็กแอบฟังได้ เสียเลยนะนั่น (ทั้งแฟรี่ ทั้งซุสาคุ) 555
ภาพรวมเนื้อเรื่อง...ผมว่าคุณหมูกะเขียนอีกยาวไกลแหงเลย และผมเองก็ยังจับอะไรไม่ค่อยได้ เพราะตัวละครเองก็เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ แต่คิดว่าน่าจะบู๊กันอีกหลายยกแน่ ๆ ในด้านเนื้อเรื่องนี้ก็อยู่ในเกณฑ์น่าติดตามดีครับ อยากรู้ว่าต่อไปจะเป็นเช่นไร
ภาพรวมการดำเนินเรื่อง ก็อย่างที่ว่าไว้ในตอนต้นที่คุณหมูเด่นในเรื่องประโยคคำพูดที่ลื่นไหล และค่อนข้างลงตัว แต่การบรรยายยังดูน้อยไป ซึ่งทำให้คนอ่านจับบรรยายกาศเรื่องได้ไม่ชัดเท่าไหร่นัก หากพูดไปการใช้ภาษาก็คงคล้ายนิยายสืบสวนมากกว่านิยายแฟนตาซี การเขียน...จะใช้แนวทางนี้ก็ไม่ผิด เพียงแต่ต้องปรับนิดหน่อย...ในเมื่อสืบสวนคือเรื่องที่อยู่ในชีวิตประจำวันจึงไม่จำเป็นต้องสาธยายอะไรมากนัก และเน้นที่ประโยคคำพูดคม ๆ ได้เต็มที่ ทว่าแฟนตาซีส่วนหนึ่งก็คือจินตนาการ และไม่มีใครที่จะตามจินตนาการของคนเขียนทันแน่หากคนเขียนไม่อธิบาย จึงควรจะเน้นบรรยายให้มากกว่าที่เป็นอยู่นี้สักหน่อยครับ อีกทั้งยังควรลดการตัดฉากลงบ้างครับ
ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนตัวทั้งสิ้น และไม่มีทฤษฎีอะไรมาประกอบการอธิบาย ถือเสียว่าเป็นคอมเมนต์ของนักอ่านคนหนึ่งจะดีกว่าการมาวิจารณ์อะไรนะครับ
tongfar
ความคิดเห็น