ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักครั้งแรกกับนายตัวแสบ

    ลำดับตอนที่ #11 : ห้องสมุด จาจังมยอน (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 49


    ในที่สุดฉันก็ตัดสินใจเข้าชมรมเดียวกับมินจุนสะเลย เพราะคิดว่าขื่นให้ไปทนนั่งอ่านหนังสือฉันคงได้เป็นโรคประสาทแน่ ๆ  ถึงฉันจะหัวไม่ดีเรื่องภาษาสักเท่าไร แต่ก็คงพอทนไหว ดีกว่าให้ไปนั่งอ่านหนังสืออยู่หรอกน่า พอคิดได้ยังงั้นฉันก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย

    "ฉันบอกแกแล้ว เลือกเข้าชมรมพร้อมกับฉันตอนนั้นก็สิ้นเรื่อง"มินจุนพูดกับฉัน หลังจากที่ฉันบอกกับเธอว่าฉันตัดสินใจจะอยุ่ชมรมเดียวกับเธอ 

    "นี่ฉันบอกไว้ก่อนนะ ถ้าแกเข้าชมรมเนี่ยแกจะรู้สึกดีเชียวละ 55" มินจุนพูดทิ้งท้ายประโยคเอาไว้ แล้วส่งยิ่มอย่างมีเลสนัยมาให้ฉัน  อะไรละที่ทำให้รู้สึกดี  ยัยนี่ชอบพูดอะไรให้คิดอยู่เรื่อยเลย ก็รู้ๆกันอยู่ว่าสมองระดับฉันคิดอะไรได้บ้าง

    ใกล้สอบเข้ามาทุกทีแล้ว เฮ้อ ฉันหนักใจกับสภาพตัวเองตอนนี้จริงๆ ก็ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสอบย่อยหรือสอบอะไรก็ตาม ช่วงที่ผ่านมาไม่ค่อยจะดีเท่าไรเลย ฉันคิดแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วหันไปมองมินจุน ที่ขณะนี้กำลังนั่งอ่านหนังสือย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ ดูเธอกำลังตั้งอกตั้งใจมาก เพราะมินจุนเป็นลูกสาวคนโตของบ้านไม่ว่าจะทำอะไรก็ถูกตั้งความหวังไว้มาก เธอเลยต้องพยายามเต็มที่ตลอดมา ฉันละนับถือเธอจริงๆ เพราะว่าฉันคงทำอย่างเธอไม่ได้แน่ๆ

    "เย็นนี้ไปห้องสมุดกันมั้ย"มินจุนถามฉันขณะที่เธอกำลังเก็บหนังสือใส่กระเป๋า

    "อารายนะ" ฉันหันไปจ้องเธอตาโต ถ้าฉันก้าวเท้าเข้าไปในห้องสมุดหิมะต้องตกหนักแน่ๆ

    "นี่มันใกล้จะสอบแล้วนะ เธอควรไปหาเอาอะไรมาใส่สมองบ้างสิ"มินจุนพูดแล้วมองฉันด้วยสายตาที่จริงจัง

    "เออ ก็ได้" ฉันเลยตอบกลับไป ถึงแม้จะไม่อยากไปก็ตามทีเหอะ แต่ที่มินจุนพูดก็ถูก ฉันควรจะพยายามบ้างคิดที่จะอ่านหนังสือบ้าง


    ตอนนี้เรามาอยู่ในห้องสมุดแล้ว ฉันมองไปรอบๆตัว ชั้นหนังสือที่วางเรียงรายอย่างเป็นระเบียบและถูกจัดเป็นหมวดหมู่ตามแบบฉบับของห้องสมุดทั่วไป และดูท่าวันนี้คนก็มาเยอะสะด้วย เพราะจากที่นั่งที่เคยว่างไว้ ไม่มีใครนั่ง และตามชั้นหนังสือก็ไม่ค่อยมีคนยืน แต่วันนี้กลับแน่นขนัดไปด้วยคน และที่นั่งก็ถูกจับจองไปแล้วกว่าครึ่งหนึ่ง

    ฉันมองไปรอบๆตัวอีกครั้งเห็นนักเรียนกลุ่มหนึ่งที่กำลังขมักเขม้นกับการอ่านหนังสือ ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด แต่ละคนทำท่าเหมือนจะกินหนังสือเข้าไปได้เลย แล้วฉันก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ทันที
    ส่วนมินจุนก็กำลังมองรอบๆเพื่อหาที่นั่งที่ว่างสำหรับเรา เธอใช้สายตากวาดดูอย่างพินิจพิจารณา แล้วก็ตัดสินใจเลือกที่นั่งที่อยุ่ไกลที่สุด


    "ตรงนั้นไง"ทันทีที่เธอบอก เธอก็ก้าวเดินฉับๆไปยังที่นั่งทันที พักนี้ชีวิตมินจุนเหมือนรีบเร่งตลอดเวลาเลยนะ(ใครจะเหมือนเธอละย่ะ)

     มินจุนเลือกที่นั่งที่ไม่ค่อยมีคนนั่งแถวนั้นเท่าไหร่และอยู่ไกลออกไป เธอให้เหตุผลว่า ถ้านั่งตรงที่ๆมีคนเยอะ เธอจะอ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง ส่วนฉันหรอไม่ว่านั่งอยุ่ตรงไหนฉันก็ไม่รู้เรื่องอยู่วันยังค่ำแหละ


    "ฉันไปหาหนังสือมาอ่านก่อนนะ"

    มินจุนพูดกับฉันแล้วตรงดิ่งไปทางชั้นหนังสือทันที ปล่อยให้ฉันมองตามหลังเธอไปพักหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจ เฮ้อ  ฉันก็ควรจะอ่านบ้างสิน่ะ  ว่าแล้วฉันก็เดินตามมินจุนไป

    เริ่มที่วิชาอะไรก่อนดีละ คณิตหรอ ไม่เอาหรอกน่า ฉันไม่ชอบคณิตเอาไว้อ่านทีหลังได้มะ ตัวเลขมันเยอะแยะไปหมด ได้อ้วกกันแน่  ภาษาอังกฤษ อืม ถึงอ่านไปก็ไม่เข้าใจอยู่ดีอ่ะแหละ รึว่าวิทดีละ  แต่แหม๋เนื้อหามันเอยอะไป อย่าเลย  

    อ่ะ รุละสังคมก็ได้ ฉันตรงไปยังชั้นของหมวดสังคม แล้วเลือกหยิบแล่มที่คิดว่าพอจะมีเนื้อหาที่ต้องการบ้าง แล้วเดินกลับมาที่นั่ง

    "เห้ย แกจะอ่านมันหมดนี่เลยหรอ"ฉันถามมินจุนแล้วมองไปยังกองหนังสือ ที่ตั้งอยู่ตรงหน้ามินจุน แต่ละแล่มใหญ่พอที่จะล้มทับคนได้เลยนะนั่น

    มินจุนไม่ได้แสดงท่าทีอะไร เธอแค่เงยหน้ามามองหน้าฉันแล้วกลับไปสนใจหนังสือของเธอต่อ ฉันมองหนังสือตัวเองที่อยุ่ในมือ1แล่ม ทีเห็นจะมีไม่ถึง200หน้าด้วยซ้ำ แล้วฉันก็นั่งลงตรงข้ามกับมินจุน และเริ่มอ่าน แต่ไม่ถึง10 นาที่ฉันก็


    คร๊อกกกกกกกกกก ฟี้ zZ

    "ฮ้าว อารายเนี่ย งืมๆงั่ม"ฉันเพิ่งรู้สึกตัวว่าหลับไป ฉันมองไปอีกฝากที่มินจุนนั่ง แล้วขยี้ตา แต่เอ๋ มินจุนแปลกไปนะ ทำไมเธอดูตัวใหญ่ๆ แล้วก็ผมสั้นขึ้นด้วยละ

    "ว้าย" ฉันแทบจะร้องเสียงดังลั่น เมื่อสายตาปรับได้ชัดเจนยิ่งขึ้นและเห็นได้ชัดแล้วว่าคนที่นั่งตรงข้ามฉันไม่ใช่มินจุน สิ่งที่ทำให้ฉันตกใจก็เพราะคนที่นั้งอยู่ตรงข้ามฉันคือ ....................

    "แหกปากร้องไปให้อาจารย์เดินมาลากออกจากห้องสมุดหรอ"มินฮอกตอบกลับมาแล้วยิ้มนิดๆ เค้าเสยผมขึ้นด้วยท่าทางที่ดูเท่เอามากๆ

    เหว๋อ ฉันมองไปรอบๆตัว ตายละ ตอนนี้ฉันยังอยู่ในห้องสมุดอยู่หรอเนี่ย  

    "มินจุนละ"ฉันถามเค้าด้วยเสียงที่เปลี่ยนเป็นเสียงกระซิบแทน

    "กลับไปแล้ว" ขณะที่พูดเค้าก็เอนตัวไปพิงผนักเก้าอี้ แล้วทำท่าทางเหมือนนั่งเล่นอยู่ที่บ้าน

    "กลับหรอ กลับได้ไง ฉันไม่เห็นรุเรื่องเลย แล้วกลับกับใคร ตอนไหน"

    "ก็เธอหลับเป็นตายยังงี้  แล้วจะรู้ได้มั้ยละ นี่ถามทีละอย่างได้มั้ยเนี่ย"


    ฉันรู้สึกอายนิดๆ  เลยก้มหน้าลง

    "แล้วนายมาตอนไหน" ฉันถามทั้งๆที่ยังก้มหน้าอยุ่

    ทันทีที่ฉันเงยหขึ้นมา หน้าเค้าก็มาอยู่ใกล้ๆกับหน้าฉันสะแล้ว  ฉันผงะถอยหลังทันที แล้วอยู่ๆหน้าฉันก็ร้อนขึ้นมาสะเฉยๆ  เค้าดูท่าจะชอบอกชอบใจกับอาการตกใจของฉันเมื่อกี้ เลยหัวเราะออกมาเบาๆ

    "ก็ตั้งแต่ตอนที่เธอหลับน้ำลายไหลยืดๆงัย"เข้าพูดแล้วยิ้มอย่างขี้เล่น

    "คนบ้า"ฉันรู้สึกอายเลยตะโกนใส่หน้าเค้าไป

    มินฮอกดูจะตกใจที่จู่ๆฉันตะโกนใส่ เค้าเลยถอยไปพิงผนักเก้าอี้อีกครั้ง สักพักเค้าก็เอนตัวมาข้างหน้าแล้วใช้มือตีหัวฉันเบาๆ

    "ชู่ว บอกแล้วไงว่าอย่าเสียงดัง อยากโดนลากอกจากห้องสมุดหรอไงเล่า ยัยบื๊อ "

    ฉันลืมไปสนิทเลยว่ายังอยู่ในห้องสมุด ฉันจึงหันไปมองรอบๆ ในที่สุดก็ไปประทะกับสายตาอาจารย์บรรณณารักษ์ห้องสมุดเข้าให้ เธอกำลังยืนมองมาทางเราแล้วส่งสายตา ที่บอกประมาณว่า แหกปากทำไมย่ะ มาให้ฉัน

    อ๊า แย่จัง เพราะตอนนี้คนๆอื่นก็หันมามองฉันกับมินฮอกด้วย ความสนใจ


    "โอ้ย  ไม่เอาแล้วฉันจะกลับบ้าน"

    ฉันรู้สึกแปลกๆกับการกระทำของตัวเอง และรู้สึกอายด้วย ฉันลุกขึ้นทันทีแล้วเดินไปเก็บหนังสือที่ชั้น และไปหยิบประเป๋าที่ล๊อคเก้อ ไม่ว่าฉันจะเดินไปตรงไหน มินฮอกก็จะเดินตามมา

    "ตามมาทำมัย" ฉันหันหลังไปพูดกับเค้า โดยที่ไม่จำเป็นต้องทำเป็นเสียงกระซิบ เพราะขณะนี้เราเดินออกมาจากห้องสมุดแล้วนั้นเอง

    เค้าไม่ได้ตอบอะไร แถมยังทำท่าทำทางเหมือนไม่ได้ยินคำพูดฉันด้วยซ้ำ เค้าเดินผิวปากด้วยท่าทางสบายอารมณ์

    แม้จะมืดค่ำขนาดไหน ผู้คนก็ยังเดินขวักไขว่เต็มไปหมด เรากำลังเดินบนทางที่มุ่งหน้าไปในตัวเมือง ไฟข้างทาง และป้ายสีสันต่างๆส่องสว่างอยู่ข้างหน้า ข้างๆฉันมีมินฮอกเดินอยู่ ฉันแอบเหล่ตามองเข้าเป็นพักๆ แต่ก็ไม่มีการสนทนาเกิดขึ้นระหว่างเรา     พักใหญ่เหมือนกันที่ความเงียบอยู่คั่นกลางระหว่างเรา แต่ถึงยังงั้นก็ตามฉันกลับรู้สึกว่ามันอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

    เราเดินมาจนใกล้ๆกับร้านที่ขาย*จาจังมยอน*

    "อยากกินจาจังมยอนจัง"อยู่ๆนายมินฮอกก็พูดขึ้นมาทำลายความเงียบ

    "แล้วไงละ"ฉันหันไปมองหน้าเค้า แล้วส่งสายตาบอกประมาณว่า ฉันไม่เลี้ยงนายหรอกนะ อยากกินก็จ่ายเอง

    แล้วจู่ๆเค้าก็ดึงมือฉันแล้วเข้าไปในร้านขายจาจังมยอนที่อยู่ข้างหน้าทันทีโดยที่ฉันยังไม่ทันได้ตั้งตัว

    "โอ้ย ปล่อยๆ" นอกจากไม่ปล่อยแล้วหมอนี่ยังกดตัวฉันให้นั่งลงที่เก้าอี หลังจากนั้นเค้าก็เดินไปนั่งอีกฝากหนึ่งของโต๊ะ ยังไม่ลืมที่จะยิ้มแบบกวนประสาทมาให้ฉัน

    "ไม่กินหรอ"มินฮอกบอกกับฉัน ขณะที่กำลังสวาปามจาจังมยอนอย่างอะเร็ดอร่อย ปล่อยให้ฉันจ้องมองดูเค้ากิน และกลืนน้ำลายไปหลายรอบ

    ชิ ฉันเชิดหน้าขึ้น

    โคร๊กกกกกกกกก เสียงอะไรบางอย่างดังโครกคราก

    "55+"แล้วเค้าก็หัวเราะออกมา

    "พี่ครับขอจาจังมายอนชามหนึ่งครับ"เค้าตะโกนบอกพนักงานชายคนหนึ่งที่กำลังเดินวนไปวนมาเพื่อเก็บจาน หลังจากนั้นเค้าก็เริ่มสั่งจาจังมยอนมาอีกจาน

    อึก (เสียงกลืนน้ำลายของแฮมิน)

    "อะไรเล่ามองหน้าทำไมกินสิ ฉันอุตส่าเลี้ยงนะเนี่ย"ตอนนี้จาจังมายอนอันหอมหวนมาตั้งอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว กลิ่นของมัน โชยมาเตะจมูกฉัน ฉันจ้องมองมันแล้วกลืนน้ำลายอึกใหญ่  แต่ยังไงฉันก็ยังไม่แตะมัน

    "ไม่กิน ไม่หิว"ฉันพูดแล้วเชิดหน้าขึ้น ทั้งๆที่ความคิดฉันมันบอกว่า กินสิยัยโง่ ฉันหิวนะ อย่าหยิ่งไปหน่อยเลย

    "กินสะ " เค้าบอกด้วยเสียงที่เฉียบขาด  แล้วส่งสายตาเป็นเชิงสั่งมาที่ฉัน

    แล้วฉันก็ก้มหน้าลง กินทันที

    อ๊า เอิ้ก อา---หร่อยจัง(ที่ลากเสียงยาวๆเพระอยากให้รู้ว่าอร่อยจิงๆน้า) ฉันใช้หลังมือเช็ดปาก อิ่มเป็นบ้าเลย

    "เนี่ยนะไม่หิว" มินฮอกพูดแล้วมองหน้าฉัน อย่างทึ่งๆ

    "ป่าวสะหน่อย ก็กินไปเท่านั้นละ มีคนเลี้ยง กินพอเป็นพิธีแหละน้า เดี๋ยวจะเสียมารยาท อีกอย่างเดี๋ยวเสียน้ำใจด้วย "

    ฉันพูดเป็นชุดๆ เพราะไม่อยากให้เค้ารู้ว่าฉันกำลังเขินอยู่

    "3 จานเนี่ยนะพอเป็นพิธี จ่ายเองละกาน"

    "อ๊า ม่ายๆๆ อย่ากลับคำสิ นายบอกจะจ่ายนะ คนรวยเนี่ยงกเป็นบ้าเลย"ฉันโวยวายออกมายกใหญ่

    "ยัยบ้า เธอเนี่ยพูดเบาๆเป็นมั้ย" เค้าพูดแล้วหันไปมองรอบๆ ทำให้ฉันเพิ่งสังเกตว่าตอนนี้ทุกคนกำลังส่งสายตามามองเราด้วยความสนใจ

    "โทษที" ฉันบอกแล้วส่งยิ้มแห้งๆไปให้เค้า

    .........................................


    "โอ้ยอิ่มเป็นบ้าเลย"ฉันตะโกนออกมาในที่สุด ตอนที่เราเดินออกจากร้านจาจังมยอน และกำลังมุ่งหน้าไปที่สวนสาธราณะ ปาคแลน กัน ในเวลามืดค่ำขนาดนี้ก็ไม่แปลกที่สวนสาธารณะจะไม่ค่อยมีคนอยู่ ก็มันดึกแล้วนี่น่า

    "เธอนี่ชอบแหกปากจริงๆใช่มั้ยเนี่ย"มินฮอกพูดด้วยเสียงที่ฟังเหมือนรำคาญ แต่แววตาของเค้ากลับมองฉันด้วยความอบอุ่น

    ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ได้แต่ก้มหน้าแล้วยิ้มให้กลับพื้น(เหมือนคนบ้าเลยแหะ คิดได้งัยยิ้มให้กับพื้น)

    แล้วเราก็เดินมาในสวนสาธารณะกัน

    ภายในสวนสาธรณะ บรรยากาศที่เงียบสงบและสายลมที่พัดมาอย่างเฉื่อยๆ สร้างความรู้สึกสบายใจและสงบนิ่งให้กับฉันเป็นอย่างมาก เราเลือกนั่งบนหญ้าสีเขียวๆ ซึ่งบริเวณนั้นเป็นที่โล่งๆ มีดอกไม้ขึ้นอยู่บ้างปะปลาย

    ฉันมองขึ้นไปยังท้องฟ้าที่ยามค่ำคืนมีแสงจันทร์และดวงดาวส่องประกาย  ระยิบระยับ

    "มองอะไรนะ"มินฮอกถามฉันที่กำลังมองท้องฟ้าอยู่นานสองนาน

    "มองท้องฟ้าและดวงดาวไง"ฉันตอบทั้งที่ยังแหงนหน้าอยู่

    "เห็นดาวนั่นมั้ย"ฉันบอกมินฮอกและชี้ไปที่ดาวดวงหนึ่งที่ส่องแสงสว่างไสวอยู่ มินฮอกแหงนหน้าแล้วมองตามมือที่ฉันชี้ไปยังดาวดวงนั้น

    มินฮอกไม่ได้ตอบอะไร แต่ฉันรับรู้ได้ว่าเค้ากำลังฟังคำพูดของฉันทุกคำ

    "ดาวที่ส่องแสงสว่างไสวๆดวงนั้น รู้มั้ยว่าชื่ออะไร"

    "เธอเนี่ยโง่รึป่าวก็ ดาวศุกร์ไง" มินฮอกตอบกลับมา

    "เฮ้อ ใช่มันคือดาวศุกร์" ฉันถอนหายใจ นายโรแมนติกเป็นมั้ยเนี่ย เสียบรรยากาศหมดเลย

    "แล้วไงละ"เค้าพูดในขณะที่ยังคงจ้องดาวดวงนั้นอยู่
     
    ฉันยิ้มให้กับตัวเองแล้วบอกเค้าว่า

    "ตอนที่ฉันเป็นเด็ก พ่อกับแม่จะพาฉันออกมานั่งมองดาวที่สวนหลังบ้านตอนกลางคืนทุกคืนเลยนะ  ฉันชอบมากเลย ฉันชอบตอนที่ฉันได้นั่งกับพ่อแม่และจ้องมองดูดาวพวกนั้น  มันเหมือนว่าถึงแม้รอบตัวเราจะมืดมากเพียงได แต่แสงจากดวงดาวก็จะส่องสว่างทุกค่ำคืน ไม่ว่าเราจะมองมันจากมุมไหน เราก็จะเห็นมันส่องแสงตลอด ดาวแต่ละดวงมีเอกลักษณ์ เป็นของตัวเอง แสงที่ส่องสว่างก็ไม่เท่ากัน คนบางคนอาจคิดว่าดาวก็เหมือนกันนั้นแหละแต่จริงๆแล้วมันแตกต่างกันมากเลยนะ  เหมือนคนเรา คนทุกคนไม่มีอะไรที่เหมือนกัน ถึงแม้จะมองภาพรวมว่าเหมือนกันก็จริง แต่จริงแล้วก็ไม่ใช่"

    หลังจากที่ฉันพูดจบฉันก็ก้มหน้าลง แล้วหันไปทางมินฮอก ในขณะที่เค้าก็หันมาเหมือนกัน ทำให้สายตาของเราสองคนต่างมองมาหาอีกฝ่ายโดยไม่ได้นัดหมาย ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันฉันถึงรีบหันกลับมา และรู้สึกได้ว่าจู่ๆหน้าก็ร้อนขึ้นมาทันที ใจก้เต้นไม่เป็นจังหวะ  เค้าก็หันหน้ากลับไปเหมือนกัน

    "ฉันรู้สึกว่าตอนนั้นมีความสุขมากเลยละ"หลังจากที่เงียบอยู่นานสองนาน ฉันมองไปยังท้องฟ้าอีกครั้งและยิ้มออกมา

    "ถ้าย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กได้ก็คงดี"

    "เฮ้อ ดึกแล้วกลับบ้านเหอะ" มินฮอกมองหน้าฉันเหมือนอยากจะถามอะไร แต่ก็ไม่ถามในที่สุด


    เค้าพยักหน้า  แล้วเราก็ลุกขึ้นพร้อมกัน

    "วันนั้นฉันไม่ได้ไปส่งเธอที่บ้าน งั้นวันนี้ฉันไปส่งนะ" เค้าบอกกับฉันโดยที่ไม่มองหน้า แล้วทำท่าเหมือนเขี่ยหาอะไรบางอย่างตรงพื้น

    "อืมก็ได้"ฉันพยายามพูดให้ฟังดูเป็นธรรมชาติที่สุด เพื่อไม่ให้เค้ารู้ว่าตอนนี้ในใจฉันมันเต้นแรงขนาดไหน

    อย่าใกล้ฉันมากไปกว่านี้เลยนะเพราะถ้าขืนเธอเข้าาใกล้ฉันมากไป เธออาจได้ยินเสียงเต้นของหัวใจฉันก็ได้

    ท่ามกลางความเงียบสงบรอบด้าน มีเพียงเสียงก้าวท้าวเดินของคนสองคน

    ..................................

    ดีค๊า เพื่อให้หายสงสัยว่าไอ้จาจังมายอนเนี่ยมันคืออะไร tokiza เลยเอารูปมาให้ดูเลยค่ะ ระวังจะน้ำลายไหลน้า


    *จาจังมยอน* นี่ก็ไอหมี่แห้งสีดำๆเนี่ยละค๊า แต่อร่อยน้า อยากินละสิ

    user posted image

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×