คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : 4. Nice to meet u (50%)
ตึง ตะลึง ตึง!
เสียงกลองสันทนาการดังสนั่นไปทั่วบริเวณ กิจกรรมรับน้องใหม่ของมหาวิทยาลัยกำลังเริ่มต้นขึ้น
อีกสามวันก็จะถึงวันเปิดภาคเรียน บรรดานักศึกษาทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องต่างทยอยกันกลับสู่รั้วมหา’ลัยเพื่อร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้น เช่นเดียวกับผมในฐานะรุ่นพี่ปีสอง ที่กลับมามหาวิทยาลัยล่วงหน้าตั้งแต่สามวันก่อนเพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดกิจกรรมสำหรับวันนี้
กิจกรรมที่ว่าคือกิจกรรมรับน้องรวมของมหาวิทยาลัย รุ่นพี่แต่ละคณะจะส่งตัวแทนมายังลานกิจกรรมใหญ่เพื่อจัดเตรียมฐานให้น้อง ๆ ได้เข้าร่วม กิจกรรมนี้ไม่ได้เป็นกิจกรรมภาคบังคับ แต่น้อง ๆ ส่วนใหญ่ที่ต้องมารายงานตัวก่อนอยู่แล้วก็มักจะเข้าร่วมเพื่อพบปะและได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ ซึ่งผมกับไอ้ต้าเองก็รู้จักกันจากกิจกรรมนี่แหละ หลังจากนั้นเราก็สนิทสนมกันมาจนถึงทุกวันนี้
“แม่งไอ้ฟอส รุ่นน้องสาว ๆ น่ารักทั้งนั้นเลยว่ะ” ไอ้ต้าสะกิดแขนผม ยิ้มหวานมองไปรอบ ๆ ด้วยดวงตาเป็นประกาย
“งั้น ๆ” ผมโยกไหล่อย่างไม่สนใจ จดจ่ออยู่กับการเตรียมอุปกรณ์สำหรับต้อนรับน้อง ๆ ที่กำลังจะมาที่ฐาน
“กูก็ลืมไปว่ามึงชอบผู้ชาย”
“พูดมากจริง ช่วยกูทำงานได้แล้ว”
“ว่าแต่มึงทำใจเรื่องไอ้อะตอมได้ยัง”
มือของผมหยุดชะงัก พรูลมหายใจออกมาเมื่อได้ยินคำถามจากเพื่อนรัก
“ได้นิดนึง”
“แปลว่าไม่ได้”
“ถ้าไม่เจอ กูก็คงลืมได้เอง”
“งั้นชาตินี้ก็คงลืมไม่ได้ ทำอย่างกับพวกมึงเรียนกันคนละคณะงั้นแหละ ลืมหรือไงว่ามึงกับไอ้อะตอมอยู่ภาคเดียวกัน”
ผมไม่ลืมหรอก นอกจากผมกับแฟนเก่าจะอยู่คณะเดียวกันแล้ว เราสองคนยังเรียนภาคเคมีเหมือนกันอีกด้วย
และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ผมถึงต้องถอนหายใจยาวออกมาอีกครั้งเมื่อคิดถึงเรื่องนี้
“ช่างเถอะ ทำงานต่อดีกว่า” ก้มหน้าก้มตาจัดเตรียมของต่อ เปลี่ยนมาให้ความสนใจกับช่วงเวลาของความสนุกที่กำลังจะมาถึง
กิจกรรมดำเนินไปพร้อมกับรุ่นพี่แต่ละฐานที่จัดหนักจัดเต็มแบบไม่มีกั๊ก ไม่ว่าจะแป้ง น้ำ สี ครบมือพร้อมสาดใส่น้อง ๆ แบบไม่ยั้ง สภาพของแต่ละคนจึงไม่ต่างอะไรกับการออกศึกผ่านสมรภูมิรบ เปียกปอนและเลอะเทอะจนแถบดูไม่ออกว่าใครเป็นใคร แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าของพวกเขาก็เปื้อนรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข
เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงกับผู้คนที่สลับสับเปลี่ยนเข้ามาในฐาน เช่นเดียวกับตอนนี้ที่น้อง ๆ กลุ่มเก่ากำลังเดินออกไป น้องกลุ่มใหม่ก็เข้ามาแทนที่ ทว่ามีรุ่นน้องคนหนึ่งทำให้ผมต้องขมวดคิ้วนิ่งมองอย่างไม่เชื่อสายตา เขาคนนั้นเป็นคนที่ผมจำได้แม่นถึงแม้ใบหน้าจะเลอะเทอะด้วยแป้งและสีจนแทบไม่เหลือเค้าเดิมก็ตาม แต่เพราะดวงตาคมที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์คู่นั้น คือดวงตาที่ผมจำได้ไม่เคยลืม
“ไอ้ต้า” ผมเขย่าแขนเรียกเพื่อนที่อยู่เคียงข้างอย่างหวาดกลัว ดึงเจ้าตัวให้ถอยออกมาด้านหลังของซุ้ม
“ว่า?”
“มึงจำคนที่กูเคยเล่าให้ฟังตอนปิดเทอมได้มั้ย?” เรื่องที่ผมประสบพบเจอขณะปิดเทอม ไอ้ต้าคือคนเดียวที่รับรู้เรื่องราวทั้งหมด
“ใคร?” มันขมวดคิ้วคิดอยู่ครู่หนึ่ง “อ๋อ…คนที่ตามมึงถึงบ้านอะนะ”
“เออ คนนั่นแหละ”
“แล้วไง?”
“เขาอยู่ที่นี่” ผมชี้นิ้วไปที่เด็กคนนั้น คนที่ผมเจอเมื่อตอนปิดเทอม คนที่ผมไม่อยากรู้จัก คนที่ไม่คิดว่าชาตินี้จะกลับมาพบกันอีก ทว่าตอนนี้ เวลานี้ วินาทีนี้ เขากำลังปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าผม ในสถานที่อันไกลโผนต่างไปจากที่ ๆ เราเคยพบกันเมื่อครั้งก่อน
“ไหน?” ไอ้ต้าตาลุกวาว พยายามกวาดสายตามองอย่างตื่นเต้น ผมจึงชี้เน้นย้ำไปทางเป้าหมาย คนที่ใส่เสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์สีซีดเข่าขาด ที่อกห้อยป้ายชื่อไว้ว่า…
“ที่ชื่อไนโตรเหรอ?”
“เออ” ใช่...เขาคนนั้นชื่อ ‘ไนโตร’
และผมก็ได้รู้จักชื่อของเขาอย่างไม่ตั้งใจ
“สภาพเละขนาดนี้มึงยังจำได้อีกนะ” ไอ้ต้าพูดกลั้วหัวเราะขำ ความรู้สึกต่างกับผมที่สับสนจนบอกไม่ถูก “ไม่ทักมันหน่อยล่ะ”
“ทักเชี่ยไร น่ากลัวขนาดนั้น”
“น่ากลัวตรงไหน ดูแล้วก็ไม่เห็นจะมีพิษมีภัยอะไร ทำไมมึงต้องไปกลัวมันด้วย”
“ถ้ามึงเจอแบบที่กูเจอ มึงจะไม่พูดแบบนี้”
“แล้วมึงจะไปไหน?” ไอ้ต้าร้องทัก เมื่อเห็นผมหมุนตัวเตรียมก้าวเดิน
“กลับหอดิ จะอยู่ให้เขาเห็นทำไม”
“อะไรวะ จะไปกลัวอะไรนักหนา ที่นี่มหา’ลัยนะโว้ย ไม่ใช่บ้านมึง มึงจะกลัวมันทำไม?”
“…”
“อีกอย่างตอนนี้มึงอยู่ในฐานะรุ่นพี่ ส่วนมันเป็นรุ่นน้อง ไม่อยากเอาคืนมันหน่อยเหรอวะ” ไอ้ต้าหัวเราะหึในลำคอ ยิ้มยกอย่างเจ้าเล่ห์แบบตัวร้ายในละคร
“ยังไง?” คำพูดของเพื่อนสนิททำให้ผมหยุดนิ่งด้วยความสนใจ
“กูมีแผน...”
“สวัสดีครับน้อง ๆ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ฐานของพี่ปีสอง คณะวิทยาศาสตร์นะครับ สำหรับฐานของเราก็ไม่มีอะไรมาก เป็นเกมสนุก ๆ ที่น้อง ๆ น่าจะรู้จักกันดี…” ไอ้ปลั้กเพื่อนร่วมรุ่นที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าฐานกล่าวต้อนรับพร้อมพูดอธิบายกติกาการเล่นเกมของฐานให้น้อง ๆ ได้เข้าใจ
อันที่จริงก็เป็นเกมง่าย ๆ อย่างเป่าแป้งหาเหรียญ น้อง ๆ ทั้งหมดจะถูกแบ่งออกเป็นสองทีม ทีมไหนช่วยกันเป่าแป้งและหาเหรียญที่ซ่อนอยู่ได้มากกว่าจะเป็นผู้ชนะ ส่วนผู้แพ้จะต้องโดนลงโทษโดยรุ่นพี่ประจำฐาน
หลังจากแบ่งน้อง ๆ เป็นสองทีมเรียบร้อย ถาดแป้งขนาดใหญ่ที่ซ่อนเหรียญเอาไว้ก็ถูกนำออกมาวางตรงหน้า เมื่อทุกอย่างพร้อม เสียงนกหวีดส่งสัญญาณเริ่มการแข่งขันก็ดังขึ้น
ปี้ด!
ปฏิบัติที่ผมจะเอาคืนนายไนโตรก็เริ่มต้นขึ้นเช่นกัน
ในขณะที่น้อง ๆ กำลังทำการแข่งขันอย่างดุเดือด ผมที่อำพรางตัวเองโดยการใส่หมวกแก็ป สวมแว่นตาดำและหน้ากากเป็นที่เรียบร้อยก็เดินอ้อมไปยืนบริเวณด้านหลังของเป้าหมาย ระหว่างที่เจ้าตัวกำลังเป่าแป้งหาเหรียญอย่างจริงจัง ผมก็จัดการคว้าขวดแป้งที่เตรียมเอาไว้ขึ้นมา เทแป้งใส่บริเวณที่เขาเป่าไปเรื่อย ๆ โดยไม่ให้รู้ตัว นายไนโตรก็ตั้งหน้าตั้งตาเป่าไปเถอะ แต่เป่ายังไงก็หาเหรียญไม่เจอ สร้างเสียงหัวเราะขำให้รุ่นพี่โดยรอบ รวมถึงตัวผมที่เทแป้งไปก็ขำไปจนไหล่สั่น
เมื่อเสียงนกหวีดหมดเวลาดังขึ้นผมก็รีบกลับเข้าไปซ่อนตัวด้านหลังของฐาน และการแข่งขันก็เป็นไปตามคาดเมื่อทีมของไนโตรแพ้ไปอย่างราบคาบโดยแทบไม่ต้องนับจำนวนเหรียญเลย
“แม่ง ทำไมแป้งที่กูเยอะจังวะ”
ยิ่งผมได้ยินเขาบ่นพึมพำกับเพื่อนอย่างไม่สบอารมณ์ก็ยิ่งทำให้ผมขำจนแทบกลิ้ง รู้สึกสะใจอยู่ไม่น้อยที่ได้เอาคืนเขาบ้างโทษฐานที่ชอบกวนประสาทผมดีนัก
“สำหรับทีมที่แพ้ต้องโดนรุ่นพี่ทำโทษนะครับ ออกมายืนเรียงแถวด้านหน้าได้เลย”
ทั้งสีและน้ำกระหน่ำสาดใส่บรรดาผู้แพ้อย่างไม่ยั้ง ส่วนแผนการแกล้งไนโตรของผมยังไม่จบ ในมือถือจานสีและพู่กันมุ่งตรงไปหาร่างสูงเพื่อเตรียมละเลงใบหน้าของเขาเป็นการพิเศษ
ผมยืนอยู่ตรงหน้ารุ่นน้องเป้าหมายด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม เขาจ้องมองผมด้วยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย แต่ครั้งนี้ผมไม่ได้รู้สึกกลัวเขาเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะการปกปิดใบหน้าอย่างแนบเนียนทำให้แน่ใจได้ว่าเขาไม่มีทางรู้ว่าเป็นผมอย่างแน่นอน
ไม่รอช้าผมหยิบพู่กันจุ่มสีและค่อย ๆ ทาลงบนใบหน้าของเขาอย่างช้า ๆ ทำไปก็อดขำไปด้วยไม่ได้เมื่อเห็นคนห้าวอย่างเขาหมดสภาพไม่ต่างกับแมวแสนเชื่องที่เลี้ยงตามบ้าน ทว่ามือของผมมีอันต้องหยุดชะงัก เมื่อเห็นรอยยิ้มยกตรงมุมปากของคนตรงหน้าปรากฎขึ้นมาให้ความรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว
รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยนัยยะแอบแฝงมากมายเสียเหลือเกิน
-----
กว่าจะรู้ชื่อ ลากมาถึงตอนที่ 4 แหะๆ
.
ฝากติดตามด้วยน้า สนุกไม่สนุกยังไงคอมเมนต์พูดคุยกันได้
ติดตามข่าวสารของไรท์ทางเพจ >> นิยายธ.ธีร์
ความคิดเห็น