ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องเก็บของ

    ลำดับตอนที่ #8 : Bastard!! Screen 08 :: The War of Love, Life and Lie. [110 Per.]

    • อัปเดตล่าสุด 30 เม.ย. 56


     

    Chapter 08

    The War of Love, Life and Lie.

     

     

      

     

                ผมตื่นมาในสภาพร่างกายเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าห่มผืนใหญ่ปกปิดท่อนล่างไว้เท่านั้น...พื้นที่ข้างกายมีรอยยับบ่งบอกว่าคนที่อยู่กับผมมาตลอดทั้งคืนบัดนี้ได้ลงไปข้างล่างแล้ว เฮอะ! ผมไม่อยากคิดถึงเรื่องเมื่อวานเท่าไรหรอกนะ...ผมรู้ดีอยู่แล้วแหละว่าถ้าตกมาอยู่ในกำมือของไอ้ซิการ์แล้ว อะไรจะเกิดขึ้น

     

     

                ที่นี่คือบ้านของหมอนั่น...ตั้งแต่เท้าผมได้เหยียบย่างกรายเข้ามาไอ้บ้านั่นก็ไม่ปล่อยให้ผมได้อยู่ห่างเลย ว่าไปแล้วบ้านของมันก็กว้างใหญ่พอๆ กับบ้านไอ้จัมพ์เลยแฮะ

     

     

                ...หึ! คนประเภทเดียวกันย่อมคบกับคนประเภทเดียวกันอยู่แล้ว

     

     

                ยิ่งสันดานเลวๆ ที่ไม่เป็นสองรองใครของมันสองคนด้วยแล้วยิ่งทำให้ผมเชื่อสุดขั้วหัวใจเลย!!

     

     

                ผมพยายามไม่เหลือบมองไปยังรอยคิสมาร์กที่เพิ่มขึ้นจากรอยเดิมและมีอยู่แทบทุกตารางนิ้วของร่างกายก่อนจะคว้าเสื้อผ้าที่ตกหล่นอยู่ใกล้ๆ มาสวมใส่และหยัดตัวลุกขึ้นเดินออกมาจากห้องนอนขนาดใหญ่นั่น

     

     

                ขาเรียวบางที่ก้าวไปตามบันไดอย่างแช่มช้าเพราะเมื่อร่างกายผมถูกสูบพลังไปมากโข...เดินได้นี่ก็บุญเท่าไรแล้ว!! เมื่อลงมาถึงชั้นล่างก็พบว่าซิการ์ที่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำกำลังนั่งไขว่ห้างจิบกาแฟอย่างสบายอารมณ์ ผมที่เปียกอยู่หมาดๆ ทำให้ผมรู้ว่าหมอนี่คงจะเพิ่งอาบน้ำเสร็จและนึกหงุดหงิดใจตัวเองเหมือนกันที่คิดว่ามันดูมีเสน่ห์เสียได้ ใบหน้าที่แสดงอารมณ์แย่ๆ ต่างๆ นานาของผมทำให้อีกฝ่ายขำและยกยิ้มมุมปาก

     

     

                “ไม่น่าเชื่อว่าจะลุกมาได้ทั้งๆ ที่เมื่อคืนโดนฉัน เล่นซะหนักเลยนี่”

     

     

                วาจาจาบจ้วงของร่างสูงส่งผลให้ความหงุดหงิดของผมเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวหากแต่ก็พยายามเก็บปากเก็บคำไว้ ตอนนี้ผมไม่เหลือแรงพอจะต่อปากต่อคำกับมันหรอกนะ

     

     

                ...แต่เชื่อเถอะว่าในใจผมด่ามันไปยันโคตรต้นตระกูลของมันแล้ว!!

     

     

                คนตัวสูงลุกขึ้นยืนจากโซฟาที่เป็นหนึ่งในเครื่องเรือนราคาแพงซึ่งมีอยู่นับไม่ถ้วนในบ้านหลังนี้ก่อนจะสาวเท้าเข้ามาหาผมที่ยังคงยืนนิ่งไม่ขยับเยื้อนอยู่ตรงชานบันได

     

     

                “เอามือสกปรกๆ ของมึงออกไปจากแขนกูเดี๋ยวนี้นะ!

     

     

                ความรังเกียจกับความขยะแขยงที่มีต่อคนตรงหน้าทำให้ผมดิ้นและสะบัดแขนให้หลุดออกจากการจับกุมจากมือแกร่งที่มีแรงมากซะจนผมดิ้นยังไงก็ดิ้นไม่หลุด

     

     

                “นึกว่ากูอยากแตะตัวมึงมากนักรึไง ก็เห็นว่าเมียตัวเองหมดแรงเดินต่อไม่ไหวแล้วมาช่วยก็เท่านั้น”

     

     

                น้ำเสียงสบายๆ ไม่ยี่หระนั่นเป็นตัวทำให้ตะกอนความรู้สึกแย่ๆ ที่อยู่ในก้นบึ้งของหัวใจขุ่นคลั่กขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่าจนจิตใจผมไม่มีทางที่จะสงบลงง่ายๆ ร่างของผมถูกคนในชุดคลุมอาบน้ำลากให้เดินมานั่งบนโซฟาด้วยแรงที่ไม่เบานัก ผมนิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อร่างกระแทกลงกับเบาะนุ่มๆ

     

     

                “ขอบใจหวังดี แต่ทีหลังไม่ต้องมาช่วย!

     

     

                “หึ! มันคงไม่มีทีหลังอีกแล้วล่ะไอ้ออสติน :)

     

     

                ...ใช่สิ! เพราะไอ้บ้านี่มันจะทำตัวเลวทรามกับผมมากกว่าที่จะมาทำตัวดีๆ แน่!!

     

     

                ผมคิดต่อในใจพลางมองไปยังรอบๆ บ้านที่เป็นแนวสไตล์โมเดิร์นดูทันสมัย ตรงโซนนี้เป็นโซนรับแขกหรือจะนั่งเล่นก็ได้ตามที่ต้องการ โดยรอบผนังจะเป็นกระจกใสมองออกไปก็จะเห็นสวนด้านนอกซึ่งได้รับการดูแลอย่างดูกระทั่งต้นไม้หรือดอกไม้ก็เจริญงอกงามผลิดอกเป็นว่าเล่น สระว่ายน้ำก็อยู่ข้างๆ กันนี่เอง ผมว่าบ้านหลังนี้ผมใหญ่โตมโหฬารเกินกว่าที่จะอยู่คนเดียว...

     

     

                หมอนี่ไม่เหงาบ้างเลยรึไงนะ...

     

     

                คำถามนั่นผมไม่ได้ถามออกไปเพราะคิดว่านิสัยแย่ๆ กับความชั่วช้าสารเลวของไอ้หมอนี่คงไม่ได้เกิดมาจากความเหงาหรือการขาดความอบอุ่นหรอก...มันอยู่ที่ สันดานต่างหาก!!!

     

     

                “มึงอยู่ที่นี่คนเดียวงั้นเหรอ”

     

     

                โง่จริงๆ...ไม่รู้ว่าทำไมผมถามได้ถามอะไรออกไปแบบนั้น เชื่อเถอะว่านอกจากไอ้เลวนี่จะไม่ตอบแล้วคงจะเหน็บแหนมกลับมาหาว่าผมไม่มีตาดูหรือไง

     

     

                “เปล่า...กูอยู่กับพี่แค่สองคน หมอนั่นชื่อไซน์”

     

     

                น่าแปลกที่ซิการ์ตอบ...เป็นการตอบที่ธรรมดาไม่มีอะไรมาเคลือบแฝงราวกับผมกับมันกำลังคุยกันเรื่องสัพเพเหระอยู่ ว่าแต่พี่ชายหมอนี่ชื่อ ไซน์งั้นเหรอ...คงไม่ใช่ไซน์เดียวกับนักร้องวง Dream U ที่กำลังโด่งดังอยู่ในตอนนี้ใช่ไหม

     

     

                “ทำไมถึงอยู่แค่สองคนเองล่ะ”

     

     

                “ไม่ใช่เรื่องที่มึงจะต้องรู้” คนตัวสูงว่าด้วยเสียงเย็นชาที่ผมมักไม่ค่อยได้เห็นโหมดอารมณ์นี้ของมัน...อะไรของหมอนี่กันวะ!? เฮ้อ...ก็นั่นไงผมว่าแล้วว่าเราคงพูดกันดีๆ ได้ไม่ถึงสองประโยคหรอกเพราะไม่ผมก็มันนี่แหละที่จะเป็นฝ่ายจุดชนวนอารมณ์อีกฝ่ายให้ปะทุเล่นๆ

     

     

                “กูไปอาบน้ำ...มึงพอมีชุดให้กูบ้างไหมวะ”

     

     

                “มึงก็ลองไปค้นๆ ดูในห้องนอนกูแล้วกัน...คงไม่ต้องบอกใช่ไหมว่าห้องนอนกูไปทางไหน เพราะถ้าให้บอกกูคงต้องช่วย กระตุ้นความจำมึงแบบเมื่อคืนซะแล้ว”

     

     

                ประโยคหลังของไอ้ซิการ์มันช่างประเคนเท้าให้สักสองสามถีบ ผมรีบลุกขึ้นไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายให้สะอาบทันทีโดยพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะไม่ทำร้ายใบหน้าหล่อเหลานั่นเป็นการระบายโทสะ

     

     

                ไอ้เวรนั่นเหี้ยไม่มีใครเกินเลยจริงๆ!!

     

     

                วันนี้ผมจะต้องหาทางหนีออกไปจากที่นี่ให้ได้เลยคอยดู!!

     

     

                ผมคิดขณะเลือกชุดของไอ้ซิการ์ในตู้เสื้อผ้าก่อนจะคว้าเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนสีซีดมาไว้ในมือ ยังดีที่ในลิ้นชักด้านล่างมีแพ็กกางเกงในที่ยังไม่ได้ใช้...ไม่งั้นผมคงได้ระเบิดตัวเองตายภายในเวลาหนึ่งวิแน่ๆ ถ้าหากต้องใช้ชั้นในร่วมกับมัน!! ตลอดเวลาที่อาบน้ำผมว่าตัวเองใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำพอสมควรเลยทีเดียวเนื่องจากถูกเนื้อถูกตัวไปมาเพื่อลบร่องรอยที่ไอ้ซิการ์ทำไว้ให้ทั้งๆ ที่รู้ดีว่ายังไงก็ออกไม่หมด พอแต่งตัวเสร็จเดินมาที่บันได้หมายจะลงด้านล่างก็ได้ยินเสียงหนึ่งตะโกนเรียกชื่อผม

     

     

                “ไอ้ออสตินมึงอยู่ไหน ออกมาหากูเดี๋ยวนี้!!

     

     

                ...เสียงนี้มันเสียงไอ้จัมพ์นี่!!!

     

     

                “อะไรของมึงวะไอ้จัมพ์ เลิกตะโกนทีน่า กูรำคาญ เดี๋ยวมันอาบน้ำเสร็จแม่งก็ลงมาเองแหละ”

     

     

                ผมที่ยังคงยืนนิ่งที่เดิมได้ยินเสียงของไอ้ซิการ์เอ่ยอย่างรำคาญ ไอ้จัมพ์ยังคงไม่รู้ว่าผมอยู่ตรงชั้นสอง...ตอนแรกก็จะไม่ออกไปอยู่หรอก แต่พอได้ยินประโยคโต้กลับของไอ้จัมพ์ที่พูดใส่ซิการ์แล้วผมถึงกับรีบวิ่งลงมาทันที

     

     

                “ไอ้แพทน้องกูหายไปทั้งคน กูไม่มีเวลามารอมันอาบน้ำเสร็จหรอกนะไอ้ซิการ์!!

     

     

                “ไอ้แพทหายไปงั้นเหรอ!!!

     

     

                เสียงตะโกนนี้มาจากผมที่วิ่งลงมาอย่างหน้าตาตื่นพร้อมกับเห็นว่าไอ้จัมพ์ทำท่าเหมือนกำลังจะเดินขึ้นบันไดมา ผมไม่สนสีหน้าคร่ำเครียดราวกับอยากจะฆ่าใครสักคนให้ตายคามือของไอ้จัมพ์ ในหัวคิดวิ่งวุ่นแต่เรื่องที่ว่าไอ้แพทหายไป! ผมมั่นใจว่าหูตัวเองไม่ได้ฝาดไปประกอบกับเหตุการณ์เมื่อวานที่ไอ้แพทช่วยผมหนีไปและเผชิญหน้ากับไอ้ดีไลท์เพียงลำพังนั่นทำให้ผมคิดว่าไอ้แพทอาจจะหายตัวไปจริงๆ ก็ได้!!!

     

     

                “ไอ้ออสติน...มึงมานี่เลย!!!!

     

     

                “โอ๊ย!! กูเจ็บนะไอ้สัด!!

     

     

                ผมร้องลั่นเมื่อไอ้ห่าจัมพ์กระชากแขนผมลากให้เดินไปหาไอ้ซิการ์ตรงโซฟาอย่างรุนแรง มือหนาที่บีบรัดรอบท่อนแขนผมนั่นน่ากลัวว่าจะฝากรอยช้ำไว้ไม่มากก็น้อย

     

     

                โอ้ย!!!!!! ไอ้เชี่ยพวกนี้มันจะโรคจิตไปไหนกันวะ!!!!

     

     

                “ไม่ต้องมาตอแหลสำออย! ไอ้แพทหายไปมึงรู้มั้ย มึงเป็นต้นเหตุให้น้องกูหายไป!!!

     

     

                เสียงเข้มที่ตวาดก้องนั่นบ่งบอกอารมณ์ของคนตรงหน้าได้เป็นอย่างดี...โกรธแค้นและเดือดดาลเสียยิ่งกว่าลาวาภูเขาไฟอีกมั้งเนี้ย!!!

     

     

                “ไอ้แพทหายไปไหนกูก็ไม่รู้ แล้วที่บอกว่ากูเป็นต้นเหตุที่มันหายไปนี่มันอะไรกันวะ” ผมโต้กลับอย่างไม่ยอมแพ้และไม่กลัวต่อสีหน้าเดือดจัดของไอ้จัมพ์ อะไรวะ!! อยู่ๆ ก็มาใส่เอาๆ คิดว่าผมไม่เป็นห่วงรึไงที่รู้ว่าไอ้แพทมันหายไปน่ะ ผมน่ะเป็นห่วงซะแทบคลั่งยิ่งกว่ามันเสียอีก!!!

     

     

                “นี่มึงไม่รู้หรือแกล้งโง่วะ ไอ้แพทมันหายไปเพราะช่วยมึงหนีเมื่อวานยังไงล่ะ!

     

     

                “...!!!!

     

     

                “เมื่อวานมันโทรศัพท์มาหากูบอกให้ช่วยมึง แต่วันนี้พอกูไปหามันที่อพาร์ตเมนต์ไม่เจอ ห้องแม่งก็ไม่ได้ล็อค กูไม่รู้หรอกนะว่ามึงหนีมา แต่ไอ้เวนนั่นมันต้องจับตัวไอ้แพทด้วยแน่ๆ!!!

     

     

                หน้าของผมชาและเกือบจะไร้ความรู้สึกไปแล้วเมื่อคำพูดของไอ้จัมพ์มันเหมือนลูกศรปักกลางหัวผมทุกดอก จริงสินะ...ไอ้ดีไลท์มันอาจจับตัวไอ้แพทเทิร์นไปก็ได้!! ความคิดนี้ทำผมเสียวสันหลังจนไปถึงขั้วกระดูก ไอ้ดีไลท์มันโหดเหี้ยมและร้ายกาจแค่ไหนผมรู้ดี ไม่แน่ว่า...

     

     

                ไม่แน่ว่าป่านนี้ไอ้แพทอาจโดนไอ้ระยำนั่นย่ำยีศักดิ์ศรีจนไม่เหลือไปแล้วก็ได้!!!!

     

     

                ปัดโถ่โว้ย!!! นี่มันความผิดของผม...ความผิดของผมที่ไม่สมควรให้อภัยเลยจริงๆ!!!

     

     

                “...ใช่ กูอาจจะเป็นต้นเหตุให้ไอ้แพทหายไปอย่างที่มึงว่าก็ได้...”

     

     

                ตอนนี้ผมถึงกับทรุดตัวนั่งลงกับพื้นอย่างอ่อนแรงจนดูอ่อนแอและน่าสมเพช แต่ความคิดที่ว่าไอ้ดีไลท์จับตัวแพทไปทำให้ผมยืนไม่ไหว! ไอ้แพท...กูขอโทษ...

     

     

                “มึงลุกขึ้นมา อย่ามาทำสำออยให้กูเห็น!!!

     

     

                มือแกร่งกระชากผมให้ลุกขึ้นยืนก่อนจะผลักไปกระแทกกับโต๊ะกระจกใกล้ๆ กัน

     

     

                “เพลาๆ หน่อยไอ้จัมพ์ เดี๋ยวของเล่นกูเป็นรอย”

     

     

                ไอ้ซิการ์ที่นั่งเงียบมานานเอ่ยขัดเมื่อเห็นว่าไอ้จัมพ์เริ่มใช้กำลังรุนแรงกับผม ซึ่งนั่นทำให้นัยน์ตาคู่คมตวัดหันไปมองไอ้ซิการ์ทันที

     

     

                “หึ! ถ้ากูฆ่าไอ้เหี้ยได้กูก็จะทำ!!!!!

     

     

                ไอ้จัมพ์ตะโกนด้วยแรงอารมณ์...การที่มันมาอาละวาดผมถึงที่นั้นมันไม่ผิดหรอก ไอ้หมอนี่คงจะเป็นห่วงน้องชายตัวเองมาก ยิ่งรู้ว่าตกไปอยู่ในมือไอ้เลวที่ไหนก็ไม่รู้แล้วคงจะยิ่งทำให้หัวอกคนเป็นพี่ชายแทบจะแหลกสลาย ถ้ามันไม่ได้แสดงให้เห็นว่ามันเลวแค่ไหนผมก็คงคิดว่าไอ้จัมพ์คงจะเป็นคนดีคนหนึ่ง...

     

     

                แต่ขอโทษ!!! ไอ้เหี้ยนี่มันชาติชั่วเกินกว่าจะเป็นคนดี!!!!

     

     

                “มึงอย่าได้มายุ่งของของกูเชียวไอ้จัมพ์”

     

     

                ผมว่าไอ้ซิการ์คงจะหวงของของมันมาก...อะไรที่มันปักใจเชื่อไปว่าเป็นของมันแล้ว ต่อให้เพื่อนหรือใครก็แย่งไปมไม่ได้ แต่ผมไม่ใช่สิ่งของนะโว้ย!!!!

     

     

                “คิดว่ากูสนหรือไง”

     

     

                สองคนนั่นมองกันด้วยสายตาที่เหมือนจะขวางโลกทั้งใบได้ ไอ้จัมพ์คงจะห่วงน้องมากจนถึงขึ้นมีปากเสียงเล็กๆ กับไอ้ซิการ์เลยเหรอ

     

     

                Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

     

     

                มีเสียงโทรศัพท์แทรกบรรยากาศมาคุขึ้นมา...ช่างเป็นการขัดจังหวะที่น่าเกลียดสุดๆ ไอ้ซิการ์หยิบ iPhone ของตัวเองที่เป็นแหล่งกำเนิดเสียงขึ้นมาดูก่อนที่ใบหน้าคมคายนั่นจะขมวดคิ้วและแปลกใจนิดๆ เบอร์ไม่คุ้นรึไงถึงได้ทำท่าแปลกใจขนาดนั้น

     

     

                “ฮัลโหล!!!

     

     

                ซิการ์กระแทกเสียงใส่โทรศัพท์อย่างไม่มีมารยาทและไม่กลัวว่าอีกฟากของโทรศัพท์จะหูหนวก! นิสัยยอดแย่แบบนี้ผมขอยกนิ้วให้มันเลยจริงๆ!! หากทว่าสีหน้าที่เกือบตะตื่นตะตึงในวินาทีถัดมานั่นทำเอาทั้งผมและไอ้จัมพ์ที่ลอบมองอยู่อดสงสัยไม่ได้

     

     

                “ออสติน...มึงเอาไป”

     

     

                ร่างสูงโยนโทรศัพท์มาให้ผม โชคดีที่ผมรับไว้ได้ทันไม่งั้นน้อง iPhone แสนราคาแพงนี่ได้ตกกระแทกพื้นมีโอกาสใช้งานต่อไม่ได้แน่ๆ ...เล่นโยนมาแรงซะขนาดนั้นไม่ซื้อมาไว้เผื่อปาเล่นเลยล่ะพ่อคุณ!!! ผมแอบแขวะอย่างหมั่นไส้อยู่ในใจก่อนจะยกเครื่องมือสื่อสารขนาดบางนั่นแนบกับหู

     

     

                [Hi Austin J]

     

     

                น้ำเสียงเย็นชาที่ฟังกี่ครั้งก็ดูโหดเหี้ยมเกินมนุษย์นั่นทำให้ผมอึ้งพูดอะไรไม่ออก มือเย็นเฉียบขึ้นมาแทบจะในทันทีที่ระลึกได้ว่าปลายสายคือใคร...ไอ้ดีไลท์!!!! มันโทรมาได้ยังไงกัน มันรู้ได้ไงว่าผมอยู่กับไอ้ซิการ์!!! ช่างเป็นคำถามที่ต่อให้คิดกี่สิบตลบก็ยังหาคำตอบไม่ได้ ในสติที่พอจะมีหลงเหลืออยู่บ้างของผมสั่งให้นิ้วเรียวของตัวเองเปิดลำโพงเพื่อให้ไอ้ซิการ์กับไอ้จัมพ์ได้ยินบทสนทนาด้วย

     

     

                “ไอ้ดีไลท์...นั่นมึงใช่มั้ย”

     

     

                [เป็นปลื้มจังที่มึงยังจำเสียงกูได้นะออสติน สงสัยล่ะสิว่ากูรู้ได้ไงว่ามึงอยู่กับ ใคร’]

     

     

                คำว่าใครที่เน้นเสียงนั่นทำให้ผมเหลือบไปมองไอ้ซิการ์ที่ประหลาดใจเช่นกัน

     

     

                “มึงรู้ได้ไง”

     

     

                [ไม่มีอะไรเกินความสามารถของคนอย่างกูหรอกนะ]

     

     

                ...หึ! ผมเชื่อ! ผมเชี่อว่าไอ้ดีไลท์มันสามารถทำได้จริงๆ การที่มันจะรู้ว่าผมอยู่กันไอ้ซิการ์ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร อย่าลืมสิว่ามันน่ะมีชีวิตยิ่งกว่ามาเฟียเสียอีก อิทธิพลอำนาจมืดที่ผมคาดเดาประเมินไม่ได้นั่นคงจะมีมากเหลือล้น ถ้าจะมีคนบุกมาจับตัวผมไปผมก็คงไม่แปลกใจอะไรเลย แต่ที่มันไม่ทำก็อาจจะเป็นเพราะซิการ์เองก็คงจะมีอิทธิพลพอสมควร การที่จะบุ่มบ่ามส่งคนมาชิงตัวผมนั้นคงจะเป็นไปได้ยาก

     

     

                “มึงจับตัวแพทเทิร์นไปใช่ไหม”

     

     

                ผมถามอย่างใจเย็นพยายามควบคุมสติเพื่อให้เก็บข้อมูลได้มากที่สุด ...บางทีมันอาจไม่ได้จับตัวแพทไปก็ได้

     

     

                [หึ ถ้าถามถึงหมอนั่นล่ะก็ตอนนี้เป็นเมียกูไปนานแล้วล่ะ]

     

     

                “มึงว่าอะไรนะไอ้สัด!! มึงทำอะไรน้องกู!!!!

     

     

                เสียงนี้มาจากไอ้จัมพ์ที่ตรงเข้ามากระชาก iPhone ในมือผมไปด่ากราดใส่ไอ้ดีไลท์ ไอ้จัมพ์สมควรที่เดือดจัดเพราะคำพูดไม่ให้เกียรติและน้ำเสียงที่ดูหมิ่นไอ้แพทนั่นยังทำให้ผมกำหมัดแน่นเลย ถ้าไอ้ดีไลท์มันพูดความจริงก็แสดงว่ามันได้ย่ำยีและทำลายไอ้แพทเทิร์นไปด้วยน้ำมือของมันแล้ว!!!

     

     

                ...ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าสภาพของไอ้แพทตอนนี้มันจะเป็นยังไง!!!

     

     

                [ฮ่าๆ นายคงจะชื่อจัมพ์และเป็นพี่ของแพทเทิร์นสินะ...]

     

     

                “เออ!! แล้วจะทำไม”

     

     

                [ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากทำความรู้จักกับพี่ชายของเมียตัวเองก็เท่านั้น]

     

     

                วาจาปั่นประสาทคนฟังได้อย่างมีประสิทธิผลสูงสุดนั่นทำให้จัมพ์แทบจะปาโทรศัพท์ลงกับพื้นระบายโทสะ ดีที่มันสงบอารมณ์ตัวเองได้ก่อน

     

     

                “มึงปล่อยน้องกูเดี๋ยวนี้ ก่อนที่กูจะตามไปถล่มมึงถึงที่!!!” ไอ้จัมพ์ขู่...และผมเชื่อว่ามันคงทำตามคำขู่ของตัวเองได้จริงๆ จากที่ผมเห็นมา...ไอ้จัมพ์มันร้ายไม่หยอกเลย!!

     

     

                [หึๆ จะตามมาถล่มกูงั้นเหรอ ไปตายแล้วเกิดใหม่ยังจะง่ายกว่าเลยนะ ถ้าเกิดมึงยังจำได้นะว่ากูคือคนที่แม้แต่มึงยังทำอะไรไม่ได้]

     

     

                “มึงก็ทำอะไรกูไม่ได้เหมือนกันนั่นแหละ สัด!!!

     

     

                [มั่นใจเหลือเกินนะ มั่นใจนักก็หาทางมาเอาตัวน้องมึงในสภาพที่ยังไม่เป็นศพไปให้ได้สิ]

     

     

                “...”

     

     

                [หึ! ถ้าไม่อยากเสี่ยงน้องมึงตายก็เอาไอ้ออสตินมาแลกเปลี่ยนสิ]

     

     

                ผมรับรู้ถึงสายตาที่ไอ้จัมพ์มองมายังผม...ทางเดียวที่จะมั่นใจว่าไอ้แพทเทิร์นจะปลอดภัยและกลับมานั้นคือต้องเอาผมแลกตัวกับไอ้แพท แน่นอนว่าไอ้จัมพ์คงไม่ลังเลที่จะผลักผมเข้าสู่อุ้งมือมารเพื่อแลกกับสวัสดิภาพของน้องชายตัวเอง!!!

     

     

                [ไม่ต้องรีบร้อนตัดสินใจก็ได้ กูให้เวลาพวกมึง...อีกสามสิบวันเอาตัวไอ้ออสตินมาแลกกับแพทเทิร์นที่ท่าเรือ XXX ในระหว่างนี้ถ้ามึงปัญญาหากูเจอได้ก็มาแย่งตัวแพทไปได้เลย]

     

     

                “...”

     

     

                [มันก็เหมือนกับเกมไล่จับนั่นแหละ มาเดิมพันกันระหว่างกูกับพวกมึง...ใครจะชนะ!!!]

     

     

                ติ๊ด!

     

     

                ไอ้ดีไลท์เป็นฝ่ายวางโทรศัพท์ไปในขณะที่พวกเรานิ่งปล่อยให้ความเงียบแผ่ลงมาปกคลุมอยู่พักหนึ่ง...นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้วนะ ไม่คิดเลยว่าแค่การที่ผมไม่ยอมตกเป็นของไอ้ดีไลท์จะทำให้เรื่องมันเลยเถิดวุ่นวายได้ขนาดนี้ ที่สำคัญมันบานปลายจนถึงขั้นเกี่ยวพันกับชีวิตไอ้แพทด้วย! คนอย่างไอ้ดีไลท์มันเลือดเย็นพอจะฆ่าคนได้อยู่แล้ว ผมล่ะกลัวเหลือเกิน...กลัวว่าไอ้แพทมันจะต้องตาย

     

     

                ...ถ้าไม่ตายก็คงยิ่งกว่าการตกนรกทั้งเป็น!!!

     

     

                “มึงจะเอายังไง จะเอากูไปแลกกับไอ้แพทเลยมั้ย...”

     

     

                ผมถามไอ้จัมพ์ที่ยืนนิ่งใช้ความคิด คิ้วเรียวสวยที่พาดในองศาที่รับกับใบหน้าได้ดีที่สุดนั้นขมวดจนเป็นปมบอกว่ามันคงจะกังวลมาก...

     

     

                “หึ! ถ้ามันช่วยน้องกูได้ ต่อให้เอาชีวิตสวะๆ ของมึงไปแลกกูก็จะทำ!!!

     

     

                “อย่าแม้แต่จะคิด ไอ้เหี้ยจัมพ์!

     

     

                ไอ้ซิการ์ว่าแทรกขึ้นมาก่อนจะลุกมากระชากผมเข้าหาตัว สีหน้าไม่ยินยอมของคนตรงหน้าทำให้ผมอดประหลาดใจไม่ได้...ทำอย่างกับจะปกป้องผมอย่างนั้นแหละ แต่คุณได้โปรดเชื่อเถอะว่าที่ไอ้ซิการ์ทำมันคือการหวงก้างเท่านั้น ในสายตาของมันผมเป็นของเล่นที่ยังเล่นไม่เบื่อจึงไม่ยอมให้ไอ้จัมพ์เอาไปง่ายๆ

     

     

                “ทำไม!! คิดว่ากูสนเหรอ ต่อให้เป็นเมียมึงกูก็ไม่แคร์!!!

     

     

                “เออ! น้องมึงก็ไม่ใช่น้องของกูเหมือนกัน!!

     

     

                หมับ!!

     

     

                มือของไอ้จัมพ์ตรงเข้ามาจับคอเสื้อของไอ้ซิการ์อย่างแรงซึ่งไอ้ซิการ์ก็กระชากคอเสื้ออีกฝ่ายด้วยแรงที่ไม่แพ้กัน...คล้ายกับสงครามขนาดย่อมกำลังบังเกิดอยู่ตรงหน้าผมอย่างไรอย่างนั้นเลย อีกคนก็ห่วงน้อง อีกคนก็หวงของของตัวเอง...โอ๊ย! แม่งเห็นแก่ตัวพอกัน!!!

     

     

                นิสัยเหี้ยเหมือนกันทั้งคู่!!!

     

     

                “พอได้แล้วน่า! แทนที่จะมาทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องมาช่วยคิดวิธีช่วยไอ้แพทดีกว่าไหมวะ!

     

     

                ในที่สุดผมก็อดรนทนไม่ไหวจะตวาดลั่นออกไป ใจจริงอยากจะหาน้ำร้อนมาสาดไอ้หมาสองตัวนี่เลยด้วยซ้ำ นี่พวกมันไม่คิดเลยหรือไงว่าผมเองก็เครียดเหมือนกัน...ผมสิคือคนที่ไม่มีตัวเลือกอะไรมากนัก ไอ้แพทมันคือเพื่อนของผมถ้าผมไม่เอาตัวเองไปแลกมันก็คงจะตกอยู่ในเงื้อมมือของไอ้ดีไลท์ไปจนวันตาย แต่ถ้าผมยอมไปหาไอ้ดีไลท์...ผมนี่แหละที่จะตายทั้งเป็นเสียเอง!!

     

     

                โธ่โว้ย!! คนที่เครียดที่สุดควรจะเป็นผมสิไม่ใช่ไอ้สองคนนี่!!!

     

     

                “แล้วมึงจะทำยังไง”

     

     

                “มึงไม่ได้ยินเหรอว่าพวกเรามีเวลาอีกสามสิบวัน ระหว่างนี้ก็ตามหาไอ้ดีไลท์ไปสิ ถ้าไม่เจอก็เอากูไปให้ไอ้ดีไลท์มันได้เลย!!

     

     

                ผมยื่นคำขาด ใช่...เวลาอีกสามสิบวันผมต้องใช้ให้คุ้ม ไม่รู้ว่าตอนนี้ไอ้ดีไลท์จะไปอยู่ที่ไหนแต่คงไม่อยู่ที่คฤหาสน์ของมันแล้วแหละ เพราะที่นั่นคงจะง่ายต่อการที่ไอ้จัมพ์จะบุกไปถล่มรังชิงตัวไอ้แพทมา...ผมรู้สึกมันดี มันไม่ได้ โง่หรอกนะ กลับกันมันน่ะทั้งเจ้าเล่ห์และโหดเหี้ยมอำมหิตที่สุด!!!

     

     

                “พูดได้ดีนี่สำหรับเศษสวะอย่างมึง” ไอ้ซิการ์ว่าพลางใช้นัยน์ขวางโลกมองมายังผม มือทั้งสองของมันที่กอดอกนั่นช่างดูกวนประสาทเสียเหลือเกิน “ไม่แน่นะว่าอีกสามสิบวันให้หลังกูอาจจะเบื่อมึงแล้วก็ได้”

     

     

                ...นั่นไง ไอ้ซิการ์มันเห็นผมเป็นแค่ของเล่นที่ยังเล่นไม่เบื่อเท่านั้น คนอย่างมันน่ะผมไม่คาดหวังว่าจะเห็นอะไรดีๆ จากมันอยู่แล้ว

     

     

                “ดี!! งั้นไอ้ซิการ์มึงต้องช่วยกูหาน้องกูด้วย!

     

     

                “ทำไมกูต้องช่วยด้วยล่ะ น้องมึงไม่ใช่น้องกู”

     

     

                ไม่ต้องเป็นไอ้จัมพ์หรอกที่จะตรงเข้าทำร้ายคนพูดผมนี่แหละจะเป็นคนแรกที่ถลกหนังไอ้ซิการ์กับมือโทษฐานไม่เห็นความสำคัญของชีวิตไอ้แพท ผมเองก็เห็นด้วยที่ไอ้จัมพ์เสนอมา...หลายคนช่วยกันหาคงจะเจอตัวไอ้แพทได้เร็วขึ้น อย่างไอ้ซิการ์ก็คงเป็นตัวช่วยที่ดีถ้าเจ้าตัวต้องการจะช่วยน่ะนะ

     

     

                “มึงต้องช่วยไอ้ซิการ์ ไม่อย่างนั้นเมียมึงจะหายไปด้วยฝีมือกู!!

     

     

                ขู่เสร็จไอ้จัมพ์ก็เดินออกไปทิ้งให้ไอ้ซิการ์อารมณ์เสียเล่นๆ ในขณะที่ผมเองก็อดหวาดหวั่นไม่ได้ เชื่อได้เลยว่าไอ้จัมพ์คงจะทำให้ผม หายไปอย่างที่ปากว่าไว้จริงๆ!!!

     

     

                “เฮอะ!! ไอ้สัดจัมพ์”

     

     

                ผมได้ยินเสียงของซิการ์สบถในลำคอ ดูท่าว่าแม้จะถูกขู่เอาไว้แบบนั้นแต่คนอย่างมันคงจะไม่กลัวเท่าไรหรอก เฮ้อ...ใครก็ได้ช่วยบอกผมทีสิ ผมจะผ่านเรื่องร้ายๆ นี่ไปได้ยังไง!!!!

     

     

     

     

     

     

     

                [Delight’s side]

     

     

                หลังจากที่ผมกดตัดสายโทรศัพท์แล้วผมก็ยกยิ้มเย็นที่ดูยังไงก็โหดเหี้ยมเกินมนุษย์...ใช่สิ ก็ผมมันคือซาตานที่จำแลงกายมานี่ ผมสืบรู้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าไอ้ออสตินอยู่ที่ไหน หากแต่ผิดคาดไปหน่อยที่มันอยู่กับไอ้ซิการ์ซึ่งเป็นคนที่ผมไม่ควรทำอะไรบุ่มบ่ามลงไป อันที่จริงผมจะรีบไปชิงตัวไอ้ออสตินกลับเลยด้วยซ้ำ แต่เพราะทำไม่ได้เลยต้องวางแผนเสียใหม่ และเป็นแผนที่พวกมันไม่มีทางเลือกมากนักหรอกนะ

     

     

                ...คนที่ถือไพ่เหนือกว่าจะต้องเป็นผมเท่านั้น!!

     

     

                ตอนนี้ผมพาแพทเทิร์นมาอยู่ที่บ้านพักส่วนตัวที่ต่างจังหวัดน่ะ...มันเป็นสถานที่ที่ปลีกวิเวกพอสมควรและเป็นที่ที่น้อยคนนักจะรู้โดยส่วนมากคนที่รู้จะเป็นคนในครอบครัวที่ผมไว้วางใจดังเช่นน้องชายฝาแฝดที่ตอนนี้อยู่ที่ต่างประเทศ เพราะฉะนั้นพวกมันคงตามตัวผมเจอยากหน่อยล่ะ...

     

     

                โดยเฉพาะผู้ชายที่ชื่อจัมพ์...หมอนั่นดูท่าจะรักน้องชายเสียยิ่งกว่าอะไร อันที่จริงแล้วผมรู้ข้อมูลของไอ้ซิการ์กับไอ้จัมพ์ทั้งหมดน่ะแหละ กระทั่งบรรดาเพื่อนๆ ของมันผมก็รู้ เลยรู้ว่าการที่จะเอาชนะมันคงไม่ใช่เรื่องเล่นๆ มันเป็นคนในวงการมืดเช่นเดียวกันกับผม...ถ้าไม่สืบไว้ก็คงถูกแว้งกัดเอาได้

     

     

                ผมลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินออกมายังทางเดินที่เป็นพื้นไม้...บ้านหลังนี้ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาซึ่งอยู่สูงสมพอสมควรและมีต้นไม้บดบังไว้เล็กน้อยดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เวลากลางคืนอากาศจะเย็นสบาย ตอนเช้าอย่างในวันนี้เองก็มีหมอกลงสร้างบรรยากาศให้ดูหม่อนหมองลงไป แต่ก็ดีเพราะผมชอบอากาศแบบนี้ ที่จริงแล้วบ้านพักหลังนี้อยู่หลังฟาร์มโคนมซึ่งเป็นฉากหน้า...ฟาร์มที่ว่านั้นจะอยู่ท่ามกลางทิวทุ่งสีเขียวขจีและมีบรรดาคนงานที่ผมจ้างไว้ดูแลโคนมและรีดนมวัวผลิตออกขาย

     

     

                บรรดาคนในฟาร์มนั้นไม่ใช่คนของผมทั้งหมดหรอกเพราะที่นี่คือหนึ่งในธุรกิจของครอบครัวผมที่ไม่มีอำนาจมืดเข้ามาเคลือบแฝง โดยส่วนมากจะเป็นชาวบ้านเข้ามาทำงานกันเท่านั้น ดังนั้นผมจึงวางใจได้เปลาะหนึ่งว่าไอ้จัมพ์กับไอ้ซิการ์คงจะหาตัวผมโดยผ่านคนของผมไม่ได้แน่ๆ

     

     

                เท้าของผมหยุดตรงปลายเตียงที่มีร่างบอบบางนอนอยู่พร้อมกับที่ริมฝีปากแสยะยิ้มร้ายกาจอีกครั้ง หมอนี่คงจะอ่อนเพลียจัดจากทั้งเรื่องเมื่อวานและเรื่องที่ถูกพาตัวมาที่นี่อย่างกะทันหัน ดูเหมือนว่าจะมีไข้รุมๆ เสียด้วยสิ

     

     

                แต่คิดว่าไม่สบายแล้วผมจะเห็นใจรึไง!

     

     

                “อื้อ...”

     

     

                ร่างบางส่งเสียงครางเมื่อผมทิ้งตัวลงไปนอนข้างๆ ก่อนจะตวัดร่างเล็กนั่นเข้ามาในวงแขนแกร่ง สัมผัสนุ่มนิ่มและเนียนละเอียดจากผิวของแพทเทิร์นทำเอาผมแทบคลั่งแม้จะมีเสื้อผ้าเป็นปราการขวางกั้นก็ตาม...ผมว่าตัวเองชักจะมีความอดทนต่ำลงทุกวันที่อยู่กับหมอนี่เลย...

     

     

                อดใจที่จะจับมาจูบไม่ได้...

     

     

                อดใจที่จะสัมผัสไม่ได้...

     

     

                บอกแล้วไงว่าหมอนี่มันช่างยั่วแม้เจ้าตัวจะไม่รู้ตัวก็ตามที J

     

     

                สันจมูกผมระรานไปตามโครงหน้าของอีกฝ่ายซึมซับกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแพทเทิร์น ริมฝีปากสีสดนั่นขึ้นสีระเรื่อจนผมห้ามใจไม่ไหวประทับริมฝีปากลงไป เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่ริมฝีปากของเราทั้งคู่แตะกันคนตัวบางก็สะดุ้งสุดตัวตื่นเต็มตาทันที

     

     

                “อ๊ะ...ดีไลท์!

     

     

                นัยน์ตากลมโตเบิกกว้างอย่างตกใจขณะที่มือเรียวบางยกขึ้นมาแตะริมฝีปากตัวเองคล้ายกับว่าสัมผัสจากผมเมื่อครู่มันยังคงตราตรึงอยู่ในห้วงความรู้สึกยังไงยังงั้น

     

     

                “ฉันหิวแล้ว...ไปทำข้าวเช้าให้ฉันกินหน่อยสิ”

     

     

                แพทเทิร์นมีสีหน้าประหลาดใจที่เห็นผมพูดไปเช่นนั้นทั้งๆ ที่เมื่อวานผมทำตัวร้ายกาจใส่สารพัด หึ...ไม่ใช่ว่าผมดีกับมันหรอกนะ ก็แค่หลอกให้มันตายใจเท่านั้นเอง...เหยื่อที่หลอกง่ายแสนง่ายและช่างบริสุทธิ์อย่างหมอนี่ต้องถูกผมทำให้แปดเปื้อนไปทั้งร่างกายและจิตใจ...

     

     

                กว่าที่ไอ้จัมพ์จะได้ตัวน้องมันกลับคืนไป ตอนนั้นแพทเทิร์นก็คงจะแปดเปื้อนไปด้วย สีดำด้วยน้ำมือผมแล้ว J

     

     

                “อืม...”

     

     

                คนตรงหน้าผมรับคำสั้นๆ ก่อนจะลุกออกไปยังห้องครัว...ตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะที่ผมพาหมอนั่นเดินชมรอบบ้าน และที่หมอนั่นทำตามคำสั่งผมแต่โดยดีเพราะคงจะรู้ดีว่ายังไงก็ไม่มีทางขัดคำสั่งผมได้ ถ้าดื้อแพ่งหรือทำตัวไม่น่ารักในสายตาผมเมื่อไร เมื่อนั้นแหละที่ผมจะขยี้อีกฝ่ายให้แหลกคามือ

     

     

                ผมนอนเล่นอยู่บนเตียงสักพักหนึ่งและลุกขึ้นตามแพทเทิร์นไปที่ห้องครัวก่อนจะเห็นว่าคนตัวบางกำลังยุ่งๆ อยู่หน้ากระทะ เท้าผมก้าวไปประชิดหลังของหมอนั่นพร้อมกับที่แขนทั้งสองของผมก็โอบรอบรอบเอวเล็กไว้อย่างถือวิสาสะ เมื่อคางตัวเองเกยกับไหล่ของแพทเทิร์นผมก็เห็นว่าอาหารเช้าของตัวเองในวันนี้คือไข่ดาวธรรมดาๆ

     

     

                ไหล่บางไหวเล็กน้อยคล้ายกับไม่ชอบที่ผมกอดแบบนี้หากแต่คนถูกกอดก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาให้ผมได้รำคาญเล่น ผมมี สิทธิทุกอย่างในตัวของหมอนี่...ต่อให้ทำ มากกว่ากอดผมก็ย่อมทำได้

     

     

                “ไม่ชอบให้ฉันกอดหรือไง”

     

     

                แต่ถึงอย่างนั้นผมก็อดแกล้งอีกฝ่ายด้วยการถามแบบนั้นออกไปไม่ได้

     

     

                “...” เมื่อเห็นว่าแพทเทิร์นยังคงเงียบไม่ยอมตอบคำถามผมก็ยื่นหน้าเข้าไปอีกเล็กน้อยจนริมฝีปากแตะแก้มขาวเนียนอย่างแผ่วเบาทว่าหนักแน่นในด้านการเร้าอารมณ์ของอีกฝ่าย แน่นอนว่ามันส่งผลอย่างแรงจนทำให้หมอนี่รีบผละกายถอยห่างจากผมแทบจะในทันที ติดที่ว่าตรงหน้าดันเป็นกระทะร้อนๆ เลยยังไม่สามารถหลุดจากอ้อมแขนผมได้

     

     

                “ฮะๆ”

     

     

                ผมหลุดเสียงหัวเราออกมาอย่างพึงพอใจต่อปฏิกิริยาของแพทเทิร์นก่อนจะยอมปล่อยร่างเล็กในวงแขนออกให้เป็นอิสระ คราวนี้ผมแกล้งเบาะๆ พอ...แต่ต่อไปเตรียมใจรับมือกับความโรคจิตของผมไว้ได้เลย ผมแสยะยิ้มชั่วร้ายให้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเดินออกมาทิ้งให้คนข้างหลังหวั่นใจเล่นกับรอยยิ้มเมื่อครู่...

     

     

                หลังจากที่รู้สึกสนุกเล็กๆ กับการได้กลั่นแกล้งแพทเทิร์นผมก็เดินมาหยิบโทรศัพท์ที่วางไว้ขึ้นมากดโทรหา ใครบางคน...รอสัญญาณไม่นานปลายสายก็กดรับ

     

     

                [ครับนาย...]

     

     

                “งานที่ฉันสั่งไว้เรียบร้อยหรือเปล่า”

     

     

                ผมเอ่ยถามเสียงเรียบขณะที่นั่งลงบนเก้าอี้ไม้ที่อยู่ตรงชานระเบียงบนชั้นลอย...ตรงหน้าผมคือภาพท้องทุ่งขนาดกว้างใหญ่ที่มีหมอกลงเล็กน้อยกับดวงตะวันที่ลอยโผล่พ้นฟ้าขึ้นมา วันนี้ผมล่ะอารมณ์ดีเหลือเกินราวกับทุกอย่างกำลังเข้าข้างผมเสียหมด

     

     

                [เรียบร้อยครับคุณดีไลท์]

     

     

                “ดี...เพราะวันนี้ฉันจะเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ เป็นการทักทายไอ้ออสตินเสียหน่อย”

     

     

                ...ใช่ สิ่งที่ผมกำลังจะทำต่อไปนี้ก็เป็นแค่เกมนำร่องก่อนที่ สงครามจริงๆ จะปะทุขึ้นเท่านั้น เอาล่ะ ออสตินที่รัก...เตรียมตัวเตรียมใจรอพบนรกที่กูสร้างไว้ให้มึงโดยเฉพาะได้เลย!!

     

     

     

     

                WRITER TALK 2 J

                ครึ่งหลังนี่มาแนวจำเลยรักเลยแฮะ อ๊ากกกกกก!!! อยุ่ต่างจังหวัดสองต่อสอง ในฟาร์มโคนม >O< ฮา...แบบนี้แพทเทิร์นเราจะเป็นยังไงบ้างล่ะเนี้ย ฉากนี้ขอเบาๆ ก่อนละกันเนอะ แต่ เกมของดีไลท์ที่จะประเคนให้ออสตินมันคืออะไร? =[]= หึๆ ไรต์ขอรับรองเลยว่าโหด มันส์เรียกเลือดแน่ๆ =,.= (เลือดกำเดาหรือเปล่าเค้าก็มิแน่ใจน้า กร๊ากกกก) สำหรับตอนต่อไปก็ขอร้อนแรงบางเบา (?) นิดนุง อย่าลืมอ่านกันนะค้าบ ^O^

                PS เม้นต์กันหน่อยน้า ก่อนที่คนแต่งจะท้อหมดแรง TOT (ยืมคำพี่เด็มมาใช้นิดนึง ฮา)

     

     

     

                WRITER TALK J

                เป็นครึ่งแรกที่ยาวได้สุดติ่งมาก TOT เมื่อยมืออ่ะ ฮา...แต่อัพเร็วมั้ยทุกคน? ตอนนี้ฟิตจัด อัพหลายเรื่องควบ =__+ กำลังจะป่วยแล้วค้าบบบ TOT ฟิตเยอะเกิน สำหรับตอนนี้คุณจัมพ์แม่งออกตัวแรงมาก และที่ออกตัวได้ชั่วสัดๆ ก็คือไอ้เชี่ยดีไลท์ (เริ่มจะหยาบคายแบบตัวละคร) เชอะ!! ไม่น่าแต่งให้มันเป็นพระรองเลยว่ะ น่าจะแต่งให้เป็นตัวโกง TOT (แต่คงจะเป็นตัวโกงที่หล่อร้อนแรงที่สุดในแปดโลกอ่ะครับ =[]=) ออสตินกับแพทดูจะรับศึกหนัก

                PS ครึ่งหลังเป็นคู่ของดีไลท์ X แพทเทิร์นนะจุ๊ =3=

                PS2 อย่าลืมเม้นต์เป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยนะฮะ ^O^

     

      


           




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×