ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END]​ Nitro ชื่อนี้ไม่รักได้ไหม

    ลำดับตอนที่ #20 : 9. The truth is ... (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 2 ส.ค. 64


                “ครอบครัวของเรามีด้วยกันสี่คน พ่อของพี่เป็นหมอ ส่วนแม่ของพี่เป็นพยาบาล ก่อนจะลาออกมาเป็นแม่บ้านหลังจากแต่งงานกับพ่อ”

                ผมตั้งใจฟังอย่างจดจ่อ หลังจากพี่เทอร์โบเริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง

                “ไนโตรรักแม่มาก เขาสนิทกับแม่มากกว่าใคร ไนโตรเป็นเด็กร่าเริง อัธยาศัยดี แถมยังเรียนหนังสือเก่ง สอบได้ที่หนึ่งมาโดยตลอด”

                ไม่น่าเชื่อว่าคนที่พี่เทอร์โบกำลังพูดถึงจะเป็นคนเดียวกับคนที่ผมเจอ

                “ครอบครัวอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข แต่แล้วเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อสามปีก่อนแม่ต้องเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน คืนนั้นแม่อยู่บ้านคนเดียว ส่วนพี่กับไนโตรไปสอบแข่งขันวิชาการที่ต่างจังหวัดทั้งคู่ กว่าพ่อจะกลับบ้านมาเจอก็สายเกินไปเสียแล้ว”

                “เสียใจด้วยครับ”

                “ไนโตรเสียใจมาก เขาโทษว่าพ่อเป็นต้นเหตุของความสูญเสียที่เกิดขึ้น เพราะพ่อมัวแต่ทำงาน ถ้าวันนั้นพ่อกลับบ้านตรงเวลา ไม่เข้าเวรแทนหมอคนอื่น แม่ก็อาจจะไม่ต้องจากไปแบบนี้ เขาจึงบาดหมางกับพ่อมาตั้งแต่วันนั้น”

                ผมพอจะเดาเรื่องราวต่อจากนี้ได้แล้วล่ะ

                “นับตั้งแต่นั้นไนโตรก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากคนที่ร่าเริงก็กลายเป็นคนเงียบขรึม เอาแต่เก็บตัวเงียบไม่สุงสิงกับใคร ไม่สนใจการเรียน ทำตัวเสเพลเป็นเด็กมีปัญหา จนสร้างความเดือดร้อนให้พ่อไม่เว้นแต่ละวัน”

                แสดงว่าเรื่องที่เขาไปตีกับพวกวัยรุ่นเพราะแค่อยากชกต่อยก็คงจะจริง

                “เขาเรียกร้องความสนใจจากพ่อเหรอครับ?”

                “เปล่า…เขาอยากแก้แค้น”

                “…”

                “อย่างที่บอกว่าเขาคิดว่าพ่อคือต้นเหตุที่ทำให้แม่ตาย เขาจึงทำตัวเกเรให้พ่อต้องโกรธและเสียชื่อเสียง เขาอยากให้พ่อต้องเจ็บปวดเหมือนอย่างที่เขาเป็น”

                ฟังถึงตรงนี้ ผมไม่รู้จะสงสารใครก่อนดี

                “แล้วเรื่องที่เขาเรียนหมอล่ะครับ เหมือนผมจะเคยได้ยินเขาพูดว่าโดนบังคับ” เป็นอีกเรื่องที่ผมยังคาใจ การสอบเข้าคณะแพทย์ไม่ใช่ใครก็ได้จะสอบติด ถ้าไม่ตั้งใจเรียน ตั้งใจอ่านหนังสือจริง ๆ ไม่มีทางสอบเข้าได้ แล้วทำไมไนโตรถึงยอมอ่านหนังสือเพื่อสอบหมอทั้งที่โดนบังคับล่ะ

                “เป็นความผิดของพี่เอง”

                “…”

                “เพราะพ่ออยากให้ใครคนใดคนหนึ่งเรียนหมอ อันที่จริงก็เป็นความฝันของพี่อยู่แล้ว แต่พี่ผิดเองที่สอบไม่ติด ทำให้พ่อผิดหวังและโยนภาระทั้งหมดไปที่ไนโตร”

                “แล้วทำไมเขาจึงยอม” ในเมื่อเขาทำตัวเกเร ไม่เชื่อฟังพ่อของตัวเองมาตลอด

                “เพื่อแลกกับอิสรภาพที่พ่อจะไม่ยุ่งกับชีวิตของเขาอีก”

                “…”

                “เพียงแค่เขาสอบติดและเรียนจบหมอ เขาอยากได้อะไรพ่อก็จะให้ รวมไปถึงจะไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวายกับชีวิตของเขาอีก”

                “พ่อพี่ไม่รักไนโตรเลยเหรอ?” อดไม่ได้ที่จะถามไปแบบนั้น ฟังดูแล้วเหมือนเขาจะรักตัวเองมากกว่าลูก

                “รักสิ”

                “แล้วทำไมต้องบังคับให้ไนโตรทำในสิ่งที่ไม่ชอบ”

                “ใครบอกว่าไนโตรไม่ชอบ”

                “…”

                “เขาเองก็อยากเป็นหมอ เป็นความฝันมาตั้งแต่เด็กเพราะเขาอยากเก่งเหมือนพ่อ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแม่ทำให้ไนโตรเปลี่ยนความคิด พ่อที่ช่วยเหลือชีวิตคนอื่นไว้มากมายแต่กลับไม่อาจยื้อชีวิตคนสำคัญของตัวเองอย่างแม่เอาไว้ได้ เขาจึงรู้สึกผิดหวังและไม่อยากเป็นหมออีกต่อไป พ่อพี่จึงต้องบังคับให้เขาเรียน เพราะไม่อยากให้เขาทิ้งความฝันของตัวเอง”

                “ความฝันของใครกันแน่ ไนโตรหรือพ่อพี่”

                “ทั้งสองคนนั่นแหละ”

                “แต่พ่อพี่ก็ไม่รักไนโตรอยู่ดี กับแค่เพื่อให้เขาเรียนหมอ ถึงกับยอมตัดขาดไม่ยุ่งเกี่ยวกันได้ไง” ไม่มีใครทำกับคนที่ตัวเองรักแบบนี้หรอก

                “ใครบอกล่ะว่าตัดขาด”

                “…”

                “ที่พี่ขอให้ฟอสช่วย ก็เพราะอย่างนี้แหละ” เขายิ้ม สบตามมองผมด้วยความหวัง “พ่อเป็นห่วงไนโตรมาก แต่เขาก็ไม่อยากผิดเงื่อนไขที่เคยสัญญาไว้กับไนโตร จึงฝากฝังให้พี่ช่วยดูแล แต่กับพี่เขาเองก็ไม่ค่อยยอมรับ เอาแต่หนีหน้าไม่ยอมคุย พี่ไม่รู้จะทำยังไงจึงต้องขอความช่วยเหลือจากฟอส”

                “…”

                “ถึงแม้เขาอาจจะดูก้าวร้าว ไม่แคร์คนอื่น ไม่สนใจโลกภายนอก แต่แท้จริงแล้วเขาไม่ใช่คนอย่างนั้น ภายในจิตใจเขายังเป็นไนโตรคนร่าเริงและสดใสเหมือนเดิม เพียงแต่เขากำลังสร้างเกราะขึ้นมา เพื่อปกปิดความเสียใจที่ยังไม่อาจทำใจยอมรับได้ก็เท่านั้นเอง” 

                “แล้วผมจะช่วยอะไรเขาได้” ถึงแม้จะเข้าใจความคิดของพี่เทอร์โบ เข้าใจความรู้สึกของไนโตร และเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น แต่ผมจะทำอะไรได้นอกจาก...

                “อยู่เคียงข้างเขา แค่นั้นก็พอแล้ว” รอยยิ้มอบอุ่นปรากฎบนใบหน้าของรุ่นพี่ นัยน์ตากลมใสมองผมอย่างอ่อนโยน “ฝากดูแลไนโตรด้วยนะ”

                “ครับ” คงเป็นเช่นนั้น

                เรื่องราวที่ไนโตรต้องพบเจอทำให้ผมมองเขาอย่างเข้าใจมากขึ้น อะไรที่ผมพอจะแบ่งเบาความทุกข์ของเขาได้ ผมก็พร้อมจะช่วย ในฐานะเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกคนหนึ่ง

                “สวัสดีค่ะ” จู่ ๆ เสียงใสคุ้นหูเอ่ยขึ้นหลังจากบทสนทนาของผมและพี่เทอร์โบที่จบลงพอดี “ใช่พี่เทอร์โบหรือเปล่าคะ?”

                ผมหันมองตามต้นเสียงที่อยู่ทางด้านหลัง ก่อนจะเอ่ยคำทักทายเมื่อเห็นหญิงสาวน่าตาสดใสที่ผมรู้จัก

                “สวัสดีมายด์” เธอคือเพื่อนร่วมห้องที่โรงเรียนเก่าของผม เธอเรียนอยู่คณะแพทย์ที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน

                “อ้าวฟอส มาทำอะไรที่นี่”

                “มาคุยธุระนิดหน่อยน่ะ ว่าแต่...มายด์เองก็มาทำอะไรที่นี่ล่ะ?”

                “เรามาหาพี่เทอร์โบ” เธอพูด ก่อนจะหันไปยังรุ่นพี่ที่นั่งอยู่ตรงข้ามผม “พี่เป็นพี่ชายของไนโตรใช่มั้ยคะ?”

                “ครับ” เขาพยักหน้า “น้องมีธุระอะไรกับพี่เหรอ? หรือไนโตรไปก่อเรื่องอะไรที่ไหนอีก”

                “เปล่าค่ะ” มายด์ยกมือขึ้นปฏิเสธ “หนูแค่อยากขอให้พี่ช่วยคุยกับไนโตรให้หน่อยน่ะค่ะ”

                “…”

                “พอดีพวกรุ่นพี่อยากให้ไนโตรเป็นตัวแทนของคณะประกวดเดือนมหา’ลัย แต่ไม่ว่าจะขอร้องหรืออ้อนวอนยังไงน้องก็เอาแต่ปฏิเสธท่าเดียว หนูไม่รู้จะทำยังไงก็เลยมาขอให้พี่ช่วยพูดกับเขาหน่อย อย่างน้อยพี่น้องกันเขาน่าจะฟังกันบ้าง”

                “คงยากหน่อยนะ กับพี่เองเขาก็ไม่ค่อยฟังซักเท่าไหร่”

                “ช่วยหน่อยเถอะนะคะ หนูเองก็ลำบากใจ ถ้าไนโตรไม่ลงประกวด ก็ไม่รู้จะให้ใครประกวด”

                “คณะมายด์มีคนหน้าตาดีตั้งเยอะตั้งแยะ ทำไมไม่ให้ประกวดแทนล่ะ” ผมถาม เพราะทุกปีคณะแพทย์จะมีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาให้เลือกมากมาย ถ้าไนโตรไม่อยากประกวด ก็ไม่จำเป็นต้องไปง้อเขาเลย

                “เพราะปีนี้พวกรุ่นพี่หวังเอาไว้มาก ถ้าไนโตรประกวดคณะของเรามีโอกาสจะได้ตำแหน่งสูง พวกพี่เขาจึงต้องการให้ไนโตรประกวดเท่านั้น ภาระทั้งหมดจึงตกมาอยู่ที่เรา เราจึงต้องแบกหน้ามาขอร้องพี่เทอร์โบถึงที่นี่นี่แหละ” มายด์ผ่อนลมออกมาอย่างอ่อนใจ ผมพอจะเข้าใจความรู้สึกของเธอ นึกภาพออกเวลาโดนไนโตรปฏิเสธกลับมาอย่างไร้เยื่อใยมันน่าเหนื่อยใจขนาดไหน

                ได้ยินมาบ้างว่าไนโตรเป็นตัวเก็งที่จะคว้าตำแหน่งเดือนมหา’ลัยในปีนี้ ผมเองยังแอบสงสัยว่าทำไมไม่เคยเห็นเขาเตรียมตัวอะไรเหมือนกับคนอื่น อย่างคณะของผมยังเริ่มเตรียมอุปกรณ์และซักซ้อมการแสดงแล้วบ้าง ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง

                “เดี๋ยวถ้าพี่เจอเขา พี่จะช่วยพูดให้ก็แล้วกันนะ”

                “แต่จะไม่ทันเอานะคะ ต้องส่งรายชื่อคนเข้าประกวดภายในวันนี้แล้ว”

                “งั้นคงต้องให้ฟอสช่วยแล้วล่ะ”

                “เกี่ยวอะไรกับผมอะพี่” ผมมองชายรุ่นพี่ด้วยความไม่เข้าใจ เมื่อจู่ ๆ ก็โยนภาระนี้มาให้ผมเสียดื้อ ๆ

                “พี่คิดว่าคนที่จะทำให้ไนโตรยอมประกวด ก็คงมีแค่ฟอสคนเดียวเท่านั้น”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×