*** แก้ไขคำผิด***
ไม่ทัน ไม่ทันแล้ว
"เดี๋ยว! นี้นายจะมาจอดรถของนายตรงนี้ไม่ได้ มันไม่ใช่ที่จอดมอไซต์ เอาไปจอดที่อื่นเดี๋ยวนี้" ผู้ชายใส่สูทผูกไทค์คนนี้ใคร ผมชะงักไปนิดนึงเมื่อหันไปมองหน้าเต็มๆ แม่งนี้หลุดออกมาจากนิตยสารฉบับไหนกันวะ
"ขอโทษครับ แต่ผมขอจอดแป๊บหนึงได้มั้ยครับ คือผมรีบมาก"
"ไม่ได้ นายไม่มีสิทธิ์ นายหันไปดูรถที่จอดข้างนายแต่ละคันสิ คันละกี่สิบล้าน เอารถนายออกไปเดี๋ยวนี้" เอ๊ะ ก็บอกว่ารีบไง จะอะไรนักหนากับมอไซต์คันเล็กๆคันเดียว เป็นรปภ.สินะ เข้มงวดขนาดนี้ เบ่งซะจริงๆ
"คุณรปภ.ครับ ที่จอดรถมอไซต์มันอยู่ไกลมากแล้วตอนนี้ผมก็รีบมาก ขอผมนะครับนะนะ" ใช้มุขสายตาอ้อนๆนี้แหละ แพ้มาหลายคนแระ ต้องได้สินะ
"รปภ.? นี้เอาตาหรือเอาตาตุ่มมองหะ" ทำไมต้องโกรธด้วยวะ เออๆเรียกให้ถูกต้องก็ได้
"ขอโทษครับคุณหัวหน้า! ผู้ดูแลความปลอดภัย ผมรีบจริงๆ ผมต้องไปสัมภาษณ์งาน ปล่อยผมไปก่อนได้มั้ย"
อึ้งๆ ยืนอึ้งแบบนี้ภูมิใจอะดิ ผมขอใช้เวลาที่เค้ายืนอึ้งนี้แหละ วิ่ง 4x100 ม ไปก่อนแล้วกัน ไว้ผมจะซื้อขนมมาไถ่โทษนะครับคุณรปภ. ถ้าผมสัมภาษณ์เข้างานที่นี้ผ่านนะ
Mark part
ผมยังอึ้งและก้มสำรวจเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่ นี้ผมแต่งตัวเหมือนหัวหน้ารปภ.ขนาดนั้นเลยเหรอ ฮึ ไอ้เด็กไม่มีตา นายไม่รู้หรอกว่าทั้งตัวของฉันซื้อมอไซต์นายได้กี่คัน ไม่รู้จักคำว่าแบรนด์เนมละสิ อย่าให้เจออีกนะ จะตัดป้ายแบรนด์เนมไปให้นั่งท่องทั้งวัน หงุดหงิดจริงๆเลย
ผมเดินพาตัวเองเข้าไปภายในตึกขนาดใหญ่ ทั้งที่ผมยังไม่พร้อมเลยที่จะเข้ามารับตำแหน่งที่ป๊ายัดเยียดให้ ทั้งที่อยากจะเที่ยวและพักผ่อนให้ได้นานกว่านี้ ก็ผมอุตส่าห์เรียนทุกอย่างตามที่ป๊าขอ เหนื่อยแสนเหนื่อย พอจบมามันก็ต้องใช้ชิวิตหนุ่มโสดสุดหล่อควงสาวๆให้หนำใจบ้าง แต่ทำได้ไม่กี่เดือนก็ต้องถูกยื่นคำขาดให้เข้ามาเรียนงานที่บริษัทอีก เฮ้ย เศร้าใจจริงๆ
"ขอโทษครับ มาติดต่อเรื่องอะไรครับ" ผมมองตามเสียงทักทาย และสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้า สูตรสีดำ ผูกเนคไทสุดเนี๊ยบ เซตผมเรียบหรู ก่อนจะเหลืยบสายตามองตัวเองอีกรอบ ทำให้ผมนึกถึงคำพูดของเด็กน้อยหน้าใสคนเมื่อกี้ทันที
"ทำงานที่นี้ ไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นใคร" ผมถามด้วยน้ำเสียงนิ่ง กระชับคอเสื้อ เชิดหน้าเล็กน้อย
"ไม่ทราบครับ ถ้าทำงานที่นี้กรุณาติดบัตรพนักงานด้วยครับ"
"นี้! " ผมหันมองอย่างอารมณ์หงุดหงิดไม่ทันได้พูดอะไรมากกว่านี้ ก่อนจะมีเสียงหนึงแทรกเข้ามา
"คุณมาร์คครับ สวัสดีครับ" ผมมองไปยังเสียงที่มาใหม่ เลขาอิม เลขาที่พ่อผมส่งมาให้สอนงานและดูแลผม คนที่ผมรู้จักเป็นอย่างดี ที่เข้านอกออกในบ้านผมเป็นว่าเล่น แต่ที่ผมหงุดหงิดคือ ไอ้รปภ.หันไปทำความเคารพเขา แต่ไม่รู้จักผม
"เชิญทางนี้ครับ " ผมเดินตามเลขาอิม และไม่ลืมที่จะยักไหล่ใส่รปภ.คนนั้นที่ยืนทำหน้าเหรอหรา ทำท่าตะเบ๊ะให้ผมอย่างแข็งขัน
"นี้ห้องทำงานของคุณมาร์คครับ ผมให้เขาตกแต่งตามที่คุณมาร์คต้องการ ส่วนนี้เป็นเอกสารที่คุณมาร์คต้องดู ทั้งหมดในวันนี้ และนี้เป็นเอกสารเพื่อเตรียมตัวเข้าประชุม ตอน 10 โมง ต้องการอะไรเพิ่มเติมเรียกผมได้ตลอดเวลานะครับห้องผมอยู่ถัดไป "
เลขาอิมยกแฟ้มเอกสารเกือบ 10 แฟ้มมาวางให้ผม แล้วเค้าใช้คำว่าภายในวันนี้ นี้ป๊าจ้างมาเป็นเลขาผม หรือจ้างมาเป็นเจ้านายผมกันแน่ แต่ก็นั่นแหละ ป๊าไว้ใจเขาที่สุด คงคิดว่าจะเอาผมอยู่มั้ง
"เลขาอิม วันนี้มีพนักงานมาสัมภาษณ์งานมั้ย" ใช่ครับ หลังจากประชุมแนะนำตัวกับกรรมการบริษัทเรียบร้อย แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นที่ผมสนใจเท่าใหร่ แต่ที่ผมสนใจคือเด็กน้อยคนนั้น
"นั้นเป็นหน้าที่ฝ่ายบุคคลครับ" เออรู้ แต่อยากรู้ว่ามีมั้ย นี้กวนใช่มั้ย
"แล้วมีมั้ย ผมอยากรู้เดี๋ยวนี้" ผมยื่นคำขาดออกไป กับเลขาอิม ถ้าไม่ขู่คงไม่ตามใจผมหรอก
"ครับ ครับ" ตอบรับก่อนจะรีบเดินออกไป
"วันนี้มีพนักงานมาสัมภาษณ์งาน 4 คนครับ ของแผนกขาย 2 คนเป็นผู้หญิง และแผนกตรวจสอบภายใน 1 คนครับเป็นผู้ชาย แล้วก็นักศึกษาฝึกงานแผนกการตลาด 1 คน นี้ครับเอกสารของทั้ง 4"
เลขาอิมยื่นแฟ้มข้อมูลของคนทั้ง 4 มาให้ผม แน่นอนว่าแผนกขายผมไม่สนใจ ผมหยิบอีกสองคนมาพลิกดู ก่อนจะเห็นหน้านักศึกษาฝึกงาน นายกันต์พิมุก ภูวกุล ชื่อเล่นแบมแบม ผมเผลอยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย จนเลขาอิมจ้องหน้าผมทำให้ผมหุบยิ้มแทบไม่ทัน
"ผ่านมั้ย" ผมโยนแฟ้มประวัตินักศึกษาฝีกงานลงบนโต๊ะ เลขาอิมทำหน้าสงสัยเล็กน้อยก่อนจะตอบ
"ไม่แน่ใจครับ อาจจะไม่ผ่านเพราะเห็นว่าวันแรกก็มาสาย"
"รับซะ"
"ครับ?"
"ผมบอกว่า ให้รับเด็กคนนี้เข้าฝึกงานซะ นี้ผมจำเป็นต้องขยายคำพูดตัวเองทุกครั้งมั้ย"
"แต่ นั้นเป็นงานของฝ่ายบุคคลนะครับ"
"เลขาอิม!"
"ครับได้ครับ ผมจะแจ้งฝ่ายบุคคลให้"
เรื่องขัดใจนี้คือหน้าที่อีกอย่างรึไงนะเลขาอิม เหอะ
end Mark part
ประกาศ พอดีว่าอ่านแล้วเจอคำผิด เลยมาแก้ไขนิดหน่อย บางบทอาจแก้คำ แต่ไม่มีผลกระทบกับเนื้อหาหลักคร้า ใครเจอคำผิดแจ้งด้วยน๊า จะได้อ่านลื่นๆขึ้น
>>> เป็นไง พอได้มะ แนวนี้ยังไงก็พูดคุยแนะนำกันได้นะ มีอะไรให้ฟินให้ฮาเรื่อยๆ
>>> เลขาอิม ก็คืออิมแจบอม ที่เกิดก่อนมาร์คต้วนไม่กี่ปี เป็นลูกชายของทนายอิมที่เป็นทนายประจำตะกูลต้วน จึงสนิทสนมกับตะกูลต้วนเป็นอย่างดี พูดง่ายๆก็รู้จักมักคุ้นกับมาร์คมาตั้งแต่เด็ก จึงไม่ค่อยเกรงกลัวอำนาจมาร์คเท่าใหร่ เพราะยังไงท่านประธานก็ให้มาช่วยดูแลควบคุมพฤติกรรมอยู่แล้ว
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
กลับมาอ่านรอบสอว
คุณ รปภ. โหดดีแท้ 5555
น่ารัก
นี่จะรับน้องมาแกล้งใช่ไหม