คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Release 04 [การตัดสินใจ]
เอาล่ะหลังจากหายไปนาน ผมกลับมาอีกแล้วววว!
เปลี่ยนชื่อตอนหน่อยดีกว่า มันยาวกว่าที่คิด ไปไม่ถึงง่ะ (แหะๆ)
Release 04
"นาน..." สาวน้อยผมน้ำตาลนั่งหน้ามุ่ยในห้องรกๆ เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ซึ่งก็มีแต่ภาพวิวเดิม...
"นานเกินไปแล้วนะ" ตามปกติจะปัญหาอะไรก็ตาม "เขา" ก็มักจะแก้สำเร็จภายในแค่ไม่ถึงชั่วโมง แต่คราวนี้กินเวลาไปกว่าครึ่งวันแล้วเขาก็ยังไม่กลับมาเสียที มิหนำซ้ำงวดนี้... ไร้ร่องรอยอย่างแท้จริง แม้แต่จิตก็จับไม่ได้ ไม่รู้ว่าอยู่นอกอาณาเขต หรือว่าโดนอะไรบางอย่างคลุมทับเอาไว้กันแน่
"ไม่ลองตามไปเหรอคะ?"
เสียงน้อยๆเอ่ยเสียงใส และไม่ใช่ใครอื่นแหวนที่นิ้วของเธอนั่นเอง
"...." เธอมองมันเงียบๆ แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรออกมา
"ไม่แน่อาจจะไปพัวพันกับอะไรบางอย่างก็ได้นะ"
ดีเวนัสพูดเสริม ทำให้ลีนหันมานั่งใช้ความคิดอย่างเต็มที่จนคิ้วแทบจะม้วนชนกัน
จะว่าไปก็รู้สึกแปลกๆตั้งแต่เมื่อครู่แล้วน้า ถึงได้เริ่มใช้จิตจับกระแสจิต แต่มันก็ดูเหมือนจะช้าไปหน่อย...
"เอาล่ะไปกันเถอะ!"
"ค่า!" แหวนน้อยทั้งห้าขานตอบอย่างสดใส อันที่จริงมันอาจจะดีใจที่จะได้ออกจากห้องอุดอู้นี้ ไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกกันสักที
สาวผมน้ำตาลตัดสินใจแล้วกระโดดลุกขึ้นทันที การสะบัดข้อมือเพียงครั้งเดียวทำให้ฝุ่นที่เกาะชุดสีขาวหลุดออกในพริบตา จากนั้นก็รีบเดินตรงรี่ไปเปิดประตูฝืดๆดังเอี๊ยดใหญ่ แต่สิ่งที่รอคอยอยู่ทำให้เธอต้องหยุดกึก ออร์คหน้าดุตัวเขียวล่ำบึ้กยืนกอดอกรอท่ากันอยู่สองตน...
ยักษ์เฝ้าประตูชัดๆ
"คือ... มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ?" เธอถามเสียงแห้งๆ ดูท่าจะแปลกใจใช่น้อย ร้อยวันพันปีไม่เคยมาเฝ้าจังก้าแบบนี้ แบบนี้มันเหมือนกับบอดีการ์ด หรือไม่ก็...
ยักษ์เขียวส่ายหน้าพร้อมกัน
"จะไปไหน?"
พี่ออร์คคะมันจะไม่ห้วนไปเหรอ อย่างกับฉันเป็นนักโทษแน่ะ ว่าแต่ฉันจะไปไหนดีนะ?
ลีนเหลือบตาหลบขึ้นฟ้าไปครู่หนึ่งเพื่อคิด แต่เมื่อเผยอปากจะตอบกลับโดนสวนกลับอย่างฉับพลันว่า
"ท่านบุดันบังสั่งห้ามไม่ให้ไปเพ่นพ่านที่ไหนระหว่างที่ท่านไม่อยู่"
"เอ๋?"
"เพราะฉะนั้นกลับที่ด้วย"
ปัง!
พูดไม่ทันขาดคำประตูก็ปิดใส่หน้าอย่างแรง จนปากของเธอสั่นแหงกๆ พูดอะไรไม่ออก มันเกิดขึ้นรวดเร็วมาก!
สองคนนั่นเล่นอะไรกับฉันเนี่ย! หนีไปเที่ยวที่ไหนกันเหรอไงยะ!!
ตามใจแล้ว กลับมาล่ะน่าดู!!!
สาวหน้าบูดวีนในใจ หันค้อนออกนอกหน้าต่าง และด้านนอกก็มีคนคุมอยู่เช่นกัน บ้านนี่ตอนนี้มันเป็นคุกชัดๆ!!
วูบ!!
โครม!!!!
หมัดหินแกร่งซัดเข้าใส่กำแพงหินอย่างจังจนเกิดเสียงดังลั่น แม้จะแรงแต่ก็เชื่องช้ามีหรือจะหวดโดนลูกลิงดรีมได้ ถ้าอยู่ดีๆแล้วหมอนั่นไม่เกิดชะงักไปวูบหนึ่ง มืออีกข้างของเจ้าปีศาจหินหวดยัดเข้าใส่ใบหน้าอย่างรวดเร็วจนเขาสะดุ้งรู้สึกตัวขึ้นมาได้ทันฉิวเฉียด
ตึง!!!!
"อี๋~~~" เจ้าตัวดีทำหน้ายี้แล้วลากเสียงยาว หมัดของมันทะลุเข้าไปในหินข้างใบหน้าเขา นิดของนิดเดียว ขนาดที่ว่าแก้มมีรอยถลอกเลือดซิบ
"เฮ้ย! ดรีมเป็นอะไรหรือเปล่า!!" ท่านออร์คที่เป็นผู้ชมอยู่ห่างๆ ตะโกนลั่น ความจริงเจ้าตัวก็อยากจะเข้าร่วมอยู่เหมือนกัน แต่เพิ่งจะโดนดีดกระเด็นออกไปไม่นานนี้เอง แถมดาบคู่สุดสวยก็แตกกระจายไร้ชิ้นดี บทใช้เวทก็ไม่ได้ผลอีก สรุปตอนนี้เป็นได้แค่กองเชียร์...
ดีใจตายล่ะ มีออร์คตัวเขียวๆมาตะโกนโหวกเหวกเชียร์เนี่ย!!
เด็กหนุ่มผมน้ำตาลคอยดูท่าทีเจ้าสัตว์ประหลาด เพื่อจะฉวยจังหวะปลีกตัวจากภาวะฉุกเฉิน แต่ทว่ามันกลับยืนนิ่งตามไปด้วย เหมือนจะรอให้เขาขยับ
ได้ๆ เดี๋ยวสวย!
ดรีมขยับข้อเท้าเล็กน้อยทำเหมือนจะเตะ ดึงความสนใจของมันเอาไว้เล็กน้อยแต่กลับกระโดดฉีกออกข้างแทน มันกระโดดตามเหมือนรอเอาไว้แล้ว รอยยิ้มผุดที่มุมปากพร้อมดาบที่แทงซัดเข้าใส่กลางอกของเจ้าปีศาจหิน สายลมอันอัดแน่นกระแทกเข้าจังๆ แต่มันก็สลายไปในพริบตาเดียวกัน ดรีมง้างแขนซ้ายเหมือนรอเอาไว้แล้ว บางสิ่งบางอย่างคล้ายดวงแสงแผ่ขยายออกมาจากมือ และพริบตาเดียวที่มันหมุนวนม้วนเข้ารวมกัน หุ้มกำปั้นเอาไว้บางๆ
"เปรี้ยง!!" เขาบิดตัวหลบการจู่โจมของมัน แล้วเหวี่ยงหมัดเข้าเต็มหน้าที่เป็นหินแกร่งจนหัน ก่อนจะเล็งดาบสีดำแทงเข้าที่อกตรงๆ จนมันกระเด็นกลิ้งโค่โล่ไป
"เฮอะ อย่าดูถูกกันดีกว่า มือเปล่าต่อยโมโนซากายังทำมาละ...!"
เขาพูดได้แค่นั้นก็ต้องหยุดกึก เพราะเจ้าบ้านั่นทำทีเป็นบิดคอดังครึ่กๆ แล้วลุกขึ้นมาแสยะยิ้มให้ด้วยปากสีแดงฉาน...
=แต่โมโนซากานั่นก็ไม่แตกสักหน่อยนี่คุณดรีม
แน่ะ... ยังมีกัดอีกดาบนรก!
"ว่าแต่นายเถอะเป็นโมโนซากาทั้งที ไหงแทงมันไม่เข้าล่ะวะ!!"
=เวลาคุณเอาเหล็กจิ้มเหล็ก มันจะทะลุเปล่าครับ แล้วถ้าเหล็กที่คุณถือมันไม่แหลมหรือคมสักนิดจะมีรอยหรือเปล่า? เหล็กมันก็แค่ตัวอย่าง แต่ทั้งมันและผมเป็นอย่างอื่นที่อานุภาคหนาแน่นกว่านั้นเยอะ สิ่งที่คุณเห็นว่าแหลม ต่อหน้ามันและผมก็เปรียบเสมือนเหล็กทื่อๆเท่านั้น
นะ... หนอย กัดนิดเดียวมันถียงมาเป็นชุด! ให้ตายสิแล้วจะทำยังไงกับไอ้บ้านี่ดีวะ!!
ลบล้าง... ลบล้าง...
"ลบล้างเวท" มันคืออะไรกัน ถ้าไม่เข้าใจเห็นทีงานนี้รากเลือดแน่!
ถ้าเป็นเส้นดินสอบนกระดาษ ก็ต้องใช้ยางลบ มันคล้ายๆการขัดถูให้หลุดออกไป...
ถ้าใช้ลิควิดหรืออะไรเถือกนั้นก็เป็นการลบ แบบ 'ปกปิด'
และถ้าเป็นการระบายสี...
"ว้าก!!"
เคร้ง!!
คนที่เอาแต่คิดเผลอตัวเผลอใจไปเพียงวูบเดียว ก้อนหินมีชีวิตก็กระโดดเข้าใส่ เท้าถีบยัดเข้าตรงหน้าจุดตายพอดีเป๊ะ ยังดีที่เขายังพอเบนสติและสมาธิไว้เพียงพอที่จะยกดาบสีดำสนิทขึ้นกัน การปะทะนั้นทำให้เขาต้องกระเด็นกลิ้งขลุกๆ แต่มันก็ไม่หยุดแค่นั้นกระโดดแหกปากร้องแฮ่ ไล่ตื้บคนตัวเล็ก
ระหว่างที่กลิ้งพลิกตัวหลบไปเรื่อย เขาฉวยช่องว่างจากศัตรูตัวร้ายเอามือประทับลงที่พื้น ทันใดนั้นหินด้านล่างก็ทรุดตัวลง ทั้งคู่หล่นลงไปพร้อมๆกัน แต่กับคนที่เตรียมตัวไว้ก่อนจึงมีหลักดีกว่า ลงมือเอาดาบฟาดหัวเจ้าก้อนหินอย่างแรงอีกหน ก่อนจะกระโดดไต่หินเล็กหินน้อยขึ้นมาด้วยเวทแรงดึงดูด
สองตาเพ่งพินิจลงไปในหลุมลึกซึ่งค่อยๆเลื่อนปิดด้วยเวทของเขา มือซ้ายที่ว่างอยู่เลื่อนปาดเหงื่อเม็ดเป้งที่หน้าผาก พลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน
"สำเร็จ?" บุดันบังวิ่งเข้ามาสมทบด้วยใบหน้าระรื่น แต่ทว่าแววตาของดรีมยังคงฉายแววจริงจังไม่จาง
"ไม่หรอกคุณบุดัน แค่นี้ไม่มีทาง..." เด็กหนุ่มหลับตาลงครู่หนึ่งแล้วรีบสั่งให้ท่านออร์คบินหนีทันที แต่บอกก็สายไปเสาหินจำนวนมากพุ่งจากพื้นกระแทกใส่ออร์คหนุ่มอย่างจัง ดรีมพยายามจะเข้าไปช่วยแต่มันก็เต็มกลืน แค่หลบให้ได้เขาก็แทบแย่แล้ว
ไอ้เจ้าบ้านี่ใช่เวทมนตร์ได้ด้วย แถมเก่งอีกต่างหาก ขี้โกงกันชัดๆ!!
"คุณบุดันเป็นอะไรหรือเปล่า!!" ดรีมตะโกนถามขณะกระโดดถีบตัวไปมาตามเสาหินที่ถาโถมเข้าใส่นั้น
"โฮ่ย! แค่กๆๆ"
อีกฝ่ายขานตอบเสียงดัง แต่ฟังแล้วคาดว่าอาการคงไม่ใช่น้อยเหมือนกัน เห็นทีคงต้องรีบจัดการเสียแล้ว...
แต่จะทำยังไงเล่า!
ระหว่างที่คิดนั้นเองหินแหลมจากทุกทิศทุกทางก็ยืดกระหน่ำเข้าใส่ชนิดไม่ให้ตั้งตัว เมื่อเห็นว่าหลบไม่ไหวแน่เขาจึงต้องซัดมันกลับให้หมดเท่านั้น! คมมีดสายลมแสนคมขนาดตัดหินได้กระจายไปทั่วแห่งหน เหมือนใบไม้ที่ปลิวไปตามลม
"เฮ้ย ไอ้บ้านี่แผนสูงนัก!!" ดรีมตะโกนอย่างหัวเสียเมื่อเห็นว่ามีหินบ้าอะไรก็ไม่รู้พุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วสูง และเวทของเขาก็ตัดมันไม่ได้! หลบยังไงก็ไม่ทันแล้วแต่ร่างกายดันไปก่อนความคิดแทงสวนกลับซึ่งๆหน้า ด้วยความแรงทั้งคู่กระเด็นกันไปคนละทางทันที
"มะ มือชาไปหมด นี่ไทม์ถามจริงเหอะ มีวิธีจัดการกับเจ้านี่บ้างไหม"
ดาบน้อยในมือบิดไปมาเป็นการส่ายหน้า
=ไม่ไหวเลยจริงๆคุณนี่...
อ้าวเวรกรรมนึกว่ามันจะบอกว่าไม่มี ที่ไหนได้แว้งกัดเขาซะอีกแล้ว!
=คิดเองสิครับ
ตลกใหญ่แล้ว สรุปจะไม่ช่วย??!!!
ชิ... ตามใจแกสิ!!
ดรีมพยายามครุ่นคิดอย่างหนัก เริ่มจากคำว่า "ลบล้าง" ตามด้วยสิ่งที่เขาเผชิญมาจนเมื่อครู่ มันเหมือนมีจุดบอดอะไรสักอย่างที่เขามองข้ามไป... เวทที่ซัดเข้าหา "มัน" สลายไปในพริบตาที่ปะทะ สลาย? มันทำให้เวทพวกนั้นแตกกระจายกลับสู่ฐานะเดิม มันสลายจิตไม่ได้ และสลายได้เฉพาะเวทที่ซัดใส่มันตรงๆเท่านั้น อย่างการขุดหลุมดักควายมันก็ตก การใช้เวทต้านเวทของมันก็ยังเป็นไปได้...
"ตูม!!"
ดรีมยังทำคิ้วขมวดไม่เลิก แต่กระนั้นก็ยังหลบพ้นได้เรื่อย จนตัวดูดเวทชักหมั่นไส้ร้องเสียงก้องถ้ำขนาดใหญ่
=คิดอะไรอยู่คุณดรีม? จะทำให้มันประสาทเสียตายเหรอ?
ดาบปากเสียไม่เลิกแซวเรื่อยเปื่อย หน้าที่งอแสนงออยู่แล้วก็ยิ่งงอเข้าไปอีก
คนที่จะประสาทเสียตายไม่ใช่ใครอื่นหรอก... ตูนี่แหละวะ!!
...แต่ถ้ามัวใส่ใจมัน เขาก็คงจะโดนเจ้าหินบ้านั่นตื้บอยู่ดี ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบแน่ การลบล้างมันจะต้องมีเงื่อนไขพิเศษ... แต่แล้วคำถามเดิมก็ย้อนกลับมาว่า "แล้ว ไอ้ลบล้างที่ว่าเนี่ยมันอะไรเล่า!"
ถ้าให้เดาไม่ผิด...
พริบตานั้นเองสายตาของเด็กหนุ่มเบิกโตขึ้นชั่วครู่ราวกับนึกอะไรบางอย่างออก และพริบตาต่อมาสายตาคู่นั้นก็หรี่เล็กลงจนน่ากลัว เปลวเพลิงสีแดงฉานสถิตขึ้นที่มือซ้ายพร้อมกับการพลิกตัวหลบการโจมตีของอีกฝ่าย ดรีมขว้างสิ่งของในมือนั้นใส่เจ้าหินทันที ซึ่งมันเองก็เพียงแค่ยืนรับหน้าด้านๆแสยะยิ้มให้ อย่างกับจะบอกว่าไร้ประโยชน์
แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อดาบในมือขวาแปรเปลี่ยนเป็นสีฟ้าใส รูปร่างเพรียวสวย และเขาก็แทงมันเข้าใส่ในพริบตาเดียวกับดวงไฟสัมผัสกับอกแข็งกร้าวของปีศาจหิน ตัวดาบสั่นไหวกรีดร้อง วี้ๆอยู่ชั่วพริบตาก่อนที่แรงระเบิดกัมปนาทจะดังก้องถ้ำขนาดยักษ์
"นั่นไง! จุดอ่อนแรกสุด!!" ดรีมร้องอย่างเริงร่าเมื่อเห็นอีกฝ่ายกระเด็นไปติดกำแพง มิหนำซ้ำที่ร่างอันไร้รอยขีดข่วนของมันบัดนี้กลับมีรอยกะเทาะเล็กๆ
"จะลบล้างเวทคนอื่นโดยไม่มีเงื่อนไขมันออกจะโกงไป เจ้านั่นแปรสภาพตัวเองไปในพริบตาที่สัมผัสเวทสินะ แล้วดูจากรอยกะเทาะแล้ว... เมื่อครู่ฉันคงโจมตีช้าไปนิดหน่อย มันเลยแปรสภาพกลับทัน"
ดรีมเบิกรอยยิ้มร่าขึ้นทันใด ทางมีแล้วเหลือแค่กรุยไปก็เท่านั้น!
และด้วยเหตุผลเดิม นั่นหมายความว่าถ้าไม่ใช่เวทที่บรรจุไว้ใน "หินเบรัน" มันก็ลบล้างไม่ได้ด้วยเช่นกัน แต่ว่าข้อนี้เขาคงต้องขอบาย คนที่สร้างมันขึ้นดูแล้วคงต้องถึงขั้นเทพชัวร์ แล้วเวทเขาก็ใช่ว่าจะเจ๋งนัก ถ้าเป็นลีนก็อีกเรื่องนึง
"กี๊ซ!!!!"
หินสัตว์ประหลาดร้องลั่นแล้วดูรอยบนร่างตัวเองอย่างหวาดๆ ดูท่ามันจะไม่เคยโดนเล่นงานได้เลยสินะ...
"ความจริงฉันเองก็ไม่ชอบหรอกนะ การเดินบนถนนทางเดียว แต่ว่าตอนนี้มันเจอแค่นี้นี่หว่า"
ดรีมชูมือซ้ายออกไปข้างหน้า บางสิ่งบางอย่างจากบรรยากาศค่อยๆรวบรวมเข้าที่มือข้างนั้น เพียงครู่เดียวละอองนั้นก็กลายเป็นดาบสีแดงฉานราวกับโลหิต แต่ไหวไปมาเฉกเช่นเปลวเพลิง
=สร้างรูปลักษณ์ออกมาได้ห่วยแตกจริงๆ
"หนวกหูน่า! เวทสองสายก็ยากพอทนอยู่แล้ว นี่ต้องควบคุมจิตบีบมันให้คงสภาพอีกนี่หว่า!"
เมื่อเห็นคู่หูคู่กัดหาเรื่องกันเองอีกรอบ ศัตรูคู่แค้นก็รีบพุ่งเข้าจู่โจมทันที ซึ่งดรีมก็เหมือนกะไว้แล้วหันกลับไปมองยิ้มๆชนิดที่ปีศาจยังอาย มัน... คงบอกได้เพียงว่าน่ากลัวชะมัด!
ดรีมเบนตัวหลบแล้วฟาดดาบเพลิงเข้าใส่แขนขวาที่ยื่นออกมาของมัน และแทบจะในเวลาเดียวกันไทม์ในสภาพดาบสายน้ำก็ซัดลงเป็นรูปกากบาท แขนของปีศาจหินเหมือนถูกกระแทกกลับอย่างรุนแรงพร้อมเสียงร้องโหยหวน และเขายังไม่ยอมหยุดแค่นั้นเป้าหมายต่อไปคือจุดตาย 'ลำคอ'
เปรี้ยง!!
"กี๊ซซซซซซ!!!"
มันร้องลั่นเมื่อโดนซัดเข้าลำคอจนหมุนตัวตีลังกาสามตลบ และล้มตึงลงสู่พื้นอย่างงดงาม ชักกระตุกไปพักหนึ่งก่อนจะกระโดดหนีไปตั้งหลักซะไกลลิบ ซึ่งมันเป็นโอกาสเหมาะจะรักษาให้กับออร์คถึกที่โดนไปหนักใช่เล่น แต่ก็ยังอุตส่าห์ชะโงกหน้าขึ้นดูแล้วร้องโหวกเหวกโวยวายด้วยความสะใจ
คนอะไรวะ... ไม่ดูสังขารตัวเองเอาเสียเลย!
"แค่กๆๆ ดรีมเจ้า!! แค่กๆๆ อย่ามายุ่งกับ... ขะ แค่ก! ไปจัดการมัน โขลก!!"
พูดอะไรเนี่ย ฟังยากชะมัด! ถ้ามียาสลบจะโปะหน้ามันซะเดี๋ยวนี้เลยจริงๆ
ดรีมลอบนินทาในใจ พร้อมหน้ายุ่งๆที่เป็นเอกลักษณ์ไปเสียแล้ว
เขาพยายามทำเป็นไม่ใส่ใจเสียงตะโกนลั่นปนกับการไอนั้น ยื่นมือเข้าประคบตามบาดแผลแล้วใช้เวทสายลมแสนถนัดของตนประคองเอาไว้ก่อนแต่ทว่ามันเหมือนมีอะไรแปลกๆ
"ทำไมรักษาไม่ได้ล่ะเนี่ย เวทมันออกมาก็จริงแต่แว่บเดียวก็ชะงักไปแล้ว!"
=ผมว่าถ้ำนี่มีลงสะกดเวทรักษาไว้แหงเลย...
ทั้งดรีมแล้วบุดันบังหันขวับไปทางดาบแสนรู้ด้วยท่าทีฉงนสุดฤทธิ์
=ไม่เห็นจะน่าแปลกใจนี่ครับเรื่องปกติสำหรับสถานที่หวงห้าม การจะสะกดเวททุกอย่างมันยาก... ถ้าจะระบุไปเป็นอย่างๆแล้วผลมันจะดีกว่า ส่วนทำไมต้องเป็นเวทสายรักษาก็... ผมคงไม่ต้องบอกสินะว่าทำไม
จะอธิบายให้ครบก็ไม่ได้ ยังมีทิ้งแววกวนประสาท... ไอ้เขาน่ะรู้เรื่องอยู่หรอกนะแต่อีกหนึ่งไม่แน่...
=แล้วคุณไม่สนใจเจ้านั่นจะดีเหรอ?
ไทม์ทำพยักเพยิดให้ออร์คและปีศาจที่ยังทำหน้าบูดหันไปดูยังทิศซึ่งเจ้าตัวปัญหาวิ่งหนีไป ถ้าสังเกตให้ดีแล้วแท่นหินทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าตรงนั้นมันก็ดูแปลกๆชอบกล... มันเอามือทาบไว้ด้านบนเบาๆ แต่ทั้งถ้ำครางพร้อมกันว่า "ครึ่ก"
"....."
ไม่ต้องสงสัย มันมีกลไกอยู่ตรงนั้น
และถ้าจะให้เดาก็คือกลไกกวาดล้าง...
"ครืน...."
โอ๊ะโอ๋ ถ้ำท้องร้อง....
"ท่าชักไม่ดี... เผ่นก่อนดีกว่า" ดรีมตัดสินใจเด็ดขาด พยักหน้าหงึกๆอยู่คนเดียวไม่ใส่ใจฝ่ายค้านแม้แต่น้อย ลากคอออร์คจอมโวยพุ่งทะลวงถ้ำขนาดยักษ์ที่บีบตัวลงทุกขณะ ราวกับกำลังหิวกระหายแล้วพวกเขาก็คืออาหารจานเด็ด จนแล้วจนรอดถ้ำหฤหรรษ์ก็โดนทะลวงออกมาจนได้ และคนที่หลุดออกมาก็พุ่งหลาวลงน้ำกันอย่างงดงาม ซึ่งดรีมก็ต้องรีบงมคู่หูออร์คอีกตนที่จมน้ำบุ๋มๆไม่รู้ว่าหลุดจากมือของเขาเมื่อไหร่
งานนี้หนักไม่ใช่เล่นเกือบไม่รอด มันเกี่ยวกับเรื่องที่เจ้าเซรอสวานให้ทำไม่ต้องสงสัย
"ดรีม! เจ้าทำไมต้องถอย ฆ่ามันแต่แรกก็สิ้นเรื่องแล้ว!!"
เด็กหนุ่มปีศาจเกาหัวแกรกๆอย่างเหนื่อยใจ สรุปตานี่ไม่รู้อะไรเลยสินะ เมื่อครู่ก็แค่ชั้นแรกของถ้ำเท่านั้น แต่แค่นั้น ก็แทบจะต้องทิ้งชีวิตเอาง่ายๆเสียแล้ว สรุปก็คือยังไม่พร้อมจะเข้าไปน่ะแหละ
โดยเฉพาะถ้ามีตัวถ่วง....
เขาเหล่ตัวถ่วงที่ว่าเล็กน้อยพลางรักษาเจ้าตัวไปด้วย
"ใจเย็นคุณบุดัน... แล้วเราต้องมาที่นี่อีกแน่ แต่อย่างน้อยต้องมีสมาชิกเพิ่มอีกหนึ่ง"
"อีกหนึ่ง?" ออร์คเพรียวยังดูเหมือนไม่ค่อยเข้าใจ
"ลีนไงครับ ถ้ามียัยนั่นคงสบายขึ้นเยอะ"
บุดันบังต่อยมือตัวเองดังปั้กเหมือนนึกอะไรบางอย่างออก แต่แล้วคิ้วก็ม้วนลง
"พูดถึงลีน ข้าว่าข้าลืมเรื่องสำคัญไปนิด ข้ากำชับลูกน้องข้าว่า ดูแลเธอให้ดี เดี๋ยวข้าจะกลับ อย่าวุ่นวายให้มากนัก"
ดรีมขมวดติ้วตาม ความจริงมันก็ชัดดีนะแต่มันแหม่งๆชอบกล...
ดู แล ข้ากลับ แล้วก็ วุ่นวาย...
ที่สำคัญเขาหายไปตั้งครึ่งค่อนวัน ไหงไม่ยักกะตามมาหว่า? นี่แหละแปลกที่สุดแล้ว!
"แหะๆ" ดรีมหัวเราะระบายบางสิ่งที่มันติดค้างอยู่ในใจออกมาเล็กน้อย
"ข้าว่าเรารีบกลับเถอะ ชักเป็นห่วงที่ค่ายตะหงิดๆ"
ดรีมพยักหน้าหงึกๆเป็นการตอบคำถาม แล้วลากบุดันบังบินขึ้นฟ้าไปพร้อมๆกันอย่างรวดเร็ว โดยไม่คิดจะใส่ใจพวกชุดดำที่ซุ่มดูอยู่ไม่ไปไหนแถวๆนั้นสักนิด เพราะเขารับรู้แล้วว่า ฝีมือขนาดพวกนั้นยังไม่ถึงขั้น เข้าไปล่ะไม่ได้ออกมาชัวร์
พวกหูยาวงั้นหรือ?
พวกเอลฟ์สินะ...
เพียงไม่นานนักทั้งคู่ก็กลับถึงหมู่บ้านกลางป่า ผู้ออร์คทั้งหลายแววตาฉายความฉงนไม่หยุด ซึ่งมันก็ควรจะเป็นอย่างนั้น ตอนไปเดินไป แต่ตอนกลับดันมาทางท้องฟ้าเสียได้!
เด่นขนาดที่ยามเฝ้าประตูเกือบจะใช้ธนูยิงสอยแล้วเชียว...
บุดันบังหันไปมองรอบๆแล้วก็ต้องใจหาย หมู่บ้านที่เคยเงียบๆ บัดนี้เต็มไปด้วยเสียงฮือฮา
"ข้าลืมบอกไปว่าให้ลงในป่าก่อนเข้าค่าย" เขาว่า
ดรีมเอานิ้วเกาหน้าแล้วยิ้มแหยๆ
"ผมก็ลืมคิดไปเหมือนกัน"
"ถึงกับต้องบินกลับมาเชียวนะ.... ไปไหนกันมาคะ? คุณทั้งสอง...." เสียงหวานๆซึ่งไล่หลังมานั้นทำให้เด็กหนุ่มผมน้ำตาลถึงกับสะดุ้งเผยพิรุธให้เห็นกันจะตา
เธอยืนมองเขาด้วยสายตาเย็นๆ รอยยิ้มที่ส่งให้ก็ดูน่าขนลุกชอบกล
"ลีน... เธอเป็นอะไรไปน่ะ ท่าทางแปลกๆนะ"
"เหรอ... น่าจะรู้ๆอยู่นี่นา" คุณเธอตอบช้าๆ แถมชายตาหาบุดันบังนิดหนึ่ง ก่อนจะกลับมาเขม่นดรีมอีกครั้ง สรุปมีอะไรล่ะเนี่ย ถ้ารู้ฉันคงไม่ถามหรอก!!
"ขอโทษที ข้าว่าข้ามีธุระ เชิญพวกเจ้าตามสบายเลย!"
อ้าวเฮ้ย! ไอ้คุณบุดัน ทีอย่างนี้ตัดบทฉับเลยนะ!!
หันไปค้อนได้ไม่ทันไร เหงื่อของเขาก็ต้องแตกพลั่ก หญิงสาวข้างหน้าท่าทางจะเอาเรื่องน่าดู สรุปโกรธเรื่องอะไรหว่า แล้วจะเริ่มเล่าเรื่องยังไงดีล่ะเนี่ย...
ดวงอาทิตย์เคลื่อนคล้อยลอยลับ ต้นไม้แห่งป่าใหญ่บดบังบอลกลมสีส้มนั้นจนมิด เหลือให้เห็นเพียงขอบฟ้าที่เป็นสีแสดงาม... และบัดนั้นเองที่ดรีมเพิ่งจะเล่าเรื่องราวให้สาวเจ้าที่นั่งหน้าบูดเข้าใจได้
"ฉันก็นึกว่าเธอจะหนีไปเที่ยวซะอีก" เธอพูดปนประชด แต่ใบหน้ากลับยิ้มกริ่ม
ให้ตายสิ... เรื่องมันเกิดเพราะการสื่อสารผิดพลาดแท้ๆเชียว
เรื่องวันนี้สอนให้รู้ว่า 'อย่าไว้ใจออร์คกล้ามโตเป้นอันขาด'
"แล้วจะเอาไงดีล่ะ ดูท่าทางเราจะพัวพันกับเรื่องยุ่งยากซะแล้วเนอะ"
เรื่องยุ่งยาก แล้วไหงหน้าเธอมันยิ้มแฉ่งอย่างนั้นเล่า....
ดรีมขมวดคิ้ว แล้วเกาหัวช้าๆ
"เธอมีคำตอบในใจอยู่แล้วยังจะถามอีก จะช่วยคุณบุดันหาศพเพื่อนของเขาสินะ"
"ใจร้าย! เขาอาจจะยังรอดอยู่ก็ได้!!"
ก็เธอไม่เห็นไอ้ถ้ำบ้านั่นนี่นา... ไม่รอดหรอก 100%
เขาแอบฟันธงในใจ
"แต่ฉันไม่ค่อยอยากยุ่งด้วยเท่าไหร่แฮะ มันน่าจะเกี่ยวกับเจ้าคนที่คอยดูเราอยู่ แล้วมันอาจจะดึงเราเข้าไปหาเรื่องน่าเหนื่อยของดาวดวงนี้ด้วยก็ได้"
"เพราะงั้นเธอเลยจงใจหนีออกมาตั้งหลักก่อนสินะดรีม"
ชายผมน้ำตาลพยักหน้าตอบรับ
"มันก็มีส่วน แต่ก็กะไว้เหมือนกันว่ายังไงเธอก็จะเข้าไป" เขาฉีกยิ้มบางให้ ทั้งที่ใบหน้ายังดูเหนื่อยๆชอบกล และทันใดนั้นเองที่อยู่ดีๆ เสียงอันกวนโทโสที่จำได้ไม่เคยเลือนก็ติดต่อมาเป็นครั้งแรก พร้อมเสียงหัวเราะร่วน
....ไอ้คุณเซรอส....
"มันต้องอย่างนี้สิ!" น้ำเสียงที่ส่งออกมาทั้งยินดีและดีใจ ขนาดที่แม้ไม่เห็นเขาและเธอยังวาดรูปหน้าในมโนภาพได้เลย!
"แก... เซรอส!" ดรีมโพล่งออกมาเสียงดังก่อนจะรีบปิดปาก
"อย่าเพิ่งโมโหสิ ก็บอกแล้วไงทั้งเที่ยวทั้งฝึก ถ้ำนั้นน่ะระดับสูงเอาการอยู่เหมือนกันตามความเห็นฉันนะ"
"จะใช้กันก็ให้บันยะบันยังหน่อย แถมไม่บอกหัวข้องานมาจะให้ทำอะไรเล่า!" ดรีมโต้กลับทันควัน อีกฝ่ายเงียบไปครู่หนึ่งราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะตอบว่า
"ถ้าให้หัวข้องานก็เท่ากับใช้จริงๆน่ะสิ ไม่ให้หัวข้อพวกนายมันอิสระกว่าเห็นๆจริงไหม? แบบนี้เหมือนกับเปิดทางเลือกให้นั่นแหละว่าจะทำหรือไม่ทำ ถ้ำนั่นมันก็มีหลายชั้นเอาการก็จริงอยู่ แต่ไม่เห็นต้องเข้าไปจนสุดถ้ำสักหน่อย เพราะฉันไม่ได้สั่งอะไร"
คำพูดนั้นมันฟังดูมีเหตุผลดี แต่ดูจากน้ำเสียงตอนแรกของมัน... มันจงใจแกล้งกันชัดๆ!! จะว่าไปแบบเหตุผลคิดสดฉุกละหุกแบบนี้เรียก "แถ" ก็คงไม่ผิด หมอนี่มันยอดจริงๆ
"แล้วเมื่อไหร่จะพาพวกเรากลับไปสักทีเล่า" ดรีมยังฉุนไม่หาย ผิดกับลีนที่นั่งนิ่งดูปีศาจสองตนทะเลาะกันเล่น
เซรอสชะงักไปอีกครั้งแล้วตอบด้วยเสียงทะเล้นว่า "เมื่อที่ฉันเห็นสมควร ไม่อย่างนั้นจะเป็นการฝึกได้ยังไง" เพียงแค่นั้นการสื่อสารก็ตัดขาดไป...
"....."
ดรีมกับลีนมองหน้ากันอีกรอบ คิ้วย่นลงทั้งคู่
"มันก็ฟังดูมีเหตุผลนะดรีม มันก็ตรงจุดประสงค์แรกของเราดีนี่" สาวน้อยพูดเสียงค่อย ทั้งที่ยังรู้สึกขัดๆในจิตใจ
มันเหมือนว่าทางเซรอสก็ได้ประโยชน์จากการส่งพวกเธอมา และพวกเธอก็ได้ประโยชน์จากการที่ถูกส่งมาที่นี่เช่นกัน... มันเหมือนเป็นการต่างตอบแทนซึ่งกันและกันอย่างดีแล้ว แต่ทำไมเธอรู้สึกเหมือนขาดทุนย่อยยับก็ไม่รู้ และบางทีชายข้างหน้าเธอก็คงรู้สึกเช่นเดียวกัน หน้าถึงไม่รับบุญออกขนาดนั้น
ว่าแล้วเธอก็สะบัดศีรษะจนผมพลิ้วไหว ขจัดความลังเลออกไปเสีย
ห้องสมุดสุดรกถูกเติมเต็มด้วยความเงียบไปชั่วอึดใจหนึ่ง ก่อนที่ดรีมจะทำลายความเงียบลงด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
"พวกชายชุดดำนั่นน่าจะเป็นพวกเอลฟ์ หมู่ชนที่ครองดาวดวงนี้ไปเกินครึ่ง"
ลีนเลิกคิ้วอย่างไม่ค่อยอยากเชื่อหู ตามนิยายหรือตำนานต่างๆ เอลฟ์มีแต่พวกรักสงบ แต่นี่มัน... เธอทำท่าจะพูดแต่ก็ต้องหยุดไปเมื่อดรีมเหมือนรอท่าอยู่แล้วอธิบายเสริมเข้าให้ว่า
"พวกนั้นมีพลังเวทสูงน่าดูแสดงให้เห็นถึงความน่าจะเป็นได้แค่สามเผ่านั่นคือเอลฟ์ ปีศาจ และ ไครม์ แต่พวกนั้นเรียกฉันว่าปีศาจ... คงไม่มีใครเรียกชนเผ่าตัวเองอย่างนั้นแน่ และก็ไม่ใช่ไครม์เพราะดูเหมือนใครบางคนจะลังเลที่จะจัดการกับฉัน ที่นี่ไครม์เป็นศัตรูกับปีศาจอยู่แล้วนี่ ต่อไปเจ้าพวกนั้นเล่นใช้ผ้าโพกหัวมัดหูแหลมๆของตนไว้ด้วยนี่สิ สุดท้ายพวกที่จะกังวลเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเผ่า ไม่น่าจะมีใดอื่นนอกจากเผ่าพันธุ์ที่ครอบครองอยู่ เนื่องจากกลัวอำนาจสั่นคลอน..."
การวิเคราะห์นั้นก็สมเหตุสมผลดี ลีนพยักหน้ารับเรียบๆ
นั่นหมายความได้อีกว่า "เอลฟ์ต้องการอะไรบางอย่างในนั้น ถึงขนาดต้องลอบเข้ามาถึงในเขตออร์คใช่ไหม?"
ดรีมยิ้มกริ่มน้ำตาแทบจะไหลพราก... คุยแบบนี้สิถึงได้เรื่องไม่ต้องอธิบายซ้ำซ้อน
"ใช่แล้ว และของสิ่งนั้นเซรอสก็หมายหัวไว้เหมือนกัน"
สาวสวยผมน้ำตาลเบิกรอยยิ้มขึ้นมาบ้าง
"แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องหมายสิ่งนั้นสักหน่อย ก็แค่ช่วยคุณบุดันเท่านั้น"
ดรีมเกาหัวแกรกๆ สรุปก็คือไม่ว่าจะอย่างไรคุณเธอก็จะเข้าไปอยู่ดีสินะ
"ถ้าอย่างนั้นเตรียมตัวให้ดี ในนั้นเป็นสถานที่ซึ่งพวกเราคงต้องเอาจริงเต็มที่"
"เอ๋?" ลีนทำหน้าเหรอหรา เมื่อจ้องหน้าอีกฝ่ายซึ่งยิ้มออกมาจางๆ
"เตรียมตัวนี่หมายความว่า?"
รอยยิ้มบางๆขยับโค้งขึ้นเล็กน้อย "ตามที่ลองกะเวลาดูแล้วดาวดวงนี้มีกลางคืนประมาณ 40 ชั่วโมงของโลก เวลาน่าจะพอ เราจะแอบลุยมันคืนนี้แหละ"
"เดี๋ยวสิ เธอสัญญากับคุณบุดันว่า จะเข้าไปด้วยกันไม่ใช่เหรอ?" ลีนแย้งกลับเสียงดัง แต่ชาผมน้ำตาลข้างหน้ากลับหัวเราะตอบ
"ใช่สัญญา แต่เข้าหลังจากจบเรื่องก็ได้ เคลียร์ทางน่ะสองคนง่ายกว่าเยอะ" ดรีมพูดเสียงใส แต่ในใจคิดเพียงแค่ว่า 'ถ้าเข้าไปด้วยกันแล้วเจออะไรดีๆ เขาก็ฮุบเอาไว้ไม่ได้น่ะสิ!'
เพราะเช่นนั้นจึงไม่แปลกเลยที่สาวเจ้าจะ รู้สึกเหมือนกับว่ารอยยิ้มบางๆนั้นเป็นรอยยิ้มสุดเจ้าเล่ห์
เวลาย่ำค่ำนั้นเองเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต ผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งสองจึงต้องไปงานเลี้ยงที่จัดขึ้นอย่างพิเศษ เนื่องในวโรกาสที่รอดชีวิตมาจากถ้ำนรกได้ หมดเวลาไปสองถึงสามชั่วโมง แต่จะไม่ไปก็ผิดสังเกต งานนี้พระเอกคือพวกเขานี่นา และหลังจากที่ชิ่งออกมาจากงานได้แล้ว ทั้งสองก็ทำทีเป็นรีบนอน ทำตัวเป็นเด็กดีนอนแต่หัวค่ำ หารู้ไม่แล้วความจริงทั้งคู่จะเป็นเด็กหนีเที่ยวกลางคืนไปเสียได้
ลีนใช้มายาที่ดีเวนัสเสริมแรงให้ หลอกตาทั้งพวกยามและพวกตรวจตราความสงบยามค่ำคืน ให้เห็นว่าพวกเขานอนหลับกันอย่างสงบ จนกว่าเขาและเธอจะกลับมานั่นแหละ ซึ่งในเวลาไม่นานนักทั้งคู่ก็มาหยุดยืนอยู่ข้างบ่อน้ำใหญ่ มีภูเขาหินตั้งตระหง่านอยู่ใจกลาง ความมืดปกคลุมไปทั่วแต่เหนือสิ่งอื่นใด หน้าถ้ำนั้นกลับดูมืดยิ่งกว่า แสงจันทร์ที่ช่วยกันส่องสว่าง ไม่มีเค้าว่าจะช่วยอะไรได้เลย...
สรรพเสียงเงียบกริบราวกลับไร้ชีวิตใด ลมนิ่งชะงัดเหมือนเวลาหยุดเดิน
"แค่เห็นก็รู้ล่ะว่าไม่ธรรมดาจริงๆด้วย" สาวผมน้ำตาลในชุดเสื้อแขนกุดสีขาว พร้อมผ้าคลุมไหล่สีชมพูอ่อนเบนหน้าไปหยุดที่ด้านหน้าถ้ำทมิฬนั้นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกลืนน้ำลายลงช้าๆ
"เปลี่ยนใจยังทันนะ คนอยากเข้ามันเธอไม่ใช่ฉัน" เด็กหนุ่มในชุดเสื้อแขนกุดสีดำ คลุมทับเสื้อแขนยาวสีขาว ขยับโบกมืออย่างขอไปที น้ำเสียงส่อแววยั่วยวนกวนโทโสเล็กน้อย
"เชอะ! ใครบอกจะไม่เข้ากันล่ะ!!" ลีนกระโดดลอยตัวไปหยุดกึกอยู่ตรงหน้าความมืดนั้น แล้วหันหลังกลับมาแลบลิ้นให้คนที่ยืนถอนหายใจอยู่ ยิ้มให้เธอจางๆ จากนั้นคุณเธอก็กระโดดพรวดเข้าไปไม่ฟังเสียงอะไรอีกต่อไป
ดรีมที่เห็นดังนั้นก็ขยับยืดเส้นยืดสายเล็กน้อย
"ว่าแต่เจ้าถ้ำนั่นมันคลายกลไกบ้าๆนั่นยังหว่า ลืมเตือนยัยนั่นแฮะ" เขาพูดกับตัวเองด้วยเสียงราวกับกระซิบ แล้วกระโดดตามเข้าไปในความมืดที่ไร้แม้เพียงแสงดาวนั้นอีกครั้ง...
====================
หุหุ
ตัดตอนหน่อยละกัน 100% ของตอนนี้ = ประมาณ 90% น่ะ
ปิดเทอมแล้วขยัน นั่งเขียนมันแต่เช้านี่แหละ!
ป.ล. มีคนถามมามาหูยาว = เอลฟ์ แล้วเซซิสมันเป็นเอลฟ์เหรอ???
เอ่อคือเซซิสมันลูกผสม ปีศาจ-ไครม์ ส่วนเหตุที่หูยาวข้าพเจ้ามิอาจรู้ได้ เรื่องสายพันธุ์มันซับซ้อนคร้าบ!
(นั่นเบี่ยงประเด็นตอบซะงั้น เหอๆๆ)
ป.ล.ล. คนที่ไม่ได้อ่านภาคแรกคงจะงง "เซซิส" มันใครกันอีกล่ะเนี่ย!
ป.ล.ล.ล. 11.41 (แก้ไขบรรทัดหลุด แก้ตอนนี้ครั้งสุดท้าย ผมพักสายตาเสร็จก็ลุยต่อล่ะนะ)
ความคิดเห็น