ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END]​ Nitro ชื่อนี้ไม่รักได้ไหม

    ลำดับตอนที่ #8 : 4. Nice to meet u (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 19 ก.ค. 64


                “เป็นไงแผนกู” ไอ้ต้ายิ้มอย่างภาคภูมิใจ ทันทีที่เห็นผมเดินกลับมาหา

                “โคตรสะใจเลยว่ะ ฮะ ฮะ ฮ่า” ผมหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี จัดการถอดเครื่องอำพรางบนใบหน้าออก

                “กูบอกแล้วไง ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร”

                “สนุกมากเลยใช่มั้ย?”

                “ใช่ดิ” ผมตอบ ก่อนจะหยุดชะงักเมื่อรับรู้ถึงสิ่งผิดปกติ เมื่อเสียงที่ถามไม่ใช่เสียงของไอ้ต้า และมันเองก็หันมาทำหน้างงไม่ต่างกับผม

                เราสองคนจึงค่อย ๆ หันหลังไปหาที่มาของเสียง ก่อนจะสะดุ้งโหยงกันอย่างพร้อมเพรียงเมื่อคนที่ปรากฎคือคนที่ผมเพิ่งแกล้งไปสด ๆ ร้อน ๆ แต่สภาพใบหน้าของเขาตอนนี้เกลี้ยงเกลาจากการล้างทำความสะอาดมาเป็นที่เรียบร้อย

                “เอ่อ…คือ…” ซวยแล้วไงไอ้ฟอส ถึงกับพูดตะกุกตะกักไปต่อไม่เป็นเมื่อเห็นสีหน้านิ่งเรียบของเขา “นะ นะ นาย มาอยู่ที่นี่ได้ไงเนี่ย?” แกล้งตีเนียนทำเป็นตกใจเหมือนไม่รู้มาก่อนแล้วกัน

                “ก็กูเรียนที่นี่ จะให้กูไปอยู่ที่ไหน”

                “เฮ้ยน้อง เป็นรุ่นน้องพูดให้เกียรติรุ่นพี่หน่อยดิครับ” ไอ้ต้าพูดแย้งเสียงแข็ง ไม่มีความเกรงกลัวคนตรงหน้าแต่อย่างใด

                “ใคร?” นัยน์ตาคมเลื่อนมองหน้าไอ้ต้าอย่างช้า ๆ แต่ผมกลับรู้สึกหลาดกลัวขึ้นมาไม่ต่างกับโดนเขามองเอง

                “กูชื่อต้า ปีสองวิดยา มีปัญหาอะไรกับกูเปล่า?”

                ผมถึงกับซู้ดปากเมื่อได้ยินเพื่อนรักถามกลับอย่างท้าทาย ไอ้ต้ามันเกรงกลัวซะที่ไหน มือทั้งสองข้างกำแน่นพร้อมบวกเสียเต็มแก่ ส่วนอีกฝ่ายทำหน้านิ่งเฉยจนผมเดาความคิดไม่ถูก แต่สายตาแข็งกร้าวที่จ้องมองไอ้ต้าช่างเต็มไปด้วยความดุร้ายเสียเหลือเกิน หากปล่อยไว้แบบนี้มีหวังต้องเกิดการวางมวยกันแน่

                แล้วผมจะจัดการกับพวกเขาอย่างไรดี

                “เปล่า” หลังจากหยั่งเชิงกันอยู่นาน ไนโตรก็เอ่ยปากตอบไอ้ต้า ก่อนจะยักไหล่ทำเหมือนไม่ได้สนใจมัน “แต่มีกับคนนี้”

                “มะ มะ มีอะไร?” และแล้วหวยก็มาลงที่ผม เมื่อนัยน์ตาคู่คมเลื่อนสายตามาหา

                “เมื่อกี้มึง…หึ…ลืมไป ต้องให้เกียรติรุ่นพี่” เขาหัวเราะหึ แอบชำเลืองมองไปทางไอ้ต้าเล็กน้อยก่อนจะพูดกับผมต่อ “เมื่อกี้พี่สนุกมากมั้ยที่แกล้งผม”

                “ใคร ใครแกล้ง?” ผมส่ายหน้าหวือ ปฏิเสธอย่างร้อนลน

                “ต่อให้พี่ปิดหน้ายังไง…ผมก็จำพี่ได้”

                “…” เสียงเบาค่อยท้ายประโยคทำให้ขนอ่อนทั่วร่างชูชันอย่างอัตโนมัติ ผมได้แต่ยืนตัวสั่นเมื่อใบหน้าคมเต็มไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

                “ทำไม? แกล้งนิดแกล้งหน่อยไม่ได้เหรอวะ” ไอ้ต้าพูด ออกโรงปกป้องผมเต็มที่

                “ก็ไม่ได้ว่าอะไร” ร่างสูงทำลอยหน้าลอยตาใส่ไอ้ต้า ก่อนที่โฟกัสสายตาจะกลับมาที่ผมอีกครั้ง “ที่มาก็แค่จะบอกว่า…” ร่างสูงค่อย ๆ โน้มศีรษะเข้ามาใกล้ พร้อมหัวใจของผมที่เต้นแรงจนแทบไม่เป็นจังหวะ

                “ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะครับ…พี่ฟอส” เสียงเบากระซิบที่ข้างหูทำให้ผมแทบล้มทั้งยืน รอยยิ้มกรุ้มกริ่มถูกส่งมาก่อนที่เจ้าตัวจะถอยกลับและเดินจากไป ปล่อยให้ผมได้แต่ยืนนิ่ง มองตามแผ่นหลังกว้างด้วยความสับสน

                สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อตะกี้มันคืออะไรกัน

     

                “ไนโตรมันรู้จักชื่อกูได้ไงวะ” ผมพึมพำกับไอ้ต้า ขณะช่วยกันเก็บอุปกรณ์ที่ฐานหลังเลิกกิจกรรม

                ถึงแม้เวลาจะผ่านมานานพอสมควร แต่ผมก็ยังไม่อาจละความคิดไปจากเรื่องนี้ได้เลย

                “น่านสิ หรือกูหลุดพูดชื่อมึงให้มันได้ยินวะ?”

                “ก็ไม่นะ กูจำได้ว่ามึงไม่ได้พูด”

                “สงสัยไอ้หมอนั่นคงถามพวกเพื่อน ๆ เราล่ะมั้ง”

                “อืม” ก็คงเป็นเช่นนั้น “ว่าแต่ไงล่ะแผนของมึง กูไม่น่าหลงเชื่อทำตามเลย” รู้สึกเหมือนตัวเองคิดผิด น่าจะหนีกลับหอแบบที่คิดไว้แต่แรกก็คงดี 

                “แหม่...ทำเป็นโทษกู ตอนแกล้งเสร็จยังหัวเราะสะใจอยู่เลย”

                “เฮ้อ” คิดแล้วก็กลุ้ม ผมจะโดนไนโตรตามรังควานอีกหรือเปล่าเนี่ย

                “ว่าไปเด็กคนนี้มันก็เอาเรื่องเหมือนกันนะ จ้องหน้ากูไม่กลัวเลยว่ะ”

                “ก็กูเคยบอกมึงแล้วว่ามันเป็นอันธพาล ทางที่ดีอย่างไปยุ่งด้วยจะดีกว่า”

                “ก็งั้น ๆ เมื่อกี้กูพร้อมบวกแล้วนะ”

                “จ้า พ่อคนเก่ง กูล่ะกลัวใจเหลือเกินว่ามึงจะไปหาเรื่องน้องมัน”

                “ห่วงมัน?”

                “ห่วงมึงนี่แหละ เกิดโดนเด็กกระทืบจมคาตีนขึ้นมา รู้ถึงไหนมีหวังอายถึงนั่น”

                “…”

     


     

                เปิดเทอมมาแล้วสามวัน ชีวิตการเป็นนักศึกษาปีสองไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้นมากนัก ทั้งสภาพแวดล้อม สังคม รวมไปถึงการเรียน จะมีก็เพียงบรรดารุ่นน้องปีหนึ่งผู้มาใหม่ที่พอจะสร้างความแปลกใหม่ให้ได้บ้าง ทั้งหนุ่มหล่อ สาวสวยมากหน้าหลายตาที่เข้ามาสร้างความกระชุ่มกระชวยหัวใจให้บรรดารุ่นพี่ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเพื่อนของผมที่วันทั้งวันเอาแต่ส่องสาว ๆ น่าตาน่ารักในเพจ Cute Boys & Girls ของมหาวิทยาลัย ไม่เว้นแม้กระทั่งตอนนี้ ขณะที่เรากำลังนั่งพักอยู่ที่โต๊ะม้าหินใต้ตึกของคณะระหว่างรอเรียนในช่วงบ่าย 

                “มึงดูคนนี่สิ โคตรน่ารัก” ไอ้ต้าพูดด้วยน้ำเสียงระริกระรี้ ยื่นโทรศัพท์มือถือมาตรงหน้าผม

                “อืม” ผมตอบผ่าน ๆ ก้มหน้าก้มตาเขียนรายงานแลปของตัวเอง

                “คนนี่ก็สวย”

                “อืม”

                “เฮ้ยแม่ง มึงดูนี่สิ”

                “อะไรอีก” ผมส่งเสียงติดรำคาญ เมื่อมือหนายังยื่นโทรศัพท์มาให้ดูไม่เลิก

                “มึงดูก่อน”

                ผมมองผ่าน ๆ แต่มีอันต้องชะงัก ดึงสมาร์ทโฟนของไอ้ต้ามาดูใกล้ ๆ เมื่อภาพที่ปรากฎตอนนี้ไม่ใช่สาว ๆ อย่างที่มันส่งให้ดูเป็นประจำ ทว่าเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งในอริบาบถต่าง ๆ ที่ส่วนใหญ่ไม่ได้มองกล้อง ดูเหมือนจะเป็นการแอบถ่ายเขามาลงในเพจเสียมากกว่า แต่ที่สำคัญคือเขาคนนั้นเป็นคนที่ผมคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี

                ‘หล่อวัวตายควายล้ม หล่อจนแอดมินอยากถอดชุดพลีกายถวายตัวให้ กรี๊ดดดดด น้องไนโตร แห่งคณะแพทย์

              ช่วยฉีดยาป้าหน่อยจ้ะ ป้าไม่สะบายยยย’

                ยอมรับว่าเด็กคนนี้หล่อจริง ยิ่งเขาตัดผมทรงใหม่ที่ดูเรียบร้อยและสะอาดสะอ้านก็ยิ่งทำให้ดูดีมีเสน่ห์กว่าลุคส์เด็กแว๊นซ์ที่ผมเคยเห็นเป็นไหน ๆ แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่ทำให้ผมต้องนิ่งมองไม่ใช่เพราะใบหน้าหล่อเหลาของเขา แต่เป็นแคปชั่นของโพสต์นี้ต่างหากที่สร้างความสงสัยให้ผมจนต้องเอ่ยถามคนที่อยู่เคียงข้าง

                “เขาพิมพ์คณะผิดเปล่าวะ” ผมยื่นโทรศัพท์กลับไปให้ไอ้ต้า “หน้าอย่างไนโตรเนี่ยนะเรียนหมอ”

                “เออจริงด้วย สงสัยแอดมินมัวแต่กรี๊ดจนเบลอพิมพ์ผิดพิมพ์ถูก”

                จากสิ่งที่ผมประสบพบเจอมาก่อนหน้านี้ แค่เขาสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ผมก็แทบไม่เชื่ออยู่แล้ว จะบอกว่าเขาเรียนคณะแพทย์อีกก็คงพูดได้คำเดียวว่าเป็นไปไม่ได้

                สภาพแบบนั้นใครจะไปเชื่อลง

                “กรี๊ด กรี๊ด!” เสียงกรีดร้องของสาว ๆ กลุ่มหนึ่งทำให้ผมละความสนใจจากหน้าจอโทรศัพท์ มองตามเสียงนั้นก่อนจะพบความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในบริเวณใกล้

                “ดารามาเหรอวะ?” ก็บรรดาสาว ๆ ต่างกรูกันไปห้อมล้อมใครบางคนพร้อมยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปด้วยความตื่นเต้น ความแออัดที่เกิดขึ้นทำให้ผมมองเห็นไม่ชัดว่าเขาคนนั้นเป็นใคร

                “คงงั้นแหละมั้ง”

                “น้องเฟิร์น” เป็นช่วงจังหวะพอดีที่รุ่นน้องที่ผมรู้จักกำลังเดินผ่านมา ท่าทางของเธอรีบร้อนชอบกลจนผมสงสัยและร้องเรียนเพื่อไถ่ถาม

                “อ้าว...ดีค่ะพี่ฟอส”         

                “จะไปไหน?”

                “ไปถ่ายรูปไนโตรค่ะ”

                “ใครนะ?”

                “ไนโตรคณะแพทย์ไงคะ เขามาเรียนที่ตึกคณะเรา พวกหนูก็เลยจะไปขอถ่ายรูปหน่อย”

                “…” อย่าบอกนะว่าคนที่สาว ๆ กำลังห้อมล้อมอยู่นั้น...คือไนโตร

                “หนูไปก่อนนะคะ เดี๋ยวไม่ทันคนอื่น”

                ผมมองตามเฟิร์นไป เป็นจังหวะเดียวกับผู้ชายที่ถูกกล่าวถึงเดินแหวกฝูงชนออกมาจนเห็นใบหน้าชัด เขาคือไนโตรคนเดียวกับที่ผมไม่ชอบขี้หน้า ทว่าสิ่งที่ทำให้ผมช็อคจนแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน คือเขาเรียนคณะแพทย์จริง ๆ อย่างงั้นเหรอ

     

    -----

    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะงับ ขอบคุณจริง ๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×