ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {EXO x YOU} + ASYLUM +

    ลำดับตอนที่ #4 : + ASYLUM + II

    • อัปเดตล่าสุด 11 มี.ค. 58


     
    + Chapter II +

     
    ปัจจุบัน....
    เหตุการ์ณทั้งหมดก่อนหน้านี้คือ
    อดีต....



       หมอจุนมยอนกับหมอจงแดรีบวิ่งไปที่ห้องเก็บของทันทีหลังจากที่รู้ว่าเซฮุนกับจงอินขังเนียร์ไว้ในห้องเก็บของ และตอนนี้เนียร์ก็ตื่นขึ้นมาแล้วก็โวยวายใหญ่เลย เอาแต่ตะโกนว่า 'เปิดประตูให้ฉันเถอะ'

    หมอทั้งสองวิ่งมาหยุดลงที่หน้าห้องเก็บของลับที่ถ้าไม่ใช่แพทย์และบุรุษพยาบาลของโรงพยาลนี้จะไม่รู้เลยว่ามีห้องแบบนี้อยู่ในโรงพยาบาลด้วย พอหมอทั้งสองวิ่งมาหยุดลงที่หน้าห้องเก็บของนี้แล้ว ก็พบว่าบุรุษพยาบาลและหมอคนอื่นๆมาที่ห้องเก็บของนี้ก่อนพวกเขาสองคนซะอีก


    .....สงสัยคงจะมาด่าเซฮุนกับจงอินแน่ๆ


         “ใครเป็นคนบอกให้พวกมึงสองคนเอาเนียร์ไปขังไว้ในห้องเก็บของ บอกกูมา!” หมออี้ฟานตวาดใส่เซฮุนกับจงอินที่ยืนก้มหน้าเสียงดัง จนอี้ชิงที่ยืนอยู่ข้างๆต้องดึงแขนหมออี้ฟานเอาไว้
     
         “อย่าตะคอกเสียงดังสิ เดี๋ยวคนไข้คนอื่นๆจะตื่นนะ” ห้ามปรามหมออี้ฟานว่าตอนนี้เป็นเวลานอนของคนไข้ไม่ควรจะมาตะคอกเสียงดังแบบนี้ พออี้ชิงพูดจบหมออี้ฟานก็ถอนหายใจเบาๆ

          “แล้วพวกมึงขังเนียร์ไว้ในห้องเก็บของทำไม?” ลู่หานที่ยืนอยู่ข้างๆแบคฮยอนถามขึ้นด้วยความสงสัยว่าทำไมจึงขังเนียร์ไว้ในห้องเก็บของทั้งๆที่หมออี้ฟานก็สั่งให้เอาตัวเนียร์ไปไว้ในห้อง 5113 เพราะห้องนี้มันเคยเป็นห้องของเนียร์

          “พวกกูสองคนก็แค่อยากจะทำโทษเนียร์ที่หนีออกไปจากโรงพยาบาลก็แค่นั้น...” จงอินตอบแทนเซฮุนที่ยืนนิ่งไม่สนใจว่าใครจะพูดอะไร

    ทุกคนถอนหายใจกับคำตอบของจงอินเบาๆ มันก็จริงที่ควรจะทำโทษเนียร์ที่หนีออกไปจากโรงพยาบาลแบบนั้น แต่ก็ไม่ควรที่จะทำโทษแบบนี้เพราะทุกคนก้รู้ดีว่าเนียร์นั้นกลัวความมืดแค่ไหน และในห้องเก็บของนั้นมืดมาก ไม่มีใครรู้ว่าสวิตซ์ไฟอยู่ตรงไหนนอกจากพวกเขาและที่สำคัญในห้องเก็บของ


    มีความลับบางอย่างที่พวกเขาจะให้พวกคนไข้รู้ไม่ได้เด็ดขาด....


    แล้วอยู่ๆก็มีเสียงคนทุบประตูดังขึ้นสองครั้ง ทุกคนที่ยืนอยู่หน้าห้องรีบหันไปมองที่ประตูห้องเก็บของทันที

          “ฉันจะไม่หนีไปอีกแล้ว! เปิดประตูให้ฉันเถอะนะ” เสียงที่ทุกคนจำได้ดีว่าเจ้าของเสียงคือใครดังขึ้น ก่อนจะตามมาด้วยเสียงคนทุบประตูสองครั้ง

           “เอากุญแจมา กูจะเปิดประตูให้เนียร์” หมอชานยอลเดินไปหา เซฮุนที่ถือกุญแจห้องเก็บของไว้ในมือ ก่อนจะแย่งกุญแจในมือเซฮุนมาแล้วเดินไปที่ประตูห้องเก็บของทันที แต่ก็โดนหมออี้ฟานห้ามไว้ซะก่อน

           “อย่าพึ่งเปิด...กูอยากรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น” พอได้ยินเช่นนั้นหมอชานยอลก็ชงักไปเล็กน้อยก็จะเดินกลับมายืนอยู่ข้างๆมินซอกแล้วปล่อยให้เสียงคนทุบประตูดังขึ้นต่อไป...

           “ขอร้องล่ะนะ...เปิดประตูให้ฉัน....ฉันหายใจไม่ออก...” เสียงนี้มันสามารถบ่งบอกได้เลยว่าคนที่ถูกขังอยู่ในห้อง.......


    ทรมาณมากแค่ไหน......


     ถึงแม้ทุกคนจะรู้ว่าเนียร์กลัวความมืดและห้องแคบๆแบบนั้นมากแค่ไหนแต่ทุกคนก็ยังยืนอยู่กับที่ไม่ยอมไปเปิดประตูให้เนียร์ เพราะไม่อยากขัดคำสั่งของหมออี้ฟาน....

           “ฉันขอโทษที่ฉันหนีไป...ฮึก เปิดประตูให้ฉันเถอะนะ....ฉันกลัว ฮึก”  ร่างเล็กที่นั่งอยู่ในห้องมืดๆและแคบนี้ พูดพร้อมเสียงสะอื้นเผื่อว่าจะทำให้พวกเขาที่ยืนอยู่หน้าห้องใจอ่อนแล้วมาเปิดประตูให้เธอ แต่ดูเหมือนว่ามันจะเปล่าประโยชน์

         ร่างเล็กหันไปมองรอบๆห้องด้วยความกลัว ห้องนี้มันมืดและค่อนข้างแคบจึงทำให้เนียร์ที่กลัวที่มืดและที่แคบรู้สึกหายใจติดๆขัดๆ น้ำตาไหลลงอาบแก้มบ่งบอกได้ว่าเธอหวาดกลัวมากแค่ไหน....

           “ขอร้อง....เปิดประตูให้ฉันเถอะนะ...”

           “ฉันขอโทษที่หนีไป...ฉันจะไม่หนีไปอีกแล้วนะ....เปิดประตูให้ฉันเถอะ”

           “ฉันหายใจไม่ออก...ฉันรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย”

           “ถ้าพวกนายไม่เปิดประตูให้ฉัน....ฉันจะฆ่าตัวตายในห้องนี้....”


         ร่างเล็กพูดก่อนจะเอามือปาดเลือดที่ไหลออกมาจากจมูกก่อนจะเอามือทั้งสองข้างที่ถูกมัดรวมกันคลำไปรอบๆ เพราะห้องนี้มันมืดเกินกว่าที่จะสามารถมองเห็นสิ่งรอบๆตัวได้ และในขณะนั้นมือของร่างเล็กก็ดันไปสัมผัสเข้ากับสิ่งของบางอย่าง มันมีขนาดใหญ่มาก เหมือนจะเป็นกล่องอะไรสักอย่าง

        ด้วยความอยากรู้ว่าสิ่งของในกล่องคืออะไร เนียร์จึงพยายามเปิดกล่องนั้นแล้วมือเล็กๆของเธอก็ไปสัมผัสเข้ากับที่ดึงเพื่อเปิดกล่อง เธอจึงค่อยๆดึงเพราะอยากรู้ว่าสิ่งของในกล่องคืออะไร แต่พอเปิดกล่องเท่านั้นแหละ ร่างเล็กก็ได้กลิ่นเหม็นชวนทำให้เวียนหัวอาเจียน

    ร่างเล็กจึงพยายามปิดกล่องนั้นแต่แล้วมือก็ไปโดนสิ่งของบางอย่าง อย่างไม่ได้ตั้งใจส่งผลให้สิ่งของชิ้นนั้นตกลงมาแตก......



    เพล้ง!



     
    -15%-

     
    เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่ตกลงมาแตกคืออะไร เพราะในห้องมืดเกินกว่าที่จะมองเห็นได้ เธอลองใช้มือคลำไปรอบๆแต่แล้วมือของเธอก็ดันไปโดนเศษแก้วที่ตกลงมาแตกเมื่อกี้ ทำให้เศษแก้วบาดมือเธอ ด้วยความเจ็บเธอจึงร้องออกมาเบาๆ

       “โอ๊ย....."


    ปึง!


       ประตูห้องเก็บของถูกผลักเข้ามาอย่างแรง ก่อนจะตามมาด้วยร่างของผู้ชายหกคนที่วิ่งเข้ามาหาร่างบางที่กำลังนั่งก้มมองมือตัวเอง มือข้างขวาของเธอมีเหลือไหลออกมา

       “ทำไมเลือดไหลล่ะ...” อี้ชิงพูดก่อนจะก้มหน้าดูแผลบนมือของร่างบางที่นั่งอยู่ตรงหน้า
       “คงจะโดนเศษแก้วบาดมือ...” แบคฮยอนว่าเพราะเขาดันไปสังเกตุเห็นขวดแก้วที่แตกกระจายอยู่ข้างๆเนียร์  “เซฮุน มานี่” แบคฮยอนหันไปเรียกเซอุนที่ยืนอยู่หน้าห้อง เซฮุนที่รู้ตัวว่าโดนเรียกจึงเดินเข้ามาในห้อง

       “อะไร”
     
       “พาเนียร์ไปทำแผล” แบคฮยอนพูดทั้งๆที่สายตาของเขายังคงมองไปที่ขวดแก้วที่แตกกระจายอยู่ “ยังไม่รีบพาเนียร์ไปทำแผลอีกเหรอ!” เพราะเซฮุนไม่พาเนียร์ไปทำแผลซักที เขาจึงตะหวาดใส่เซฮุนเสียงดัง เซฮุนจิ๊ปากเล็กน้อยก่อนจะเดินมาช้อนตัวเนียร์ขึ้นอุ้มแล้วเดินออกจากห้องเก็บของเพื่อพาร่างบางที่ตนอุ้มอยู่ไปทำแผล

        “.......แล้วขวดอะไรตกลงมาแตก?” หมอชานยอลเดินเข้ามาในห้องก่อนจะถามด้วยความสงสัย

        “ขวดดาวของนาบีน่ะ” มินซอกที่ยืนอยู่ข้างๆแบคฮยอนพูดพร้อมกับมองไปที่ขวดที่แตกกระจาย ในเศษแก้วพวกนั้นมีดาวที่ใช้กระดาษพับตกเกลื่อนอยู่ด้วย

        “อ่า...แบคมันโมโหก็เพราะขวดดาวของนาบีแตกนี่เอง..” หมอจงแดเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับพูดก่อนจะพยักหน้าเข้าใจว่าทำไมแบคฮยอนถึงโมโหแล้วตะหวาดใส่เซฮุนเสียงดัง “เลิกคิดถึงนาบีสักทีเหอะว่ะ นาบีน่ะเป็นอดีตไปแล้ว”

        “......แต่ฉันว่านาบีกับเนียร์เหมือนกันมากเลยนะ จะต่างกันก็แค่ ตอนนี้นาบีไม่มีชีวิตอยู่แล้วแต่เนียร์ยังมีชีวิตอยู่” หมอจุนมยอนพูดขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะก้มดูนาฬิกาที่ข้อมือของตน “ฉันมีงานที่ต้องไปทำ ฉันไปก่อนนะ” เขาว่าก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้น

        “แล้วจะเอาไงต่อ?” เทาถามขึ้นด้วยความสงสัย

        “เก็บเศษแก้วพวกนี้ไปทิ้งซะ แต่เอาดาวใส่กล่องไว้ แล้วเอามาให้ฉัน” หมออี้ฟานที่ยืนเงียบอยู่นาน พูดขึ้น “นายต้องทำตามที่ฉันพูดไปเมื่อกี้ จงอิน”

        "เออ...เดี๋ยวจัดการให้" จงอินตอบอย่างไม่พอใจ ก่อนหันหน้าหนีไปทางอื่น

        "ว่าแต่ให้เซฮุนไปทำแผลให้ยัยนั่นคนเดียว มันจะดีเหรอ?" ลู่หานพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ไม่แสดงออกอะไร ทุกคนที่จึงหันไปมองหน้าเขาอย่างแปลกใจ


    พูดแบบนี้หมายความว่าไง....


        "พวกมึงโง่หรือฉลาดน้อย?...เซฮุนมันยิ่งโรคจิตอยู่ด้วย ให้มันไปอยู่กับยัยบ้านั่นสองต่อสอง พวกคุณมึงคิดว่ายัยบ้านั่นมันจะรอดเหรอ?....อ้อ ฉันพึ่งนึกได้ว่าต้องนำยาไปให้คนไข้ฉันไปก่อนนะ" ลู่หานพูดไว้แค่นั้นก่อนจะเดินออกจากตรงนั้นไปเลย ทิ้งให้สิบคนที่ทั้งยืนอยู่หน้าห้องและยืนอยู่ในห้องงง

             
    ซวยล่ะ....


       เซฮุนวางร่างของเนียร์ลงบนเตียงคนไข้ในห้อง 5113  ก่อนจะเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลที่อยู่ในตู้เล็กๆข้างๆตู้เย็น แล้วนำมันมาทำแผลให้เธอที่นั่งอยู่บนเตียง

        "เธอน่ะ"

        "อ..อะไร" ร่างบางตอบอย่างตะกุกตะกักเพราะยาที่เซฮุนนำมาล้างแผลนั้นค่อนข้างแสบ

        "ยังกลัวอยู่หรือเปล่า"

        "ก..ก็นิดหน่อย" เธอตอบ ก่อนจะมองหน้าเซฮุนที่กำลังทำแผลให้เธออยู่ "อ๊ะ...ฉันเจ็บ"  


    เจ็บอะไรกัน...ฉันทำเบาๆแล้วนะ


    เซฮุนเลื่อนสายตาจากมือเล็กขึ้นไปมองใบหน้าน่ารัก ตอนนี้มืออีกข้างของเธอวางอยู่บนขาอ่อนของเซฮุน ซึ่งมันสามารถกระตุ้นอารมณ์ของเซฮุนได้เป็นอย่างมาก เซฮุนไม่สนใจก่อนจะก้มหน้าลงทำแผลต่อ

          "....อ๊า หยุดก่อน...ฉันเจ็บ"

          "....หยุดอะไร ฉันจะทำแผลให้เธอนะ"

          "ทำเบาๆไม่ได้หรอ...ฉันเจ็บนะ..."


    ....อดทนไว้ ต้องอดทนไว้...


           "อ๊า...ซ เซฮุน"


    พอได้ยินร่างบางเรียกชื่อของตน เซฮุนจึงกล่องปฐมพยาบาลไว้บนพื้น ก่อนจะเดินไปล็อคประตูห้อง แล้วเดินกลับมาหาร่างบาง จากนั้นก็ดึงร่างบางให้เข้ามาใกล้ๆ เธอดูตกใจเล็กน้อย ที่อยู่ๆชายตรงหน้าดึงเธอเข้าไปหา จนหน้าแทบจะติดกันอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ผลักเซฮุนออกไปเพราะตอนนี้มือของเธอยังคงเจ็บอยู่

            "น นายจะทำอะไร..."  

    เซฮุนไม่สนใจก่อนจะเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าน่ารักของเธอ จนเธอต้องเบี่ยงหน้าหนี เซฮุนจึงเอื้อมหน้าเข้าไปหอมซอกคอของหญิงสาวตรงหน้า


    ไม่เอา...อย่า....


            "อยู่นิ่งๆ...."
     
            "อย่า...ซ เซฮุน....หยุดนะ"

    เซฮุนไม่สนใจว่าร่างบางจะพูดอะไรก่อนจะเอื้อมมือไปจับสะโพกของร่างบางไว้ ก่อนจะประทับริมฝีปากลงไปบนริมฝีปากสีชมพูของหญิงสาวตรงหน้าทันที ร่างบางหลับตาก่อนจะนั่งอยู่นิ่งๆ เพราะมันเลี่ยงไม่ได้จริงๆ

    เมื่อเห็นว่าร่างบางนั่งอยู่นิ่งๆโดยไม่ได้ขัดขืนอะไร เขาจึงใช้แรงทั้งหมดที่มีกระชากชุดประโปรงสีขาวที่เนียร์สวมอยู่ออก เผยให้เห็นทั้งหน้าอกและหน้าทองแบนราบของหญิงสาว


    ไม่ใช่เล่นๆเลยว่ะ...คับบีหรือคับซีว่ะเนี่ย


    เมื่อรู้ตัวร่างบางจึงรีบเอามือปิดหน้าอกของตนทันที เซฮุนจึงเอื้อมมือไปดึงมือเธอออกก่อนจะก้มหน้าลงไปทำรอยไว้บนเนินอกของหญิงสาว

       "อ๊า...ซ เซฮุน พอ...ได้แล้ว"

    เซฮุนไม่สนใจว่าหญิงสาวจะพูดอะไร เพราะว่าตอนนี้มันหยุดไม่ได้แล้วจริงๆ

       "ต่อให้เธอกำลังจะหมดลมหายใจ ฉันก็ไม่มีทางที่จะหยุด..."

    เซฮุนว่าก่อนจะก้มหน้าลงไปประทับริมฝีปากลงบนริมฝีปากของร่างบางอีกครั้ง เธอก็นั่งอยู่นิ่งๆ แต่แล้วเธอก็ค่อยๆเคลิ้มตามเขาไปเช่นเดียวกัน จนกระทั่ง.....


    ปึง ปึง ปึง!


    เสียงคนทุบประตูดังขึ้นติดกันสามครั้ง แล้วก็ดังขึ้นอีก ทำให้เนียร์ที่ร่างกายท่อนบนไม่มีอะไรปกปิดไว้และเซฮุนต้องหันไปมองที่ประตูทันที


    ใครว่ะ!


    เซฮุนถอดเสื้อคลุมสำหรับบุรุษพยาบาลออกก่อนจะน้ำเสื้อไปคลุมร่างกายท่อนบนของเนียร์ไว้ก่อนจะช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะวางตัวเนียร์ลงในอ่างอาบน้ำอย่างเบามือ

          "นั่งอยู่ในนี้ ห้ามเดินออกไป" เธอพยักหน้าเข้าใจ เมื่อเขาเห็นแบบนั้นเขาก็เดินออกจากห้องน้ำแล้วเดินไปเปิดประตูด้วยสีหน้าเรียบเฉย


    อ่อ...มึงเองเหรอ ไอ้ลู่หาน....


         "กูคงมาขัดสินะ...โทษทีว่ะ กูไม่ได้ตั้งใจ" ลู่หานว่ายิ้มๆ ทำให้เซฮุนหัวเราะในลำคอเบาๆ
            
         "หึ...มึงพูดโกหกอีกแล้วนะ มึงน่ะตั้งใจมาขัดกูกับเนียร์ต่างหาก..."

         "ก็การพูดโกหกมันติดเป็นนิสัยกูไปแล้วนี่"
     
         "มึงรู้จักกูดี กว่าตัวกูซะอีก...ไม่แปลกที่มึงรู้ว่ากูคิดจะทำอะไร" เซฮุนว่าก่อนจะเดินออกจากห้อง แล้วหันมาพูดอีกประโยค "แต่การมาขัดแบบเนี่ย...มันทำให้กูอารมณ์ค้างนะ" เขาพูดแค่นั้นก่อนจะเดินจากไป ลู่หานจึงเดินเข้ามาในห้องก่อนจะหันมองซ้ายมองขวาเพื่อหาเจ้าของห้อง เพราะคนไข้ที่ลู่หานจะต้องนำยาไปให้ทานก็คือเนียร์

         "อยู่ในห้องน้ำแน่ๆ" เขาพึมพัมกับตัวเองเบาๆก่อนจะเดินตรงไปที่ห้องน้ำทันที และเขาก็คิดไม่ผิดจริงๆ "เนียร์...."

    เนียร์กำลังนั่งกอดเข่าอยู่ในอ่างอาบน้ำ ตอนนี้ท่อนบนของเนียร์ถูกปกคลุมด้วยเสื้อคลุมสำหรับบุรุษพยาบาล


    เสื้อคลุมนั่น...อ่า ของบุรุษพยาบาลที่ชื่อว่า โอ เซฮุน สินะ


    เธอหันมามองลู่หานที่เรียกชื่อตนเองอย่างช้าๆ ตอนนี้หน้าของเนียร์แดงอย่างกับมะเขือเทศ ลู่หานที่เห็นแบบนั้นจึงวิ่งเข้าไปหาเนียร์ทันที

         "เป็นอะไรมั้ย...ทำไมเธอหน้าแดงแบบนี้"
     
         "ฉ ฉัน..." เนียร์พูดตะกุกตะกักเหมือนพยายามจะพูดแต่เธอไม่สามารถพูดมันออกมาได้

         "กลัวเซฮุนหรอ?"

         "ม ไม่...คือ..."

         "ค่อยๆพูด ฉันจะไม่ด่าจะไม่ว่าเธอ วันนี้ฉันอารมณ์ดี"
          
         "คือ....ฉันน่ะ...."

         "?"

          "ฉัน...อารมณ์ค้าง"


    -70-
    ลู่หานตกใจและแปลใจเล็กน้อยกับประโยคที่เนียร์เอ่ยออกมา แต่อึ้งได้ไม่ถึงห้าวิ ลู่หานก็ยิ้มที่มุมปาก ก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆหูของหญิงสาวตรงหน้าแล้วกระซิบเบาๆว่า

         "งั้น...ฉันจะช่วยเธอเอง :)"

    เขากระซิบเบาๆแล้วเอื้อมหน้าเข้ามาประกบริมฝีปากของตนลงบนริมฝีปากของหญิงสาวตรงหน้า เธอไม่ได้ขัดขืนอะไร เพราะเธอต้องการเขา....

    เนียร์รีบจูบผู้ชายตรงหน้ากลับทันที ลู่หานจึงค่อยๆสอดมือเข้าไปในเสื้อคลุมสีขาวตัวใหญ่ที่คลุมท่อนบนของเธออยู่ พร้อมกับเลื่อนหน้าลงไปขบเม้มสร้างรอยบนต้นคอขาวของเนียร์

         "ล ลู่หาน..." ร่างบางเรียกชื่อลู่หานเบาๆ ลู่หานที่ได้ยินแบบนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะยิ้มบางๆแล้วพูดว่า.....

         "เธอน่ะ..อย่าทำตัวน่ารักแบบนี้สิ..."

         "ฉ ฉัน......" เหมือนกับว่าเนียร์กำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่แล้วเธอก็หมดสติไปซะก่อน
    ตอนนี้ใบหน้าอันน่ารักของเนียร์กำลังซุกเข้ากับไหล่กว้างของลู่ห่าน ลู่หานตกใจเล็กน้อยที่อยู่ๆเธอก็หมดสติไป

    แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรก่อนจะช้อนร่างของเนียร์ที่หมดสติอยู่ขึ้นอุ้ม แล้วเขาก็เดินออกมาจากห้องน้ำแล้ววางร่างของเนียร์ลงบนเตียงของเธอ ก่อนจะมองหน้าเธอที่หลับเพราะหมดสติไปพักนึง ก่อนจะเดินออกมาจากห้อง และเดินไปหาคุณป้าที่เป็นพนักงานทำความสะอาด ก่อนจะพูดกับคุณป้าคนนั้นว่า
         
         "คุณป้าครับ" เอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่เหมือนกับว่าคุณป้าคนนั้นจะไม่ได้ยิน เขาเลยเรียกซ้ำอีกรอบ "คุณป้าครับ"

         "อ้าว..คุณลู่หาน มีอะไรหรือเปล่าคะ?" ครั้งนี้เหมือนกับว่าคุณป้าแกจะได้ยิน จึงหน้ามามองลู่หาน

         "ผมมีเรื่องจะให้คุณป้าช่วยหน่อย"

         "อะไรคะ?"

         "คุณป้าจำเด็กผู้หญิงที่ชื่อเนียร์ได้มั้ยครับ?"

         "อ่อ...เด็กที่ป่วยเป็นโรคจิตเภทที่อยู่ห้อง5113สินะคะ" คุณป้าแกพยักหน้ารัวๆพร้อมพูดไปด้วย

         "นั่นแหละครับ...คุณป้าช่วยไปจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอหน่อยน่ะครับ เพราะดีมีเรื่องนิดหน่อย ก็เลยทำให้เสื้อผ้าที่เธอสวมมันขาดน่ะครับ"

         "ได้ค่ะเดี๋ยวป้าจะไปจัดการให้เดี๋ยวนี้เลย"

         "ขอบคุณมากครับ" พอลู่หานพูดจบ ป้าคนนั้นก็รีบวิ่งตรงไปที่ห้อง 5113 ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปทันที ลู่หานที่เห็นแบบนั้น แล้วก็เลยเดินกลับห้องทำงานของบุรุษพยาบาล อย่างได้ไม่รีบร้อนอะไร เพราะตอนนี้เป็นช่วงพักเที่ยงอยู่



         "ไงมึง คงสนุกนาดูเลยดิ เนียร์คอแดงแน่เลยว่ะ" เทาพูดขึ้นทันทีหลังจากที่ลู่หานเดินเข้ามาในห้องทำงานของบุรุษพยาบาล พอเทาพูดจบทุกคนในห้องยกเว้นเซฮุนก็หัวเราะออกมาเสียงดัง

         "พวกมึงรู้ได้ไง" ลู่หานถามพร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัย

         "ไอ้ฮุนมันเล่าให้ฟัง" มินซอกตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย พอมินซอกพูดจบลู่หานก็หันไปมองเซฮุนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของเซฮุน แต่เซฮุนที่รู้ว่าตนเองถูกมองก็ไม่ได้พูดอะไรแต่กลับยิ้มให้ลู่หาน

         "ตอนนี้ยังไม่หมดเวลาพักเลย มึงกลับไปเอากับเนียร์ต่อก็ได้นะ หมดเวลาพักค่อยกลับมาทำงาน ฮ่าๆ" จงอินพูดก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดัง ลู่หานที่ได้ยินแบบนั้นจึงโมโหแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรก่อนจะเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ที่โต๊ะทำงานของเขา

         "กูเห็นแต่มึงชอบด่าเนียร์ แต่ทำไมตอนนี้มึงกลับมาเอาเนียร์เองซะล่ะ?" อี้ชิงถามในขณะที่ตนเองกำลังจัดตารางงานให้หมออี้ฟานอยู่

         "เรื่องของกู...." ลู่หานพูด น้ำเสียงของเขาดูไม่ค่อยพอใจซักเท่าไหร่ ที่โดนเพื่อถามแบบนั้น แต่เขาก็ไม่ได้สนใจกับคำพูดพวกนั้นนักหรอก เขาหยิบสมุดรายชื่อคนไข้ขึ้นเช็คดูว่าเขาต้องนำยาไปให้คนไข้ห้องไหนบ้าง

         "แต่ระวังไว้หน่อยก็ดีนะมึง...เพราะอีกไม่นาน เนียร์เสร็จหนึ่งในพวกเราแน่" อี้ชิงว่าแล้วหันมายิ้มให้ลู่หาน แล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะเดินออกจากห้องไป







       ฉันค่อยๆลืมตาขึ้น ก่อนจะหันมองซ้ายมองขวา...ลู่หานล่ะ ถ้าฉันจำไม่ผิด...ตอนนั้นฉันสลบไปนี่...ฉันคิดก่อนจะก้มมองตัวเอง ใครใส่เสื้อผ้าให้ฉันเนี่ย...ว่าแต่เสื้อเซฮุนอยู่ไหนล่ะ ฉันคิดก่อนจะมองหาเสื้อของเซฮุน

       และก็พบว่าเสื้อของเซฮุนมันถูกพับอย่างเรียบร้อยและวางอยู่บนตู้เล็กๆข้างๆหัวเตียง เมื่อฉันเห็นแบบนั้นก้เลยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ฉันก็นึกว่าทำเสื้อของเซฮุนหายไปนะเนี่ย...แต่ถ้าฉันทำหายไปจริงๆ ฉันก็ไม่รู้จะขอโทษเซฮุนยังไง...

         'เนียร์....'

         "อะไรหรอ?" ฉันที่ได้ยินเสียงคนเรียกชื่อตัวเองก็หันไปมองที่ประตูห้อง ตอนแรกฉันก็นึกว่าพวกเขาเข้ามาในห้องฉัน แต่จริงๆแล้วไม่มีใครเดินเข้ามาในห้องฉันเลยด้วยซ้ำ แล้วเมื่อกี้ใครเรียกฉัน...?

         '...เนียร์'

         "อะไร! ใครเรียกฉัน! พวกนายเล่นซ่อนแอบกับฉันหรอ!" ฉันที่เริ่มโมโหจึงตะหวาดเสียงดัง

         'ฉันไม่ใช่พวกเขานะ...ฉันอยู่นี่'

    เสียงนั้นมันดังมาจากทางขวาของฉัน ฉันจึงหันไปมองทางขวาทันที และสิ่งที่ฉันเห็นคือ... ผู้หญิงผมยาวประบ่า หน้าตาน่ารัก เธอสวมชุดเหมือนกับฉัน


    .....ปอ!!!

     
     
    -100%-
     
    อย่าลืม! ติดแท็ก #ฟิครบลส ในทวิตเตอร์ด้วยนา
    ทวิตเตอร์มิ @_minimild
    themy butter

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×