ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักครั้งแรกกับนายตัวแสบ

    ลำดับตอนที่ #10 : เรื่องราวในอดีต(มินฮอก)

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ค. 49



    ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน

    "มินฮอกโตขึ้นเธออยากเป็นอะไร" เด็กหญิงตัวน้อยผู้มีดวงตากลมโต และผิวขาวอมชมพู ดูจากหน้าตาแล้วเธอคงประมาณ 6 ขวบเห็นจะได้ เอ่ยถามเด็กชายที่นั่งข้างๆเธอ

    "เป็นอะไรก็ได้ที่ปกป้องดูแลเธอได้ไงละ"

    "นี่ฉันพูดจริงนะ ฉันสัญญาว่าจะดูแลเธอตลอดไปเลยนะ จนกว่าวันที่เธอจะบอกกับฉันว่าไม่ต้องการแล้ว"

    แต่ทว่าเด็กหญิงกลับหัวเราะ

    "สัญญาแล้วนะ"เด็กหญิงตอบกลับแล้วยิ้มให้คนที่นั่งข้างๆเธอ


    และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความรุ้สึก และคำสัญญา

     ผมกับโซยองรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อ แม่ของเราสนิทกันมาก โซยองร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก เพราะเธอเป็รโรคหัวใจ ทำให้เธอออกกำลังได้ไม่มากเท่ากับเด็กวัยเดียวกัน บางทีเธอก็ต้องขาดโรงเรียนบ่อยๆ เหตุนี้ก็เลยทำให้เธอเหมือนอยู่ตัวคนเดียว จนกระทั้งมาพบกับผม ผมจำได้ดีกับวันแรกที่เราได้เจอกัน วันที่อากาศสดใส ผมออกมาเล่นข้างนอกคนเดียว ผมเดินเล่นจนหลงทาง ได้แต่นั่งร้องไห้ ไม่รู้ว่านานเท่ไหร่ ก่อนจะได้ยินเสียงร้องเพลงของเด็กหญิงตัวน้อยคนหนึ่ง ทันทีที่ผมเห็นเธอ เด็กที่มีดวงตากลมโตบริสุทธิ์ ผมก้หยุดร้องไทนที และเดินเข้าไปหาเธอโดยไม่รู้ตัว

    โซยองถามผมว่า

    "ทำมัยถึงตาแดงละ เธอบอก

    "ร้องไห้หรอ"

    "เดี๋ยวโซยองจะร้องเพลงให้ฟังนะ"

    แล้วเธอก็ร้องเพลงให้ผมฟัง และครั้งนั้นก้ทำให้ผมจำภาพเธอในใจตลอดมา

      
     ตอนโซยองเป็นเด็กเธอมักจะโดนแกล้งเป็นประจำ จากเจ้าพวกเด็กอันธพาลที่คอยเอาแต่หาเรื่อง แต่ทุกทุกครั้งเธอจะสู้จนขาดใจ ไม่ยอมแพ้แม่แต่ครั้งเดียว แต่พอหลังจากนั้น ทุกครั้งเธอก็กลับมาถึงบ้าน เธอจะนั่งร้องไห้เสมอ และคนที่คอยปลอบใจเธอทุกครั้งก็คือผม เธอดูเข้มแข็งก็จริง แต่จริงแล้วเธออ่อนแอ และร้องไห้เก่งมากเลยละ ผมมองดูเธอทีร้องไห้ และนั่งข้างๆเธอทุกครั้งนั้นคือสิ่งที่ผมทำได้ ด้วยเหตุนี้ผมจึงเป็นเพื่อนที่เธอสนิทมากที่สุด โซยองเคยบอกผมว่า ผมจะเป็นคนเดียวที่เธอจะให้เห็นน้ำตา


    พอเราโตขึ้น สมัยประถม โซยองร่างกายแข็งแรงมากขึ้น สามารถที่จะไปโรงเรียนตามปกติได้ แต่อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องขาดโรงเรียนบ่อยๆ  ทำให้เธอเริ่มที่จะมีเพื่อนมากขึ้น โซยองเปลี่ยนแปลงไปมาก เธอดูสดใส พูดคุยอย่างสนุกสนาน นั้นเป็นครั้งแรกที่การไปโรงเรียนของเธอมีความสุข ผมได้อยู่ห้องเดียวกับโซยอง เพื่อนๆหลายคนก็กล่าวชมเธอไม้เว้นแต่ละวัน ผมดีใจที่ได้เห้นรอยยิ้มนั้น และอยากเห็นต่อๆไป

    ฤดูใบไม้ผลิย่างเข้ามาอีกแล้ว เด็กน้อยสองคนจากที่เคยวิ่งเล่นสนุกสนานก็เติบโตขึ้น ผมกับโซยองตอนนี้อยู่ม.ต้นแล้วละ

    "นี่โซยองไปสวนสาธรณะกันมั้ย"

    ผมเอ่ยถามโซยอง ขณะที่เธอกำลังตั้งอกตั้งใจปักผ้าอยู่ แต่ดูเหมือนจะเป็นการเจาะผ้าให้เป็นรูมากกว่า



    "ดีเลยฉันอยากเปลี่ยนบรรยากาศมั้ง"โซยองตอบกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใสของเธอ

    ผมไม่มีทางรู้เลยว่าคำชวนของผมจะทำให้เรื่องราวระหว่างเราเปลี่นแปลงไป

    ตอนที่เราไปถึงที่สวนสาธรณะกันแล้ว
      มีใครคนหนึ่งยืนอยู่ก่อนเราแล้ว  เด็กชายตัวสูง สง่างาม  นัยตาดำเข้ม ผิวขาว ยืนอยู่ข้างหน้า ผมรู้ดีว่าเค้าคือใคร เค้าหันมาทางมองทางเรา และกล่าวทักทาย

    "มินฮอก" เด็กคนนั้นเอ่ยทักผม และส่งยิ้มมาให้

    "หวัดดีจุนอิน" ผมตอบกลับไป โดยไม่ได้สังเกตเลยว่า เด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างๆผมตอนนี้กำลังหน้าแดง



    เราไม่ได้คุยกันนานนัก เพราะไม่นานจุนอินก็กลับไป โซยองที่นิ่อยู่นานสะกิดผมเบาๆ

    "เมื่อกี้ใครหรอ"เธอถามแล้วก้มหน้าลง เหมือนซ่อนใบหน้าจากความรุ้สึกอะไรอย่าง

    "เพื่อนนะ"

    "แล้วใครละ"โซยองเอยถามโดยไม่มองหน้าผม และผมรู้สึกได้ทันทีว่ามีต้องมีอะไรแน่ๆ

    "ชิน จุนอิน"ผมตอบกลับไปแบบปัดๆ แต่ทว่า ต่อจากนั้นการสนทนาระหว่างผมกับโซยองกลับเป็นเรื่องของจุนอินทั้งสิ้น และจากจุดนี้เองก็ทำให้ทั้งสองคนได้รู้จักกัน

    จุนอินบอกผมว่าเค้ารู้สึกเอ็นดูโซยองเหมือนเป็นน้องสาวคนหนึ่ง เค้ารู้ดีเหมือนกันว่าโซยองร่างกายไม่แข็งแรง เธอเป็นคนเงียบๆทำตัวเป็นคนเข้มแข็งแต่ลึกแล้วเธอต้องการกำลังใจ เลยทำให้เค้าอยากปกป้องเธอ

    "โซยอง ไปด้วยกันมั้ย" ผมมาหาโซยองที่ห้องพร้อมกับจุนอินตอนเลิกเรียนของเย็นวันหนึ่ง
       และตอนนี้จุนอินกับโซยองสนิทกันแล้ว

    "ไปๆๆ"โซยองรีบเก็บของเข้าในกระเป๋า แล้ววิ่งออกมาจากห้องเรียน

    "จะรีบไปไหนเล่า เดี๋ยวก็หกล้มหรอก"จุนอินพูดขึ้นมาแล้วมองดูเธอแบบขำๆ โซยองยิ้มรับแล้วหน้าแดง

    แล้วเราก้เดินไปในเมืองด้วยกัน ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมรู้ได้เลยว่าโซยองมีความสุขขนาดไหน

    ..............................................................


    เย็นวันหนึ่งที่บ้านของมินฮอก

    โซยองมาเล่นที่บ้านผมด้วยวันนี้ เธอดูสดใสมากเลยนะ


    "นี่ มินฮอก เธอคิดว่า จุนอินเป็นยังไงหรอโซยองเอ่ยถามผมตอนที่เรากำลังนั่งกินขนมกันในสวนหลังบ้าน


    "อะไรนะ"


    "ก็ปล่าวหรอก แค่อยากรู้เฉยๆ ก็ผู้หญิงในห้องฉันนะพูดถึงจุนอินกันทั้งนั้น บอกว่าใจดี แล้วก็สุภาพบุรุษ แต่เสียอย่าง เค้าไม่ค่อยคุยกับใคร ฉันว่าไม่เห็นจะจริงเลยเนาะจุนอินคุยเก่งจะตาย
    และก็นอกจากนั้น นายอ่ะ นายก็ดังไม่เบาเหมือนกันนะ"

    โซยองบอกแล้วยิ้มอย่างมีความสุข และเป็นครั้งแรกที่ผมสังเกตว่าโซยองไม่ใช่เด็กหญิงตัวน้อยคนนั้นแล้ว เธอดูมีความสุขมากเหลือเกินเมื่อพูดถึงจุนอิน

    "ก็ดีนะ"


    "งั้น.."โซยองนิ่งเงียบไปสักพักใหญ่เหมือนกัน


    "ฉันคิดว่า.......... ฉันชอบจุนอินแล้วละ"คำพูดที่เหมือนฟ้าผ่า ผ่าลงมาที่กลางใจผม แต่เมื่อเห็นเธอยิ้มขนาดนั้น ผมก็พูดไม่ออก


    "เธอจะช่วยฉันรึป่าว"ในตอนนั้น ผมไม่กล้าแม้จะมองหน้าเธอเลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าทำให้เธอมีความสุขได้ผมก็จะทำ


    หลังจากวันนั้นผมก็ช่วยโซยองทุกทาง ถึงแม้ใจมันจะต่อต้านไม่อยากที่จะทำเลยก็เหอะ ผมเคยคิดว่าถ้าจุนอินไม่ได้ชอบโซยองละ เธอจะเลิกชอบเค้ามั้ย แล้วเธอจะหันมามองผมมั้ยนะ แต่ทุกครั้งที่ผมเห็นเธอยิ้ม ผมก็ไม่สามารถทำลายมันไปได้  จะเป็นไรไปละแค่ผมเจ็บคนเดียวคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ผมบอกตัวเองยังงั้นเสมมา

    ............................

    "โซยองอาการไม่ดีเลย" แม่บอกกับผมตอนที่กลับมาจากโรงเรียนในวันที่โซยองไม่ได้ไปโรงเรียน วันนั้นผมรู้สึกกระวนกระวายใจ


    "อะไรนะครับ"ผมรู้สึกตกใจ


    "โซยองอาการไม่ค่อยดีเท่าไร แม่ของโซยองเพิ่งโทรมาบอก หมอบอกว่าน่าจะผ่าตัด แต่โซยองไม่ยอม"

    แล้ววันนั้นผมก็ไปนอนเฝ้าเธอ แต่สุดท้ายโซยองก็ยังไม่ยอมรับการผ่าตัดอยู่ดีเธอบอกว่าเธอยังไม่พร้อม เธอบอกอีกว่าถ้าการผ่าตัดไม่สำเร็จละจะเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายคุณหมอเลยต้องยอมให้ธอกลับบ้านก่อน เพราะร่างกายเธอค่อนข้างแข็งแรงขึ้นมาบ้างแล้ว


    "โซยองเป็นไงบ้าง"จุนอินนเอ่ยถามโซยองตอนที่เธอมาโรงเรียน


    "ไม่เป็นไรแล้วละ"เธอตอบกลับไปทั้งๆทีใบหน้าของเธอดูซีดเซียว


      โซยองมักทำแบบนี้เสมอ ไม่ว่าจะยังไงเธอไม่อยากให้ใครมองเห็นถึงความอ่อนแอของเธอ แต่เธอเคยบอกผมว่า ผมจะเป็นคนเดียวเท่านั้นที่เธอจะให้เห็นน้ำตา ผมยังจำคำนั้นได้ดีเสมอมา


       

       วันนี้โซยองดูสดใสมากเลย ดูท่าร่างกายเธอคงจะแข็งแรงขึ้นแล้วสินะ


    บ่ายวันนั้นเอง


    "นี่ฉันมีเรื่องจะปรึกษา"โซยองบอกผมตอนพักเที่ยง และบอกให้เดินตามเธอมา ที่ดาดฟ้าของตึก


    "อะไรหรอ"ผมถามเธอตอนที่เราอยุ่กันแค่ 2 คน

    "ฉันจะ.."โซยองเงียบไปอึดใจหนึ่ง และดูเหมือนเธอพยายามรวบรวมความกล้า ที่จะพูดคำนั้นออกมาก ใบหน้าเธอแดงเหมือนลูกมะเขือเทศ เธอกำมือแน่น แล้วก้มหน้าพึมพำอะไรบางอย่าง เหมือนกับบตัวเองให้กล้าที่จะพูดมันออกมา ผมมองโซยอง อย่างงุนงง


    "สารภาพรัก" เปรี๊ยง เหมือนเสียงฟ้าผ่าดังขึ้นในใจของผม สมองเหมืนว่างเปล่า คิดอะไรไม่ออก แต่พอมองหน้าเธอในตอนนั้นแล้ว ผมรู้ดีว่าควรจะทำยังไง


    "แน่ใจแล้วหรอ"ผมถามไปงั้นละ แต่ใจจริงผมอยากให้เธอเปลี่ยใจ หรือไม่ก็บอกผมมาว่า ไม่หรอก ล้อเล่น หรืออะไรก็ได้ ผมภาวนาในใจ


    เธอเงียบไป


    "ไม่รู้สินะ แต่ถ้าฉันไม่พูดฉันคงอึดอัดตายเลย" โซยองว่า แล้วทรุดตัวลงนั่งเหม่อมองออกไปยังที่ใดที่หนึ่ง


    "วันนี้ฉันจะพูด"เธอตัดสินใจในที่สุด


    "และอยากให้ช่วยด้วย"


    "คือว่าช่วยนัดจุนอินได้มั้ย น้าๆๆ"โซยองเดินเข้ามาเกาะแขนผมแล้วทำเสียงอ้อน


    "ขอร้องละ ช่วยฉันหน่อยนะ"ตอนนั้นความรู้สึกของผมมันว่างปล่าว ดูเหมือนจะคิดอะไรไม่ออก แต่เมื่อมองหน้าเธอ ที่ยิ้มแล้วขอร้องผม ผมก็จำใจต้องทำ

    เย็นวันนั้นผมนัดจุนอินไปหาโซยองที่หลังตึก และแอบมองดูพวกเค้าอยู่ที่พุ่มไม้

    ไม่นานนักจุนอินก็มาถึง

    ผมมองดูโซยองสลับกับมองหน้าจุนอิน ผมไม่เคยเห็นเธอดูจริงจังขนาดนี้มาก่อน

    ผมคิดในใจว่า คงมีคนที่จะดูแลโซยองได้ดีกว่าผมแน่ และคนนั้นคงจะเป็นจุนอิน แต่แล้ว

    "ทำไมละ"โซยองตะโกนออกมา แล้วน้ำตาก็ไหลมาจากดวงตาคู่นั้นของเธอ




    "เพราะอะไร"


    "จุนอิน ฉันชอบเธอมากเลยนะ" โซยองมองหน้าจุนอินแล้วเริ่มร้องไห้หนักขึ้น


    จุนอินได้แต่มองดูเธอ และพูดอะไรบางอย่างกับเธอ เค้าทำท่าเหมือนจะเดินหนี

    แล้วจู่ๆโซยองก็ล้มลงไป ผมที่เฝ้ามองดูสถานการณ์นตอนนั้น ตกใจมากเลยวิ่งออกมาจากพุ่มไม้


    "โซยอง"ผมวิ่งเค้าไปอุ้มเธอขึ้นมา ส่วนจุนอินก็ดูตกใจมากเช่นกัน เราสองคนพาโซยองไปโรงพยาบาล

    "โซยองต้องเปลี่ยนหัวใจ" คุณน้า (แม่ของโซยอง)หันมาบอกกับผมและจุนอิน  ใบหน้าคุณน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งนิ่งๆเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่


    "แต่เธอไม่ยอมอยู่ดี"คุณน้าก้มน้าลงแล้วร้องไห้


    "มินฮอก ช่วยน้าทีนะ ทำยังไงก็ได้ ช่วยโซยองที"ผมมองดูคุณน้าที่ร้องไห้อย่างหนัก

    …………………………………………

    "โซยอง ดีขึ้นมั้ย" ผมเอ่ยถามเธอ ตอนที่เข้าไปเยี่ยมเธอ ตอนนี้จุนอินกลับไปแล้ว

    เธอไม่ตอบอะไร แต่มองหน้าผมแทน ผมนั่งลงข้างๆเตียง

    "จุนอินบอกว่าเค้าชอบฉันไม่ได้ เพราะเธอ" ผมอึ้งไปกับคำพูดของเธอ

    เธอไม่หันมามองหน้าผมเลยด้วยซ้ำ ความเจ็บปวดเหมือนมีดหลายพันเล่มแทงเข้าที่กลางใจของผมอีกครั้งเหมือนหัวใจมันจะแตกสลายได้เลยก็ไม่ปาน

    "ไม่จริงใช่มั้ย" หลังจากที่เงียบอยู่นาน เธอก็ถามอีกครั้ง ผมไม่ตอบอะไร


    ขอโทษนะโซยอง ฉันคงตอบอะไรไม่ได้


    "ลืมไปเลย ฉันนึกขึ้นได้ว่ามีธุระ แล้ววันหลังจะมาเยี่ยมใหม่น้า ดูแลตัวเองดีๆละ" ผมเอามือไปจับหัวเธอไว้ แล้วส่งยิ้มให้ โซยองดูจะต้องการคำตอบจากผมในตอนนั้น แต่ผมบอกอะไรเธอไม่ได้จริงๆและสุดท้ายผมเลือกที่จะเดินออกมา
     ผมรู้ดีว่าการเดินออกมาอย่างนั้นมันเหมือนหนีปัญหา แต่ผมไม่กล้าจะมองหน้าเธอ ไม่กล้าบอกเธอว่าผมคิดยังไงเลยด้วยซ้ำ

    ตอนที่ผมจะกลับ ผมแอบได้ยิน คุณหมอคุยกับคุณน้า


    "ผมขอถามนะครับว่า แกมีเรื่องอะไรที่สะเถือนใจมากรึป่าว เพราะผมคิดว่าที่อากการแกทรุดหนักครั้งนี้ อาจมีผลมาจากสภาพจิตใจก็ได้"


    "แกไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเลยค่ะ"คุณน้าพูดด้วยเสียงที่ฟังแทบไม่ได้ศัพท์ มีเสียงสะอื้นตามมาเป็นพักๆ


    "ถ้าเป็นยังงั้นเราต้องรีบหาสาเหตุนะครับ เพราะอาจมีเรื่องบางอย่างที่ทำให้แกไม่สบายใจ คืนผ่าตัดไปแล้วอาจไม่ดีก็ได้"


    "ค่ะ"


    "เราต้องรีบผ่าตัดใช่มั้ยค่ะ"คุณน้าถามด้วยเสีงเครียดๆ อีกครั้ง



    "ใช่ครับ แกต้องได้รับการผ่าตัดด่วน ผมเกรงว่าถ้าปล่อยไว้นานๆอาการอาจทรุดหนักเร็วขึ้น แบบนี้ร่างกายแกอาจจะรับไม่ไหว
      ตอนนี้ทางเราพร้อมแล้วครับ เหลือแต่ตัวแกเองว่าจะพร้อมรึปล่าว ยิ่งตอนนี้สภาพจิตใจแกไม่ค่อยดีเท่าไร  คุณทราบดีนะครับว่า ถ้าสภาพจิตใจคนไข้ไม่เข้มแข็งพอสำหรับที่จะรับการผ่าตัด และเดิมแกก็ไม่ยอมอยู่แล้ว ขื่นบังคับแกผ่าตัดมันอาจส่งผลไม่ดีก็ได้  ผมอยากให้ทุกอย่างพร้อมก่อนการผ่าตัดนะครับ"

    "ความเข้มแข็งจากตัวคนไข้เอง และกำลังใจจากคนรอบข้างเป็นสิ่งสำคัญนะครับ"คุณหมอพูดย้ำอีกครั้ง

    "ค่ะ" คุณน้าตอบกลับไปด้วยเสียงที่สั่นเทา

    ผมที่ยืนฟังรู้สาเหตุครั้งนี้ดีแก่ใจว่าเพราะอะไร

    ...............................................

    "จุนอิน ฉันขอร้องแกได้มั้ย ช่วยทำให้โซยองยอมรับการผ่าตัดที"ผมมองหน้าจุนอิน แล้วขอร้องหมอนั่น


    "ขอโทษ ฉันคงช่วยไม่ได้"จุนอินบอกผมแล้วหันหน้าหนี


    "แกเคยบอกฉันใช่มั้ยว่าแกก็อยากปกป้องเธอ"


    "แต่แกก็ทำได้ไม่ใช่หรอ"จุนอินบอกกับผม


    "ถึงฉันทำยังไงโซยองก้ไม่มีวันยอม เพราะคนที่เค้าต้องการไม่ใช่ฉัน"


    พอพูดจบผมก็เดินออกมาทันที


    หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้เจอจุนอินและโซยองเลย



    เสียงโทรศัพดังขึ้นในตอนกลางวันของวันหนึ่ง


    "มินฮอก โซยองได้รับการผ่าตัดแล้ว" แม่เดินเค้ามาบอกผมในห้อง ผมแทบจะหยุดหายใจเลยตรงนั้น แล้วผลละเป็นไง ใจผมเต้นไม่เป็ยจังหวะ รอให้แม่เอ่ยปากบอกผม


    "โซยองผ่าตัดสำเร็จ"แม่บอกในที่สุด ผมแทบจะตะโกนลั่นบ้านด้วยความดีใจ  ผมไม่รอช้าที่จะไปหาเธอที่โรงพยาบาล ความรู้สึกว่าไม่กล้าเจอหน้าเธอมันหายไป


    "โซยอง" ผมเปิดประตูเข้ามาในห้อง และภาพที่ผมเห็นคือจุนอินนั่งอยุ่ข้างๆเตียงเธอ

    ผมสำรวจมองเธออีกครั้ง น้ำตาพลานจะไหลออกมา โซยองดูสุขภาพแข็งแรง และสดใสมาก


    "ไม่ยอมมาเยี่ยมกันเลยนะ"เธอบอกแล้วมองหน้าผมแบบงอนๆ


    "ขอโทษ"


    "ว่าแต่ ผ่าตัดแล้วดีขึ้นใช่มั้ย"


    "ก็แหงสิ"เธอตอบกลับมาแล้วยิ้มให้


    "นี่อยู่กัน 2 คนไปก่อนละกันนะ ฉันมีธุระต้องไปนะ แล้วจะมาเยี่ยมใหม่นะ"จุนอินบอกกับเรา แล้วเดินออกจากห้อง โซยองยิ้มให้เค้า


    "มานี่หน่อย"โซยองเรียกผมให้ไปนั่งข้างเตียง หลังจากจุนอินเดินออกไปแล้ว


    "ฉันผ่าตัด นายก็ไม่รู้เลยหรอไงหา" โซยองพูดแล้วตีไหล่ผม


    "ฉันขอโทษ"


    "ฉันล้อเล่นน่า อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ"โซยองหันมาหยิกแก้มผม


    "นี่รู้มะ"


    "อารายหรอ"


    "จุนอินเป็นคนบอกให้ฉันผ่าตัดละ และฉันก็รู้ด้วยว่าที่เค้ามาพูดแบบนี้เพราะเธอ" โซยองมองหน้าผม ด้วยดวงตาที่เศร้าๆ



    "ไม่ใช่หรอกน่า จุนอินเค้าอยากทำเองมากกว่า"


     


    "จุนอินบอกว่า เค้าอยากให้ฉันผ่าตัด เค้าจะอยู่ข้างๆฉัน ไม่ต้องกลัว"


    "รู้มั้ยแค่คำพูดของเค้ามันทำให้ฉันมีกำลังใจและพร้อมที่จะผ่าตัดเลยละ"


    "ฉันรักเค้ามากเลยนะ มากจนยอมทำทุกอย่างให้ได้เลย ตอนที่เค้ามาเยี่ยมฉันก่อนผ่าตัด ฉันถามเค้าอีกครั้ง ว่าคบกับฉันได้มั้ย ฉันรู้ดีว่าที่เค้าตอบตกลงเพราะเค้าอยากให้ฉันผ่าตัด แต่ยังไงก็ตามฉันก็ดีใจนะ"

    โซยองบอกกับผมในที่สุด เธอก้มหน้าลง ล้วหยดน้ำตาเม็ดเล็กๆก็ไหลออกมา

    "ตลกดีเนาะ ขนาดฉันรู้ถึงยังงั้น ฉันก็ยังเชื่ออยู่ดี ยังไงฉันคงไม่ผิดใช่มั้ยถ้าฉันขอคิดว่าอย่างน้อยเค้าก็ต้องรักฉันบ้างละ"

    โซยองฝืนยิ้มออกมา ผมอยากกอดเธอเอาไว้ ไม่อยากเห็นน้ำตานั้นอีก แต่ผมทำได้เพียงแค่จับมือเธอไว้แน่นๆ



    ผมเคยคิดว่าไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ไม่สามารถยืนแทนที่โซยองได้
     หลายปีมานี้ผมทนเก็บความรู้สึกว่า รักเธอ เอาไว้ได้ และพยายามอยู่ข้างเธอให้ได้นานที่สุด  แม้จะมีผู้หญิงหลายคนที่เข้ามาสนใจผมก็ตาม แต่ผมก็ไม่เคยหันไปมองพวกเธอเลยด้วยซ้ำ มีหลายครั้งเหมือนกันที่ผมแอบดีใจตอนที่โซยองเลิกกับจุนอิน แต่ทุกครั้งเธอเลิกกับเค้าเธอก็จะร้องไห้อย่างหนัก และร่างกายก็จะทรุดลง จนผมทนดูไม่ได้ ผมก็เลยขอร้องจุนอินให้อยู่ข้างๆเธอ เค้าเองก็ไม่อยากเห็นเธอแย่ลงเเหมือนกัน โซยองเองก็รู้ดีถึงเหตุผลนี้เหมือนกัน

    ผมรู้ดี
     ถึงแม้ผมพยายามยังไงโซยองก้ไม่มองมาอยู่ดี ผมเลยทำได้แค่เพียงอยู่ข้างๆเธอ และช่วยเหลือให้

    ได้มากที่สุดเพราะผมไม่อยากเห็นน้ำตาของคนที่ผมรักเท่านั้นเอง

    แต่เมื่อวันหนึ่งผมก็ได้พบกับใครคนหนึ่งเข้า จากที่ไม่คิดจะมองใครอีกแล้ว แต่ผมกลับมองเธอ
     
     

    "โอ้ย" ผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งเข้ามาชนผมอย่างจัง และลงไปนั่งกองกับพื้น ยัยเบ๊าะเนี่ยใครกันนะ  ผมกะจะหันไปด่าเธอสะหน่อย

    แต่พอมองหน้าเธอคนนั้น ดวงตากลมโต ที่ใส่สื่อบริสุทธิ์ ที่จ้องมองผม ทำให้ใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ ผมอยากรู้จักเธอให้มากกว่านี้จัง ผมเลยคิดจะแกล้งเธอเล่นๆ แต่มันไม่เป็นยังงั้นสิ เธอกลับดูโกรธเอามากๆ

    "นายคิดพวกนายเป็นใครกันหา"
    เป็นครั้งแรกที่มีคนกล้าพูดกับผมยังงี้ ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่กล้าพูดแบบนี้กับผม เธอพูดแล้วไม่แสดงออกถึงความกลัวใดๆเลย


    จุนอินเข้ามาช่วยเธอไว้ และผมรู้ในทันทีว่าหมอนั่นสนใจเธอ
    ถ้าโซยองรู้เรื่องนี้เธอจะต้องเสียใจ ผมจะอยู่เฉยไม่ได้ ผมเลยเอาแต่หาเรื่องผู้หญิงคนนั้น เพื่อกันให้เธอห่างๆกับจุนอิน แต่กลับเป็นผมสะเองที่เข้าไปหาเธอ ผมไม่เคยเข้าหาผู้หญิคนไหนก่อนเลย และไม่เคยมองใครนอกจากโซยองด้วย ผมเริ่มแปลกใจกับตัวเอง

    ทุกครั้งที่ถามตัวผมมั่นใจเสมอว่า คนที่ผมรักมีแต่โซยอองเท่านั้น ผมบอกกับตัวเองเสมอว่าจะเป็นฝ่ายรอจนกว่าเธอจะหันมาเอง แล้วทำไมวันนี้ถึงเริ่มไม่มั่นใจ เมื่อได้รู้จักกับผู้หญิงที่ชื่อ คัง แฮมินคนนี้ละ

    .....................................................


    เด๋วจามาอัพใหม่น้าค๊า

    แบบว่าคอมมานเน่าๆไงมะรุ

    บางทีก๊อบมาจากเวิทมาน

    พอเซฟอล้วมันก็เป็นซ้ำๆกัน

    แก้ไม่ได้สะที เง่ว เลย

    เด๋วจามาอัพใหม่น้าค๊า

    แบบว่าคอมมานเน่าๆไงมะรุ

    บางทีก๊อบมาจากเวิทมาน

    พอเซฟอล้วมันก็เป็นซ้ำๆกัน

    แก้ไม่ได้สะที เง่ว เลย

    ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน

    "มินฮอกโตขึ้นเธออยากเป็นอะไร" เด็กหญิงตัวน้อยผู้มีดวงตากลมโต และผิวขาวอมชมพู ดูจากหน้าตาแล้วเธอคงประมาณ 6 ขวบเห็นจะได้ เอ่ยถามเด็กชายที่นั่งข้างๆเธอ

    "เป็นอะไรก็ได้ที่ปกป้องดูแลเธอได้ไงละ"

    "นี่ฉันพูดจริงนะ ฉันสัญญาว่าจะดูแลเธอตลอดไปเลยนะ จนกว่าวันที่เธอจะบอกกับฉันว่าไม่ต้องการแล้ว"

    แต่ทว่าเด็กหญิงกลับหัวเราะ

    "สัญญาแล้วนะ"เด็กหญิงตอบกลับแล้วยิ้มให้คนที่นั่งข้างๆเธอ


    และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความรุ้สึก และคำสัญญา

     ผมกับโซยองรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อ แม่ของเราสนิทกันมาก โซยองร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก เพราะเธอเป็รโรคหัวใจ ทำให้เธอออกกำลังได้ไม่มากเท่ากับเด็กวัยเดียวกัน บางทีเธอก็ต้องขาดโรงเรียนบ่อยๆ เหตุนี้ก็เลยทำให้เธอเหมือนอยู่ตัวคนเดียว จนกระทั้งมาพบกับผม ผมจำได้ดีกับวันแรกที่เราได้เจอกัน วันที่อากาศสดใส ผมออกมาเล่นข้างนอกคนเดียว ผมเดินเล่นจนหลงทาง ได้แต่นั่งร้องไห้ ไม่รู้ว่านานเท่ไหร่ ก่อนจะได้ยินเสียงร้องเพลงของเด็กหญิงตัวน้อยคนหนึ่ง ทันทีที่ผมเห็นเธอ เด็กที่มีดวงตากลมโตบริสุทธิ์ ผมก้หยุดร้องไทนที และเดินเข้าไปหาเธอโดยไม่รู้ตัว

    โซยองถามผมว่า

    "ทำมัยถึงตาแดงละ เธอบอก

    "ร้องไห้หรอ"

    "เดี๋ยวโซยองจะร้องเพลงให้ฟังนะ"

    แล้วเธอก็ร้องเพลงให้ผมฟัง และครั้งนั้นก้ทำให้ผมจำภาพเธอในใจตลอดมา

      
     ตอนโซยองเป็นเด็กเธอมักจะโดนแกล้งเป็นประจำ จากเจ้าพวกเด็กอันธพาลที่คอยเอาแต่หาเรื่อง แต่ทุกทุกครั้งเธอจะสู้จนขาดใจ ไม่ยอมแพ้แม่แต่ครั้งเดียว แต่พอหลังจากนั้น ทุกครั้งเธอก็กลับมาถึงบ้าน เธอจะนั่งร้องไห้เสมอ และคนที่คอยปลอบใจเธอทุกครั้งก็คือผม เธอดูเข้มแข็งก็จริง แต่จริงแล้วเธออ่อนแอ และร้องไห้เก่งมากเลยละ ผมมองดูเธอทีร้องไห้ และนั่งข้างๆเธอทุกครั้งนั้นคือสิ่งที่ผมทำได้ ด้วยเหตุนี้ผมจึงเป็นเพื่อนที่เธอสนิทมากที่สุด โซยองเคยบอกผมว่า ผมจะเป็นคนเดียวที่เธอจะให้เห็นน้ำตา


    พอเราโตขึ้น สมัยประถม โซยองร่างกายแข็งแรงมากขึ้น สามารถที่จะไปโรงเรียนตามปกติได้ แต่อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องขาดโรงเรียนบ่อยๆ  ทำให้เธอเริ่มที่จะมีเพื่อนมากขึ้น โซยองเปลี่ยนแปลงไปมาก เธอดูสดใส พูดคุยอย่างสนุกสนาน นั้นเป็นครั้งแรกที่การไปโรงเรียนของเธอมีความสุข ผมได้อยู่ห้องเดียวกับโซยอง เพื่อนๆหลายคนก็กล่าวชมเธอไม้เว้นแต่ละวัน ผมดีใจที่ได้เห้นรอยยิ้มนั้น และอยากเห็นต่อๆไป

    ฤดูใบไม้ผลิย่างเข้ามาอีกแล้ว เด็กน้อยสองคนจากที่เคยวิ่งเล่นสนุกสนานก็เติบโตขึ้น ผมกับโซยองตอนนี้อยู่ม.ต้นแล้วละ

    "นี่โซยองไปสวนสาธรณะกันมั้ย"

    ผมเอ่ยถามโซยอง ขณะที่เธอกำลังตั้งอกตั้งใจปักผ้าอยู่ แต่ดูเหมือนจะเป็นการเจาะผ้าให้เป็นรูมากกว่า



    "ดีเลยฉันอยากเปลี่ยนบรรยากาศมั้ง"โซยองตอบกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใสของเธอ

    ผมไม่มีทางรู้เลยว่าคำชวนของผมจะทำให้เรื่องราวระหว่างเราเปลี่นแปลงไป

    ตอนที่เราไปถึงที่สวนสาธรณะกันแล้ว
      มีใครคนหนึ่งยืนอยู่ก่อนเราแล้ว  เด็กชายตัวสูง สง่างาม  นัยตาดำเข้ม ผิวขาว ยืนอยู่ข้างหน้า ผมรู้ดีว่าเค้าคือใคร เค้าหันมาทางมองทางเรา และกล่าวทักทาย

    "มินฮอก" เด็กคนนั้นเอ่ยทักผม และส่งยิ้มมาให้

    "หวัดดีจุนอิน" ผมตอบกลับไป โดยไม่ได้สังเกตเลยว่า เด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างๆผมตอนนี้กำลังหน้าแดง



    เราไม่ได้คุยกันนานนัก เพราะไม่นานจุนอินก็กลับไป โซยองที่นิ่อยู่นานสะกิดผมเบาๆ

    "เมื่อกี้ใครหรอ"เธอถามแล้วก้มหน้าลง เหมือนซ่อนใบหน้าจากความรุ้สึกอะไรอย่าง

    "เพื่อนนะ"

    "แล้วใครละ"โซยองเอยถามโดยไม่มองหน้าผม และผมรู้สึกได้ทันทีว่ามีต้องมีอะไรแน่ๆ

    "ชิน จุนอิน"ผมตอบกลับไปแบบปัดๆ แต่ทว่า ต่อจากนั้นการสนทนาระหว่างผมกับโซยองกลับเป็นเรื่องของจุนอินทั้งสิ้น และจากจุดนี้เองก็ทำให้ทั้งสองคนได้รู้จักกัน

    จุนอินบอกผมว่าเค้ารู้สึกเอ็นดูโซยองเหมือนเป็นน้องสาวคนหนึ่ง เค้ารู้ดีเหมือนกันว่าโซยองร่างกายไม่แข็งแรง เธอเป็นคนเงียบๆทำตัวเป็นคนเข้มแข็งแต่ลึกแล้วเธอต้องการกำลังใจ เลยทำให้เค้าอยากปกป้องเธอ

    "โซยอง ไปด้วยกันมั้ย" ผมมาหาโซยองที่ห้องพร้อมกับจุนอินตอนเลิกเรียนของเย็นวันหนึ่ง
       และตอนนี้จุนอินกับโซยองสนิทกันแล้ว

    "ไปๆๆ"โซยองรีบเก็บของเข้าในกระเป๋า แล้ววิ่งออกมาจากห้องเรียน

    "จะรีบไปไหนเล่า เดี๋ยวก็หกล้มหรอก"จุนอินพูดขึ้นมาแล้วมองดูเธอแบบขำๆ โซยองยิ้มรับแล้วหน้าแดง

    แล้วเราก้เดินไปในเมืองด้วยกัน ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมรู้ได้เลยว่าโซยองมีความสุขขนาดไหน

    ..............................................................


    เย็นวันหนึ่งที่บ้านของมินฮอก

    โซยองมาเล่นที่บ้านผมด้วยวันนี้ เธอดูสดใสมากเลยนะ


    "นี่ มินฮอก เธอคิดว่า จุนอินเป็นยังไงหรอโซยองเอ่ยถามผมตอนที่เรากำลังนั่งกินขนมกันในสวนหลังบ้าน


    "อะไรนะ"


    "ก็ปล่าวหรอก แค่อยากรู้เฉยๆ ก็ผู้หญิงในห้องฉันนะพูดถึงจุนอินกันทั้งนั้น บอกว่าใจดี แล้วก็สุภาพบุรุษ แต่เสียอย่าง เค้าไม่ค่อยคุยกับใคร ฉันว่าไม่เห็นจะจริงเลยเนาะจุนอินคุยเก่งจะตาย
    และก็นอกจากนั้น นายอ่ะ นายก็ดังไม่เบาเหมือนกันนะ"

    โซยองบอกแล้วยิ้มอย่างมีความสุข และเป็นครั้งแรกที่ผมสังเกตว่าโซยองไม่ใช่เด็กหญิงตัวน้อยคนนั้นแล้ว เธอดูมีความสุขมากเหลือเกินเมื่อพูดถึงจุนอิน

    "ก็ดีนะ"


    "งั้น.."โซยองนิ่งเงียบไปสักพักใหญ่เหมือนกัน


    "ฉันคิดว่า.......... ฉันชอบจุนอินแล้วละ"คำพูดที่เหมือนฟ้าผ่า ผ่าลงมาที่กลางใจผม แต่เมื่อเห็นเธอยิ้มขนาดนั้น ผมก็พูดไม่ออก


    "เธอจะช่วยฉันรึป่าว"ในตอนนั้น ผมไม่กล้าแม้จะมองหน้าเธอเลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าทำให้เธอมีความสุขได้ผมก็จะทำ


    หลังจากวันนั้นผมก็ช่วยโซยองทุกทาง ถึงแม้ใจมันจะต่อต้านไม่อยากที่จะทำเลยก็เหอะ ผมเคยคิดว่าถ้าจุนอินไม่ได้ชอบโซยองละ เธอจะเลิกชอบเค้ามั้ย แล้วเธอจะหันมามองผมมั้ยนะ แต่ทุกครั้งที่ผมเห็นเธอยิ้ม ผมก็ไม่สามารถทำลายมันไปได้  จะเป็นไรไปละแค่ผมเจ็บคนเดียวคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ผมบอกตัวเองยังงั้นเสมมา

    ............................

    "โซยองอาการไม่ดีเลย" แม่บอกกับผมตอนที่กลับมาจากโรงเรียนในวันที่โซยองไม่ได้ไปโรงเรียน วันนั้นผมรู้สึกกระวนกระวายใจ


    "อะไรนะครับ"ผมรู้สึกตกใจ


    "โซยองอาการไม่ค่อยดีเท่าไร แม่ของโซยองเพิ่งโทรมาบอก หมอบอกว่าน่าจะผ่าตัด แต่โซยองไม่ยอม"

    แล้ววันนั้นผมก็ไปนอนเฝ้าเธอ แต่สุดท้ายโซยองก็ยังไม่ยอมรับการผ่าตัดอยู่ดีเธอบอกว่าเธอยังไม่พร้อม เธอบอกอีกว่าถ้าการผ่าตัดไม่สำเร็จละจะเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายคุณหมอเลยต้องยอมให้ธอกลับบ้านก่อน เพราะร่างกายเธอค่อนข้างแข็งแรงขึ้นมาบ้างแล้ว


    "โซยองเป็นไงบ้าง"จุนอินนเอ่ยถามโซยองตอนที่เธอมาโรงเรียน


    "ไม่เป็นไรแล้วละ"เธอตอบกลับไปทั้งๆทีใบหน้าของเธอดูซีดเซียว


      โซยองมักทำแบบนี้เสมอ ไม่ว่าจะยังไงเธอไม่อยากให้ใครมองเห็นถึงความอ่อนแอของเธอ แต่เธอเคยบอกผมว่า ผมจะเป็นคนเดียวเท่านั้นที่เธอจะให้เห็นน้ำตา ผมยังจำคำนั้นได้ดีเสมอมา


       

       วันนี้โซยองดูสดใสมากเลย ดูท่าร่างกายเธอคงจะแข็งแรงขึ้นแล้วสินะ


    บ่ายวันนั้นเอง


    "นี่ฉันมีเรื่องจะปรึกษา"โซยองบอกผมตอนพักเที่ยง และบอกให้เดินตามเธอมา ที่ดาดฟ้าของตึก


    "อะไรหรอ"ผมถามเธอตอนที่เราอยุ่กันแค่ 2 คน

    "ฉันจะ.."โซยองเงียบไปอึดใจหนึ่ง และดูเหมือนเธอพยายามรวบรวมความกล้า ที่จะพูดคำนั้นออกมาก ใบหน้าเธอแดงเหมือนลูกมะเขือเทศ เธอกำมือแน่น แล้วก้มหน้าพึมพำอะไรบางอย่าง เหมือนกับบตัวเองให้กล้าที่จะพูดมันออกมา ผมมองโซยอง อย่างงุนงง


    "สารภาพรัก" เปรี๊ยง เหมือนเสียงฟ้าผ่าดังขึ้นในใจของผม สมองเหมืนว่างเปล่า คิดอะไรไม่ออก แต่พอมองหน้าเธอในตอนนั้นแล้ว ผมรู้ดีว่าควรจะทำยังไง


    "แน่ใจแล้วหรอ"ผมถามไปงั้นละ แต่ใจจริงผมอยากให้เธอเปลี่ยใจ หรือไม่ก็บอกผมมาว่า ไม่หรอก ล้อเล่น หรืออะไรก็ได้ ผมภาวนาในใจ


    เธอเงียบไป


    "ไม่รู้สินะ แต่ถ้าฉันไม่พูดฉันคงอึดอัดตายเลย" โซยองว่า แล้วทรุดตัวลงนั่งเหม่อมองออกไปยังที่ใดที่หนึ่ง


    "วันนี้ฉันจะพูด"เธอตัดสินใจในที่สุด


    "และอยากให้ช่วยด้วย"


    "คือว่าช่วยนัดจุนอินได้มั้ย น้าๆๆ"โซยองเดินเข้ามาเกาะแขนผมแล้วทำเสียงอ้อน


    "ขอร้องละ ช่วยฉันหน่อยนะ"ตอนนั้นความรู้สึกของผมมันว่างปล่าว ดูเหมือนจะคิดอะไรไม่ออก แต่เมื่อมองหน้าเธอ ที่ยิ้มแล้วขอร้องผม ผมก็จำใจต้องทำ

    เย็นวันนั้นผมนัดจุนอินไปหาโซยองที่หลังตึก และแอบมองดูพวกเค้าอยู่ที่พุ่มไม้

    ไม่นานนักจุนอินก็มาถึง

    ผมมองดูโซยองสลับกับมองหน้าจุนอิน ผมไม่เคยเห็นเธอดูจริงจังขนาดนี้มาก่อน

    ผมคิดในใจว่า คงมีคนที่จะดูแลโซยองได้ดีกว่าผมแน่ และคนนั้นคงจะเป็นจุนอิน แต่แล้ว

    "ทำไมละ"โซยองตะโกนออกมา แล้วน้ำตาก็ไหลมาจากดวงตาคู่นั้นของเธอ




    "เพราะอะไร"


    "จุนอิน ฉันชอบเธอมากเลยนะ" โซยองมองหน้าจุนอินแล้วเริ่มร้องไห้หนักขึ้น


    จุนอินได้แต่มองดูเธอ และพูดอะไรบางอย่างกับเธอ เค้าทำท่าเหมือนจะเดินหนี

    แล้วจู่ๆโซยองก็ล้มลงไป ผมที่เฝ้ามองดูสถานการณ์นตอนนั้น ตกใจมากเลยวิ่งออกมาจากพุ่มไม้


    "โซยอง"ผมวิ่งเค้าไปอุ้มเธอขึ้นมา ส่วนจุนอินก็ดูตกใจมากเช่นกัน เราสองคนพาโซยองไปโรงพยาบาล

    "โซยองต้องเปลี่ยนหัวใจ" คุณน้า (แม่ของโซยอง)หันมาบอกกับผมและจุนอิน  ใบหน้าคุณน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งนิ่งๆเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่


    "แต่เธอไม่ยอมอยู่ดี"คุณน้าก้มน้าลงแล้วร้องไห้


    "มินฮอก ช่วยน้าทีนะ ทำยังไงก็ได้ ช่วยโซยองที"ผมมองดูคุณน้าที่ร้องไห้อย่างหนัก

    …………………………………………

    "โซยอง ดีขึ้นมั้ย" ผมเอ่ยถามเธอ ตอนที่เข้าไปเยี่ยมเธอ ตอนนี้จุนอินกลับไปแล้ว

    เธอไม่ตอบอะไร แต่มองหน้าผมแทน ผมนั่งลงข้างๆเตียง

    "จุนอินบอกว่าเค้าชอบฉันไม่ได้ เพราะเธอ" ผมอึ้งไปกับคำพูดของเธอ

    เธอไม่หันมามองหน้าผมเลยด้วยซ้ำ ความเจ็บปวดเหมือนมีดหลายพันเล่มแทงเข้าที่กลางใจของผมอีกครั้งเหมือนหัวใจมันจะแตกสลายได้เลยก็ไม่ปาน

    "ไม่จริงใช่มั้ย" หลังจากที่เงียบอยู่นาน เธอก็ถามอีกครั้ง ผมไม่ตอบอะไร


    ขอโทษนะโซยอง ฉันคงตอบอะไรไม่ได้


    "ลืมไปเลย ฉันนึกขึ้นได้ว่ามีธุระ แล้ววันหลังจะมาเยี่ยมใหม่น้า ดูแลตัวเองดีๆละ" ผมเอามือไปจับหัวเธอไว้ แล้วส่งยิ้มให้ โซยองดูจะต้องการคำตอบจากผมในตอนนั้น แต่ผมบอกอะไรเธอไม่ได้จริงๆและสุดท้ายผมเลือกที่จะเดินออกมา
     ผมรู้ดีว่าการเดินออกมาอย่างนั้นมันเหมือนหนีปัญหา แต่ผมไม่กล้าจะมองหน้าเธอ ไม่กล้าบอกเธอว่าผมคิดยังไงเลยด้วยซ้ำ

    ตอนที่ผมจะกลับ ผมแอบได้ยิน คุณหมอคุยกับคุณน้า


    "ผมขอถามนะครับว่า แกมีเรื่องอะไรที่สะเถือนใจมากรึป่าว เพราะผมคิดว่าที่อากการแกทรุดหนักครั้งนี้ อาจมีผลมาจากสภาพจิตใจก็ได้"


    "แกไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเลยค่ะ"คุณน้าพูดด้วยเสียงที่ฟังแทบไม่ได้ศัพท์ มีเสียงสะอื้นตามมาเป็นพักๆ


    "ถ้าเป็นยังงั้นเราต้องรีบหาสาเหตุนะครับ เพราะอาจมีเรื่องบางอย่างที่ทำให้แกไม่สบายใจ คืนผ่าตัดไปแล้วอาจไม่ดีก็ได้"


    "ค่ะ"


    "เราต้องรีบผ่าตัดใช่มั้ยค่ะ"คุณน้าถามด้วยเสีงเครียดๆ อีกครั้ง



    "ใช่ครับ แกต้องได้รับการผ่าตัดด่วน ผมเกรงว่าถ้าปล่อยไว้นานๆอาการอาจทรุดหนักเร็วขึ้น แบบนี้ร่างกายแกอาจจะรับไม่ไหว
      ตอนนี้ทางเราพร้อมแล้วครับ เหลือแต่ตัวแกเองว่าจะพร้อมรึปล่าว ยิ่งตอนนี้สภาพจิตใจแกไม่ค่อยดีเท่าไร  คุณทราบดีนะครับว่า ถ้าสภาพจิตใจคนไข้ไม่เข้มแข็งพอสำหรับที่จะรับการผ่าตัด และเดิมแกก็ไม่ยอมอยู่แล้ว ขื่นบังคับแกผ่าตัดมันอาจส่งผลไม่ดีก็ได้  ผมอยากให้ทุกอย่างพร้อมก่อนการผ่าตัดนะครับ"

    "ความเข้มแข็งจากตัวคนไข้เอง และกำลังใจจากคนรอบข้างเป็นสิ่งสำคัญนะครับ"คุณหมอพูดย้ำอีกครั้ง

    "ค่ะ" คุณน้าตอบกลับไปด้วยเสียงที่สั่นเทา

    ผมที่ยืนฟังรู้สาเหตุครั้งนี้ดีแก่ใจว่าเพราะอะไร

    ...............................................

    "จุนอิน ฉันขอร้องแกได้มั้ย ช่วยทำให้โซยองยอมรับการผ่าตัดที"ผมมองหน้าจุนอิน แล้วขอร้องหมอนั่น


    "ขอโทษ ฉันคงช่วยไม่ได้"จุนอินบอกผมแล้วหันหน้าหนี


    "แกเคยบอกฉันใช่มั้ยว่าแกก็อยากปกป้องเธอ"


    "แต่แกก็ทำได้ไม่ใช่หรอ"จุนอินบอกกับผม


    "ถึงฉันทำยังไงโซยองก้ไม่มีวันยอม เพราะคนที่เค้าต้องการไม่ใช่ฉัน"


    พอพูดจบผมก็เดินออกมาทันที


    หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้เจอจุนอินและโซยองเลย



    เสียงโทรศัพดังขึ้นในตอนกลางวันของวันหนึ่ง


    "มินฮอก โซยองได้รับการผ่าตัดแล้ว" แม่เดินเค้ามาบอกผมในห้อง ผมแทบจะหยุดหายใจเลยตรงนั้น แล้วผลละเป็นไง ใจผมเต้นไม่เป็ยจังหวะ รอให้แม่เอ่ยปากบอกผม


    "โซยองผ่าตัดสำเร็จ"แม่บอกในที่สุด ผมแทบจะตะโกนลั่นบ้านด้วยความดีใจ  ผมไม่รอช้าที่จะไปหาเธอที่โรงพยาบาล ความรู้สึกว่าไม่กล้าเจอหน้าเธอมันหายไป


    "โซยอง" ผมเปิดประตูเข้ามาในห้อง และภาพที่ผมเห็นคือจุนอินนั่งอยุ่ข้างๆเตียงเธอ

    ผมสำรวจมองเธออีกครั้ง น้ำตาพลานจะไหลออกมา โซยองดูสุขภาพแข็งแรง และสดใสมาก


    "ไม่ยอมมาเยี่ยมกันเลยนะ"เธอบอกแล้วมองหน้าผมแบบงอนๆ


    "ขอโทษ"


    "ว่าแต่ ผ่าตัดแล้วดีขึ้นใช่มั้ย"


    "ก็แหงสิ"เธอตอบกลับมาแล้วยิ้มให้


    "นี่อยู่กัน 2 คนไปก่อนละกันนะ ฉันมีธุระต้องไปนะ แล้วจะมาเยี่ยมใหม่นะ"จุนอินบอกกับเรา แล้วเดินออกจากห้อง โซยองยิ้มให้เค้า


    "มานี่หน่อย"โซยองเรียกผมให้ไปนั่งข้างเตียง หลังจากจุนอินเดินออกไปแล้ว


    "ฉันผ่าตัด นายก็ไม่รู้เลยหรอไงหา" โซยองพูดแล้วตีไหล่ผม


    "ฉันขอโทษ"


    "ฉันล้อเล่นน่า อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ"โซยองหันมาหยิกแก้มผม


    "นี่รู้มะ"


    "อารายหรอ"


    "จุนอินเป็นคนบอกให้ฉันผ่าตัดละ และฉันก็รู้ด้วยว่าที่เค้ามาพูดแบบนี้เพราะเธอ" โซยองมองหน้าผม ด้วยดวงตาที่เศร้าๆ



    "ไม่ใช่หรอกน่า จุนอินเค้าอยากทำเองมากกว่า"


     


    "จุนอินบอกว่า เค้าอยากให้ฉันผ่าตัด เค้าจะอยู่ข้างๆฉัน ไม่ต้องกลัว"


    "รู้มั้ยแค่คำพูดของเค้ามันทำให้ฉันมีกำลังใจและพร้อมที่จะผ่าตัดเลยละ"


    "ฉันรักเค้ามากเลยนะ มากจนยอมทำทุกอย่างให้ได้เลย ตอนที่เค้ามาเยี่ยมฉันก่อนผ่าตัด ฉันถามเค้าอีกครั้ง ว่าคบกับฉันได้มั้ย ฉันรู้ดีว่าที่เค้าตอบตกลงเพราะเค้าอยากให้ฉันผ่าตัด แต่ยังไงก็ตามฉันก็ดีใจนะ"

    โซยองบอกกับผมในที่สุด เธอก้มหน้าลง ล้วหยดน้ำตาเม็ดเล็กๆก็ไหลออกมา

    "ตลกดีเนาะ ขนาดฉันรู้ถึงยังงั้น ฉันก็ยังเชื่ออยู่ดี ยังไงฉันคงไม่ผิดใช่มั้ยถ้าฉันขอคิดว่าอย่างน้อยเค้าก็ต้องรักฉันบ้างละ"

    โซยองฝืนยิ้มออกมา ผมอยากกอดเธอเอาไว้ ไม่อยากเห็นน้ำตานั้นอีก แต่ผมทำได้เพียงแค่จับมือเธอไว้แน่นๆ



    ผมเคยคิดว่าไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ไม่สามารถยืนแทนที่โซยองได้
     หลายปีมานี้ผมทนเก็บความรู้สึกว่า รักเธอ เอาไว้ได้ และพยายามอยู่ข้างเธอให้ได้นานที่สุด  แม้จะมีผู้หญิงหลายคนที่เข้ามาสนใจผมก็ตาม แต่ผมก็ไม่เคยหันไปมองพวกเธอเลยด้วยซ้ำ มีหลายครั้งเหมือนกันที่ผมแอบดีใจตอนที่โซยองเลิกกับจุนอิน แต่ทุกครั้งเธอเลิกกับเค้าเธอก็จะร้องไห้อย่างหนัก และร่างกายก็จะทรุดลง จนผมทนดูไม่ได้ ผมก็เลยขอร้องจุนอินให้อยู่ข้างๆเธอ เค้าเองก็ไม่อยากเห็นเธอแย่ลงเเหมือนกัน โซยองเองก็รู้ดีถึงเหตุผลนี้เหมือนกัน

    ผมรู้ดี
     ถึงแม้ผมพยายามยังไงโซยองก้ไม่มองมาอยู่ดี ผมเลยทำได้แค่เพียงอยู่ข้างๆเธอ และช่วยเหลือให้

    ได้มากที่สุดเพราะผมไม่อยากเห็นน้ำตาของคนที่ผมรักเท่านั้นเอง

    แต่เมื่อวันหนึ่งผมก็ได้พบกับใครคนหนึ่งเข้า จากที่ไม่คิดจะมองใครอีกแล้ว แต่ผมกลับมองเธอ
     
     

    "โอ้ย" ผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งเข้ามาชนผมอย่างจัง และลงไปนั่งกองกับพื้น ยัยเบ๊าะเนี่ยใครกันนะ  ผมกะจะหันไปด่าเธอสะหน่อย

    แต่พอมองหน้าเธอคนนั้น ดวงตากลมโต ที่ใส่สื่อบริสุทธิ์ ที่จ้องมองผม ทำให้ใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ ผมอยากรู้จักเธอให้มากกว่านี้จัง ผมเลยคิดจะแกล้งเธอเล่นๆ แต่มันไม่เป็นยังงั้นสิ เธอกลับดูโกรธเอามากๆ

    "นายคิดพวกนายเป็นใครกันหา"
    เป็นครั้งแรกที่มีคนกล้าพูดกับผมยังงี้ ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่กล้าพูดแบบนี้กับผม เธอพูดแล้วไม่แสดงออกถึงความกลัวใดๆเลย


    จุนอินเข้ามาช่วยเธอไว้ และผมรู้ในทันทีว่าหมอนั่นสนใจเธอ
    ถ้าโซยองรู้เรื่องนี้เธอจะต้องเสียใจ ผมจะอยู่เฉยไม่ได้ ผมเลยเอาแต่หาเรื่องผู้หญิงคนนั้น เพื่อกันให้เธอห่างๆกับจุนอิน แต่กลับเป็นผมสะเองที่เข้าไปหาเธอ ผมไม่เคยเข้าหาผู้หญิคนไหนก่อนเลย และไม่เคยมองใครนอกจากโซยองด้วย ผมเริ่มแปลกใจกับตัวเอง

    ทุกครั้งที่ถามตัวผมมั่นใจเสมอว่า คนที่ผมรักมีแต่โซยอองเท่านั้น ผมบอกกับตัวเองเสมอว่าจะเป็นฝ่ายรอจนกว่าเธอจะหันมาเอง แล้วทำไมวันนี้ถึงเริ่มไม่มั่นใจ เมื่อได้รู้จักกับผู้หญิงที่ชื่อ คัง แฮมินคนนี้ละ

    .....................................................


    เด๋วจามาอัพใหม่น้าค๊า

    แบบว่าคอมมานเน่าๆไงมะรุ

    บางทีก๊อบมาจากเวิทมาน

    พอเซฟอล้วมันก็เป็นซ้ำๆกัน

    แก้ไม่ได้สะที เง่ว เลย

    เด๋วจามาอัพใหม่น้าค๊า

    แบบว่าคอมมานเน่าๆไงมะรุ

    บางทีก๊อบมาจากเวิทมาน

    พอเซฟอล้วมันก็เป็นซ้ำๆกัน

    แก้ไม่ได้สะที เง่ว เลย

    ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน

    "มินฮอกโตขึ้นเธออยากเป็นอะไร" เด็กหญิงตัวน้อยผู้มีดวงตากลมโต และผิวขาวอมชมพู ดูจากหน้าตาแล้วเธอคงประมาณ 6 ขวบเห็นจะได้ เอ่ยถามเด็กชายที่นั่งข้างๆเธอ

    "เป็นอะไรก็ได้ที่ปกป้องดูแลเธอได้ไงละ"

    "นี่ฉันพูดจริงนะ ฉันสัญญาว่าจะดูแลเธอตลอดไปเลยนะ จนกว่าวันที่เธอจะบอกกับฉันว่าไม่ต้องการแล้ว"

    แต่ทว่าเด็กหญิงกลับหัวเราะ

    "สัญญาแล้วนะ"เด็กหญิงตอบกลับแล้วยิ้มให้คนที่นั่งข้างๆเธอ


    และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความรุ้สึก และคำสัญญา

     ผมกับโซยองรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อ แม่ของเราสนิทกันมาก โซยองร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก เพราะเธอเป็รโรคหัวใจ ทำให้เธอออกกำลังได้ไม่มากเท่ากับเด็กวัยเดียวกัน บางทีเธอก็ต้องขาดโรงเรียนบ่อยๆ เหตุนี้ก็เลยทำให้เธอเหมือนอยู่ตัวคนเดียว จนกระทั้งมาพบกับผม ผมจำได้ดีกับวันแรกที่เราได้เจอกัน วันที่อากาศสดใส ผมออกมาเล่นข้างนอกคนเดียว ผมเดินเล่นจนหลงทาง ได้แต่นั่งร้องไห้ ไม่รู้ว่านานเท่ไหร่ ก่อนจะได้ยินเสียงร้องเพลงของเด็กหญิงตัวน้อยคนหนึ่ง ทันทีที่ผมเห็นเธอ เด็กที่มีดวงตากลมโตบริสุทธิ์ ผมก้หยุดร้องไทนที และเดินเข้าไปหาเธอโดยไม่รู้ตัว

    โซยองถามผมว่า

    "ทำมัยถึงตาแดงละ เธอบอก

    "ร้องไห้หรอ"

    "เดี๋ยวโซยองจะร้องเพลงให้ฟังนะ"

    แล้วเธอก็ร้องเพลงให้ผมฟัง และครั้งนั้นก้ทำให้ผมจำภาพเธอในใจตลอดมา

      
     ตอนโซยองเป็นเด็กเธอมักจะโดนแกล้งเป็นประจำ จากเจ้าพวกเด็กอันธพาลที่คอยเอาแต่หาเรื่อง แต่ทุกทุกครั้งเธอจะสู้จนขาดใจ ไม่ยอมแพ้แม่แต่ครั้งเดียว แต่พอหลังจากนั้น ทุกครั้งเธอก็กลับมาถึงบ้าน เธอจะนั่งร้องไห้เสมอ และคนที่คอยปลอบใจเธอทุกครั้งก็คือผม เธอดูเข้มแข็งก็จริง แต่จริงแล้วเธออ่อนแอ และร้องไห้เก่งมากเลยละ ผมมองดูเธอทีร้องไห้ และนั่งข้างๆเธอทุกครั้งนั้นคือสิ่งที่ผมทำได้ ด้วยเหตุนี้ผมจึงเป็นเพื่อนที่เธอสนิทมากที่สุด โซยองเคยบอกผมว่า ผมจะเป็นคนเดียวที่เธอจะให้เห็นน้ำตา


    พอเราโตขึ้น สมัยประถม โซยองร่างกายแข็งแรงมากขึ้น สามารถที่จะไปโรงเรียนตามปกติได้ แต่อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องขาดโรงเรียนบ่อยๆ  ทำให้เธอเริ่มที่จะมีเพื่อนมากขึ้น โซยองเปลี่ยนแปลงไปมาก เธอดูสดใส พูดคุยอย่างสนุกสนาน นั้นเป็นครั้งแรกที่การไปโรงเรียนของเธอมีความสุข ผมได้อยู่ห้องเดียวกับโซยอง เพื่อนๆหลายคนก็กล่าวชมเธอไม้เว้นแต่ละวัน ผมดีใจที่ได้เห้นรอยยิ้มนั้น และอยากเห็นต่อๆไป

    ฤดูใบไม้ผลิย่างเข้ามาอีกแล้ว เด็กน้อยสองคนจากที่เคยวิ่งเล่นสนุกสนานก็เติบโตขึ้น ผมกับโซยองตอนนี้อยู่ม.ต้นแล้วละ

    "นี่โซยองไปสวนสาธรณะกันมั้ย"

    ผมเอ่ยถามโซยอง ขณะที่เธอกำลังตั้งอกตั้งใจปักผ้าอยู่ แต่ดูเหมือนจะเป็นการเจาะผ้าให้เป็นรูมากกว่า



    "ดีเลยฉันอยากเปลี่ยนบรรยากาศมั้ง"โซยองตอบกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใสของเธอ

    ผมไม่มีทางรู้เลยว่าคำชวนของผมจะทำให้เรื่องราวระหว่างเราเปลี่นแปลงไป

    ตอนที่เราไปถึงที่สวนสาธรณะกันแล้ว
      มีใครคนหนึ่งยืนอยู่ก่อนเราแล้ว  เด็กชายตัวสูง สง่างาม  นัยตาดำเข้ม ผิวขาว ยืนอยู่ข้างหน้า ผมรู้ดีว่าเค้าคือใคร เค้าหันมาทางมองทางเรา และกล่าวทักทาย

    "มินฮอก" เด็กคนนั้นเอ่ยทักผม และส่งยิ้มมาให้

    "หวัดดีจุนอิน" ผมตอบกลับไป โดยไม่ได้สังเกตเลยว่า เด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างๆผมตอนนี้กำลังหน้าแดง



    เราไม่ได้คุยกันนานนัก เพราะไม่นานจุนอินก็กลับไป โซยองที่นิ่อยู่นานสะกิดผมเบาๆ

    "เมื่อกี้ใครหรอ"เธอถามแล้วก้มหน้าลง เหมือนซ่อนใบหน้าจากความรุ้สึกอะไรอย่าง

    "เพื่อนนะ"

    "แล้วใครละ"โซยองเอยถามโดยไม่มองหน้าผม และผมรู้สึกได้ทันทีว่ามีต้องมีอะไรแน่ๆ

    "ชิน จุนอิน"ผมตอบกลับไปแบบปัดๆ แต่ทว่า ต่อจากนั้นการสนทนาระหว่างผมกับโซยองกลับเป็นเรื่องของจุนอินทั้งสิ้น และจากจุดนี้เองก็ทำให้ทั้งสองคนได้รู้จักกัน

    จุนอินบอกผมว่าเค้ารู้สึกเอ็นดูโซยองเหมือนเป็นน้องสาวคนหนึ่ง เค้ารู้ดีเหมือนกันว่าโซยองร่างกายไม่แข็งแรง เธอเป็นคนเงียบๆทำตัวเป็นคนเข้มแข็งแต่ลึกแล้วเธอต้องการกำลังใจ เลยทำให้เค้าอยากปกป้องเธอ

    "โซยอง ไปด้วยกันมั้ย" ผมมาหาโซยองที่ห้องพร้อมกับจุนอินตอนเลิกเรียนของเย็นวันหนึ่ง
       และตอนนี้จุนอินกับโซยองสนิทกันแล้ว

    "ไปๆๆ"โซยองรีบเก็บของเข้าในกระเป๋า แล้ววิ่งออกมาจากห้องเรียน

    "จะรีบไปไหนเล่า เดี๋ยวก็หกล้มหรอก"จุนอินพูดขึ้นมาแล้วมองดูเธอแบบขำๆ โซยองยิ้มรับแล้วหน้าแดง

    แล้วเราก้เดินไปในเมืองด้วยกัน ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมรู้ได้เลยว่าโซยองมีความสุขขนาดไหน

    ..............................................................


    เย็นวันหนึ่งที่บ้านของมินฮอก

    โซยองมาเล่นที่บ้านผมด้วยวันนี้ เธอดูสดใสมากเลยนะ


    "นี่ มินฮอก เธอคิดว่า จุนอินเป็นยังไงหรอโซยองเอ่ยถามผมตอนที่เรากำลังนั่งกินขนมกันในสวนหลังบ้าน


    "อะไรนะ"


    "ก็ปล่าวหรอก แค่อยากรู้เฉยๆ ก็ผู้หญิงในห้องฉันนะพูดถึงจุนอินกันทั้งนั้น บอกว่าใจดี แล้วก็สุภาพบุรุษ แต่เสียอย่าง เค้าไม่ค่อยคุยกับใคร ฉันว่าไม่เห็นจะจริงเลยเนาะจุนอินคุยเก่งจะตาย
    และก็นอกจากนั้น นายอ่ะ นายก็ดังไม่เบาเหมือนกันนะ"

    โซยองบอกแล้วยิ้มอย่างมีความสุข และเป็นครั้งแรกที่ผมสังเกตว่าโซยองไม่ใช่เด็กหญิงตัวน้อยคนนั้นแล้ว เธอดูมีความสุขมากเหลือเกินเมื่อพูดถึงจุนอิน

    "ก็ดีนะ"


    "งั้น.."โซยองนิ่งเงียบไปสักพักใหญ่เหมือนกัน


    "ฉันคิดว่า.......... ฉันชอบจุนอินแล้วละ"คำพูดที่เหมือนฟ้าผ่า ผ่าลงมาที่กลางใจผม แต่เมื่อเห็นเธอยิ้มขนาดนั้น ผมก็พูดไม่ออก


    "เธอจะช่วยฉันรึป่าว"ในตอนนั้น ผมไม่กล้าแม้จะมองหน้าเธอเลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าทำให้เธอมีความสุขได้ผมก็จะทำ


    หลังจากวันนั้นผมก็ช่วยโซยองทุกทาง ถึงแม้ใจมันจะต่อต้านไม่อยากที่จะทำเลยก็เหอะ ผมเคยคิดว่าถ้าจุนอินไม่ได้ชอบโซยองละ เธอจะเลิกชอบเค้ามั้ย แล้วเธอจะหันมามองผมมั้ยนะ แต่ทุกครั้งที่ผมเห็นเธอยิ้ม ผมก็ไม่สามารถทำลายมันไปได้  จะเป็นไรไปละแค่ผมเจ็บคนเดียวคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ผมบอกตัวเองยังงั้นเสมมา

    ............................

    "โซยองอาการไม่ดีเลย" แม่บอกกับผมตอนที่กลับมาจากโรงเรียนในวันที่โซยองไม่ได้ไปโรงเรียน วันนั้นผมรู้สึกกระวนกระวายใจ


    "อะไรนะครับ"ผมรู้สึกตกใจ


    "โซยองอาการไม่ค่อยดีเท่าไร แม่ของโซยองเพิ่งโทรมาบอก หมอบอกว่าน่าจะผ่าตัด แต่โซยองไม่ยอม"

    แล้ววันนั้นผมก็ไปนอนเฝ้าเธอ แต่สุดท้ายโซยองก็ยังไม่ยอมรับการผ่าตัดอยู่ดีเธอบอกว่าเธอยังไม่พร้อม เธอบอกอีกว่าถ้าการผ่าตัดไม่สำเร็จละจะเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายคุณหมอเลยต้องยอมให้ธอกลับบ้านก่อน เพราะร่างกายเธอค่อนข้างแข็งแรงขึ้นมาบ้างแล้ว


    "โซยองเป็นไงบ้าง"จุนอินนเอ่ยถามโซยองตอนที่เธอมาโรงเรียน


    "ไม่เป็นไรแล้วละ"เธอตอบกลับไปทั้งๆทีใบหน้าของเธอดูซีดเซียว


      โซยองมักทำแบบนี้เสมอ ไม่ว่าจะยังไงเธอไม่อยากให้ใครมองเห็นถึงความอ่อนแอของเธอ แต่เธอเคยบอกผมว่า ผมจะเป็นคนเดียวเท่านั้นที่เธอจะให้เห็นน้ำตา ผมยังจำคำนั้นได้ดีเสมอมา


       

       วันนี้โซยองดูสดใสมากเลย ดูท่าร่างกายเธอคงจะแข็งแรงขึ้นแล้วสินะ


    บ่ายวันนั้นเอง


    "นี่ฉันมีเรื่องจะปรึกษา"โซยองบอกผมตอนพักเที่ยง และบอกให้เดินตามเธอมา ที่ดาดฟ้าของตึก


    "อะไรหรอ"ผมถามเธอตอนที่เราอยุ่กันแค่ 2 คน

    "ฉันจะ.."โซยองเงียบไปอึดใจหนึ่ง และดูเหมือนเธอพยายามรวบรวมความกล้า ที่จะพูดคำนั้นออกมาก ใบหน้าเธอแดงเหมือนลูกมะเขือเทศ เธอกำมือแน่น แล้วก้มหน้าพึมพำอะไรบางอย่าง เหมือนกับบตัวเองให้กล้าที่จะพูดมันออกมา ผมมองโซยอง อย่างงุนงง


    "สารภาพรัก" เปรี๊ยง เหมือนเสียงฟ้าผ่าดังขึ้นในใจของผม สมองเหมืนว่างเปล่า คิดอะไรไม่ออก แต่พอมองหน้าเธอในตอนนั้นแล้ว ผมรู้ดีว่าควรจะทำยังไง


    "แน่ใจแล้วหรอ"ผมถามไปงั้นละ แต่ใจจริงผมอยากให้เธอเปลี่ยใจ หรือไม่ก็บอกผมมาว่า ไม่หรอก ล้อเล่น หรืออะไรก็ได้ ผมภาวนาในใจ


    เธอเงียบไป


    "ไม่รู้สินะ แต่ถ้าฉันไม่พูดฉันคงอึดอัดตายเลย" โซยองว่า แล้วทรุดตัวลงนั่งเหม่อมองออกไปยังที่ใดที่หนึ่ง


    "วันนี้ฉันจะพูด"เธอตัดสินใจในที่สุด


    "และอยากให้ช่วยด้วย"


    "คือว่าช่วยนัดจุนอินได้มั้ย น้าๆๆ"โซยองเดินเข้ามาเกาะแขนผมแล้วทำเสียงอ้อน


    "ขอร้องละ ช่วยฉันหน่อยนะ"ตอนนั้นความรู้สึกของผมมันว่างปล่าว ดูเหมือนจะคิดอะไรไม่ออก แต่เมื่อมองหน้าเธอ ที่ยิ้มแล้วขอร้องผม ผมก็จำใจต้องทำ

    เย็นวันนั้นผมนัดจุนอินไปหาโซยองที่หลังตึก และแอบมองดูพวกเค้าอยู่ที่พุ่มไม้

    ไม่นานนักจุนอินก็มาถึง

    ผมมองดูโซยองสลับกับมองหน้าจุนอิน ผมไม่เคยเห็นเธอดูจริงจังขนาดนี้มาก่อน

    ผมคิดในใจว่า คงมีคนที่จะดูแลโซยองได้ดีกว่าผมแน่ และคนนั้นคงจะเป็นจุนอิน แต่แล้ว

    "ทำไมละ"โซยองตะโกนออกมา แล้วน้ำตาก็ไหลมาจากดวงตาคู่นั้นของเธอ




    "เพราะอะไร"


    "จุนอิน ฉันชอบเธอมากเลยนะ" โซยองมองหน้าจุนอินแล้วเริ่มร้องไห้หนักขึ้น


    จุนอินได้แต่มองดูเธอ และพูดอะไรบางอย่างกับเธอ เค้าทำท่าเหมือนจะเดินหนี

    แล้วจู่ๆโซยองก็ล้มลงไป ผมที่เฝ้ามองดูสถานการณ์นตอนนั้น ตกใจมากเลยวิ่งออกมาจากพุ่มไม้


    "โซยอง"ผมวิ่งเค้าไปอุ้มเธอขึ้นมา ส่วนจุนอินก็ดูตกใจมากเช่นกัน เราสองคนพาโซยองไปโรงพยาบาล

    "โซยองต้องเปลี่ยนหัวใจ" คุณน้า (แม่ของโซยอง)หันมาบอกกับผมและจุนอิน  ใบหน้าคุณน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งนิ่งๆเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่


    "แต่เธอไม่ยอมอยู่ดี"คุณน้าก้มน้าลงแล้วร้องไห้


    "มินฮอก ช่วยน้าทีนะ ทำยังไงก็ได้ ช่วยโซยองที"ผมมองดูคุณน้าที่ร้องไห้อย่างหนัก

    …………………………………………

    "โซยอง ดีขึ้นมั้ย" ผมเอ่ยถามเธอ ตอนที่เข้าไปเยี่ยมเธอ ตอนนี้จุนอินกลับไปแล้ว

    เธอไม่ตอบอะไร แต่มองหน้าผมแทน ผมนั่งลงข้างๆเตียง

    "จุนอินบอกว่าเค้าชอบฉันไม่ได้ เพราะเธอ" ผมอึ้งไปกับคำพูดของเธอ

    เธอไม่หันมามองหน้าผมเลยด้วยซ้ำ ความเจ็บปวดเหมือนมีดหลายพันเล่มแทงเข้าที่กลางใจของผมอีกครั้งเหมือนหัวใจมันจะแตกสลายได้เลยก็ไม่ปาน

    "ไม่จริงใช่มั้ย" หลังจากที่เงียบอยู่นาน เธอก็ถามอีกครั้ง ผมไม่ตอบอะไร


    ขอโทษนะโซยอง ฉันคงตอบอะไรไม่ได้


    "ลืมไปเลย ฉันนึกขึ้นได้ว่ามีธุระ แล้ววันหลังจะมาเยี่ยมใหม่น้า ดูแลตัวเองดีๆละ" ผมเอามือไปจับหัวเธอไว้ แล้วส่งยิ้มให้ โซยองดูจะต้องการคำตอบจากผมในตอนนั้น แต่ผมบอกอะไรเธอไม่ได้จริงๆและสุดท้ายผมเลือกที่จะเดินออกมา
     ผมรู้ดีว่าการเดินออกมาอย่างนั้นมันเหมือนหนีปัญหา แต่ผมไม่กล้าจะมองหน้าเธอ ไม่กล้าบอกเธอว่าผมคิดยังไงเลยด้วยซ้ำ

    ตอนที่ผมจะกลับ ผมแอบได้ยิน คุณหมอคุยกับคุณน้า


    "ผมขอถามนะครับว่า แกมีเรื่องอะไรที่สะเถือนใจมากรึป่าว เพราะผมคิดว่าที่อากการแกทรุดหนักครั้งนี้ อาจมีผลมาจากสภาพจิตใจก็ได้"


    "แกไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเลยค่ะ"คุณน้าพูดด้วยเสียงที่ฟังแทบไม่ได้ศัพท์ มีเสียงสะอื้นตามมาเป็นพักๆ


    "ถ้าเป็นยังงั้นเราต้องรีบหาสาเหตุนะครับ เพราะอาจมีเรื่องบางอย่างที่ทำให้แกไม่สบายใจ คืนผ่าตัดไปแล้วอาจไม่ดีก็ได้"


    "ค่ะ"


    "เราต้องรีบผ่าตัดใช่มั้ยค่ะ"คุณน้าถามด้วยเสีงเครียดๆ อีกครั้ง



    "ใช่ครับ แกต้องได้รับการผ่าตัดด่วน ผมเกรงว่าถ้าปล่อยไว้นานๆอาการอาจทรุดหนักเร็วขึ้น แบบนี้ร่างกายแกอาจจะรับไม่ไหว
      ตอนนี้ทางเราพร้อมแล้วครับ เหลือแต่ตัวแกเองว่าจะพร้อมรึปล่าว ยิ่งตอนนี้สภาพจิตใจแกไม่ค่อยดีเท่าไร  คุณทราบดีนะครับว่า ถ้าสภาพจิตใจคนไข้ไม่เข้มแข็งพอสำหรับที่จะรับการผ่าตัด และเดิมแกก็ไม่ยอมอยู่แล้ว ขื่นบังคับแกผ่าตัดมันอาจส่งผลไม่ดีก็ได้  ผมอยากให้ทุกอย่างพร้อมก่อนการผ่าตัดนะครับ"

    "ความเข้มแข็งจากตัวคนไข้เอง และกำลังใจจากคนรอบข้างเป็นสิ่งสำคัญนะครับ"คุณหมอพูดย้ำอีกครั้ง

    "ค่ะ" คุณน้าตอบกลับไปด้วยเสียงที่สั่นเทา

    ผมที่ยืนฟังรู้สาเหตุครั้งนี้ดีแก่ใจว่าเพราะอะไร

    ...............................................

    "จุนอิน ฉันขอร้องแกได้มั้ย ช่วยทำให้โซยองยอมรับการผ่าตัดที"ผมมองหน้าจุนอิน แล้วขอร้องหมอนั่น


    "ขอโทษ ฉันคงช่วยไม่ได้"จุนอินบอกผมแล้วหันหน้าหนี


    "แกเคยบอกฉันใช่มั้ยว่าแกก็อยากปกป้องเธอ"


    "แต่แกก็ทำได้ไม่ใช่หรอ"จุนอินบอกกับผม


    "ถึงฉันทำยังไงโซยองก้ไม่มีวันยอม เพราะคนที่เค้าต้องการไม่ใช่ฉัน"


    พอพูดจบผมก็เดินออกมาทันที


    หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้เจอจุนอินและโซยองเลย



    เสียงโทรศัพดังขึ้นในตอนกลางวันของวันหนึ่ง


    "มินฮอก โซยองได้รับการผ่าตัดแล้ว" แม่เดินเค้ามาบอกผมในห้อง ผมแทบจะหยุดหายใจเลยตรงนั้น แล้วผลละเป็นไง ใจผมเต้นไม่เป็ยจังหวะ รอให้แม่เอ่ยปากบอกผม


    "โซยองผ่าตัดสำเร็จ"แม่บอกในที่สุด ผมแทบจะตะโกนลั่นบ้านด้วยความดีใจ  ผมไม่รอช้าที่จะไปหาเธอที่โรงพยาบาล ความรู้สึกว่าไม่กล้าเจอหน้าเธอมันหายไป


    "โซยอง" ผมเปิดประตูเข้ามาในห้อง และภาพที่ผมเห็นคือจุนอินนั่งอยุ่ข้างๆเตียงเธอ

    ผมสำรวจมองเธออีกครั้ง น้ำตาพลานจะไหลออกมา โซยองดูสุขภาพแข็งแรง และสดใสมาก


    "ไม่ยอมมาเยี่ยมกันเลยนะ"เธอบอกแล้วมองหน้าผมแบบงอนๆ


    "ขอโทษ"


    "ว่าแต่ ผ่าตัดแล้วดีขึ้นใช่มั้ย"


    "ก็แหงสิ"เธอตอบกลับมาแล้วยิ้มให้


    "นี่อยู่กัน 2 คนไปก่อนละกันนะ ฉันมีธุระต้องไปนะ แล้วจะมาเยี่ยมใหม่นะ"จุนอินบอกกับเรา แล้วเดินออกจากห้อง โซยองยิ้มให้เค้า


    "มานี่หน่อย"โซยองเรียกผมให้ไปนั่งข้างเตียง หลังจากจุนอินเดินออกไปแล้ว


    "ฉันผ่าตัด นายก็ไม่รู้เลยหรอไงหา" โซยองพูดแล้วตีไหล่ผม


    "ฉันขอโทษ"


    "ฉันล้อเล่นน่า อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ"โซยองหันมาหยิกแก้มผม


    "นี่รู้มะ"


    "อารายหรอ"


    "จุนอินเป็นคนบอกให้ฉันผ่าตัดละ และฉันก็รู้ด้วยว่าที่เค้ามาพูดแบบนี้เพราะเธอ" โซยองมองหน้าผม ด้วยดวงตาที่เศร้าๆ



    "ไม่ใช่หรอกน่า จุนอินเค้าอยากทำเองมากกว่า"


     


    "จุนอินบอกว่า เค้าอยากให้ฉันผ่าตัด เค้าจะอยู่ข้างๆฉัน ไม่ต้องกลัว"


    "รู้มั้ยแค่คำพูดของเค้ามันทำให้ฉันมีกำลังใจและพร้อมที่จะผ่าตัดเลยละ"


    "ฉันรักเค้ามากเลยนะ มากจนยอมทำทุกอย่างให้ได้เลย ตอนที่เค้ามาเยี่ยมฉันก่อนผ่าตัด ฉันถามเค้าอีกครั้ง ว่าคบกับฉันได้มั้ย ฉันรู้ดีว่าที่เค้าตอบตกลงเพราะเค้าอยากให้ฉันผ่าตัด แต่ยังไงก็ตามฉันก็ดีใจนะ"

    โซยองบอกกับผมในที่สุด เธอก้มหน้าลง ล้วหยดน้ำตาเม็ดเล็กๆก็ไหลออกมา

    "ตลกดีเนาะ ขนาดฉันรู้ถึงยังงั้น ฉันก็ยังเชื่ออยู่ดี ยังไงฉันคงไม่ผิดใช่มั้ยถ้าฉันขอคิดว่าอย่างน้อยเค้าก็ต้องรักฉันบ้างละ"

    โซยองฝืนยิ้มออกมา ผมอยากกอดเธอเอาไว้ ไม่อยากเห็นน้ำตานั้นอีก แต่ผมทำได้เพียงแค่จับมือเธอไว้แน่นๆ



    ผมเคยคิดว่าไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ไม่สามารถยืนแทนที่โซยองได้
     หลายปีมานี้ผมทนเก็บความรู้สึกว่า รักเธอ เอาไว้ได้ และพยายามอยู่ข้างเธอให้ได้นานที่สุด  แม้จะมีผู้หญิงหลายคนที่เข้ามาสนใจผมก็ตาม แต่ผมก็ไม่เคยหันไปมองพวกเธอเลยด้วยซ้ำ มีหลายครั้งเหมือนกันที่ผมแอบดีใจตอนที่โซยองเลิกกับจุนอิน แต่ทุกครั้งเธอเลิกกับเค้าเธอก็จะร้องไห้อย่างหนัก และร่างกายก็จะทรุดลง จนผมทนดูไม่ได้ ผมก็เลยขอร้องจุนอินให้อยู่ข้างๆเธอ เค้าเองก็ไม่อยากเห็นเธอแย่ลงเเหมือนกัน โซยองเองก็รู้ดีถึงเหตุผลนี้เหมือนกัน

    ผมรู้ดี
     ถึงแม้ผมพยายามยังไงโซยองก้ไม่มองมาอยู่ดี ผมเลยทำได้แค่เพียงอยู่ข้างๆเธอ และช่วยเหลือให้

    ได้มากที่สุดเพราะผมไม่อยากเห็นน้ำตาของคนที่ผมรักเท่านั้นเอง

    แต่เมื่อวันหนึ่งผมก็ได้พบกับใครคนหนึ่งเข้า จากที่ไม่คิดจะมองใครอีกแล้ว แต่ผมกลับมองเธอ
     
     

    "โอ้ย" ผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งเข้ามาชนผมอย่างจัง และลงไปนั่งกองกับพื้น ยัยเบ๊าะเนี่ยใครกันนะ  ผมกะจะหันไปด่าเธอสะหน่อย

    แต่พอมองหน้าเธอคนนั้น ดวงตากลมโต ที่ใส่สื่อบริสุทธิ์ ที่จ้องมองผม ทำให้ใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ ผมอยากรู้จักเธอให้มากกว่านี้จัง ผมเลยคิดจะแกล้งเธอเล่นๆ แต่มันไม่เป็นยังงั้นสิ เธอกลับดูโกรธเอามากๆ

    "นายคิดพวกนายเป็นใครกันหา"
    เป็นครั้งแรกที่มีคนกล้าพูดกับผมยังงี้ ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่กล้าพูดแบบนี้กับผม เธอพูดแล้วไม่แสดงออกถึงความกลัวใดๆเลย


    จุนอินเข้ามาช่วยเธอไว้ และผมรู้ในทันทีว่าหมอนั่นสนใจเธอ
    ถ้าโซยองรู้เรื่องนี้เธอจะต้องเสียใจ ผมจะอยู่เฉยไม่ได้ ผมเลยเอาแต่หาเรื่องผู้หญิงคนนั้น เพื่อกันให้เธอห่างๆกับจุนอิน แต่กลับเป็นผมสะเองที่เข้าไปหาเธอ ผมไม่เคยเข้าหาผู้หญิคนไหนก่อนเลย และไม่เคยมองใครนอกจากโซยองด้วย ผมเริ่มแปลกใจกับตัวเอง

    ทุกครั้งที่ถามตัวผมมั่นใจเสมอว่า คนที่ผมรักมีแต่โซยอองเท่านั้น ผมบอกกับตัวเองเสมอว่าจะเป็นฝ่ายรอจนกว่าเธอจะหันมาเอง แล้วทำไมวันนี้ถึงเริ่มไม่มั่นใจ เมื่อได้รู้จักกับผู้หญิงที่ชื่อ คัง แฮมินคนนี้ละ

    .....................................................


    เด๋วจามาอัพใหม่น้าค๊า

    แบบว่าคอมมานเน่าๆไงมะรุ

    บางทีก๊อบมาจากเวิทมาน

    พอเซฟอล้วมันก็เป็นซ้ำๆกัน

    แก้ไม่ได้สะที เง่ว เลย

    เด๋วจามาอัพใหม่น้าค๊า

    แบบว่าคอมมานเน่าๆไงมะรุ

    บางทีก๊อบมาจากเวิทมาน

    พอเซฟอล้วมันก็เป็นซ้ำๆกัน

    แก้ไม่ได้สะที เง่ว เลย

    ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน

    "มินฮอกโตขึ้นเธออยากเป็นอะไร" เด็กหญิงตัวน้อยผู้มีดวงตากลมโต และผิวขาวอมชมพู ดูจากหน้าตาแล้วเธอคงประมาณ 6 ขวบเห็นจะได้ เอ่ยถามเด็กชายที่นั่งข้างๆเธอ

    "เป็นอะไรก็ได้ที่ปกป้องดูแลเธอได้ไงละ"

    "นี่ฉันพูดจริงนะ ฉันสัญญาว่าจะดูแลเธอตลอดไปเลยนะ จนกว่าวันที่เธอจะบอกกับฉันว่าไม่ต้องการแล้ว"

    แต่ทว่าเด็กหญิงกลับหัวเราะ

    "สัญญาแล้วนะ"เด็กหญิงตอบกลับแล้วยิ้มให้คนที่นั่งข้างๆเธอ


    และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความรุ้สึก และคำสัญญา

     ผมกับโซยองรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อ แม่ของเราสนิทกันมาก โซยองร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก เพราะเธอเป็รโรคหัวใจ ทำให้เธอออกกำลังได้ไม่มากเท่ากับเด็กวัยเดียวกัน บางทีเธอก็ต้องขาดโรงเรียนบ่อยๆ เหตุนี้ก็เลยทำให้เธอเหมือนอยู่ตัวคนเดียว จนกระทั้งมาพบกับผม ผมจำได้ดีกับวันแรกที่เราได้เจอกัน วันที่อากาศสดใส ผมออกมาเล่นข้างนอกคนเดียว ผมเดินเล่นจนหลงทาง ได้แต่นั่งร้องไห้ ไม่รู้ว่านานเท่ไหร่ ก่อนจะได้ยินเสียงร้องเพลงของเด็กหญิงตัวน้อยคนหนึ่ง ทันทีที่ผมเห็นเธอ เด็กที่มีดวงตากลมโตบริสุทธิ์ ผมก้หยุดร้องไทนที และเดินเข้าไปหาเธอโดยไม่รู้ตัว

    โซยองถามผมว่า

    "ทำมัยถึงตาแดงละ เธอบอก

    "ร้องไห้หรอ"

    "เดี๋ยวโซยองจะร้องเพลงให้ฟังนะ"

    แล้วเธอก็ร้องเพลงให้ผมฟัง และครั้งนั้นก้ทำให้ผมจำภาพเธอในใจตลอดมา

      
     ตอนโซยองเป็นเด็กเธอมักจะโดนแกล้งเป็นประจำ จากเจ้าพวกเด็กอันธพาลที่คอยเอาแต่หาเรื่อง แต่ทุกทุกครั้งเธอจะสู้จนขาดใจ ไม่ยอมแพ้แม่แต่ครั้งเดียว แต่พอหลังจากนั้น ทุกครั้งเธอก็กลับมาถึงบ้าน เธอจะนั่งร้องไห้เสมอ และคนที่คอยปลอบใจเธอทุกครั้งก็คือผม เธอดูเข้มแข็งก็จริง แต่จริงแล้วเธออ่อนแอ และร้องไห้เก่งมากเลยละ ผมมองดูเธอทีร้องไห้ และนั่งข้างๆเธอทุกครั้งนั้นคือสิ่งที่ผมทำได้ ด้วยเหตุนี้ผมจึงเป็นเพื่อนที่เธอสนิทมากที่สุด โซยองเคยบอกผมว่า ผมจะเป็นคนเดียวที่เธอจะให้เห็นน้ำตา


    พอเราโตขึ้น สมัยประถม โซยองร่างกายแข็งแรงมากขึ้น สามารถที่จะไปโรงเรียนตามปกติได้ แต่อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องขาดโรงเรียนบ่อยๆ  ทำให้เธอเริ่มที่จะมีเพื่อนมากขึ้น โซยองเปลี่ยนแปลงไปมาก เธอดูสดใส พูดคุยอย่างสนุกสนาน นั้นเป็นครั้งแรกที่การไปโรงเรียนของเธอมีความสุข ผมได้อยู่ห้องเดียวกับโซยอง เพื่อนๆหลายคนก็กล่าวชมเธอไม้เว้นแต่ละวัน ผมดีใจที่ได้เห้นรอยยิ้มนั้น และอยากเห็นต่อๆไป

    ฤดูใบไม้ผลิย่างเข้ามาอีกแล้ว เด็กน้อยสองคนจากที่เคยวิ่งเล่นสนุกสนานก็เติบโตขึ้น ผมกับโซยองตอนนี้อยู่ม.ต้นแล้วละ

    "นี่โซยองไปสวนสาธรณะกันมั้ย"

    ผมเอ่ยถามโซยอง ขณะที่เธอกำลังตั้งอกตั้งใจปักผ้าอยู่ แต่ดูเหมือนจะเป็นการเจาะผ้าให้เป็นรูมากกว่า



    "ดีเลยฉันอยากเปลี่ยนบรรยากาศมั้ง"โซยองตอบกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใสของเธอ

    ผมไม่มีทางรู้เลยว่าคำชวนของผมจะทำให้เรื่องราวระหว่างเราเปลี่นแปลงไป

    ตอนที่เราไปถึงที่สวนสาธรณะกันแล้ว
      มีใครคนหนึ่งยืนอยู่ก่อนเราแล้ว  เด็กชายตัวสูง สง่างาม  นัยตาดำเข้ม ผิวขาว ยืนอยู่ข้างหน้า ผมรู้ดีว่าเค้าคือใคร เค้าหันมาทางมองทางเรา และกล่าวทักทาย

    "มินฮอก" เด็กคนนั้นเอ่ยทักผม และส่งยิ้มมาให้

    "หวัดดีจุนอิน" ผมตอบกลับไป โดยไม่ได้สังเกตเลยว่า เด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างๆผมตอนนี้กำลังหน้าแดง



    เราไม่ได้คุยกันนานนัก เพราะไม่นานจุนอินก็กลับไป โซยองที่นิ่อยู่นานสะกิดผมเบาๆ

    "เมื่อกี้ใครหรอ"เธอถามแล้วก้มหน้าลง เหมือนซ่อนใบหน้าจากความรุ้สึกอะไรอย่าง

    "เพื่อนนะ"

    "แล้วใครละ"โซยองเอยถามโดยไม่มองหน้าผม และผมรู้สึกได้ทันทีว่ามีต้องมีอะไรแน่ๆ

    "ชิน จุนอิน"ผมตอบกลับไปแบบปัดๆ แต่ทว่า ต่อจากนั้นการสนทนาระหว่างผมกับโซยองกลับเป็นเรื่องของจุนอินทั้งสิ้น และจากจุดนี้เองก็ทำให้ทั้งสองคนได้รู้จักกัน

    จุนอินบอกผมว่าเค้ารู้สึกเอ็นดูโซยองเหมือนเป็นน้องสาวคนหนึ่ง เค้ารู้ดีเหมือนกันว่าโซยองร่างกายไม่แข็งแรง เธอเป็นคนเงียบๆทำตัวเป็นคนเข้มแข็งแต่ลึกแล้วเธอต้องการกำลังใจ เลยทำให้เค้าอยากปกป้องเธอ

    "โซยอง ไปด้วยกันมั้ย" ผมมาหาโซยองที่ห้องพร้อมกับจุนอินตอนเลิกเรียนของเย็นวันหนึ่ง
       และตอนนี้จุนอินกับโซยองสนิทกันแล้ว

    "ไปๆๆ"โซยองรีบเก็บของเข้าในกระเป๋า แล้ววิ่งออกมาจากห้องเรียน

    "จะรีบไปไหนเล่า เดี๋ยวก็หกล้มหรอก"จุนอินพูดขึ้นมาแล้วมองดูเธอแบบขำๆ โซยองยิ้มรับแล้วหน้าแดง

    แล้วเราก้เดินไปในเมืองด้วยกัน ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมรู้ได้เลยว่าโซยองมีความสุขขนาดไหน

    ..............................................................


    เย็นวันหนึ่งที่บ้านของมินฮอก

    โซยองมาเล่นที่บ้านผมด้วยวันนี้ เธอดูสดใสมากเลยนะ


    "นี่ มินฮอก เธอคิดว่า จุนอินเป็นยังไงหรอโซยองเอ่ยถามผมตอนที่เรากำลังนั่งกินขนมกันในสวนหลังบ้าน


    "อะไรนะ"


    "ก็ปล่าวหรอก แค่อยากรู้เฉยๆ ก็ผู้หญิงในห้องฉันนะพูดถึงจุนอินกันทั้งนั้น บอกว่าใจดี แล้วก็สุภาพบุรุษ แต่เสียอย่าง เค้าไม่ค่อยคุยกับใคร ฉันว่าไม่เห็นจะจริงเลยเนาะจุนอินคุยเก่งจะตาย
    และก็นอกจากนั้น นายอ่ะ นายก็ดังไม่เบาเหมือนกันนะ"

    โซยองบอกแล้วยิ้มอย่างมีความสุข และเป็นครั้งแรกที่ผมสังเกตว่าโซยองไม่ใช่เด็กหญิงตัวน้อยคนนั้นแล้ว เธอดูมีความสุขมากเหลือเกินเมื่อพูดถึงจุนอิน

    "ก็ดีนะ"


    "งั้น.."โซยองนิ่งเงียบไปสักพักใหญ่เหมือนกัน


    "ฉันคิดว่า.......... ฉันชอบจุนอินแล้วละ"คำพูดที่เหมือนฟ้าผ่า ผ่าลงมาที่กลางใจผม แต่เมื่อเห็นเธอยิ้มขนาดนั้น ผมก็พูดไม่ออก


    "เธอจะช่วยฉันรึป่าว"ในตอนนั้น ผมไม่กล้าแม้จะมองหน้าเธอเลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าทำให้เธอมีความสุขได้ผมก็จะทำ


    หลังจากวันนั้นผมก็ช่วยโซยองทุกทาง ถึงแม้ใจมันจะต่อต้านไม่อยากที่จะทำเลยก็เหอะ ผมเคยคิดว่าถ้าจุนอินไม่ได้ชอบโซยองละ เธอจะเลิกชอบเค้ามั้ย แล้วเธอจะหันมามองผมมั้ยนะ แต่ทุกครั้งที่ผมเห็นเธอยิ้ม ผมก็ไม่สามารถทำลายมันไปได้  จะเป็นไรไปละแค่ผมเจ็บคนเดียวคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ผมบอกตัวเองยังงั้นเสมมา

    ............................

    "โซยองอาการไม่ดีเลย" แม่บอกกับผมตอนที่กลับมาจากโรงเรียนในวันที่โซยองไม่ได้ไปโรงเรียน วันนั้นผมรู้สึกกระวนกระวายใจ


    "อะไรนะครับ"ผมรู้สึกตกใจ


    "โซยองอาการไม่ค่อยดีเท่าไร แม่ของโซยองเพิ่งโทรมาบอก หมอบอกว่าน่าจะผ่าตัด แต่โซยองไม่ยอม"

    แล้ววันนั้นผมก็ไปนอนเฝ้าเธอ แต่สุดท้ายโซยองก็ยังไม่ยอมรับการผ่าตัดอยู่ดีเธอบอกว่าเธอยังไม่พร้อม เธอบอกอีกว่าถ้าการผ่าตัดไม่สำเร็จละจะเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายคุณหมอเลยต้องยอมให้ธอกลับบ้านก่อน เพราะร่างกายเธอค่อนข้างแข็งแรงขึ้นมาบ้างแล้ว


    "โซยองเป็นไงบ้าง"จุนอินนเอ่ยถามโซยองตอนที่เธอมาโรงเรียน


    "ไม่เป็นไรแล้วละ"เธอตอบกลับไปทั้งๆทีใบหน้าของเธอดูซีดเซียว


      โซยองมักทำแบบนี้เสมอ ไม่ว่าจะยังไงเธอไม่อยากให้ใครมองเห็นถึงความอ่อนแอของเธอ แต่เธอเคยบอกผมว่า ผมจะเป็นคนเดียวเท่านั้นที่เธอจะให้เห็นน้ำตา ผมยังจำคำนั้นได้ดีเสมอมา


       

       วันนี้โซยองดูสดใสมากเลย ดูท่าร่างกายเธอคงจะแข็งแรงขึ้นแล้วสินะ


    บ่ายวันนั้นเอง


    "นี่ฉันมีเรื่องจะปรึกษา"โซยองบอกผมตอนพักเที่ยง และบอกให้เดินตามเธอมา ที่ดาดฟ้าของตึก


    "อะไรหรอ"ผมถามเธอตอนที่เราอยุ่กันแค่ 2 คน

    "ฉันจะ.."โซยองเงียบไปอึดใจหนึ่ง และดูเหมือนเธอพยายามรวบรวมความกล้า ที่จะพูดคำนั้นออกมาก ใบหน้าเธอแดงเหมือนลูกมะเขือเทศ เธอกำมือแน่น แล้วก้มหน้าพึมพำอะไรบางอย่าง เหมือนกับบตัวเองให้กล้าที่จะพูดมันออกมา ผมมองโซยอง อย่างงุนงง


    "สารภาพรัก" เปรี๊ยง เหมือนเสียงฟ้าผ่าดังขึ้นในใจของผม สมองเหมืนว่างเปล่า คิดอะไรไม่ออก แต่พอมองหน้าเธอในตอนนั้นแล้ว ผมรู้ดีว่าควรจะทำยังไง


    "แน่ใจแล้วหรอ"ผมถามไปงั้นละ แต่ใจจริงผมอยากให้เธอเปลี่ยใจ หรือไม่ก็บอกผมมาว่า ไม่หรอก ล้อเล่น หรืออะไรก็ได้ ผมภาวนาในใจ


    เธอเงียบไป


    "ไม่รู้สินะ แต่ถ้าฉันไม่พูดฉันคงอึดอัดตายเลย" โซยองว่า แล้วทรุดตัวลงนั่งเหม่อมองออกไปยังที่ใดที่หนึ่ง


    "วันนี้ฉันจะพูด"เธอตัดสินใจในที่สุด


    "และอยากให้ช่วยด้วย"


    "คือว่าช่วยนัดจุนอินได้มั้ย น้าๆๆ"โซยองเดินเข้ามาเกาะแขนผมแล้วทำเสียงอ้อน


    "ขอร้องละ ช่วยฉันหน่อยนะ"ตอนนั้นความรู้สึกของผมมันว่างปล่าว ดูเหมือนจะคิดอะไรไม่ออก แต่เมื่อมองหน้าเธอ ที่ยิ้มแล้วขอร้องผม ผมก็จำใจต้องทำ

    เย็นวันนั้นผมนัดจุนอินไปหาโซยองที่หลังตึก และแอบมองดูพวกเค้าอยู่ที่พุ่มไม้

    ไม่นานนักจุนอินก็มาถึง

    ผมมองดูโซยองสลับกับมองหน้าจุนอิน ผมไม่เคยเห็นเธอดูจริงจังขนาดนี้มาก่อน

    ผมคิดในใจว่า คงมีคนที่จะดูแลโซยองได้ดีกว่าผมแน่ และคนนั้นคงจะเป็นจุนอิน แต่แล้ว

    "ทำไมละ"โซยองตะโกนออกมา แล้วน้ำตาก็ไหลมาจากดวงตาคู่นั้นของเธอ




    "เพราะอะไร"


    "จุนอิน ฉันชอบเธอมากเลยนะ" โซยองมองหน้าจุนอินแล้วเริ่มร้องไห้หนักขึ้น


    จุนอินได้แต่มองดูเธอ และพูดอะไรบางอย่างกับเธอ เค้าทำท่าเหมือนจะเดินหนี

    แล้วจู่ๆโซยองก็ล้มลงไป ผมที่เฝ้ามองดูสถานการณ์นตอนนั้น ตกใจมากเลยวิ่งออกมาจากพุ่มไม้


    "โซยอง"ผมวิ่งเค้าไปอุ้มเธอขึ้นมา ส่วนจุนอินก็ดูตกใจมากเช่นกัน เราสองคนพาโซยองไปโรงพยาบาล

    "โซยองต้องเปลี่ยนหัวใจ" คุณน้า (แม่ของโซยอง)หันมาบอกกับผมและจุนอิน  ใบหน้าคุณน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งนิ่งๆเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่


    "แต่เธอไม่ยอมอยู่ดี"คุณน้าก้มน้าลงแล้วร้องไห้


    "มินฮอก ช่วยน้าทีนะ ทำยังไงก็ได้ ช่วยโซยองที"ผมมองดูคุณน้าที่ร้องไห้อย่างหนัก

    …………………………………………

    "โซยอง ดีขึ้นมั้ย" ผมเอ่ยถามเธอ ตอนที่เข้าไปเยี่ยมเธอ ตอนนี้จุนอินกลับไปแล้ว

    เธอไม่ตอบอะไร แต่มองหน้าผมแทน ผมนั่งลงข้างๆเตียง

    "จุนอินบอกว่าเค้าชอบฉันไม่ได้ เพราะเธอ" ผมอึ้งไปกับคำพูดของเธอ

    เธอไม่หันมามองหน้าผมเลยด้วยซ้ำ ความเจ็บปวดเหมือนมีดหลายพันเล่มแทงเข้าที่กลางใจของผมอีกครั้งเหมือนหัวใจมันจะแตกสลายได้เลยก็ไม่ปาน

    "ไม่จริงใช่มั้ย" หลังจากที่เงียบอยู่นาน เธอก็ถามอีกครั้ง ผมไม่ตอบอะไร


    ขอโทษนะโซยอง ฉันคงตอบอะไรไม่ได้


    "ลืมไปเลย ฉันนึกขึ้นได้ว่ามีธุระ แล้ววันหลังจะมาเยี่ยมใหม่น้า ดูแลตัวเองดีๆละ" ผมเอามือไปจับหัวเธอไว้ แล้วส่งยิ้มให้ โซยองดูจะต้องการคำตอบจากผมในตอนนั้น แต่ผมบอกอะไรเธอไม่ได้จริงๆและสุดท้ายผมเลือกที่จะเดินออกมา
     ผมรู้ดีว่าการเดินออกมาอย่างนั้นมันเหมือนหนีปัญหา แต่ผมไม่กล้าจะมองหน้าเธอ ไม่กล้าบอกเธอว่าผมคิดยังไงเลยด้วยซ้ำ

    ตอนที่ผมจะกลับ ผมแอบได้ยิน คุณหมอคุยกับคุณน้า


    "ผมขอถามนะครับว่า แกมีเรื่องอะไรที่สะเถือนใจมากรึป่าว เพราะผมคิดว่าที่อากการแกทรุดหนักครั้งนี้ อาจมีผลมาจากสภาพจิตใจก็ได้"


    "แกไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเลยค่ะ"คุณน้าพูดด้วยเสียงที่ฟังแทบไม่ได้ศัพท์ มีเสียงสะอื้นตามมาเป็นพักๆ


    "ถ้าเป็นยังงั้นเราต้องรีบหาสาเหตุนะครับ เพราะอาจมีเรื่องบางอย่างที่ทำให้แกไม่สบายใจ คืนผ่าตัดไปแล้วอาจไม่ดีก็ได้"


    "ค่ะ"


    "เราต้องรีบผ่าตัดใช่มั้ยค่ะ"คุณน้าถามด้วยเสีงเครียดๆ อีกครั้ง



    "ใช่ครับ แกต้องได้รับการผ่าตัดด่วน ผมเกรงว่าถ้าปล่อยไว้นานๆอาการอาจทรุดหนักเร็วขึ้น แบบนี้ร่างกายแกอาจจะรับไม่ไหว
      ตอนนี้ทางเราพร้อมแล้วครับ เหลือแต่ตัวแกเองว่าจะพร้อมรึปล่าว ยิ่งตอนนี้สภาพจิตใจแกไม่ค่อยดีเท่าไร  คุณทราบดีนะครับว่า ถ้าสภาพจิตใจคนไข้ไม่เข้มแข็งพอสำหรับที่จะรับการผ่าตัด และเดิมแกก็ไม่ยอมอยู่แล้ว ขื่นบังคับแกผ่าตัดมันอาจส่งผลไม่ดีก็ได้  ผมอยากให้ทุกอย่างพร้อมก่อนการผ่าตัดนะครับ"

    "ความเข้มแข็งจากตัวคนไข้เอง และกำลังใจจากคนรอบข้างเป็นสิ่งสำคัญนะครับ"คุณหมอพูดย้ำอีกครั้ง

    "ค่ะ" คุณน้าตอบกลับไปด้วยเสียงที่สั่นเทา

    ผมที่ยืนฟังรู้สาเหตุครั้งนี้ดีแก่ใจว่าเพราะอะไร

    ...............................................

    "จุนอิน ฉันขอร้องแกได้มั้ย ช่วยทำให้โซยองยอมรับการผ่าตัดที"ผมมองหน้าจุนอิน แล้วขอร้องหมอนั่น


    "ขอโทษ ฉันคงช่วยไม่ได้"จุนอินบอกผมแล้วหันหน้าหนี


    "แกเคยบอกฉันใช่มั้ยว่าแกก็อยากปกป้องเธอ"


    "แต่แกก็ทำได้ไม่ใช่หรอ"จุนอินบอกกับผม


    "ถึงฉันทำยังไงโซยองก้ไม่มีวันยอม เพราะคนที่เค้าต้องการไม่ใช่ฉัน"


    พอพูดจบผมก็เดินออกมาทันที


    หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้เจอจุนอินและโซยองเลย



    เสียงโทรศัพดังขึ้นในตอนกลางวันของวันหนึ่ง


    "มินฮอก โซยองได้รับการผ่าตัดแล้ว" แม่เดินเค้ามาบอกผมในห้อง ผมแทบจะหยุดหายใจเลยตรงนั้น แล้วผลละเป็นไง ใจผมเต้นไม่เป็ยจังหวะ รอให้แม่เอ่ยปากบอกผม


    "โซยองผ่าตัดสำเร็จ"แม่บอกในที่สุด ผมแทบจะตะโกนลั่นบ้านด้วยความดีใจ  ผมไม่รอช้าที่จะไปหาเธอที่โรงพยาบาล ความรู้สึกว่าไม่กล้าเจอหน้าเธอมันหายไป


    "โซยอง" ผมเปิดประตูเข้ามาในห้อง และภาพที่ผมเห็นคือจุนอินนั่งอยุ่ข้างๆเตียงเธอ

    ผมสำรวจมองเธออีกครั้ง น้ำตาพลานจะไหลออกมา โซยองดูสุขภาพแข็งแรง และสดใสมาก


    "ไม่ยอมมาเยี่ยมกันเลยนะ"เธอบอกแล้วมองหน้าผมแบบงอนๆ


    "ขอโทษ"


    "ว่าแต่ ผ่าตัดแล้วดีขึ้นใช่มั้ย"


    "ก็แหงสิ"เธอตอบกลับมาแล้วยิ้มให้


    "นี่อยู่กัน 2 คนไปก่อนละกันนะ ฉันมีธุระต้องไปนะ แล้วจะมาเยี่ยมใหม่นะ"จุนอินบอกกับเรา แล้วเดินออกจากห้อง โซยองยิ้มให้เค้า


    "มานี่หน่อย"โซยองเรียกผมให้ไปนั่งข้างเตียง หลังจากจุนอินเดินออกไปแล้ว


    "ฉันผ่าตัด นายก็ไม่รู้เลยหรอไงหา" โซยองพูดแล้วตีไหล่ผม


    "ฉันขอโทษ"


    "ฉันล้อเล่นน่า อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ"โซยองหันมาหยิกแก้มผม


    "นี่รู้มะ"


    "อารายหรอ"


    "จุนอินเป็นคนบอกให้ฉันผ่าตัดละ และฉันก็รู้ด้วยว่าที่เค้ามาพูดแบบนี้เพราะเธอ" โซยองมองหน้าผม ด้วยดวงตาที่เศร้าๆ



    "ไม่ใช่หรอกน่า จุนอินเค้าอยากทำเองมากกว่า"


     


    "จุนอินบอกว่า เค้าอยากให้ฉันผ่าตัด เค้าจะอยู่ข้างๆฉัน ไม่ต้องกลัว"


    "รู้มั้ยแค่คำพูดของเค้ามันทำให้ฉันมีกำลังใจและพร้อมที่จะผ่าตัดเลยละ"


    "ฉันรักเค้ามากเลยนะ มากจนยอมทำทุกอย่างให้ได้เลย ตอนที่เค้ามาเยี่ยมฉันก่อนผ่าตัด ฉันถามเค้าอีกครั้ง ว่าคบกับฉันได้มั้ย ฉันรู้ดีว่าที่เค้าตอบตกลงเพราะเค้าอยากให้ฉันผ่าตัด แต่ยังไงก็ตามฉันก็ดีใจนะ"

    โซยองบอกกับผมในที่สุด เธอก้มหน้าลง ล้วหยดน้ำตาเม็ดเล็กๆก็ไหลออกมา

    "ตลกดีเนาะ ขนาดฉันรู้ถึงยังงั้น ฉันก็ยังเชื่ออยู่ดี ยังไงฉันคงไม่ผิดใช่มั้ยถ้าฉันขอคิดว่าอย่างน้อยเค้าก็ต้องรักฉันบ้างละ"

    โซยองฝืนยิ้มออกมา ผมอยากกอดเธอเอาไว้ ไม่อยากเห็นน้ำตานั้นอีก แต่ผมทำได้เพียงแค่จับมือเธอไว้แน่นๆ



    ผมเคยคิดว่าไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ไม่สามารถยืนแทนที่โซยองได้
     หลายปีมานี้ผมทนเก็บความรู้สึกว่า รักเธอ เอาไว้ได้ และพยายามอยู่ข้างเธอให้ได้นานที่สุด  แม้จะมีผู้หญิงหลายคนที่เข้ามาสนใจผมก็ตาม แต่ผมก็ไม่เคยหันไปมองพวกเธอเลยด้วยซ้ำ มีหลายครั้งเหมือนกันที่ผมแอบดีใจตอนที่โซยองเลิกกับจุนอิน แต่ทุกครั้งเธอเลิกกับเค้าเธอก็จะร้องไห้อย่างหนัก และร่างกายก็จะทรุดลง จนผมทนดูไม่ได้ ผมก็เลยขอร้องจุนอินให้อยู่ข้างๆเธอ เค้าเองก็ไม่อยากเห็นเธอแย่ลงเเหมือนกัน โซยองเองก็รู้ดีถึงเหตุผลนี้เหมือนกัน

    ผมรู้ดี
     ถึงแม้ผมพยายามยังไงโซยองก้ไม่มองมาอยู่ดี ผมเลยทำได้แค่เพียงอยู่ข้างๆเธอ และช่วยเหลือให้

    ได้มากที่สุดเพราะผมไม่อยากเห็นน้ำตาของคนที่ผมรักเท่านั้นเอง

    แต่เมื่อวันหนึ่งผมก็ได้พบกับใครคนหนึ่งเข้า จากที่ไม่คิดจะมองใครอีกแล้ว แต่ผมกลับมองเธอ
     
     

    "โอ้ย" ผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งเข้ามาชนผมอย่างจัง และลงไปนั่งกองกับพื้น ยัยเบ๊าะเนี่ยใครกันนะ  ผมกะจะหันไปด่าเธอสะหน่อย

    แต่พอมองหน้าเธอคนนั้น ดวงตากลมโต ที่ใส่สื่อบริสุทธิ์ ที่จ้องมองผม ทำให้ใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ ผมอยากรู้จักเธอให้มากกว่านี้จัง ผมเลยคิดจะแกล้งเธอเล่นๆ แต่มันไม่เป็นยังงั้นสิ เธอกลับดูโกรธเอามากๆ

    "นายคิดพวกนายเป็นใครกันหา"
    เป็นครั้งแรกที่มีคนกล้าพูดกับผมยังงี้ ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่กล้าพูดแบบนี้กับผม เธอพูดแล้วไม่แสดงออกถึงความกลัวใดๆเลย


    จุนอินเข้ามาช่วยเธอไว้ และผมรู้ในทันทีว่าหมอนั่นสนใจเธอ
    ถ้าโซยองรู้เรื่องนี้เธอจะต้องเสียใจ ผมจะอยู่เฉยไม่ได้ ผมเลยเอาแต่หาเรื่องผู้หญิงคนนั้น เพื่อกันให้เธอห่างๆกับจุนอิน แต่กลับเป็นผมสะเองที่เข้าไปหาเธอ ผมไม่เคยเข้าหาผู้หญิคนไหนก่อนเลย และไม่เคยมองใครนอกจากโซยองด้วย ผมเริ่มแปลกใจกับตัวเอง

    ทุกครั้งที่ถามตัวผมมั่นใจเสมอว่า คนที่ผมรักมีแต่โซยอองเท่านั้น ผมบอกกับตัวเองเสมอว่าจะเป็นฝ่ายรอจนกว่าเธอจะหันมาเอง แล้วทำไมวันนี้ถึงเริ่มไม่มั่นใจ เมื่อได้รู้จักกับผู้หญิงที่ชื่อ คัง แฮมินคนนี้ละ

    .....................................................


    เด๋วจามาอัพใหม่น้าค๊า

    แบบว่าคอมมานเน่าๆไงมะรุ

    บางทีก๊อบมาจากเวิทมาน

    พอเซฟอล้วมันก็เป็นซ้ำๆกัน

    แก้ไม่ได้สะที เง่ว เลย

    เด๋วจามาอัพใหม่น้าค๊า

    แบบว่าคอมมานเน่าๆไงมะรุ

    บางทีก๊อบมาจากเวิทมาน

    พอเซฟอล้วมันก็เป็นซ้ำๆกัน

    แก้ไม่ได้สะที เง่ว เลย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×