คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เรื่องประหลาด
"ปัง แครกๆ"
"ปุๆๆๆๆๆๆ วี้ด...ตูมๆๆ"
"ย้ากสสสสสสสสส ไรเฟิลบุกโว้ยยยยยยยยยย" เด็กหนุ่มหัวทองตะโกนลั่นร้าน x-net ร้านเกมส์ชื่อดังของหาดใหญj
"หัวแตก หัวแตก หัวแตกกกกกก ลุยเลยลูก"คนในร้านเริ่มหันมามองด้วยหางตา(+เขม่นนิดๆ)
"โย่ว ซับแม้น ยิงภาษาอะไรเนี่ย เลือดไม่ลดซักกะแอะ ไม่สมควรอยู่แล้ว แกตายยยยยยยยยยยยยยยยย"เสียงตะโกนดังมาจากเครื่องเดิม
"ไอหมากกกกกกกกกกกกกก"ชายวัยกลางคนถลันเข้ามาในร้าน
"ซับแม้น มีไรกะผมอะ อ่าวววววว นี่คุณพ่อสุดทีjรักของกระผมนี่หน่ามาไมครับเนี่ย"ไอหนุ่มผมทองหันมามองท่าทางยียวน(โคตรกวนประสาท)
"แกไม่รู้เหรอว่านี่มันกี่โมงกี่ยาม"ชายวัยกลางคนที่สันนิษฐานได้ว่าเป็นพ่อของไอตัวกวนประสาทตัวนี้ถามอย่างโกรธเต็มที่
"พ่อไม่ต้องห่วงร้อกกก ผมดูนาฬิกาเป็นน่า เข็มยาวกับเข็มสั้นมันตรงกันที่เลข 12 เด็กอนุบาลยังรู้เลยป๊า"ไอผมทองตอบยังไม่มีทีท่าจะวางมือจากเม้าส์เลย
"เออ เก่ง แล้วมันหมายความว่าไงรู้มั้ย!!"คราวนี้เสียงเริ่มดังเกิน 90 เดซิเบล
"แกต้องสอบเข้าพรุ่งนี้ หนังสือแกก็ยังไม่อ่านซักกะตัว ยังมีหน้าหนีออกมาเล่นเกมส์อีกเรอะ"พ่อตะโกนถาม
"โธ่พ่อก็ ไอสอบมันเรื่องขี้ปะติ๋ว ผมน่ะมันอัจฉริยะอยู่แล้ว"ตอบพลางยิงไรเฟิลไปด้วย
"อัจฉริยะเหรอ แล้วเกรด 1.4 ของเทอมที่แล้วน่ะมันหมายความว่าไงล่ะ"เสียงเริ่มเบาลง(เจ็บคอ)
"แหมพ่อ ก็ผมยังไม่เอาจริงน่ะ ถ้าเอาจริงนะ เกรด 4 มันของกล้วยๆอยู่แล้ว"ตอบด้วยความมั่นใจเต็มที่
"เอ้อ เอาเฮอะ ข้าพูดยังไงแกก็ไม่เคยฟังเล้ย เอาเป็นว่าวันนี้กลับบ้านก่อนก็แล้วกัน"
"เคคับผม กลับก็ด้ะ แต่ว่าขออีกตานะ"เด็กหนุ่มตอบ
เช้าวันรุ่งขึ้น ที่โรงเรียนดังแห่งหนึ่ง
"ขอเชิญผู้สมัครคนต่อไปเข้าสัมภาษส์ค่ะ"อาจารย์สาวพูด
"เอ่อ...ผู้ปกครองห้ามเข้านะคะ รอข้างนอกค่ะ"อาจารย์บอกกับชายกำลังจะเดินเข้าห้องสอบสัมภาษส์
"อ้าวจารย์ มาว่ากันงี้ได้ไงอะ ผมมาสอบนะครับ"ชายคนนั้นหันกลับมาตอบ
"อ้าวเหรอคะ ขอโทษทีค่ะเข้าไปได้เลย"อาจารย์สาวตอบพลางพิจารณามองเด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่เดินเดินผ่านตนไป....
"มันมาสอบหรือมันมาวางระเบิดเนี่ย..."
เวลาผ่านไปซักประมาณ 5 นาที
"โครม"ประตูถูกกระแทกออกพร้อมร่างของของเด็กหนุ่มเดินออกมาอย่างหัวเสีย
"อะไรกันว้าาาา กะอีแค่ความสามารถพิเศษว่าเล่น counter เก่ง ทำไมไม่รับหว่า ผลงานก็มีตั้งเยอะแยะ ตั้งแต่แข่งระดับภาคจนถึงระดับประเทศ ใครมันจะมีได้อย่างเรา หนอยยย คิดแล้วมันแค้นใจจริงๆเลยโว้ยยยยย กลับบ้านนอนดีกว่า"เด็กหนุ่มบ่นกับตัวเองคว้าเสื้อเจ็กเก็ตยีนส์ใส่แล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
เย็นนั้นที่บ้านของเด็กหนุ่ม
"หมาก วันนี้วันเกิดลูกนี่จะสั่งอะไรมากินรึเปล่าล่ะ"พ่อไอหมากถามลูกชายขณะที่กินข้าวเย็นกันอยู่
"ก็ดีพ่อ ขอเป็นพิซซ่าหน้าต้มยำกุ้งละกัน อ้อ แล้วก็เรียกชื่อผมให้ถูกซะทีสิ ผมชื่อมาร์คนะ ไม่ใช่หมาก"เด็กหนุ่มตอบทั้งที่เคี้ยวข้าวตุ้ยๆอยู่
"เออๆๆ จะหมากหรือมาร์คมันก็ครือๆกันนะแหละว้า ไปอ่านหนังสือไปพ่อจะไปสั่งให้"พูดพลางลุกไปกดโทรศัพท์
"งั้นผมไปเล่นเกมส์แป็บละกัน รอพิซซ่ามา"เด็กหน่มพูดพลางลุกไปเล่นคอมพ์
ขณะที่เด็กหนุ่มกำลังเล่นเกมส์ด้วยความเพลิดเพลินใจอยู่นั้นสิ่งที่ไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้น
"ครืนๆๆ แปลบๆๆๆ"
"เปรี้ยง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
อยู่ดีๆฟ้าที่สว่างก็มืดลงอย่างกะทันหัน ประจุไฟฟ้าถูกลากจากอากาศแหวกลงสู่แผ่นดินด้วยความเร็วสูง พอดีกับที่เด็กหนุ่มกำลังจะถอดปลั๊กไฟออกเพื่อปิดเครื่องคอมพิวเตอร์
"อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"ร่างของมาร์คกระตุกอย่างรุนแรงไฟฟ้านับหมื่นแสนโวลท์ไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว
ตาของเขาเริ่มพร่ามัวลงเรื่อยๆเห็นภาพของพ่อที่พยายามจะวิ่งเข้ามาช่วย เห็นโลกเริ่มหมุนเป็นวงกลมไปรอบๆตัว แล้วทุกอย้างก็เริ่ม
หา.......
ย..........
ไป...............
..................................................................................................................................
แสงสว่างค่อยๆลอดผ่านสายตาเข้ามาผ่านเลนส์แก้วตา ตกเข้าสู่เรตินา ส่งสู่สมองให้ประมวลผล
"โรงพยาบาลเหรอ"เด็กหนุ่มคิด
"ไม่มั้ง...งั้นคงเป็นเป็นนรกหรือสวรรค์"เด็กหนุ่มคิดอีก
"ก็ไม่น่าใช่อีก...รู้แต่ว่า...นิ่มจังแฮะ..."เด็กหนุ่มคิดอีกรอบ
"นุ่มดีจัง...ยังกะ"เด็กหนุ่มหลับตาอีกทีพลางคิด
"ตักผู้หญิง!!!!!!!"เด็กหนุ่มสะดุ้งตัวลอยทันที
"เฮ้ย!! เราเพิ่งโดนไฟช้อตไม่ใช่เหรอแล้วเรามาอยู่ที่นี่ได้ไง"เด็กหนุ่มกวาดสายตาไปรอบๆเป็นกระจอมพักลักษณะคล้ายกระโจมทหาร แล้วสายตาของเด็กหนุ่มก็หยุดชะงักลงที่หนึ่ง
"ผู้หญิง!!! บ้าน่าเราฝันรึเปล่า ทำไมมานอนหนุนตักผู้หญิงอยู่อย่างนี้ล่ะ"เด็กหนุ่มครุ่นคิด แต่คิดเท่าไหร่มันก็คิดไม่ออก
ขณะที่เด็กหนุ่มกำลังมึนงงกับสภาพของตัวเองอยู่นั้นปากกระโจมก็เปิดออก ชายร่างใหญ่คนหนึ่งก้าวเข้ามา
"อ้าว ไอหนู ตื่นแล้วเรอะ"ชายคนนั้นหันมามองมาร์คพลางเอ่ยถามขึ้น
"เอ่อ ก็ไม่ได้นอนก็ต้องตื่นแล้วอะดิลุง แล้วนี่มันโรงบาลไรเนี่ย ทำซะอย่างกะค่ายทหาร"เด็กหนุ่มตอบตามภาษากวนประสาท
"กวนบาทานี่หว่าไอนี่ แล้วโรงบาลบ้านแกเป็นอย่างนี้เรอะ คนเค้าอุตส่าห์ช่วยมา ยังมาปากดีอีก"หนุ่มใหญ่พูดตอบ
"ช่วย...หมายความว่าไงล่ะลุง ลุงจะไปช่วยผมมาได้ไง ผมงงหมดแล้ว"เด็กหนุ่มถามด้วยความมึนงง
"อ้าว ก็แกนอนสลบอยู่กลางป่า พวกเราลาดตระเวณตรวจไปพบเข้า เลยช่วยมา" "หา ผมเนี่ยนะนอนสลบอยู่กลางป่า เพิ่งเดินไฟช้อตอยู่หยกๆแล้วจะมานอนอยู่กลางป่าได้ไง"
"ไฟช้อตงั้นรึ...ถ้าโดนไฟช้อตแกคงไปกวนบาทายมบาลแทนข้าแล้วล่ะ"หนุ่มใหญ่ตอบพร้อมเริ่มรำคาญเล็กน้อย
"อืม......"เสียงครางเบาๆดังมาจากทางด้านหลัง
"ชีลเก้ ตื่นแล้วเหรอ"ทหารหนุ่มใหญ่หันไปทักทายหญิงสาวที่อยู่ทางด้านหลังมาร์ค
"ค่ะ ท่านผู้พัน อ้อ เด็กคนนี้ท่าทางจะหายแล้วสินะคะ"หญิงสาวที่ถูกเรียกว่า"ชีลเก้"พยุงตัวขึ้นจากเปลสนาม
"เอ้า ไอหนู รู้จักไว้ซะ เธอชื่อ ชีลเก้ เป็นแพทย์ประจำกองทัพของเรา ตอนเราเจอแก แกสะบักสะบอมจนไม่คิดว่าจะรอดแล้ว ถ้าไม่ได้เธอล่ะก็ แกคงไม่มาพูดมากอยู่แบบนี้หรอก"หนุ่มใหญ่ยศนายพันพูดต่อ
"อ้อ สวัสดีครับ"เด็กหนุ่มหันไปไหว้ตามมารยาทพลางพิจารณาดูหญิงสาว
เธอมีผมสีทองเหมือนเขา แต่คงไม่ใช่เพราะย้อม ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลช่วยเพิ่มความสดใสให้แก่ใบหน้าและรับกันอย่างดีกับจมูกเล็กๆของเธอ ร่างของเธอค่อนข้างสูงถ้าเทียบตามมารตฐานของคนไทย แต่ที่สะดุดใจมารค์อย่างมากนั่นคือ ก้อนเนื้อขนาดมโหฬารที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อยืดทหารบางๆ จนแทบจะปิดไม่มิด มันทำให้เขาใจลอยไปซักพักเลยทีเดียว
"หนู ชื่ออะไรล่ะจ๊ะ"ชีลเก้หันมาถามมาร์ค
มาร์คสะดุ้งจากภวังค์ของตัวเองทันที "เอ่อ...ชื่อมาร์คครับ อายุ16ปี สูง185 หน้าตาดี ผมทอง และที่สำคัญ ยังโสดสนิทไม่มีแฟนหรือกิ๊กผูกพันครับ แหะๆๆๆ"เด็กหนุ่มตอบและหัวเราะในความหน้าภาชนะหุงต้มของตัวเอง(หน้าม่อ)
"เฮ้ย จะมากไปแล้วไอนี่ ข้ามรุ่นนะๆ ไปกินข้าวกินปลาได้แล้ว แล้วตอนเที่ยงมารายงานตัวที่กระโจมใหญ่ด้วยนะ จะให้ช่วยรบดีกว่าอยู่เปล่าๆ"หนุ่มใหญ่บอกกับมาร์คพร้อมหันหลังกลับแล้วเดินออกไปจากกระโจม
"เดี๋ยวก่อนลุง ผมเพิ่งจะ16 เองนะ เกณฑ์ทหารมันต้อง 20 ไม่ใช่เหรอครับ"มาร์คถามด้วยความตกใจ
"จะอายุเท่าไรมันไม่สำคัญ มันอยู่ที่ใจไอน้อง อ้อ แล้วเรียกชั้นว่า ผู้พันฮาร์ด รหัส พยัคฆ์เหลือง"ผู้พันหันหลังกลับมาบอกแล้วเดินออกไปจากกระโจม
"มาร์ค เดี๋ยวชั้นจะพาไปดูบริเวณค่ายทหารของเรานะ"ชีลเก้บอกมาร์ค
มาร์คเดินตามชีลเก้ไปพร้อมมองดูบริเวณรอบๆตัว เห็นกระโจมทหารเรียงรายอยู่ประมาณซัก 100 กระโจม มีทหารบางคนนั่งต้มกาแฟดื่มกัน บ้างก็ทักทายกับชีลเก้และมองดูมาร์คด้วยสายตาที่มาร์ครู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร ขณะที่เดินไปเรื่อยๆนั้น มาร์คก็เห็นกระโจมหนึ่งซึ่งตั้งเด่นเป็นสง่าใหญ่กว่ากระโจมอื่นๆ ขนาดก็ใหญ่กว่า
"นั่นคือกระโจมบัญชาการหลักที่เธอต้องมารายงานตัวเที่ยงนี้ คนที่อยู่ในกระโจมนี้จะเป็นระดับผู้บัญชาการทั้งนั้นแหละ ท่านผู้พันฮาร์ดที่เธอเจอเมื่อเช้านี้ ก็อยู่ที่กระโจมนี้แหละ"ชีลเก้อธิบายเมื่อเห็นมาร์คสนใจเป็นพิเศษ
"อ๋อ..ครับ"มาร์คพยักหน้าแสดงความเข้าใจแล้วก็เดินตามชีลเก้ต่อไป
"เอ้อ...คุณชีลเก้ครับ แล้วไอรหัสที่ผู้พันฮาร์ดท่านว่า คืออะไรหรือครับ"มาร์คถามขึ้นมาด้วยความสงสัยเมื่อนึกที่ประโยคที่ผู้พันฮาร์ดบอกไว้
"อ๋อ...ก็ไม่มีอะไรหรอกนะ เป็นรหัสเวลาใช้วิทยุน่ะ แต่บางทีก็ใช้เป็นรหัสในการประชุมอะไรพวกเนี้ยด้วยนะ ชั้นเองก็มีรหัสนะ ฮิฮิ"คุณชีลเก้ตอบอย่างอารมณ์ดี
"จริงเหรอครับ อะไรล่ะครับ"
"แมวดำจ้ะ"คุณชีลเก้ตอบ แล้วจึงพามาร์คเดินต่อ
มาร์คตามชีลเก้มาจนถึงบริเวณลานแห่งหนึ่ง เห็นทหารกำลังนั่งกินอาหารกันอยู่ อาหารที่มาร์คเห็นก็แทบจะทำให้เขาไม่เจริญอาหารเสียแล้ว เพราะมันเป็นเพียงแค่เนื่อสดๆที่เอามาย่างใส่เกลือเท่านั้นเอง
"เอ่อ...ผมต้องกินอาหารเช้าที่นี่เหรอ"มาร์คถามชีลเก้พลางทำหน้าตาน่าสงสาร
"ใช่จ้ะ ไปเอาเนื่อที่กองจ่ายเสบียงทางโน้นแล้วเอาไปย่างกินกับคนอื่นเขาสิ"ชีลเก้บอกมาร์ค
"แต่ผมยังเป็นคนป่วยอยู่เลยน้า เดี๋วกินอย่างนี้ก็ไม่หายพอดี"มาร์คพยายามอ้อนขอคะแนนความสงสารพลางใช้มือที่ซุกซนแอบแต้ะอั๋งชีลเก้
"ไม่ได้!!!!!!!!!!!!!! มีคนช่วยมาแล้วยังจะมาเลือกกินอีกเหรอ เดี๋วปั้ดเหนี่ยวเลย"ชีลเก้ตอบพร้อมท่าทางที่เปลี่ยนไปจนเห็นได้ชัด
"แล้วอีกอย่างนะ ไม่ต้องคิดข้ามรุ่นมาจีบชั้นเชียวนะ"ชีลเก้บอกแล้วก็หันหลังจากไปอย่างไม่ไยดี
"อะไรเนี่ย ทำไมบทจะโหดก็โหดถึงใจขนาดนี้เลยเรอะ"มาร์คบ่นกับตัวเองพลางเดินไปรับเนื้อมาชิ้นหนึ่ง
"ทำไมตูต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้ด้วยเนี่ยยยยยยยยยยยยยย"มาร์คตะโกนในใจด้วยความคับแค้นใจกับโชคชะตาที่เล่นตลกกับตน
มาร์คด้อมๆมองๆหาที่ว่างที่พอจะนั่งได้จนเลือกได้มุมใกล้ต้นไม้แห่งหนึ่ง
"อืม..."มาร์คมองเนื่อย่างในมือตนเองอย่างชั่งใจ
"เอาวะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว จะกินอะไรมันก็ต้องกินละ"มาร์คตัดสินใจแล้วจึงกัดเนื่อย่างคำโตท่าทางจะเป็นส่วนน่องไก่
"ว้าว อร่อย ไม่น่าเชื่อเล้ย ดูไม่น่ากินแต่อร่อยชิบเป๋งเลยแฮะ"มาร์ครำพึงกับตัวเอง
ขณะที่เด็กหนุ่มกำลังกินเนื้อย่างอย่างเอร็ดอร่อยอยู่นั้น ทหารร่างยักษ์นายหนึ่งก็เดินเข้ามาหา
"ไง ไอน้อง ตรงนี้น่ะ พี่นั่งประจำนะ ช่วยลุกหน่อยได้ป่าว"ทหารนายนั้นพูดกับมาร์คท่าทางหาเรื่อง
"เอ่อ ตรงอื่นก็ยังว่างอีกเยอะนี่พี่ ไปนั่งที่อื่นไม่ได้เหรอ"เด็กหนุ่มผมทองตอบกลับอย่างไม่ยี่หระ
"เฮ้ย บอกว่าให้ลุกก็ลุกซิวะ มาใหม่แล้วทำเก๋าเหรอหา"นายทหารคนนั้นเริ่มขึ้นเสียง คนอื่นๆในบริเวณเริ่มหันมามอง
"พี่ พูดดีๆหน่อยนะพี่ ผมเพิ่งมาก็จริง แต่พี่มีสิทธ์ไรมาหาเรื่องผมล่ะ"มาร์คเริ่มอารมร์บ่จอย
มาร์คมองดูรูปร่างของนายทหารคนนี้แล้วก็ประเมินได้ว่า ถ้ามีเรื่องชกต่อยกัน คงจะชนะได้ยาก ก็ตัวใหญ่ยังกะหมีอย่างนั้น แต่เค้าก็คิดว่า คนตัวใหญ่สมองมันอาจจะเล็กก็ได้
"ตกลงจะลุกไม้ เดี๋ยวมีเรื่องแน่"หมีในคราบคนเริ่มหาเรื่องต่อ
ด้วยความไม่คาดฝัน สายตาทุกคู่แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เมื่อเด็กหนุ่มลุกขึ้นและ
เปรี้ยง!!!!!!!!!!!!!!!!!!
มาร์คต่อยนายทหารร่างยักษ์นั้นเข้าที่ลิ้นปี่เต็มแรง...
นั่นคือ..สิ่งที่เด็กหนุ่มคิดขณะที่เงื้อหมัดพุ่งเข้าใส่นายทหารหมีควายคนนั้น..
"อ็อก..."มาร์คถึงกับทรุด เพราะก่อนที่หมัดของมาร์คจะไปได้อย่างใจคิด เขาก็โดนสวนกลับอย่างสวยงา,ด้วยเท้าขวาของเจ้าหมีควายนั้นเสียแล้ว
ทหารคนอื่นๆเริ่มทยอยกันลุกขึ้นและเดินเข้ามามุงดูเหตุการณ์
"ซวยแล้วสิตู...มีเรื่องมา 100 ครั้ง เพิ่งแพ้ก็ครั้งนี่ล่ะวะ"มาร์คคิดในใจพลางกุมท้องที่ถูกรถบรรทุกชนเมื่อครู่
"เฮ้ย ไอหนู แหม.. ไอความซ่าส์มันหายไปไหนหมดล่ะจ๊ะ หืม..." คำพูดน่ะเพราะ แต่หน้ามันไม่ให้เลย มาร์คสงสัยว่าชีวิตเขาจะจบลงที่นี่งั้นหรือ..
"หยุดเดี๋ยวนี้!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
เสียงตวาดดังกึกก้องจนแก้วหูของมาร์คสะเทือน ทหารคนอื่นๆถึงกับหยุดชะงักลงทันที ทหารที่กองกันอยู่นั้นสลยาตัวออกเป็น 2 แถว พลางวันยาหัคถ์ให้แก่เจ้าของเสียงที่ดังกึกก้องเมื่อครู่นี้ ร่างของชายผู้หนึ่งก้าวเข้ามา ร่างกายไม่ใหญ่มากนัก สูงราว 165 ค่อนข้างจะแก่เสียด้วยซ้ำ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเจ้าของเสียงที่ทรงพลังขนาดนั้น
"เกิดอะไรขึ้น อธิบายมาซิ"ชายผู้มีเสียงอันทรงพลังถาม แต่ตอนนี้เสียงกลับมาในระดับปกติแล้ว
"ครับท่าน พลทหารลูกเจี้ยบมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเด็กหนุ่มที่พบเมื่อวานนี้ครับ"นายทหารนายหนึ่งรายงาน
ชายคนนั้นหันมาทางมาร์คที่กำลังตกใจกับชื่อของนายทหารที่จัดการตนเมื่อครุ่นี้
"เธอ คงจะเป็นมาร์คสินะ เห็นท่านผู้พันฮาร์ดพูดให้ฟังไปเมื่อเช้า เห็นว่าจะรายงานตัวตอนเที่ยงนี่"นายทหารซึ่งท่าทางจะเป็นระดับผู้บัญชาการถามมาร์ค
"ครับ"มาร์คตอบ พลางคิดในใจว่าแล้วจะโดนอะไรฟะเนี่ยเรา
"อาวล่ะ เธอเพิ่งมาใหม่ ยังคงไม่รู้กฏของค่ายเรา งั้นตามชั้นมานี่ อ้อ แล้วพลทหารลูกเจี้ยบเองก็พาไปรับโทษตามกฎด้วยนะ หลายครั้งแล้วนะนายน่ะ "นายทหารหันหลังและเดินนำไปยังกระโจมบัญชาการ
"โห...อยู่กระโจมนี้ เห็นคุณชีลเก้บอกว่าต้องยศสูงๆ แล้วไอเสียงที่ตวาดมานี่มันทำเอาเรามึนเลยแฮะ"มาร์คคิดในใจพลางเดินตามไปอย่างว่าง่าย
นายทหารร่างเล็กคนนั้นนั่งลงที่เก้าอี้พลางชี้ให้มาร์คนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม มาร์คเหลือบเห็นบนโต๊ะมีป้ายบอกตำแหน่งและชื่อไว้ว่า"ผู้พันเกรย์"รหัส พยัคฆ์ขาว
"อู้หู...รหัสพยัคฆ์ขาว เท่น่าดูแฮะ คล้ายๆกะของลุงฮาร์ดเลย"มาร์คคิดในใจขณะที่นั่งลงตรงข้ามผู้พันเกรย์
"เอาล่ะ มาร์คไหนลองเล่าประวัติของเธอคร่าวๆให้ฉันฟังซิ แล้วบอกเหตุผลที่เธอไปนอนสลบไม่ได้สติอยู่ที่ป่านั่น"ผู้พันเอ่ยทำลายความเงียบ
"เอ่อ...ก็คือว่า ผมเป็นคนแถวนี้น่ะครับ พ่อแม่ก็ตายหมดแล้วเป็นเด็กกำพร้า เมื่อวันนั้นน่ะครับ ที่บ้านผม เสือมันบุกเข้ามา 2-3 ตัวอะคับ แล้วผมไม่ทันได้เตรียมพร้อม จะหยิบปืนก็ไม่ทัน เลยวิ่งหนีเข้ามาในป่า เเล้วก็มาหมดแรงอยู่น่ะครับ"มาร์คเริ่มกุเรื่องราวขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะรู้อยู่แก่ใจว่า ขืนบอกความจริงไป ก็สงสัยจะโดนหาว่าเป็นบ้าแหงเลย
"อืม..แต่แถวนี้มันไม่ค่อยจะมีเสือนี่นา โชคร้ายจังนะที่บุกบ้านเธอตั้ง 2-3 ตัว"ผู้พันร่างเล็กพูดแล้วจึงบอกต่อว่า
"เอาล่ะ...ทีนี้เธอรู้รึยังว่าที่นี่คือที่ไหน"ผู้พันเกรย์ถาม
"จะไปรู้ได้ไงวะ"มาร์คคิดแต่ถ้าตอบออกไปคงไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดแน่
"เอ่อ...ไม่ทราบครับ"มาร์คตอบ
"เอาล่ะ...ที่นี้คือ กองทหารราบพิเศษที่ 57 สังกัดตรงกับพณ.ท่านรัฐมนตรี มีหน้าที่ตรวจดูชายแดนบริเวณอเมริกาใต้ ผู้บังคับบัญชาการสูงสุดของหน่วยเราคือ ท่านนายพลฟาร์จา รหัสท่านคือ สิงโตทอง ส่วนชั้นคือ ผู้พันเกรย์ เป็นหนึ่งในสามหน่วยพยัคฆ์พิฆาตของกองทัพ ผู้พันฮาร์ด ที่นายเจอเมื่อเช้า ก็อยู่หน่วยเดียวกับชั้น"ผู้พันเกรย์อธิบายยาวปล่อยให้มาร์คนั่งพยักหน้าหงึกๆ
"อ่าครับ เข้าใจละครับ"มาร์คตอบตามมารยาท
"งั้นเราจะมาว่าเรื่องการกระทำของเธอละกันนะ"ผู้พันเกรย์พูดด้วยเสียงเฉียบขาดจนทำให้มาร์คเสียวสันหลัง
"เอ่อ..ผมจะโดนทำโทษอะไรมากรึเปล่าครับ"มาร์คถามเสียงละห้อย
"ตายแล้วตู ตายแน่ ต้องมาเล่นไอเกมบ้าๆนี้จริงรึเนี่ยมาร์ครำพึงในใจ "ไม่น่าไปก่อเรื่องเล้ย"
"55555+ อย่าเพิ่งซีดสิ อย่าฉี่แตกด้วยมันเหม็น ไอกรณีนั้นน่ะ เราจะใช้กับพวกที่มันรู้กฏดีแล้วยังกล้าแหกกฏอีกน่ะ"ผู้พันเกรย์พูด
"สำหรับเธอ โทษคือ ไปทำความสะอาดคอกม้าให้สะอาด เสร็จแล้วก็วิ่งรอบค่าย 20 รอบ พร้อมตะโกนว่า ผมจะไม่มีเรื่องกับใครอีกครับ ก็แค่นั้นแหละ ดีกว่าเล่นรัสเซี่ยนรูเล็ตเยอะนะ"ผู้พันเกรย์บอกมาร์คด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ
"โอ...ชีวิตหนอชีวิต ทำไมต้องมาทำอย่างนี้ด้วยว้าเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย"มาร์คตะโกนกับตัวเองในใจพลางเดินไปยังคอกม้าอย่างหมดอาลัยตายอยาก
ความคิดเห็น