ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องเก็บของ

    ลำดับตอนที่ #1 : Bastard!! Screen 01 :: Burned at first moment [100 Per.]

    • อัปเดตล่าสุด 30 เม.ย. 56


    Chapter 01

    Burned at first moment

     

     

     

              [Cigar’s side]

     

     

              มือเรียวยาวของผมคว้าบุหรี่มวนหนึ่งขึ้นมาจุดสูบ...วันนี้เป็นวันที่ผมโครตหงุดหงิดชะมัด ผมพ่นควันบุหรี่ออกจากปากอย่างเซ็งๆ ก่อนที่หางตาผมจะเหลือบไปเห็นผู้ชายร่างสูงๆ หน้าตาละม้ายคล้ายกับผมราวกับเป็นฝาแฝดกำลังเดินสาวเท้าก้าวเข้ามายังโต๊ะที่ผมนั่งอยู่

     

     

                “ไอ้...อ๊ะ!

     

     

                ปากผมที่กำลังจะเอ่ยด่าถูกปิดลงด้วยริมฝีปากของไอ้ผู้ชายคนนั้น ไอ้พลาสเตอร์แม่งจะทำอะไรของมันอีกวะเนี้ย! ใช่แล้วครับหมอนี่คือเพื่อนของผมเอง แต่อยู่ๆ มาจูบปากผมแบบนี้มันน่าขยะแขยงชะมัดยาด

     

     

                ริมฝีปากนุ่มๆ ของไอ้พลาสเตอร์ประทับอยู่อย่างเนิ่นนานก่อนที่ลิ้นร้อนของมันแทรกเข้ามาอย่างง่ายดายและเกี่ยวกระหวัดไปทั่วโพรงปาก ไล่เลียไปตามซอกฟันจนผมอยากจะขย้อนอาหารที่กินมาทั้งวันนี้ออกมาให้หมด ไอ้นี่มันไปกินอะไรผิดสำแดงมาวะถึงได้ระดมจูบผมเอาอยู่ได้

     

     

                “สวัสดีว่ะไอ้เพื่อนรัก รอกูนานมั้ย”

     

     

                พลาสเตอร์ว่าอย่างอารมณ์ดีหลังจากผละริมฝีปากของมันออกไปแต่ก็ยังโน้มหน้าชิดติดกับผมอยู่... -*- ผมแอบหมั่นไส้มันอยู่ในใจ และแล้วผมก็นึกขึ้นได้ว่าผมยังไม่ได้สำเร็จโทษเรื่องที่มันปล่อยให้ผมนั่งรออยู่ที่ผับนี่อยู่นานเกือบชั่วโมงเลย!

     

     

                “ไอ้! กูรอมึงจะชั่วโมงนึงแล้ว พอมาก็กวนประสาทกูอีก” ผมใช้เท้าตัวเองยันเข้าที่ท้องของไอ้พลาสเตอร์ก่อนจะออกแรงถีบจนมันกระเด็นลงไปนอนกับพื้น เออดี! เอาคืนทั้งเรืองที่ปล่อยให้ผมรอกับเรื่องที่มันจูบผมด้วยก็แล้วกัน

     

     

                “เอาน่า แค่จูบตามประสาเพื่อน J

     

     

                หากแต่เพื่อนตัวดีนี่มันไม่เคยสะทกสะท้านซ้ำยังลุกขึ้นมาทิ้งตัวนั่งข้างๆ ผมอย่างหน้าตาเฉย ราวกับที่ผมถีบมันไปเมื่อครู่นี้ไม่ระคายมันแม้แต่นิด เวรเอ๊ย!

     

     

                “มึงอย่ามากวนประสาทกูไอ้พลาสเตอร์ กูยิ่งหงุดหงิดๆ เพราะมึงอยู่”

     

     

                ผมตัดบทก่อนจะหันมาสูบบุหรี่ต่อ...ไอ้พลาสเตอร์ก็ไม่ได้พูดอะไรต่ออีกเนื่องจากมันรู้ว่าเวลาที่ผมกำลังไม่สบอารมณ์นั้นห้ามใครมาเกาะแกหรือยียวนใส่ เพราะไม่งั้นผมจะอาละวาดไม่เลือกหน้า

     

     

                หลังจากนั้นไม่นานไอ้พลาสเตอร์ก็หันไปสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับพนักงานในผับ...ใช่ ตอนนี้ผมกับมันกำลังนั่งอยู่ในผับ จริงๆ แล้วไอ้คุณเพื่อนมันโทรศัพท์มาชวนผมแต่ก็เสือกปล่อยให้ผมรอ นึกแล้วมันน่าถีบอีกสักรอบจริงๆ เลย -_-

     

     

                “มึงจะเอาอะไรไอ้ซิการ์”

     

     

                “ถ้ากูอยากสั่งกูก็จะสั่งเอง ไม่รอให้มึงมาเสนอหน้าสั่งให้หรอก” ผมว่าเสียงห้วนทั้งๆ ที่บุหรี่ยังคาอยู่ที่ริมฝีปากตัวเอง แม้คำพูดที่ผมใช้พูดกับมันเมื่อกี้จะดูแรงไปก็เถอะ แต่เชื่อไหมว่าไอ้บ้านี่มันไม่โกรธผมหรอก เวลาไหนผมก็คุยกับมันอย่างนี้...อีกอย่างผมกับมันก็สนิทก็พอที่จะล้อชื่อพ่อชื่อแม่กันแล้วด้วยไอ้คำพูดพวกนั้นมันไม่สะเทือนโสตประสาทมันหรอก -_-

     

     

                “นี่มึงโกรธกูจริงๆ เหรอวะเนี้ย”

     

     

                มุมปากของไอ้พลาสเตอร์กระตุกยิ้มเล็กๆ อย่างทะเล้นๆ ไอ้นี่มันเป็นพวกเจ้าเล่ห์น่ะ...ผิดกับผมที่มักจะอารมณ์ร้อน และอารมณ์เสียง่าย แต่ขอให้รู้ไว้นะว่ามันน่ะก็ เลวไม่ต่างจากผมหรอก ไม่งั้นผมกับมันจะคบกับเป็นเพื่อนได้ไง จริงไหม ไก่ย่อมคบกับไก่อยู่แล้ว -_-

     

     

                ยิ่งผมกับไอ้พลาสเตอร์สนิทมาตั้งแต่สมัยไฮสกูลแล้วด้วย จนตอนนี้เราทั้งคู่อยู่ปีสองก็ยังเกาะติดหนึบไม่ห่าง เหมือนเห็บกับหมาอย่างไรอย่างนั้น ใบหน้าของไอ้พลาสเตอร์คล้ายผมมากราวกับเป็นฝาแฝด ทั้งที่จริงๆ แล้วผมกับมันไม่เคยเกี่ยวดองทางสายเลือดเลยสักนิด ไม่รู้เหมือนกันนะว่าทำไมถึงหน้าคล้ายกันได้

     

     

                “มึงลองมารอนานๆ แบบกูมั้ยล่ะไอ้เวร”

     

     

                “ขอโทษทีนะพอดีกูไมได้อารมณ์ร้อน ฉุดเฉียวง่ายแบบมึง”

     

     

                “เออแล้วไง ก็กูเป็นของกูอย่างนี้แล้วหนักหัวมึงเหรอไงวะ แล้วก็เลิกทำหน้าตากวนเส้นใส่กูสักที -*-”

     

     

                ไอ้คำว่าหน้าตากวนเส้นในประโยคผมนี่ก็หมายถึงใบหน้ายียวนกวนประสาทแบบสุดๆ ของไอ้พลาสเตอร์มันน่ะแหละ แปลตรงตัว! ผมเห็นทีไรก็อดหมันไส้ไม่ได้ทุกที

     

     

                ผมนั่งกระดิกอย่างเบื่อหน่าย มาผับนี่เห็นจะมีอะไรน่าสนใจเลยนอกจากเสียงเพลงบีตจังหวะหนักๆ ที่เวลาฟังทีสะเทือนไปทั่วร่างกับผู้คนที่ดีดดิ้นเต้นไปมาประหนึ่งผีเสื้อราตรี ภาพพวกนี้ผมน่ะเห็นแทบจะทุกวันเพราะผมเองก็เป็นพวกเที่ยวกลางคืน นอนกับผู้หญิงมาแล้วเกือบสิบโหล ที่บ้านมีถุงยางตุนไว้เพียบ ในกระเป๋าสตางค์ก็มีพกไว้เผื่อใช้ฉุกเฉิน...แต่เอ๊ะ นี่มันใช่เวลามาคุยถึงเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอวะ -*-

     

     

                “นั่นมึงจะไปไหนน่ะ”

     

     

                ไอ้พลาสเตอร์ถามขึ้นเมื่อผมลุกขึ้นยืนโดยไม่บอกกล่าว ไอ้นี่...กูจะลุกไปไหนมาไหนทำไมต้องถามด้วยวะ รู้มั้ยว่ากูรำคาญ -_-*

     

     

                “กูจะไปห้องน้ำ มึงจะตามกูมามั้ยล่ะ”

     

     

                ผมโกหก...ที่จริงแล้วผมจะไปเปลี่ยนที่สูบบุหรี่ต่างหากล่ะ อยู่แต่ที่เดิมๆ ซ้ำๆ ซากๆ มันเบื่อ ที่สำคัญผมชักเริ่มเบื่อขี้หน้าไอ้พลาสเตอร์ขึ้นมาแล้วน่ะสิ

     

     

                “ไม่ว่ะ งั้นกูอยู่รอมึงตรงนี้ก็แล้วกัน”

     

     

                ทันทีที่ไอ้พลาสเตอร์บอกว่าจะไม่ตามมาผมก็หันหลังเดินหนีมาโดยที่ไม่กล่าวอะไรต่อสักคำ ผมเดินผ่านออกมาจากโซนวีไอพีที่ผมเคยนั่งอยู่เมื่อครู่ก่อนจะสาวเท้าเดินไปหมายจะไปที่ด้านหลับผับ ที่ตรงนั้นมันเงียบดี

     

     

                ปึก!!

     

     

                แต่แล้วผมกลับต้องย่นคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อชนกับผู้ชายร่างติดจะบางนิดๆ ขณะเดินเลี้ยวผ่านมุมหน้าห้องน้ำ ให้ตายสิวะ! ทำไมต้องมาชนไอ้เวรนี่ด้วยวะ

     

     

                “อ๊ะ! ขอโทษ”

     

     

                ไอ้เด็กที่ผมชนเอ่ยแทบจะในทันทีที่ตั้งหลักได้ จริงๆ แล้วผมเองก็ควรจะขอโทษด้วยเหมือนกัน แต่ผมไม่...เรื่องอะไรจะต้องไปขอโทษคนอื่นด้วยล่ะ บอกไว้เลยนะตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยขอโทษใครไม่ว่าผมจะผิดหรือไม่ ดังนั้นเรื่องอุบัติชนกันโดยที่ไม่ตั้งใจนี่ก็ไม่จำเป็นด้วยใช่มั้ย J

     

     

                “ช่างมันเถอะ! -*-” ผมบอกปัดพลางพิจารณาคนตรงหน้า ไอ้เด็กนี่ดูท่าจะอายุน้อยกว่าผมนะ สังเกตเอาจากรูปร่างน่ะนะ แถมหน้าตาของหมอนี่ก็น่ารักดีแฮะเกือบเหมือนผู้หญิงด้วยซ้ำ แต่ช่างมันเถอะตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์มาดูว่าหน้าตาดีไม่ดี

     

     

                ผมเดินผ่านไอ้เด็กนี่ในเวลาต่อมาหากแต่มือเรียวของร่างบางนั่นก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือผมไว้ ผมมองอีกฝ่ายอย่างแปลกใจ...มันจะมาจับแขนผมทำซากอะไรวะเนี้ย!

     

     

                “ปล่อย!” ผมว่าสั้นๆ น้ำเสียงบ่งบอกว่ากำลังรำคาญถึงขีดสุด อีกไม่นานผมว่าเด็กนี่ได้แหลกคามือผมแน่ ทว่าคนตรงหน้าผมกลับไม่ปล่อยดังที่คิดซ้ำยังเอ่ยปากออกมาให้ผมประหลาดใจเล่นๆ ว่า

     

     

                “นาย อยากมี...กับฉันมั้ย”

     


     

    ---------------------------------------------------------------------------
    ตัดฉับ ไม่มีNC แต่ไม่ขอออกอากาศ
    ---------------------------------------------------------------------------




     

               ::~::~::~::~::~::~::~::**::~::~::~::~::~::~::~::

                 

     

    สิ่งแรกที่ผมรู้สึกเลยก็คือพื้นแข็งๆ กับอากาศเย็นเยียบจากแอร์คอนดิชั่น เปลือกผมค่อยๆ ปรือขึ้นช้าๆ เมื่อกระพริบตาจนมองเห็นสิ่งรอบข้างได้เด่นชัดผมก็มองไปรอบๆ ตัว

     

     

    ทำไมผมถึงมานอนบนพื้นแข็งๆ นี่ได้วะ -*-

     

     

    เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ผมก็นึกถึงเรื่องเมื่อคืนขึ้นมาได้ทันที ไอ้เด็กเวรนั่น!! ตอนนี้มันหายไปไหนแล้ววะ! ผมปะติดปะต่อได้แล้วล่ะว่าทำไมผมถึงสลบไปหลังจากที่เกือบจะได้ 'แอ้ม' หมอนั่นอยู่แล้วเชียว!!

     

     

    ก็ไอ้เด็กนั่นมันายานอนหลับไว้ที่หัวนมมัน!!!!

     

     

    บ้าเอ๊ย!!!

     

     

    มุกเก่าๆ อย่างเอายานอนหลับทาหัวนมนี่ทำไมถึงใช้กับผมได้วะ ผมบ่นอุบอิบอย่างหัวเสียและสบถด่าไปด้วย กูไม่น่าโง่เลยว่ะ ผมลุกขึ้นยืนหมายจะออกไปนอกห้อง แต่มันยังมึนเล็กน้อยเนื่องจากฤทธิ์ของยานอนหลับ...ทันทีที่ผมลุกขึ้นยืนอะไรบางอย่างก็ตกลงไปบนพื้น

     

     

    กระเป๋าสตางค์? -*-

     

     

    ผมคว้ากระเป๋าสตางค์นั่นขึ้นมาดู...นี่มันของผมนี่หว่า ผมลองเปิดออกดูข้างในก่อนจะพบว่าของทุกอย่างในนี้หายไปหมดเกลี้ยงไม่มีเหลือ ไม่ว่าจะบัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงิน กับเงินสดที่ผมพกไว้เผื่อฉุกเฉินจะเหลือก็แต่ไอ้นามบัตรสามสี่ใบ สมองผมเริ่มทำงานประมวลเรื่องราว...นี่ผมถูกไอ้เด็กนั่นหลอกเอาเงินไปอย่างนั้นเหรอ!!!!

     

     

    ถ้ากูเจอมึงอีกที กูเอามึงตายแน่ไอ้เด็กเวร!!! 

     

     



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×