ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    darkside

    ลำดับตอนที่ #1 : 1 จุดจบ การจาก และการหวนคืน

    • อัปเดตล่าสุด 5 ส.ค. 49


    แสงอาทิตย์กำลังจากลาไปอย่างช้าๆ  ท้องฟ้าปรากฏเป็นสีส้มอ่อนๆลอดผ่านปุยเมฆที่ยังคงล่องลอยไปตามการชักนำของกระแสลมราวกับว่าไม่ใส่ใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เลยแม้แต่น้อย  บนผืนแผ่นดินในบริเวณนั้นมีเพียงแค่ชายชราสามคนในเครื่องแต่งกายสีขาวของพ่อมดหมอผีในนิยายแฟนตาซีหลายๆเรื่อง  ด้านหน้าของชายชราทั้งสามนั้นมีร่างของชายหนุ่มแต่งกายในชุดพ่อมดสีดำ  สิ่งของในมือชายหนุ่มมิได้เป็นไม้เท้าหรือคทาเช่นพ่อมดทั่วๆไป  หากแต่เป็นดาบสีดำสนิทยาวประมาณสองฟุต  ชายหนุ่มนั่งทรุดอยู่กับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง

    "ในที่สุดพวกเราก็กำจัดจอมมารได้สำเร็จ  ต่อไปนี้ความสงบสุขก็คืนสู่ดินแดนของเราเสียที  กลับหมู่บ้านกันเถิดท่านผู้เฒ่า"  ชายหนุ่มกล่าวขึ้นด้วยเสียงที่แสดงอาการเหนื่อยอ่อนอย่างเห็นได้ชัด

    ยังมิทันที่ชายหนุ่มจะได้ยันกายลุกขึ้นจากพื้นก็มีเสียงของผู้เฒ่าทั้งสามดังขึ้น 

    "ยังหรอกท่าน  มันยังไม่จบ  ยังเหลืออีกหนึ่ง"  สิ้นเสียงของสามผู้เฒ่าชายหนุ่มก็คาดได้ว่าคงมีสมุนของจอมมารหลงเหลืออยู่เป็นแน่  ชายหนุ่มหันกลับไปยังทิศทางตรงข้ามแต่ทว่าเขามิอาจบังคับร่างกายให้เคลื่อนไหวได้  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความประหลาดใจให้ชายหนุ่มเป็นอย่างมากเนื่องจากมีเพียงชายหนุ่มเท่านั้นที่ไม่สามารถขยับได้  ส่วนผู้เฒ่าทั้งสามยังคงเคลื่อนไหวได้ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    "เกิดอะไรขึ้นกับข้า"  ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้น

    "ขอโทษด้วยท่านเรวีนัส  แต่เราจำเป็นต้องกำจัดท่าน"  หนึ่งในสามผู้เฒ่ากล่าวตอบด้วยน้ำเสียงสลด

    "ทำไม  ข้าอยู่ฝ่ายเดียวกับพวกท่าน  กำจัดจอมมารร่วมกับพวกท่าน  ทำไมทำกับข้าเช่นนี้"

    "ก็เพราะท่านมีกระแสเวทย์สีดำไหลเวียนอยู่ทั่วร่างเหมือนกับจอมมาร  ข้าขอโทษด้วยมันเป็นมติของชุมนุมพ่อมดและการตัดสินใจขององค์ราชา"  "ข้าแต่องค์เทพลีกาทออัส  ผู้ครองแสงสว่างและกำจัดความชั่วร้าย  โปรดกำจัดบุรุษผู้มีพลังด้านมืดเบื้องหน้าข้า"  สิ้นเสียงก็ปรากฏลำแสงสีขาวพุ่งออกมาจากปลายไม้เท้าของผู้เฒ่าทั้งสามตรงมายังชายหนุ่ม  ชายหนุ่มรู้ดีว่าสภาพร่างกายของตนในยามนี้มิอาจต้านทานพลังเวทย์ของสามผู้เฒ่าทำได้เพียงแค่ลดทอนอำนาจของพลัง 

    ลำแสงสีขาวจากปลายไม้เท้าของพ่อมดเฒ่าทั้งสามซึ่งเดิมพุ่งตรงมายังชายหนุ่มได้หนุ่มได้หยุดอยู่เบื้องหน้าห่างจากชายหนุ่มไปเพียงไม่กี่คืบ  จากนั้นกระแสพลังเวทย์ทั้งสามสายก็บิดตัวรวมกันกลายเป็นก้อนพลังเพียงก้อนเดียวแล้วแผ่ตัวออกราวกับเป็นผืนผ้าขนาดใหญ่ห่อหุ้มร่างชายหนุ่มอย่างกว้างๆ  และค่อยๆหดเล็กลง

    เห็นดังนั้นชายหนุ่มจึงอาศัยโอกาสนี้กล่าวสัจจะวาจาร่ายมหาเวทย์ด้วยเสียงแผ่วเบา "ข้าแต่องค์เทพจัสตราน่าทิคารัส  ผู้ครองสัจจะและความยุติธรรม  โปรดจงรับและรักษาสัจจะวาจาแห่งข้า ยามใดแผ่นดินไร้สิ้นซึ่งราชา  ทั่วทั้งพสุธาเกิดความโกลาหล  เกิดการแก่งแย่งแบ่งชั้นชน  ชีวีมนตราข้าจะหวนคืน"  สิ้นเสียงก็ปรากฏกระแสพลังเวทย์สีน้ำเงินสว่างวาบขึ้นรอบๆร่างชายหนุ่มเพียงเศษเสี้ยววินาทีแล้วหายไป 

    พลังเวทย์สีขาวบีบตัวเข้าใกล้ขายหนุ่มเข้ามาทุกขณะ  ความอึดอัดเข้าจับส่วนลึกในจิตใจมากขึ้นแปรผันตามระยะห่างของกระแสพลังเวทย์  ทันทีที่กระแสเวทย์สัมผัสกับร่างชายหนุ่มก็เกิดอาการเกร็ง  เมื่อกระแสพลังได้ซึมซับเข้าไปในร่างกายทำให้ชายหนุ่มเกิดอาการกระตุกอย่างรุนแรงหัวใจเต้นรัว  หายใจถี่เร็ว ดวงตาเบิกกว้าง  เกิดไอความร้อนปริมาณมหาศาลแผ่ออกปกคลุมทั่วร่างกระจายออกเป็นบริเวณกว้าง  ขนาดที่ว่าสามพ่อมดเฒ่าซึ่งได้ถอยห่างออกไปหลายสิบเมตรยังรู้สึกร้อนราวกับยืนอยู่ท่ามกลางกองเพลิง  จากนั้นก็เกิดการระเบิดขึ้นจากบริเวณอยู่  เสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ  เกิดแสงสว่างเจิดจ้าไปทั่วทั้งทวีป

    เปลือกตาเปิดขึ้นอย่างช้าๆ  เผยให้เห็นดวงตาสีเขียวใสประกอบกับใบหน้าคมคาย  ดูแล้วงดงามราวกับเทพมาจุติ  ร่างนั้นสวมเสื้อเชื๊ตสีดำกางเกงยีนส์สีดำแต่ทว่าสีสันของเสื้อผ้ามิได้ทำให้ความมีเสน่ห์ของบุรุษผู้นี้ลดลงไปแม้แต่น้อย  เขานำมือทั้งสองข้างนวดไปตามใบหน้าและลำคอ  ลุกขึ้นนั่งทีขอบเตียงแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆ  มองออกไปยังนอกหน้าต่าง  ไกลออกไปเผยให้เห็นแสงแรกแห่งอรุณรุ่งกระทบกับผืนน้ำส่องประกายระยิบตา  อีกทั้งทุ่งหญ้าเขียวขจีกว้างสุดตา  มองดูแล้วเกิดความสบายใจยิ่ง  ทั้งยังมีเสียงของเหล่าสกุณานานาพันธุ์ส่งเสียงประสานกังวานไปทั่วทั้งบริเวณ

    "ฝันเรื่องเดิมอีกแล้ว  แต่เหมือนจริงเลยแฮะ  ยังกับเราไปอยู่ตรงนั้นจริงๆ  นี่ก็ห้าวันแล้วที่ฝันแบบนี้  ทำไมนะฝันแต่เรื่องเดิมๆ"ชายหนุ่มรำพันกับตัวเอง

    ชายหนุ่มหันหลังกลับมุ่งไปยังโต๊ะทำงาน   เก็บเอกสารที่วางระเกะระกะเรียบเรียงลำดับหน้าจากนั้นวางลงบนโต๊ะทำงาน  ที่แผ่นบนสุดมีตัวอักษรถูกพิมพ์ไว้สี่บรรทัด 

    ลับเฉพาะ

    ศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีนานาชาติ

    การวิจัยและพัฒนาระบบกระตุ้นความทรงจำสำหรับแก้อาการความจำเสื่อม

    ผู้วิจัย  ดร.รวินทร์     

    บริเวณส่วนที่เป็นนามสกุลถูกปิดทับด้วยที่ทับกระดาษ  ในเมื่อเป็นเอกสารลับเฉพาะแต่กลับมาอยู่บนโต๊ะชายหนุ่มได้นั้นไม่เพียงเพราะเขาเป็นนักเจาะระบบมือฉกาจ  ขนาดที่ว่าในวงการแฮกเกอร์ยกให้เป็นอันดับหนึ่งของวงการ  และยังตั้งฉายาให้อีกด้วยว่า  "หัตถ์พระเจ้า หรือ Hands Of God"  ซึ่งฉายานี้ไม่ได้เกินจริงเลย  ทุกระบบที่เขาเจาะเข้าไปนั้นยังไม่มีใครเจาะเข้าไปได้  แม้กระทั่งระบบที่ถูกอ้างว่าสมบูรณ์แบบเขาก็เข้าไปได้อย่างง่ายดาย 

    ทุกระบบที่เข้าไปนั้นเขาจะฝากข้อความทิ้งไว้เพื่อแสดงว่าเขาได้เข้ามาแล้ว  ข้อความนั้นคือ "Rane had come"  และทุกๆครั้งที่เข้าไปผู้ดูแลระบบไม่สามารถตรวจพบได้เลยว่าเขาเข้ามาเมื่อใด  เข้ามาทางไหน  และออกไปได้อย่างไร  ที่สำคัญคือเขาเป็นใครมีเพียงตัวเขาที่รู้  แต่สาเหตุที่แท้จริงที่เขามีเอกสารฉบับนี้ก็เพราะว่าตัวเขาเองนั่นแหละที่เป็นผู้วิจัยและพัฒนาระบบนี้แต่เพียงผู้เดียว  นั่นก็หมายความว่าเขาก็คือดร.รวินทร์นั่นเอง

    ปัง ปัง!! ปัง ปัง ปัง!! เสียงทุบประตูดังขึ้น  "ไอ้วิน!เปิดประตู  นับถึงสาม  ถ้าไม่เปิดจะพังจะพังเข้าไปแล้วนะ  หนึ่ง  สอง  สาม"  ได้ยินดังนั้นรวินทร์จึงเปิดประตูรับผู้มาเยือน  เมื่อประตูเปิดออกก็ปรากฏร่างชายหนุ่มแต่งกายในเครื่องแบบพนักงานบริษัทที่มีให้เห็นอยู่ทั่วๆไปถลาเข้ามาในห้องเสียหลักล้มลงไปนอนแผ่หลาที่พื้นห้อง

    ร่างนั้นค่อยๆยันกายลุกขึ้นพร้อมกับตัดพ้อถึงสิ่งที่เกิดเมื่อครู่  "เวรเอ๊ย  จะเปิดก็ไม่บอกกันก่อน  พุ่งมาเต็มแรงเลยนะเนี่ย"  "เอาน่าเรื่องมันแล้วไปแล้ว  ว่าแต่มีอะไรเหรอรัฐมาแต่เช้าเชียว"  รวินทร์กล่าวพร้อมกับช่วยพยุงผู้ที่มาใหม่ลุกขึ้น

    "จำไม่ได้เหรอวันนี้หัวหน้าศูนย์นัดประชุมเก้าโมงเช้า  เฮ้ย!  นี่แกยังใส่ชุดนอนอยู่เลยนี่หว่า  งั้นข้าไม่รอนะ  เดี๋ยวสาย  ไปเองละกันนะเพื่อน  รีบๆตามไปล่ะ"  ว่าจบรัฐ  (หรือชื่อเต็มๆว่า ภพรัฐ  สวัสดิปราการ  เพื่อนในวัยเด็กของรวินทร์และยังทำงานที่เดียวกันอีกด้วย)  ก็วิ่งออกไปอย่างรีบร้อนปล่อยให้รวินทร์ยืนทำความเข้าใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่เพียงลำพัง

    ชายหนุ่มเริ่มลำดับเหตุการณ์แต่ละช่วงเมื่อเข้าใจแล้วจึงหันไปดูนาฬิกา 08:15  ชายหนุ่มรู้ตัวว่าถ้ายังชักช้าอย่างนี้จะต้องไปสายแน่ๆ  จึงรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและหอบเอกสารออกจากห้องและวิ่งไปอย่างรวดเร็ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×