ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องเก็บของ

    ลำดับตอนที่ #12 : Bastard!! Screen 12 :: Take me to that high [70 Per.] ซิการ์-ออสติน คู่รักสุดจิต

    • อัปเดตล่าสุด 30 เม.ย. 56


     

     

     

    Chapter 12

    Take me to that high.

     

     

     

                [Cigar’s side]

     

     

                พรึบ!

     

     

                “ไอ้ออสติน!!! มึงอยู่ไหน!!!!

     

     

                ผมตะโกนเรียกชื่อของร่างบางเสียงลั่นเมื่อหลังจากที่อยู่ๆ ไฟก็เกิดดับขึ้นมาพร้อมกันกะทันหันราวกับมีใครจงใจทำ พร้อมกันนั้นก็ก็รู้สึกว่าคนที่เคยยืนอยู่ข้างกายบัดนี้กลับไม่อยู่แล้ว! แม้ผมจะลองควานมือไปรอบๆ ตัวท่ามกลางความมืดก็ไม่สัมผัสหรือแตะต้องโดนตัวของไอ้ออสตินเลยแม้แต่น้อย ชิบเอ๊ย!! ผมได้แต่สถบในใจขณะที่คลำไปรอบๆ อีกครั้งแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า...

     

     

                ไม่มีแม้กระทั่งไอ้ออสตินหรือไอ้คนที่ชื่อเกลล์อะไรนั่น

     

     

                ...ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ!

     

               

                จริงสิ! ถ้าขืนเป็นแบบนี้ของเล่นชิ้นสำคัญของผมอาจจะหนีไปก็ได้ ให้ตายเถอะวะ! ผมไม่ชอบเรื่องบ้าบอแบบนี้เลย อยู่ๆ ไฟก็ดับ ออสตินดันมาหายตัวไป อะมันจะลงตัวราวกับจับวางแบบนี้นะ

     

     

                แกรก!

     

     

                ท่ามกลางความมืดที่เพียงเพียงแสงสลัวๆ จากด้านนอกหูผมแว่วได้ยินเสียงบางอย่างที่เบามากๆ แต่เพราะตอนนี้มันเงียบมากๆ ด้วยเช่นกันผมถึงได้ยินเสียงนั้นชัดเจน มันเหมือนกับเสียง...เสียงเปิดประตูอย่างไรอย่างนั้น แถมต้นเสียงยังเกิดขึ้นใกล้ตัวผมมากซะด้วยสิ และโดยที่ผมยังไม่ทันคิดอะไรต่อผมก็รู้สึกเหมือนกับมีใครบางคนกำลังพุ่งเข้ามาผมอย่างรวดเร็ว!!!!

     

     

                ขวับ!!!

     

     

                ฉึก!!

     

     

                บังเกิดความรู้สึกเจ็บๆ แสบๆ ตรงแขนด้านซ้ายเมื่ออยู่ๆ ก็มีของมีคมปริศนาพุ่งเข้ามายังผมโดยที่ไม่ทันตั้งตัว! ยังดีที่ผมหมุนตัวหลบทันไม่อย่างนั้นแทนที่จะเฉี่ยวแขนผมคงจะถูกแทงทะลุท้องไปแล้ว!! สายตาผมที่เริ่มชินกับการมองในที่มืดมากขึ้นสังเกตเห็นเงาตะคุ่มๆ พุ่งเข้ามาอีกครั้ง คราวนี้ผมหลบได้พร้อมกับปัดมือของอีกฝ่ายที่คาดว่าคงถือมีดไว้และสวนหมัดกลับไป...ทั้งหมดเป็นประติกิริยาตอบสนองฉับพลัน

     

     

                พลั่ก!!!!

     

     

                หมัดของผมกระแทกเข้าที่ลำตัวหรือใบหน้าของไอ้เวรนี่ก็ไม่แน่ใจนัก แต่ว่าก็ทำให้อีกฝ่ายถอยหลังไปตั้งหลัก หึ! แต่ผมไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือไปง่ายๆ หรอกนะ ผมพุ่งเข้าชาร์จร่างดำๆ ตรงหน้าทันทีอย่างไม่ยอมให้ผมตั้งตัวได้ง่ายๆ ก่อนจะจับมันทุ่มลงกับพื้นอย่างแรง!!!

     

     

                “อั่ก!!!

     

     

                แกร๊ง! เสียงร้องอย่างเจ็บและจุกดังขึ้นพร้อมกับเสียงโลหะที่เดาว่าคือมีดหลุดจากมือของร่างปริศนาตกลงสู่พื้น ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าผมจะทำอะไรอย่างนี้ได้ ผมเคยบอกคุณไปหรือยังนะว่าผมเองก็คุ้นชินกับการต่อสู้ในที่มืดเป็นอย่างดี อย่างที่รู้ว่าผมไม่ใช่คนดีอะไรนัก เรียกว่าสารเลวคงจะน้อยไป เพราะอย่างนั้นผมเองก็มีศัตรูรอบตัวเลยเป็นธรรมดาที่ผมจะเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ไว้...

     

     

                แต่ผมเองก็ไม่นึกเหมือนกันว่าจะได้ใช้มันเอาตอนเวลาแบบนี้

     

     

                “มึงเป็นใคร”

     

     

                ผมก้มลงไปบีบคอก่อนที่จะกระซิบถามลอดไรฟันน้ำเสียงน่ากลัวและอำมหิต ถึงผมจะไม่รู้อะไรมากแต่พนันได้เลยว่าไอ้เวรนี่มันกะจะ ฆ่าผมแน่นอน แต่มันเป็นใครและจะฆ่าผมทำไมนี่สิที่ผมอยากรู้

     

     

                “อึก!” เสียงที่ฟังดูเหมือนกับอีกฝ่ายกำลังทุรนทุรายนั้นทำให้ผมรู้ว่าแรงที่ผมกำลังใช้บีบลำคอมันอยู่คงจะแรงเกินไปจึงผ่อนลงเล็กน้อยพอให้มันหายใจได้แต่ก็ไม่มีทางหลุดรอดไปได้แน่นอน มืออีกข้างผมก็กดแขนทั้งสองของมันเอาไว้เป็นการดักทางรอดทุกรูปแบบ

     

     

                “กูถามว่ามึงเป็นใคร!!!

     

     

                “ปล่อยกู! ไอ้นรก!!

     

     

                “หึ! ชอบจริงเวลามีใครด่าเนี้ย” ผมยกยิ้มเย็นที่มุมปากก่อนจะกระแทกเสียงถามอีกครั้ง “แต่ที่กูถามก็เพื่อให้มึงตอบไม่ใช่มาด่ากู ไอ้เวร!

     

     

                เป็นอีกครั้งที่ผมเพิ่มแรงบีบขึ้นอีกนิด...

     

     

                “อ๊ากกก!!!

     

     

                “ตอบกูมาได้หรือยัง”

     

     

                “ตอบแล้ว! ตอบแล้ว!! กูคือคนที่จะมาฆ่ามึง” ในที่สุดไอ้เรวนี่ก็ตอบผมด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและหวาดกลัว เชื่อผมเถอะว่าถ้าขืนมันไม่ยอมตอบผมดีๆ ผมอาจจะพลั้งมือบีบคอมันจนขาดอากาศหายใจตายก็ได้

     

     

                “เรื่องนั้นไม่ต้องบอกกูก็มีปัญญารู้เองได้”

     

     

                “มีคนจ้างกูมา!!!

     

     

                “ใคร!!

     

     

                “หมอนั่นชื่อดีไลท์!

     

     

                ชื่อดีไลท์ที่หลุดออกมาจากปากไอ้เวรนี่เล่นเอาอารมณ์ฉุนของผมพุ่งปรี๊ดถึงขีดสุด ผมเม้มริมฝีปากแน่นจนเป็นเส้นตรงอย่างสกัดกลั้นแรงอารมณ์ที่กำลังพลุ่มพล่านไปทั่วร่าง ถ้าจำไม่ผิดชื่อนี้คือชื่อของคนที่จับตัวน้องชายไอ้จัมพ์ไปและกำลังมีปัญหากับไอ้ออสติน ยอมรับอย่างหน้าด้านๆ เลยว่าผมไม่สนใจไอ้ดีไลท์อะไรนั่นด้วยซ้ำไป แต่นี่มันข้ามเส้นถึงขั้นจ้างคนมาเก็บผมทั้งๆ ที่ผมไม่เคยไปยุ่งอะไรกับมันเลยเนี้ยนะ

     

     

                ...มันมากไป!!

     

     

                พลั่ก! ด้วยความโกรธจัดผมจึงฟาดสันมือลงไปที่ท้ายทอยของไอ้เวรริคิดจะฆ่าคนอย่างผมจนมันสลบไป ใจจริงอยากจะฆ่ามันด้วยซำ แต่ผมยังต้องหาตัวไอ้ออสตินอีกจึงระบายอารมณ์เพียงแค่นั้นและหยัดตัวลุกขึ้นเดินไปตามทางเดินมืดๆ

     

     

                วาบ! ขณะที่เดินอยู่นั้นไฟก็กลับสว่างขึ้นมาอีกครั้งจนผมได้แต่ขมวดคิ้วงุนงงพลางหรี่ยาลงเนื่องจากแสงจ้านั่นเล็กน้อย อะไรของมันกันนะ...ไฟที่ติดๆ ดับๆ เนี้ย ช่างเถอะ! ผมวิ่งลงตามบันไดหนีไฟต่อไปจนเมื่อมาถึงชั้นห้าพลันเกิดเสียงระเบิดกึกก้องดังมาจากเหนือหัว!!!

     

     

                ตูม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

     

                เพราะเสียงระเบิดนั่นทำให้ผมตกใจนิดหน่อยเลยก้าวบันไดผิดขั้นสะดุดไปกระแทกประตูจนมันเปิดออก และตอนนั้นเองที่ผมได้ยินเสียงใครบางคนพูดขึ้นมาจากหัวมุมว่า

     

     

                “หึๆ มันเริ่มแล้วล่ะนะออสติน”

     

     

                ...นั่นมันเสียงไอ้เกลล์อะไรนั่นนี่หว่า โชคดีที่ผมไม่ทะเล่อทะล่าเดินเลี้ยวไปยังตรงที่ไอ้นั่นยืนอยู่ เพราะผมได้กลิ่นทะแม่งๆ ชอบกล ทำไมเกิดเสียงระเบิดดังขึ้นขนาดนั้นไอ้บ้านี่ถึงไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลยนะ หรือว่าระเบิดที่ดังขึ้นมันจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับไอ้หมอนี่?

     

     

                “บ้าไปแล้ว นี่นายคิดจะระเบิดตึกทั้งตึกนี่ทิ้งจริงๆ เหรอไง!

     

     

                เสียงที่สองนั่นถามดังลั่นและมันก็คุ้นหูผมเหลือเกิน...ไอ้ออสติน! เป็นมันไม่ผิดแน่ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังแอบอยู่ที่เดิมและฟังบทสนทนาระหว่างสองคนนั่นต่อไป

     

     

                “ทำไงได้ล่ะ มันเป็นงานที่ฉันต้องทำ” เกลล์ยักไหล่อย่างไม่ใคร่จะสนใจนักก่อนจะจับมือของไอ้ออสตินไว้ ไม่น่าเชื่อว่าไอ้บ้านี่คือไอ้ขี้กลัวเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ และอะไรนะ... งานอย่างนั้นเหรอ หึ! ถ้าให้ผมลองเดา พนันได้ว่ามันคือคนที่ไอ้เวรดีไลท์จ้างมาอีกแน่ๆ แม่งเนียนเสียจริงนะ!

     

     

                “ปล่อยสิวะ”

     

     

                ไอ้ออสตินร้องเมื่อมันถูกลากให้เดินตามไป หึ! มันก็เป็นของมันอย่างนี้แหละ แค่ผมกระชากมันนิดๆ หน่อยๆ มันยังโมโหเลย และที่สำคัญ...ผมโคตรจะไม่พอใจเลยที่ไอ้เกลล์มันบังอาจมาแตะต้องของเล่นผมของแบบนี้!!

     

     

                หมับ!!

     

     

                “อ๊ะ!!!” ร่างแบบบางของออสตินชะงักเมื่อผมเดินไปกระชากแขนเรียวบางอีกข้างนั่นอย่างแรงจนมันแทบจะกระเด็ดมาซิบกับแผ่นอกผม แต่ติดตรงที่แขนข้างหนึ่งของมันถูกไอ้เกลล์คว้าไว้ ดวงหน้าหวานๆ ของออสตินหันมาหาผมก่อนจะเบิกตากว้างราวกับไม่เชื่อสายตาตัวเอง “ไอ้ซิการ์!!!!!!!!             

     
     

                พลั่ก!!
     
     

                โดยไม่รอช้าขาของผมก็ตวัดขึ้นไปเตะปากเจ้าของไอ้มือโสโครกที่บังอาจมาจับต้องแขนของเล่นผมอย่างถือวิสาสะนั่นอย่างแรงจนมันเผลอปล่อยแขนไอ้ออสตินและเซถอยหลังไปหลายก้าว ผมรีบดึงไอ้ออสตินไปหลบด้านหลังผมทันทีก่อนที่ไอ้เกลล์อะไรนั่นจะมาคว้าตัวของของผมไปอีก ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นผมกล้ารับประกันได้เลยว่าศพมันต้องไม่สวยแน่!!

     

     

                ใช่...โทษฐานที่บังอาจมายุ่งกับของเล่นชิ้นสำคัญของผมมีแต่เละกับเละเท่านั้น!!!!!!

     

     

                “หึ!

     

     

                เจ้าของร่างผอมบางตรงหน้าแค่นหัวเราะในลำคอเสียงเย็นเยียบพลางถ่มเลือดที่อยู่ในปากลงบนพื้นก่อนที่มือเรียวจะยกขึ้นมาเช็ดปาก ดูท่าว่าไอ้ที่ผมออกแรงเตะไปเมื่อครู่นั่นคงจะทำให้มันเจ็บมากพอดูถึงได้ส่งสายตาเคียดแค้นมาให้แบบนั้น เหอะ!! แต่ทำอย่างกับว่าผมกลัวนักนี่

     

     

                ถ้ากล้ากับคนอย่างกู...ก็เข้ามา!!!

     

     

                “ไม่นึกเลยนะว่าแกจะตามมาถึงที่นี่ได้เร็วขนาดนี้” ไอ้หมอนั่นว่าพลางดึงมีดสั้นคู่ที่เหน็บอยู่กับปลอกซึ่งซ่อนไว้ด้านหลังอย่างแนบเนียนขึ้นมา แม้จะเป็นเพียงมีดที่มีความยาวไม่มากนักแต่ประกายยามแสงไปกระทบนั้นบ่งบอกความคมกริบได้เป็นอย่างดี...ชนิดที่ว่าปาดคอทีเดียวเลือดลึกไปหลายเซนติเมตรเลยล่ะ “นับว่าเป็นความผิดพลาดของฉันเองแหละ ที่มั่นใจในแผนมากเกินไป ถ้างั้น....”

     

     

                “...”

     

     

                “กูก็คงต้องฆ่ามึงให้ตายอยู่ตรงนี้แทน!!

     

     

                สิ้นสุดประโยคอวดดีนั่นร่างบางก็พุ่งเข้าหาผมอย่างรวดเร็วตามสัญชาตญาณนักฆ่า ผมผลักไอ้ออสตินออกไปไกลๆ ก่อนที่จะหลบได้อย่างฉิวเฉียดชนิดเส้นยาแดงฝ่าแปด...ชิท! ไอ้เวรนี่ก็มีดีพอตัวเหมือนกันนี่หว่า ผมคิดในเสี้ยววินาทีเดียวที่ตวัดเท้าไปที่ช่วงท้องของอีกฝ่าย แต่มันก็เอี้ยวตัวหลบได้ทัน

     

     

                ฉึก!

     

     

                ในตอนที่ไอ้เกลล์อะไรนั่นหมุนตัวกลับมาอีกครั้งนั้นมันก็ใช้มีดวาดแทงเป็นแนวขวางด้วยความเร็วชนิดที่ผมมองเห็นเพียงประกายแสงจากตัวมีดเท่านั้น โชคดีที่ผมก้าวถอยหลังหลบได้ทันก่อนที่คมมีดนั่นจะเฉือนเข้าที่ลำตัว แต่โชคร้ายตรงที่มันใช้มีดอีกเล่มฟันต้นแขนด้านซ้ายของผมจนได้เลือด ดีที่ไม่ลึกมาก...ทว่าก็เรียกเลือดพอสมควร

     

     

                Damn it!!!!!

     

     

                ผมคิดอย่างหัวเสียจัดก่อนที่จะหลบมีดอีกเล่มที่แทงเข้ามาโดยอาศัยช่องโหว่ของอีกฝ่ายที่ไม่ทันตั้งตัวและชักมีดกลับมาไม่ทันอัดอัปเปอร์คัตเสยคางมันขึ้นไปอย่างแรงและตวัดขาเตะตบท้ายจนอีกฝ่ายเซไปกระแทกกับผนัง

     

     

                ตูม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

     

                ในวินาทีนั้นเองที่มีเสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้งคราวนี้เสียงมันก็ดังเข้ามาใกล้มาก...มากจนทำให้ผมระลึกได้ว่าผมกับไอ้ออสตินมีเวลาอยู่ไม่มากแล้วถ้าขืนไม่รีบปิดฉากล่ะก็...ทั้งผมและออสตินได้กลายเป็นศพเละๆ อยู่ภายใต้ซากตึกนี่แน่ๆ!!!

     

     

                “ไอ้ซิการ์! ระวัง!!!

     

     

                ผมได้ยินเสียงไอ้ออสตินตะโกนดังลั่งเตือนผมที่มัวสนใจเสียงระเบิดที่ดังขึ้น นับว่าเป็นโชคดีอีกครั้งของผมที่หันกลับมาเห็นมีดที่ถูกขว้างมาจากไอ้เกลล์ที่พึ่งฟื้นตัวพอดี!!!

     

     

                ปึก!!

     

     

                เคร้ง!!

     

     

                เสียงมีดพุ่งเข้าใส่ผนังแทนที่จะเป็นกะโหลกของผมซึ่งมันเฉียดศีรษะผมไปไม่กี่เซนต์เท่านั้นเองก่อนที่มีดนั่นจะตกลงไปบนพื้น ถ้าเมื่อกี้ไอ้ออสตินไม่ร้องเตือนผม ผมคงหลับยาวไปแล้ว! แม่งเอ๊ย!! มึงอยากจะเล่นมีดบินมากนักใช่มั้ย ได้!! กูจัดเต็มให้มึงแน่ ผมคิดพลางก้มลงไปหยิบมีดที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาก่อนจะพุ่งเข้าหาอีกฝ่ายพร้อมทั้งแทงมีดเล่มนั่นไปยังช่วงลำตัวของไอ้เกลล์ที่ยังตั้งตัวไม่ติด ทว่าถึงกระนั้นมันก็ยังหลบจนมีดฝังเข้าไปที่ท้องน้อยด้านซ้ายแทนที่จะเป็นช่วงกลางลำตัวอย่างที่ผมหวัง

     

     

                “อึก!!

     

     

                ผมได้ยินเสียงของคนตรงหน้ากัดฟันอย่างต้องการจะข่มความเจ็บปวดที่ตอนนี้คงจะกำลังแผลงฤทธิ์อย่างหนักหนาสาหัส ถึงผมจะแทงพลาดแต่ก็ใช่ว่าแผลที่ผมสร้างไว้จะไม่มีผลอะไรเลยนี่

     

     

                ผมยกยิ้มขึ้นตรงมุมปากอย่างโรคจิตพร้อมกับที่มือก็บิดมีดที่ยังคงฝังอยู่ในร่างกายของคนตรงหน้าอย่างเลือดเย็น...และที่ผมทำก็เพื่อเพิ่มความเจ็บปวดของมันให้มากยิ่งขึ้นไปอีกยังไงล่ะ หึๆๆ J

     

     

                ...มึงคิดผิดเองที่มาเล่นกับคนอย่างกู!!!!

     

     

                “มึงคิดจะฆ่ากูใช่มั้ย...” ผมยิ้มเหี้ยมและดันมีดให้ฝังลึกเข้าไปอีก ทีละนิด...ทีละนิด...

     

     

                “...ฮื้อ!!

     

     

                “แต่เสียใจด้วยเพราะเป็นกูที่จะฆ่ามึงก่อน!

     

     

                และผมก็ดันมีดเข้าไปจนสุดด้าม เลือดสีแดงฉานที่ไหลออกมาจากปากแผลของอีกฝ่ายทำให้รู้ได้โดยไม่ต้องคิดอะไรให้มากความว่ามันคงจะเจ็บมากแน่ๆ ไอ้เกลล์แทบจะดิ้นพราดๆ ด้วยความทรมานในขณะที่มันเองไม่มีแรงจะถือมีดมาไล่ฆ่าผมอีกต่อไป...

     

     

                ตูม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

     

                เสียงระเบิดดังขึ้นเหนือศีรษะอีกครั้งทำให้ผมชะงักและนึกถึงเวลาที่เริ่มเหลือน้อยเต็มทน ที่นี่ใกล้จะเหลือเพียงซากเข้าไปทุกทีแล้ว!

     

     

                “ไอ้ออสติน รีบไปกับกูเดี๋ยวนี้เลย!!

     

     

                ผมเลิกสนใจไอ้เกลล์ที่กำลังนั่งกุมแผลตัวเองแล้วรีบวิ่งไปคว้าข้อมือเรียวของไอ้ออสตินก่อนจะลากให้มันตามผมมา ใจจริงก็อยากจะเล่นกับไอ้เกลล์ให้มันทรมานเล่นๆ อยู่หรอก แต่มันจะไม่คุ้มกับการต้องมาเสี่ยงชีวิตน่ะสิ อีกอย่างมันคงจะสิ้นฤทธิ์ไม่ลุกขึ้นมาฆ่าผมได้แล้วล่ะ เพราะฉะนั้นที่ควรจะทำ ณ ตอนนี้ก็คือรีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด! ไม่อยากจะยอมรับเหมือนกันหรอกนะว่าตอนที่อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ผมกลับรู้สึก 'ห่วง' ไอ้ออสตินขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

     

     

                “เพิ่งจะมาคิดได้เหรอวะ! ตึกมันจะถล่มลงมาแล้วนะโว้ย!!

     

     

                “เออน่า! กูรู้แล้ว!! ถึงจะมีเวลาเพียงแค่เสี้ยววินาทีแต่กูจะพามึงรอดออกไปให้ได้”

     

     

                ไม่รู้เหมือนกันนะว่าตัวเองพูดอะไรออกไป แต่ผมคิดอะไรก็พูดออกไปแบบนั้น ผมบีบมือที่จับแขนไอ้ออสตินเบาๆ อย่างต้องการให้มันเชื่อว่าผมทำตามที่พูดได้จริงๆ

     

     

                “...”

     

     

                “เชื่อใจกูสิ ออสติน!!!!

     

     

                ...เชื่อว่ากูกับมึงจะต้องรอดไปด้วยกัน!!

     

     

    ตอนต่อไปมี NC นะคับผม >O<////

     

     

     

     

     


     
           

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×