The love เพราะรักออกแบบไม่ได้
เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของต้นเฟิร์น ฝากด้วยนะคะรับรองว่าตอนต่อไปสนุกก่านี้แน่ค่ะ ฝฝากติดตามด้วยค่ะ
ผู้เข้าชมรวม
107
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ตอนที่ 1ก้าวสู่มาร์แตย์เดอีย์
กริ๊งงงงงงงงงงงงงง
เสียงนาฬิกาปลุกดังลั่นอยู่ภายในห้องสี่เหลี่ยมสีชมพูขนาดไม่ใหญ่มาก ตกแต่งด้วยรูปดาราดังมากหน้าหลายตาอันเนื่องมาจากความชอบส่วนตัวของเจ้าของห้อง แต่ไม่ว่านาฬิกาปลุกจะดังขนาดไหนร่างที่อยู่ใต้ผ้าห่มก็ยังคงนอนนิ่งไม่สะดุ้งสะเทือนกับเสียงรบกวนเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่ง
“ริโอะ ตื่นได้แล้วลูกวันนี้เปิดเรียนวันแรกไม่ใช่หรอ ทำไมยังไม่ตื่น” สาวใหญ่วัยสี่สิบต้นๆเขย่าร่างบางใต้ผ้าห่มผืนหนาที่ยังนอนไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเลย จนเจ้าของร่างโผล่ใบหน้าอันแสนจะงัวเงียออกมาจากผ้าห่ม ดวงตารีเฉียงที่ได้มาตามเชื้อญี่ปุ่นฝ่ายบิดาหรี่ลงจนแทบปิดเพราะสายตาไม่ได้เจอแสงมาหลายชั่วโมง
“อึ้ย ยังง่วงอยู่เลยค่ะแม่ อีกห้านาทีนะคะ” เมื่อเจ้าของร่างบางยังคงอิดออดไม่ยอมลุกง่ายๆผู้เป็นแม่ต้องจึงต้องใช้มาตรการเด็ดขาด
“โอ้ย แม่อ่ะ ลากหนูลงอย่างงี้หนูเจ็บนะคะแม่”เจ้าของร่างบางโวย เมื่อผู้เป็นแม่ลงมือลากหล่อนลงจากเตียงจนลงมานั่งผมเผ้ายุ่งเหยิงอยู่เบื้องล่าง
“ก็ปลุกดีๆ ไม่ลุกขึ้นเอง แม่ก็ต้องใช้มาตรการของแม่เองซิจ้ะ ไป ไปอาบน้ำได้แล้ว” ผู้เป็นแม่โบกไม้โบกมือไปทางห้องน้ำ ริโอะจำต้องลุกขึ้นหยิบผ้าเช็ดตัวทั้งที่ยังง่วงตาแทบจะปิดแล้วเดินโซซัดโซเซไปเข้าห้องน้ำ
เข้ามาในห้องน้ำแล้วก็ยังไม่หายง่วง มือบางเอื้อมไปเปิดก๊อกน้ำ แล้ววักน้ำมาประพรมบนใบหน้าอย่างเบามือ น้ำเย็นๆปัดเป่าความง่วงจนหายเป็นปลิดทิ้ง เมื่อหายง่วงริโอะก็เริ่มอาบน้ำอย่างเร่งรีบเพราะตอนนี้ดูเหมือนจะสายมากแล้ว หล่อนไม่อยากไปสายตั้งแต่วันแรก อาบน้ำเสร็จร่างบางก็รีบออกมาจากห้องน้ำ แล้วหยิบชุดนักเรียนมัธยมปลายใหม่เอี่ยมที่ผ่านการรีดจนกลีบแทบบาดมือได้มาสวม แล้วรีบวิ่งลงไปข้างล่างอย่างรีบร้อน
“ไม่น่าเลยชั้น นั่งจัดกระเป๋าจนเกือบไม่ได้นอน สายตั้งแต่วันแรกเล้ยยย”
เมื่อลงมาถึงข้างล่าง กระเป๋าเสื้อผ้าที่เธอนั่งจัดมาเกือบค่อนคืนก็ถูกนำมาวางอยู่ข้างล่างเรียบร้อย ร่างบางก็รีบไปนั่งที่โต๊ะอาหารแล้วรีบลงมือรับประทานอย่างเร่งรีบ
“ริโอะ ไม่ต้องรีบขนาดนั้นหรอกลูก เดี่ยวก็สำลักหรอก” นิภา ผู้เป็นแม่พูดอย่างห่วงใยเพราะเห็นลูกสาวตั้งหน้าตั้งตากินอย่างรวดเร็วราวกันหล่อนตั้งใจทำสถิติโลก
“ก็มันสายแล้วนี่คะแม่ นี่ถ้าไปไม่ทันหนูอาจจะถูกตัดสิทธิ หนูยอมไม่ได้ค่ะแม่” เสียงหวานดังเล็ดลอดออกมาจากปากที่เต็มไปด้วยอาหาร
“เฮ้อ ช่วยไม่ได้ก็นาฬิกาปลุกแล้วก็ไม่ตื่นเองนี่นา นี่ถ้าแม่ไม่เข้าไปปลุกป่านนี้ก็ยังนอนไม่รู้เรื่อง”
“อิ่มแล้วค่ะแม่ สายมากแล้วไม่รู้รถจะติดรึเปล่า” แล้วสองแม่ลูกก็ออกเดินทางไปโรงเรียนทันที
หน้าโรงเรียนมาร์แตร์เดอีย์
“ริโอะ รีบเข้าไปเร็วลูกเค้าเข้ากันไปเกือบหมดแล้ว” นิภาเร่งลูกสาวเพราะตอนนี้ เด็กนักเรียนที่อยู่หน้าโรงเรียนน้อยลงทุกที
“หนูไปนะคะแม่ รักแม่นะคะ เจอกันเย็นวันศุกร์นะคะแม่” ริโอะรีบหอบหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าวิ่งข้ามถนนไปเข้าประตูโรงเรียนที่กำลังจะปิด
เมื่อเข้ามาข้างในโรงเรียนตึกต่างเป็นตึกสมัยเก่า ใช้สถาปัตยกรรมแนวโกธิคเน้นความเรียบง่ายโดยเฉพาะตึกที่ใหญ่ที่สุด ตึกสีขาวส่วนบนสุดของตึกทำเป็นยอดแหลมเหมือนยอดของปราสาท ถัดลงมามีนาฬิกาเรือนใหญ่ที่คอยบอกเวลาทุกคนในโรงเรียนถัดลงมาเป็นซุ้มประตูโค้งประดับด้วยเถาวัลย์และรูปปั้นของนางฟ้าเทวดาตัวน้อยที่กำลังเริงระบำเชิญชวนให้เดินเข้าไปข้างใน เมื่อมองไปข้างก็จะเห็นหน้าต่างที่มีลักษณะโค้งเช่นเดียวกับซุ้มประตูบุด้วยกระจกสีสันต่างๆที่เรียบเรียงต่อกันอย่างง่ายแลดูท้าทายและเรียบง่ายไปในตัว
“น้องคนนั้นน่ะ ม4ใช่มั้ย หอประชุมอยู่ฝั่งนี้จะเดินไปไหนล่ะนั่นน่ะ” เสียงแหลมที่แสนจะแสบแก้วหูปลุก
ริโอะให้ตื่นจากภวังค์ เมื่อริโอะหันไปก็พบสาวหน้าคมยืนเท้าสะเอวอย่างไม่สบอารมณ์อยู่ไม่ไกลนัก
“เอ่อ หนูไม่รู้ว่าหอประชุมไปทางไหนอ่ะคะเห็นตึกสวยก็เลยเดินเข้าไปดู” ริโอะรีบแก้ต่าง เพราะดูรุ่นพี่หน้าคมคนนี้ไม่เป็นมิตรเอาซะเลย หล่อนยังไม่อยากมีเรื่องกับรุ่นพี่ตั้งแต่วันแรกที่มา
“นี่ไม่ใช่เวลามาทัวร์โรงเรียน เค้าเอากระเป๋าไปเก็บฝั่งโน้นกันหมด เชิญ ขาดเธออยู่คนเดียวแหละ”ดูรุ่นพี่คนนี้จะวางอำนาจเกินไปซะแล้ว สำหรับริโอะแล้วทนได้เท่าที่ทนแต่ถ้ามากไปหล่อนก็ไม่ทนเหมือนกัน เรื่องแค่นี้ทำมาเป็นเรื่องใหญ่ตะคอกคนอื่นเค้าไปทั่ว
“ขอโทษค่ะที่หนูทำให้รุ่นพี่ลำบาก แต่รุ่นพี่ก็น่าจะรู้นี่ค่ะว่าหนูมาวันนี้วันแรก ถ้าหนูรู้หนูก็คงไม่เดินบ้ามาทางนี้หรอกค่ะ” ริโอะสวนกลับบ้าง ทำเอาสาวหน้าคมถึงกับหน้าม้านด้วยความโกรธ
“นี่เธอคิดว่าเธอเป็นใคร หาถึงกล้าพูดกับฉันแบบนี้ รู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร” สาวหน้าคมเริ่มเสียงดัง เสียงจากที่แหลมอยู่แล้วก็แหลมขึ้นเรื่อยๆจนทำให้คนฟังยิ่งอารมณ์เสีย
“ก็หนูบอกแล้วว่าหนูเพิ่งมา หนูไม่รู้หรอค่ะว่าพี่เป็นใคร”
“นี่เธอ อยากลองดีนักใช่มั้ย ได้เดี่ยวจะได้รู้กัน”
สาวหน้าคมเงื้อมือขึ้นสุดแรง เตรียมพร้อมที่จะฟาดลงไป บนใบหน้าขาวๆของริโอะ ริโอะได้แต่หลับตา
(นานแล้วนะทำไมยัยรุ่นพี่บ้านี่ไม่ตบชั้นซักที)ริโอะคิดในใจ ก่อนที่จะได้ยินเสียงห้าวๆของบุคคลที่สามดังขึ้น
“แซมทำอะไร นี่โรงเรียนนะไม่ใช่ที่บ้านเธอ”
เมื่อริโอะลืมตาก็เห็นว่ารุ่นพี่หน้าคมยกมือค้างไว้ โดยที่มีมือของใครอีกคนดึงอยู่ข้างหลัง!!!!!
อยากรู้ว่าคนข้างหลังเป็นใครโปรดติดตามตอนต่อไปน้ะค้ะ ^0^
ผลงานอื่นๆ ของ นารีผล ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ นารีผล
ความคิดเห็น