ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ความลำบากใจ
หลังจากที่ฉันกับเมย์เดย์ร้องเพลงจนคอแทบแตกแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน โดยที่เราสองคนแทบจะไม่ได้คุยอะไรกันเลย ถึงแม้ว่าฉันจะอยากพูดก็เถอะ แต่เมื่ออ้าปากเสียงก็ถูกกลืนหายไปในลำคอ ก็เลยกลับบ้านมาด้วยคำพูดที่ค้างคามากมาย คำของยัยมิกิยังวนเวียนอยู่ในหัว นี้ฉันต้องเลือกจริงๆหรอ ฉันอาจจะเป็นคนที่เห็นแก่ตัว ไม่อยากเสียใครไปเลยก็ได้ ฉันจะทำไงดี โทรไปหายัยมิกิดีกว่า
(ฮัลโหลสวีทมีอะไรหรอจ๊ะ)
"คือว่าแก ฉันไม่รู้จะเลือกยังไงดีอ่ะ ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอ แล้วก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาตำหัวใจเต็มไปหมดเลยอ่ะ ฉันจะทำยังไงดีบอกฉันหน่อยสิแก"
(ร่ายเป็นชุดเลยนะย่ะ ฉันว่าแกก็ทำตัวตามปกตินั่นแหละ ทำเหมือนสวีทคนเดิม แกรู้มั้ยหล่ะว่าทำแบบนี้แล้วจะได้เห็นอะไรดีๆแน่นอน)
"อะไรที่ว่าดีๆหล่ะ"
(เออน่า ฉันว่าแกดูไปก่อนเหอะ อย่างฉันอ่ะมันเจ้าแม่แล้ว ก็เลยรู้ เข้าใจ๊)
"ดีแต่ดูคนอื่นอ่ะดิ ยัยเจ้าแม่น้ำตาย้อย"
(เอ๊ะ ไอ้เพื่อนคนนี้ ฉันอุตส่าห์ช่วยแกนะเนี้ย เอาเหอะฉันรู้ว่าแกกำลังทุกข์ มีอะไรอยากระบายมั้ย)
"มีสิ มีเยอะด้วย"
ฉันคุยกับมิกินานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่ามันทำให้ฉันสบายใจมากขึ้น ถึงแม้ว่ายัยมิกิจะติ๊งต๊องปัญญาอ่อน(เหมือนฉัน-_-^) แต่มันก็เป็นที่พึ่งยามยากได้ดีทีเดียว ไม่เสียแรงที่มียัยนี้เป็นเพื่อน ^O^
"คุณหนูค่ะทานข้าวเย็นค่ะ"พี่จิงหลิงหลิงเข้ามาเรียกฉันให้ออกไปกินข้าวเย็น ทำให้ฉันเดินออกไปนอกห้องด้วยสีหน้าที่ดีขึ้นไม่น้อย แต่ก็ต้องตกใจที่ในโต๊ะอาหารมีนายชีวินที่นั่งหน้านิ่งคิ้วขมวดอยู่ ยังไม่ทันที่ฉันจะอารมณ์ดีเต็มร้อยเลย ทำไมต้องตามจองเวรกันด้วยฟร่ะเนี้ย-*-
ฉันเดินไปนั่งข้างๆนายชีวิน เพราะมันเหลืออยู่ที่เดียว-_-* ระหว่างกินข้าวฉันไม่พูดอะไรเลย มีแต่พ่อกับแม่ที่ชวนนายชีวินคุย ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าการกลืนข้าวแต่ละคำมันช่างยากเย็น ทำให้ฉันต้องดื่มน้ำบ่อยๆ ทำไมมันถึงได้อึดอัดอย่างนี้นะ พ่อกับแม่ก็ ชอบทำให้ลูกสาวอึดอัดอยู่เรื่อยเลย-3-(โทษพ่อแม่ซะงั้น)
"สวีทจ๊ะ ลูกเป็นอะไรรึเปล่า ทำไมไม่ค่อยพูดเลย"แม่ที่สังเกตอาการของฉันอยู่นานก็พูดขึ้น
"เปล่าค่ะแม่"
"เค้าคงไม่อยากให้ผมมาร่วมโต๊ะอาหารกับเค้าหล่ะมั้งครับ ถ้าเป็นคนอื่นก็ว่าไปอย่าง"ประโยคหลังที่ทำให้ฉันมองคนพูดด้วยอาการงงๆ นายชีวินคิดอะไรของเค้าฟ่ะเนี้ย ตามไม่ทัน-*-
"จริงหรอจ๊ะ"แม่ยังจะถามอีกหรอเนี้ย-O- หนูยิ่งไม่สบายใจอยู่อย่าเพิ่งคาดคั้นกันได้มิเคอะT^T
"เอ่อ...หนูอิ่มแล้วขอตัวนะค่ะ"เมื่อไม่รู้จะตอบอะไร ฉันก็เดินออกจากโต๊ะอาหารซะเฉยๆ ทำให้คนที่นั่งอยู่ทุกคนหันมองไปตามๆกัน ทำไมกันนะ ทำไมฉันถึงพูดไม่ออกหล่ะ เดี๋ยวนี้ฉันเป็นอะไรไป หรือแค่ไม่อยากเจอใครก็เท่านั้น เดินไปเรื่อยๆฉันก็มาหยุดอยู่ตรงสระน้ำของบ้านตัวเอง ตอนนี้ก็ค่ำแล้ว แสงพระจันทร์สะท้อนกับน้ำ ฉันก้มลงมองดูตัวเองที่ตอนนี้น้ำตามันผุดมาจากไหนก็ไม่รู้ น้ำตามันค่อยๆไหลไปเรื่อยๆ และหยดลงไปในสระ ทำไมต้องร้องไห้ ร้องทำไมกันสวีท ฉันเป็นอะไรไปแล้ว สวีทคนเก่าอยู่ไหน คนที่เข้มแข็งไปไหนแล้ว ทำไมเหลือแต่ผู้หญิงที่ร้องไห้ไม่หยุดกับเรื่องบ้าๆแบบนี้
"เป็นอะไรรึเปล่า"เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลังฉัน
"เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร"ฉันพูดขณะหันหลังให้คนๆนั้น แล้วก็ปาดน้ำตา จากนั้นก็หันไปประจันหน้ากับผู้ชายที่เป็นสาเหตุทำให้ฉันร้องไห้อยู่ตอนนี้
"แล้วทำไมต้องร้องไห้ด้วย"
"ฉันไม่ได้ร้องซะหน่อย นายอย่ามามั่ว"ฉันพยายามฝืนยิ้มทั้งๆที่หัวใจเหมือนถูกบีบ
"ทำไมจะไม่ได้ร้อง เธอตาแดงจมูกแดงขนาดนี้ แถมมีคราบน้ำตาอีก"
"ก็บอกว่าไม่ได้ร้องไงเล่า"
"เธอเป็นอะไรทำไมไม่บอกฉัน เพราะเรื่องที่ฉันแข่งกับเมย์เดย์ใช่มั้ย"เค้าเอามือทั้งสองคนมาจับตรงหัวไหล่ของฉัน ทำให้เราสองคนสบตากัน
"ปะ...เปล่านะ ไม่เกี่ยวหรอก"
"แต่ตาเธอมันฟ้อง"
"ฉันบอกว่าไม่เกี่ยวไง ทำไมนายต้องมาคาดคั้นจากฉันด้วยหล่ะ"
"ถ้าเธอเป็นอะไรแล้วไม่บอก ฉันจะช่วยเธอได้ยังไงหล่ะ"
"ก็ไม่ต้องช่วยไง"
"แต่ฉันเป็นห่วงเธอนะ"เค้าทำสายตาอ่อนโยน มันทำให้ฉันยิ่งกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ แล้วสุดท้ายมันก็ไหลออกมา
เค้าไม่พูดอะไรต่อ แต่ดึงฉันเข้าไปกอด แรงกอดเค้าแน่นมาก มันทำให้เราได้ยินเสียงเต้นของหัวใจของกันและกัน เสียงหัวใจของเค้าเต้นอย่างสม่ำเสมอ มันทำให้ฉันสงบลงได้
"ทุกคนเป็นห่วงเธอนะ ถ้าเธอเป็นแบบนี้ ใครๆเค้าก็กินข้าวไม่ลงแล้วแหละ"เค้าพูดขึ้นหลังจากที่เงียบไปนาน
"อื้ม ถ้างั้นปล่อยฉันเถอะ ฉันจะขึ้นไปอาบน้ำนอนแล้ว ฉันง่วง"
เค้าผละออกจากฉัน แล้วก็เดินจากไป ส่วนตัวฉันก็เดินขึ้นห้องนอน แล้วก็อาบน้ำ นอน เผื่อมันจะทำให้ฉันลืมเรื่องเศร้าๆพวกนี้ไปได้บ้าง
เช้าวันรุ่งขึ้น
หลังจากที่ทั้งคืนฉันร้องไห้จนซะใจแล้ว ก็ลุกขึ้นมาด้วยไปหน้าอิดโรยสุด มองดูตัวเองแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ นี้ฉันเป็นบ้าอะไรกันแน่นะ ถึงได้ร้องไห้แบบนี้ ไม่ได้แล้ว ต้องไปทำอะไรแก้เครียดซะหน่อย เดี๋ยววันนี้ไปช็อปปิ้งแล้วกัน ช่วยยัยเพื่อนตัวดีใจหลุมหลบภัยไปด้วยดีกว่า
คิดได้ดังนั้นฉันก็ไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วก็โทรไปหายัยเพื่อนทั้งสองคนให้ไปเจอกันที่ห้างกลางใจเมืองทันที
ณ ห้างกลางใจเมือง(เค้าบอกว่าอย่างงั้น)
"ทำไมแกช้าจังหล่ะ เป็นคนนัดแท้ๆ"อควาบ่นอุบเมื่อเห็นหน้าฉันที่วิ่งหน้าตั้งมา เพราะสายไปตั้งหลายนาทีแล้ว
"ก็รถมันติดอะแก เห็นใจกันหน่อย"
"เออๆ งั้นพร้อมจะช็อปปิ้งกันรึยังหล่ะจ๊ะทั้งสองคน^^"มิกิหันมาพูดแล้วก็ยิ้ม ส่วนฉันกับอควาก็พยักหน้าเป็นการตกลง
พวกเราทั้งซื้อของ ถ่ายรูป เล่นเกมส์ ทำอะไรให้มันรีแลกซ์ที่สุด คงเป็นเพราะสองคนนั้นรู้ด้วยแหละมั้งว่าฉันกำลังลำบากใจ เห้อ..มีเพื่อนดีเป็นศรีแก่ตัวจริงด้วยนะเนี้ย โฮะๆ^O^
"อารมณ์ดีแล้วหรอยัยสวีท นึกว่าแกจะหน้าอมทุกข์ซะอีก"ยัยอควาทักเมื่อเห็นฉันหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส
"โห่แก จะให้ฉันนั่งหน้าเครียดอยู่ได้ไง เดี๋ยวหน้าแก่เร็วอ่ะ ไม่เอา"
"เออย่ะ แม่คนรักสวยรักงาม"มิกิหันมาหยิกแก้มฉัน โอ๊ยเจ็บนะไอ้เพื่อนบ้า แรงแกยิ่งกว่าช้างสารซะอีก หยิกมาได้TOT
"แล้วแกจะเอาไงต่อหล่ะ เรื่องของสองคนนั้น"อควาทำหน้าจริงจังทันทีเมื่อพูดถึงเรื่องนี้
"แล้วพวกแกว่าไงหล่ะ"ฉันไม่รู้จะพูดอะไรก็เลยได้แต่ถามเพื่อน
"ฉันก็บอกไปแล้วว่าให้แกเป็นสวีทคนเดิมแบบนี้แหละ"
"แล้วจะต้องเป็นอีกถึงเมื่อไหร่หล่ะ ฉันอึดอัดจะตาย ตอนนี้นะ เห็นสองคนนั้นแล้วอยากเดินหนี ไม่รู้เป็นอะไร แถมร้องไห้บ่อยด้วยอ่ะ หน้างี้ยิ่งกว่าแพนด้าอายุล้านปีซะอีกอ่ะ"
"แกน่าจะดีใจนะย่ะ มีผู้ชายหล่ออย่างกับเทพบุตรตั้งสองคนมาจีบ"
"ดีใจกะผีอ่าดิ แกลองมาเป็นฉันแล้วจะรู้เอง"
"ยังไงฉันก็จะเป็นกำลังใจให้แกนะย่ะไอ้เพื่อนบ้า"
"ฉันด้วย"
ซึ้งค่ะ ซึ้งจริงๆ ยัยเพื่อนสองตัวนี้ก็ให้กำลังใจฉันเป็นด้วย-O- แต่ก็ดี ตอนนี้ฉันต้องการกำลังใจเป็นที่สุด เพราะฉันต้องสืบคดี แถมต้องเป็นกรรมการให้ตาสองคนนั้นอีก แค่นี้ก็เครียดจนตะคริวขึ้นสมองแล้ว-_-^
(ฮัลโหลสวีทมีอะไรหรอจ๊ะ)
"คือว่าแก ฉันไม่รู้จะเลือกยังไงดีอ่ะ ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอ แล้วก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาตำหัวใจเต็มไปหมดเลยอ่ะ ฉันจะทำยังไงดีบอกฉันหน่อยสิแก"
(ร่ายเป็นชุดเลยนะย่ะ ฉันว่าแกก็ทำตัวตามปกตินั่นแหละ ทำเหมือนสวีทคนเดิม แกรู้มั้ยหล่ะว่าทำแบบนี้แล้วจะได้เห็นอะไรดีๆแน่นอน)
"อะไรที่ว่าดีๆหล่ะ"
(เออน่า ฉันว่าแกดูไปก่อนเหอะ อย่างฉันอ่ะมันเจ้าแม่แล้ว ก็เลยรู้ เข้าใจ๊)
"ดีแต่ดูคนอื่นอ่ะดิ ยัยเจ้าแม่น้ำตาย้อย"
(เอ๊ะ ไอ้เพื่อนคนนี้ ฉันอุตส่าห์ช่วยแกนะเนี้ย เอาเหอะฉันรู้ว่าแกกำลังทุกข์ มีอะไรอยากระบายมั้ย)
"มีสิ มีเยอะด้วย"
ฉันคุยกับมิกินานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่ามันทำให้ฉันสบายใจมากขึ้น ถึงแม้ว่ายัยมิกิจะติ๊งต๊องปัญญาอ่อน(เหมือนฉัน-_-^) แต่มันก็เป็นที่พึ่งยามยากได้ดีทีเดียว ไม่เสียแรงที่มียัยนี้เป็นเพื่อน ^O^
"คุณหนูค่ะทานข้าวเย็นค่ะ"พี่จิงหลิงหลิงเข้ามาเรียกฉันให้ออกไปกินข้าวเย็น ทำให้ฉันเดินออกไปนอกห้องด้วยสีหน้าที่ดีขึ้นไม่น้อย แต่ก็ต้องตกใจที่ในโต๊ะอาหารมีนายชีวินที่นั่งหน้านิ่งคิ้วขมวดอยู่ ยังไม่ทันที่ฉันจะอารมณ์ดีเต็มร้อยเลย ทำไมต้องตามจองเวรกันด้วยฟร่ะเนี้ย-*-
ฉันเดินไปนั่งข้างๆนายชีวิน เพราะมันเหลืออยู่ที่เดียว-_-* ระหว่างกินข้าวฉันไม่พูดอะไรเลย มีแต่พ่อกับแม่ที่ชวนนายชีวินคุย ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าการกลืนข้าวแต่ละคำมันช่างยากเย็น ทำให้ฉันต้องดื่มน้ำบ่อยๆ ทำไมมันถึงได้อึดอัดอย่างนี้นะ พ่อกับแม่ก็ ชอบทำให้ลูกสาวอึดอัดอยู่เรื่อยเลย-3-(โทษพ่อแม่ซะงั้น)
"สวีทจ๊ะ ลูกเป็นอะไรรึเปล่า ทำไมไม่ค่อยพูดเลย"แม่ที่สังเกตอาการของฉันอยู่นานก็พูดขึ้น
"เปล่าค่ะแม่"
"เค้าคงไม่อยากให้ผมมาร่วมโต๊ะอาหารกับเค้าหล่ะมั้งครับ ถ้าเป็นคนอื่นก็ว่าไปอย่าง"ประโยคหลังที่ทำให้ฉันมองคนพูดด้วยอาการงงๆ นายชีวินคิดอะไรของเค้าฟ่ะเนี้ย ตามไม่ทัน-*-
"จริงหรอจ๊ะ"แม่ยังจะถามอีกหรอเนี้ย-O- หนูยิ่งไม่สบายใจอยู่อย่าเพิ่งคาดคั้นกันได้มิเคอะT^T
"เอ่อ...หนูอิ่มแล้วขอตัวนะค่ะ"เมื่อไม่รู้จะตอบอะไร ฉันก็เดินออกจากโต๊ะอาหารซะเฉยๆ ทำให้คนที่นั่งอยู่ทุกคนหันมองไปตามๆกัน ทำไมกันนะ ทำไมฉันถึงพูดไม่ออกหล่ะ เดี๋ยวนี้ฉันเป็นอะไรไป หรือแค่ไม่อยากเจอใครก็เท่านั้น เดินไปเรื่อยๆฉันก็มาหยุดอยู่ตรงสระน้ำของบ้านตัวเอง ตอนนี้ก็ค่ำแล้ว แสงพระจันทร์สะท้อนกับน้ำ ฉันก้มลงมองดูตัวเองที่ตอนนี้น้ำตามันผุดมาจากไหนก็ไม่รู้ น้ำตามันค่อยๆไหลไปเรื่อยๆ และหยดลงไปในสระ ทำไมต้องร้องไห้ ร้องทำไมกันสวีท ฉันเป็นอะไรไปแล้ว สวีทคนเก่าอยู่ไหน คนที่เข้มแข็งไปไหนแล้ว ทำไมเหลือแต่ผู้หญิงที่ร้องไห้ไม่หยุดกับเรื่องบ้าๆแบบนี้
"เป็นอะไรรึเปล่า"เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลังฉัน
"เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร"ฉันพูดขณะหันหลังให้คนๆนั้น แล้วก็ปาดน้ำตา จากนั้นก็หันไปประจันหน้ากับผู้ชายที่เป็นสาเหตุทำให้ฉันร้องไห้อยู่ตอนนี้
"แล้วทำไมต้องร้องไห้ด้วย"
"ฉันไม่ได้ร้องซะหน่อย นายอย่ามามั่ว"ฉันพยายามฝืนยิ้มทั้งๆที่หัวใจเหมือนถูกบีบ
"ทำไมจะไม่ได้ร้อง เธอตาแดงจมูกแดงขนาดนี้ แถมมีคราบน้ำตาอีก"
"ก็บอกว่าไม่ได้ร้องไงเล่า"
"เธอเป็นอะไรทำไมไม่บอกฉัน เพราะเรื่องที่ฉันแข่งกับเมย์เดย์ใช่มั้ย"เค้าเอามือทั้งสองคนมาจับตรงหัวไหล่ของฉัน ทำให้เราสองคนสบตากัน
"ปะ...เปล่านะ ไม่เกี่ยวหรอก"
"แต่ตาเธอมันฟ้อง"
"ฉันบอกว่าไม่เกี่ยวไง ทำไมนายต้องมาคาดคั้นจากฉันด้วยหล่ะ"
"ถ้าเธอเป็นอะไรแล้วไม่บอก ฉันจะช่วยเธอได้ยังไงหล่ะ"
"ก็ไม่ต้องช่วยไง"
"แต่ฉันเป็นห่วงเธอนะ"เค้าทำสายตาอ่อนโยน มันทำให้ฉันยิ่งกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ แล้วสุดท้ายมันก็ไหลออกมา
เค้าไม่พูดอะไรต่อ แต่ดึงฉันเข้าไปกอด แรงกอดเค้าแน่นมาก มันทำให้เราได้ยินเสียงเต้นของหัวใจของกันและกัน เสียงหัวใจของเค้าเต้นอย่างสม่ำเสมอ มันทำให้ฉันสงบลงได้
"ทุกคนเป็นห่วงเธอนะ ถ้าเธอเป็นแบบนี้ ใครๆเค้าก็กินข้าวไม่ลงแล้วแหละ"เค้าพูดขึ้นหลังจากที่เงียบไปนาน
"อื้ม ถ้างั้นปล่อยฉันเถอะ ฉันจะขึ้นไปอาบน้ำนอนแล้ว ฉันง่วง"
เค้าผละออกจากฉัน แล้วก็เดินจากไป ส่วนตัวฉันก็เดินขึ้นห้องนอน แล้วก็อาบน้ำ นอน เผื่อมันจะทำให้ฉันลืมเรื่องเศร้าๆพวกนี้ไปได้บ้าง
เช้าวันรุ่งขึ้น
หลังจากที่ทั้งคืนฉันร้องไห้จนซะใจแล้ว ก็ลุกขึ้นมาด้วยไปหน้าอิดโรยสุด มองดูตัวเองแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ นี้ฉันเป็นบ้าอะไรกันแน่นะ ถึงได้ร้องไห้แบบนี้ ไม่ได้แล้ว ต้องไปทำอะไรแก้เครียดซะหน่อย เดี๋ยววันนี้ไปช็อปปิ้งแล้วกัน ช่วยยัยเพื่อนตัวดีใจหลุมหลบภัยไปด้วยดีกว่า
คิดได้ดังนั้นฉันก็ไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วก็โทรไปหายัยเพื่อนทั้งสองคนให้ไปเจอกันที่ห้างกลางใจเมืองทันที
ณ ห้างกลางใจเมือง(เค้าบอกว่าอย่างงั้น)
"ทำไมแกช้าจังหล่ะ เป็นคนนัดแท้ๆ"อควาบ่นอุบเมื่อเห็นหน้าฉันที่วิ่งหน้าตั้งมา เพราะสายไปตั้งหลายนาทีแล้ว
"ก็รถมันติดอะแก เห็นใจกันหน่อย"
"เออๆ งั้นพร้อมจะช็อปปิ้งกันรึยังหล่ะจ๊ะทั้งสองคน^^"มิกิหันมาพูดแล้วก็ยิ้ม ส่วนฉันกับอควาก็พยักหน้าเป็นการตกลง
พวกเราทั้งซื้อของ ถ่ายรูป เล่นเกมส์ ทำอะไรให้มันรีแลกซ์ที่สุด คงเป็นเพราะสองคนนั้นรู้ด้วยแหละมั้งว่าฉันกำลังลำบากใจ เห้อ..มีเพื่อนดีเป็นศรีแก่ตัวจริงด้วยนะเนี้ย โฮะๆ^O^
"อารมณ์ดีแล้วหรอยัยสวีท นึกว่าแกจะหน้าอมทุกข์ซะอีก"ยัยอควาทักเมื่อเห็นฉันหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส
"โห่แก จะให้ฉันนั่งหน้าเครียดอยู่ได้ไง เดี๋ยวหน้าแก่เร็วอ่ะ ไม่เอา"
"เออย่ะ แม่คนรักสวยรักงาม"มิกิหันมาหยิกแก้มฉัน โอ๊ยเจ็บนะไอ้เพื่อนบ้า แรงแกยิ่งกว่าช้างสารซะอีก หยิกมาได้TOT
"แล้วแกจะเอาไงต่อหล่ะ เรื่องของสองคนนั้น"อควาทำหน้าจริงจังทันทีเมื่อพูดถึงเรื่องนี้
"แล้วพวกแกว่าไงหล่ะ"ฉันไม่รู้จะพูดอะไรก็เลยได้แต่ถามเพื่อน
"ฉันก็บอกไปแล้วว่าให้แกเป็นสวีทคนเดิมแบบนี้แหละ"
"แล้วจะต้องเป็นอีกถึงเมื่อไหร่หล่ะ ฉันอึดอัดจะตาย ตอนนี้นะ เห็นสองคนนั้นแล้วอยากเดินหนี ไม่รู้เป็นอะไร แถมร้องไห้บ่อยด้วยอ่ะ หน้างี้ยิ่งกว่าแพนด้าอายุล้านปีซะอีกอ่ะ"
"แกน่าจะดีใจนะย่ะ มีผู้ชายหล่ออย่างกับเทพบุตรตั้งสองคนมาจีบ"
"ดีใจกะผีอ่าดิ แกลองมาเป็นฉันแล้วจะรู้เอง"
"ยังไงฉันก็จะเป็นกำลังใจให้แกนะย่ะไอ้เพื่อนบ้า"
"ฉันด้วย"
ซึ้งค่ะ ซึ้งจริงๆ ยัยเพื่อนสองตัวนี้ก็ให้กำลังใจฉันเป็นด้วย-O- แต่ก็ดี ตอนนี้ฉันต้องการกำลังใจเป็นที่สุด เพราะฉันต้องสืบคดี แถมต้องเป็นกรรมการให้ตาสองคนนั้นอีก แค่นี้ก็เครียดจนตะคริวขึ้นสมองแล้ว-_-^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น