คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : -chapter 8- น้องรหัส!!
แสงแดดถูกส่องผ่านผ้าม่านชีฟองสีขาวผืนบางมาลงบนหน้าของผม เสียงรถที่เริ่มพลุกพล่าน คือสัญญาณของวันใหม่ที่ปลุกผมให้ตื่นจากการนอน สายลมอ่อนๆพัดผ่านผ้าม่านผืนบางมาปะทะที่หน้าของผม กลิ่นหอมของดอกแก้วที่แม่ชอบลอยมาจากสวนในบ้านพร้อมกับสายลม ผมลุกขึ้นนั่งบนที่นอนสีฟ้าของผมพร้อมบิดขี้เกียจ แล้วผมก็สังเกตเห็นว่าในห้องของผมตอนนี้มีเพียงผมคนเดียวเท่านั้น พี่มิกซ์หายไปซะแล้ว
“พี่เขาคงกลับบ้านไปแล้ว”ผมรำพึงกลับตัวเอง
แล้วผมก็ลุกไปอาบน้ำ อาบน้ำเสร็จแล้วจึงเปิดประตูเพื่อลงไปชั้นล่างเพื่อหาอะไรกิน
สิ่งแรกที่รับรู้เมื่อเปิดประตูคือเสียงของการ์ตูนยามเช้าที่เข้ามาปะทะโสตประสาทของผม เมื่อผมเดินลงมาจากบันได สิ่งที่สองคือกลิ่นของโจ๊กหอมๆของอาแปะหน้าปากซอยของบ้านของผมที่เข้ามาเตะจมูกทำเอาผมท้องร้องในทันที เมื่อเดินมาถึงห้องนั่งเล่นก็เห็นพี่มิกซ์ที่กำลังดูการ์ตูนอย่างเมามัน
“นั่นแหละ แปลงร่าง”เสียงของชายหนุ่มที่เป็นคำพูดของเด็กๆเมื่อเวลาดูการ์ตูนจะพูดคล้ายๆกันทำเอาผมอดขำไม่ได้ที่จะเห็นคนหนุ่มขนาดนี้พูด
“อ้าวน้อง”พี่มิกซ์หันมามองทางผมที่กำลังขำอยู่
“ขำอะไร อย่าบอกนะว่าน้องไม่เคยพูดแบบนี้”ชายหนุ่มทักท้วง
“เปล่าครับ คือจะถามว่าพี่กินอะไรหรือยัง”ผมตอบขณะที่ยังขำไม่หยุด
“พี่กินแล้ว แล้วก็มีโจ๊กอยู่บนโต๊ะอาหารน้องไปกินสิ แล้วก็เลิกขำได้แล้ว”ชายตอบแล้วจึงหันกลับไปดูการ์ตูนต่อ
ผมเดินจากมา แล้วตรงไปที่โต๊ะอาหาร แล้วรีบจัดการโจ๊กอย่างเอร็ดอร่อย
หลังจากทานเสร็จผมก็ยกจานไปล้าง แล้วตรงมาร่วมวงดูการ์ตูนกลับพี่มิกซ์ แต่ก่อนอื่นผมไม่ลืมที่จะโทรหาพี่ภัทรเพื่อถามการกลับบ้านอีกครั้ง
“น้องจะโทรหาใครน่ะ”ชายหนุ่มพูดพลางหันมาทางผม
“ก็โทรหาพี่ของผมน่ะสิ”ผมตอบพลางกดหาเบอร์ต่อ
“ไม่ต้องโทรหรอก ตอนเช้าพี่โทรไปแล้ว พี่เขาบอกว่าจะกลับมาดึกๆของวันนี้”ชายหนุ่มตอบทำเอาผมหันไปมอง
“พี่รู้จักพี่ผมหรือไงล่ะ”ผมถามกวนๆ
“รู้สิ พี่น้องชื่อภัทร อยู่ปี 4 คณะวิศวะ จุฬา ถูกไหม”ชายหนุ่มตอบพลางหันมายักคิ้วแบบกวนๆให้ผมที่กำลังอึ้งอยู่
“ไม่เชื่อหรอก พี่จะรู้จักพี่ผมได้ไง พี่ไปหาข้อมูลมาก่อนอยู่แล้ว”ผมตอบอย่างไม่เชื่อ
“ไม่รู้จักได้ไง ก็พี่เนี่ยก็เรียนอยู่วิศวะ จุฬาเหมือนกัน แถมพี่ของน้องยังเป็นพี่รหัสของพี่ตอนไปรับน้องยังนอนห้องเดียวกับพี่อยู่เลย”ชายหนุ่มพูดพลางหันมายักคิ้วอย่างเจ้าเล่ห์
“ไม่จริงหรอก”ผมพูด
“งั้นรับน้องที่ไหน พักกันที่ไหน ห้องที่เท่าไร”ผมถามต่อ
“เอ…รับที่ทะเลระยอง พักที่อมรพันวิลลาร์ บ้าน เอช 30 ห้องเบอร์ 4 ใช่ไหมน้อง”ชายหนุ่มตอบคำถามแล้วหันมายักคิ้วอย่างเจ้าเล่ห์อีกครั้ง
สถานที่ที่ชายหนุ่มตอบมานั้นถูกต้องทั้งหมด แถมลึกกว่าที่ผมรู้ซะอีก
“ยังไงก็ไม่เชื่อ”ผมพูดพลางกดปุ่มโทรออกเพื่อโทรหาพี่ของผม
“เฮีย เฮียจะกลับวันไหนหรอ”ผมถามพี่ของผมทันทีที่พี่ของผมรับสาย
“วันนี้มืดๆไง มิกซ์ไม่ได้บอกภูมิหรอ”พี่ของผมตอบทำเอาผมอึ้งไปสักพัก
“เฮียรู้จักพี่มิกซ์หรอ”ผมถามพี่ของผมอย่างช้าๆ
“55+ รู้จักสิ ก็มิกซ์มันเป็นน้องรหัสของเฮียน่ะ แล้วเฮียก็วานให้มิกซ์ไปนอนเป็นเพื่อนภูมิด้วย มิกซ์มันไปนอนด้วยหรือเปล่า”พี่ของผมตอบ
“นอน”ผมตอบอย่างช้าๆ
“อืมดีแล้ว ภูมิจะได้ไม่เหงา แล้วคืนนี้เก็บท้องไว้นะ เดี๋ยวเฮียพาไปเลี้ยงอาหารญี่ปุ่นร้านที่ภูมิชอบไปกินอ่ะ บอกมิกซ์ด้วยนะ”พี่ของผมตอบกลับ
“ได้ๆ แค่นี้นะครับ”ผมตอบพลางวางโทรศัพท์
“เชื่อหรือยังล่ะ”พี่มิกซ์ถาม
“เชื่อสนิทใจ”ผมตอบพลางทิ้งตัวลงไปนั่งกับโซฟาเพื่อดูทีวีอย่างไร้อารมณ์
“โหย อึ้งไปเลยหรอน้อง”ชายหนุ่มลุกมานั่งข้างๆผมพลางตบไหล่ผมเบาๆ
“พี่ขอพาไปเดินเที่ยวห้างเพื่อเป็นการขอโทษเรื่องเมื่อวาน โอเคไหม”ชายหนุ่มถามพลางทำหน้าแสดงถึงการยอมรับความผิด
ไม่รู้อะไรดลใจของผม หรืออะไรมาเปิดปากของผม ผมจึงตอบไปว่า “ก็ได้”ทันที
แล้วหลังจากที่ดูการ์ตูนจบผมก็โดนลากไปเที่ยวที่ห้างทันที
เดินดูสินค้าต่างๆของห้างสรรพสินค้าไปสักพักก็เลยเวลาเที่ยงไปแล้ว
“ไปหาอะไรกินกันดีกว่า”พี่มิกซ์พูดขณะที่ผมกำลังดูนาฬิกาเรือนสวย สีดำเงาวับในตู้กระจก ที่ราคาดูแพงสมกับรูปลักษณ์ และออฟชั่นหลากหลายของมัน
“กินอะไรดีล่ะ”ผมพูดขณะที่ตายังคงจับจ้องอยู่กับเจ้านาฬิกาเรือนหรูขณะที่ในหัวคิดว่าถ้าได้เอามาใส่คงจะเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆแน่เลย
“พิซซ่าเป็นไง”ชายหนุ่มเสนอขึ้น
“ไปก็ไป”ผมละตัวออกจากตู้กระจกพลางเดินนำชายหนุ่ม แต่ใจก็ยังคงอยู่กับเจ้านาฬิกา
“อยากได้นาฬิกาเรือนในตู้หรอ”ชายหนุ่มถามขึ้นขณะที่เราสองคนกำลังจัดการกับพิซซ่าขนาดถาดเล็กอยู่
“ไม่หรอก”ผมตอบไปทั้งๆที่อยากได้
“แต่มันก็สวยจริงๆเนาะ”ชายหนุ่มพูดต่อ
“ก็ถูก”ผมตอบพลางยัดพิซซ่าคำโตเข้าปาก
“ค่อยๆกินก็ได้ เดี๋ยวจะอิ่ม ตอนเย็นจะกินอาหารญี่ปุ่นได้ไม่เต็มที่นะ”พี่มิกซ์พูดอย่างตลกๆ
“ไม่ได้หรอก ของฟรีต้องกินให้เต็มที่”ผมตอบทั้งๆที่พิซซ่ายังเต็มปาก
“รีบกินก็เลอะหมดแล้วเห็นไหม”ชายหนุ่มพูดพลางเอื้อมมือมาเช็ดปากให้ผม
“เช็ดเองได้น่า”ผมเบือนหน้าหนีพลางหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดปาก
“อายไปได้ 55+”พี่มิกซ์พูดพลางก้มลงกินพิซซ่าต่อ
แล้วหลังจากที่กินพิซซ่าเสร็จเราก็ออกมาเดินย่อยอาหารและตากแอร์เล่นก่อนที่จะกลับบ้าน
ความคิดเห็น