คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 2 สิ่งที่หายไป
“ถึงซะที เหนื่อยชะมัดยาด” ชายหนุ่มหยุดที่หน้าประตูห้องห้องหนึ่งด้วยอาการเหนื่อยหอบ ร่างกายชุ่มไปด้วยหยาดน้ำใสๆหลายสายซึ่งไหลรินออกมาจากรูขุมขน จากนั้นเหลือบมองดูนาฬิกาโบราณที่บอกเวลาได้แม่นยำจนไม่น่าเชื่อตรงข้ามกับสภาพยับเยินของตัวมัน ปรากฏแท่งโลหะรูปร่างประหลาดจำนวนสองแท่ง แท่งแรกอ้วนโตแต่กลับสั้นชี้ไปที่เลขเก้า ส่วนอีกแท่งผอมบางแต่กลับยาวอย่างไม่สมดุลราวกับพร้อมจะหักได้ทุกเมื่อทาบปลายด้านหนึ่งไว้บนแท่งสั้นแสดงตนเป็นผู้อยู่เหนือกว่า ปลายอีกด้านของมันอยู่เลยเลขสิบเอ็ดไปเพียงเล็กน้อยซึ่งก็เท่ากับว่าเหลืออีกเกือบห้านาทีจึงตัดสินใจไปล้างหน้าล้างตาก่อนเข้าประชุม
เมื่อไปถึงห้องน้ำ ชายหนุ่มก็ต้องประหลาดใจด้วยการที่รัฐเพื่อนผู้ซึ่งทิ้งให้เขาต้องลำบากวิ่งมายังที่ทำงานในสภาพเปียกโชกไปทั้งตัว ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ต้องการเข้าประชุมสายเพียงเพราะรอคนขี้เซานอนตื่นสายผู้ซึ่งอดตาหลับขับตานอนเตรียมการเสนอผลการวิจัยจนเกือบไม่ได้นอน ผู้ที่ไม่ควรจะมาเดินสบายใจอยู่อย่างนี้
“รัฐ นายน่าจะอยู่ในห้องประชุมแล้วนี่”
“พอดีหัวหน้าศูนย์ต้องไปต้อนรับท่านประธานคนใหม่ เลยเลื่อนประชุมเป็นตอนบ่ายโมง”
“ดีเลยจะได้ไปหาอะไรถ่วงกระเพาะซะหน่อย”
“เออไปด้วยดิ ยังไม่ได้กินเหมือนกัน”
“เมื่อกี๊บอกว่าประธานคนใหม่ใช่ปะ คนเก่าไปไหน ใครเป็นแทน”
“เห็นเค้าว่ากันว่าเป็นลูกสาวคนเก่านั่นแหละ”
“ช่างเหอะ หิว”
หลังจากนั้นทั้งสองก็เดินไปยังห้องอาหารที่ดีที่สุด อร่อยที่สุด ราคาถูกที่สุด และที่ขาดไม่ได้คือบริการดีที่สุดในอาณาบริเวณอันกว้างขวางบนพื้นที่สองร้อยไร่ของศูนย์วิจัยแห่งนี้
“เฮ้ย! ไอ้หนุ่มสองคนที่เพิ่งมาน่ะ จะกินอะไรวะ ถ้าไม่กินก็ออกไป เกะกะหน้าร้าน”เสียงลุงเจ้าของร้านดังมาให้ได้ยินตั้งแต่ยังเดินไปไม่ถึงร้าน
“กินสิครับลุง”
“เอาอะไรว่ามา”
“เอา...นี่....แล้วก็นี่ครับ”
“แล้วเอ็งล่ะ”
“เอ่อ.....”
“งั้นก็เอาเหมือนกับไอ้หมอนี่ละกัน ชักช้าน่ารำคาญ”
“ก็ได้ครับ”
“เอ้า เอาไป กินเสร็จแล้วล้างมาคว่ำไว้ที่ชั้นด้วย”
นี่เป็นตัวอย่างบทสนทนาระหว่างสองหนุ่มกับลุงเจ้าของร้าน ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับสำหรับทั้งคู่เลยแม้แต่น้อย ทั้งนี้เป็นเพราะว่าตั้งแต่เข้ามาทำงานที่นี่วันแรก ทั้งสองก็มาหาอะไรถ่วงท้องที่นี่ประจำ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เห็นจะตรงกันกับสรรพคุณของร้านตรงไหนเลย ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะไอ้ศูนย์วิจัยกว้างๆแห่งนี้มีพื้นที่ตั้งสองร้อยไร่ แต่ดันมีร้านอาหารอยู่แค่ร้านเดียวและก็ด้วยนิสัยส่วนตัวของทั้งคู่ที่คล้ายๆกัน คือ จะไม่ไปทำความรู้จักกับใครถ้าไม่จำเป็น ทำให้ต้องจำใจกินมันซะที่นี่ ก็ไปที่อื่นไม่เป็นนี่
และแน่นอนว่ามื้อเที่ยงของสองหนุ่มก็ลงเอยที่ร้านเดิมด้วยการสนทนาประโยคเดิมๆกับลุงเจ้าของร้าน แล้วมื้อกลางวันอันสุดแสนวิเศษที่ทั้งสองจะจดจำไปอีกนานก็สิ้นลงด้วยความประทับใจ(ตรงไหนกัน)
ณ ห้องประชุม
“ก่อนที่จะเริ่ม ผมขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ คุณ ธาริณี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอจะมาเป็นประธานของพวกคุณ สำหรับเรื่องงานทุกอย่าง ก็เหมือนที่ผ่านๆมา ไม่มีการโยกย้ายใดๆทั้งสิ้น ส่วนประวัติของเจ้าหน้าที่พิเศษฝ่ายต่างๆ ซึ่งก็คือทุกคนในที่ประชุมแห่งนี้ ถือเป็นข้อมูลลับสุดยอด ทุกคนจะรู้จักกันเพียงชื่อและรูปร่างหน้าตาเท่านั้น ข้อมูลอื่นๆจะมีเพียงผมและท่านประธานเท่านั้นที่รู้”
“เอาหละ ในเมื่อที่ประชุมพร้อมแล้ว ขอให้ทุกท่านป้อนไอดีการ์ดเข้าเครื่องได้เลยครับ” ไอดีการ์ดจะเป็นบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ซึ่งสามารถใช้เก็บข้อมูลได้ด้วย ในการประชุมเมื่อมีการแถลงผลการวิจัยจะไม่มีการเปิดเผยตัวตนของผู้ทำการวิจัยเพื่อไม่ให้ข้อมูลรั่วไหล แต่จะใช้การป้อนข้อมูลต่างๆที่เตรียมมาใส่เข้าไปในการ์ด จากนั้นเมื่อป้อนการ์ดเข้าไปเครื่องจะทำการจัดเก็บข้อมูลทุกรายละเอียดแล้วไปแสดงผลที่เครื่องของประธาน
“งานวิจัยชิ้นแรกที่เราจะพิจารณากันคือเครื่องฟื้นความจำ ขอให้ทุกคนดูที่หน้าจอและสวมหูฟังด้วย”
“จะเห็นได้ว่าคดีร้ายแรงต่างๆที่เกิดขึ้นในปัจจุบันส่วนใหญ่พยานที่อยู่ในเหตุการณ์ ไม่สามารถให้การที่เป็นประโยชน์ได้ เนื่องจากเหตุการณ์นั้นส่งผลกระทบต่อจิตใจอย่างรุนแรง ทำให้ระบบการป้องกันตัวเองของสมองสั่งการลบความจำส่วนนั้นออกไป”
“ทุกท่านคงเคยได้ยินว่าเวลาที่เราเก็บข้อมูลไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วใช้งานไปนานๆ จะทำให้ข้อมูลบางส่วนเกิดการชำรุดเสียหาย หรือในบางครั้งเราก็เผลอไปลบมันเข้า ถ้าข้อมูลนั้นไม่สำคัญก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าหากมันสำคัญปัญหาก็จะเกิด ปัจจุบันเราสามารถทำการซ่อมแซมและกู้ข้อมูลพวกนี้ได้”
“ท่านอาจจะสงสัยว่ามันเกี่ยวกับเรื่องฟื้นความจำยังไง ลองฟังแล้วคิดตามว่าสมองมนุษย์มีการทำงานที่ซับซ้อน แต่มีระบบคือสมองจะทำการบันทึกความจำด้วยการส่งข้อมูลในรูปของกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ คล้ายกับการทำงานของคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบเลขฐานสอง ซึ่งก็คือ 1 และ 0 โดยแทนเลขทั้งสองตัวนี้การจ่ายและไม่จ่ายกระแสไฟเข้าไปยังหน่วยประมวลผล”
“จะเห็นได้ว่าระบบการทำงานทั้งสองอย่างคล้ายคลึงกัน จึงได้ตั้งสมมุติฐานขึ้นมาว่าความทรงจำของมนุษย์ก็น่าจะทำการซ่อมแซมและกู้คืนได้เช่นเดียวกัน แต่การที่จะทำโครงการนี้จะต้องทำการศึกษาระบบการเก็บข้อมูลของสมองเพื่อเทียบค่าต่างๆที่ได้ ให้เกิดความเชื่อมโยงที่ถูกต้องระหว่างคอมพิวเตอร์และสมอง......................”
แล้วการประชุมก็ดำเนินต่อไปจนจบ
“เอาหละถ้าไม่มีใครมีข้อสงสัยอะไรแล้ว ดิฉันก็ขอจบการประชุมเพียงเท่านี้ ขอให้ทุกท่านตั้งใจทำโครงการของตัวเองต่อไป เชิญทุกท่านแยกย้ายได้เลยค่ะ” ธาริณีกล่าวสรุป
“ไงวิน เนื้อหอมจริงนะ”
“เฮ้ย อะไรของนายวะ”
“ทำเป็นไม่รู้อีก ก็ประธานคนสวยนั่นไงเห็นจ้องหน้านายไม่กระพริบเลย”
“ไม่มีอะไรหรอก คงเคยเจอกันที่ไหนแหละ”
“ดร.รวินทร์ครับ ท่านประธานเชิญพบที่ห้องครับ”
“นั่นไงหล่ะพ่อเนื้อหอม ยังไม่ทันไรก็ให้ไปหาแล้ว มีอะไรดีๆก็บอกกันบ้างนะ”
“คงเรื่องงานน่ะ”
ที่ห้องประธาน
“ขอโทษครับ เห็นบอกว่าประธานเรียกผมมาพบ มีอะไรหรือครับ”
“วิน”
“ครับ”
“ใช่วินจริงๆด้วย ตั้งแต่วันนั้น เราก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย น้ำคิดถึงวินมากเลยนะ”หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น โผเข้าไปกอดชายหนุ่มที่ไม่ทันได้ระวังตัวเกิดอาการผงะ เนื่องจากไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้
“เอ่อ.. คุณธาริณีครับ ผมคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ผมคงบังเอิญไปเหมือนกับคนที่คุณรู้จัก”
ด้วยประโยคที่หลุดออกจากปากของวินทำให้เธอชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นค่อยๆถอนตัวออกมา
“ขอโทษนะ แล้วงานวิจัยจะเสร็จเมื่อไหร่หล่ะ”
“อันที่จริงเสร็จแล้วครับ เหลือแค่รออนุมัติการสร้างเครื่อง”
“ดีแล้วงั้นเตรียมตัวทีมงานได้เลย เชิญค่ะ”
“ครับ”
หลังจากวินออกไปจากห้อง หญิงสาวก็กลับไปนั่งที่เก้าอี้ พร้อมกับนึกตำหนิตัวเองที่ไม่ดูให้แน่ใจก่อน จากนั้นจึงเริ่มเปิดแฟ้มประวัติเจ้าหน้าที่พิเศษขึ้นมาดูประวัติ เมื่อเปิดดูไปได้ห้ารายเธอก็พบกับสิ่งที่เธอไม่คิดว่าจะใช่ นั่นก็คือประวัติของดร.รวินทร์ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นวันเดือนปีเกิด หรือแม้กระทั่งประวัติการศึกษาที่เหมือนกับคนที่เธอรู้จักไม่ผิดเพี้ยน ต่างกันที่ท่าทางที่ชายหนุ่มแสดงออกมาบ่งบอกว่าเขาไม่รู้จักเธอ
หญิงสาวตกอยู่ในห้วงภวังค์แห่งความคิด นึกย้อนกลับไปในวันนั้นวันที่เธอจะขึ้นเครื่องไปเรียนต่อต่างประเทศ วันน้นรถติดมาก เธอรอวินอยู่ที่สนามบินแต่เขาก็ไม่มา เธอมารู้หลังจากที่ลงจากเครื่องว่าวันนั้นวินรีบที่จะมาส่งเธอให้ทัน แต่กลับกลายเป็นว่ามีรถฝ่าไฟแดงพุ่งเข้ามาชนกับรถที่วินขับ หลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้ข่าวเกี่ยวกับเขาอีกเลย
หยดน้ำใสเริ่มก่อตัวรอบดวงตาจนเอ่อล้นออกมาไหลเป็นทาง หญิงสาวก้มหน้าร้องไห้ รำพึงรำพันกับตัวเอง “ วิน น้ำขอโทษ ถ้าวันนั้นวินไม่รีบมาหาน้ำ คงจะไม่เป็นอย่างนี้ วินคงจะไม่ลืมน้ำ”
“ถ้าอย่างนั้นน้ำจะทำให้วินจำน้ำได้ ด้วยเครื่องมือที่วินทุ่มเทวิจัยมันขึ้นมา”ว่าแล้วเธอก็หยิบปึกกระดาษขึ้นมาและเซ็นชื่อลงไป พร้อมยกหูโทรศัพท์ขึ้นแล้วกดหมายเลข ทันทีที่ปลายสายรับ เธอก็สั่งให้ทำการแจ้งไปยังดร.รวินทร์ว่าโครงการอนุมัติแล้วให้เริ่มสร้างได้เลย งบประมาณเท่าไหร่เท่ากัน
ความคิดเห็น