คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : 7. Another sides (100%)
“กลับได้แล้ว” ผมพูด หลังจากที่พวกเรารับประทานอาหารเสร็จ และไนโตรทำการจ่ายเงินเป็นที่เรียบร้อย แต่เขายังนั่งกระดิกเท้า ฟังเพลงที่ร้านเปิดอย่างสบายใจ
“ฟังเพลงต่ออีกหน่อยไม่ได้เหรอ?”
“จะฟังอะไรอีก นี่ก็ดึกมากแล้วนะ”
“ไม่เห็นต้องรีบเลย”
“ไม่รีบได้ไง ออกจากที่นี่กว่าจะถึงหอก็เกือบเที่ยงคืนพอดี”
“แล้วใครบอกว่าเราจะกลับหอ”
“…”
“เราจะค้างคืนที่นี่”
“นายพูดว่าอะไรนะ?” ผมอ้าปากค้าง ไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“พี่บอกเองไม่ใช่เหรอว่าดึกแล้ว และผมก็ไม่ค่อยคุ้นชินกับการขับรถกลางคืนซะด้วยสิ ขับกลับตอนนี้คงอันตราย ผมว่าค้างคืนที่นี่น่าจะปลอดภัยที่สุด” ถึงแม้คำอธิบายของไนโตรพอจะฟังมีเหตุผลอยู่บ้าง แต่เพราะเขาเป็นคนเจ้าแผนการ เล่ห์เหลี่ยมของเขาทำให้ผมไม่ไว้ใจสักเท่าไหร่
“พรุ่งนี้เรามีเรียนเช้า”
“งั้นต้องรีบนอนเลย จะได้ขับกลับตั้งแต่เช้า”
“แต่เราไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยน”
“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง” เขายิ้มกว้างอย่างมั่นใจ ก่อนจะลุกจากเก้าอี้ เดินนำผมมายังรถของตัวเอง
“นายเดินทางบ่อยเหรอ?” ผมถาม เมื่อเห็นเสื้อผ้าในกระเป๋าเดินทางที่เขาเตรียมไว้ด้านหลังรถ
“เปล่า แต่ผมชอบออกกำลังกาย ก็เลยมีเสื้อผ้าเปลี่ยนเอาไว้ อยากจะออกกำลังกายตอนไหนจะได้สะดวก”
“อ๋อ...”
“เพราะฉะนั้นพี่ไม่ต้องกังวลเรื่องชุด ใส่ของผมได้ไม่มีปัญหา”
“แต่…”
“คืนนี้นอนกับผมนะครับ”
“…”
“ผมหมายถึง…นอนพักที่นี่ก่อน พรุ่งนี้ค่อยกลับพร้อมกัน” เขาพูดอธิบายเพิ่มเติม เมื่อเห็นผมนิ่งไปเพราะคำพูดที่แสนจะกำกวม
แล้วผมจะคิดไปไกลทำไมเนี่ย
ใช้เวลาตัดสินใจอยู่ครู่หนึ่ง แต่ผมมีทางไหนให้เลือกบ้างล่ะ ถ้าไม่พักกับเขาผมก็ต้องหาทางกลับเอง แต่ด้วยเวลานี้คงเป็นไปได้ยาก ผมจึงจำใจตอบรับไปอย่างไม่มีทางเลือก
“ก็…ก็ได้”
คำตอบของผมทำให้คนฟังยิ้มแก้มปริ เดินนำไปขึ้นรถ พร้อมสำหรับการหาที่พักในค่ำคืนนี้
จากการค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เนต ระแวกนี้มีที่พักมากมายให้เลือกเพราะเป็นย่านท่องเที่ยว ตอนแรกผมเสนอที่พักราคาประหยัดจะได้ไม่ต้องฟุ่มเฟือยมากเกินไปนัก แต่เลือกกี่ที่กี่ที่ก็ถูกไนโตรปฏิเสธ เอาแต่พูดว่าอยากพักโรงแรมสบาย ๆ ต่อให้ราคาแพงแค่ไหนก็ไม่หวั่นเพราะเขาจะจ่ายเอง ผมเห็นว่าดึกมากแล้วจึงขี้เกียจเถียงให้วุ่นวาย และเลือกที่พักเป็นโรงแรมหรูระดับสี่ดาวที่ใกล้ที่สุดตามใจเขา
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าจองห้องพักมาหรือยังคะ?” พนักงานต้อนรับที่เคาต์เตอร์ประชาสัมพันธ์กล่าวทักทายทันทีที่พวกเราเดินทางมาถึง
“ยังครับ”
“ไม่ทราบว่าสนใจห้องเตียงเดี่ยวหรือเตียงคู่คะ?”
“เตียงคู่ครับ”
“เตียงเดี่ยว” ไนโตรพูดแทรกทันทีหลังจากที่ผมตอบ
“นอนเตียงคู่ดีกว่า จะได้ไม่ต้องเบียดกัน” ผมพยายามอธิบายเหตุผล
“นอนด้วยกันไม่เห็นจะเป็นไร ผมนอนไม่ดิ้นหรอก”
“เตียงของทางโรงแรมกว้างขวางนะคะ คุณลูกค้าไม่ต้องนอนเบียดกันอย่างแน่นอนค่ะ”
“เห็นม่ะ?”
“เตียงคู่นั่นแหละดีแล้ว ต่างคนต่างนอน เราไม่ชอบแย่งผ้าห่มกับคนอื่น”
“ไม่” ไนโตรปฏิเสธเสียงแข็ง ก่อนจะหันไปบอกกับพนักงานอย่างสรุป “เอาห้องเตียงเดี่ยวครับ”
“นี่นาย...”
“ผมจ่าย ก็ต้องให้ผมเลือกสิครับ” เขาหันมายักคิ้วให้ ผมจึงได้แต่เม้มริมฝีปาก ขบฟันแน่นเพราะไม่รู้จะเถียงเขาอย่างไรดี
อยากจะเดินหนีกลับหอไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่มืดค่ำขนาดนี้จะกลับยังไงล่ะ หากทำตัวเหย่อหยิ่งเดินออกไปก็กลัวไปไหนไม่รอดจนโดนเขาหัวเราะเยาะซ้ำ ก็เลยได้แต่เก็บความรู้สึกแค้นไว้ในใจ และปล่อยให้เขาทำตามใจแต่โดยดี
หลังจากจัดการรายละเอียดที่เคาต์เตอร์ประชาสัมพันธ์เรียบร้อย พนักงานของโรงแรมก็พาเรามายังห้องพักที่อยู่ชั้นห้าของโรงแรม
ภายในห้องโอ่อ่าและกว้างขวาง ถูกตกแต่งด้วยสีชมพูอ่อนอย่างหวานแหววให้ความรู้สึกกลิ่นไอของคู่รัก
ใช่ครับ เพราะนี่คือห้องสวีทสำหรับคนที่ออกเดตหรือฮันนีมูน ไม่รู้อะไรดลใจให้ไนโตรเลือกห้องนี้ ห้องที่ไม่เข้ากับเราสองคนเลยแม้แต่น้อย
“นายจะอาบน้ำก่อนหรือให้เราอาบก่อน” ผมถามทันทีเมื่อเข้ามาในห้อง วันนี้ผมเหนื่อยมากพอแล้ว และพรุ่งนี้พวกเรายังต้องขับรถกลับหอพักตั้งแต่เช้า จึงต้องรีบพักผ่อนเอาแรงไว้ก่อน
“เดี๋ยวผมอาบก่อนแล้วกัน”
ผมพยักหน้ารับรู้ ร่างสูงจัดการหยิบของใช้ส่วนตัวในกระเป๋า เดินเข้าห้องน้ำไปอย่างไม่เสียเวลา
ส่วนผมอาศัยจังหวะนี้เลือกเสื้อผ้าของไนโตรที่เอามาจากในรถ เตรียมพร้อมสำหรับเปลี่ยนหลังอาบน้ำเสร็จ
จะว่าไปก็รู้สึกแปลกตาอยู่ไม่น้อย เพราะเสื้อผ้าเหล่านี้เป็นของดีมียี่ห้อทั้งนั้น ถ้าดูจากรถที่เขาขับและคอนโดที่เขาอยู่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่หรอก เพียงแค่นั้นก็ดูออกว่าเขาเป็นคนรวย ทว่าผมเคยเห็นเขาในสภาพที่ต่างออกไปแล้วไง คนที่สวมเสื้อยืดธรรมดา ๆ กับกางเกงยีนส์ขาด ๆ แถมยังไล่ตีกับคนอื่นเป็นพวกอันธพาลอีก อดไม่ได้ที่จะคิดว่าเขาเป็นคนละคนกับที่ผมเคยพบเจอ
ความคิดฟุ้งซ่านของผมถูกทำลายเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องน้ำที่เปิดออก ผมผงะตัวเล็กน้อยเมื่อเห็นร่างสูงก้าวเท้าออกมา ชายหนุ่มหุ่นล้ำที่มีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวปกคลุมส่วนล่างของร่างกาย จากปกติเพียงแค่กล้ามเนื้อเป็นมัดของเขาก็สะกดสายตาของผมเอาไว้ได้อยู่แล้ว ยิ่งมีหยดน้ำเกาะตามเนื้อตัวและไรผมหลังอาบน้ำเสร็จ ก็ยิ่งทำให้เขาเซ็กซี่และน่ามองมากขึ้นจนไม่อาจละสายตาไปจากคนตรงหน้าได้เลย
“ชอบเหรอครับ?”
“ชอบ…ฮะ อะไรนะ” กว่าจะได้สติ ผมก็เผลอพูดยอมรับออกไปอย่างน่าอาย จนไนโตรยิ้มหัวเราะขำด้วยความชอบอกชอบใจ
“อยากเห็นอย่างอื่นของผมด้วยมั้ยครับ น่ามองกว่าอีกน้า” ไม่พูดเปล่าเขาก็จับปมผ้าขนหนูที่ผูกอยู่ แกะเตรียมพร้อมเหมือนจะดึงออก
“ไม่” ผมรีบร้องห้าม ยกมือขึ้นปิดตาด้วยความตกใจ
“ไม่อยากดูเหรอ?”
“ไม่ อย่าเปิดนะ” เล่นอะไรของเขาก็ไม่รู้ มือไม้ของผมสั่น หัวใจเต้นรัวไปหมดแล้วเนี่ย
“พี่กลัวอะไร ผู้ชายด้วยกัน”
“รู้ แต่ไม่ใช่ของที่จะโชว์กันมั้ยเล่า?”
“มีของดีก็ต้องโชว์กันหน่อยดิพี่”
“เก็บไว้ดูคนเดียวเถอะ เราไม่อยากดู” ผมรีบคว้าเสื้อผ้า เดินตรงไปยังห้องน้ำโดยไม่คิดจะมองเขา แค่ได้ยินเสียงหัวเราะตามหลังผมก็พอจะจินตนาการได้ว่าเขากำลังยิ้มเยาะอย่างซะใจที่ได้แกล้ง
คนอะไรนอกจากจะกวนประสาทแล้วยังโรคจิตอีกต่างหาก ไม่มียางอายเอาซะเลย ทำไมผมต้องมานอนร่วมห้องกับคนอย่างเขาด้วย
ผมรีบอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย ปล่อยให้สายน้ำไหลผ่านล้างภาพความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัวสมอง จะพูดยังไงดีล่ะ ผมชอบหุ่นของเขา นี่คือความสัตย์จริงที่ผมยอมรับ แต่คงดีกว่านี้ถ้าเจ้าของหุ่นไม่ใช่นายไนโตร คนที่กวนประสาทที่สุดเท่าที่ชีวิตของผมเคยเจอะเจอ
แง่มประตูห้องน้ำอย่างระแวดระวังหลังอาบน้ำเสร็จ เกิดผลีผลามทะเล่อทะล่าเดินออกไปเจอเขาแก้ผ้ารออยู่ผมคงช็อคตายเสียตรงนั้น แต่สิ่งที่เห็นกลับผิดจากที่คิด เมื่อผมชะโงกหน้าออกไปพบกับความมืดมิดที่แทบจะสนิท มีเพียงแสงจากโคมไฟบริเวณหัวเตียงที่ยังคงส่องสว่าง กวาดสายตามองรอบ ๆ พบไนโตรนอนซุกตัวอยู่ในผ้าห่มบนเตียงนุ่ม ผมเดินย่องไปมองใกล้ ๆ เป่าปากโล่งเมื่อเห็นว่าเขาหลับไปแล้ว จึงสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มและล้มตัวนอนอย่างสบายใจ
ผมเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ถึงเวลาที่ผมจะได้พักผ่อนเสียที
ความคิดเห็น