ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    darkside

    ลำดับตอนที่ #2 : 2 สิ่งที่หายไป

    • อัปเดตล่าสุด 5 ส.ค. 49


    ถึงซะที  เหนื่อยชะมัดยาด ชายหนุ่มหยุดที่หน้าประตูห้องห้องหนึ่งด้วยอาการเหนื่อยหอบ ร่างกายชุ่มไปด้วยหยาดน้ำใสๆหลายสายซึ่งไหลรินออกมาจากรูขุมขน  จากนั้นเหลือบมองดูนาฬิกาโบราณที่บอกเวลาได้แม่นยำจนไม่น่าเชื่อตรงข้ามกับสภาพยับเยินของตัวมัน ปรากฏแท่งโลหะรูปร่างประหลาดจำนวนสองแท่ง แท่งแรกอ้วนโตแต่กลับสั้นชี้ไปที่เลขเก้า  ส่วนอีกแท่งผอมบางแต่กลับยาวอย่างไม่สมดุลราวกับพร้อมจะหักได้ทุกเมื่อทาบปลายด้านหนึ่งไว้บนแท่งสั้นแสดงตนเป็นผู้อยู่เหนือกว่า  ปลายอีกด้านของมันอยู่เลยเลขสิบเอ็ดไปเพียงเล็กน้อยซึ่งก็เท่ากับว่าเหลืออีกเกือบห้านาทีจึงตัดสินใจไปล้างหน้าล้างตาก่อนเข้าประชุม

     

    เมื่อไปถึงห้องน้ำ ชายหนุ่มก็ต้องประหลาดใจด้วยการที่รัฐเพื่อนผู้ซึ่งทิ้งให้เขาต้องลำบากวิ่งมายังที่ทำงานในสภาพเปียกโชกไปทั้งตัว   ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ต้องการเข้าประชุมสายเพียงเพราะรอคนขี้เซานอนตื่นสายผู้ซึ่งอดตาหลับขับตานอนเตรียมการเสนอผลการวิจัยจนเกือบไม่ได้นอน  ผู้ที่ไม่ควรจะมาเดินสบายใจอยู่อย่างนี้

     

    รัฐ  นายน่าจะอยู่ในห้องประชุมแล้วนี่

     

    พอดีหัวหน้าศูนย์ต้องไปต้อนรับท่านประธานคนใหม่  เลยเลื่อนประชุมเป็นตอนบ่ายโมง

     

    ดีเลยจะได้ไปหาอะไรถ่วงกระเพาะซะหน่อย

     

    เออไปด้วยดิ  ยังไม่ได้กินเหมือนกัน

     

    เมื่อกี๊บอกว่าประธานคนใหม่ใช่ปะ  คนเก่าไปไหน  ใครเป็นแทน

     

    เห็นเค้าว่ากันว่าเป็นลูกสาวคนเก่านั่นแหละ

     

    ช่างเหอะ  หิว

     

    หลังจากนั้นทั้งสองก็เดินไปยังห้องอาหารที่ดีที่สุด  อร่อยที่สุด  ราคาถูกที่สุด  และที่ขาดไม่ได้คือบริการดีที่สุดในอาณาบริเวณอันกว้างขวางบนพื้นที่สองร้อยไร่ของศูนย์วิจัยแห่งนี้ 

     

    เฮ้ย!  ไอ้หนุ่มสองคนที่เพิ่งมาน่ะ  จะกินอะไรวะ  ถ้าไม่กินก็ออกไป  เกะกะหน้าร้านเสียงลุงเจ้าของร้านดังมาให้ได้ยินตั้งแต่ยังเดินไปไม่ถึงร้าน

     

    กินสิครับลุง

     

    เอาอะไรว่ามา

     

    เอา...นี่....แล้วก็นี่ครับ

     

    แล้วเอ็งล่ะ

     

    เอ่อ.....

     

    งั้นก็เอาเหมือนกับไอ้หมอนี่ละกัน  ชักช้าน่ารำคาญ

     

    ก็ได้ครับ

     

    เอ้า  เอาไป  กินเสร็จแล้วล้างมาคว่ำไว้ที่ชั้นด้วย

     

    นี่เป็นตัวอย่างบทสนทนาระหว่างสองหนุ่มกับลุงเจ้าของร้าน  ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับสำหรับทั้งคู่เลยแม้แต่น้อย  ทั้งนี้เป็นเพราะว่าตั้งแต่เข้ามาทำงานที่นี่วันแรก  ทั้งสองก็มาหาอะไรถ่วงท้องที่นี่ประจำ 

     

    ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เห็นจะตรงกันกับสรรพคุณของร้านตรงไหนเลย  ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะไอ้ศูนย์วิจัยกว้างๆแห่งนี้มีพื้นที่ตั้งสองร้อยไร่  แต่ดันมีร้านอาหารอยู่แค่ร้านเดียวและก็ด้วยนิสัยส่วนตัวของทั้งคู่ที่คล้ายๆกัน  คือ  จะไม่ไปทำความรู้จักกับใครถ้าไม่จำเป็น  ทำให้ต้องจำใจกินมันซะที่นี่  ก็ไปที่อื่นไม่เป็นนี่

     

    และแน่นอนว่ามื้อเที่ยงของสองหนุ่มก็ลงเอยที่ร้านเดิมด้วยการสนทนาประโยคเดิมๆกับลุงเจ้าของร้าน  แล้วมื้อกลางวันอันสุดแสนวิเศษที่ทั้งสองจะจดจำไปอีกนานก็สิ้นลงด้วยความประทับใจ(ตรงไหนกัน)

     

    ณ ห้องประชุม

     

    ก่อนที่จะเริ่ม  ผมขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ คุณ ธาริณี  ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอจะมาเป็นประธานของพวกคุณ สำหรับเรื่องงานทุกอย่าง  ก็เหมือนที่ผ่านๆมา ไม่มีการโยกย้ายใดๆทั้งสิ้น ส่วนประวัติของเจ้าหน้าที่พิเศษฝ่ายต่างๆ  ซึ่งก็คือทุกคนในที่ประชุมแห่งนี้  ถือเป็นข้อมูลลับสุดยอด  ทุกคนจะรู้จักกันเพียงชื่อและรูปร่างหน้าตาเท่านั้น  ข้อมูลอื่นๆจะมีเพียงผมและท่านประธานเท่านั้นที่รู้

     

    เอาหละ  ในเมื่อที่ประชุมพร้อมแล้ว  ขอให้ทุกท่านป้อนไอดีการ์ดเข้าเครื่องได้เลยครับ  ไอดีการ์ดจะเป็นบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ซึ่งสามารถใช้เก็บข้อมูลได้ด้วย  ในการประชุมเมื่อมีการแถลงผลการวิจัยจะไม่มีการเปิดเผยตัวตนของผู้ทำการวิจัยเพื่อไม่ให้ข้อมูลรั่วไหล  แต่จะใช้การป้อนข้อมูลต่างๆที่เตรียมมาใส่เข้าไปในการ์ด  จากนั้นเมื่อป้อนการ์ดเข้าไปเครื่องจะทำการจัดเก็บข้อมูลทุกรายละเอียดแล้วไปแสดงผลที่เครื่องของประธาน

     

    งานวิจัยชิ้นแรกที่เราจะพิจารณากันคือเครื่องฟื้นความจำ  ขอให้ทุกคนดูที่หน้าจอและสวมหูฟังด้วย

     

    จะเห็นได้ว่าคดีร้ายแรงต่างๆที่เกิดขึ้นในปัจจุบันส่วนใหญ่พยานที่อยู่ในเหตุการณ์  ไม่สามารถให้การที่เป็นประโยชน์ได้  เนื่องจากเหตุการณ์นั้นส่งผลกระทบต่อจิตใจอย่างรุนแรง  ทำให้ระบบการป้องกันตัวเองของสมองสั่งการลบความจำส่วนนั้นออกไป

     

    ทุกท่านคงเคยได้ยินว่าเวลาที่เราเก็บข้อมูลไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วใช้งานไปนานๆ  จะทำให้ข้อมูลบางส่วนเกิดการชำรุดเสียหาย  หรือในบางครั้งเราก็เผลอไปลบมันเข้า  ถ้าข้อมูลนั้นไม่สำคัญก็ไม่มีปัญหาอะไร  แต่ถ้าหากมันสำคัญปัญหาก็จะเกิด  ปัจจุบันเราสามารถทำการซ่อมแซมและกู้ข้อมูลพวกนี้ได้

     

    ท่านอาจจะสงสัยว่ามันเกี่ยวกับเรื่องฟื้นความจำยังไง  ลองฟังแล้วคิดตามว่าสมองมนุษย์มีการทำงานที่ซับซ้อน  แต่มีระบบคือสมองจะทำการบันทึกความจำด้วยการส่งข้อมูลในรูปของกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ  คล้ายกับการทำงานของคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบเลขฐานสอง  ซึ่งก็คือ 1 และ 0 โดยแทนเลขทั้งสองตัวนี้การจ่ายและไม่จ่ายกระแสไฟเข้าไปยังหน่วยประมวลผล 

     

    จะเห็นได้ว่าระบบการทำงานทั้งสองอย่างคล้ายคลึงกัน  จึงได้ตั้งสมมุติฐานขึ้นมาว่าความทรงจำของมนุษย์ก็น่าจะทำการซ่อมแซมและกู้คืนได้เช่นเดียวกัน  แต่การที่จะทำโครงการนี้จะต้องทำการศึกษาระบบการเก็บข้อมูลของสมองเพื่อเทียบค่าต่างๆที่ได้  ให้เกิดความเชื่อมโยงที่ถูกต้องระหว่างคอมพิวเตอร์และสมอง......................

     

    แล้วการประชุมก็ดำเนินต่อไปจนจบ

     

    เอาหละถ้าไม่มีใครมีข้อสงสัยอะไรแล้ว  ดิฉันก็ขอจบการประชุมเพียงเท่านี้  ขอให้ทุกท่านตั้งใจทำโครงการของตัวเองต่อไป  เชิญทุกท่านแยกย้ายได้เลยค่ะ ธาริณีกล่าวสรุป

     

    ไงวิน  เนื้อหอมจริงนะ

     

    เฮ้ย  อะไรของนายวะ

     

    ทำเป็นไม่รู้อีก  ก็ประธานคนสวยนั่นไงเห็นจ้องหน้านายไม่กระพริบเลย

     

    ไม่มีอะไรหรอก  คงเคยเจอกันที่ไหนแหละ

     

    ดร.รวินทร์ครับ  ท่านประธานเชิญพบที่ห้องครับ

     

    นั่นไงหล่ะพ่อเนื้อหอม  ยังไม่ทันไรก็ให้ไปหาแล้ว  มีอะไรดีๆก็บอกกันบ้างนะ

     

    คงเรื่องงานน่ะ

     

    ที่ห้องประธาน

     

    ขอโทษครับ  เห็นบอกว่าประธานเรียกผมมาพบ  มีอะไรหรือครับ

     

    วิน

     

    ครับ

     

    ใช่วินจริงๆด้วย  ตั้งแต่วันนั้น  เราก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย  น้ำคิดถึงวินมากเลยนะหญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น  โผเข้าไปกอดชายหนุ่มที่ไม่ทันได้ระวังตัวเกิดอาการผงะ  เนื่องจากไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้

     

    เอ่อ..  คุณธาริณีครับ  ผมคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด  ผมคงบังเอิญไปเหมือนกับคนที่คุณรู้จัก

     

    ด้วยประโยคที่หลุดออกจากปากของวินทำให้เธอชะงักไปครู่หนึ่ง  จากนั้นค่อยๆถอนตัวออกมา

     

    ขอโทษนะ  แล้วงานวิจัยจะเสร็จเมื่อไหร่หล่ะ

     

    อันที่จริงเสร็จแล้วครับ  เหลือแค่รออนุมัติการสร้างเครื่อง

     

    ดีแล้วงั้นเตรียมตัวทีมงานได้เลย  เชิญค่ะ

     

    ครับ

     

    หลังจากวินออกไปจากห้อง  หญิงสาวก็กลับไปนั่งที่เก้าอี้  พร้อมกับนึกตำหนิตัวเองที่ไม่ดูให้แน่ใจก่อน  จากนั้นจึงเริ่มเปิดแฟ้มประวัติเจ้าหน้าที่พิเศษขึ้นมาดูประวัติ  เมื่อเปิดดูไปได้ห้ารายเธอก็พบกับสิ่งที่เธอไม่คิดว่าจะใช่  นั่นก็คือประวัติของดร.รวินทร์  ซึ่งไม่ว่าจะเป็นวันเดือนปีเกิด  หรือแม้กระทั่งประวัติการศึกษาที่เหมือนกับคนที่เธอรู้จักไม่ผิดเพี้ยน  ต่างกันที่ท่าทางที่ชายหนุ่มแสดงออกมาบ่งบอกว่าเขาไม่รู้จักเธอ

     

    หญิงสาวตกอยู่ในห้วงภวังค์แห่งความคิด  นึกย้อนกลับไปในวันนั้นวันที่เธอจะขึ้นเครื่องไปเรียนต่อต่างประเทศ  วันน้นรถติดมาก  เธอรอวินอยู่ที่สนามบินแต่เขาก็ไม่มา  เธอมารู้หลังจากที่ลงจากเครื่องว่าวันนั้นวินรีบที่จะมาส่งเธอให้ทัน  แต่กลับกลายเป็นว่ามีรถฝ่าไฟแดงพุ่งเข้ามาชนกับรถที่วินขับ  หลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้ข่าวเกี่ยวกับเขาอีกเลย 

     

    หยดน้ำใสเริ่มก่อตัวรอบดวงตาจนเอ่อล้นออกมาไหลเป็นทาง  หญิงสาวก้มหน้าร้องไห้  รำพึงรำพันกับตัวเอง  วิน  น้ำขอโทษ  ถ้าวันนั้นวินไม่รีบมาหาน้ำ  คงจะไม่เป็นอย่างนี้  วินคงจะไม่ลืมน้ำ

     

     ถ้าอย่างนั้นน้ำจะทำให้วินจำน้ำได้  ด้วยเครื่องมือที่วินทุ่มเทวิจัยมันขึ้นมาว่าแล้วเธอก็หยิบปึกกระดาษขึ้นมาและเซ็นชื่อลงไป  พร้อมยกหูโทรศัพท์ขึ้นแล้วกดหมายเลข  ทันทีที่ปลายสายรับ  เธอก็สั่งให้ทำการแจ้งไปยังดร.รวินทร์ว่าโครงการอนุมัติแล้วให้เริ่มสร้างได้เลย  งบประมาณเท่าไหร่เท่ากัน

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×