คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : You Lovin' Me ! ★ Chapter 6
You Lovin' Me !
Chapter 6
ณ ใต้อาคารเรียนของเช้าวันรุ่งขึ้น ~~!
ปัง!
เสียงชานยอลวางกระเป๋ากระทบกับโต๊ะไม้ค่อนข้างแรง ที่ชานยอลโกรธอาจเป็นเพราะว่าวันนี้เขาเกือบมาสายทั้งๆที่ตัวเองเป็นประธานนักเรียนแท้ๆ
“เป็นอะไรหรือเปล่า? ดูหน้าสิอย่างกับคนอดหลับอดนอน” จงอินถามชานยอลด้วยความสงสัย
“ก็จะอะไรอีกล่ะเมื่อคืนฉันแทบไม่ได้นอนก็เพราะเจอกับมลภาวะทางเสียงอย่างหนัก แล้วนี่ใครเห็นเจ้าบ้าแบคฮยอนบ้าง?” ชานยอลตอบแล้วก็ถาม
เหตุที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเมื่อคืนที่บ้านของแบคฮยอนร้องเพลงคาราโอเกะจนถึงเที่ยงคืน ตอนแรกก็ร้องกันอยู่ชั้นล่างของตัวบ้าน แต่คงยังไม่สะใจพอแบคฮยอนได้ย้ายคาราโอเกะขึ้นมาด้านบนมาร้องที่ห้องนอนของตัวเอง แบคฮยอนนายจะรู้บ้างไหมนะว่านายเสียงอย่างกับหมาฉี่รดหลังคาเลย
“นายถามถึงหมอนั่นทำไม?” จงอินถาม
“ก็แค่อยากบอกให้หมอนั่นเลิกบอกว่าชอบฉันอย่างประเจิดประเจ้อสักที” ชานยอลบ่นให้แบคฮยอน
ตั้งแต่ที่จงอินสารภาพรักคยองซูไปแล้วทั้งสองก็ได้แต่ทำท่าทีขัดเขินทั้งๆที่ตอนแรกไม่เห็นจะเคยเป็น
“แบคฮยอนเขาก็แค่บอกว่าชอบนายเองนะ ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย” จงอินพูดพลางส่งสายไปหาคยองซูแต่คยองซูไม่กล้าสบสายตาคมของเขา
“พูดแปลกๆไปนะจงอิน นี่นายเป็นพวกใครกันแน่” ชานยอลพูดอย่างหงุดหงิด
“ก็เป็นพวกของนายนั่นแหละน่า” จงอินพูดอย่างใจเย็น
“นี่พวกนายสองคนเป็นอะไรกัน ฉันเห็นทำท่าทีแปลกๆกันมาตั้งแต่เช้าแล้วนะ” ชานยอลสงสัยในท่าทีของจงอินและคยองซูที่ดูแปลกตาไป
“ปะ...เปล่า” คยองซูบอกปัด
“พวกนายแปลกจริงๆ ไหนบอกมาซิว่ามีอะไรปิดบังฉันอยู่ จงอิน!” ชานยอลเค้นคอถาม
บ้าไปแล้วชานยอลจะรู้เรื่องของเขากับคยองซูได้ยังไงในเมื่อเรื่องนี้มันมีแค่คนสองคนรู้
“หา! คยองซูบอกนายเหรอ?” จงอินเผลอทำสีหน้าตกใจปนกับคำถามแปลกๆที่ชานยอลก็ยังไม่เข้าใจ
“ฉันเปล่านะ...งั้นฉันขอตัวไปซื้ออะไรมาให้กินก่อนแล้วกัน เอ่อ เดี๋ยวมา” คยองซูพูดท่าทางลุกลี้ลุกลนแล้วลุกออกจากโต๊ะไป
หลังจากที่ผู้ชายร่างเล็กเดินออกไปจากกลุ่มการสนทนาแล้วก็เหลือแค่ผู้ชายสองคนอกสามศอกซึ่งใหญ่พอที่จะสามารถเปิดใจคุยกันได้
“ฉันบอกนายก็ได้ เห็นหน้านายหงิกอย่างนี้ฉันก็พลอยไม่สบายใจไปด้วย” จงอินเปิดฉากก่อน
“เออออ...ไหนมีอะไรว่ามาซิ” ชานยอลคลายสีหน้าหงุดหงิดลงบ้างพอสมควร
“ก็เรื่องมันเป็นอย่างนี้นะ ซุบซิบๆ บลาๆ” จงอินเล่าทุกฉากทุกตอนทุกคำพูดทุกเหตุการณ์ที่เขาเจอในตอนเย็นของเมื่อวานอย่างละเอียดเว้นไว้ก็แต่ตอนสารภาพรักและตอนร่วมรักกันก็เท่านั้น
“อ๋อ...มิน่าล่ะคยองซูกับนายถึงทำท่าทางแปลกๆ ที่แท้ก็เกรงใจฉันเรื่องที่นายไปช่วยคยองซูก็แค่นั้นเอง” ชานยอลพูดด้วยท่าทีสบายใจขึ้นมาก แต่เขาจะรู้ไหมนะว่าสิ่งที่เขารู้มันเป็นแค่น้ำมันไม่ใช่เนื้อเรื่องหรือประเด็นสำคัญเลยสักนิด
“เออ...นายสบายใจก็ดีแล้วล่ะ” จงอินพูดเสียงเรียบ
“อ๊ะ! นั่นไงไอ้ตัวแสบ เดี๋ยวฉันมานะ” ชานยอลพูดแล้วพุ่งพรวดออกไปจากที่นั่งใต้อาคารเรียนเพื่อเดินไปหาคนที่เขาตั้งตารอมาตั้งแต่เช้า
“เมื่อคืนนายน่ะเสียงห่วยทุเรศจัดมากเลยนะ” ชานยอลที่เพิ่งเจอหน้าแบคฮยอนครั้งแรกของวันนี้ออกปาดว่าก่อน
“นี่นาย…วันนี้ฉันไม่อยากทะเลาะนะ” แบคฮยอนบ่นเซ็ง
“ฉันก็ไม่อยากทะเลาะ ไม่แม้กระทั่งอยากจะเสวนากับนาย แต่! เมื่อคืน...นายพูดใส่ไมค์ให้คนทั่วหมู่บ้านได้ยินว่านาย...” ชานยอลหยุดประโยคไว้แค่นั้น
“ว่าอะไร” เขาไม่พูดต่อ พฤติกรรมของฉันมันน่าสะอิดสะเอียนมากขนาดนั้นเลยเหรอ
“แค่บอกว่าฉันชอบนายมันผิดมากนักรึไง!” ฉันตะวาดใส่เขา
“ผิด! ผิดมากๆด้วย ผิดตรงที่ฉันไม่ได้ชอบคำพูดว่ารักแบบส่งๆของนาย รักน่ะมันต้องกลั่นออกมาจากหัวใจ ไม่ใช่ว่าอยากพูดเมื่อไหร่ก็พูด คำว่ารักมันลึกซึ้งมากนะ” ชานยอลเร่งอารมณ์โกรธของตัวเองให้ทวีคูณเพิ่มมากขึ้น
“กะอีแค่ฉันบอกว่าฉันชอบนายก็แค่นั้นเอง” แบคฮยอนไม่สะท้านเลยสักนิด
“ก็เพราะนายใช้คำว่าแค่นั้นเอง คำว่ารักของนายก็คงมีค่าแค่นั้นเองน่ะสินะ” ชานยอลยั่วโมโหแบคฮยอน
“นี่มันจะมากไปแล้ว นายอย่ามาดูถูกพลังแห่งความรักของฉันนะ” แบคฮยอนเป็นฝ่ายที่เลือดขึ้นหน้าบ้าง
“คำว่ารักของนายจะมีค่าแค่ไหนกันในเมื่อเวลานายพูดมันออกมาแต่ละทีฉันรับรู้ได้เลยว่ามันไม่ได้มีความรู้สึกนั้นอยู่จริงๆหรอกนะ อีกอย่างนายมาทำอย่างนี้ไม่อายคนบ้างเหรอ ฉันกับคยองซูจะหมั้นกันอยู่แล้วนะนายยังมีหน้ามาบอกว่าชอบฉันโพล่งๆ จำไว้ว่าชาตินี้ทั้งชาติฉันก็ไม่มีวันจะรักคนอย่างนาย” ชานยอลพูดด้วยความโกรธแบบพิโรธวาทัง
“อีกอย่างเวลาทำอะไรนายหัดใช้สมองบ้าง สมองอันน้อยนิดของนายนายก็ควรหัดใช้มันบ้าง เวลาทำอะไรทำไมไม่รู้จักคิด เมื่อวานฉันรู้นะว่านายแอบแกล้งคยองซู นายไม่ได้แกล้งเบาๆซะด้วยสิ นายเล่นเอาถึงตายเลยนะ นายตะรู้หรือเปล่าว่าคยองซูเขากลัวความมืดมากแค่ไหน แต่คนอย่างนายคงคิดไม่ได้ เพราะนายเป็นคนที่ไม่เคยสนใจใครเลย เห็นแก่ตัว อย่างนายจะไปรักใครจริงๆได้ ในเมื่อเรื่องแค่นี้นายก็ยังอิจฉาแถมยังมีแผนการร้ายแล้วทำได้ดีซะด้วย นายมันคนเห็นแก่ตัว คนขี้อิจฉา ฉัน! เกลียด! ขี้! หน้า! นาย! จำใส่สมองไว้ซะ” ชานยอลตะวาดใส่แบคฮยอนอย่างรุนแรง
“จะให้ฉันทำยังไงล่ะก็ฉันชะ...”
“หุบปาก! ฉันไม่อยากได้ยินมันอีก” ชานยอลว่าเสร็จแล้วก็เดินจากไปทิ้งรอยแผลที่หัวใจไว้ให้แบคฮยอน
ครั้งนี้เขาด่าฉันแรงจริงๆ แรงเกินไปแล้วนะ ฉันรับไม่ได้ มันแรงเกินไปจริงๆสำหรับคนอย่างฉัน ฉันก็มีหัวใจนะ
“บ้าเอ้ย!” แบคฮยอนสบถเสียงดังท่ามกลางสายตาของผู้คนนับสิบ
จู่ๆก็มีน้ำจากดวงตาคู่สวยไหลออกมา ร่างเล็กพยายามเอานิ้วเรียวปัดมันออกเท่าไหร่ก็ปัดไม่หมด มิหนำซ้ำมันยังเพิ่มทวีคูณขึ้นมามากกว่าเดิมเสียอีก ครั้งนี้เขาทำแผลใหญ่ไว้ในใจของฉันจนฉันแทบกระอักเลือดออกมากองไว้เท่าภูเขาได้เลย
โดนอย่างนี้ตั้งแต่เช้าใครจะมีอารมณ์เรียนกันเล่า หลังจากที่นั่งร้องไห้อยู่ในห้องน้ำจนกินเวลาคาบแรกและตอนนี้กำลังจะเริ่มคาบที่สอง แบคฮยอนจึงตัดสินใจว่าวันนี้จะโดดเรียนโชคดีที่จัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋ามาด้วย เมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วแบคฮยอนก็เริ่มออกเดินทางไปสถานที่ที่คิดว่าน่าจะผ่อนคลายมากที่สุดนั่นก็คือโรงเรียนเก่าสมัยประถมที่แบคฮยอนเคยจามใส่หน้าชานยอลนั่นล่ะ
ร่างเล็กเดินมาในชุดเสื้อขาวมีแจคเกตสีดำทับพร้อมกับกางเกงขายาวสีดำรองเท้าลายทหาร พร้อมกับใส่แว่นตาดำเพื่อปกปิดดวงตาที่แดงก่ำและใส่ผ้าปิดปากสีดำสลับขาวเนื่องจากกลัวว่าคนจะจำได้เพราะตอนอยู่ที่โซลแบคฮยอนก็ดังว่าใช่เล่นเช่นเดียวกัน
“อ๊ะ! เจอแล้ว คุณครูสวัสดีฮะ” แบคฮยอนพูดแล้วโค้งตัวให้คุณครูอย่างงามทีหนึ่ง
“แบคฮยอน หนูใช่แบคฮยอนหรือเปล่าจ้ะ?” คุณครูถามคนตรงหน้า
“ใช่แล้วฮะ คิดถึงคุณครูจังเลย” ว่าแล้วแบคฮยอนก็โผเข้ากอดคุณครูประจำชั้นตอนป.2อย่างอบอุ่น
“เป็นไงมาไงล่ะเรา เห็นว่าย้ายไปอยู่ที่โซลแล้วเป็นคนดังใหญ่เชียวนะ” คุณครูถามด้วยความปรีดา
“ก็วันนี้ว่างๆเลยมาหาคุณครูฮะ มีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อย” แบคฮยอนพูดแล้วยิ้มบางให้คุณครูทีหนึ่ง
“มีอะไรก็ว่ามาได้เลยจ้ะ ครูยินดีรับฟังเสมอ” คุณครูถามด้วยความอารีย์
แบคฮยอนได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้คุณครูฟังพร้อมแจงรายละเอียดอย่างละเอียดเสร็จสรรพ
“อ๋อ...เรานี่ยังมั่นคงเหมือนเดิมนะรักใครไม่เปลี่ยนเลย” คุณครูมองหน้าแบคฮยอนแล้วยิ้ม
“จะว่าไป ช่วงนั้นหลังจากที่แบคฮยอนย้ายไปอยู่โซลชานยอลเขาก็ถึงกับเป็นหมาหงอยไปหลายอาทิตย์เลยเชียวนะ แต่ไม่นานเขาก็กลับมาร่าเริงเหมือนเดิมจ่ะ” คุณครูบอก
“จะ...จริงเหรอฮะ?” แบคฮยอนถามด้วยหัวใจพองโต
“จ้า แล้วชานยอลเป็นไงบ้างได้ยินว่าอยู่ที่นั่นเขาเป็นถึงประธานนักเรียนเลยเชียวเหรอ?” คุณครูถามไถ่ศิษย์กับศิษย์
“ใช่แล้วฮะ แล้วคุณครูทราบได้ไงฮะ?” แบคฮยอนถามใบหน้ายิ้มแย้มปลื้มชานยอลไม่หาย
“ก็หลานครูเรียนที่นั่นจ่ะ” คุณครูตอบ
“เอ๋!...ใช่คนที่เป็นนักกีฬาว่ายน้ำของโรงเรียนที่เป็นคู่หูกับชานยอลและจงอินหรือเปล่าฮะ?” แบคฮยอนถามอย่างสงสัย
“ใช่แล้วจ้ะ แต่เขาไม่ค่อยจะไปเรียนหรอกนะก็เพราะคุณพ่อบอกให้ศึกษางานธุระกิจครอบครัวอยู่ที่บ้าน” คุณครูบอกอย่างภูมิใจ
“คิม...คิม เอ่อ คิม...” แบคฮยอนพยายามนึกชื่อ
“จุนมยอนจ้ะ คิมจุนมยอน” อ๋อ นายคนนั้นน่ะเหรอหลานคุณครู หึหึ
“ฮะ ^^” แบคฮยอนยิ้มกว้างขัดกับความคิดในหัว
หลังจากที่ได้คุยปรับทุกข์กับคุณครูและเล่นกับเด็กๆชั้นอนุบาลจนสบายใจแล้วแบคฮยอนก็ลาคุณครูกลับแล้วเดินเตรดเตร่จนไปสะดุดตากับร้านขายของเล่นร้านหนึ่ง
แบคฮยอนคนร่างเล็กเดินไปผลักประตูกระจกของร้านให้เปิดออกแล้วเดินเข้าไปดูรอบๆร้านก็พบว่าไม่มีใครอยู่เลย
แบคฮยอนเดินดูของไปเรื่อยๆจนต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงกระดิ่งที่ห้อยอยู่กับประตูดังขึ้น แต่เมื่อละสายตาจากของเล่นแล้วหันไปดูต้นเสียงก็พบแต่เพียงความว่างเปล่า
“ไม่เห็นมีใครสักหน่อยเลย” แบคฮยอนพึมพำ
เดินวนไปมารอบร้านอยู่หลายรอบจู่ๆก็ไปสะดุดตากับเจ้าตุ๊กตาล้มลุกตัวหนึ่ง
“หน้าตาตลกชะมัด” แบคฮยอนพูดไปหัวเราะไป
หน้าตาของเจ้าตุ๊กตานั้นจะมองให้มันยิ้มมันก็ยิ้มจะมองให้มันโกรธมันก็โกรธจะมองให้มันเศร้ามันก็เศร้า นอกจากนี้ยังพบว่ามีแผ่นกระดาษแปะไว้ที่ตัวตุ๊กตาด้วย
‘ข้าคือตุ๊กตาวิเศษท่านสามารถขอพรได้หนึ่งข้อตามที่ท่านต้องการ *คำเตือน : การได้มาซึ่งสิ่งหนึ่งอาจต้องสูญเสียอีกสิ่งหนึ่ง’
แปลกๆแฮ้ะ แบคฮยอนไม่ได้สนใจกับคำเตือนที่ถูกเขียนแปะไว้บนตัวตุ๊กตา แบคฮยอนสนใจเพียงแต่ว่าข้อความก่อนหน้ามันน่าสนุกดี
“อะ...ลองดูสักทีนึงนะ” แบคฮยอนทำสีหน้าตั้งใจ ในใจก็คิดเพียงแต่ว่ามันจะมีทางเป็นจริงได้ยังไง
“ฉันมีคนที่แอบชอบอยู่นานแสนนาน ฉันแค่อยากให้เขารู้ว่าฉันรักเขามากแค่ไหน ขอให้ฉันได้ใกล้ชิดกับเขาด้วยเถอะ สาธุๆ!”
กริ๊ง!
เสียงกระดิ่งที่ห้อยตรงประตูดังขึ้นอีกครั้งแต่กลับไม่มีอะไรเคลื่อนไหวในร้านเลย เมื่อแบคฮยอนเดินดูของจนสะใจแล้วก็เดินกลับบ้าน
ค่ำคืนนั้นแบคฮยอนไม่ได้เปิดหน้าต่างดูด้วยซ้ำว่าข้างบ้านจะเป็นยังไง ทั้งแบคฮยอนและชานยอลก็มีท่าทีเพลียและง่วงมากๆทั้งคู่จึงผลอยหลับไปโดยไม่มีปากเสียงกันเลย ค่ำคืนนี้จึงเป็นคืนแห่งความเงียบสงัดของหมู่บ้าน และสิ่งที่แบคฮยอนปรารถนากำลังจะได้เริ่มขึ้นแล้ว
To Be Continued...
ตอนหน้าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเรื่องแล้วนะคะ
ติดตามให้ได้น้า
#กำลังใจของไรท์เตอร์คือรีดเดอร์อ่านแล้วคอมเม้นต์ :)
B B
ความคิดเห็น