ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุณหญิงบ้านนา [จบแล้ว มี Ebook]

    ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ย. 64


     

     

    ปรี๊นๆ

    เสียงแตรรถยนต์ดังเตือนขึ้นสองครั้ง ส่งผลให้หญิงสาวที่กำลังโซ้ยส้มตำอยู่ชะงักค้างพลางสะบัดหน้าหันไปมองยังต้นเสียง ก่อนจะซูดเส้นมะละกอที่เพิ่งกินเข้าไปได้ครึ่งเส้นจนหมด เธอขมวดคิ้วกับภาพรถยนต์สีดำเงาตรงหน้าที่ดูแล้วเหมือนหลุดออกมาจากละครไทยอย่างไรอย่างนั้น

    รถหรูพวกนี้มาทำอะไรกัน? มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในหมู่บ้านเล็ก ๆ อย่างโคกมะนาวสาวเหลือตรึมแห่งนี้?

    ไม่ทันจะได้คิดจินตนาการอะไรไปมากกว่านั้น ประตูทั้งสี่ของรถยนต์คันหรูก็ถูกเปิดออกจากฝีมือคนที่อยู่ภายใน เผยให้เห็นร่างบุรุษชุดดำอย่างกับจะแต่งโคฟเวอร์เจมส์บอนสี่คนซึ่งปั้นหน้าตาถมึงทึงอย่างกับเพิ่งทะเลาะกับเมียที่บ้านมาเมื่อเช้า และเมื่อจตุรเทพทั้งสี่มองสำรวจรอบจนกระทั่งเห็นสิ่งมีชีวิตหนึ่งหน่อนั่งอยู่ตรงใต้ถุนบ้านจึงเดินพุ่งตรงเข้ามาหา ทำเอาหญิงสาวที่กำลังงงงวยอยู่กับเหตุการณ์ตรงหน้าแทบอยากจะกระโดดกลับขึ้นบ้านไปเสียเดี๋ยวนั้น แต่ก็ทำได้เพียงคิด เพราะระยะจากจุดที่เธอนั่งอยู่กับถนนหน้าบ้านใกล้กันนิดเดียว ดังนั้นบุรุษชุดดำทั้งสี่จึงเดินมาถึงตัวเธอได้อย่างรวดเร็ว

    "นี่ใช่บ้านของคุณดาราไหมครับ" หนึ่งในนั้นซึ่งคาดกว่าจะเป็นหัวโจกเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพ

    หญิงสาวพยักหน้างึก ๆ ไม่กล้าพูดอะไรออกไปในเวลานี้ เหตุผลเพราะหนึ่งเธอไม่รู้ว่าคนพวกนี้มาดีหรือมาร้าย และสอง คือส้มตำที่เธอเพิ่งกินเข้าไปนั้นใส่ปลาร้าต่อนเบ้อเร่อซึ่งส่งกลิ่นตลบอบอวลเป็นอย่างมากในเวลานี้ ดังนั้นเธอจึงไม่พร้อมอย่างแรงที่จะสร้างความประทับใจแรกพบด้วยกลิ่นปลาร้า

    เมื่อเห็นหญิงสาวพยักหน้ารับบุรุษแกนนำจึงพูดต่อ

    "ทางเรานำจดหมายจากทางวังปรัตถกรวงศ์มาส่งครับ ช่วยนำไปให้คุณดาราด้วย" ชายหนุ่มเว้นระยะไปพักหนึ่ง "เป็นเรื่องสำคัญมาก"

    งึกๆ

    หญิงสาวพยักหน้ารับอีกครั้งพร้อมยืนมือข้างที่เพิ่งจกส้มตำออกไปรับจดหมาย ฝ่ายนั้นมีท่าทีชะงักเมื่อเห็นมือนั้น นอกจากรสนิยมการแต่งตัวที่จัดได้ว่าเข้าขั้น 'แย่' แล้วผู้หญิงคนนี้ยังเป็นสตรีช่างไม่มีความสตรีเลยสักนิด บุรุษชุดดำหัวโจกคิดในใจแต่ก็ยังคงคอนเซปต์ 'หน้านิ่ง' ไว้อย่างเดิม

    เมื่อเห็นว่าภารกิจเสร็จสิ้น สี่จตุรเทพก็เดินจากไปขึ้นรถคันหรูแล้วขับออกไปอย่างเร็วจนฝุ่นบนถนนลูกรังฟุ้งกระจาย ทิ้งให้คนที่เพิ่งจะรับจดหมายมองตามพลางกะพริบตาปริบๆ หญิงสาวมองซองจดหมายอีกครั้งด้วยแววตาฉงน

    "อะไรมันจะอลังการขนาดนั้น แล้วนี่อะไร อย่างกับซองผ้าป่า" หญิงสาวนึกขำ "แล้วอีกอย่างแม่ไปรู้จักคนพวกนี้ได้ยังไงกัน"

    หญิงสาวยักไหล่ ตอนนี้แม่กำลังไปตลาดนัดคงอีกนานกว่าจะกลับ คิดได้ดังนั้นจึงวางซองจดหมายไว้ข้างตัวแล้วกลับไปโซ้ยส้มตำที่เหลือต่อ โดยไม่สนใจซองจดหมายสีขาวสะอาดนั่นอีกเลย และไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่ามีตัวอักษรสีดำสนิทเขียนอยู่ตรงมุมด้านขวาล่างของซองจดหมาย ตัวอักษรเพียงไม่กี่ตัวถูกบรรจงเขียนด้วยปากกาหมึกดำเป็นประโยคที่ว่า

    ถึง...มจ.กิตติ ปรัตถกรวงศ์


     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×