ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องเก็บของ

    ลำดับตอนที่ #5 : Bastard!! Screen 05 :: Two men in bed 1 [100 Per.]

    • อัปเดตล่าสุด 30 เม.ย. 56


    Chapter 05

    Two men in bed 1

     

     

     

                ให้ตาย! ผมอยากหายตัวได้ชะมัดเลย

     

     

                เพียงแค่จ้องดวงหน้าคมคายของไอ้ดีไลท์ที่กำลังใช้ดวงตาคมกริบมองสำรวจผมทั่วตัว อาหารเสียววาบที่แผ่นหลังทำเอาผมชักรู้สึกเกรงกลัวคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าขึ้นมานิดๆ ไหนจะรอยยิ้มชั่วร้ายที่ดูเลือดเย็นของไอ้เหี้ยนี่ด้วย

     

     

                เชี่ยเอ๊ย!!! ชาติที่แล้วแมร่งเกิดเป็นซาตานหรือไงวะ

     

     

                “ไง...”

     

     

                ผมทักทายเสียงแผ่วเบาหลังจากที่คนตรงหน้ายังมองผมไม่เลิก...รอยยิ้มของไอ้ดีไลท์ค่อยๆ หายไปเมื่อสายตามันมาหยุดอยู่ที่คอของผม ผมเริ่มระลึกได้ว่ารอยขบเม้มจนช้ำเป็นปื้นนั่นยังไม่จางหายไปก่อนจะกระชับคอเสื้อให้ปิดรอยน่าอายนั่น...หากแต่คงจะไม่ทันแล้วเพราะดูเหมือนอีกฝ่ายจะมองออกว่ามันคืออะไร

     

     

                “หึ! ออสติน ไอ้รอยแดงๆ บนคอมึงมันคืออะไรเหรอ”

     

     

                ร่างสูงถามเสียงเย็น ท่าทีของเขาที่ดูเฉยชาคล้ายกับเป็นสัญญาณอันตรายอย่างไรอย่างนั้น มันชักน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก ที่จริงผมไม่เคยกลัวหมอนี่นะแต่ตอนนี้ทำไมผมรู้สึกแปลกๆ ก็ไม่รู้

     

     

                “มึงอย่ายุ่งน่า!

     

     

                “ทำไม...ไม่อยากให้กูรู้เหรอว่าเมื่อคืนมึงไปร่านกับใครมา”

     

     

                เสียงเข้มๆ ที่ดุดันคล้ายกับจะดูหมิ่นผมกลายๆ จนผมชักตงิดๆ อยากเข้าไปซัดหน้าหล่อเหลานั่น เผื่อว่าไอ้ดีไลท์มันจะเลิกทำตัวน่าหมั่นไส้สักที! คนตัวสูงเปลี่ยนมายืนพิงกรอบประตูก่อนจะใช้นัยน์ตาคมกริบประหนึ่งใบมีดจ้องหน้าผมซึ่งผมเองก็จ้องตอบกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้

     

     

                “กูจะไปร่านกับใครมันคงไม่หนักหัวมึงหรอกใช่มั้ย ไอ้ดีไลท์!

     

     

                ความไม่สบอารมณ์ที่กำลังเพิ่มพูนอยู่ในตัวทำเอาผมตะคอกใส่ดีไลท์ คนถูกตะคอกเลิกคิ้วขึ้นนิดๆ ราวกับไม่จะสนใจ...ให้ตายสิวะ! ผมล่ะเกลียดขี้หน้าไอ้เหี้ยนี่จริงๆ!!

     

     

                “นั่นสิ...ถ้ามึงจะไปร่านกับใครก็ไม่ใช่เรื่องของกู”

     

     

                “ถ้ารู้แล้วก็ไสหัวกลับไปซะสิ”

     

     

                ผมออกปากไล่ไอ้ดีไลท์อย่างไม่ไว้หน้า แค่หมอนี่มายืนอยู่หน้าห้องผมก็อยากจะเผาพริกเผาเกลือสาบส่งเลยด้วยซ้ำ ไล่กลับไปแค่นี้ถือว่ายังเบาะๆ เมื่อเทียบกับความหน้าด้านของมัน

     

     

    “แต่ถ้ามึงมาร่านกับกู ก็คงเป็นเรื่องกูด้วยใช่มั้ย!!

     

     

    ไอ้ดีไลท์เอื้อมแขนเรียวยาวนั่นขึ้นมากระชากคอเสื้อผมอย่างแรงซะจนกระดุมเสื้อด้านบนหลุดออกมาจนเผยให้เห็นแผ่นอกกับผิวเนียนขาวของผม และตามเนื้อที่โผล่ออกมาให้คนตรงหน้าได้เห็นนั่นก็เต็มไปด้วยรอยแดงสีกุหลาบเช่นกัน ร่างสูงมองมาด้วยสายตาเกรี้ยวกราดก่อนจะยิ้มเย็น

     

     

    “หึ! หุ่นมึงนี่เซ็กซี่ยั่วกูจริงๆ เลยนะ และคงดีกว่านี้ถ้าไม่มีรอยเหี้ยๆ นั่น!!

     

     

    “ไอ้สัด!! มึงปล่อยกูเลยนะเว้ย!

     

     

    ผมสบถคำด่าหยาบคายออกมาอีกหลายคำหวังให้ไอ้คนจัญไรตรงหน้ามันปล่อยผมเสียที เสียแต่ความทีดูเหมือนหนังหน้ามันจะหนาเกินไปถึงได้ดึงตัวผมเข้าไปใกล้ยิ่งกว่าเดิม!

     

     

    ไอ้สันดานหมา ไอ้ชาติชั่ว ไอ้ต่ำทรามเอ๊ย!!!!

     

     

    “กูไม่ปล่อยมึงหรอก มึงมากับกูนี่!

     

     

    เสียงเข้มที่ฟังแล้วดูเหี้ยมโหดว่าก่อนที่เจ้าตัวจะลากผมให้เดินตามออกไปด้วย มันลากผมจนมาถึงรถเฟอรารี่สีแดงเพลิงราวกับไฟที่กำลังลุกโชนของมัน ร่างบางๆ ของผมถูกอีกฝ่ายจัดยัดเข้าไปบนเบาะหลังข้างในนั่น ร่างสูงควานหาเชือกที่ถูกใกล้ๆ ขึ้นมาไว้ในมือก่อนจะเอาเชือกรัดข้อมือผมไว้ทั้งสองข้าง

     

     

    กลายเป็นว่าตอนนี้ผมถูกไอ้เลวนี่พันธนาการเอาไว้ไม่ให้หนีไปได้

     

     

    เวรเอ๊ย!! นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นวะเนี้ย!!

     

     

    ไอ้ดีไลท์เดินไปนั่งประจำที่พลางปิดประตูรถ จากนั้นมันก็กระชากเกรียร์แรงๆ จนส่งผลเฟอรารี่สีแดงพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เวร! จะขับรถเร็วทำเตี่ยหรือไงวะ!!

     

     

    “ไอ้สัดดีไลท์ มึงจะพากูไปไหน ปล่อยกูเดี๋ยวนี้เลยนะอย่างหาว่ากูไม่เตือน!!

     

     

    ผมตะโกนจนคอแทบแตก ถ้าเสียงมันดังจนทำให้อีกฝ่ายหูหนวกไปได้เลยยิ่งดี แต่ทว่ามันกลับไม่สนใจจนผมชักยิ่งโกรธขึ้นเรื่อยๆ

     

     

    “อย่างมึงจะทำอะไรกูได้”

     

     

    มันหันมาจ้องผมเขม็ง นัยน์ตาสีเข้มที่ดูทรงอำนาจและเลือดเย็นคู่นั่นจ้องผมราวกับจะมองทะลุผ่านเสื้อผ้าอย่างไรอย่างนั้น ผมกัดฟันกรอดจนรู้สึกเจ็บไปทั่วทั้งกราม ในหัวพยายามหาทางเอาตัวรอดแต่ในสภาพอย่างนี้ผมไม่สามารถทำอะไรได้เลย

     

     

    นี่มันวันเหี้ยๆ อะไรกันวะเนี้ย!!!

     

     

    ไอ้ฉิบหายดีไลท์ มันจะทำอะไรผมกันแน่!!

     

     

    เอี๊ยด!!

     

     

    ร่างสูงเบรกกะทันหันจนล้อบดถนนเสียงดังลั่น แรงเสียดทานนั่นทำให้พื้นถนนมีรอยเป็นทางยาว เมื่อมองดูดีๆ แล้วก็พบว่ามันเลี้ยวเข้ามาจอดที่สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่และสวยงาม ผมรู้จักที่นี่ดี...มันคือคฤหาสน์หรือบ้านของไอ้ดีไลท์!! มันจะพาผมมาที่นี่ทำไมวะ!!

     

     

    ในขณะที่ผมมีความไม่เข้าใจและสงสัยคนตัวสูงก็เดินมาเปิดประตูรถก่อนจะมุดตัวเข้ามาแกะเชือกที่มัดมือผมออกก่อนจะอุ้มผมออกไปในท่าเจ้าบ่าวอุ้มเจ้าสาว ผมถึงกับหน้าแดงด้วยโทสะ นี่ผมเป็นผู้ชายนะเว้ย มันจะมาอุ้มผมอย่างนี้ได้ยังไงกันวะ

     

     

    แมร่งเอ๊ย!!!!

     

     

    “มึงจะอุ้มกูทำไม ปล่อยกูลง! กูไม่ใช่ผู้หญิงนะสัด!!

     

     

    “มึงอย่างดิ้นนักเลย อีกไม่นานเดี๋ยวมึงก็จะได้เป็นเมียกูแล้ว”

     

     

    “ไอ้เวร! มึงพูดเหี้ยอะไรออกมา มึงเป็นเกย์เหรอไงวะ!

     

     

    “กูไม่รู้ แต่มึงน่ะเสร็จกูแน่!!

     

     

    ผมไม่รู้ว่าผมเถียงกับไอ้ดีไลท์นานเท่าไร รู้ตัวอีกทีมันก็อุ้มผมจนมาถึงหน้าประตูห้องนอนของมันแล้ว เฮ้ย!! ซวยแล้ว!!! มือหนาเอื้อมไปบิดลูกบิดก่อนที่ประตูจะเปิดผางออก เมื่อเข้ามาภายในห้องนอนไอ้เวนนี่มันก็โยนผมลงบนเตียงอย่างแรง ถ้าไม่ติดว่าเตียงมันนุ่มล่ะก็ป่านนี้ไม่รู้หลังผมจะเป็นยังไงแล้ว

     

     

    ไอ้หมอนี่สงสัยมันคงจะซาดิสม์พอๆ กับไอ้เวรซิการ์แน่ๆ

     

     

    ให้ตายเถอะ!!! แล้วผมจะเอาตัวรอดไปจากสถานการณ์บ้าๆ นี่ยังไงล่ะทีนี้!!!

     

     

    “ไอ้เวร! ไอ้เหี้ย! ไอ้สันขวานสันดานหมา! ไอ้ชาติชั่ว! ไอ้เวรตะไล! ไอ้ฉิบหาย! ไอ้ๆๆ มึงจับกูมาที่นี่ทำไมวะ” ผมด่ากราดไม่ยั้งและส่งความหยาบคายที่คิดว่าเจ็บสุดๆ ไปให้

     

     

    “ก็บอกแล้วไง...ว่ากูจะเอามึงมาทำเมีย”

     

     

    ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดสวะๆ นั่นจะออกมาจากปากของไอ้ดีไลท์...ไม่สิ! อย่างมันคำพูดนั่นใช่เรื่องแปลกแต่ที่แปลกเพราะมันดันเอามาพูดกับผม ไอ้เวร!!! อย่าบอกนะว่ามึงเกิดพิศวาสกูขึ้นมาน่ะ! และโดยที่ไม่ทันตั้งตัวมันก็โถมกายแกร่งที่ตึงเครียดไปด้วยกล้ามเนื้อทุกสัดส่วนคร่อมผมพร้อมกับกดร่างบางไปกับเตียงอย่างแนบแน่น

     

     

    “ไอ้ชั่ว! มึงบ้าเหรอไง ยังไงกูก็ไม่เป็นเมียมึงโว้ย!!

     

     

    เสียงผมตะโกนดังลั่นมาพร้อมกับการพยายามผลักดันคนตรงหน้า หากมันกลับไร้ผลสิ้นดีเพราะไอ้ดีไลท์มันยิ่งเพิ่มแรงกดจนผมแทบขยับส่วนไหนไม่ได้เลย...

     

     

    “หึ! มึงควรจะภูมิใจนะที่กูยกตำแหน่งให้มึงเป็นเมีย คนอื่นกูให้ได้แค่คู่นอนเท่านั้นแหละ”

     

     

    “ไอ้ฟาย!!! กูไม่ดีใจอะไรด้วยเล้ยยยยย! ปล่อยกูป้ายยยย!!!

     

     

    เอาแล้วครับ! ผมเริ่มสติแตกกับไอ้คนตรงหน้าแล้ว

     

     

    ทว่า...มันไม่ได้มีเวลาให้ผมได้สติเตลิดนานนัก ริมฝีปากร้อนระอุราวกับเปลวเพลิงของไอ้ดีไลท์ก็จู่โจมลงมาฉกชิงริมฝีปากอ่อนนุ่มของผมไปอย่างถือวิสาวะ มือหนาโอบรั้งร่างผมให้ให้เข้าไปใกล้ชิดยิ่งกว่าเดิมจนรู้สึกถึงความร้อนของกันและกัน รสจูบที่เร่าร้อนประหนึ่งดวงอาทิตย์ที่กำลังหลอมละลายเราสองคนนี่ทำให้หัวสมองผมพร่าเลือน

     

     

    ร่างสูงกระชากเสื้อของตนที่สวมอยู่ออกไปให้พ้นทางจนเห็นแผ่นอกที่ตึงแน่นด้วยกล้ามเนื้อสุดเซ็กซี่ หน้าท้องที่ราบเรียบมีซิกซ์แพก ร่างกายอันแข็งแกร่งนี่ตรึงสายตามให้หยุดมองก่อนจะระลึกได้ว่าตัวเองไม่ควรทำอย่างนั้น

     

     

    ให้ตายเถอะ!! ผมล่ะอิจฉารูปร่างของมันซะจริงๆ

     

     

    “ปล่อยกูนะ”

     

     

    ผมร้องลั่นอีกครั้งเมื่อลิ้นร้อนๆ ของมันไล้เลียไปตามรูปหน้าก่อนจะหยอกล้อที่ข้างใบหูเบาๆ จนผมรู้สึกจั๊กจี้ เท่านั้นยังไม่พอมันยังขบเน้นไปตามลำคอก่อนจะเลิกเสื้อผมขึ้นมาจนเห็นผิวขาวเนียนละเอียด

     

     

    “ถ้ากูปล่อยมึง...ก็ไม่ใช่กูน่ะสิ”

     

     

    คนตัวสูงว่าพร้อมกับถอดเสื้อผมออกมาอย่างรวดเร็วจนเผยให้เห็นร่างกายท่อนบนที่เปลือยเปล่า

     

     

    “อ๊ะ!!!

     

     

    “หืม...มึงนี่ขาวชะมัด แถมตรงนี้ยังเป็นสีชมพูน่ากินซะด้วย”

     

     

    ไอ้ดีไลท์ว่าก่อนจะใช้ลิ้นมาดูดดุนยอดอกสีหวานโดยไม่ได้รับอนุญาติจนผมจะรู้เสียวกระสัน...ซั้นยังขมเม้มแรงๆ ให้เกิดรอยแสดงความเป็นเจ้าของ เวรเอ๊ย!!! นี่ผมจะต้องตกเป็นของมันจริงๆ เหรอวะ!!!

     

     

    ทั่วทั้งลำคอไล่ไปตามกระดูกไหปลาร้าของผมมีแต่รอยกุหลาบสีแดงที่ถูกฝากฝั่งเอาไว้อย่างไม่อาจขัดขืนได้

     

     

    เชี่ยเอ๊ย!! คอผมป่านนี้คงไม่เหลือที่ว่างที่ไม่มีรอยเหี้ยๆ นั่นแล้วล่ะมั้ง

     

     

    ตอนแรกก็ไอ้ซิการ์ ตอนนี้ยังมาเจอไอ้เวรดีไลท์อีก

     

     

    นี่กูจะซวยไปไหนวะครับ!!

     

     

    “ไอ้บรรลัยเอ๊ย...อุ๊บส์!!!

     

     

    เมื่อผมเอ่ยปากด่าอีกฝ่ายอีกรอบมันก็ปิดปากผมด้วยจูบทันที คราวนี้จูบนี่มันเพิ่มความร้อนแรงเป็นเท่าตัวบวกกับมือหนาที่ลูบไล้ไปทั่วร่างผมก่อนจะเลื้อยต่ำลงมาที่ขอบกางเกงอย่างน่าหวาดเสียว ผมใช้เล็บคมๆ ของตัวเองกรีดลงบนแผ่นอกกว้างกับแผ่นหลังของหมอนี่ไม่ยั้ง

     

     

    ทว่า...มันกลับมีน้ำอดน้ำทนมากจนน่าตกใจเพราะขนาดผมฝากรอยข่วนเป็นทางยาวไว้ที่แผ่นหลังแต่มันกลับสามารถพยายามจนดึงเข็มขัดที่คาดไว้ที่เอวผมออกไปได้ พับผ่าเถอะ! ทีนี้เป้าหมายต่อไปของมันคงจะเป็นกางเกงของผมสินะ!!!

     

     

    เวรแล้วไง!!!

     

     

    “อืม...”

     

     

    เสียงของร่างสูงครางในลำคออย่างพึงพอใจเมื่อไล่กระหวัดลิ้นเลียไปตามผิวขาวเนียนของผม ฉิบหายวายวอดเถอะอย่างนี้! ถ้าขืนผมยังไม่ทำอะไรสักอย่างผมได้ตกเป็นของมันแน่ๆ

     

     

    โอเค! ผมรู้ว่าไอ้ดีไลท์มันหน้าตาดีมากถึงมากที่สุด แถมยังมีบอดี้เพอร์เฟ็กต์จนใครที่เห็นต้องเหมือนถูกไฟแผดเผา ซ้ำความสารเลวที่มีมากจนเหลือล้นในตัวมันก็ดึงดูดผู้หญิงทุกคนให้เข้าหา...แต่ผมไม่ใช่ผู้หญิงโว้ย! ถึงจะได้หลงระเริงไปตามสิ่งที่มันกำลังทำอยู่น่ะ!

     

     

    “ไอ้ดีไลท์อย่างบอกนะว่ามึงรักกูน่ะถึงได้ทำอะไรเหี้ยๆ แบบนี้”

     

     

    เพื่อเอาตัวรอดจากสันดานดิบของไอ้ดีไลท์ผมจึงต้องพยายามหลอกล่อด้วยคำพูด หวังว่ามันจะนึกได้ว่ามันไม่ควรมาทำอะไรกับผมแบบนี้เพราะผมกับมันไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าฐานะเจ้าหนี้กับลูกหนี้!!!

     

     

    ได้ผล...ไอ้ดีไลท์มันชะงักไปนิดหนึ่งพร้อมกับที่แววตามันดูตกใจเล็กน้อย แต่ไม่นานความเลือดเย็นและโหดเหี้ยมก็แผ่มาปกคลุมดวงตาของมันดังเดิม...

     

     

    ริมฝีปากหยักลึกได้รูปสวยยกยิ้มที่มุมปากนิดๆ ทว่ามันกลับดูเย็นเยียบจนผมรู้สึกเสียวสันหลังอย่างบอกไม่ถูก

     

     

    อยู่ดีๆ มือของผมก็ถูกคนตัวสูงคว้าไว้ก่อนจะใช้มือของผมไปสัมผัสกับแผ่นอกด้านซ้ายของมันอย่างจงใจ ความรู้สึกร้อนฉ่าที่ใบหน้าวูบวาบที่ใบหน้าผมอย่างช่วยไม่ได้ ไอร้อนที่แผ่นอกแกร่งของอีกฝ่ายกำลังทำให้ผมสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว...

     

     

    อีกทั้งจังหวะหัวใจของไอ้ดีไลท์ที่กำลังเต้นแรงนั่นก็ด้วย...

     

     

    ไอ้บ้านี่มันกำลังจะทำอะไรกันวะ!!

     

     

    และทำไมผมถึงต้องจ้องตากับมันอย่างไม่อาจละสายตาไปไหนได้ด้วย!!!

     

     

    ฉิบหายเอ๊ย!!!

     

     

    “กูรักมึงหรือไม่...มึงก็ลองสัมผัสที่หัวใจกูสิ ถ้ามันเต้นช้าก็แสดงว่ากูไม่ได้รักมึงและเห็นมึงเป็นแค่ของเล่นเท่านั้น แต่ถ้ามันเต้นเร็ว ก็แสดงว่ากูรักมึง”

     

     

    ร่างสูงเอ่ยอย่างไม่ยี่หระเท่าไรนักพลางใช้สายตาคมกริบประหนึ่งใบมีดจ้องลึกมายังผม จนผมสามารถเห็นเงาตัวเองที่สะท้อนอยู่ในดวงตาคู่นั้นของมันได้

     

     

    ถ้าเต้นเร็วก็แสดงว่ารักผมงั้นเหรอ...

     

     

    จังหวะการเต้นของหัวใจที่อยู่ใต้ฝ่ามือผมนี้มันเต้นเร็ว...แถมยังระรัวราวกับตีกลอง สัมผัสร้อนแรงที่ส่งผ่านมาอีกจากฝ่ายนั่นก็ด้วย...

     

     

    เวรเอ๊ย!! อย่าบอกนะว่ามันชอบผมเข้าแล้วน่ะ!!!!!

     

      

     

     

    “มึงพูดบ้าอะไรวะ! อย่ามาล้อเล่นอะไรแบบนี้นะสัด!

     

     

    ทันทีที่ตั้งสติได้ผมก็พยายามกระชากมือที่สัมผัสกับแผ่นอกแข็งแรงนั่นออกมาทันที ตนนี้ผมสับสนไปหมด ทั้งกระทำ ทั้งแววตาของมันฟ้องชัดเจนว่ามันชอบผมและผมเองก็ทำเป็นไม่เชื่อไม่ได้ด้วย

     

     

    ร่างสูงถอนหายใจก่อนจะใช้สายตาคมกริบนั่นมองผมอีกครั้ง

     

     

    “มึงจะคิดอย่างนั้นก็ตามใจมึงเพราะที่กูสนตอนนี้อย่างเดียวคือ...มึงต้องเป็นของกู!

     

     

    “อ๊ะ!!...อย่า...”

     

     

    เสียงของผมขาดหายไปเมื่อไอ้ดีไลท์แนบริมฝีปากลงมาเป็นการปิดปากและส่งมอบรสจูบอันร้อนแรงไปในคราวเดียวกับ ความรู้สึกสั่นสะท้านวูบวาบแปลกประหลาดแล่นเข้ามาร่างก่อนจะพลุ่งพล่านไปทั่ว...วงแขนแกร่งโอบรัดอย่างแน่นหนา ไม่นะ! ผมไม่อยากตกเป็นของมัน

     

     

    เมื่อคิดได้แบบนั้นผมก็กัดลิ้นของไอ้ดีไลท์ที่กำลังกวาดไปทั่วโพรงปากผมทันที ก่อนที่คนตรงหน้าจะผงะละริมฝีปากจากไปอย่างรวดเร็วคล้ายกับถูกไฟฟ้าช็อต

     

     

    “โอ๊ย!!!

     

     

    คนตัวสูงร้องออกมาพร้อมกับยกมือเช็ดริมฝีปาก แรงที่ผมกัดลงไปเมื่อครู่นั้นแรงพอสมควร...เพราะถ้าไม่ทำอย่างนั้นแล้วมันคงไม่มีทางปล่อยผมเลยน่ะสิ

     

     

    และถ้าผมปล่อยให้มันทำอย่างนั้นต่อไปคงจะรู้ใช่ไหมว่าสภาพผมจะเป็นยังไง

     

     

    ไม่ต่างอะไรกับถูกย่ำยีศักดิ์ศรีเลย!!!

     

     

    และผมก็เกลียดมันที่สุด!!!!

     

     

    “ไอ้ดีไลท์...มึงโปรดจำไว้ด้วยว่ากูเกลียดมึง และกูก็จะไม่ยอมตกเป็นของมึงด้วย!

     

     

    ผมขู่ฟ่อเสียงต่ำพร้อมกับตวัดสายตารังเกียจไปมอง...ผมรู้ว่าการกระทำอย่างนี้รังแต่จะทำให้ไอ้ดีไลทืโกรธยิ่งขึ้นและนั่นก็เท่ากับว่าเป็นการหาทางตายให้กับตัวเอง แต่ทำยังไงได้ไม่ช้าหรือเร็วผมก็อาจจะตกเป็นของมันเพราะงั้นสู้ด่าให้มันช้ำใจเล่นๆ ไม่ดีกว่าเหรอ!

     

     

    จำไว้คนอย่างกูไม่เคยยอมใคร!!!

     

     

    “มึงจะเป็นของกูหรือไม่ก็รอดูละกัน” สิ้นเสียงเข้มที่กดต่ำอย่างน่ากลัวนั่นใบหน้าคมคายราวกับถูกปั้นโดนฝืมือของประติมากรชั้นเยี่ยมนั่นก็พุ่งเข้ามาหมายจะฉกชิงริมฝีปากผมไปอีกครั้งอย่างรวดเร็ว...ทว่าคราวนี้ผมเตรียมตัวไว้แล้ว

     

     

    กึก!

     

     

    อยู่ๆ คนตัวสูงชะงัก...การกระทำทุกอย่างหยุดลงอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อผมคว้ามีดพับเล็กที่ซ่อนที่ในกางเกงขึ้นมาขู่มัน...แต่แทนที่มันจะกลัวกลับแสยะยิ้มร้ายกาจก่อนจะถอยห่างออกไปเล็กน้อยราวกับจะดูว่าผมจะทำอะไรต่อ มีดพับอันเล็กนี้ผมพกไว้เพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน...เมื่อครู่ไอ้ดีไลท์ระดมจูบผมจนผมไม่สามารถหยิบมีดออกมาจากได้ แต่ทันทีที่มันเผลอผมก็ไม่ลังเลที่จะใช้มีดเล่มจิ๋วนี่ออกมา!

     

     

    แต่...มีดเล่มเล็กนี่จะไปทำอะไรไอ้ดีไลท์ได้...สายตาของมันกำลังจับจ้องผมอย่างดูถูก

     

     

    หึ! ใครว่าผมจะเอามีดนี่มาใช้กับมันล่ะ

     

     

    “มีดอันแค่นั้นจะทำอะไรกูได้งั้นเหรอ...ไอ้ออสติน”

     

     

    กระแสเสียงเข้มที่ฟังกี่ครั้งๆ ก็เหี้ยมเกรียมอย่างถึงที่สุด สายตาที่จับจ้องราวกับงูกำลังจ้องเหยื่อนั่นฉายแววขบขันเล็กน้อย ผมเผลอกัดริมฝีปากตัวเนื่องจากความเครียดที่เพิ่มพูนขึ้นตามระดับความหงุดหงิดที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ

     

     

    “กูไม่ได้จะเอามีดนี่แทงมึงหรอก...”

     

     

    “หมายความว่าไง”

     

     

    “ก็หมายความว่ายังงี้ไงล่ะ...ไอ้บัดซบ!

     

     

    ฉึก!

     

     

    มีดพับเล่มน้อยในมือเรียวถูกแทงเข้าไปที่ต้นแขนด้านซ้ายผม...คมของใบมีดกรีดผิวจนเป็นรอยแผลและมีเลือดไหลออกมาเล็กน้อย ไอ้ดีไลท์ถึงกับตกใจกับความใจกล้าของผมที่กล้าแทงตัวเอง ถึงแม้แผลจะไม่ใหญ่มากก็เถอะเนื่องจากผมแค่ออกแรงไม่มาก หากแต่ผมกำลังจ่อมีดที่คอตัวเองในเวลาต่อมาด้วยนี่สิทำให้ร่างสูงตรงหน้าไม่กล้าเข้ามา...เพราะถ้ามันขยับตัวแม้เพียงนิดเดียว...

     

     

    มีดนี่ก็จะตัดเส้นเลือดใหญ่ที่คอของผมทันที!!!!

     

     

    หึ! ผมเองก็ใจกล้าพอที่จะทำด้วย

     

     

    ที่ผมมีชีวิตอยู่มาถึงทุกวันนี้เพราะผมเชื่อว่าต่อไปทุกอย่างมันอาจจะดีขึ้นเอง แต่มันคงไม่มีอะไรดีขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้แล้วล่ะ

     

     

    เสียตัวให้ไอ้เวรซิการ์ไปแล้ว ถ้ามาถูกไอ้ดีไลท์ทำทรามๆ ใส่อย่างผมขอตายดีกว่า...ไหนๆ ผมก็ไม่เหลืออะไรแล้วนี่ หากผมตายไปซะวันนี้ก็ยังดีกว่าตื่นมาแล้วพบว่าตัวเองถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีจนไม่เหลือแม้กระทั่งความเป็นคน

     

     

    พ่อผมก็ทิ้งผมไปแล้ว เหลือแต่เพียงหนี้สินที่ปล่อยให้ผมชดใช้เพียงลำพัง และไอ้การหาเงินมาใช้หนี้คนที่กำลังจะข่มขืนผมอยู่ตอนนี้มันก็คงไม่ทำให้อนาคตผมดีขึ้นมาหรอก...ต่อให้ไอ้แพทเทิร์นหรือใครมันจะช่วยผมก็ตาม

     

     

    ผมไม่เห็นทางที่จะเดินต่อไปข้างหน้าเลย...

     

     

    “มึงทำบ้าอะไรของมึงวะ!

     

     

    เสียงไอ้ดีไลท์ตวาดดังยามเมื่อมันมองเห็นเลือดที่ไหลลงไปตามแขนอย่างเชื่องช้าไปจนถึงมือของผม ผมยกมือตัวเองขึ้นมาก่อนจะแลบลิ้นเลียของเหลวสีแดงที่เปรอะอยู่ตรงนิ้วเรียวพร้อมกับแสยะยิ้มโรคจิต

     

     

    “กูก็ทำอย่างที่มึงเห็น...” ผมว่าพร้อมกับกดมีดที่จ่อคอตัวเองแรงขึ้นจนน่าใจหาย

     

     

    “...”

     

     

    “ถ้ามึงคิดจะทำอะไรกูล่ะก็ ไว้ทำตอนกูเป็นศพก็แล้วกัน!!

     
     
     
     

     

      
    DELIGHT [Pic : THE J]
     
     
     
     
     

    WRITER TALK J

    แวบมาอัพเรื่องนี้สักเล็กน้อยหลังจากปล่อยร้างมานาน T_T สำหรับตอนนี้ของแบ่งเป็นสองตอนเน้อเนื่องจากมันยาวมากกก =[]= ว่าแต่ทำออสตินมันดูซาดิสม์จังหรือว่าไรต์เตอร์คิดไปเอง...แอบมีการชิมเลือดตัวเองด้วย (เอ่อ...แบบนี้จะสาย S หรือ M ดี)

    PS ขออภัยในความล่าช้าจริงๆ เน้อ T_T แต่ไรต์จะพยายามอัพให้เร็วขึ้นน้า

    PS2 NC ที่บอกไว้ขอยกไปไว้ใน Two men in bed 2 แทนน้า ^O^

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×