ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Seven days ขอแค่ฉันมีเธอ

    ลำดับตอนที่ #5 : เรือนไทยแสนงาม ชะเอิ้งเอย (-*-)

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ค. 52


                    วันที่ 1 เวลา 14.10 น.

                    ผ่านไป 45 นาทีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเตจินจะกลับมาเลย ไม่รู้ว่าไปไหนของเค้า ตอนนี้น้ำผึ้งก็หลับคาตักฉันไปแล้ว ฉันเลยโล่งอกไปหนึ่งเปราะ เพราะถ้าตื่นมาแล้วก็คงจะลืมเรื่องที่คุยกันเมื่อกี้นี้ไปหมด เห้อ....-3- ว่าแต่ว่า ฉันจะต้องรออีกนานแค่ไหนกันเนี้ย หรือว่า!!! ตานั่นจะหนีไป แล้วทิ้งพวกเราไว้ที่นี้ เออ....แต่คงไม่หรอกมั้ง ตานั่นจะเลวได้อีกขนาดนั้นเชียวหรอ โอ๊ย...ขี้เกียจคิด นอนบ้างดีกว่า เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว คร่อกกกกก.....ฟี้.......

                    และแล้วนางเอกของเราก็หลับไป เป็นจังหวะเดียวกับที่เตจินกลับมาจากการเดินสำรวจรอบๆ และเขาก็กำลังจะนำข่าวดีมาบอก แต่เมื่อเห็นทั้งไออิและน้ำผึ้งหลับไป เขาก็ทำได้แต่นั่งมองทั้งสองคนหลับอยู่อย่างงั้น เขาลอบยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว อาจจะเป็นเพราะว่าตั้งแต่เขาได้เจอกับไออิ อะไรๆ ที่เขาตั้งใจจะทำก็มีอันต้องล่มเลิกไป แต่เขากลับไม่รู้สึกโกรธเคืองแต่อย่างใด แถมยังเห็นดีเห็นงามกับเธอเสียทุกเรื่องซะด้วย ท่าทางทะเล้นๆ ของเธอ ทำให้เขาลืมเรื่องเจ็บปวดบางเรื่องได้หมดสิ้น ไม่แน่นะ เธอคนนี้อาจจะเป็นผู้หญิงที่ทำให้เขาได้รู้จักกับรักอันแท้จริงก็เป็นได้

                    จ่อก จ่อก จ่อก~

                    นั่งคิดอยู่เพลินๆ ท้องก็ร้องออกมาเพราะความหิว ความจริงแล้วตั้งแต่เช้าเขายังไม่ได้กินอะไรเลยด้วยซ้ำ ชายหนุ่มลูบท้องตัวเองเบาๆ แล้วก็หยิบขนมจากกระเป๋าที่เขายึดมาจากไออิออกมากิน พลางมองหน้าของไออิไปด้วย

                    “เธอนี้มันจอมเพื้ยนจริงๆ เลยนะ ไม่รู้ว่าฉันตกหลุมพรางของเธอมาได้ยังไง หึหึ” เขาพูด

                    “งืมๆ ฮาโหล เพื่อนยากกกกกก ซาหวัน มันช่างสวยงามเจงๆ เน้ฉานตายแล้วหรอออออออออ” เสียงของหญิงสาวที่นอนอยู่ตรงหน้าทำให้เตจินถึงกับสะดุ้ง “ดีเจงๆ ฉานจะด้ายม่ายต้องเจอกาบนายเตจินจอมขี้ตืดอีก ฮ่าๆๆๆๆ” หึ...ขนาดในฝันเธอยังจะว่าฉันอีกหรอไออิ ชายหนุ่มคิด และอีกไม่กี่นาทีต่อมา ชายหนุ่มก็ทิ้งร่างของตัวเองบนพื้นหญ้านอนหลับตามไปอีกคน....  สรุปแล้ว พวกนี้ทิ้งให้คนเขียนอยู่คนเดียวหรอเนี่ย ไม่เอาน๊า...หนูกลัว >O< (- -*)

                   

                    วันที่ 1 เวลา 16.13 น.

                    “ฮ้าวววววว....-O-// ” ฉันหาวปากกว้าง แต่ก็ต้องหุบปากทันทีเมื่อเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนตักของฉันไม่ใช่น้ำผึ้งแต่เป็นตาเตจิน ส่วนน้ำผึ้งกลิ้งไปติดต้นไม้ที่อยู่ใกล้ๆ เรียบร้อยแล้ว -_-^ มันเกิดบ้าอะไรกันขึ้นเนี้ย อีตาเตจินเป็นพ่อภาษาอะไรทำไมมาแย่งที่นอนลูกอย่างงี้ แถมยังเป็นที่ตักฉันอีก อีตาบ้า >///<

                    ฉันค่อยๆ ขยับหัวของเตจินให้ออกไปจากตักฉันเพื่อที่จะได้ไม่ทำให้เตจินตื่น

                    “เอ๊ะ!! ทำไมฉันต้องกลัวตาเตจินตื่นด้วยหล่ะ” เมื่อพูดจบฉันก็ทิ้งหัวนายเตจินลง ทำให้เจ้าตัวถึงกับสะดุ้งตื่นและร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด

                    “โอ๊ย!! เธอทำบ้าอะไรเนี่ย คนจะหลับจะนอนก็มาปลุก แถมยังทำให้หัวฉันระบมอีก เธอนี่มันจริงๆ เลยนะ” ด่าเป็นชุดเลยนะตาบ้า -*-

                    “แล้วนายทำไมปล่อยให้น้ำผึ้งไปนอนอยู่ตรงนั้นเล่า แย่งที่นอนของเด็กชัดๆ เลย ตัวโตซะเปล่า”

                    “อ้าว ก็ตอนแรกฉันนอนข้างๆ น้ำผึ้งนี้นา แล้วทำไมน้ำผึ้งไปนอนตรงนั้นได้หล่ะ” เตจินทำตาใสเหมือนเด็กไร้เดียงสาสุดๆ ดูๆ ไปแล้วมันก็น่ารักดีนะ แต่จะใช้ไม้นี้เพื่อจะบอกว่าตัวเองไม่ได้แย่งที่นอนของน้ำผึ้งไม่ได้หรอก หึหึ

                    “อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องหน่อยเลย แย่งที่นอนเด็กแล้วยังทำมาเป็นไม่รู้เรื่องอีก โกหกมันบาปนะย่ะ”

                    “อะไรอ่ะ ไม่ได้โกหกซะหน่อย -3-“ เตจินยังคงยืนกรานว่าไม่ได้โกหก แต่ฉันก็คงไม่สนใจแล้วหล่ะ เพราะตอนนี้ต้องรีบไปดูน้ำผึ้งก่อนว่าโดนตัวอะไรกัดรึเปล่า “โห่เอ๊ย ไม่ฟังกันบ้างเลย นิสัย -3- ” เตจินยังคงบ่นไม่เลิก

                    “น้ำผึ้ง น้ำผึ้ง ตื่นได้แล้วนะจ๊ะ เราต้องเดินทางกันต่อแล้ว” ฉันเขย่าตัวน้ำผึ้งเบาๆ

                    เด็กหญิงที่ตอนนี้นอนอยู่ตรงหน้าฉันค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้น และกระพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับสายตา จากนั้นก็ค่อยๆ ยันตัวเองให้ลุกขึ้น พลางมองฉันอย่างสงสัย

                    “น้ำผึ้งมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงค่ะ” น้ำผึ้งว่า

                    “สงสัยต้องถามคุณพ่อน่ะค่ะ” ฉันเหลือบมองเตจินอย่างเคืองๆ

                    “โห่...ไม่เชื่อกันเลยอ่ะ บอกแล้วว่าไม่ได้แย่งก็ไม่ได้แย่งสิ -3-“ เตจินบ่นอุบอย่างไม่พอใจ แล้วก็ค่อยๆ ยันตัวเองให้ยืนขึ้น “รีบๆ ได้แล้วยัยป้า ถ้าเธอยังไม่ลุกฉันจะทิ้งเอาไว้นี้แหละ”

                    “ย่ะๆ รีบก็ได้ เชอะ!!” ฉันจึงต้องรีบลุกจากพื้นหญ้าอันแสนนุ่มด้วยประการฉะนี้

                    จากนั้นฉันก็รีบเก็บของและเดินตามเตจินไปทันที ตานั่นก็ไม่มีทีท่าว่าจะรอกันสักนิด -*- ฉันก็เลยต้องจ้ำอ้าวอย่างสุดชีวิตเพื่อที่จะตามให้ทัน มองดูแล้วคล้ายๆ อีบ้าหอบฟางอ่ะ เคยเห็นมั้ยค่ะ ถ้าไม่เคยก็อย่าให้บรรยายเลยดีกว่า เพราะมันจะทำให้ฉันรู้สึกอนาถจิตไปมากกว่านี้ T^T

                    เดินไปได้สักพักฉันก็เห็นบ้านไม้หลังใหญ่มากๆ แบบว่ามากๆ เลยอ่ะค่ะ คือมันใหญ่อ่ะ ใหญ่จริงๆ (จ๊ะๆ รู้แล้วว่าใหญ่ -*- ) ถ้าท่านผู้อ่านเคยดูนางทาสก็จะประมาณนั้นเลยอ่ะค่ะ และมันก็สวยมากเลยด้วย แต่ที่แปลกก็คือ ทำไมมันมาปลูกแถวนี้ฟ่ะ -*- กลางป่ากลางเขาอย่างนี้เนี้ยนะ หรือว่า!! จะเป็นบ้านผีสิง บรื๋อ...น่ากลัวจังอ่ะ O_O (วิตกจริตเช่นเคย -_-^)

                    “นี้ เดินเร็วๆ หน่อยไม่ได้หรือไง” เตจินหันหลังมาตะโกนบอกฉัน

                    “รู้แล้วน่า” ฉันตะโกนบอก และรีบวิ่งไปด้วยความไวที่มีอยู่ จนมาหยุดอยู่หน้าบ้านไม้หลังนั้น

                    “วันนี้เราคงได้พักที่บ้านหลังนี้นี่แหละนะ” เตจินกอดอกชื่นชมบ้านไม้อย่างพออกพอใจ ส่วนตัวของฉันเองกลับขาสั่นพั่บๆ ไม้กล้าแม้แต่จะมองบ้านหลังนี้ด้วยซ้ำ ><

                    “พวกเธอเป็นใครกัน!!” เย้ย!! จู่ๆ ก็มีเสียงคนตะโกนออกมาจากข้างในบ้าน ระ...หรือว่า จะเป็น ผะ...ผีO.O

                    “นะ..นายเตจิน มะ...มั่นใจหรอว่าจะพักที่นี้อ่ะ ยะ...อย่าดีกว่านะ ฉันขอร้อง” ฉันเข้าไปกอดแขนเตจินไว้แน่นอย่างลืมตัว

                    “เธอจะบ้ารึไง นี่มันกลางวันแสกๆ นะ ผีที่ไหนจะมาหลอกเล่า ปล่อยแขนฉันได้แล้ว” ฉันรีบเอามือออกจากแขนของเตจินทันทีที่เตจินพูดจบ พลางยิ้มแหยๆ ให้

                    “ขอโทษที ก็คนมันกลัวนี้นา ว่าแต่น้ำผึ้งไม่กลัวบ้างหรอจ๊ะ” ฉันรีบเปลี่ยนประเด็นหันไปหาน้ำผึ้งที่ยืนอยู่ข้างๆ

                    “ไม่กลัวหรอกค่ะคุณแม่ บ้านหลังนี้น่าอยู่จะตาย” น้ำผึ้งยิ้มหวานให้ฉัน

                    “เห็นมะ ขนาดเด็กยังไม่กลัวเลย ป้าแอ๊บแบ๊วอย่างเธอน่าจะอายบ้างนะ” เตจินเหน็บฉัน แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะอ้าปากด่ากลับ คุณยายท่าทางใจดีก็เดินลงมาจากบนบ้านซะก่อน

                    “พวกเธอเป็นใครกัน มาทำเสียงเอะอะตั้งนาน ถามก็ไม่ยอมตอบ” คุณยายดุทันทีเมื่อเห็นพวกเรายืนอยู่หน้าบ้าน

                    “ขอโทษด้วยครับ เผอิญว่าพวกเราอยากจะมาขอค้างคืนที่นี้ได้มั้ยครับ” เตจินส่งสายตาอ้อนวอนให้กับคุณยาย อีตาบ้า คนแก่ก็ไม่เว้นเนอะ -O-

                    “ถ้าพูดอย่างนี้เสียตั้งแต่แรก ยายคงไม่ดุพวกเธอหรอก เอ๊า ขึ้นมาบนบ้านซะก่อนสิ” คุณยายกวักมือเรียกพวกเราให้ขึ้นไปข้างบน แต่ตัวฉันกลับยืนทื่อไม่กล้าแม้แต่จะก้าวขาเดิน ก็คนมันกลัวนี้นา ถ้าเกิดว่ายายคนนี้เป็นผีมาหลอกพวกเราขึ้นมา ฉันก็แย่อ่าดิ - -;;

                    “มัวแต่ยืนแอ๊บแบ๊วอยู่ได้ รีบขึ้นมาเร็ว ถ้าเกิดตัวอะไรมันเข้ามาทำร้ายเธอฉันจะไม่ช่วยเลยนะ” เตจินยังเหน็บไม่เลิก -*- จะให้ขึ้นก็บอกกันดีๆ ดิ ทำไมต้องหาว่าฉันยืนแอ๊บแบ๊วอยู่ได้ด้วย ชิ!!

                    เอาไงดี จะให้สัตว์ป่ามาขย้ำหัวเล่นมันก็ดูจะจบไม่สวยงามเท่าไหร่นัก หรือจะโดนผีหลอกจนช็อคตายมันก็ดูจะกะทันหันไปสักนิด แต่....ขึ้นไปอยู่ข้างบนอย่างน้อยก็ยังได้ตายหมู่แหละเนอะ -3- เมื่อคิดได้ดังนั้นฉันก็รีบขนของขึ้นบันไดเดินตามคุณยายไปทันที

                    ภายในตัวบ้านทำด้วยไม้ทั้งหลัง เรือนไทยสมัยก่อนนี้ก็สวยดีเหมือนกันนะ แถมยังประดับประดาไปด้วยรูปภาพสวยๆ ตามผนังอีกต่างหาก พื้นก็สะอาดสะอ้านน่าจูบ(เกินไปมั้ง -*- ) แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะชื่นชมจนสมใจก็ได้ยินเสียงลอยตามลมมากระทบที่หู

                    “แอ๊บอีกและ จะแอ๊บอีกนานมั้ย รีบๆ ขนของตามคุณยายไปเก็บในห้องสิ อู้หรอเนี้ย เดี๋ยวตัดเงินเดือนซะเลย” อีตาบ้าเตจิน ได้ทีขี้ช้างไล่เลยนะย่ะ (ได้ข่าวว่าแพะนะไม่ใช่ช้าง - -;; )

                    “ค่ะ เจ้านาย ชิ!!” ฉันสะบัดหน้าหนี แล้วก็เดินกระทืบเท้าตามคุณยายไปที่ห้องที่คุณยายเค้าจัดไว้ให้ทันที

                    “เราสองคนเป็นแฟนกันหรอ” เมื่อเข้ามาในห้องคุณยายก็ถามฉันขึ้น

                    “อ๋อ เอ่อ...ค่ะ” ฉันตอบตะกุกตะกัก แล้วก็วางกระเป๋าลง

                    “เป็นคู่ที่น่ารักดีนะจ๊ะ แล้วเด็กคนนั้นเป็นน้องหรือลูกของพวกเธอหล่ะ” คุณยายยังคงยิงคำถามใส่ฉัน

                    “ก็...ลูกบุญธรรมน่ะค่ะ แฮะๆ” ฉันยิ้มแห้งๆ ให้คุณยาย แล้วก็รีบเดินออกนอกห้องเพื่อตัดบทสนทนาทันที เห้อ...เกือบไปแล้วมั้ยหล่ะ -O-

                    ฉันเดินไปนั่งรวมกับเตจินและน้ำผึ้งที่กำลังคุยอะไรกันอยู่ก็ไม่รู้ หรือว่า!!! O_O จะเป็นเรื่องที่ฉันบอกว่ารักเตจิน ว้าย...ตายแล้ว ต้องรีบไปขัดด่วน >O<

                    “คุยอะไรกันอยู่เอ่ย” ฉันยื่นหน้าเข้าไปตรงกลางระหว่างน้ำผึ้งกับเตจิน

                    “ก็เรื่อยเปื่อยอ่ะ” เตจินตอบฉัน “เหนื่อยมั้ยหล่ะ”

                    “ก็นิดหน่อย -///-“ ทำไมฉันต้องเขินด้วยเนี้ย ><

                    “คุณแม่หน้าแดงอีกแล้ว แสดงว่าเหนื่อยมากๆ แน่ๆ เลยใช่มั้ยค่ะ” น้ำผึ้งถาม ทำให้ฉันยิ่งหน้าแดงหนักกว่าเดิมอีก

    “อ๋อ เอ่อ คงประมาณนั้นแหละจ๊ะ งั้นเดี๋ยวแม่ไปช่วยงานคุณยายในครัวก่อนนะจ๊ะ ^^ “ เมื่อได้รับการพยักหน้าตอบจากน้ำผึ้งแล้ว ฉันก็รีบลุกและเดินไปยังห้องครัวทันที

    ยิ่งเดินเข้าใกล้ห้องครัวมากเท่าไร กลิ่นหอมของอาหารก็ยิ่งตลบอบอวลมากเท่านั้น มันทำให้ท้องฉันร้องอีกครั้ง และน้ำลายเริ่มเยิ้ม (นึกสภาพเอาเองนะค่ะ -_-^ ) ภายในห้องครัว คุณยายกำลังง่วนอยู่กับการเคี่ยวน้ำในหม้อ บรรดาเครื่องครัวในนี้ล้วนแต่เป็นแบบสมัยก่อน (ดินเผาอ่ะค่ะ) จะมีก็แต่ถ้วยชามที่เป็นพลาสติก ส่วนช้อนแบบสังกะสี

    “มีอะไรให้หนูช่วยมั้ยค่ะ” ฉันเดินเข้าไปใกล้ๆ คุณยายและยื่นหน้าเข้าไปถาม

    “อ๋อ หนูช่วยหยิบน้ำปลาให้หน่อยสิจ๊ะ” ฉันพยักหน้าช้าๆ และหันไปมองรอบๆ ห้องครัว ว่าแต่...น้ำปลามันหน้าตาเป็นยังไงอ่ะ เกิดมาไม่เคยเข้าครัว - -;;

    กวาดสายตาไปทั่วก็ไปเจอกับขวดพลาสติกที่บรรจุของเหลวสีเหลือง หวังว่ามันคงจะเป็นน้ำปลานะ -O- ว่าแล้วฉันก็รีบหยิบไอ้ขวดที่ว่าไปให้คุณยายทันที

    “เอ๋ นี้มันน้ำมันนะหนู น้ำปลาต้องเป็นสีออกดำๆ นั้นไงอยู่ตรงนั้นน่ะ” คุณยายชี้ไปที่ขวดพลาสติกที่บรรจุของเหลวสีออกดำๆ ฉันจึงรีบไปหยิบมาให้คุณยายทันที

    “ขอโทษนะค่ะ หนูไม่เคยเข้าครัว แฮะๆ” ฉันยิ้มแห้งๆ ให้คุณยาย “แล้วให้หนูช่วยอะไรอีกมั้ยค่ะ”

    “งั้นหยิบถ้วยมาให้ยายหน่อยสิ ไม่ต้องใหญ่มากนะจ๊ะ” คุณยายยิ้มให้ฉัน จากนั้นก็หันไปทำอาหารต่อ

    “อื้ม...ถ้วยงั้นหรอ ฉันเคยเห็นนะ น่าจะเป็นอันนี้” ฉันบ่นกับตัวเอง แล้วก็หยิบภาชนะที่ทำด้วยพลาสติกขึ้นมา แล้วก็ส่งให้คุณยายทันที

    “เห้อ....นึกว่าจะไม่รู้จักถ้วยซะแล้ว” คุณยายหยิบไอ้ภาชนะที่ว่าไป แล้วก็รีบตักแกงออกจากหม้อทันที แกงอะไรก็ไม่รู้ แต่น่ากินชะมัด เห็นแล้วน้ำลายจะหก วันนี้ลาภปากแต่วันเลยแฮะ 555+

    “ให้หนูช่วยอะไรอีกมั้ยค่ะ” ฉันยังคงย้ำคำถามเดิม

    “ไม่ต้องแล้วหล่ะจ๊ะ กลับไปนั่งรอดีกว่านะ” คุณยายยิ้มให้ฉันอีกครั้ง ส่วนตัวฉันก็พยักหน้ารับและรีบก้าวขาเดินออกจากครัวไปทันที แต่ยังไม่ทันเดินได้ถึง 5 ก้าว ฉันก็เกิดสะดุดฝุ่นขนาด 0.00001 มิลลิเมตร ล้มลงก้นจ้ำเบ้าทันที

    “โอ๊ย.....เจ็บชะมัด T^T” ฉันลูบก้นตัวเองเบาๆ เป็นจังหวะเดียวกับที่นายเตจินเดินมาเห็นพอดี ตะ...ตูซวยแน่งานนี้ TT^TT

    “555+ ยัยป้าเอ๊ย แอ๊บแบ๊วอีท่าไหนหล่ะเนี้ยถึงได้ไปนอนกองอยู่กับพื้นอย่างนี้ ^O^” ซ้ำเติมกันจนได้นะ อีตาบ้า T T

    “แบ๊วแมวอะไรเล่า ไม่ต้องมาซ้ำเติมกันเลย” ฉันสวนกลับทันควัน

    “คร๊าบๆ ^^ ส่งมือมาสิ” เค้ายื่นมือมาให้ฉัน ส่วนตัวฉันเอาแต่จ้องหน้าเค้าประมาณว่า จะเล่นไม้ไหนกะตูอีกฟ่ะ “ไม่ต้องมามองเลย ถ้าเธออยากจะนอนอยู่ตรงนี้ฉันก็ไม่ว่านะ ฮิๆ” เค้าหัวเราะทับถมฉันอย่างซะใจ โธ่เอ๊ย...ไออิ ไม่น่าซุ่มซามเลยจริงๆ T^T

    “เชอะ!!!” สุดท้ายแล้วฉันก็ยื่นมือไปจับมือของเค้าจนได้ แต่ว่าทำไมมือถึงได้นิ่มจังอ่ะ  อ๊ายยยยย.....>O< (เก็บอาการสักนิดนะจ๊ะไออิ -*- )

    เมื่อยืนขึ้นแล้ว ความระบมก็เข้าเล่นงานแก้มก้นทั้งสองข้างของฉันทันที ส่งผลให้ฉันร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด แต่คนรอบข้างอาจจะดูน่าสมเพชมากกว่า -*-

    “เจ็บมากเลยหรอ” เตจินถาม

    (T T)(_ _)(T T)(_ _)” ฉันไม่ได้ตอบแต่พยักหน้ารับแทน

    เตจินไม่ได้พูดอะไรต่อแต่อุ้มฉันพาดบ่า แล้วก็เดินหมุนตัวเดินกลับไปหน้าตาเฉย แถมยังยิ้มหน้าบานเป็นกระด้งอีกต่างหาก ส่วนตัวฉันเองก็ได้แต่ >////< เขิน เขินอย่างช่วยไม่ได้ ก๊ากๆๆๆๆๆๆ ^O^ (ขอปิดท้ายด้วยความหื่นของนางเอก และพฤติกรรมเสี่ยวๆ ของพระเองนะค่ะ 555+ ^^)



    t em
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×