คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #113 : [AU]Fic KNB || ✿ For You ✿ || [2]
✿ Application ✿
[อยากได้รูปใหญ่กว่านี้ก็จิ้มเลยค่ะ]
‘อะไร...นะ..หน้าใกล้กันแค่นี้ก็เขินแล้วรึไง ฉะ...ฉันยังไม่เห็นจะเขินเลย!’
‘คะ...แค่นี้ทำเป็นอายไปได้ นี่นายเป็นผู้ชายจริงรึเปล่าเนี่ย!’
คู่ :: คาซามัตสึ ยูกิโอะ
ชื่อ :: Mireille Roxantilde [มิเรลล์ ร็อกซานธิลด์]
ชื่อเล่น :: จริงๆไม่มี...แต่พอย้ายมาอยู่ญี่ปุ่น เสียงที่เรียกชื่อเธอมักจะเพี้ยนเป็น “มิเรรุ” จนเธอต้องให้เรียกว่า “มิเรย์” [Mirei] ค่ะ
ความหมายของชื่อ :: มิเรลล์ – ชื่นชม / ร็อกซานธิลด์ – เกียรติในสงครามยามรุ่งอรุณ รวมแล้วเป็น “เกียรติแห่งสงครามในยามรุ่งอรุณที่น่าชื่นชม” ส่วน มิเรย์ในภาษาญี่ปุ่น แปลว่า สวยงามน่ารัก
อายุ :: 25
ลักษณะรูปร่างหน้าตา :: หญิงสาวรูปร่างงดงามสูงโปร่งราวกับหลุดออกมาจากภาพวาด ผิวพรรณเป็นสีขาวนวลตามแบบฉบับคนยุโรป ดวงหน้ารูปไข่มีดวงตาสีฟ้าแกมเขียวเล็กน้อย ดูคล้ายอความารีนประดับอยู่หนึ่งคู่ ล้อมด้วยแพขนตาหนางอน จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากอิ่มเป็นสีพีชอ่อนๆ แก้มสีระเรื่อด้วยเลือดฝาด รวมกันเป็นใบหน้าที่เปี่ยมเสน่ห์ชวนมอง เรือนผมเป็นสีน้ำตาลจนเกือบแดงที่ยาวเลยบ่ายิ่งช่วยขับสีผิวและเครื่องห้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น แขนขาเรียวยาวไร้ตำหนิ รวมแล้วเธอเป็นเหมือนหญิงสาวที่หลุดออกมาจากภาพวาดของจิตรกรเอกเลยทีเดียว
ลักษณะคำพูด :: มิเรลล์เป็นคนที่โดยปกติแล้วจะเป็นคนที่พูดตรงๆ ด้วยน้ำเสียงร่าเริงตามฉบับเจ้าตัว มักพูดแบบกึ่งทางการค่อนไปทางเป็นกันเองมากกว่ายกเว้นกับลูกค้า (แต่กับลูกค้าบางทีก็พูดแบบไม่ค่อยเป็นทางการเหมือนกัน) โดยเฉพาะยิ่งเป็นคำวิจารณ์ติติงแล้ว อย่าพูดถามหาเรื่องการถนอมน้ำใจเลย มาเต็มเหนี่ยว ยิ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอาชีพของเธอล่ะก็...จะพูดอย่างจริงจังมาก แต่หากเป็นเรื่องของความรู้สึกของตัวเองหรือประเด็นที่ไม่อยากพูดเมื่อไหร่จะเริ่มบ่ายเบี่ยง พอไม่ได้ก็จะออกอาการปากไม่ตรงกับใจทันทีแต่ด้วยความที่ว่าร่างกายกับคำพูดมันแสดงไปคนละทางทำให้เดาความรู้สึกที่แท้จริงออกไม่ยากเลย
มักแทนตัวเองว่า “ฉัน” แทนคนอื่นด้วยชื่อ หรือไม่ก็ “เธอ” “นาย” “คุณ” ตามแต่กาลเทศะ เวลาพูดไม่ค่อยมีคำลงท้ายเท่าไหร่ เพราะคิดว่ามันฟังดูห่างเหิน จะใช้สำหรับเวลาจำเป็นจริงๆเท่านั้น
ตัวอย่างคำพูด
(แนะนำตัว)
“ฉัน...มิเรลล์ ร็อกซานธิลด์ ถ้าไม่ถนัดจะเรียกมิเรย์ก็ได้นะ”
(พูดเรื่องทั่วไป)
“อื้ม~เค้กนี่อร่อยดีจัง” (พูดชมด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม)
“...เสื้อนั่น ดูเห่ยชะมัด ถ้าใส่คงดูเฉิ่มเชยสุดๆไปเลย ลายก็ไม่ได้เรื่อง การตัดเย็บก็ไม่ละเอียด ไม่เข้าใจจริงๆว่ามีคนซื้อไปได้ยังไง” (วิจารณ์)
(ซึนเดเระโหมด)
“...หะ หา คนที่สนใจเหรอ...คนแบบนั้นฉันมีที่ไหนเล่า โอ้ย...เปลี่ยนเรื่องเถอะ” (บ่ายเบี่ยงก่อน)
“บะ...บ้า! คะ...ใครเขาชอบนายกัน หลงตัวเองชะมัด คิดว่าตัวเองหล่อหรือมีดีอะไรนักหรือไงหา?”
(ซึนเดเระแบบฟูลโหมด)
(เวลาโกรธ)
“...นี่เธอน่ะ ว่างๆไปเช็กสมองหน่อยก็ดีนะว่ายังเหลืออยู่รึเปล่า พูดแบบเนี้ยความบ้าคงกินสมองจนเหลือเท่าเม็ดถั่วแล้วสินะ โถ...น่าสงสารจริงๆ”
“ฉันบอกว่า...หยุดพูดเดี๋ยวนี้ไม่ได้ยินรึไง!!!”
(เวลาเสียใจ)
“บ้าจริง! ฉันไม่ได้ร้องไห้สักหน่อย...ก็แค่...ก็แค่ฝุ่นมันเข้าตาเท่านั้นเอง...”
(เป็นคนที่ไม่อยากให้คนอื่นเห็นว่าอ่อนแอ...ก็เลยบ่ายเบี่ยงว่าไม่ได้ร้องไห้นั่นเอง)
ส่วนสูง :: 169
น้ำหนัก :: 52
อาชีพ :: ดีไซเนอร์คอสตูมมืออาชีพ
วันเกิด :: 1 เมษายน (เกิดวันเอพริลฟูล...เลยซึน // ผิด)
ราศี :: เมษ
กรุ๊ปเลือด :: AB [กรุ๊ปแห่งความติสท์แตกและเข้าใจยาก(?)]
ลักษณะนิสัย :: มิเรลล์ ร็อกซานธิลด์ หญิงสาวผู้มีหน้าตาสะสวยตามแบบฉบับลูกคุณหนูทางยุโรป ทั้งบุคลิกภาพและกิริยามารยาทนั้นดูแล้วทั้งสง่างามและสูงศักดิ์ สมกับที่ได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะนั่งนอนยืนกินทุกอย่างล้วนแล้วแต่ดูดีและเป็นธรรมชาติ แต่ก็ไม่ได้หยิ่งยโสยกยอตนเองไว้สูงกว่าคนอื่นแต่อย่างใด ทำให้ดูไม่น่าหมั่นไส้จนเกินไปนัก แถมยังเข้ากับคนอื่นได้ดี ไม่ถือตัว ไม่ทำราวกับว่าตัวเองเป็นคุณหนูหรือยิ่งใหญ่มาจากไหนอีกด้วย เรียกว่าเป็นลูกคุณหนูนิสัยโอเคที่ควรเอาเยี่ยงอย่างก็ไม่ผิดอะไร แต่เฉพาะในส่วนนี้นะ...เพราะส่วนอื่นน่ะ...ไม่แน่หรอก
มิเรลล์เป็นคนที่ยิ้มได้สดใสมีมีพลังด้านบวกเปล่งออกมาจากรอยยิ้มนั้น ทำให้คนอื่นรู้สึกสดชื่นและยิ้มตามไปด้วย ประกอบกับนิสัยที่ไม่ค่อยเรื่องมาก (ยกเว้นเรื่องที่เกี่ยวกับอาชีพของเจ้าตัวซึ่งจะพูดเพิ่มทีหลัง) ทำให้มีเพื่อนและคนรู้จักมากมาย อีกทั้งยังเป็นคนที่มีเสน่ห์แบบแปลกๆโดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร แต่หลายคนบอกว่าเวลาอยู่กับเธอแล้วมันสบายใจดีแม้จะโดนเธอด่าแบบแปลกๆก็ตาม...ก็คงเรียกว่าเสน่ห์ได้ละมั้ง?
มิเรลล์เป็นคนที่พูดคุยกับคนอื่นได้ดี ร่าเริง มีความกล้าในการเข้าหาคนอื่นก็จริง แต่ก็ใช่ว่าเธอจะเปิดใจยอมรับทุกคนนะ ออกจะปิดใจนิดๆด้วยซ้ำเพราะอะไรหลายอย่างในอดีตทำให้เธอไม่ได้เปิดใจให้ใครง่ายๆ แม้ว่าจะยิ้มแย้มร่าเริงคุยกับใครเขาไปทั่ว แต่ก็ใช่ว่าจะเชื่อใจทุกคนไปหมด สามารถรับฟังเรื่องราวของคนอื่นได้ พูดคุยเรื่องราวทั่วไปได้ แต่หากสังเกตให้ดี มิเรลล์จะไม่ค่อยพูดคุยเรื่องส่วนตัวหรือครอบครัวของเธอซักเท่าไหร่นัก เนื่องจากเรื่องนี้สำหรับเธอฝแล้วเป็นเรื่องอ่อนไหวและไม่ต้องการให้ใครมารู้มากนัก...แน่ละ...ใครมันจะอยากให้คนอื่นรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับตัวเองล่ะ ไม่ไหวๆ แบบนั้นก็แย่น่ะสิ อีกอย่าง...ก็ความลับไม่ใช่เหรอที่ทำให้ผู้หญิงเป็นผู้หญิงน่ะ ขืนเปิดเผยหมด มันก็ไม่น่าค้นหา ไม่น่าสนใจกันพอดีน่ะสิ...
ถึงเจ้าตัวจะชอบทำตัวมีความลับนิดๆกับคนอื่น แต่พอเป็นเรื่องของคนอื่นล่ะก็...จะชอบกินเผือกไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่องที่สนใจ แต่ก็แค่ตื่นเต้นหยอกแหย่ไปตามประสา ไม่ได้จริงจังอะไรมากมายกับเรื่องพวกนั้น แหมๆ...โตๆกันแล้วเขารู้กันหรอกว่าเรื่องพวกนี้มันก็แค่เม้าท์มอยเล่นไปเท่านั้นแหละ ใส่ใจเรื่องของคนอื่นมากเกินจนลืมเรื่องของตัวเองก็ไม่ไหว ยังไงเรื่องของตัวเองก็ต้องมาที่หนึ่งอยู่แล้ว ถึงเรื่องของคนสำคัญจะสำคัญเหมือนกันก็เถอะ แต่ถ้าตัวเองยังเอาไม่รอด แล้วจะไปมีหน้าห่วงคนอื่นได้ยังไงล่ะหืม?
มิเรลล์เหมือนเป็นคนพูดตรงก็จริง คือมีอะไรก็จะพูดไปตามนั้น เช่น วิจารณ์งานถ้ามันห่วยแตกก็สามารถพูดออกไปได้เลยแบบไม่คิดถึงหน้าตาคนฟังเล้ย เรื่องการอธิบายหรืออะไรก็พูดได้เรื่อยๆ แต่พอมาถึงเรื่องความรู้สึกของตัวเองแล้วจะกลายเป็นคนปากหนักทันที แบบจะพยายามบ่ายเบี่ยงหรือเอาความเงียบเข้าสู้ ปั้นหน้าขรึมใส่ แต่ถ้าไม่ได้ก็จะไปสู่สเตจสอง ‘ปากไม่ตรงกับใจ’ หรือที่เรียกว่าซึนเดเระนั่นเอง ในโหมดนี้มิเรลล์จะเป็นคนที่พูดอะไรที่ไม่ตรงกับใจจริงของเธอเลย แถมเวลาโดนจี้เข้าหน่อยก็จะด่าๆๆๆและเสียงดังขึ้นมาทันทีทั้งที่หน้าแดงนั่นแหละ ทำให้ดูเหมือนโกรธ แต่ความจริงคือเขินต่างหาก และต้องขอบอกเลยว่าเธอเป็นคนที่โกหกเรื่องพวกนี้ได้ห่วยแตกมาก ดังนั้นแม้ปากจะพูดยังไง แต่ภาษากายอย่างอื่นจะแสดงออกชัดมากว่าไอ้ที่พูดออกมาน่ะไม่ใช่ใจจริงของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว เอาง่ายๆแค่มองตาก็รู้แล้ว เพราะงั้นหากสังเกตสักหน่อยและไม่โดยคำพูดของเธอปั่นหั่วมากไปก็จะรู้ใจจริงของเธอได้อย่างแน่นอน
มิเรลล์เป็นผู้หญิงสตรอง หนักแน่น รับผิดชอบ และมีความเป็นผู้นำพอสมควร เธอมีคนที่มีการตัดสินใจที่เด็ดขาดและเป็นคนที่ใช้ทั้งเหตุผลและอารมณ์ในการทำเรื่องต่างๆ เพราะเข้าใจว่าบางเรื่องเอาอารมณ์อย่างเดียวไม่ได้ แต่จะใช้หัวอย่างเดียวมันก็ดูจะทื่อๆไปหน่อย เลยมักใช้สองอย่างเอามารวมกัน ยกเว้นเวลาโกรธที่อารมณ์มักจะนำหน้าเหตุผล และทำตัวงี่เง่าและเจ้าน้ำตาขึ้นอีกหน่อย เผลอๆอีกฝ่ายอาจโดนตบหน้าด้วยโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำอะไรถึงได้โดนตบ ทั้งที่ปกติไม่ใช่คนอารมณ์เสียง่ายน่ะนะ แต่ถ้าเป็นบางเรื่องที่เธออ่อนไหว เช่น เรื่องส่วนตัว เรื่องครอบครัว อารมณ์เธอจะขึ้นง่ายกว่าปกติ ก็เท่านั้นแหละ
ด้วยเหตุนี้เอง...ทำให้บางทีก็เดายากเหมือนกันว่ามิเรลล์จะมาไม้ไหนเพราะไม่ได้เป็นคนที่พึ่งพาแต่เหตุผล แล้วก็ไม่ได้ใช่แต่อารมณ์ด้วย แต่ข้อดีอีกอย่างคือเพราะอย่างนี้ ถึงจะทำอะไรคาดไม่ถึง แต่ก็ไม่ค่อยผิดสามัญสำนึกของมนุษย์มนาทั่วไปเท่าไหร่นัก
แม้มิเรลล์จะดูเข้าหาง่าย แต่การจะเข้าใจเธอนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะนอกจากเรื่องส่วนตัวแล้ว เจ้าตัวยังมีโลกส่วนตัวที่สูงเอาเรื่องซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะโผล่มาตอนไหน ด้วยความที่ว่าทำอาชีพเกี่ยวกับด้านศิลป์ ทำให้เธอมีหัวด้านนี้สูงมาก ชนิดที่ว่าเห็นอะไรนิดหน่อยก็เอามาเป็นแรงบันดาลใจได้หมด เรียกว่าแม่นางค่อนข้างติสท์แตกก็ได้ แล้วพอได้ไอเดียมาก็จะเริ่มคว้าสมุดมาจดๆวาดๆทั้งๆแบบนั้นแหละโดยไม่สนใจสายตาคนรอบข้างที่มองมาอย่างเหวอๆเลยแม้แต่น้อย เรียกว่าความคิดสร้างสรรค์สูงก็ไม่ผิดหรอก ดวงตาในยามนี้จะเป็นประกายมุ่งมั่นและสมาธิทั้งหมดของเธอจะจดจ่ออยู่ที่สิ่งที่สนใจเท่านั้นในตอนนี้ แล้วพอเสร็จก็จะค่อยกลับไปเป็นเหมือนเดิม ก็ถือว่าเป็นเหตุการณ์ประจำวันก็ไม่ผิดเท่าไหร่หรอกมั้ง
อีกอย่างที่ทุกคนมักเข้าใจผิดคือ...มิเรลล์ไม่ใช่คนความอดทนต่ำ แม้การทำตัวแอกทีฟและหงุดหงิดง่ายไปบ้างเป็นบางเวลาทำให้คนอื่นเข้าใจว่าเธอเป็นคนใจร้อน ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่ เธอเป็นคนใจเย็นและนิ่งพอที่จะทำงานเดิมนานๆได้โดยที่ไม่เบื่อ ซ้ำยังเป็นคนละเอียดอ่อนในบางเรื่องที่เจ้าตัวใส่ใจอีกด้วย เช่นเรื่อง ดีเทลของเสื้อผ้า ชนิด สี เนื้อผ้า การจัดวาง ทุกอย่างต้องเนี๊ยบและออกมาดีเธอถึงจะพอใจ แม้เธอจะไม่ใช่คนเรื่องมากจู้จี้จุกจิกในเรื่องทั่วไป ออกจะแนวยังไงก็ได้หน่อยๆด้วยซ้ำ แต่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับอาชีพเนี่ย...ปล่อยไปไม่ได้หรอก! ต้องมีสำนึกของความเป็นมืออาชีพสิ! ดังนั้นสิ่งที่เธอเรื่องมากคือเสื้อผ้าและการแต่งตัว รวมไปถึงการแต่งหน้าทำผม ทำให้เธอชำนาญทักษะด้านความงามทั้งหมดและเซ้นส์เรื่องพวกนี้ก็สูงมากด้วย เพราะต่อให้ชุดสวยขนาดไหนแต่หน้าและผมไม่ให้ จะใส่สวยหล่อไปแล้วมันจะไปมีค่าอะไรล่ะห๊า!!!
มิเรลล์นอกจากจะหัวศิลป์และมีความคิดสร้างสรรค์สูงแล้ว ยังมีหัวการค้าเกินคาดที่เธอสามารถตั้งตัวและเป็นที่รู้จักได้ขนาดนี้ก็เพราะว่านางมีหัวการค้าและผู้ช่วยที่ดีไงล่ะ เป็นคนที่ค่อนข้างจะทันคนทันโลกอยู่เอาเรื่อง แม้ไม่ใช่คนเรียนรู้ไวอะไรมากมาย แต่ก็เป็นคนที่ปรับตัวได้ค่อนข้างดีตามสไตล์ของตัวเอง เพราะฉะนั้นแม้ไม่อาจพูดได้ว่ามิเรลล์เป็นคนฉลาดอะไรมากมาย แต่ก็เป็นคนที่สามารถเอาตัวรอดในสังคมปัจจุบันได้ดีเลยล่ะ ฉลาดในการใช้ชีวิตพอควรเลยด้วย...
มิเรลล์เป็นคนที่แอบหัวกบฏพอควร ถ้าห้ามมากๆแบบที่ว่าย้ำแล้วย้ำอีกจะเกิดอาการทำประชดมันซะเลย ห้ามดีนัก แต่ก็รู้แหละว่าเรื่องไหนประชดได้ประชดไม่ได้ ไม่ได้อยากดื้อเรียกร้องความสนใจอะไรนะ แต่ช่วยเลิกบังคับหรืออะไรทำนองนี้ทีได้ไหม หูยังดีอยู่ พูดทีสองทีก็รู้เรื่องแล้วน่า!
มิเรลล์เป็นพวกเที่ยวเก่งเอาเรื่อง ด้วยความที่มาจากประเทศฝั่งตะวันตก เลยไม่ค่อยแคร์ธรรมเนียมกุลสตรีตามคอนเซปต์ของโลกฝั่งตะวันออกเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นไม่แปลกใจเลยที่เธอจะสามารถกอด แตะเนื้อต้องตัว หรือหอมแก้มเพศตรงข้ามได้แบบไม่คิดมากนัก ก็ประเทศเธอเขาทำกันเป็นเรื่องปกตินี่นา แต่ถึงจะเที่ยวบ่อยก็ไม่ได้เที่ยวไปควงผู้ชายมั่วซั่วหรือเปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่นตามสไตล์เพลย์เกิร์ลแต่อย่างใด ออกจะเคี้ยวยากด้วยซ้ำ ที่ไปเนี่ยก็แค่ไปดื่มไปเต้น สังสรรค์กับเพื่อนและบริหารเสน่ห์นิดหน่อยแค่นั้นแหละ และเพราะแบบนี้เธอก็เลยคอแข็งพอสมควรด้วยเนื่องจากเป็นคนที่ไปปาร์ตี้เยอะเอาเรื่องอยู่ แต่ก็รู้ลิมิตตัวเองดีว่าจะดื่มเท่าไหร่แล้วชิ่งกลับดีก่อนที่จะเมาแล้วนอนสิ้นสภาพปล่อยให้ผู้ชายหิ้วไปไหนก็ไม่รู้ แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้...เมื่ออีกฝ่ายเป็นคนที่ชอบแล้วจะเกิดอาการ ‘ขยับตัวยังไงก็ดูผิดที่ผิดทางไปหมด’ ออกมาทันที ท่าทางที่แสดงออกจะเริ่มดูติดขัดด้วยความประหม่า...ต่างกับเจ้าตัวตามปกติที่ร่าเริงสดใสและมั่นใจชนิดที่ว่าเอาเท้ามองแทนตาก็ดูออกยกเว้นอีกฝ่ายจะทึ่มเรื่องนี้ แต่ด้วยความที่ว่าใครก็อยากอยู่ใกล้คนที่ชอบเป็นเรื่องธรรมดา...เวลาเข้าใกล้บางทีก็เลยอาจจะทำตัวเก้ๆกังๆ เพราะไม่อยากเผลอทำตัวให้คนที่ชอบเกลียดไงล่ะ
ถามว่าเรื่องความรักของมิเรลล์เป็นยังไงล่ะเหรอ? เธอไม่ได้ใส่ซื่อเรื่องความรักหรอกนะ เพียงแต่ว่าเธอก็ไม่ได้อยากคิดเองเออเองเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่ ก็เลยอยากได้ท่าทีที่ชัดเจนเพื่อยืนยันน่ะ หน้าแตกเรื่องพวกนี้นี่ไม่ใช่เรื่องตลกเลยนะขอบอก แล้วก็...เธอเป็นคนที่รักเดียวใจเดียวเนื่องจากเจ็บปวดเพราะความรักมากพอควร แต่กว่าจะรักใครได้ก็ต้องใช้เวลาเยอะอยู่ ไอ้รักแรกพบอะไรนั่นน่ะ...ตามตรงนะ เธอไม่เชื่อหรอก
นอกจากเรื่องเย็บปักถักร้อยที่เป็นอาชีพแล้ว งานบ้านอย่างอื่นอย่าให้มาถึงมือของมิเรลล์เด็ดขาด ทำไมน่ะเหรอ? ก็เพราะว่าเธอเป็นคนที่ห่วยแตกเรื่องพวกนี้มากน่ะสิ อาหารที่ทำออกมา...โอเค อย่าว่าแต่ได้อาหารออกมาเลย เพราะครัวจะระเบิดก่อนจะทำเสร็จน่ะสิ และต่อให้ไม่ระเบิด อาหารที่ออกมาก็เพียงพอที่จะฆ่าคนตายได้ง่ายๆ ประหนึ่งว่ามันเป็นยาพิษเลยทีเดียว (สกิลระดับเดียวกับโมโมอิ หากจะให้เปรียบเทียบ) ส่วนเก็บกวาดทำความสะอาดนี่ยิ่งหวังไม่ได้เข้าไปใหญ่ เพราะยิ่งช่วยก็เหมือนยิ่งจะทำเลอะซะมากกว่า เช่น เอาน้ำยาขัดรองเท้าไปขัดกระจก เป็นต้น แต่ก็ต้องทำใจเพราะเกิดมาเธอไม่เคยต้องจับอุปกรณ์พวกนี้มาก่อน ไม่รู้ก็ไม่แปลกหรอก...ดังนั้น อย่าไปไว้ใจมิเรลล์เรื่องงานบ้านงานเรือนเลย หวาดเสียว...
ประวัติส่วนตัว :: มิเรลล์...ลูกสาวคนเดียวแห่งตระกูลร็อกซานธิลด์ที่โด่งดังในฝรั่งเศสเรื่องอัญมณี ด้วยความที่ว่าเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวตอนที่พ่อแม่อายุมากแล้ว ทั้งสองจึงรักและหวงมิเรลล์อย่างยิ่ง เรียกได้ว่าค่อนข้างจะตามใจเธอมากพอสมควร แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะอบรมดูแลลูกให้มีเกียรติและสง่างามสมเป็นคนของร็อกซานธิลด์ เรียกว่าวัยเด็กของมิเรลล์เป็นช่วงเวลาสงบสุขอย่างที่เด็กทุกคนใฝ่ฝันจะมี...จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอได้รับข่าวร้าย...
แม่ของเธอประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บสาหัส...
จากเหตุการณ์นั้นทำให้แม่ของมิเรลล์ต้องเข้าโรงพยาบาล หลังจากเข้ารับการรักษาเพื่อยื้อชีวิตได้ไม่นาน...เธอก็เสียชีวิต ก่อนจากไปเธอได้ย้ำเตือนบางอย่าง...
‘อย่าพูดหรือแสดงออกทุกสิ่งที่คิดนะ...มิเรลล์...มันอันตราย...สัญญากับแม่นะ...ลูกรักของแม่’
‘...ฮึก...ค่ะ...ได้ค่ะคุณแม่...’
‘แล้วก็...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หรือว่าแม้แต่ตอนแม่ไม่อยู่แล้ว...ต้อง...ต้องเข้มแข็งนะลูก...’
‘แม่...’
‘รับปาก....แม่เถอะนะ...’
‘...ฮือ...ขะ...เข้าใจแล้วค่ะแม่...มิเรลล์...สัญญา...ค่ะ...’
ที่แม่ของมิเรลล์ให้เธอสัญญาเช่นนั้น เพราะในตอนเด็กมิเรลล์เป็นคนที่คิดยังไงก็จะพูดอย่างนั้นไปเลยแบบไม่ค่อยสมผลลัพธ์ที่จะตามมาสักเท่าไหร่ ทำเอาคนเป็นพ่อแม่ปวดหัวไม่น้อย ก่อนจะจากไป...แม่ก็เลยพูดเรื่องนี้ขึ้นมาด้วยหวังว่าจะให้มิเรลล์คิดก่อนพูด รู้ว่าสิ่งไหนควรพูดไม่ควรพูด และรู้จักเก็บอารมณ์บ้าง แต่ดูเหมือนว่ามิเรลล์จะตีความหมายของคำสั่งเสียนั้นผิดไปมากพอสมควรอยู่ เลยกลายเป็นคนที่ปากไม่ตรงกับใจไปเสียอย่างนั้น...คิดอย่าง แต่ก็พูดอีกอย่าง...หรือไม่ก็คิดนะ แต่ไม่ยอมพูดเสียอย่างนั้น ซึ่งไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องดีหหรือไม่ดีกันแน่...
เมื่อแม่ของมิเรลล์จากไป พ่อก็ยิ่งหวงเธอยิ่งกว่าเก่าชนิดที่ว่าจะขยับตัวไปไหนจะต้องมีบอดี้การ์ดหรือคนติดตามคอยประกบติดมิเรลล์ตลอดเวลาจนเธอทั้งอึดอัดและรำคาญ เลยทำตัวออกจะกบฎนิดๆ ด้วยการแอบสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศแล้วไปเรียนเลยแบบมาบอกพ่อก่อนจะไปขึ้นเครื่องนั่นแหละ(?) แม้พ่อจะช็อกแค่ไหน แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องยอมจำใจให้ไปโดยส่งผู้ติดตามไปดูแลมิเรลล์ด้วย...
ชีวิตในต่างประเทศของมิเรลล์นั้นไม่อาจบอกว่าสบายได้เต็มร้อย แต่ก็มีอิสระกว่ากันมากเมื่อเทียบกับตอนเธออยู่บ้าน แม้ว่าจะมีสายตาของผู้ติดตามมาคอยกวนใจ แต่เมื่อทำเป็นมองไม่เห็นมันไป เธอก็สนุกกับชีวิตได้อย่างเต็มที่ และในตอนที่มิเรลล์กำลังจะเรียนจบนั้นเอง
‘คุณหนู...คุณท่านส่งข่าวมาครับ’
‘อ๋อ ถ้าเรื่องวันรับปริญญาบอกไปนะว่ายังไม่รู้’ มิเรลล์ตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่
‘เอ่อ...ไม่ใช่เรื่องนั้นครับ...คือว่า...’
‘คือว่า?’ มิเรลล์ทวนคำพลางเงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่าย เริ่มรู้สึกแล้วว่าวันนี้กาเอล...ผู้ติดตามของเธอดูแปลกไปกว่าทุกวัน ทั้งที่ปกติจะเป็นคนที่พูดอะไรตรงๆกับเธอแท้ๆ แค่แจ้งข่าวธรรมดา...ทำไมถึงได้ดูลำบากใจขนาดนี้กัน?
‘เอ่อ...มันออกจะพูดยากสักหน่อยน่ะครับ...’
ในใจของหญิงสาวเริ่มรู้สึกถึงสังหรณ์ร้าย แต่ด้วยนิสัย เธอเลยพูดถามออกไปอย่างไม่ยี่หระ
‘ไอ้ที่พูดยากนี่หมายความว่าไง กาเอล พ่อป่วยหรือตายรึไง?’
‘มะ...ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับคุณหนู! คือว่า...คุณท่านน่ะ...’
พ่อของเธอได้แต่งงานใหม่...และมีลูกชายแล้ว...
เมื่อรู้ข่าวนี้ มิเรลล์ก็ทั้งตกใจทั้งโกรธ...เวลาเพียงไม่กี่ปี พ่อก็ลืมแม่...แล้วไปมีความสุขกับผู้หญิงคนอื่นจนมีลูกแล้วเหรอ...เนี่ยเหรอพ่อที่บอกว่ารักเธอมากมาย?
ทำไม...ทำไมถึงได้ทำแบบนี้!?
คนโกหก!
คนแบบนี้...คนแบบนี้น่ะ...
‘ส่วนเรื่องรับปริญญา...คุณท่านบอกว่า...’
‘ไม่ต้องมาแล้ว...ไปบอกพ่อตามนั้น’
...ไม่จำเป็น...อีกแล้ว..
‘คะ...คุณหนู?’
กาเอลได้แต่มองคุณหนูอย่างตะลึง ก่อนที่จะเบิกตากว้างเมื่อเห็นน้ำตาค่อยๆไหลอาบแก้มของหญิงสาวผู้เป็นนายตรงหน้า มือรีบลนลานคว้าผ้าเช็ดหน้ามาให้ทันที แต่เธอก็ไม่ได้รับมัน กลับซบหน้าลงกับเสื้อของเขา
‘...นายนี่ทำเป็นรู้ดีตลอดเลยนะ กาเอล’
‘คิดว่าผมอยู่กับคุณหนูมานานเท่าไหร่แล้วล่ะครับ...’
‘...นายมันแย่ที่สุด จะทำตัวเป็นพ่อฉันอีกคนหรือไง?’
กาเอล...อย่าทิ้งฉันไปอีกคนนะ...
‘ผมไม่ใช่คุณท่านหรอกครับ...แล้วผมก็ยังอยู่ตรงนี้ด้วย เพราะงั้นอย่าร้องไห้สิครับ’
‘คะ...ใครบอกฉันร้องไห้กัน! ฝุ่นมันเข้าตาฉันเฉยๆ...นายนี่ไม่ไหวเลยจริงๆ! ไม่รู้ก็อย่ามามั่วเอาเองสิ!’
ขอบใจ...ขอบใจมากนะ...
กาเอล...
หลังจากนั้นมิเรลล์ก็ใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศยาว (ซึ่งก็คือที่ญี่ปุ่นนั่นเอง) เรียนจบแล้วก็จัดการเปิดร้านตั้งรกรากทำงานที่นั่นแหละ เป็นการบอกว่าเธอยังคงไม่ให้อภัยในสิ่งที่พ่อทำ แม้ว่าพ่อจะเขียนจดหมายหรือติดต่อขอร้องให้กลับไปขนาดไหนก็ตาม...
ถ้าพ่อยังลืมแม่ได้...ก็เหมือนกับลืมเธอไปนั่นแหละ...
เพราะงั้น...เธอไม่ต้องการความรักที่มันขาดๆเกินๆแบบนั้นหรอก...
ครอบครัวของเธอมีแค่กาเอลก็พอแล้ว...
ชีวิตการทำงานของมิเรลล์ประสบความสำเร็จดี มีงานเข้ามาไม่ขาดจนหลายวันต้องอดหลับอดนอนทำงาน
แต่ทำไมนะ...ทั้งๆที่เธอมีกาเอล มีคนในแวดวงเดียวกันและมีเพื่อนอีกมากมาย...
แล้วทำไมส่วนหนึ่งในใจเธอยังรู้สึกว่างเปล่าแบบนี้กันนะ...
งานอดิเรก :: เดินเล่นหรือท่องเที่ยวเพื่อหาไอเดียหรือวัตถุดิบในการทำงาน / ช้อปปิ้ง / ทานของอร่อยๆ / เล่นฟลุต / เล่นเกมกับเพื่อนๆ / เปิดนิตยสารหรือเข้าเน็ตดูพวกการแต่งหน้าทำผม อัพเดทข้อมูลแฟชั่น
ชอบ ::
- เสื้อผ้า เครื่องประดับสวยๆ ดอกไม้ [เพราะมองแล้วเจริญหูเจริญตา และอาจเอาไอเดียไปประบุกต์ใช้ได้ด้วย]
- ขนมหวาน [เพราะทานแล้วมีความสุข]
- คนมีรสนิยมในการแต่งตัวแบบเดียวกัน [เพราะว่าคุยด้วยรู้เรื่อง(?)]
- กาเอล [เพราะเขาคอยอยู่ข้างเธอมาตลอด...แม้ตอนที่เธออาละวาดก็เถอะ...]
- เกม...โดยเฉพาะเกมที่ต้องเสี่ยงดวง [เพราะเธอแอบชอบความท้าทายและรักสนุกไม่น้อยเลย]
- การสร้างสรรค์งาน [เพราะเป็นงานที่เธอชอบและทำได้เรื่อยๆ]
ไม่ชอบ ::
- งานบ้าน [เพราะทำไม่ได้ดี แถมยุ่งยากอีก]
- คนหลอกลวง [เพราะเธอมีอดีตเกี่ยวกับเรื่องนี้...เลยไม่ชอบเอามากๆ]
- ตัวต่อ [โอเค...อันนี้เรียกว่าเกลียดและกลัวเลยดีกว่า เพราะเธอแพ้เหล็กในของตัวต่อ!!!]
- การถูกถามเรื่องครอบครัวและเรื่องส่วนตัว [เพราะมันเป็นประเด็นที่เธอไม่อยากพูด]
- อากาศร้อนชื้น [เพราะมันทำให้เนื้อตัวเธอเหนอะหนะซึ่งเธอไม่ชอบ]
- การโดนบังคับ / การโดนจับตามองตลอด [เพราะรู้สึกไม่เป็นอิสระเลย]
แพ้ :: เหล็กในของตัวต่อ
Character Voice :: จิ้มเลยค่ะ
เพิ่มเติม ::
- จริงๆแล้วด้วยรูปร่างหน้าตาและบุคลิก มิเรลล์เป็นนางแบบได้สบาย แต่ไม่เอาเพราะไม่อยากใส่ชุดอะไรก็ไม่รู้ที่คนอื่นตัดซึ่งบางทีก็ดูห่วยแตกในสายตาเธอมาก และไม่อยากโดนยุ่มย่ามชีวิตส่วนตัวด้วย...บางทีเวลามีคนเอาแบรนด์ของเธอไปเดินโชว์ เธอก็อาจจะนึกสนุกตัดชุดให้ตัวเองแล้วไปเดินปิดท้ายเป็นฟินาเล่สวยๆด้วย
- จากเพิ่มเติมข้อที่แล้ว...เสื้อผ้าเกินครึ่งที่มิเรลล์ใส่เธอตัดเย็บเอง...ที่ซื้อนี่คือต้องถูกใจพอสมควรเลยล่ะ
- ผู้ติดตามของมิเรลล์ คือ “กาเอล ฟิลเบิร์ต” เป็นผู้ชายที่ค่อนข้างเป็นที่ใฝ่ฝันของเหล่าสาวๆ คือสุภาพ อ่อนโยน เข้าอกเข้าใจ ทำได้แทบทุกอย่าง การบ้านการเรือนก็เก่ง แต่บทจะโหดนี่คือถึงกับต้องร้องขอชีวิตกันเลยทีเดียว อายุเกินสามสิบแล้วแต่หน้าเหมือนเพิ่งยี่สิบปลายๆ ที่สำคัญคือโสดสนิท เพราะฉะนั้นไม่แปลกใจเลยว่าจะมีสาวมาแอบชอบไม่น้อย แล้วก็มีอีกหลายคนเหมือนกันที่เข้าใจผิดคิดว่ากาเอลเป็นแฟนกับมิเรลล์...ซึ่งสำหรับกาเอลแล้วมองมิเรลล์เหมือนเป็นน้องสาวและลูกสาวผสมกันมากกว่าจะมองในโรแมนติก เนื่องจากเขาอยู่กับมิเรลล์มาตั้งแต่เธออยู่ชั้นประถม...ว่าง่ายๆอยู่มานานแล้ว เลยดูแลปกป้องเหมือนเป็นครอบครัว และรักในแง่นั้นเกินกว่าจะมองเธอในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง (เขาคือผู้ชายผมสีน้ำตาลที่อยู่ข้างๆมิเรลล์นั่นแหละค่ะ)
- ขยายความเพิ่มจากข้อข้างบน มิเรลล์เห็นกาเอลเป็นครอบครัว คือเป็นทั้งพ่อ พี่ชาย คนติดตาม บอดี้การ์ด และเจเนอรัลเบ๊(?)ผสมกัน ไม่ได้มีความคิดในแง่โรแมนติกด้วยเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นเวลามีใครมาถามเรื่องว่าเป็นแฟนกับกาเอลมั้ย แน่นอนว่าเธอจะตอบไม่เพราะนี่คือความจริง แต่ด้วยความที่ว่าเธอซึนเป็นนิสัย...เลยมีคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแฟนกันจริงๆแค่เธอทำซึน (สม...อยากซึนดีนัก)
- มิเรลล์ได้รับเครื่องเพชรเจ็ดชุดมาจากแม่ก่อนที่ท่านจะจากไป...และเป็นเครื่องเพชรชุดโปรดของมิเรลล์...มีทั้งสร้อยคอ ต่างหู กำไล แหวน เข็มกลัด เครื่องประดับทุกอย่างทุกอย่างครบชุด ความแตกต่างของมันคืออัญมณีที่ใช้ทำและดีไซน์ที่ต่างกันไปในเจ็ดชุด คือ แซฟไฟร์ อความารีน ไข่มุก เพชร ทับทิม เพอริดอต และโอปอลสีดำ (ที่อยู่ในภาพคือชุดอความารีน)
- มิเรลล์ไม่เคยมีแฟน เพราะพอจะมีทีไร เรื่องจะไปถึงหูพ่อด้วยฝีมือไอ้คุณผู้ติดตามกาเอลแล้วก็โดนกีดกันอยู่เรื่อย...(บอกแล้วว่าพ่อหวง และนี่คือตอนที่อยู่ฝรั่งเศส ตอนอยู่ญี่ปุ่นยังไม่เคยเจอเลยไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องมันจะถึงหูพ่อมั้ย...)
- มิเรลล์พกสมุดสเก็ตช์และสมุดโน้ตติดตัวไว้จดไอเดียเมื่อออกไปไหนตลอดเวลา
- แบรนด์ของเธอคือ Aile de rêve [แอลเดอเรฟว์] แปลว่า “ปีกแห่งความฝัน” ในภาษาฝรั่งเศส
Talk To Me
✿ สวัสดีค่ะ..เราไดอาน่าเองง จะเรียกไดอาก็ได้นะ! แล้วผปค.ชื่ออะไรเอ่ย?
:: ยูกินะคนเดิม เพิ่มเติมคือมาเป็นหนที่สองค่ะ
✿ ใบสมัครกับคำถามเราอาจจะเยอะไป(ไม่)หน่อย ขออภัยด้วยนะคะ! *กราบงามๆ*
:: ไม่เป็นไรค่ะ เราเข้าใจ
✿ ทำไมถึงเลือกคู่กับคนนี้คะ?
:: เพราะพี่คาซามัตสึน่ารักค่ะ แล้วนานๆจะเปิดรับคู่รุ่นพี่ทั้งที่ ต้องสมัครสิคะ
✿ ทำไมถึงมาสมัครเรื่องนี้ค---แค่ก
:: พล็อตเรื่องน่าสนใจ และเป็นภาษาดอกไม้ค่ะ
✿ เรื่องนี้อาจจะมีการดองหรือลงช้าเป็นบ้างครั้งนะคะ รอได้รึเปล่าเอ่ย?
:: ไม่เป็นไรค่ะ รอได้
✿ ถ้าไม่ติด..เราขอโทษนะคะ ,_, ))
:: ก็แค่เสียใจ บอกว่าเสียใจได้ยินไหม... // ผิด ไม่เป็นไรค่ะ แค่เสียใจจริงๆ
✿ สุดท้ายนี้ มีอะไรจะบอกเรามั้ยคะ? รักนะ ❤ 。◕‿◕
:: รับลูกสาวทั้งสองคน...มิเรลล์และมิซูสุไว้พิจารณาด้วยนะคะ
ความคิดเห็น