ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Mystery เรื่องดีๆระหว่างฉันกับเธอ

    ลำดับตอนที่ #9 : ความลำบากใจ

    • อัปเดตล่าสุด 28 มี.ค. 52


                หลังจากที่ฉันกับเมย์เดย์ร้องเพลงจนคอแทบแตกแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน  โดยที่เราสองคนแทบจะไม่ได้คุยอะไรกันเลย  ถึงแม้ว่าฉันจะอยากพูดก็เถอะ  แต่เมื่ออ้าปากเสียงก็ถูกกลืนหายไปในลำคอ  ก็เลยกลับบ้านมาด้วยคำพูดที่ค้างคามากมาย  คำของยัยมิกิยังวนเวียนอยู่ในหัว นี้ฉันต้องเลือกจริงๆหรอ  ฉันอาจจะเป็นคนที่เห็นแก่ตัว ไม่อยากเสียใครไปเลยก็ได้  ฉันจะทำไงดี  โทรไปหายัยมิกิดีกว่า
                (ฮัลโหลสวีทมีอะไรหรอจ๊ะ)
                "คือว่าแก ฉันไม่รู้จะเลือกยังไงดีอ่ะ ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอ แล้วก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาตำหัวใจเต็มไปหมดเลยอ่ะ ฉันจะทำยังไงดีบอกฉันหน่อยสิแก"
                (ร่ายเป็นชุดเลยนะย่ะ ฉันว่าแกก็ทำตัวตามปกตินั่นแหละ ทำเหมือนสวีทคนเดิม แกรู้มั้ยหล่ะว่าทำแบบนี้แล้วจะได้เห็นอะไรดีๆแน่นอน)
                "อะไรที่ว่าดีๆหล่ะ"
                (เออน่า  ฉันว่าแกดูไปก่อนเหอะ  อย่างฉันอ่ะมันเจ้าแม่แล้ว ก็เลยรู้ เข้าใจ๊)
                "ดีแต่ดูคนอื่นอ่ะดิ ยัยเจ้าแม่น้ำตาย้อย" 
                (เอ๊ะ ไอ้เพื่อนคนนี้ ฉันอุตส่าห์ช่วยแกนะเนี้ย เอาเหอะฉันรู้ว่าแกกำลังทุกข์ มีอะไรอยากระบายมั้ย)
                "มีสิ มีเยอะด้วย"
                ฉันคุยกับมิกินานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่ามันทำให้ฉันสบายใจมากขึ้น  ถึงแม้ว่ายัยมิกิจะติ๊งต๊องปัญญาอ่อน(เหมือนฉัน-_-^) แต่มันก็เป็นที่พึ่งยามยากได้ดีทีเดียว  ไม่เสียแรงที่มียัยนี้เป็นเพื่อน ^O^
                "คุณหนูค่ะทานข้าวเย็นค่ะ"พี่จิงหลิงหลิงเข้ามาเรียกฉันให้ออกไปกินข้าวเย็น  ทำให้ฉันเดินออกไปนอกห้องด้วยสีหน้าที่ดีขึ้นไม่น้อย  แต่ก็ต้องตกใจที่ในโต๊ะอาหารมีนายชีวินที่นั่งหน้านิ่งคิ้วขมวดอยู่  ยังไม่ทันที่ฉันจะอารมณ์ดีเต็มร้อยเลย ทำไมต้องตามจองเวรกันด้วยฟร่ะเนี้ย-*-
                ฉันเดินไปนั่งข้างๆนายชีวิน เพราะมันเหลืออยู่ที่เดียว-_-*  ระหว่างกินข้าวฉันไม่พูดอะไรเลย มีแต่พ่อกับแม่ที่ชวนนายชีวินคุย  ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าการกลืนข้าวแต่ละคำมันช่างยากเย็น  ทำให้ฉันต้องดื่มน้ำบ่อยๆ  ทำไมมันถึงได้อึดอัดอย่างนี้นะ  พ่อกับแม่ก็ ชอบทำให้ลูกสาวอึดอัดอยู่เรื่อยเลย-3-(โทษพ่อแม่ซะงั้น)
                "สวีทจ๊ะ  ลูกเป็นอะไรรึเปล่า ทำไมไม่ค่อยพูดเลย"แม่ที่สังเกตอาการของฉันอยู่นานก็พูดขึ้น
                "เปล่าค่ะแม่"
                "เค้าคงไม่อยากให้ผมมาร่วมโต๊ะอาหารกับเค้าหล่ะมั้งครับ  ถ้าเป็นคนอื่นก็ว่าไปอย่าง"ประโยคหลังที่ทำให้ฉันมองคนพูดด้วยอาการงงๆ  นายชีวินคิดอะไรของเค้าฟ่ะเนี้ย ตามไม่ทัน-*-
                "จริงหรอจ๊ะ"แม่ยังจะถามอีกหรอเนี้ย-O-  หนูยิ่งไม่สบายใจอยู่อย่าเพิ่งคาดคั้นกันได้มิเคอะT^T
                "เอ่อ...หนูอิ่มแล้วขอตัวนะค่ะ"เมื่อไม่รู้จะตอบอะไร ฉันก็เดินออกจากโต๊ะอาหารซะเฉยๆ  ทำให้คนที่นั่งอยู่ทุกคนหันมองไปตามๆกัน  ทำไมกันนะ  ทำไมฉันถึงพูดไม่ออกหล่ะ  เดี๋ยวนี้ฉันเป็นอะไรไป  หรือแค่ไม่อยากเจอใครก็เท่านั้น   เดินไปเรื่อยๆฉันก็มาหยุดอยู่ตรงสระน้ำของบ้านตัวเอง  ตอนนี้ก็ค่ำแล้ว  แสงพระจันทร์สะท้อนกับน้ำ  ฉันก้มลงมองดูตัวเองที่ตอนนี้น้ำตามันผุดมาจากไหนก็ไม่รู้  น้ำตามันค่อยๆไหลไปเรื่อยๆ และหยดลงไปในสระ  ทำไมต้องร้องไห้ ร้องทำไมกันสวีท  ฉันเป็นอะไรไปแล้ว  สวีทคนเก่าอยู่ไหน  คนที่เข้มแข็งไปไหนแล้ว  ทำไมเหลือแต่ผู้หญิงที่ร้องไห้ไม่หยุดกับเรื่องบ้าๆแบบนี้
                "เป็นอะไรรึเปล่า"เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลังฉัน  
                "เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร"ฉันพูดขณะหันหลังให้คนๆนั้น แล้วก็ปาดน้ำตา จากนั้นก็หันไปประจันหน้ากับผู้ชายที่เป็นสาเหตุทำให้ฉันร้องไห้อยู่ตอนนี้
                "แล้วทำไมต้องร้องไห้ด้วย"
                "ฉันไม่ได้ร้องซะหน่อย  นายอย่ามามั่ว"ฉันพยายามฝืนยิ้มทั้งๆที่หัวใจเหมือนถูกบีบ
                "ทำไมจะไม่ได้ร้อง  เธอตาแดงจมูกแดงขนาดนี้  แถมมีคราบน้ำตาอีก"
                "ก็บอกว่าไม่ได้ร้องไงเล่า"
                "เธอเป็นอะไรทำไมไม่บอกฉัน  เพราะเรื่องที่ฉันแข่งกับเมย์เดย์ใช่มั้ย"เค้าเอามือทั้งสองคนมาจับตรงหัวไหล่ของฉัน  ทำให้เราสองคนสบตากัน 
                "ปะ...เปล่านะ ไม่เกี่ยวหรอก"
                "แต่ตาเธอมันฟ้อง"
                "ฉันบอกว่าไม่เกี่ยวไง ทำไมนายต้องมาคาดคั้นจากฉันด้วยหล่ะ"
                "ถ้าเธอเป็นอะไรแล้วไม่บอก ฉันจะช่วยเธอได้ยังไงหล่ะ"
                "ก็ไม่ต้องช่วยไง"
                "แต่ฉันเป็นห่วงเธอนะ"เค้าทำสายตาอ่อนโยน  มันทำให้ฉันยิ่งกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่  แล้วสุดท้ายมันก็ไหลออกมา
                เค้าไม่พูดอะไรต่อ  แต่ดึงฉันเข้าไปกอด แรงกอดเค้าแน่นมาก  มันทำให้เราได้ยินเสียงเต้นของหัวใจของกันและกัน  เสียงหัวใจของเค้าเต้นอย่างสม่ำเสมอ มันทำให้ฉันสงบลงได้
                "ทุกคนเป็นห่วงเธอนะ ถ้าเธอเป็นแบบนี้  ใครๆเค้าก็กินข้าวไม่ลงแล้วแหละ"เค้าพูดขึ้นหลังจากที่เงียบไปนาน
                "อื้ม  ถ้างั้นปล่อยฉันเถอะ  ฉันจะขึ้นไปอาบน้ำนอนแล้ว  ฉันง่วง"
                เค้าผละออกจากฉัน  แล้วก็เดินจากไป  ส่วนตัวฉันก็เดินขึ้นห้องนอน  แล้วก็อาบน้ำ นอน  เผื่อมันจะทำให้ฉันลืมเรื่องเศร้าๆพวกนี้ไปได้บ้าง
                

                 เช้าวันรุ่งขึ้น
                 หลังจากที่ทั้งคืนฉันร้องไห้จนซะใจแล้ว  ก็ลุกขึ้นมาด้วยไปหน้าอิดโรยสุด  มองดูตัวเองแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ  นี้ฉันเป็นบ้าอะไรกันแน่นะ ถึงได้ร้องไห้แบบนี้  ไม่ได้แล้ว  ต้องไปทำอะไรแก้เครียดซะหน่อย  เดี๋ยววันนี้ไปช็อปปิ้งแล้วกัน  ช่วยยัยเพื่อนตัวดีใจหลุมหลบภัยไปด้วยดีกว่า
                  คิดได้ดังนั้นฉันก็ไปอาบน้ำแต่งตัว  แล้วก็โทรไปหายัยเพื่อนทั้งสองคนให้ไปเจอกันที่ห้างกลางใจเมืองทันที  
                 ณ ห้างกลางใจเมือง(เค้าบอกว่าอย่างงั้น)
                 "ทำไมแกช้าจังหล่ะ เป็นคนนัดแท้ๆ"อควาบ่นอุบเมื่อเห็นหน้าฉันที่วิ่งหน้าตั้งมา เพราะสายไปตั้งหลายนาทีแล้ว
                 "ก็รถมันติดอะแก  เห็นใจกันหน่อย"
                 "เออๆ งั้นพร้อมจะช็อปปิ้งกันรึยังหล่ะจ๊ะทั้งสองคน^^"มิกิหันมาพูดแล้วก็ยิ้ม ส่วนฉันกับอควาก็พยักหน้าเป็นการตกลง
                 พวกเราทั้งซื้อของ ถ่ายรูป เล่นเกมส์  ทำอะไรให้มันรีแลกซ์ที่สุด  คงเป็นเพราะสองคนนั้นรู้ด้วยแหละมั้งว่าฉันกำลังลำบากใจ เห้อ..มีเพื่อนดีเป็นศรีแก่ตัวจริงด้วยนะเนี้ย โฮะๆ^O^
                 "อารมณ์ดีแล้วหรอยัยสวีท  นึกว่าแกจะหน้าอมทุกข์ซะอีก"ยัยอควาทักเมื่อเห็นฉันหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส
                 "โห่แก  จะให้ฉันนั่งหน้าเครียดอยู่ได้ไง เดี๋ยวหน้าแก่เร็วอ่ะ ไม่เอา"
                 "เออย่ะ  แม่คนรักสวยรักงาม"มิกิหันมาหยิกแก้มฉัน โอ๊ยเจ็บนะไอ้เพื่อนบ้า  แรงแกยิ่งกว่าช้างสารซะอีก หยิกมาได้TOT
                 "แล้วแกจะเอาไงต่อหล่ะ เรื่องของสองคนนั้น"อควาทำหน้าจริงจังทันทีเมื่อพูดถึงเรื่องนี้
                 "แล้วพวกแกว่าไงหล่ะ"ฉันไม่รู้จะพูดอะไรก็เลยได้แต่ถามเพื่อน
                 "ฉันก็บอกไปแล้วว่าให้แกเป็นสวีทคนเดิมแบบนี้แหละ"
                 "แล้วจะต้องเป็นอีกถึงเมื่อไหร่หล่ะ  ฉันอึดอัดจะตาย ตอนนี้นะ เห็นสองคนนั้นแล้วอยากเดินหนี  ไม่รู้เป็นอะไร  แถมร้องไห้บ่อยด้วยอ่ะ หน้างี้ยิ่งกว่าแพนด้าอายุล้านปีซะอีกอ่ะ"
                 "แกน่าจะดีใจนะย่ะ มีผู้ชายหล่ออย่างกับเทพบุตรตั้งสองคนมาจีบ"
                 "ดีใจกะผีอ่าดิ  แกลองมาเป็นฉันแล้วจะรู้เอง"
                 "ยังไงฉันก็จะเป็นกำลังใจให้แกนะย่ะไอ้เพื่อนบ้า"
                 "ฉันด้วย"
                 ซึ้งค่ะ  ซึ้งจริงๆ  ยัยเพื่อนสองตัวนี้ก็ให้กำลังใจฉันเป็นด้วย-O-  แต่ก็ดี  ตอนนี้ฉันต้องการกำลังใจเป็นที่สุด  เพราะฉันต้องสืบคดี แถมต้องเป็นกรรมการให้ตาสองคนนั้นอีก   แค่นี้ก็เครียดจนตะคริวขึ้นสมองแล้ว-_-^
               
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×