ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My room :)

    ลำดับตอนที่ #105 : 〖KNB〗右肩の蝶

    • อัปเดตล่าสุด 5 ธ.ค. 59


    APPLICATION






    "ฮุฮุฮุ ชินคุงเวลาเขินเนี่ยน่ารักจังเลยน้า©" // จิ้มแก้ม



    บท : สมบัติของขั้วอำนาจ 05...หรือสมบัติของพ่อเขียวซึนอัจฉริยะนั่นเองเจ้าค่ะ

    นามสกุล - ชื่อ : Gyouseiki Mimei [เงียวเซคิ มิเมย์]

    [แปลว่า ดาวประกายพฤกษ์แห่งความหวังในยามรุ่งอรุณ]

    ชื่อเล่น : Mi-chan [ีจัง] / Mei [เมย์]

    [มีจังเป็นชื่อเล่นที่คนในบ้านเรียกค่ะ ส่วนเมย์สำหรับคนนอกบ้าน]

    เพศ : หญิง

    อายุ : 17

    สัญชาติ : ญี่ปุ่น – รัสเซีย

    ชั้นปี : มัธยมศึกษาตอนปลายปีที่ 3  

     

    ลักษณะรูปร่างหน้าตา : เด็กสาวรูปร่างสูงเพรียวสมส่วนน่าอิจฉาจนราวกับหลุดออกมาจากภาพวาด ผิวขาวนวลเนียนจากการดูแลเป็นอย่างดีมีเลือดฝาดน้อยๆ ดวงหน้ารูปไข่ดูมีเสน่ห์มีดวงตาสีฟ้าเข้มเหมือนท้องฟ้าตอนกลางวันยามฤดูใบไม้ร่วงคู่สวยประดับอยู่ จมูกโด่งรั้น ริมฝีปากเรียวได้รูปสีชมพูที่มักหยักโค้งน้อยๆเป็นรอยยิ้มเสมอ พวงแก้มมีสีระเรื่อ ทั้งหมดเสริมกันออกมาเป็นใบหน้าที่งดงามสะกดสายตา เมื่อล้อมด้วยเรือนผมสีน้ำตาลอมแดงหยักโศกเล็กน้อยตามธรรมชาติที่ยาวถึงกลางหลังแล้วก็ยิ่งดูโดดเด่น แขนขาเพรียวยาวไร้ตำหนิ หน้าอกหน้าใจก็มีอยู่ระดับกำลังพอดี รวมแล้วเธอเป็นผู้หญิงที่งดงามหาตัวจับยากคนหนึ่งเลยทีเดียว สูง 168 เซนติเมตร หนัก 51 กิโลกรัม

     

    ลักษณะการพูด : มิเมย์เป็นคนที่ทั้งพูดตรงและสองแง่สามง่าม เล่นแง่ได้ในเวลาเดียวกัน เป็นคนที่แสดงออกชัดเจนทั้งสีหน้าและน้ำเสียงว่ารู้สึกยังไง แต่ก็แค่แป๊บเดียวเท่านั้นแหะก่อนจะกลับไปยิ้มแย้มสบายๆดังเดิม แต่ก็ต้องระวังเหมือนกันเพราะบางทีอาจจะซ่อนอะไรไว้ก็ได้ โดยเฉพาะความโศกเศร้าน้อยใจที่จะแสดงเพียงวูบเดียวเท่านั้นแล้วจางหายไปราวกับว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ปิดบังด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ขี้เล่นเหมือนทุกที เวลาโกรธน้ำเสียงจะใส่อารมณ์อย่างเห็นได้ชัด คำลงท้ายมีไม่มีตามแต่สถานการณ์ ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่มีเพื่อความเป็นกันเอง อาจจะมีบ้างตอนเจอกันแรกๆให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่โดนรุกจนเกินไป พอผ่านไปสักพักเดี๋ยวก็หายไปเอง(?) ชอบแทนตัวเองว่า “ฉัน” ไม่ก็ “เมย์” (หรือกรณีเป็นคนในบ้านก็ “มี”) แทนคนอื่นด้วยชื่อ ไม่ก็เธอ / นาย ส่วนใหญ่มักเรียกชื่ออีกฝ่ายมากกว่า ถ้าไม่สนิทจะเรียกนามสกุลไม่ก็ชื่อธรรมดา ตามด้วย “คุง/จัง” ถ้าสนิทแล้วจะมีการตั้งชื่อเล่นให้โดยเฉพาะ แต่หากเป็นคนที่มิเมย์ถูกจะก็...จะได้รับบริการตั้งชื่อเล่นโดยอัตโนมัติแบบยังไม่ต้องสนิททันที (เรียกมิโดริมะว่า “ชินคุง” ไม่ก็ “ชินจัง”) หากเป็นผู้ใหญ่ มิเมย์จะเรียกนามสกุลตามด้วย “ซัง” แต่ถ้าเป็นผู้ใหญ่ที่สนิทก็จะเรียกชื่อจริง ตามด้วย “ซัง” แทน

    ตัวอย่างคำพูด

    - “ฉัน...เงียวเซคิ มิเมย์จ้ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ” // ยิ้มและขยิบตาให้ (แนะนำตัว)

    - “ชินคุง...ไม่เอาน่า ขมวดคิ้วแบบนั้นระวังตีนกาขึ้นหน้าตั้งแต่เด็กน้า...” // พูดแล้วยื่นหน้าไปใกล้ๆ เอานิ้วจิ้มรอยย่นบนหน้าผากด้วยสีหน้าอมยิ้ม (รุก(?)มิโดริมะ แถมบริการตั้งชื่อเล่นทันใจ)

    - “เรียวจัง...วันนี้ฉันกับเรียวจังมีถ่ายแบบด้วยกันแหละ ไปด้วยกันมั้ย?” // วิ่งเหยาะๆ มาหาแล้วเกาะไหล่ พูดด้วยรอยยิ้ม (พูดกับเพื่อน...ซึ่งก็คือคิเสะ...)

    - “ฮุฮุ ปากไม่ตรงกับใจแบบนี้น่ารักจังเลยน้า...ถ้าไม่เขินแล้วทำไมถึงหน้าแดงกันล่ะหืม...ชินคุง?” (รุกอะเกน?)

    - “พี่มิโซระอ่า...วันนี้ก็ต้องทำวิจัยอีกแล้วเหรอ?” // พูดพลางพองแก้มแบบงอนๆ (พูดกับพี่ๆ)

    - “เข้าใจแล้วค่า...มาซาโตะซัง จะไปให้ทันนะคะ” (พูดกับผู้ใหญ่)

    - “ถ้าไม่รู้อะไรก็อย่ามาเสร่อพูดจาแย่ๆแบบนี้ใส่(ชื่อเพื่อน)นะ!” (โกรธเพื่อปกป้องคนสำคัญ)

    - “...เอ๋...ฉันน่ะเหรอ? ไม่เป็นไร...สบายมาก ไม่เป็นไรจริงๆนะ...บ้า เอาอะไรมาพูดว่าฉันเสียใจกัน...” (กลบเกลื่อนความเศร้าเสียใจ)

     

    นิสัย : เงียวเซคิ มิเมย์...เด็กสาวลูกครึ่งผู้มีสโลแกน “ด้านได้ อายอด” ถือว่าโอกาสนั้นเป็นสิ่งที่ถ้าไม่ได้มีมาให้ก็ต้องสร้างขึ้นเอง ดังนั้นหากเธอต้องการอะไรจริงๆ เธอจะลงมือเองเลยแบบไม่รอโชคชะตาฟ้าดินอะไรทั้งนั้น แน่นอนว่าหากอยากรู้จักใครก็จะเป็นฝ่ายเข้าหาโดยไม่แคร์ว่าคนอื่นจะมองยังไง ขืนมัวแต่อาย อ้างโน่นอ้างนี่ไม่ยอมทำอะไรชาตินี้มันได้รู้จักกันไหมล่ะคะ? เรื่องอะไรจะให้ตัวเองชวดโอกาสรู้จักเพราะความขี้ขลาดของตัวเองกันล่ะ?

     

    มิเมย์เข้าหาคนอื่นเก่งเพราะนอกจากจะใจกล้า เป็นพวกกล้าได้กล้าเสีย ไม่ค่อยเขินอายแล้ว เธอยังมีเสน่ห์ในการวางตัวด้วย ไม่ว่าจะเป็นการพูดจาหรือวางตัว ทุกอย่างมันชวนดึงดูดในอยากเข้าใกล้และรู้จักเธอมากขึ้นไปอีก และเสน่ห์ที่ว่านี้ก็ไม่ได้เกิดจากการปรุงแต่งแต่อย่างใด มันมีเองโดยธรรมชาติ เหมือนเป็นพรจากสวรรค์โดยแท้  หากจะกล่าวให้ละเอียดกว่านี้อีกนิดคือเธอเป็นคนวางตัวสบายๆเป็นกันเอง แต่ไม่ได้เป็นกันเองปืนเกลียวใส่ผู้ใหญ่ เพราะกับผู้ใหญ่ก็มีมารยาทบ้าง เป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วชวนให้สบายใจ สร้างบรรยากาศให้ดีขึ้นหรือครึกครื้นขึ้นได้ ไม่แปลกใจเลยหากจะบอกว่างานปาร์ตี้ไหนไม่มีเธอ งานนั้นกร่อย...

     

    มิเมย์เป็นคนร่าเริง ขี้เล่น รักสนุก คือเห็นอะไรน่าสนุกเป็นไม่ได้ต้องเข้าไปร่วมแจมเสียทุกที แถมทำอะไรก็ดูเหมือนเล่นสนุกไปเสียหมด มีความสุข รอยยิ้มและเสียงหัวเราะกับสิ่งที่ทำ ไม่จริงจังหรือซีเรียสกับอะไรเท่าไหร่นัก แต่ความจริงแล้วเธอก็มีมุมจริงจังและรับผิดชอบนะ แต่จะไปใช้กับเรื่องที่เธอคิดว่าสมควรจะจริงจังเท่านั้น เพราะคิดว่าซีเรียสมากไปประสาทจะกินตายเอาและชีวิตคงไม่มีความสุขแน่ๆหากจะจริงจังไปหมดทุกเรื่อง ตัวเธอเองรู้ดีที่สุดว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นดั่งใจเราคิดไปเสียหมดหรอก เพราะงั้นอะไรเล็กน้อยปล่อยผ่านได้ก็ไม่ต้องไปจริงจังกับมันนักหรอก โดยเฉพาะเรื่องที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของตัวเองจะไม่ซีเรียสเลย เพราะยังไงก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว คิดมากก็ไม่ช่วยอะไรหรอก แต่เรื่องที่สมควรเธอจะทุ่มสุดตัวเลยล่ะ

     

    มิเมย์เป็นคนยิ้มเก่ง ปกติแล้วเธอมักจะยิ้มน้อยๆ ดูเจ้าเล่ห์ประดับใบหน้าตลอดเวลา แต่นั่นก็เป็นเสน่ห์ของเธออย่างหนึ่งเหมือนกัน เป็นคนที่ทำตัวเหมือนคิดอะไรในหัวตลอดเวลาทั้งๆที่ความจริงอาจจะไม่ได้คิดอะไรเลยก็ได้ ยิ้มได้ยิ้มดีจนบางคนแถวนี้นึกว่าบ้า อารมณ์ดีตลอดเวลาเหมือนกับว่าไม่มีอะไรมาทำให้เธออารมณ์เสียได้ ทั้งที่ความจริงแล้วเธอเองก็ยังเป็นคน แน่นอนว่าก็ต้องหงุดหงิดเป็น โกรธเป็น เสียใจเป็น อารมณ์เสียเป็นเป็นธรรมดา เพียงแต่มันหายเร็วมาก เพราะเธอปล่อยผ่านจนคนอื่นไม่ทันสังเกตเลยคิดว่าเธออารมณ์เสียไม่เป็นน่ะสิ ที่ปล่อยผ่านส่วนหนึ่งก็ตามที่เขียนไปแล้วว่าเพื่อสุขภาพจิตที่ดี และอีกส่วนคือ...ถ้ามิเมย์เลือกจะปล่อย แปลว่ามันเป็นเรื่องเล็กในสายตาเธอ เพราะหากเป็นเรื่องใหญ่รับรองต้องเคลียร์กันยาว ไม่ปล่อยไปง่ายๆแน่ หากเกิดเรื่องแบบนี้จะเป็นคนที่พุ่งเข้าชนมาเคลียร์ตรงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ตัวเองได้แล้ว เป็นคนที่ไม่หนีปัญหา เพราะเชื่อว่าหนีไปเท่าไหร่ก็ไม่พ้น อีกอย่างเธอไม่อยากกังวลใจอย่างไม่รู้จบกับเรื่องที่ยังไม่ได้แก้ไข สู้เจ็บแต่จบให้มันสบายใจไปเลยทีกว่า โกรธยากแต่หายง่ายถ้าง้อถูกวิธี แต่ถ้าง้อผิดวิธี...ให้ตายก็ไม่หายโกรธหรอก!ซ฿งวิธีง้อที่ว่าคือเอาเหตุผลที่คิดว่าฟังขึ้นไปคุย แต่ต้องมีเหตุผลจริงๆนะ หรือถ้าไม่มีก็ยอมรับผิดมันมาตรงๆเลยนั่นแหละ ห้ามแถแหลเด็ดขาด เพราะถ้าเกิดเธอรู้ว่าเป็นการแถจะยิ่งโกรธกว่าเก่าอีก แล้วก็ยอมง้องอนกันซักหน่อย แบบอารมณ์ว่าตามใจกันซักนิด แค่นี้ก็หายโกรธแล้ว และอีกเรื่องคือเป็นคนที่ชอบพูดคำว่า ไม่เป็นไร และทำตัวเองเหมือนกับว่าไม่เป็นไรเวลาที่เสียใจ ทั้งๆที่ในใจร้องไห้ไปแล้ว...เรียกว่าจะไม่ยอมให้ใครเห็นตอนเธอเศร้าก็ไม่ผิดเท่าไหร่

     

    มิเมย์เป็นคนที่พูดจาได้ทั้งตรงไปตรงมาและมีลับลมคมใน บทจะพูดตรงก็ตรงจนคนฟังสะดุ้งโหยง แต่บทจะเล่นแง่ก็น่าดูชมจนอีกฝ่ายอยากกจะบีบคอเค้น เพราะมันฟังดูสองแง่สามง่ามและชวนให้คิดไปไกลเหลือเกิน มักพูดสองแบบนี้ปนกันไปมาจนเดาทางไม่ออกว่าจะมาไม้ไหนกันแน่ ไล่ต้อนคนด้วยคำพูดเก่งแต่ก็ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายอึดอัดจนเกินไปนัก(?) และไม่ว่าจะพูดยังไงก็มักจะมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าอยู่เสมอ แต่เอาเข้าจริงก็เป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเองพอสมควร เพียงแต่ปิดบังไม่ให้ใครรู้ใจจริงทั้งหมดเพราะมันฟังดูเสี่ยงภัยเกินไปถ้าจะมีใครอ่านทางเธอออกไปหมดทุกอย่างก็เท่านั้นแหละ อีกเรื่องคือมิเมย์เป็นคนที่หว่านล้อมชักจูงใจคนอื่นได้ดี เรียกว่าวาทศิลป์สูงก็ไม่ผิด

     

    มิเมย์เป็นเด็กสาวที่ผสานความเป็นเด็กและผู้ใหญ่เข้ากันได้อย่างลงตัว เธอมีความขี้อ้อน ขี้เล่น เอาแต่ใจนิดๆ สดใส และขี้แกล้งเหมือนกับเด็ก แต่ก็มีความเจ้าเล่ห์ ใจเย็น และปล่อยวางได้แบบผู้ใหญ่ด้วย เมื่อรวมกันออกมาแล้วทำให้เธอดูไม่ได้ทำตัวเด็กหรือผู้ใหญ่เกินวัยจนเกินไป เพียงแค่บางคนที่ได้เห็นแค่ด้านใดด้านหนึ่งอาจจะคิดว่าเธอทำตัวเด็กหรือแก่ไปก็เท่านั้นเอง

     

    มิเมย์เป็นคนขี้เบื่อพอสมควร คือสนใจอะไรไม่ทันไรก็เปลี่ยนอีกแล้ว ก็เพราะเป็นคนชอบความตื่นเต้นท้าทายด้วยล่ะนะ อันนั้นคือกรณีของธรรมดาทั่วไป แต่ถ้าเป็นของหรือคนที่ถูกใจจริงๆ จะไม่มีวันเบื่อเลย แน่นอนว่าใครก็ตามที่เธอสนใจก็จะหาทางเข้าใกล้อย่างที่กล่าวไปแล้ว แต่ที่ยังไม่ได้บอกคือ...เธอชอบแกล้ง ชอบแหย่คนที่เธอถูกใจ รักที่จะเห็นปฏิกิริยาและสีหน้าท่าทางต่างๆของคนๆนั้น ยิ่งปกติมีมาดแล้วมาดหลุดนี่น่ารักสุดๆไปเลย แต่ก็ไม่ได้แกล้งอะไรจนเกินเลยนะ มักจะเป็นการหยอกแหย่น่ารักๆมากกว่า เช่น สกินชิพนิดหน่อย อะไรแบบนี้ อ้อ...เธอชอบสกินชิพคนที่ชอบด้วยแหละ แบบกอดนิดแตะหน่อย เผลอๆก็หอมแก้มบ้างอะไรแบบนี้ แน่นอนว่าไม่ได้ทำพร่ำเพรื่อหรอกนะ...

     

    มิเมย์เป็นคนหัวไว ไหวพริบการเอาตัวรอดสูง แถมยังคล่องแคล่วว่องไว เป็นคนที่ใช้สัญชาตญาณและหัวใจเป็นหลัก สมองเป็นรอง แต่ถึงกระนั้น เธอก็ไม่ใช่คนไร้สมองแต่อย่างใด ติดจะฉลาดแกมเจ้าเล่ห์นิดๆด้วยซ้ำ เพียงแต่หากมีเรื่องอะไรเข้ามา วิธีแรกที่เธอคิดคือใช้หัวใจตัวเองนำพาไป ถ้าซับซ้อนหรือละเอียดจนต้องใช้สมองหน่อยค่อยเอาสมองมาช่วยคิด ส่วนความเฉลียวฉลาดของมิเมย์นั้นส่วนใหญ่จะออกไปในแนวความคิดสร้างสรรค์ การพลิกแพลงและไหวพริบมากกว่า ไอ้เรื่องความจำหรือวิเคราะห์อะไรนั่นเธอก็ดีกว่าคนทั่วไปนิดหน่อยเท่านั้นแหละ เพียงแต่กับเรื่องที่สนใจ ความจำจะดีมาก เพราะเดิมทีก็เป็นคนช่างสังเกตอยู่แล้วด้วย อย่าให้อยากรู้เรื่องอะไรเชียว เธอสืบหมดแน่ๆ วิธีไหนไม่รู้ล่ะ อยากรู้อะไรก็ต้องพิสูจน์ให้มันรู้ดำรู้แดงไปเลย เป็นคนชอบความชัดเจน แต่ชอบจะทำตัวมีความลับนิดๆกับคนอื่นไปซะอย่างนั้น แหม...ก็เปิดเผยทุกอย่างหมดมันไม่ปลอดภัยกับตัวเองนี่นา เห็นแบบนี้ก็ระวังตัวเองใช้ได้เลยนะ เธอรู้ลิมิตตัวเองดีน่าว่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้ ไม่ได้แค่เล่นเอาสนุกไปวันๆหรอกนะจะบอกให้

     

    มิเมย์เป็นคนที่มีหัวทางด้านศิลปะและภาษามากกว่าวิชาการด้านอื่น โดยเฉพาะดนตรีที่เจ้าตัวหลงใหลมาแต่เล็กจากอิทธิพลของคุณพ่อ แต่ศิลปะแขนงอื่นเธอก็จัดว่ามีเซ้นส์พอสมควร แม้จะไม่เท่าดนตรีก็ตาม และเป็นคนที่เก่งภาษา เข้าใจอะไรทางด้านภาษาได้รวดเร็ว โดยเฉพาะทักษะการฟังพูด ในด้านอ่านเขียนนี่...บอกเลยว่าธรรมดาค่อนไปทางดีกว่าชาวบ้านเขานิดหน่อย...

     

    มิเมย์เป็นคนมีรสนิยมดี มีเซ้นส์เรื่องการแต่งตัวดี และค่อนข้างจะรักสวยรักงามพอสมควร ก็ใบหน้าคือชีวิตของลูกผู้หญิงนี่นา แต่ที่ต่างจากผู้หญิงคนอื่นคือเธอไม่ค่อยกังวลเรื่องน้ำหนักเท่าไหร่ เพราะกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน เนื่องจากเจ้าตัวเป็นคนที่ขยับตัวทำอะไรอยู่ตลอดเวลา ไม่เรียนก็ทำงาน ไม่ก็ไปออกกำลังกาย ไม่ก็ซ้อมดนตรี ฉะนี้แลเลยเบิร์นตลอดจนไม่น่าจะอ้วนได้เลย แม้ว่าจะชอบทานของหวานและเป็นคนที่ทานเยอะพอสมควรก็เถอะ

     

    มิเมย์เป็นสาวสังคม คือเธอเข้าสังคมเก่ง เข้าหาคนอื่นได้ดี วางตัวและดูแลตัวเองเป็น ชอบออกไปเฮฮาสังสรรค์กับเพื่อน มีปาร์ตี้หรืองานเลี้ยงที่ไหนบอกมา จัดไป! แต่เรื่องที่คนอื่นไม่ค่อยรู้คือมิเมย์เป็นคนที่รักครอบครัวมาก โดยเฉพาะพวกพี่ๆ หากให้เลือกระหว่างไปสังสรรค์กับเพื่อนกับนั่งดูหนังกับพี่ๆที่บ้าน เธอเลือกข้อหลังอย่างไม่ต้องสงสัย เพียงแต่เวลาว่างที่ไม่ค่อยตรงกันระหว่างพี่น้องทำให้เธอได้ออกไปสังสรรค์มากหน่อยก็เท่านั้น นอกจากนั้นด้วยความที่พ่อแม่ไม่ค่อยอยู่บ้าน ทำให้เธอมักจะน้อยใจนิดๆที่ทำไมพ่อกับแม่ไม่กลับมาหากันบ่อยๆบ้าง แต่ก็ไม่ได้แสดงออกอะไร มันอยู่แค่ลึกๆในใจเท่านั้นแหละ ที่จริงแล้วเธอขี้เหงานะ แต่จากนิสัยภายนอกทำให้คนไม่ค่อยรู้รู้ตรงจุดนี้เท่านั้นเอง...

     

    ประวัติส่วนตัว : หากจะกล่าวถึงประวัติของเงียวเซคิ มิเมย์ คนนี้แล้วล่ะก็...เริ่มต้นเลยคือเธอเกิดมาในครอบครัวตระกูลเงียวเซคิ พ่อของเธอ เงียวเซคิ ฮินาตะ เป็นนักไวโอลินระดับโลกที่มักไม่ค่อยอยู่บ้าน และแม่ของเธอ เวร่า กลาสนอส เป็นนางแบบดังในรัสเซียที่เพลาๆงานลงมาบ้างหลังแต่งงาน แต่ก็มักได้รับคำทาบทามให้ไปทำงานอยู่เสมอ ทำให้ทั้งคู่ไม่ค่อยอยู่บ้านนัก ตั้งแต่เล็กคนที่เลี้ยงเธอมาก็เลยเป็นพี่สาวและพี่ชาย มิโซระ และ ฮิคาเงะ กล่าวได้ว่าทั้งสามสนิทสนมกันมาก แม้ว่ามิเมย์จะอายุห่างจากพวกพี่ๆทั้งสองพอสมควรก็ตาม ด้วยความที่เป็นน้องคนเล็ก พี่ทั้งสองก็เลยทั้งรัก หวง และเอ็นดู ค่อนข้างตามใจพอสมควร ไม่แปลกใจที่มิเมย์จะเอาแต่ใจนิดๆ ตามฉบับเจ้าหญิงองค์น้อยของบ้าน...

     

    มิเมย์โตมาโดยได้รับความรักจากพี่ๆ เปี่ยมล้น ดังนั้นแม้ว่าพ่อแม่จะไม่ค่อยอยู่บ้านก็ไม่เป็นปัญหาเรื่องขาดความอบอุ่น แม้จะมีงอนพ่อแม่บ้างที่ไม่ค่อยกลับมาหาก็เถอะ นอกจากนั้นแล้ว เธอยังเป็นลูกของพ่อแม่โดยแท้ เพราะในบรรดาสามพี่น้อง มิเมย์เป็นคนที่สืบทอดความสามารถทางด้านไวโอลินมาจากพ่อ และรูปร่างกิริยาท่าทางงดงามสะกดสายตามาจากแม่มากที่สุด ไม่ใช่ว่าพี่ทั้งสองไม่มี ทั้งคู่เล่นไวโอลินเก่ง แต่ก็เพื่อคลายเครียดเท่านั้น แถมพี่สาวยังเป็นคนที่ค่อนข้างเรียบร้อยผิดพ่อผิดแม่ ไม่เหมือนมิเมย์ที่หลงใหลในเสียงดนตรีและชอบของสวยๆงามๆเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างนั้นพี่สาวของเธอก็เรียนเก่งมากจนเข้าข่ายอัจฉริยะ ได้ทุนเรียนถึงปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยโตเกียวเลยทีเดียว

     

    ที่บ้านก็ดูราบรื่นดีไม่มีอะไร จนวันหนึ่งมิเมย์ที่อยู่ชั้นมัธยมต้นมีแมวมองมาทาบทามให้เป็นนางแบบ ด้วยความนึกสนุกและชื่นชมผลงานของแม่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็เลยตกลงรับปากทำดู กะว่าทำเล่นๆ จะได้เอาไปอวดพี่ๆกับพ่อแม่ ปรากฏว่าดันกลายเป็นที่นิยมไปซะอย่างนั้น ก็เลยตกลงทำงานเป็นนางแบบยาวจนปัจจุบัน แม้ตอนแรกพี่ๆจะไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่เพราะกลัวเป็นอันตราย แต่พอเห็นมิเมย์มีความสุขดีก็เลยปล่อยมันไปก่อนแล้วกัน ส่วนพ่อแม่ก็ไม่ว่าอะไร...ที่จริงแม่ออกจะดีใจด้วยซ้ำที่ลูกสาวคนเล็กเลือกเดินตามรอยแม่ ส่วนพ่อจริงๆก็แอบหวงลูกสาวอยู่หรอก แต่เห็นภรรยากับลูกมีความสุขขนาดนั้น แถมโตแล้วดูแลตัวเองได้ บางทีอาจจะเป็นบทเรียนที่ดีว่าเงินมันหายาก ก็เลยช่างมันไป(?)

     

    ว่าง่ายๆชีวิตมิเมย์ก็ราบรื่นดีเลยล่ะ...หากจะบอกว่ามีปัญหาตรงไหน ก็ตรงที่น้อยใจที่พ่อแม่ไม่ค่อยกลับบ้านมาหา กับเวลาว่างของตัวเองกับพี่ๆไม่ตรงกันนี่แหละ...

     

    ปัจจุบันพี่สาวเรียนปริญญาเอกอยู่ที่มหาวิทยาลัยโตเกียว ส่วนพี่ชายทำงานในสังกัดค่ายเพลง (คนละที่กับที่มิเมย์อยู่) เวลาว่างที่ตรงกันเลยค่อนข้างน้อย...


    [รูปของมิโซระ (พี่สาวคนโต) กับฮิคาเงะ (พี่ชายคนกลาง) ค่ะ มิโซระคือสาวผมเงิน ส่วนฮิคาเงะคือหนุ่มผมดำ มิเมย์คือเด็กตัวเล็กในรูป (ถ่ายตอนเด็ก แต่ปัจจุบันหน้าก็ไม่ค่อยเปลี่ยนหรอกค่ะ) ส่วนอีกสองคนคือแฟนพี่ (แฟนมิโซระชื่อวาตารุ ส่วนแฟนฮิคาเงะชื่ออายากะ)....จิ้ม]

     

    ความสามารถพิเศษ : เล่นไวโอลิน / ว่ายน้ำ / ทำอาหาร / ภาษารัสเซีย / ร้องเพลง

     

    ชอบ :

    - เรื่องน่าสนุก / น่าสนใจ [เพราะมันทำให้ชีวิตดูมีสีสัน ไม่น่าเบื่อ ท้าทายดี]

    - เสียงดนตรี โดยเฉพาะไวโอลิน [เพราะเธออยู่กับมันมาตั้งแต่เล็ก และหลงใหลในมัน มันทำให้เธอมีความสุขยามได้ฟังเสมอ...และเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงระหว่างเธอกับพ่อที่อยู่ไกลกัน...]

    - อาหารทำมือ / ของหวาน [เพราะทานแล้วมีความสุข...ตอนทำก็มีความสุข]

    - ของสวยๆงามๆ เช่นพวกเสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องสำอาง [เพราะคิดว่างามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง และเธอเองก็เป็นผู้หญิงคนนึงที่อยากดูดีอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ได้แต่งจนบ้านะจะบอกให้]

    - เวลาที่ได้อยู่กับครอบครัว โดยเฉพาะพวกพี่ๆ [เพราะเธอรักครอบครัวมาก เวลาที่ได้อยู่กับพวกเขาจึงเป็นสิ่งล้ำค่าสำหรับมิเมย์]

    - บรรยากาศครึกครื้น สนุกสนาน [เพราะรู้สึกว่าแค่อยู่ตรงนั้นก็สนุกไปด้วยแล้ว]

     

    เกลียด : 

    - เรื่องน่าเบื่อ / เรื่องชวนให้จิตตก [เพราะรู้สึกว่าทำให้ชีวิตอับเฉา]

    - คนที่มาทำร้ายคนสำคัญ [เพราะเธอรักพวกเขา รักมาก...เพราะฉะนั้นอย่ามาว่าร้ายพวกเขานะ!]

    - แดดจัดๆ [เพราะมันทำผิวเธอเสียและรู้สึกเหนอะหนะ อีกอย่างคือเธอไม่ชอบอากาศร้อน...ดังนั้นอย่าแปลกใจถ้าหน้าร้อนเธอจะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแขนขายาว พร็อบหมวกแว่นกันแดดครบ ซันบล็อกพร้อม]

    - การถูกจำกัดอิสระ / การบังคับ [เพราะรู้สึกอึดอัด และรู้สึกว่าไม่เป็นตัวของตัวเอง]

    - แครอท [เพราะรสชาติไม่ได้เรื่อง และคิดว่ามันเป็น อาหารกระต่าย มากกว่าจะเป็นอาหารคน ถ้าเจอจะเขี่ยทิ้ง อย่าแปลกใจถ้าแกงกะหรี่ที่เธอทำจะไม่ใส่แครอท...หรืออย่างน้อย...อึก บดใส่หน่อยก็ได้ ขอแค่ไม่เห็นว่าเป็นชิ้นแครอท เธอก็ยังพอทำใจกินได้อยู่]

    - เรื่องคลุมเครือ [เพราะเธอชอบความชัดเจน เลยไม่ชอบเรื่องที่มันดูไม่ชัดเจน...เคสนี้แค่ไม่ชอบ ไม่ได้ถึงกับเกลียด เพราะก็เข้าใจว่าบางทีตัวเองก็ทำตัวคลุมเครือเหมือนกัน]

    - วิชาทางวิทย์ๆ [เพราะเธอคิดว่าเรียนไปเธอก็ไม่ได้ใช้ อีกอย่างหลักการมันก็ดูวนไปวนมา...น่าเบื่อ แต่ถึงจะไม่ชอบวิชาพวกนี้ เกรดวิชาพวกนี้ของเธอก็พอใช้ได้ ไม่ถึงกับห่วยแตก แต่ก็ไม่ได้ดีเด่อะไร]

     

    กลัว :

    - การถูกลืมเลือนและต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว [เพราะมิเมย์จริงๆแล้วขี้เหงาพอสมควร ดังนั้นจะกลัวการถูกลืมและอยู่คนเดียวจนต้องหาอะไรทำไม่งั้นจะฟุ้งซ่านเอา...ซึ่งความกลัวนี้แสดงออกมาในแบบความเศร้าลึกๆ ไม่ได้กรีดร้องคร่ำครวญอะไร]

    - กบ [เพราะตอนเด็กๆเคยเจอมันกระโดดใส่ เลยกลัวแบบที่ว่าถ้าเจอจะพุ่งไปเกาะหลังคนที่อยู่ใกล้ที่สุดเอามาเป็นเกราะกำบังทันที

     

    แพ้ : ไม่มีค่ะ สตรองระดับนี้แล้ว(?)

     

    งานอดิเรก : ช้อปปิ้ง / เล่นไวโอลิน / ทำและทานขนมหวาน / หาอะไรใหม่ๆลองทำ / ว่ายน้ำ

     

    เป้าหมายในชีวิต :

    - เป็นนางแบบระดับท็อปเหมือนแม่ (แต่อันนี้ไม่ซีเรียสเท่าไหร่ ได้ก็ดี) ถ้าไม่ได้เป็นนางแบบอาชีพแล้ว...มิเมย์อยากเป็นพาติซิเย่ (เชฟทำขนมหวาน) เพราะชอบขนมอยู่แล้ว

    - ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตามีความสุข ถ้าจะแต่งงานต้องอยู่บ้านใกล้ๆพวกพี่ด้วย(?)

     

    เพิ่มเติม :

    - มิเมย์กับคิเสะอยู่สังกัดเอเจนซี่เดียวกัน เลยสนิทกันมาตั้งแต่มัธยมต้น...เป็นคู่หูดูโอ้ประจำเอเจนซี่กันเลยก็ไม่ผิดจนมีคนจิ้น(?) คิเสะจะเรียกเธอว่า “มิจจิ” (เนื่องจากเรียกว่าเงียวเซคิจจิแล้วมิเมย์บอกว่ายาวไป ไม่เอา) ในขณะที่มิเมย์จะเรียกเขาว่า “เรียวคุง / เรียวจัง”

    - เข้ากับคนง่าย แต่สนิทกับคนยาก...คนที่นับว่าเป็นเพื่อนสนิทนอกจาก (เพื่อนสนิทของสมบัติ) กับคิเสะแล้วแทบจะนับหัวได้ ไม่ถึงสิบคนด้วยซ้ำมั้ง...ถ้าสนิทด้วยแล้วมิเมย์จะรักและเป็นห่วงมากเลยล่ะ

    - ที่มิเมย์ทำอาหารเก่งก็ไม่ใช่อะไร เพราะพวกพี่ๆเธองานยุ่งเรียนหนักจนไม่มีเวลาทำกับข้าว มิเมย์ที่ว่างที่สุดแล้วทนเห็นพวกพี่กินแต่ข้าวกล่องจากร้านสะดวกซื้อไม่ได้ ประกอบกับตัวเองชอบทานอาหารทำมือมากกว่า เลยฝึกทำจนเก่ง และทุกวันที่เธอมาโรงเรียนเฉียดฉิวเวลาเข้าเรียนนี่ก็เพราะมัวแต่ทำอาหารเช้ากับข้าวกล่องให้ตัวเองกับพวกพี่ๆอยู่....

    - มิเมย์เกิดเดือนพฤษจิกายน ราศีพิจิก เลือดกรุ๊ป O ถนัดซ้าย...

    คุยกับตัวละคร



    - สวัสดีค่ะ ลองแนะนำตัวหน่อยสิคะ?

    ตอบ : “เงียวเซคิ มิเมย์ ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะ” มิเมย์พูดอย่างอารมณ์ดีพร้อมทั้งขยิบตาให้ “ว่าแต่เธอนี่น่ารักจังเลยน้า...ชื่ออะไรเหรอ?”

    - เหตุผลที่เข้าเรียนโรงเรียนโทเอน?

    ตอบ : “ก็เป็นรร.ที่พี่มิโซระกับพี่ฮิคาเงะมาเรียนน่ะสิ” มิเมย์เอ่ยสบายๆ ยิ้มนิดๆอย่างมีเสน่ห์ “อีกอย่างเรียวจังก็เรียนที่นี่ด้วย อยู่กับเรียวจังแล้วสนุกจะตาย แล้วจะไม่มาโรงเรียนนี้ได้ยังไงกันล่ะ จริงม้า...”

    - รู้สึกอย่างไรกับการที่โดนเลือกให้มาเป็น 'สมบัติ' ของหนึ่งในขั้วอำนาจโรงเรียนโทเอนคะ?

    ตอบ : “น่าสนุกจะตายไป” มิเมย์ตอบทันที ดวงตาสีฟ้าเปล่งประกายสนุกสนานเต็มที่ “แถมเขายังเป็นคนที่น่าสนใจมากๆ คนอะไรน่ารักน่าแกล้งชะมัด นิสัยปากไม่ตรงกับใจเนี่ยก็น่าเอ็นดูออก...คุณขั้วอำนาจคนนี้ของฉันน่ารักจะตายไป©

    - รับทราบแล้วค่ะ หวังว่าพวกเราจะได้พบกันอีกนะคะ

    ตอบ : “นั่นสินะ...” มิเมย์พูดพลางอมยิ้ม ลุกขึ้นแล้วเดินจากไป ก่อนจะหันหลังมาพูด “แล้วฉันจะรอนะ”



    คุยกับผู้ปกครอง



    - สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นก็ขอขอบคุณที่ตัดสินใจมาสมัครนะคะ !

    ตอบ : ทางเราก็ต้องขอบคุณที่เปิดฟิคดีๆให้ลงสมัครเช่นกันนะคะ

    - เรียกไรท์ว่าตะวันก็ได้ค่ะ แล้วทางนั้นชื่ออะไรเอ่ย?

    ตอบ : “ยูกินะ” ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ตะวันซัง

    - ถ้าไม่ติดจะยัดหรือรับกลับคะ? (แต่ถึงจะยัดก็ยังเด่นอยู่นะคะ ไม่ใช่ตัวประกอบแน่ๆ)

    ตอบ : เอ...ถ้ายัดหมดทุกคนที่ไม่ติด เรากลัวว่าเรื่องอาจจะตัวละครล้น เอาเป็นว่ารับกลับดีกว่าค่ะ เรามาเพื่อบทนางเอกเท่านั้น(?)

    - ขอให้โชคดีค่า! ขอบคุณอีกครั้งที่มาสมัครน้า

    ตอบ : รับมิเมย์ไว้พิจารณาด้วยนะคะ เดี๋ยวจะมาส่งอีกคนน้า

     

     
      CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×