คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : -chapter 9- Gift
ตะวันเริ่มคล้อยต่ำ แสงไฟตามเสาไฟฟ้าเริ่มถูกเปิด ส่องแสงสีส้มนวลตา เป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าเริ่มมืดแล้ว ผมเฝ้ารอพี่ของผมกลับมาอยู่ในห้องนั่งเล่นอย่างใจจดใจจ่อ
“เมื่อไร เฮียภัทรจะกลับมาล่ะเนี่ย”ผมพูดอย่างกระวนกระวาย
“นั่งอยู่นิ่งๆก็ได้ เดี๋ยวพี่ภัทรเขาก็กลับมา”พี่มิกซ์พูดขึ้น คงเป็นเพราะว่าผมเดินไปเดินมาเลยอาจทำให้พี่เขามึนหัว ผมจึงยอมนั่งลงนิ่งๆที่โซฟา พลางดูรายการเกมโชว์ที่พี่มิกซ์เปิดไว้แก้เซ็ง
เวลาผ่านไป 2-3 ชั่วโมง เสียงเรียกของพี่ผมจากหน้าบ้านก็ดังขึ้น ผมรีบวิ่งไปเปิดประตูแล้วโผเข้ากอดพี่ชายของผมคล้ายกับว่าไม่ได้เจอกันมาเป็นปี
“สวัสดีครับพี่”พี่มิกซ์ที่ตามมาทีหลังยกมือขึ้นไหว้พี่ของผม
“โอ๊ย.. บอกแล้ว ไม่ต้องไหว้กันน้อง”พี่ผมพูดพลางยกมือไหว้กลับ
“ไป… เอาของไปเก็บ แล้วออกไปกินซูชิกัน”พี่ชายของผมพูดพลางหอบหิ้วกระเป๋าน้อยใหญ่เข้าไปเก็บในบ้านโดยมีผมและพี่มิกซ์เป็นคนช่วยถือสัมภาระเข้าบ้าน
แม้ว่าดวงอาทิตย์จะลับขอบฟ้าไปนานแล้ว แต่ก็มิอาจทำให้แสงสว่างและความวุ่นวายในเมืองหลวงลดได้เลย รถยังคงวิ่งพลุ่กพล่าน แสงทั้งจากเสาไฟ รถต่างๆ รวมทั้งบ้านเรือนของผู้คน สิ่งเหล่านี้เหมือนขุมพลังที่ทำให้เมืองหลวงแห่งนี้ยังคงสว่างอยู่ได้
หลังจากที่พวกเรา 3 คนเดินหลบเหล่ารถได้ไม่นาน เราก็มาถึงร้านอาหารญี่ปุ่นร้านเล็กๆแห่งหนึ่ง ภายนอกร้านถูกตกแต่งด้วยต้นไผ่ โคมไฟญี่ปุ่น ไว้อย่างสวยงาม ส่วนภายนั้นได้ถูกตกแต่งไว้อย่างสวยไม่แพ้กัน ผนังห้องถูกปิดไว้ด้วยไม้ไผ่ที่เมื่อนั่งลงที่เก้าอี้ก็จะสูงพอดีกับหัวของนักท่องเที่ยว รวมไปทั้งรูปวาดแนวของญี่ปุ่น โต๊ะ เก้าอี้ ถูกตกแต่งด้วยสีโทนแดง-ทอง ภายในร้านเปิดเพลงบรรเลงเบาๆ ทำให้การกินอาหารดูโรแมนติกขึ้นทันตา หรือไม่ก็อาจภาษาอังกฤษหรือญี่ปุ่นแนวสนุกสนานทำให้การกินอาหารดูมีสีสันขึ้นทันตา
เมื่อพวกเรานั่งลงบนโต๊ะ โดยที่ผมและพี่มิกซ์นั่งฝั่งเดียวกัน ส่วนพี่ภัทรก็นั่งอีกฟากหนึ่งของโต๊ะ บริกรหญิงรีบพุ่งเข้ามาเพื่อรับการสั่งอาหารจากลูกค้า
“ขอราเม็งที่นึงครับ”ผมสั่งอาหารกับพี่บริกรอย่างเป็นกันเอง
“2ครับ”พี่ของผมสั่งตาม
“3ไปเลยครับ”พี่มิกซ์สั่งตามผมอีกคน
หลังจากนั้นพี่ของผมก็สั่งซูชิอีกเพียบ
“นี่ไม่คิดจะกินอะไรที่มันต่างจากผมกันเลยหรอ”ผมหันมาถามพี่ทั้ง 2 คน หลังจากที่บริกรหญิงนำอาหารมาเสิร์ฟ
“ทำไมต้องคิดอะไรให้ยากด้วยล่ะ”พี่มิกซ์ตอบขึ้น
“ถูก!”พี่ของผมสนับสนุนอย่างรุนแรง
ผมจึงเงียบลงเพราะเห็นว่าขืนเถียงไปก็คงจะไม่ชนะแน่นอน
“แล้วเป็นไงบ้าง ไปนอนบ้านพี่สบายดีไหม”ผมเกือบจะสำลักราเม็งสุดอร่อยของผมออกมาหลังจากที่พี่ของผมถามพี่มิกซ์
“ก็ดีครับ”ชายหนุ่มตอบพลางหันมายักคิ้วข้างเดียวให้กับผม
“แล้วเป็นไงบ้าง มีมิกซ์มานอนเป็นเพื่อนดีขึ้นไหม”พี่ของผมหันมาถามทางผมบ้าง
“หายเป็นปลิดทิ้งเลย”ผมตอบอย่างประชดพลางเบือนหน้าหนีจากพี่มิกซ์
“แล้วสรุปเลิกกลัวไอ้คนที่ตามภูมิหรือยัง”พี่ภัทรถามผมต่อ
“เลิกสนิท”ผมตอบอย่างประชด
เหมือนกับคำพูดของผมก็ให้เกิดสงครามเล็กๆขึ้น
เมื่อมืออุ่นๆของพี่มิกซ์เริ่มเข้ามาจับมือของผมที่วางอยู่ใต้โต๊ะ ผมพยายามดึงมือหนีแต่ก็ทำไม่ได้เพราะอีกใจก็กลัวว่าพี่ภัทรจะเห็น
พวกเรากินอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย โดยเฉพาะพี่มิกซ์ที่กินแบบไม่รอใคร คือยัดอาหารเข้าไปเต็มปากและยังยัดต่อไปเรื่อยๆ รองมาคือผมที่มีอาหารเต็มปากอยู่เหมือนกัน สุดท้ายคือพี่ภัทรที่กินแบบว่าผู้หญิงบางคนยังต้องอายนั่นคือกินทีล่ะคำ คำน้อยๆค่อยๆถูกบรรจงใส่ปากไป
“ค่อยๆกินก็ได้”พี่ผมเริ่มพูดหลังจากที่เห็นการกินของผมและพี่มิกซ์ที่กินเหมือนว่าอดอยากมาจากไหน ถึงได้ใส่เข้าไปเต็ม
หลังจากที่กินอาหารกันเสร็จผมและพี่ภัทรก็เดินกลับบ้านแต่ ก็มีพี่มิกซ์เดินตามมาอยู่ดีเมื่อมาถึงหน้าบ้านพี่ผมจึงพูดออกไปว่า “นอนด้วยกันไหมมิกซ์”
“ไม่ล่ะครับขอบคุณ”พี่มิกซ์ตอบ
ผมเดินจะไปเข้าบ้านแต่กลับโดนพี่มิกซ์จับแขนไว้ซะก่อน
“ผมขอคุยกับน้องพี่แปปนึงนะครับ”พี่มิกซ์พูดพลางส่งสายตาอ้อนวอนไปยังพี่ของผม
“ไม่ว่าอยู่แล้ว”พี่ภัทรพูดก่อนที่จะเดินเข้าบ้านไป
“น้องครับอย่าไปบอกพี่ของน้องเรื่องเมื่อวานเถอะนะ”ชายหนุ่มทำหน้าขอร้อง
“หึหึ เดี๋ยวก็เผาให้หมดเลย”ผมตอบเล่นอย่างสนุกสนาน
“พี่ขอร้องล่ะครับ”ชายหนุ่มพูดก่อนที่จะคุกเข้าลงตรงหน้าผม
“อย่าครับ อย่า ผมไม่บอกหรอกครับ”ผมประคองพี่มิกซ์ขึ้นมา
“ขอบคุณนะ”พี่มิกซ์พูด
“หลับตาหน่อยสิ พี่มีอะไรจะให้”พี่มิกซ์พูดต่อ
ผมค่อยๆหลับตาลง และแล้วผมก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมารัดที่ข้อมือผม นี่พี่จะมัดผมไว้หน้าบ้านผมหรอ ผมรีบเปิดตาออกมาดู มันคือนาฬิกาเรือนหรูเมื่อกลางวันนั้นเอง
“อะไรเนี่ย”ผมถามพี่มิกซ์อย่างงงๆ
“ไม่ต้องทำเป็นไม่รู้เรื่องหรอก พี่ให้ครับ ถือเป็นสิ่งของให้ในโอกาสที่ได้พบกัน”พี่มิกซ์พูดอย่างอ่อนโยน
“ผมไม่ได้…”
ชายหนุ่มนำนิ้วมาปิดที่ริมฝีปากของผมก่อนจะน้อมตัวลงมาจนผมสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆที่รดต้นคออยู่ แล้วชายหนุ่มก็ค่อยๆกระซิบที่ข้างหูของผมว่าว่า “จะบอกไม่ชอบไม่ได้นะซื้อมาแล้ว และพี่ก็เห็นน้องจ้องจนตู้มันจะละลายไปแล้วมั้ง” ก่อนที่จะหันมาหอมที่แก้มผมเบาๆและเดินจากไป
ทิ้งให้ผมยืนค้างอยู่หลายนาที ผมเริ่มจะรู้สึกตัวจึงปิดรั้ว ก่อนที่จะเดินเข้าบ้านนำนาฬิกาเรือนใหม่ไปให้พี่ดู
พูดตามจริง ผมก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นพระเอก ฮ่าๆ อยากให้ใครเป็นพระเอก เม้นๆโหวตๆมาครับแล้วจะพิจารณา
ปล. ตอนนี้อยู่เดนมาร์กเลยเอาอันนี้มาฝาก คำว่า "gift" ในภาษาเดนมาร์กแปลว่า คู่รักหรือคนที่แต่งงานแล้วได้ด้วยเน้อ ><
ปล2. แต่มันก็แปลว่า พิษ ได้เหมือนกัน = ="
ความคิดเห็น