ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : เข้าค่ายและคำตอบของเซริ
จากตอนที่แล้ว เซริที่ได้รับคำแนะนำให้ไปคบกับเรียวจะยอมทำตามคำแนะนำนั้นหรือไม่ และเรียวจะตอบเธอว่าอย่างไร การเข้าค่ายครั้งนี้จะ
มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า ติดตามกันได้ ณ บัดนู้นนนนนนน (ตอนนี้ทุกคนกลับมาจากการทัศนศึกษาแล้วนะคะ)
    “เซริ”
    “อ้าว ไนจิโกะ”ฉันทักเจ้าของเสียง หัวหน้าห้องม.2/2นี่เอง “มีไรจ๊ะ”
    “เอานี่ไป หัวข้อการประชุมเย็นนี้-_-”เธอยื่นกระดาษให้ฉันปึกนึง
    “หา เยอะขนาดนี้เลยอ่ะO_O”ฉันรับมาอย่างงงๆ “เรื่องไรมั่งนิ”
    “เรื่องเข้าค่ายย่ะ-o-”เธอบอก “ลืมรึไง ม.2ต้องไปกันเอง”
    “เฮ้ย ไปเข้าค่ายกันเองจริงอ่ะ พวกอาจารย์ไม่ได้ไปด้วยเหรอO_O”
    “ไม่ได้ไป เค้ารู้กันทั่วแหละ โธ่ยัยประธานนักเรียนติงต๊อง ไม่เหมือนเรียว...*o*”เธอทำตาหวานซึ้งที่แสนจะน่าหมั่นไส้ “...บอกปุ๊บก็พยักหน้า เท่ห์ระเบิดเลย แล้วเปล่งเสียงอันอ่อนโยนและไพเราะว่า ขอบคุณ กรี๊ซๆเท่ห์ หล่อ สมาร์ท แฮนด์ซั่มสุดๆ*O*”
    “พอละๆ I am understand now-_-;”ฉันเวียนหัวกับเสียงแจ๋นๆของเธอสุดๆ ฉันไม่น่าเดินมาที่หลังรร.นี่เลย อุตส่าห์ปลีกตัวออกจากกลุ่ม ว่าจะมาอยู่คนเดียวเงียบๆแล้วคิดเรื่องเรียวซะหน่อย
    “เข้าใจก็ดีย่ะ ฉันไปละ-_-”ไนจิโกะพูดและเดินสะบัดก้นจากไป
    “เฮ้อ”ฉันถอนหายใจและเขย่งตัวขึ้นไปนั่งบนราวเหล็กที่กั้นระหว่างในและนอกรร. “ฉันจะทำไงดีเนี่ย-_-;”
    “เป็นไรน่ะ”@_@เสียงของเรียวดังขึ้น
    “มีอะไรก็รีบๆพูดมา-o-”ฉันตอบโดยไม่มองหน้าเจ้าของเสียง
    “ก็พูดไปแล้วไง ฉันพูดว่าเธอเป็นอะไร^U^”ฉันหันไปขว้างค้อนวงโตใส่เจ้าของเสียง กวนประสาทอย่างนี้มีหนึ่งเดียวเท่านั้น
    “ฉันจะเป็นอะไรก็ช่างฉันน่า-O-”ฉันพูดกับประธานนักเรียนชายที่ขี้เก๊กสุดๆ
    “อารมณ์ไม่ดีเหรอ^O^”เรียวถามและหยิบช็อกแลตออกมาจากกระเป๋า “งั้นกินนี่หน่อยไม๊ จะได้ดีขึ้น^o^”เขายื่นให้ฉันอันนึง มันก็น่ากินนะ แต่...
    “ไม่เอา-^-”ฉันยังทำหน้าบึ้งต่อไป “ถ้าหมดธุระแล้วก็ไปได้แล้ว-o-”
    “ฉันยังไม่...”
    “ไปเถอะน่า ไปไกลๆฉันซะที>_<”ฉันโดดลงมาจากราวเหล็กและผลักเรียวจนเขาล้มลงไป เราสบตากัน 3 วินาทีและฉันก็เป็นฝ่ายเดินจากไปเอง แต่ก็เดินไปได้แค่ 2-3 ก้าวเรียวก็พูดขึ้นว่า
    “โซระเล่าเรื่องนั้นให้ฉันฟังหมดแล้ว”
    ฉันหันหน้าที่ร้อนและแดงเหมือนกระทะทอดหมูเกาหลีราดซอสมะเขือเทศมาทางเขา เขาเองก็เก๊กหน้าตามปกติและยังมีรอยยิ้มบางๆอยู่บนใบหน้าด้วย
    “โซระ...บอกแล้วเหรอ...ว่าฉันรู้สึกยังไง...เวลา...อยู่กับนาย”
    “แต่เขาไม่ได้บอกว่าเธอรักฉัน^_^”เขายิ้ม
    “ฉันก็ไม่เคยพูดอย่างนั้น”ฉันตอบเสียงสั่น “แล้วฉันก็คงจะไม่พูดด้วย”
    “คงจะไม่ เหรอ งั้นฉันก็จะยังไม่ตัดใจนะ”
    “แล้วแต่นายสิ”
    “แล้วทำยังไงเธอถึงจะยอมพูดล่ะ ว่าเธอรักฉัน”
    “เธอรักฉัน อ่ะพูดแล้ว”
    “กวนจริงๆเลย”
    “เอาคืนไง”ฉันพูดเรียบๆ “ฉันต้องรู้ก่อน ว่านายรู้สึกยังไงกับฉัน”
    “คล้ายๆกับที่เธอรู้สึกเวลาอยู่กับฉันนั่นแหละ”เรียวพูดและเดินจากไป
    ดูด...อม...กัด...
    “โห เธอทำอะไรเนี่ยเซริ^0^”โซระทัก
    “ท่าทางจะเมามันมากเลยนะ-_-+”เรมิต่อ
    “กินไอติมงายค้า แหมคุณผู้อ่านเค้าคิดลึกกานหมดแล้ว-_-;”
    ฉันเพิ่งกลับมาจากหลังรร. แล้วไปซื้อไอติมมากินแก้เครียด ที่ไม่กินช็อกแลตตามปกติก็เพราะเมื่อกี้อีตาบ้านั่นมันชวนกินน่ะสิ-_-+ (หยิ่งเฟร้ย คนมานหยิ่ง)
    “ทำไมวันนี้ไม่กินรสช็อกแลตล่ะ0_o”เรมิถามงงๆ
    “ฮึ มีสาเหตุก็แล้วกันน่า-_-”ฉันตอบอย่างหงุดหงิดและหันมาหาโซระ “เธอติดหนี้ฉันนะโซระ-O-+”
    “ติดหนี้=_=”โซระทวนคำ แล้วเธอก็พูดต่อว่า “เรื่องเรียวน่ะเหรอ-_-+”
    “เออ เธอจะไปบอกมันเรื่องนั้นทำไม>O<”ฉันตวาดเพื่อนรักอย่างโมโห โซระผงะไปเล็กน้อย
    “ก็...ก็เธอไม่ได้บอกว่าห้ามบอกเขาซะหน่อย^_-”เธอตอบพลางเลิกคิ้ว “แล้วเขาว่าไงอ่ะO_o”
    “เขาก็ไม่ได้ว่าไง-_-”ฉันตอบเลี่ยงๆแล้วรีบเปลี่ยนเรื่อง “ไทจิกับมาร์คไม่ได้มาด้วยเหรอ-__-”
    “เปล่า เขาบอกว่าไม่ว่าง-0-”เรมิตอบ หน้าสลดลงเล็กน้อย “เดินหายไปพร้อมเรียวเมื่อกี้นี้ สงสัยจะไปหาเธอน่ะ^0^”
    “เหรอ งั้นก็ช่างมันเถอะ อุ๊ย-0-”ฉันสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อโทรศัพท์ที่ซ่อนไว้ในกระเป๋าอย่างดีสั่น ฉันรีบหยิบมันขึ้นมาดู “ได้รับ 1 ข้อความ เย็นนี้เจอกันหลังจากประชุมนะ เรียว”ฉันอ่านและหันไปทางโซระอย่างเคียดแค้น “เธอทำเรื่องอีกแล้วนะ#O#”
    “ทำอะไร?_?”เธอถามงงๆ
    “เธอให้เบอร์มือถือของฉันกับเขานี่ ไม่งั้นเขาจะรู้ได้ไง>o<”
    “ใจเย็นๆน่าเซริ ฉันเป็นคนบอกเขาเองแหละ^_^”เรมิบอก
    “ยุ่งไม่เข้าเรื่องน่า*_*”ฉันพูดอย่างหงุดหงิด “เรื่องของฉัน ฉันจัดการเองได้*_*”
    “เอ๋ ตกลงเรียวเนี่ยเป็นเรื่องของเธอแล้วเหรอ^0^”โซระล้อ
    “เอ่อ...”ฉันหน้าแดง “ฉัน...ฉันไปก่อนนะ ได้เวลาไปประชุมแล้ว บาย-_-;;”
    “แหม ไปเจอเรียวก็ต้องรีบไปใช่ไม๊ล่า^0^”เรมิส่งเสียงล้อไล่หลังมา
ณ ห้องพักครู
    “ที่ต้องวางแผนก็คือ วัน เวลา สถานที่ ค่าใช้จ่าย-_-+”เรียวเริ่ม “เรื่องวันกับเวลานั้นฉันจะ...เซริ เธอฟังอยู่รึเปล่าเนี่ย-_-;;”
    “ฮะ อ๋อฟังอยู่ เรื่องสถานที่เอาเป็นที่ภูเขาฟูจิ ดีมะ>O<”ฉันพูดรัวเร็วขณะที่คนอื่นมองฉันงงๆ “ส่วนวันก็ 5 วัน 4 คืน เวลาเจ็ดโมงเช้าวันที่ 14 เดือนนี้ ค่าใช้จ่ายก็...”
    “พอแล้ว ยัยบ๊องนี่ สรุปเอาเองหมดเลย จะไปได้ไงตั้ง 5 วัน แล้วไปวันที่ 14 มันอาทิตย์นี้นะ เราจะจัดการทันได้ไง-_-;;”
    “จัดการได้น่า เรื่องค่าใช้จ่ายกับที่พักฉันก็รู้แล้วว่าจะทำไง-_-+”
    “หา รู้แล้วเหรอo_O”เรียวร้อง
    “เออ-_-”ฉันพูดอย่างรำคาญ
    “แต่ผมว่าอย่าไปที่ภูเขาฟูจิเลยครับ@_@”โอชิบอก (หัวหน้าห้อง 1) “ก็ช่วงนี้เขาว่ามีพายุเข้านี่ครับ เดี๋ยวก็เกิดเหตุนักเรียนหายสาบสูญระหว่างเข้าค่ายหรอก@_@”ทุกคนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ฉันจึงพูดต่อ
    “แล้วอยากไปไหนล่ะ^_^”
    “ไม่ไปภูเขา ก็ต้องไปทะเลสิ^O^”ไนจิโกะยิ้มและหันไปกอดแขนเรียวที่นั่งอยู่ข้างๆ ฉันรู้สึกว่าหน้าร้อนวูบและเกิดไฟริษยารอบดวงตาทันที
    “ถ้างั้น ไป...อุ้ย”ฉันสะดุ้ง ไอ้มือถือบ้านี่เอง ฉันกดรับและกรอกเสียงลงไป“ฮาโหล เซริค่ะ”
   
                ((เซริเหรอ ประชุมเสร็จยังจ้ะ))^O^
                ((อ๋อ โซระเองเหรอ มาที่ห้องพักครูนี่หน่อยได้ไหม))-O-
                ((ทำไมเหรอ))o_O
                ((มีเรื่องจะปรึกษาน่ะ พ่อเธอมีรีสอร์ทที่ทะเลบ้างไม๊))-_-
                ((มีดิ กำลังหาที่เข้าค่ายดีๆอยู่ใช่ไม๊ล่ะ งั้นเดี๋ยวฉันไปนะ))^O^
                ((อือ แต๊งกิ้วนะรีบมาล่ะ))^_^
                ฉันกดวางสายและหันมาทางหัวหน้าห้องทั้งสาม
“เอาล่ะ ไนจิโกะ, โอชิ แล้วก็มิโยะ พวกเธอจดตามที่ฉันพูดนะ ส่วนเรียว นายคงไม่ต้องเป็นห่วงแล้วล่ะ พวกเราต้องจัดการได้แน่ อ้าวมากันแล้ว^_^”ฉันหันไปหาโซระกับเรมิที่เดินมาพอดี “ว่าไงo_O”
“ฉันถามพ่อดูแล้ว พ่อบอกว่ามีที่อิสึกำลังว่างพอดี-_-+”โซระเริ่มเรื่อง
“ทะเลอิสึน่ะเหรอ นายว่าไง0_o”ฉันหันไปถามเพื่อนร่วมตำแหน่งประธานนักเรียน
“เอาไงเอากัน พวกเธอกลายเป็นคนจัดการทุกอย่างไปแล้ว-_-”เขาตอบเรียบๆ
“ดี”ฉันพูดสั้นๆแล้วหันไปหาโซระ “แล้วที่พักพอดีกับจำนวนนักเรียนไม๊=_=”
“พ่อฉันบอกให้แจ้งจำนวนนักเรียนทั้งหมดให้ทราบ แล้วจะจัดการให้”
“เดี๋ยวๆ แล้วค่าใช้จ่ายล่ะ”เรียวขัดขึ้น
“ฟรี”โซระพูด “ตกลงระดับชั้นเรามี 4 ห้อง ห้องละ 45 คน รวมเป็น 180 คน ไปทุกคนรึเปล่า”
“ฉันแน่ใจว่าไม่มีใครอยากพลาดงานนี้แน่โซระ ถ้ามีคนจัดการเรื่องที่บ้าระห่ำอย่างพวกเรา 6 คน”เรมิยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“หมายความว่าไงยะ 6 คนงั้นเหรอ”ไนจิโกะที่เงียบอยู่นานท้วงขึ้น “ไม่ต้องรวมพวกฉันเข้าไปเลยนะ”
“ไม่รวมแน่นอน”ฉัน, เรมิ, โซระ, เรียว ยิ้มกว้าง “ยังไงก็ตามฉันว่าเราจบการประชุมแค่นี้แหละ ฉันกลับก่อนนะ”ฉันพูดแล้วเดินนำเพื่อนรักออกจากห้องพักครูและยกกระเป๋านักเรียนขึ้นสะพายหลัง
“เธอจะไปกับเรียวใช่ไม๊ เรมิกับฉันนัดพวกไทจิอยู่น่ะ”โซระบอก
“อืม พวกเธอไปเถอะ”ฉันตอบและเดินนำเรียวไปที่หน้ารร.
“เดินเร็วจัง”เรียวหอบแฮ่กขณะที่เดินตามมา
“ฉันก็เดินงี้ทุกวัน”ฉันตอบและหยุดเดิน “นายจะพาฉันไปไหนล่ะ ส่ง message มานัดฉันไว้ไม่ใช่เหรอ”
“อ้าว ก็เธอเล่นเดินไม่รอฉันเลย แล้วฉันจะบอกเธอได้ไง”เรียวพูด “ฉันจะพาเธอไปห้างน่ะสิ”
“ไปห้าง ไปทำไม”
“ก็วันที่ 15 เป็นวันเกิดเธอไม่ใช่เหรอ แล้วตอนนั้นพวกเราก็คงจะยังอยู่ที่ค่าย”
“แต่ เดี๋ยว แล้ว...นายรู้วันเกิดฉันได้ไง”
“เอาเป็นว่ารู้”เขายิ้มแล้วเรียกแท็กซี่ “ไปห้างซึซึมิครับ เธอขึ้นไปก่อนสิ”เขาเปิดประตูให้ฉัน ฉันค่อยๆก้าวเข้าไปนั่งในรถ
“เธอว่างไม๊เนี่ย วันนี้กลับดึกได้รึเปล่า”เขาถามขณะที่ตามเข้ามาในรถ
“ฉันอยู่กับพี่สาว เซรันน่ะ แล้ววันนี้เขาก็ไม่อยู่ ไปนอนบ้านเพื่อน”
“งั้นก็ดี”
ที่ห้างซึซึมิ...
“เธออยากได้อะไรล่ะ”เรียวถามทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้าง
“อืม ไม่รู้สิ แต่ทำไมนายต้องซื้อให้ฉันล่ะ”ฉันพูดบ้าง
“ก็เพื่อนกันนี่ ซื้อของขวัญวันเกิดให้ก็ไม่เห็นแปลกเลย”เขาบอก ฉันรู้สึกว่าคำว่าเพื่อนมันจะแทงใจดำฉันเหลือเกิน
“งั้นนายก็รีบๆหาซื้อของขวัญให้เพื่อนคนนี้ก็แล้วกัน”ฉันว่าและลากเขาไปยังบันไดเลื่อน “ฉันอยากได้ตุ๊กตาน่ะ”
“ตุ๊กตา งั้นเธอก็ยังคงมีความเป็นผู้หญิงอยู่บ้างงั้นสิ ฉันนึกว่ากลายเป็นทอมไปแล้ว”เขาพูดขำๆ
“ฉันไม่เป็นหรอกน่า ฉันยังต้องการเป็นยากูซ่าหญิงในรร.อยู่”ฉันตอบ เขาส่ายหน้าและหัวเราะกับความคิดของฉันแล้วถามต่อ
“ทำไมเธอรู้ทางในห้างนี้ดีจังเลย”
“ก็นี่เป็นห้างของซึซึมิกรุ๊ป เอ่อ...ห้างของพ่อโซระน่ะ ฉันก็เลยมาบ่อย”ฉันตอบ “นี่ไง แผนกนี้แหละ แผนกของเล่น”ฉันชี้ไปที่ชั้นที่มีตุ๊กตาหลายแบบวางเรียงรายอยู่ เรียวยิ้มน้อยๆก่อนจะเดินตรงไปที่ตุ๊กตาสุนัขขนปุยสีขาวแซมน้ำตาล
“เอาตัวนี้ไม๊”เขาหันมาถามและยื่นมาให้ฉันดู ฉันคิดว่ามันน่ารักมากๆเลยแหละ
“อื้อ เอานี่แหละ”ฉันกอดมันไว้อย่างรักใคร่ เขาหยิบตุ๊กตาแบบเดียวกันมาถือไว้ด้วย
“ซื้อไปทำไมตั้งสองตัว”ฉันถามเขางงๆ
“ฉันไม่ได้ซื้อ เธอต้องซื้อให้ฉันต่างหากล่ะตัวเนี้ย”เขาลากฉันไปยังแคชเชียร์
“เดี๋ยวๆๆ ฉันไม่ได้บอกเลยนะว่าจะซื้อให้”ฉันรีบแย้ง ก็แหม กลัวเสียเงินฟรีนี่นา
“ฉันซื้อให้เธอแล้ว เธอก็ต้องตอบแทนฉันบ้างสิ”เรียวยิ้มอย่างมีชัยเมื่อฉันพยักหน้าอย่างเซ็งๆ ตุ๊กตาตัวนี้ราคา หนึ่งพันสองร้อยเยนแน่ะ แพงเป็นบ้าเรยอ่ะ
เรียวเดินไปส่งฉันที่บ้านตอนหนึ่งทุ่มพอดี ก่อนเขาจะไปเขาบอกว่า
“ฉันตั้งชื่อให้ตุ๊กตาของฉันแล้วนะ ชื่อเซริโกะจัง”
“ชื่อน่าเกลียดเป็นบ้า เห็นฉันเป็นหมาเหรอ งั้นฉันให้หมาของฉันตัวนี้ชื่อเรียวดีไม๊”
“อ้าว ฉันไม่ใช่หมานะ”
“ฉันก็ไม่ใช่เหมือนกัน รู้แล้ว ให้ชื่อปุกปุยดีกว่า”
“ปุกปุยเหรอ ชื่อหน่อมแน้มจัง”
“เอาน่า ดีกว่าชื่อเรียวหรือเซริ ใช่ไม๊ล่ะ”
“เอาก็ได้ เออ คืนนี้รีบนอนนะ เดี๋ยวเป็นหวัด”
“เป็นก็ดีสิ พรุ่งนี้ฉันจะได้ไม่ต้องไปเจอนาย เบื่อจะแย่อยู่แล้ว”
“อ้าว”
“ฉันล้อเล่นน่า ไปก่อนนะ”........
ที่บ้านของโซระ
ตรื้ดดดด ตรื้ดดดดด
“อะไรกันเนี่ย”ฉันที่กำลังอ่านนิยายเล่มโปรดอยู่บ่นเบาๆอย่างอารมณ์เสียแล้วเดินไปดูโทรศัพท์เจ้ากรรมที่สั่นกึกๆอยู่บนเตียงนุ่มๆ ฉันวางมันบนนั้นตั้งแต่กลับมาจากรร.แล้ว
((ฮาโหล))ฉันค่อยๆกรอกเสียงลงไป
(ฮัลโหล โซระเหรอจ้ะ))อ๋อ ยัยเซรินี่เอง สงสัยจะมีเรื่องดีๆมาเล่าให้ฟังอีกแน่ๆเสียงแบบนี้
((มีไรอ่ะ))
((คือ...วันนี้เรียวพาฉันไปซื้อของด้วยแหละ))ยัยเพื่อนคนนี้นี่ พอทะเลาะกันก็โทรมา เรื่องแค่นี้ก็โทรมา มันเห็นฉันว่างทั้งวันทั้งคืนรึไง
((เออ เขาซื้ออะไรให้ล่ะ))
((ตุ๊กตาน่ะ เธอลืมไปรึไงว่าวันที่ 15 เป็นวันเกิดฉัน)) อ้าวเหรอ ลืมง่ะ
((อ้อ จำได้จ้ะ จำได้ ไว้พรุ่งนี้จะซื้อของขวัญไปให้นะ))
((ไม่ต้องลำบากหรอก))เออ ถ้าฉันไม่ไป ฉันต้องลำบากเพราะถูกเธอฆ่าแน่
((ไม่เป็นไร แค่นี้ก่อนนะ บาย))
((อืม บายจ้ะ))
ฉันวางโทรศัพท์แล้วกลับไปนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือไม้สักอย่างดี ตั้งใจจะอ่านนิยายต่อ แต่ว่า...
ตื้ดๆ
“มีข้อความเข้างั้นเหรอ”ฉันพึมพำหลังจากถอนหายใจแล้วเดินไปดูโทรศัพท์อีกรอบ
(คิดถึงจังเลย ทำอะไรอยู่จ้ะ)อ๋อ ไทจิแฟนที่น่ารักของฉันนี่เอง
(อ่านหนังสือ แล้วนายล่ะทำอะไร)ฉันพิมพ์กลับไปบ้าง
(กำลังทำใจไม่ให้รักเธอมากกว่าเดิมน่ะสิ)อ้วก มันเลี่ยนนะเนี่ย
(รักมากกว่าเดิมก็ดีสิ)ฉันพิมพ์กลับไปบ้าง
(รักต่อไปไม่ไหวแล้ว แค่นี้ก็เหนื่อยจะแย่)
(เหนื่อยเหรอ)
(ก็ต้องคิดถึงเธออยู่ตลอดเวลานี่นา)อ๊าย น่ารักจริงๆเลย
(งั้นจงทำต่อไปนะ ฉันจะไปอ่านหนังสือต่อแล้ว)
(จ้า รักและคิดถึงมากๆนะจ้ะ)โอย กรูจาไปอ้วกแล้ว
(ย่ะ กู๊ดไนท์)ฉันพิมพ์ต่อและตัดสินใจปิดมือถือซะ จะได้ไปอ่านนิยายต่อซะที
ที่บ้านของเรมิ
ฉันกำลังเล่นเกมออนไลน์กับเอ็มอยู่พอดีเลย แล้วก็มีใครบางคนออนเข้ามา
(เรมิจังเล่นด้วยเหรอเนี่ย) ใครหว่าชื่อ เพลย์บอยรักเดียวใจเดียว สงสัยจะเป็น...
(มาร์คเหรอ)
(ใช่จ้ะ มายดาร์ลิ้งทำไมยังไม่นอนเอ่ย ดึกแล้วนะ)
(แค่สองทุ่มเองนะ)
(เออ จริงด้วย จะออนถึงกี่โมงล่ะจ้ะเนี่ย)
(เด๋วก็ไปแล้วค่ะ นี่เข้ามาเล่นเกมแปปเดียว)
(งั้นรีบไปนอนเถอะ ก่อนนอนขอหอมแก้มทีได้ไม๊)เหอๆ ขออะไรมาเนี่ยแฟนฉัน
(ถ้าทำได้ก็ลองทำดูสิ)
(จุ๊บ เอาเป็นว่าเราทำแล้วนะ กู๊ดไนท์จ้ะดาร์ลิ้ง)น่าร้ากกก ดีใจจังเลยที่มีแฟนแบบนี้
(จ้ะ บายนะ)
ฉันเอื้อมมือไปปิดคอมแล้วเดินไปล้มตัวลงบนเตียง
“รักนะ มาร์ค”ฉันพึมพำเบาๆก่อนจะหลับไป
วันเข้าค่าย...
“ยัยบ้า นี่มันกี่โมงแล้วฮะ ฉันนัดเธอมาหกโมงนะไม่ใช่ก่อนรถออกห้านาที ฉอดๆๆๆๆๆๆๆ”
โอย ก็คนมันง่วงนี่นา ถูกพี่ด่าตอนเช้าแล้วยังถูกอีตาบ้านี่ด่าต่อที่รร.อีก ซวยจริงๆเลย
“พอได้แล้วล่ะน่า กระเป๋านี่มันหนักนะ ขอเอาขึ้นไปเก็บก่อนจะได้ไม๊ห๊า”ฉันตะโกนออกมาอย่างหมดความอดทนแล้วลากกระเป๋าเดินทางไปยัดไว้ที่ท้ายรถบัสก่อนจะปีนขึ้นไปบนรถ เรียวเดินตามมาและจับแขนฉันไว้
“งอนเหรอ”เขาถามเบาๆ
“เออ งอนแล้ว โกรธแล้วด้วยย่ะ”ฉันสะบัดมือออกแล้วเดินไปยืนด้านหน้ารถ “อะแฮ่ม ขอโทษจริงๆนะที่ให้รอนาน”ฉันพูดใส่ไมโครโฟนที่วางอยู่ ทำให้นักเรียนคนอื่นหันมามองทันที “โรงแรมที่เราจะไปชื่อว่า ซึซึมิโฮเท็ลนะ เป็นโรงแรมที่พ่อของโซระจองไว้ให้ ฉันคิดว่าเมื่อพวกอาจารย์ไม่อยู่ พวกเราก็น่าจะมีความสุขมากกว่าเดิม ทีนี้ฉันขอให้ทุกคนยกเลิกการนั่งตามเลขที่แล้วจับคู่กันเองดีกว่า”ฉันหยุดพูดและมองเพื่อนๆที่กำลังจับคู่กันนั่งใหม่อย่างวุ่นวาย ส่วนเรียวก็พยายามเป็นประธานนักเรียนที่ดี ร้องห้ามฉันไม่ให้ทำอย่างนี้ แต่ฉันส่ายหน้าและพูดต่อเมื่อทุกคนนั่งที่เรียบร้อยแล้ว “ฉันขอให้ทุกคนจับคู่กันดีๆนะ เพราะมันจะส่งผลถึงการนอนในค่ายด้วย คู่ที่นั่งกับเธออยู่นี่จะเป็นคู่ที่นอนห้องเดียวกับเธอที่โรงแรม”มีการเปลี่ยนคู่และความวุ่นวายที่เกิดขึ้นอีกระลอกหนึ่ง “เอาล่ะ เราเสียเวลามาพอแล้ว ออกรถเลยค่ะคุณลุง”ฉันร้องบอกคนขับรถที่พ่อของโซระจ้างมาให้ขับรถให้ ฉันหยิบเป้เล็กของฉันอีกใบและไปนั่งรวมกับพวกโซระแต่...
“เฮ้ย ทำไมนั่งกันแบบนี้ล่ะ”ฉันร้องเมื่อเห็นตำแหน่งที่เพื่อนรักนั่งอยู่ โซระนั่งอ่านหนังสืออยู่ในอ้อมกอดของไทจิที่กำลังฟัง mp3 อยู่ เรมินอนหลับพิงไหล่ของมาร์ค ส่วนอีตาบ้านั่นก็นั่งมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเบื่อๆและในที่สุดเขาก็หันมาหาฉัน
“เอ้า นั่งสิ”เขาพูดและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“ท...ทำไม...ฉันต้องนั่งกับนายด้วย”
“เพราะเธอเป็นประธานนักเรียนฝ่ายหญิงที่ต้องนั่งคู่กับประธานนักเรียนชายน่ะสิ”เขาว่าและเอื้อมมือมารวบเอว (พุงมากกว่ามั้ง) ของฉันไว้แล้วดึงมานั่งที่เบาะข้างตัว
“นายทำอะไรเนี่ย อีตาบ้าเอ๊ย”ฉันพยามงัดมือของเขาออกจากเอว (พุง)
“นั่งนิ่งๆน่า”เขาบอกและกระซิบถามฉันว่า “เอาปุกปุยมารึเปล่า”
“เอามา”ฉันตอบสั้นๆและกอดอกอย่างหงุดหงิด
“โกรธฉันรึเปล่า”
“เออ แล้วแต่จะคิด”ฉันเปิดกระเป๋าแล้วหยิบช็อกแลตขึ้นมา
“กินนี่ไม๊”เขาถามและชูท๊อฟฟี่ให้ฉันดู ฉันหยิบมาเม็ดนึงแต่เรียวคว้ากลับไปและแกะออกมาป้อนเขาปากฉัน
“นาย...”
“เอาน่า ก็ฉันอยากป้อนเธอนี่นา ป้อนฉันบ้างสิ นะๆ”
“ไม่เอา ฉันโกรธนายอยู่นะ”ฉันทำหน้าบึ้งและหันหน้าไปทางอื่นเพื่อคายท๊อฟฟี่ออก
“อ้าว ไม่กินเหรอ”
“ฉันไมมีทางกินอะไรที่นายป้อนเด็ดขาดเลย”ฉันว่าและหลับตาลงเพื่อจะนอนเอาแรง
ฉันรู้สึกเหมือนมีมือมาโอบไหล่ฉันและดึงให้ไปพิง หัวของฉันตอนนี้ซบอยู่กับไหล่อุ่นๆของเรียว มีกลิ่นหอมอ่อนๆโชยออกมาจากตัวเขา ตอนแรกก็ว่าจะขัดขืนแหละนะ แต่ที่ไหล่ของเขามันก็อุ่นสบายดี ฉันก็เลยหลับต่อไป
“เซริ เซริ ตื่นได้แล้ว”เสียง...เสียงเรียวนี่นา...ถึงแล้วเหรอ...
ฉันลืมตาและบิดตัวไปมา เรียวที่นั่งอยู่ข้างๆกำลังมองด้วยความขบขัน
“หัวเราะอะไร”ฉันถาม คิ้วขมวดเป็นโบ “เรายังไม่ถึงค่ายเลยนะ”
“ฉันให้เขาปลุกเธอขึ้นมาประชุมเองแหละ ยัยประธานนักเรียนบ้า”เสียงโซระดังมาจากข้างหลัง ฉันปีนขึ้นไปบนพนักเก้าอี้เห็นเธอกำลังเขียนอะไรยิกๆอยู่บนสมุดโน้ต
“ประชุมอะไร”
“นี่ไง เธอสองคนดูซะ”โซระยื่นกระดาษในสมุดโน้ตที่ฉีกออกมาให้ดู ฉันหยิบมานั่งอ่านกับเรียว
หน้าที่ต่างๆ
1.รอบกองไฟ โซระกับไทจิ
2.เดินทางไกล เซริกับเรียว
3. Dance time เรมิกับมาร์ค
“เดี๋ยว ไอ้หน้าที่ทั้งหลายเนี่ย รู้ว่ามันต้องมีนะ แต่ทำไมต้องจับคู่คนรับผิดชอบแต่ละหน้าที่อย่างนี้ด้วยล่ะ”ฉันโวยวายทันทีที่อ่านจบ
“ดีแล้วล่ะน่า ฉันโหวตคะแนนเสียงดูแล้ว ฉัน ไทจิ มาร์ค เรมิ เห็นด้วย”
“แต่ฉันกับเรียวไม่เห็นด้วยนี่ ใช่ไม๊เรียว”ฉันเสริมอย่างไม่แน่ใจและหันไปหาคนถูกถาม
“เห็นด้วยจ้ะ โซระจัดหน้าที่ได้ดีจริงๆ”เขาตอบยิ้มๆ
“เฮ้อ เอาก็เอา แล้วกำหนดการที่ค่ายล่ะ”ฉันถาม
“เรมิกับมาร์คกำลังร่างอยู่”โซระตอบและชี้มือไปทางเพื่อนรักที่กำลังเขียนยิกๆ
“เออๆ ต่อไปนี้ทำอะไรก็ไม่ต้องปรึกษาฉันแล้วนะ”ฉันพูดงอนๆ
“อ้าว งอนเรียวยังไม่ทันหาย มางอนฉันต่อซะงั้น”โซระพูดล้อๆ “อ๊ะ ถึงแล้ว”เธอพูดต่อขณะที่รถเบรกเอี๊ยด
“เธอควรจะพูดอะไรก่อนให้พวกเขาลงจากรถนะ”เรียวเตือน
“นายก็ไปสิ”ฉันดันเขาไปที่ด้านหน้ารถ เขาส่งสายตาขุ่นเคืองใจมาให้ก่อนจะพูดใส่ไมค์ว่า “เก็บขยะก่อนลงไป แล้วอย่าลืมของไว้บนรถล่ะ”
ทุกคนทยอยลงจากรถ เรมิกับโซระกำลังตรวจดูกำหนดการต่างๆ ไทจิกับมาร์คก็กำลังตรวจที่นั่งในรถ ฉันกับเรียวจึงเดินลงจากรถเพื่อไปช่วยคนอื่นๆเอาของลง
“เอาของเสร็จแล้วไปรวมกันตรงนั้นนะ”ฉันพูดและชี้มือไปที่ๆว่างๆของลานจอดรถ โรงเรียนเราเอารถมา 4 คัน ห้องละคันพอดี “ไม่ต้องต่อแถวให้มันยุ่งยากนักนะ แต่จับมือคู่ของตัวเองเอาไว้ด้วย”ฉันตะโกนต่อแล้วเดินไปหาพวกโซระที่ลงมาจากรถแล้วและกำลังเอากระเป๋าของตัวเองลงอยู่ ฉันดึงกระเป๋าของฉันลงมาบ้าง
“มานี่ ฉันถือกระเป๋าให้”เสียงสามหนุ่มดังขึ้นพร้อมกัน ฉันแอบเห็นเรมิยิ้มนิดๆอย่างพอใจ
“ไม่ต้องก็ได้ย่ะ”ฉันพูดและดึงกระเป๋าออกจากมือเรียวและเดินนำเพื่อนๆไปยังคนอื่นๆที่รอคอยกันอย่างใจจดใจจ่อ โซระพยักหน้าให้ฉันและสลับไปเดินนำแทน
“ฉันจะพาทุกๆคนไปที่ๆพัก”เธอบอก
โซระพาเดินเลียบทะเลไปเรื่อยๆ ลมทะเลที่เย็นสบายพัดเข้าหาฝั่ง เสียงคลื่นกระทบกับชายหาดดังก้องอยู่ในหู เธอเลี้ยวไปยังทางเดินเล็กๆที่ทำจากหินอ่อน เมื่อพ้นทางเดิน ก็เจอกับตึกสูงประมาณ 3 ชั้น จำนวน 3 ตึกตั้งหันหน้าเข้าหากันโดยที่มีลานว่างอยู่ตรงกลาง และพวกเรากำลังยืนอยู่ที่ลานว่างนั่น มีสระว่ายน้ำที่เริ่ดหรูอลังการมากอยู่ข้างๆลานนี้ โซระเริ่มพูด
“ทั้งสามตึกนี้ฉันจองไว้หมดแล้ว ในกำหนดการที่กำลังจะแจกให้จะมีเวลาพักอยู่ ในเวลาพักนั้น ห้ามออกไปนอกเขตสามตึกนี่เด็ดขาด จะอยู่ในห้อง ไปสระว่ายน้ำ มาที่ลานกว้าง หรือจะไปที่ทะเลก็ได้ มีเวลาให้พัก 2 ชั่วโมง เวลารวมตัวและรับประทานอาหาร ลงมาที่ลานนี่ ใครจะถามอะไรไม๊”เธอหยุดพูดแป๊บนึง “น้ำและขนมที่อยู่ในห้องกินฟรีนะ เดี๋ยวฉันจะแจกกำหนดการกับกุญแจห้องให้ เมื่อได้แล้วก็ไปที่ห้องได้เลย”
“นี่เป็นการเข้าค่ายที่ประหลาดและเจ๋งที่สุดเลย”เพื่อนนักเรียนคนหนึ่งพึมพำ
“มารับกุญแจห้องทางนี้ เดินจับคู่กันมานะ”เรมิว่า
แผนที่ๆพัก
หลังจากแจกกุญแจเสร็จ......
    “ห้อง 224 ตึก 2 ชั้น 2 ห้องนี้สินะ”เรียวพึมพำอย่างมีความสุขตรงข้ามกับฉันที่ทำหน้าบึ้งขณะที่อ่านกำหนดการของเรมิ
    วันที่หนึ่ง 14/11/05
    9.00             มาถึงโรงแรม
    9.00-11.00         พักตามสบาย
    12.00             ทานข้าวเที่ยง
    13.00-15.00         รวมตัวเพื่อไปทะเล
    16.00             ทานข้าวเย็น
    17.00 เป็นต้นไป                    เข้านอนได้
    “มันเข้าค่ายหรือมาพักร้อนกันแน่”ฉันร้องอย่างโมโห
    “ดีแล้ว จะได้มีเวลาส่วนตัวเหลือเยอะๆ”เรียวว่าและเดินนำเข้าไปในห้อง ถือกระเป๋าของตัวเองและของฉัน (ที่ยอมให้ถือซักที) ไปด้วย
    “แล้วทำไมฉันต้องมานอนห้องเดียวกับนายด้วย ไม่เข้าใจจริงๆ”ฉันเดินตามเข้าไปสำรวจห้องแล้วร้องออกมาดังๆ “ห้องนี้เห็นทะเลด้วย บรรยากาศดี ที่สำคัญ...”ฉันเดินไปเปิดตู้เย็น “มีของกินเยอะแยะเลย ดีจังๆ”
    ห้องนี้เป็นห้องสวีทชั้นหนึ่งเลยทีเดียว โซระบอกว่าเหมือนกันทุกห้อง เมื่อเดินจากทางเข้าๆมาจะเป็นห้องน้ำ เยื้องๆกับห้องน้ำก็มีชั้นวางของที่มีขนมขบเคี้ยววางอยู่เรียงราย โดยที่ข้างล่างชั้นวางนั้นเป็นตู้เย็นที่บรรจุเครื่องดื่มตั้งแต่น้ำเปล่าไปถึงน้ำอัดลม เดินไปอีกหน่อยก็ห้องนอน เตียงนอนก็เป็นเตียง...เตียงคู่!!!
    เรียวยิ้มอย่างพอใจและเดินไปเปิดประตูระเบียงที่เป็นกระจกใส กลิ่นทะเลลอยมาแตะจมูก ส่วนลมทะเลก็พัดเข้ามาเบาๆอย่างไม่ขาดสาย ฉันเดินไปหาเขาที่ริมระเบียง
    “ทะเลสวยนะ”ฉันพูดออกมาเบาๆหลังจากนิ่งไปนาน (นิ่งเป็นด้วยรึนี่)
    “อืม ฉันว่าเราไปว่ายน้ำกันดีกว่า ที่ทะเลนะ ไม่ใช่สระว่ายน้ำ”เขาบอกและเดินไปหยิบชุดว่ายน้ำในกระเป๋า ฉันเดินตามไปบ้าง
    “นายไปเปลี่ยนชุดก่อนไป”ฉันพูดและเริ่มจัดของ เรียวพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้และเดินเข้าห้องน้ำไป ส่วนฉันก็ใช้เวลาจัดของแป๊บเดียว (ยัดเสื้อผ้าเข้าตู้) ฉันเดินไปนั่งที่เตียงแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเรมิ
    ((ฮัลโหล))เสียงแฟนของเพื่อนแว่วมาตามสาย
    ((ฮัลโหล มาร์คเหรอ ยัยเรมิล่ะ))
                ((จัดของน่ะ))
                ((เหรอ งั้นช่วยถามให้หน่อยสิว่าจะไปว่ายน้ำด้วยกันไม๊))
((ไปสิ อีก 10 นาทีเจอกันที่ทะเลนะ))
((โทรบอกโซระด้วยนะ แค่นี้แหละ))
((เออ ไว้เจอกัน))
“เซริ ไปเปลี่ยนชุดได้แล้ว”เรียวเรียกหลังจากฉันวางโทรศัพท์ ฉันหยิบชุดว่ายน้ำและเสื้อคลุมมาและเดินเข้าไปเปลี่ยน ปรากฏว่า...
“เฮ้ยยยย”ฉันร้องออกมาอย่างดัง ก็ชุดที่พี่ตัวแสบเตรียมให้มาเป็นทูพีทนี่หน่า
“เป็นอะไรน่ะ”เสียงเรียวดังขึ้นอย่างตกใจ
“เปล่าๆ ไมมีอะไร”ฉันตอบอย่างเหนื่อยใจและเริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉันใส่เสื้อคลุมให้มิดชิดปิดทุกส่วนของร่างกายและเดินออกจากห้องน้ำ
“นี่เธอจะไปว่ายน้ำหรือจะไปเล่นหิมะกันแน่”เรียวคิ้วขมวดเมื่อเห็นฉัน
“เอาน่า ไปกันเถอะ”ฉันคว้าผ้าเช็ดตัว, ครีมกันแดด, กุญแจห้องและตัวเรียวออกจากห้องไปยังชายหาด
“เซริ เรียว ทางนี้”เรมิที่กำลังร่าเริงสุดๆโบกไม้โบกมือเรียกเมื่อเราไปถึงชายหาด แล้วฉันก็ได้รู้ว่าไม่จำเป็นต้องอายเลยถ้าใส่ทูพีท เพราะที่หาดไม่มีใครมาว่ายน้ำนอกจากพวกเราแล้วอีกอย่างเรมิกับโซระก็ใส่ซะสีสดใสขนาดนั้น
“ถอดซะทีสิเสื้อคลุมน่ะ จะลงว่ายน้ำทั้งอย่างงั้นรึไง”เรียวว่าแล้วค่อยๆถอดเสื้อคลุมของฉันออกจากทางด้านหลัง
“เอ้า คู่ไหนลงทะเลก่อน คู่นั้นชนะ”ไทจิประกาศและอุ้มโซระลงทะเลซึ่งมีไทจิกับเรมิตามไปติดๆ
“เฮ้เรียว ถ้านายไม่พาเซริลงมาบ้าง พวกนายต้องเลี้ยงไอติมนะ”มาร์คแหย่ ฉันผู้ไม่ยอมเสียเงินง่ายๆจึงลากเรียวลงทะเลแทน
“เฮ้ยๆ เบาๆสิ”เรียวร้องจ๊ากขณะที่ฉันคว้าข้อมือเขาแล้ววิ่งจ้ำๆอย่างไม่สนใจใคร “นี่เธอจะฆ่าฉันรึไงเนี่ยฮะ อยู่แค่ที่ตื้นๆก็พอ”เขาดึงฉันให้หยุด ฉันจึงหงายหลังล้มใส่เขาที่รับไว้ทันพอดี
“นึกจะหยุดก็หยุด นายจะบ้าเหรอ”ฉันตวาด
“แล้วเธอจะวิ่งไปหาอะไรลึกๆเล่า”เขาตอบกลับ
“ใจเย็นๆสิเซริ เรียวนายด้วย ฉันกะจะให้นายอุ้มเธอลงมานะ ไม่ใช่ให้เธอลากนายลงมาแบบนี้”ไทจิเดินมาห้ามทัพ “อย่างนี้สงสัยต้องเอาน้ำสาดซะแล้วมั้ง”ไทจิไม่พูดเปล่า ปากว่ามือก็สาดน้ำใส่ฉันและเรียวไปด้วย ฉันเลยสาดกลับแต่ดันพลาดไปโดนโซระด้วย สงครามน้ำทะเลจึงเกิดขึ้น
“โอ๊ยพอแล้วๆ ฉันยอมแพ้แล้ว”เรียวร้องเป็นครั้งที่ร้อยเพราะฉันเอาแต่สาดน้ำโครมๆใส่เขาคนเดียว “ฉันบอกว่ายอมแล้วไง อึ๊บ”เรียวลุกขึ้นยืนและอุ้มฉันขึ้นไปไว้ในอ้อมแขนแล้วเดินขึ้นไปบนชายหาดที่พวกโซระกำลังผลัดกันทาครีมกันแดดอยู่
“ขึ้นมาซะทีนะ เมื่อกี้ไม่ยอมลง คราวนี้ไม่ยอมขึ้น เธอสองคนเนี่ย”เรมิที่กำลังนอนให้มาร์คทาครีมกันแดดที่หลังอยู่บ่นขึ้น
“เรื่องบ่นไว้ทีหลัง ว่าแต่ตอนนี้กี่โมงแล้ว”ฉันพูดขณะเช็ดผมให้แห้ง
“เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงจะเที่ยง”เรียวตอบ เขาก็กำลังเช็ดผมยุ่งๆของเขาอยู่เช่นกัน “แยกกันไปที่ห้อง อาบน้ำแล้วลงมากินข้าวเถอะ”พวกเราอยู่ตึกเดียวกัน ชั้นเดียวกัน พวกเรมิอยู่ห้อง 225 พวกโซระอยู่ห้อง 226
หลังจากแยกย้ายกันเข้าห้อง...
“ฉันไปอาบน้ำก่อนนะเรียว”ฉันพูดและหยิบของต่างๆเข้าไปอาบน้ำ เมื่อฉันออกมาเขาก็ทำหน้าแปลกใจ
“ทำไมใส่กระโปรงล่ะวันนี้”เขาถามแล้วมองฉันงงๆ ฉันใส่กระโปรงยีนส์ เสื้อยืดลายหมีแพนด้า และผูกเสื้อยีนส์ไว้ที่เอว (เผื่ออากาศหนาว)
“มองอะไรนักหนาเล่า เสื้อผ้าพวกนี้พี่ฉันจัดให้ ถ้าฉันไม่ใส่ก็ไม่รู้จะใส่อะไรแล้ว”ฉันว่าและไล่เขาไปอาบน้ำ เขาใช้เวลาอาบ 10 นาทีพอดีเป๊ะและออกมาในชุดเสื้อยืด กางเกงขาสามส่วน เขาหยิบเสื้อเชิ้ตและจูงมือฉันที่สะพายกระเป๋าถือออกไปยังลานกว้างที่แดดกำลังส่องบอกเวลาเที่ยงวัน
“เราจะไปกินที่ห้องอาหารกันนะ”โซระประกาศและเดินนำไปที่ห้องอาหารซึ่งอยู่ชั้นใต้ดินของตึกแรกสุด “ฉันลืมบอกพวกเธอไป ทุกตึกมีชั้นใต้ดิน ตึกแรกนี้เป็นห้องอาหาร ตึกที่สองจะเป็นห้องที่ให้ความบันเทิงต่างๆ ห้องเกมส์ ส่วนตึกสามเป็นห้องสมุด สปา และฟิตเนส”โซระพูด มีคนหนึ่งถามขึ้นว่า
“มีผับไม๊เนี่ย”แล้วเสียงพึมพำอย่างสนใจก็ดังขึ้น
“มีสิ อยู่ใกล้ๆกับห้องเกมส์ แต่จะเปิดหลังหนึ่งทุ่มนะ”โซระตอบและขยิบตาอย่างเจ้าเล่ห์ “เอ้า ไปกินข้าวเที่ยงกันเถอะ”
เธอผายมือไปยังประตูที่เปิดอยู่ด้านหลัง เมื่อเข้าไปก็พบกับห้องที่มีอาหารนาๆชนิดอยู่พร้อมกับโต๊ะอาหารมากมายเรียงรายอยู่เช่นกัน แต่มีโต๊ะที่เด่นที่สุดคือโต๊ะสำหรับหกคนอยู่ใกล้ๆหน้าต่างที่มองเห็นทะเล
“โต๊ะนั้นพิเศษสำหรับพวกเรา”เรมิพูดยิ้มๆ “ฉันบอกให้พนักงานของพ่อเธอเตรียมไว้”เธอเสริมเมื่อโซระมองมาอย่างสงสัย แล้วฉันก็เลือกนั่งฝั่งที่เดินไปตักอาหารได้ง่ายที่สุด (เอาอีกแล้วหรือนี่) เรียวเลือกนั่งตรงข้ามฉัน ส่วนนอกนั้นมันไม่เลือกที่ เดินไปตักของกินก่อนเลย (มันไปก่อนนางเอกของเราได้ไงเนี่ย)
“นู่นก็น่ากิน นี่ก็น่ากิน มีเค้กด้วย อ๊า มีไอติมด้วยอ่ะ”ฉันร้องอย่างดีใจเมื่อลุกไปตักอาหาร
“ใจเย็นๆน่ายัยบ๊อง”เรียวเตือนเบาๆแล้วแยกไปตักข้าว โซระกับเรมิเดินเข้ามาหาฉันแล้วกระซิบเบาๆ
“เธอไปบอกเรียวรึยังว่า เธอชอบเขาน่ะ”
“ฉันไม่ได้ชอบเขา”ฉันพูดอย่างไม่พอใจ
“แล้วหน้าแดงทำไม”เรมิถาม “มัวแต่ปฏิเสธแล้วเมื่อไหร่เขาจะรู้ล่ะ”
“ฉัน...”
“เย็นนี้...”โซระพูดเบาๆพร้อมกับเรมิ
“เย็นนี้อะไร”
“เย็นนี้ ไปบอกเขาซะ ตอนอยู่ที่ทะเล”
“จะบ้าเหรอ คนเยอะแยะจะตายไป”
“แล้วเธอยอมรับรึเปล่าล่ะว่ารักเขา”
“เอ่อ...มั้งนะ”
“มั้งเหรอ เธอรักเขาจะตายไป คิดถึงเขา เธอรู้ตัวแต่เธอไม่เคยยอมรับออกมา แล้วก็มานั่งโทรบอกฉันเนี่ยนะ”โซระพูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์
“ฉันไม่เหมือนพวกเธอนะ ฉันรู้จักเรียวแค่หกเดือน แต่เธอรู้จักไทจิกับมาร์คมาตั้งหกปีแล้ว”
“แต่ฉันเพิ่งรู้ตัวว่ารักเขาแค่สามเดือน แต่เธอ...”
“เพิ่งรู้แค่สามอาทิตย์”ฉันต่อ “ยังไงฉันก็จะรอจนกว่าฉันพร้อมที่จะบอกเขา แล้วฉันก็จะไปบอกเขาด้วยตัวเอง”
“เชื่อฉันเถอะน่า เย็นนี้เป็นโอกาสดีที่สุดแล้ว”
    “ฉันไม่อยากพูดกับเขา ฉัน...ฉันเกลียดเขา”
    “พูดออกมาได้ไงน่ะ เธอแอบชอบเขามาตั้งแต่ที่ทัศนศึกษาแล้วนะ”
    “แล้วไง จะให้ฉันเดินเข้าไปตรงๆแล้วสารภาพรักกับเขาเหรอ นี่ไม่ใช่ละครนะ”
    “ฉันไม่ได้แนะนำให้เธอทำอย่างนั้น ฉันแนะนำให้เธอเปิดใจให้เขาก่อนที่มันจะสายเกินไป”
ฉันเดินไปยังจานที่วางเค้กอยู่หลายชนิดและตักมันขึ้นมาแปดเก้าชิ้นแล้วเดินตรงไปตั้งหน้าตั้งตากินที่โต๊ะ โซระส่ายหน้าอย่างไม่พอใจ เธอรู้ว่าเพื่อนรักรู้สึกอย่างไร แต่เพื่อนคนนี้ดื้อหัวชนฝาไม่ยอมทำอะไรซักที เธอจึงทำได้แค่เอาใจช่วยเท่านั้น
“ไม่กินข้าวเหรอ”ไทจิทักเมื่อฉันดื่มน้ำและลุกขึ้นจากโต๊ะ
“นั่นน่ะซิ เห็นกินแต่เค้กกับไอติม”เรียวเสริม มาร์คและเรมิเงยหน้าขึ้นมองอย่างเห็นด้วย
“ฉันไม่มีอารมณ์กิน”ฉันตอบและเดินออกจากห้องอาหารไป
โซระ นำเรื่อง
ฉันมองเพื่อนรักที่เดินออกไปด้วยความไม่สบายใจ เซริผิดปกติมาก ที่จริงเวลาแบบนี้เธอต้องกินๆๆๆ และถึงจะมีความทุกข์ยังไง เธอก็ต้องกินข้าวเป็นเรื่องเป็นราว ไม่ใช่กินแต่ขนม ยิ่งได้กินฟรีแบบนี้แล้ว อาหารทุกอย่างที่เตรียมมาอาจจะหมดเกลี้ยง ไม่สิ ยิ่งเหนื่อยมากับการว่ายน้ำเมื่อกี้แล้ว อาหารน่าจะไม่พอด้วยซ้ำ
ฉันลุกขึ้นเพื่อเดินตามเซริออกไป เรมิจับข้อมือฉันและดึงเข้าไปกระซิบถามว่า
“ปล่อยเขาอยู่คนเดียวไม่ดีกว่าเหรอ”
ฉันส่ายหน้าและตอบเบาๆไม่ให้พวกไทจิได้ยิน
“ถึงเซริไม่ได้อินโนเซ้นท์เรื่องความรัก แต่เธอไม่สังเกตเหรอว่าเขาต้องการให้มีคนปลอบใจและอยู่เคียงข้างเขา ฉันจัดการเองได้เธอคอยดูพวกนั้นไว้แล้วกัน”ฉันเสริมเมื่อเรมิทำท่าจะตามไปด้วย เธอพยักหน้าและนั่งลงตามเดิม
“โซระ ฉันจะทำยังไงดี ฉันไม่สบายใจเลย ฉันไม่กล้าบอกเขา ฉันไม่มั่นใจว่ารักเขารึเปล่า ฉันกลัวว่าจะเจ็บปวด ฉันไม่เคยมีความรัก”เซริปล่อยโฮออกมาทันทีที่เห็นฉัน ฉันถอนหายใจเบาๆ กะแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ ฉันมาเจอเธอที่สระว่ายน้ำ กำลังล้างหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย ฉันส่งผ้าเช็ดหน้าให้เธอ
“ใจเย็นๆสิ เธอไม่เหมือนเซริหมูแกร่งคนเก่าเลยนะ เธอคิดดูซิว่าแค่เธอยังไม่ทันเจ็บปวด ยังร้องไห้ขนาดนี้ เธอจะร้องทำไม ทำไมเธอไม่กลับมาเป็นคนเดิมแล้วบอกเขาไปตรงๆล่ะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเธอก็ยังมีฉันกับเรมิอยู่ใกล้ๆนี่ ฉันไม่ได้เป็นพวก มีแฟนแล้วทิ้งเพื่อนซะหน่อย”ฉันยิ้มให้เซริเพื่อนซี้ เธอยิ้มออกมาบ้าง
“นั่นสิ ทำไมฉันต้องร้องไห้ บ้าจริงๆเลย”เธอปาดน้ำตาออกแล้วสีหน้าของเธอก็กลับเป็นปกติ
“ไปกันเถอะ ป่านนี้เขาคงกินกันเสร็จแล้ว”ฉันพูดและเดินไปที่ลานกว้าง ที่นั่นเรียวพาทุกคนออกมาแล้ว
“เซริ เดี๋ยวเธอกับฉันต้องไปดูสถานที่เดินทางไกลนะ”เรียวว่าแล้วลากเซริไป ฉันคิ้วขมวดและดึงเธอกลับมา
“เขายังไม่อยากไปไหนกับนายตอนนี้”ฉันว่า
“ฉันมีเรื่องต้องคุยกับอาซึกะ เซริ”เขาตอบ
“ฉันไม่เป็นไรหรอกโซระ เธอพาคนอื่นๆไปที่ทะเลเถอะ”เซริบอกเธอกับเรียวเดินไปที่จักรยานแล้วขี่ลับสายตาไป
ติดตามต่อตอนต่อไปนะจ้ะ
จบตอนที่ 8 ซักที -_-; จะตายเอานะเนี่ยเรา *_* ยังไงก็ช่วยๆกันโหวตและเม้นด้วยนะ^-^ กำลังใจเรากำลังลดลงไปเรื่อยๆแล้ว TToTT เรารู้ว่าบางคนมาอ่านแต่ขี้เกียจเม้น ก็เข้าใจนะคะ แต่ช่วยๆกันหน่อยเหอะ เราเป็นนักเขียนที่ไม่เคยทำอะไรดองเค็มนะคะ (แต่ก็ไม่แน่) ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ โดยเฉพาะ nana aiya, g_j_n แล้วก็พี่ซินกับนอนละเมอด้วย^O^ คอยเป็นกำลังใจให้เราตลอดเลย ขอบคุณนะคะ^0^
มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า ติดตามกันได้ ณ บัดนู้นนนนนนน (ตอนนี้ทุกคนกลับมาจากการทัศนศึกษาแล้วนะคะ)
    “เซริ”
    “อ้าว ไนจิโกะ”ฉันทักเจ้าของเสียง หัวหน้าห้องม.2/2นี่เอง “มีไรจ๊ะ”
    “เอานี่ไป หัวข้อการประชุมเย็นนี้-_-”เธอยื่นกระดาษให้ฉันปึกนึง
    “หา เยอะขนาดนี้เลยอ่ะO_O”ฉันรับมาอย่างงงๆ “เรื่องไรมั่งนิ”
    “เรื่องเข้าค่ายย่ะ-o-”เธอบอก “ลืมรึไง ม.2ต้องไปกันเอง”
    “เฮ้ย ไปเข้าค่ายกันเองจริงอ่ะ พวกอาจารย์ไม่ได้ไปด้วยเหรอO_O”
    “ไม่ได้ไป เค้ารู้กันทั่วแหละ โธ่ยัยประธานนักเรียนติงต๊อง ไม่เหมือนเรียว...*o*”เธอทำตาหวานซึ้งที่แสนจะน่าหมั่นไส้ “...บอกปุ๊บก็พยักหน้า เท่ห์ระเบิดเลย แล้วเปล่งเสียงอันอ่อนโยนและไพเราะว่า ขอบคุณ กรี๊ซๆเท่ห์ หล่อ สมาร์ท แฮนด์ซั่มสุดๆ*O*”
    “พอละๆ I am understand now-_-;”ฉันเวียนหัวกับเสียงแจ๋นๆของเธอสุดๆ ฉันไม่น่าเดินมาที่หลังรร.นี่เลย อุตส่าห์ปลีกตัวออกจากกลุ่ม ว่าจะมาอยู่คนเดียวเงียบๆแล้วคิดเรื่องเรียวซะหน่อย
    “เข้าใจก็ดีย่ะ ฉันไปละ-_-”ไนจิโกะพูดและเดินสะบัดก้นจากไป
    “เฮ้อ”ฉันถอนหายใจและเขย่งตัวขึ้นไปนั่งบนราวเหล็กที่กั้นระหว่างในและนอกรร. “ฉันจะทำไงดีเนี่ย-_-;”
    “เป็นไรน่ะ”@_@เสียงของเรียวดังขึ้น
    “มีอะไรก็รีบๆพูดมา-o-”ฉันตอบโดยไม่มองหน้าเจ้าของเสียง
    “ก็พูดไปแล้วไง ฉันพูดว่าเธอเป็นอะไร^U^”ฉันหันไปขว้างค้อนวงโตใส่เจ้าของเสียง กวนประสาทอย่างนี้มีหนึ่งเดียวเท่านั้น
    “ฉันจะเป็นอะไรก็ช่างฉันน่า-O-”ฉันพูดกับประธานนักเรียนชายที่ขี้เก๊กสุดๆ
    “อารมณ์ไม่ดีเหรอ^O^”เรียวถามและหยิบช็อกแลตออกมาจากกระเป๋า “งั้นกินนี่หน่อยไม๊ จะได้ดีขึ้น^o^”เขายื่นให้ฉันอันนึง มันก็น่ากินนะ แต่...
    “ไม่เอา-^-”ฉันยังทำหน้าบึ้งต่อไป “ถ้าหมดธุระแล้วก็ไปได้แล้ว-o-”
    “ฉันยังไม่...”
    “ไปเถอะน่า ไปไกลๆฉันซะที>_<”ฉันโดดลงมาจากราวเหล็กและผลักเรียวจนเขาล้มลงไป เราสบตากัน 3 วินาทีและฉันก็เป็นฝ่ายเดินจากไปเอง แต่ก็เดินไปได้แค่ 2-3 ก้าวเรียวก็พูดขึ้นว่า
    “โซระเล่าเรื่องนั้นให้ฉันฟังหมดแล้ว”
    ฉันหันหน้าที่ร้อนและแดงเหมือนกระทะทอดหมูเกาหลีราดซอสมะเขือเทศมาทางเขา เขาเองก็เก๊กหน้าตามปกติและยังมีรอยยิ้มบางๆอยู่บนใบหน้าด้วย
    “โซระ...บอกแล้วเหรอ...ว่าฉันรู้สึกยังไง...เวลา...อยู่กับนาย”
    “แต่เขาไม่ได้บอกว่าเธอรักฉัน^_^”เขายิ้ม
    “ฉันก็ไม่เคยพูดอย่างนั้น”ฉันตอบเสียงสั่น “แล้วฉันก็คงจะไม่พูดด้วย”
    “คงจะไม่ เหรอ งั้นฉันก็จะยังไม่ตัดใจนะ”
    “แล้วแต่นายสิ”
    “แล้วทำยังไงเธอถึงจะยอมพูดล่ะ ว่าเธอรักฉัน”
    “เธอรักฉัน อ่ะพูดแล้ว”
    “กวนจริงๆเลย”
    “เอาคืนไง”ฉันพูดเรียบๆ “ฉันต้องรู้ก่อน ว่านายรู้สึกยังไงกับฉัน”
    “คล้ายๆกับที่เธอรู้สึกเวลาอยู่กับฉันนั่นแหละ”เรียวพูดและเดินจากไป
    ดูด...อม...กัด...
    “โห เธอทำอะไรเนี่ยเซริ^0^”โซระทัก
    “ท่าทางจะเมามันมากเลยนะ-_-+”เรมิต่อ
    “กินไอติมงายค้า แหมคุณผู้อ่านเค้าคิดลึกกานหมดแล้ว-_-;”
    ฉันเพิ่งกลับมาจากหลังรร. แล้วไปซื้อไอติมมากินแก้เครียด ที่ไม่กินช็อกแลตตามปกติก็เพราะเมื่อกี้อีตาบ้านั่นมันชวนกินน่ะสิ-_-+ (หยิ่งเฟร้ย คนมานหยิ่ง)
    “ทำไมวันนี้ไม่กินรสช็อกแลตล่ะ0_o”เรมิถามงงๆ
    “ฮึ มีสาเหตุก็แล้วกันน่า-_-”ฉันตอบอย่างหงุดหงิดและหันมาหาโซระ “เธอติดหนี้ฉันนะโซระ-O-+”
    “ติดหนี้=_=”โซระทวนคำ แล้วเธอก็พูดต่อว่า “เรื่องเรียวน่ะเหรอ-_-+”
    “เออ เธอจะไปบอกมันเรื่องนั้นทำไม>O<”ฉันตวาดเพื่อนรักอย่างโมโห โซระผงะไปเล็กน้อย
    “ก็...ก็เธอไม่ได้บอกว่าห้ามบอกเขาซะหน่อย^_-”เธอตอบพลางเลิกคิ้ว “แล้วเขาว่าไงอ่ะO_o”
    “เขาก็ไม่ได้ว่าไง-_-”ฉันตอบเลี่ยงๆแล้วรีบเปลี่ยนเรื่อง “ไทจิกับมาร์คไม่ได้มาด้วยเหรอ-__-”
    “เปล่า เขาบอกว่าไม่ว่าง-0-”เรมิตอบ หน้าสลดลงเล็กน้อย “เดินหายไปพร้อมเรียวเมื่อกี้นี้ สงสัยจะไปหาเธอน่ะ^0^”
    “เหรอ งั้นก็ช่างมันเถอะ อุ๊ย-0-”ฉันสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อโทรศัพท์ที่ซ่อนไว้ในกระเป๋าอย่างดีสั่น ฉันรีบหยิบมันขึ้นมาดู “ได้รับ 1 ข้อความ เย็นนี้เจอกันหลังจากประชุมนะ เรียว”ฉันอ่านและหันไปทางโซระอย่างเคียดแค้น “เธอทำเรื่องอีกแล้วนะ#O#”
    “ทำอะไร?_?”เธอถามงงๆ
    “เธอให้เบอร์มือถือของฉันกับเขานี่ ไม่งั้นเขาจะรู้ได้ไง>o<”
    “ใจเย็นๆน่าเซริ ฉันเป็นคนบอกเขาเองแหละ^_^”เรมิบอก
    “ยุ่งไม่เข้าเรื่องน่า*_*”ฉันพูดอย่างหงุดหงิด “เรื่องของฉัน ฉันจัดการเองได้*_*”
    “เอ๋ ตกลงเรียวเนี่ยเป็นเรื่องของเธอแล้วเหรอ^0^”โซระล้อ
    “เอ่อ...”ฉันหน้าแดง “ฉัน...ฉันไปก่อนนะ ได้เวลาไปประชุมแล้ว บาย-_-;;”
    “แหม ไปเจอเรียวก็ต้องรีบไปใช่ไม๊ล่า^0^”เรมิส่งเสียงล้อไล่หลังมา
ณ ห้องพักครู
    “ที่ต้องวางแผนก็คือ วัน เวลา สถานที่ ค่าใช้จ่าย-_-+”เรียวเริ่ม “เรื่องวันกับเวลานั้นฉันจะ...เซริ เธอฟังอยู่รึเปล่าเนี่ย-_-;;”
    “ฮะ อ๋อฟังอยู่ เรื่องสถานที่เอาเป็นที่ภูเขาฟูจิ ดีมะ>O<”ฉันพูดรัวเร็วขณะที่คนอื่นมองฉันงงๆ “ส่วนวันก็ 5 วัน 4 คืน เวลาเจ็ดโมงเช้าวันที่ 14 เดือนนี้ ค่าใช้จ่ายก็...”
    “พอแล้ว ยัยบ๊องนี่ สรุปเอาเองหมดเลย จะไปได้ไงตั้ง 5 วัน แล้วไปวันที่ 14 มันอาทิตย์นี้นะ เราจะจัดการทันได้ไง-_-;;”
    “จัดการได้น่า เรื่องค่าใช้จ่ายกับที่พักฉันก็รู้แล้วว่าจะทำไง-_-+”
    “หา รู้แล้วเหรอo_O”เรียวร้อง
    “เออ-_-”ฉันพูดอย่างรำคาญ
    “แต่ผมว่าอย่าไปที่ภูเขาฟูจิเลยครับ@_@”โอชิบอก (หัวหน้าห้อง 1) “ก็ช่วงนี้เขาว่ามีพายุเข้านี่ครับ เดี๋ยวก็เกิดเหตุนักเรียนหายสาบสูญระหว่างเข้าค่ายหรอก@_@”ทุกคนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ฉันจึงพูดต่อ
    “แล้วอยากไปไหนล่ะ^_^”
    “ไม่ไปภูเขา ก็ต้องไปทะเลสิ^O^”ไนจิโกะยิ้มและหันไปกอดแขนเรียวที่นั่งอยู่ข้างๆ ฉันรู้สึกว่าหน้าร้อนวูบและเกิดไฟริษยารอบดวงตาทันที
    “ถ้างั้น ไป...อุ้ย”ฉันสะดุ้ง ไอ้มือถือบ้านี่เอง ฉันกดรับและกรอกเสียงลงไป“ฮาโหล เซริค่ะ”
   
                ((เซริเหรอ ประชุมเสร็จยังจ้ะ))^O^
                ((อ๋อ โซระเองเหรอ มาที่ห้องพักครูนี่หน่อยได้ไหม))-O-
                ((ทำไมเหรอ))o_O
                ((มีเรื่องจะปรึกษาน่ะ พ่อเธอมีรีสอร์ทที่ทะเลบ้างไม๊))-_-
                ((มีดิ กำลังหาที่เข้าค่ายดีๆอยู่ใช่ไม๊ล่ะ งั้นเดี๋ยวฉันไปนะ))^O^
                ((อือ แต๊งกิ้วนะรีบมาล่ะ))^_^
                ฉันกดวางสายและหันมาทางหัวหน้าห้องทั้งสาม
“เอาล่ะ ไนจิโกะ, โอชิ แล้วก็มิโยะ พวกเธอจดตามที่ฉันพูดนะ ส่วนเรียว นายคงไม่ต้องเป็นห่วงแล้วล่ะ พวกเราต้องจัดการได้แน่ อ้าวมากันแล้ว^_^”ฉันหันไปหาโซระกับเรมิที่เดินมาพอดี “ว่าไงo_O”
“ฉันถามพ่อดูแล้ว พ่อบอกว่ามีที่อิสึกำลังว่างพอดี-_-+”โซระเริ่มเรื่อง
“ทะเลอิสึน่ะเหรอ นายว่าไง0_o”ฉันหันไปถามเพื่อนร่วมตำแหน่งประธานนักเรียน
“เอาไงเอากัน พวกเธอกลายเป็นคนจัดการทุกอย่างไปแล้ว-_-”เขาตอบเรียบๆ
“ดี”ฉันพูดสั้นๆแล้วหันไปหาโซระ “แล้วที่พักพอดีกับจำนวนนักเรียนไม๊=_=”
“พ่อฉันบอกให้แจ้งจำนวนนักเรียนทั้งหมดให้ทราบ แล้วจะจัดการให้”
“เดี๋ยวๆ แล้วค่าใช้จ่ายล่ะ”เรียวขัดขึ้น
“ฟรี”โซระพูด “ตกลงระดับชั้นเรามี 4 ห้อง ห้องละ 45 คน รวมเป็น 180 คน ไปทุกคนรึเปล่า”
“ฉันแน่ใจว่าไม่มีใครอยากพลาดงานนี้แน่โซระ ถ้ามีคนจัดการเรื่องที่บ้าระห่ำอย่างพวกเรา 6 คน”เรมิยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“หมายความว่าไงยะ 6 คนงั้นเหรอ”ไนจิโกะที่เงียบอยู่นานท้วงขึ้น “ไม่ต้องรวมพวกฉันเข้าไปเลยนะ”
“ไม่รวมแน่นอน”ฉัน, เรมิ, โซระ, เรียว ยิ้มกว้าง “ยังไงก็ตามฉันว่าเราจบการประชุมแค่นี้แหละ ฉันกลับก่อนนะ”ฉันพูดแล้วเดินนำเพื่อนรักออกจากห้องพักครูและยกกระเป๋านักเรียนขึ้นสะพายหลัง
“เธอจะไปกับเรียวใช่ไม๊ เรมิกับฉันนัดพวกไทจิอยู่น่ะ”โซระบอก
“อืม พวกเธอไปเถอะ”ฉันตอบและเดินนำเรียวไปที่หน้ารร.
“เดินเร็วจัง”เรียวหอบแฮ่กขณะที่เดินตามมา
“ฉันก็เดินงี้ทุกวัน”ฉันตอบและหยุดเดิน “นายจะพาฉันไปไหนล่ะ ส่ง message มานัดฉันไว้ไม่ใช่เหรอ”
“อ้าว ก็เธอเล่นเดินไม่รอฉันเลย แล้วฉันจะบอกเธอได้ไง”เรียวพูด “ฉันจะพาเธอไปห้างน่ะสิ”
“ไปห้าง ไปทำไม”
“ก็วันที่ 15 เป็นวันเกิดเธอไม่ใช่เหรอ แล้วตอนนั้นพวกเราก็คงจะยังอยู่ที่ค่าย”
“แต่ เดี๋ยว แล้ว...นายรู้วันเกิดฉันได้ไง”
“เอาเป็นว่ารู้”เขายิ้มแล้วเรียกแท็กซี่ “ไปห้างซึซึมิครับ เธอขึ้นไปก่อนสิ”เขาเปิดประตูให้ฉัน ฉันค่อยๆก้าวเข้าไปนั่งในรถ
“เธอว่างไม๊เนี่ย วันนี้กลับดึกได้รึเปล่า”เขาถามขณะที่ตามเข้ามาในรถ
“ฉันอยู่กับพี่สาว เซรันน่ะ แล้ววันนี้เขาก็ไม่อยู่ ไปนอนบ้านเพื่อน”
“งั้นก็ดี”
ที่ห้างซึซึมิ...
“เธออยากได้อะไรล่ะ”เรียวถามทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้าง
“อืม ไม่รู้สิ แต่ทำไมนายต้องซื้อให้ฉันล่ะ”ฉันพูดบ้าง
“ก็เพื่อนกันนี่ ซื้อของขวัญวันเกิดให้ก็ไม่เห็นแปลกเลย”เขาบอก ฉันรู้สึกว่าคำว่าเพื่อนมันจะแทงใจดำฉันเหลือเกิน
“งั้นนายก็รีบๆหาซื้อของขวัญให้เพื่อนคนนี้ก็แล้วกัน”ฉันว่าและลากเขาไปยังบันไดเลื่อน “ฉันอยากได้ตุ๊กตาน่ะ”
“ตุ๊กตา งั้นเธอก็ยังคงมีความเป็นผู้หญิงอยู่บ้างงั้นสิ ฉันนึกว่ากลายเป็นทอมไปแล้ว”เขาพูดขำๆ
“ฉันไม่เป็นหรอกน่า ฉันยังต้องการเป็นยากูซ่าหญิงในรร.อยู่”ฉันตอบ เขาส่ายหน้าและหัวเราะกับความคิดของฉันแล้วถามต่อ
“ทำไมเธอรู้ทางในห้างนี้ดีจังเลย”
“ก็นี่เป็นห้างของซึซึมิกรุ๊ป เอ่อ...ห้างของพ่อโซระน่ะ ฉันก็เลยมาบ่อย”ฉันตอบ “นี่ไง แผนกนี้แหละ แผนกของเล่น”ฉันชี้ไปที่ชั้นที่มีตุ๊กตาหลายแบบวางเรียงรายอยู่ เรียวยิ้มน้อยๆก่อนจะเดินตรงไปที่ตุ๊กตาสุนัขขนปุยสีขาวแซมน้ำตาล
“เอาตัวนี้ไม๊”เขาหันมาถามและยื่นมาให้ฉันดู ฉันคิดว่ามันน่ารักมากๆเลยแหละ
“อื้อ เอานี่แหละ”ฉันกอดมันไว้อย่างรักใคร่ เขาหยิบตุ๊กตาแบบเดียวกันมาถือไว้ด้วย
“ซื้อไปทำไมตั้งสองตัว”ฉันถามเขางงๆ
“ฉันไม่ได้ซื้อ เธอต้องซื้อให้ฉันต่างหากล่ะตัวเนี้ย”เขาลากฉันไปยังแคชเชียร์
“เดี๋ยวๆๆ ฉันไม่ได้บอกเลยนะว่าจะซื้อให้”ฉันรีบแย้ง ก็แหม กลัวเสียเงินฟรีนี่นา
“ฉันซื้อให้เธอแล้ว เธอก็ต้องตอบแทนฉันบ้างสิ”เรียวยิ้มอย่างมีชัยเมื่อฉันพยักหน้าอย่างเซ็งๆ ตุ๊กตาตัวนี้ราคา หนึ่งพันสองร้อยเยนแน่ะ แพงเป็นบ้าเรยอ่ะ
เรียวเดินไปส่งฉันที่บ้านตอนหนึ่งทุ่มพอดี ก่อนเขาจะไปเขาบอกว่า
“ฉันตั้งชื่อให้ตุ๊กตาของฉันแล้วนะ ชื่อเซริโกะจัง”
“ชื่อน่าเกลียดเป็นบ้า เห็นฉันเป็นหมาเหรอ งั้นฉันให้หมาของฉันตัวนี้ชื่อเรียวดีไม๊”
“อ้าว ฉันไม่ใช่หมานะ”
“ฉันก็ไม่ใช่เหมือนกัน รู้แล้ว ให้ชื่อปุกปุยดีกว่า”
“ปุกปุยเหรอ ชื่อหน่อมแน้มจัง”
“เอาน่า ดีกว่าชื่อเรียวหรือเซริ ใช่ไม๊ล่ะ”
“เอาก็ได้ เออ คืนนี้รีบนอนนะ เดี๋ยวเป็นหวัด”
“เป็นก็ดีสิ พรุ่งนี้ฉันจะได้ไม่ต้องไปเจอนาย เบื่อจะแย่อยู่แล้ว”
“อ้าว”
“ฉันล้อเล่นน่า ไปก่อนนะ”........
ที่บ้านของโซระ
ตรื้ดดดด ตรื้ดดดดด
“อะไรกันเนี่ย”ฉันที่กำลังอ่านนิยายเล่มโปรดอยู่บ่นเบาๆอย่างอารมณ์เสียแล้วเดินไปดูโทรศัพท์เจ้ากรรมที่สั่นกึกๆอยู่บนเตียงนุ่มๆ ฉันวางมันบนนั้นตั้งแต่กลับมาจากรร.แล้ว
((ฮาโหล))ฉันค่อยๆกรอกเสียงลงไป
(ฮัลโหล โซระเหรอจ้ะ))อ๋อ ยัยเซรินี่เอง สงสัยจะมีเรื่องดีๆมาเล่าให้ฟังอีกแน่ๆเสียงแบบนี้
((มีไรอ่ะ))
((คือ...วันนี้เรียวพาฉันไปซื้อของด้วยแหละ))ยัยเพื่อนคนนี้นี่ พอทะเลาะกันก็โทรมา เรื่องแค่นี้ก็โทรมา มันเห็นฉันว่างทั้งวันทั้งคืนรึไง
((เออ เขาซื้ออะไรให้ล่ะ))
((ตุ๊กตาน่ะ เธอลืมไปรึไงว่าวันที่ 15 เป็นวันเกิดฉัน)) อ้าวเหรอ ลืมง่ะ
((อ้อ จำได้จ้ะ จำได้ ไว้พรุ่งนี้จะซื้อของขวัญไปให้นะ))
((ไม่ต้องลำบากหรอก))เออ ถ้าฉันไม่ไป ฉันต้องลำบากเพราะถูกเธอฆ่าแน่
((ไม่เป็นไร แค่นี้ก่อนนะ บาย))
((อืม บายจ้ะ))
ฉันวางโทรศัพท์แล้วกลับไปนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือไม้สักอย่างดี ตั้งใจจะอ่านนิยายต่อ แต่ว่า...
ตื้ดๆ
“มีข้อความเข้างั้นเหรอ”ฉันพึมพำหลังจากถอนหายใจแล้วเดินไปดูโทรศัพท์อีกรอบ
(คิดถึงจังเลย ทำอะไรอยู่จ้ะ)อ๋อ ไทจิแฟนที่น่ารักของฉันนี่เอง
(อ่านหนังสือ แล้วนายล่ะทำอะไร)ฉันพิมพ์กลับไปบ้าง
(กำลังทำใจไม่ให้รักเธอมากกว่าเดิมน่ะสิ)อ้วก มันเลี่ยนนะเนี่ย
(รักมากกว่าเดิมก็ดีสิ)ฉันพิมพ์กลับไปบ้าง
(รักต่อไปไม่ไหวแล้ว แค่นี้ก็เหนื่อยจะแย่)
(เหนื่อยเหรอ)
(ก็ต้องคิดถึงเธออยู่ตลอดเวลานี่นา)อ๊าย น่ารักจริงๆเลย
(งั้นจงทำต่อไปนะ ฉันจะไปอ่านหนังสือต่อแล้ว)
(จ้า รักและคิดถึงมากๆนะจ้ะ)โอย กรูจาไปอ้วกแล้ว
(ย่ะ กู๊ดไนท์)ฉันพิมพ์ต่อและตัดสินใจปิดมือถือซะ จะได้ไปอ่านนิยายต่อซะที
ที่บ้านของเรมิ
ฉันกำลังเล่นเกมออนไลน์กับเอ็มอยู่พอดีเลย แล้วก็มีใครบางคนออนเข้ามา
(เรมิจังเล่นด้วยเหรอเนี่ย) ใครหว่าชื่อ เพลย์บอยรักเดียวใจเดียว สงสัยจะเป็น...
(มาร์คเหรอ)
(ใช่จ้ะ มายดาร์ลิ้งทำไมยังไม่นอนเอ่ย ดึกแล้วนะ)
(แค่สองทุ่มเองนะ)
(เออ จริงด้วย จะออนถึงกี่โมงล่ะจ้ะเนี่ย)
(เด๋วก็ไปแล้วค่ะ นี่เข้ามาเล่นเกมแปปเดียว)
(งั้นรีบไปนอนเถอะ ก่อนนอนขอหอมแก้มทีได้ไม๊)เหอๆ ขออะไรมาเนี่ยแฟนฉัน
(ถ้าทำได้ก็ลองทำดูสิ)
(จุ๊บ เอาเป็นว่าเราทำแล้วนะ กู๊ดไนท์จ้ะดาร์ลิ้ง)น่าร้ากกก ดีใจจังเลยที่มีแฟนแบบนี้
(จ้ะ บายนะ)
ฉันเอื้อมมือไปปิดคอมแล้วเดินไปล้มตัวลงบนเตียง
“รักนะ มาร์ค”ฉันพึมพำเบาๆก่อนจะหลับไป
วันเข้าค่าย...
“ยัยบ้า นี่มันกี่โมงแล้วฮะ ฉันนัดเธอมาหกโมงนะไม่ใช่ก่อนรถออกห้านาที ฉอดๆๆๆๆๆๆๆ”
โอย ก็คนมันง่วงนี่นา ถูกพี่ด่าตอนเช้าแล้วยังถูกอีตาบ้านี่ด่าต่อที่รร.อีก ซวยจริงๆเลย
“พอได้แล้วล่ะน่า กระเป๋านี่มันหนักนะ ขอเอาขึ้นไปเก็บก่อนจะได้ไม๊ห๊า”ฉันตะโกนออกมาอย่างหมดความอดทนแล้วลากกระเป๋าเดินทางไปยัดไว้ที่ท้ายรถบัสก่อนจะปีนขึ้นไปบนรถ เรียวเดินตามมาและจับแขนฉันไว้
“งอนเหรอ”เขาถามเบาๆ
“เออ งอนแล้ว โกรธแล้วด้วยย่ะ”ฉันสะบัดมือออกแล้วเดินไปยืนด้านหน้ารถ “อะแฮ่ม ขอโทษจริงๆนะที่ให้รอนาน”ฉันพูดใส่ไมโครโฟนที่วางอยู่ ทำให้นักเรียนคนอื่นหันมามองทันที “โรงแรมที่เราจะไปชื่อว่า ซึซึมิโฮเท็ลนะ เป็นโรงแรมที่พ่อของโซระจองไว้ให้ ฉันคิดว่าเมื่อพวกอาจารย์ไม่อยู่ พวกเราก็น่าจะมีความสุขมากกว่าเดิม ทีนี้ฉันขอให้ทุกคนยกเลิกการนั่งตามเลขที่แล้วจับคู่กันเองดีกว่า”ฉันหยุดพูดและมองเพื่อนๆที่กำลังจับคู่กันนั่งใหม่อย่างวุ่นวาย ส่วนเรียวก็พยายามเป็นประธานนักเรียนที่ดี ร้องห้ามฉันไม่ให้ทำอย่างนี้ แต่ฉันส่ายหน้าและพูดต่อเมื่อทุกคนนั่งที่เรียบร้อยแล้ว “ฉันขอให้ทุกคนจับคู่กันดีๆนะ เพราะมันจะส่งผลถึงการนอนในค่ายด้วย คู่ที่นั่งกับเธออยู่นี่จะเป็นคู่ที่นอนห้องเดียวกับเธอที่โรงแรม”มีการเปลี่ยนคู่และความวุ่นวายที่เกิดขึ้นอีกระลอกหนึ่ง “เอาล่ะ เราเสียเวลามาพอแล้ว ออกรถเลยค่ะคุณลุง”ฉันร้องบอกคนขับรถที่พ่อของโซระจ้างมาให้ขับรถให้ ฉันหยิบเป้เล็กของฉันอีกใบและไปนั่งรวมกับพวกโซระแต่...
“เฮ้ย ทำไมนั่งกันแบบนี้ล่ะ”ฉันร้องเมื่อเห็นตำแหน่งที่เพื่อนรักนั่งอยู่ โซระนั่งอ่านหนังสืออยู่ในอ้อมกอดของไทจิที่กำลังฟัง mp3 อยู่ เรมินอนหลับพิงไหล่ของมาร์ค ส่วนอีตาบ้านั่นก็นั่งมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเบื่อๆและในที่สุดเขาก็หันมาหาฉัน
“เอ้า นั่งสิ”เขาพูดและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“ท...ทำไม...ฉันต้องนั่งกับนายด้วย”
“เพราะเธอเป็นประธานนักเรียนฝ่ายหญิงที่ต้องนั่งคู่กับประธานนักเรียนชายน่ะสิ”เขาว่าและเอื้อมมือมารวบเอว (พุงมากกว่ามั้ง) ของฉันไว้แล้วดึงมานั่งที่เบาะข้างตัว
“นายทำอะไรเนี่ย อีตาบ้าเอ๊ย”ฉันพยามงัดมือของเขาออกจากเอว (พุง)
“นั่งนิ่งๆน่า”เขาบอกและกระซิบถามฉันว่า “เอาปุกปุยมารึเปล่า”
“เอามา”ฉันตอบสั้นๆและกอดอกอย่างหงุดหงิด
“โกรธฉันรึเปล่า”
“เออ แล้วแต่จะคิด”ฉันเปิดกระเป๋าแล้วหยิบช็อกแลตขึ้นมา
“กินนี่ไม๊”เขาถามและชูท๊อฟฟี่ให้ฉันดู ฉันหยิบมาเม็ดนึงแต่เรียวคว้ากลับไปและแกะออกมาป้อนเขาปากฉัน
“นาย...”
“เอาน่า ก็ฉันอยากป้อนเธอนี่นา ป้อนฉันบ้างสิ นะๆ”
“ไม่เอา ฉันโกรธนายอยู่นะ”ฉันทำหน้าบึ้งและหันหน้าไปทางอื่นเพื่อคายท๊อฟฟี่ออก
“อ้าว ไม่กินเหรอ”
“ฉันไมมีทางกินอะไรที่นายป้อนเด็ดขาดเลย”ฉันว่าและหลับตาลงเพื่อจะนอนเอาแรง
ฉันรู้สึกเหมือนมีมือมาโอบไหล่ฉันและดึงให้ไปพิง หัวของฉันตอนนี้ซบอยู่กับไหล่อุ่นๆของเรียว มีกลิ่นหอมอ่อนๆโชยออกมาจากตัวเขา ตอนแรกก็ว่าจะขัดขืนแหละนะ แต่ที่ไหล่ของเขามันก็อุ่นสบายดี ฉันก็เลยหลับต่อไป
“เซริ เซริ ตื่นได้แล้ว”เสียง...เสียงเรียวนี่นา...ถึงแล้วเหรอ...
ฉันลืมตาและบิดตัวไปมา เรียวที่นั่งอยู่ข้างๆกำลังมองด้วยความขบขัน
“หัวเราะอะไร”ฉันถาม คิ้วขมวดเป็นโบ “เรายังไม่ถึงค่ายเลยนะ”
“ฉันให้เขาปลุกเธอขึ้นมาประชุมเองแหละ ยัยประธานนักเรียนบ้า”เสียงโซระดังมาจากข้างหลัง ฉันปีนขึ้นไปบนพนักเก้าอี้เห็นเธอกำลังเขียนอะไรยิกๆอยู่บนสมุดโน้ต
“ประชุมอะไร”
“นี่ไง เธอสองคนดูซะ”โซระยื่นกระดาษในสมุดโน้ตที่ฉีกออกมาให้ดู ฉันหยิบมานั่งอ่านกับเรียว
หน้าที่ต่างๆ
1.รอบกองไฟ โซระกับไทจิ
2.เดินทางไกล เซริกับเรียว
3. Dance time เรมิกับมาร์ค
“เดี๋ยว ไอ้หน้าที่ทั้งหลายเนี่ย รู้ว่ามันต้องมีนะ แต่ทำไมต้องจับคู่คนรับผิดชอบแต่ละหน้าที่อย่างนี้ด้วยล่ะ”ฉันโวยวายทันทีที่อ่านจบ
“ดีแล้วล่ะน่า ฉันโหวตคะแนนเสียงดูแล้ว ฉัน ไทจิ มาร์ค เรมิ เห็นด้วย”
“แต่ฉันกับเรียวไม่เห็นด้วยนี่ ใช่ไม๊เรียว”ฉันเสริมอย่างไม่แน่ใจและหันไปหาคนถูกถาม
“เห็นด้วยจ้ะ โซระจัดหน้าที่ได้ดีจริงๆ”เขาตอบยิ้มๆ
“เฮ้อ เอาก็เอา แล้วกำหนดการที่ค่ายล่ะ”ฉันถาม
“เรมิกับมาร์คกำลังร่างอยู่”โซระตอบและชี้มือไปทางเพื่อนรักที่กำลังเขียนยิกๆ
“เออๆ ต่อไปนี้ทำอะไรก็ไม่ต้องปรึกษาฉันแล้วนะ”ฉันพูดงอนๆ
“อ้าว งอนเรียวยังไม่ทันหาย มางอนฉันต่อซะงั้น”โซระพูดล้อๆ “อ๊ะ ถึงแล้ว”เธอพูดต่อขณะที่รถเบรกเอี๊ยด
“เธอควรจะพูดอะไรก่อนให้พวกเขาลงจากรถนะ”เรียวเตือน
“นายก็ไปสิ”ฉันดันเขาไปที่ด้านหน้ารถ เขาส่งสายตาขุ่นเคืองใจมาให้ก่อนจะพูดใส่ไมค์ว่า “เก็บขยะก่อนลงไป แล้วอย่าลืมของไว้บนรถล่ะ”
ทุกคนทยอยลงจากรถ เรมิกับโซระกำลังตรวจดูกำหนดการต่างๆ ไทจิกับมาร์คก็กำลังตรวจที่นั่งในรถ ฉันกับเรียวจึงเดินลงจากรถเพื่อไปช่วยคนอื่นๆเอาของลง
“เอาของเสร็จแล้วไปรวมกันตรงนั้นนะ”ฉันพูดและชี้มือไปที่ๆว่างๆของลานจอดรถ โรงเรียนเราเอารถมา 4 คัน ห้องละคันพอดี “ไม่ต้องต่อแถวให้มันยุ่งยากนักนะ แต่จับมือคู่ของตัวเองเอาไว้ด้วย”ฉันตะโกนต่อแล้วเดินไปหาพวกโซระที่ลงมาจากรถแล้วและกำลังเอากระเป๋าของตัวเองลงอยู่ ฉันดึงกระเป๋าของฉันลงมาบ้าง
“มานี่ ฉันถือกระเป๋าให้”เสียงสามหนุ่มดังขึ้นพร้อมกัน ฉันแอบเห็นเรมิยิ้มนิดๆอย่างพอใจ
“ไม่ต้องก็ได้ย่ะ”ฉันพูดและดึงกระเป๋าออกจากมือเรียวและเดินนำเพื่อนๆไปยังคนอื่นๆที่รอคอยกันอย่างใจจดใจจ่อ โซระพยักหน้าให้ฉันและสลับไปเดินนำแทน
“ฉันจะพาทุกๆคนไปที่ๆพัก”เธอบอก
โซระพาเดินเลียบทะเลไปเรื่อยๆ ลมทะเลที่เย็นสบายพัดเข้าหาฝั่ง เสียงคลื่นกระทบกับชายหาดดังก้องอยู่ในหู เธอเลี้ยวไปยังทางเดินเล็กๆที่ทำจากหินอ่อน เมื่อพ้นทางเดิน ก็เจอกับตึกสูงประมาณ 3 ชั้น จำนวน 3 ตึกตั้งหันหน้าเข้าหากันโดยที่มีลานว่างอยู่ตรงกลาง และพวกเรากำลังยืนอยู่ที่ลานว่างนั่น มีสระว่ายน้ำที่เริ่ดหรูอลังการมากอยู่ข้างๆลานนี้ โซระเริ่มพูด
“ทั้งสามตึกนี้ฉันจองไว้หมดแล้ว ในกำหนดการที่กำลังจะแจกให้จะมีเวลาพักอยู่ ในเวลาพักนั้น ห้ามออกไปนอกเขตสามตึกนี่เด็ดขาด จะอยู่ในห้อง ไปสระว่ายน้ำ มาที่ลานกว้าง หรือจะไปที่ทะเลก็ได้ มีเวลาให้พัก 2 ชั่วโมง เวลารวมตัวและรับประทานอาหาร ลงมาที่ลานนี่ ใครจะถามอะไรไม๊”เธอหยุดพูดแป๊บนึง “น้ำและขนมที่อยู่ในห้องกินฟรีนะ เดี๋ยวฉันจะแจกกำหนดการกับกุญแจห้องให้ เมื่อได้แล้วก็ไปที่ห้องได้เลย”
“นี่เป็นการเข้าค่ายที่ประหลาดและเจ๋งที่สุดเลย”เพื่อนนักเรียนคนหนึ่งพึมพำ
“มารับกุญแจห้องทางนี้ เดินจับคู่กันมานะ”เรมิว่า
แผนที่ๆพัก
หลังจากแจกกุญแจเสร็จ......
    “ห้อง 224 ตึก 2 ชั้น 2 ห้องนี้สินะ”เรียวพึมพำอย่างมีความสุขตรงข้ามกับฉันที่ทำหน้าบึ้งขณะที่อ่านกำหนดการของเรมิ
    วันที่หนึ่ง 14/11/05
    9.00             มาถึงโรงแรม
    9.00-11.00         พักตามสบาย
    12.00             ทานข้าวเที่ยง
    13.00-15.00         รวมตัวเพื่อไปทะเล
    16.00             ทานข้าวเย็น
    17.00 เป็นต้นไป                    เข้านอนได้
    “มันเข้าค่ายหรือมาพักร้อนกันแน่”ฉันร้องอย่างโมโห
    “ดีแล้ว จะได้มีเวลาส่วนตัวเหลือเยอะๆ”เรียวว่าและเดินนำเข้าไปในห้อง ถือกระเป๋าของตัวเองและของฉัน (ที่ยอมให้ถือซักที) ไปด้วย
    “แล้วทำไมฉันต้องมานอนห้องเดียวกับนายด้วย ไม่เข้าใจจริงๆ”ฉันเดินตามเข้าไปสำรวจห้องแล้วร้องออกมาดังๆ “ห้องนี้เห็นทะเลด้วย บรรยากาศดี ที่สำคัญ...”ฉันเดินไปเปิดตู้เย็น “มีของกินเยอะแยะเลย ดีจังๆ”
    ห้องนี้เป็นห้องสวีทชั้นหนึ่งเลยทีเดียว โซระบอกว่าเหมือนกันทุกห้อง เมื่อเดินจากทางเข้าๆมาจะเป็นห้องน้ำ เยื้องๆกับห้องน้ำก็มีชั้นวางของที่มีขนมขบเคี้ยววางอยู่เรียงราย โดยที่ข้างล่างชั้นวางนั้นเป็นตู้เย็นที่บรรจุเครื่องดื่มตั้งแต่น้ำเปล่าไปถึงน้ำอัดลม เดินไปอีกหน่อยก็ห้องนอน เตียงนอนก็เป็นเตียง...เตียงคู่!!!
    เรียวยิ้มอย่างพอใจและเดินไปเปิดประตูระเบียงที่เป็นกระจกใส กลิ่นทะเลลอยมาแตะจมูก ส่วนลมทะเลก็พัดเข้ามาเบาๆอย่างไม่ขาดสาย ฉันเดินไปหาเขาที่ริมระเบียง
    “ทะเลสวยนะ”ฉันพูดออกมาเบาๆหลังจากนิ่งไปนาน (นิ่งเป็นด้วยรึนี่)
    “อืม ฉันว่าเราไปว่ายน้ำกันดีกว่า ที่ทะเลนะ ไม่ใช่สระว่ายน้ำ”เขาบอกและเดินไปหยิบชุดว่ายน้ำในกระเป๋า ฉันเดินตามไปบ้าง
    “นายไปเปลี่ยนชุดก่อนไป”ฉันพูดและเริ่มจัดของ เรียวพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้และเดินเข้าห้องน้ำไป ส่วนฉันก็ใช้เวลาจัดของแป๊บเดียว (ยัดเสื้อผ้าเข้าตู้) ฉันเดินไปนั่งที่เตียงแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเรมิ
    ((ฮัลโหล))เสียงแฟนของเพื่อนแว่วมาตามสาย
    ((ฮัลโหล มาร์คเหรอ ยัยเรมิล่ะ))
                ((จัดของน่ะ))
                ((เหรอ งั้นช่วยถามให้หน่อยสิว่าจะไปว่ายน้ำด้วยกันไม๊))
((ไปสิ อีก 10 นาทีเจอกันที่ทะเลนะ))
((โทรบอกโซระด้วยนะ แค่นี้แหละ))
((เออ ไว้เจอกัน))
“เซริ ไปเปลี่ยนชุดได้แล้ว”เรียวเรียกหลังจากฉันวางโทรศัพท์ ฉันหยิบชุดว่ายน้ำและเสื้อคลุมมาและเดินเข้าไปเปลี่ยน ปรากฏว่า...
“เฮ้ยยยย”ฉันร้องออกมาอย่างดัง ก็ชุดที่พี่ตัวแสบเตรียมให้มาเป็นทูพีทนี่หน่า
“เป็นอะไรน่ะ”เสียงเรียวดังขึ้นอย่างตกใจ
“เปล่าๆ ไมมีอะไร”ฉันตอบอย่างเหนื่อยใจและเริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉันใส่เสื้อคลุมให้มิดชิดปิดทุกส่วนของร่างกายและเดินออกจากห้องน้ำ
“นี่เธอจะไปว่ายน้ำหรือจะไปเล่นหิมะกันแน่”เรียวคิ้วขมวดเมื่อเห็นฉัน
“เอาน่า ไปกันเถอะ”ฉันคว้าผ้าเช็ดตัว, ครีมกันแดด, กุญแจห้องและตัวเรียวออกจากห้องไปยังชายหาด
“เซริ เรียว ทางนี้”เรมิที่กำลังร่าเริงสุดๆโบกไม้โบกมือเรียกเมื่อเราไปถึงชายหาด แล้วฉันก็ได้รู้ว่าไม่จำเป็นต้องอายเลยถ้าใส่ทูพีท เพราะที่หาดไม่มีใครมาว่ายน้ำนอกจากพวกเราแล้วอีกอย่างเรมิกับโซระก็ใส่ซะสีสดใสขนาดนั้น
“ถอดซะทีสิเสื้อคลุมน่ะ จะลงว่ายน้ำทั้งอย่างงั้นรึไง”เรียวว่าแล้วค่อยๆถอดเสื้อคลุมของฉันออกจากทางด้านหลัง
“เอ้า คู่ไหนลงทะเลก่อน คู่นั้นชนะ”ไทจิประกาศและอุ้มโซระลงทะเลซึ่งมีไทจิกับเรมิตามไปติดๆ
“เฮ้เรียว ถ้านายไม่พาเซริลงมาบ้าง พวกนายต้องเลี้ยงไอติมนะ”มาร์คแหย่ ฉันผู้ไม่ยอมเสียเงินง่ายๆจึงลากเรียวลงทะเลแทน
“เฮ้ยๆ เบาๆสิ”เรียวร้องจ๊ากขณะที่ฉันคว้าข้อมือเขาแล้ววิ่งจ้ำๆอย่างไม่สนใจใคร “นี่เธอจะฆ่าฉันรึไงเนี่ยฮะ อยู่แค่ที่ตื้นๆก็พอ”เขาดึงฉันให้หยุด ฉันจึงหงายหลังล้มใส่เขาที่รับไว้ทันพอดี
“นึกจะหยุดก็หยุด นายจะบ้าเหรอ”ฉันตวาด
“แล้วเธอจะวิ่งไปหาอะไรลึกๆเล่า”เขาตอบกลับ
“ใจเย็นๆสิเซริ เรียวนายด้วย ฉันกะจะให้นายอุ้มเธอลงมานะ ไม่ใช่ให้เธอลากนายลงมาแบบนี้”ไทจิเดินมาห้ามทัพ “อย่างนี้สงสัยต้องเอาน้ำสาดซะแล้วมั้ง”ไทจิไม่พูดเปล่า ปากว่ามือก็สาดน้ำใส่ฉันและเรียวไปด้วย ฉันเลยสาดกลับแต่ดันพลาดไปโดนโซระด้วย สงครามน้ำทะเลจึงเกิดขึ้น
“โอ๊ยพอแล้วๆ ฉันยอมแพ้แล้ว”เรียวร้องเป็นครั้งที่ร้อยเพราะฉันเอาแต่สาดน้ำโครมๆใส่เขาคนเดียว “ฉันบอกว่ายอมแล้วไง อึ๊บ”เรียวลุกขึ้นยืนและอุ้มฉันขึ้นไปไว้ในอ้อมแขนแล้วเดินขึ้นไปบนชายหาดที่พวกโซระกำลังผลัดกันทาครีมกันแดดอยู่
“ขึ้นมาซะทีนะ เมื่อกี้ไม่ยอมลง คราวนี้ไม่ยอมขึ้น เธอสองคนเนี่ย”เรมิที่กำลังนอนให้มาร์คทาครีมกันแดดที่หลังอยู่บ่นขึ้น
“เรื่องบ่นไว้ทีหลัง ว่าแต่ตอนนี้กี่โมงแล้ว”ฉันพูดขณะเช็ดผมให้แห้ง
“เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงจะเที่ยง”เรียวตอบ เขาก็กำลังเช็ดผมยุ่งๆของเขาอยู่เช่นกัน “แยกกันไปที่ห้อง อาบน้ำแล้วลงมากินข้าวเถอะ”พวกเราอยู่ตึกเดียวกัน ชั้นเดียวกัน พวกเรมิอยู่ห้อง 225 พวกโซระอยู่ห้อง 226
หลังจากแยกย้ายกันเข้าห้อง...
“ฉันไปอาบน้ำก่อนนะเรียว”ฉันพูดและหยิบของต่างๆเข้าไปอาบน้ำ เมื่อฉันออกมาเขาก็ทำหน้าแปลกใจ
“ทำไมใส่กระโปรงล่ะวันนี้”เขาถามแล้วมองฉันงงๆ ฉันใส่กระโปรงยีนส์ เสื้อยืดลายหมีแพนด้า และผูกเสื้อยีนส์ไว้ที่เอว (เผื่ออากาศหนาว)
“มองอะไรนักหนาเล่า เสื้อผ้าพวกนี้พี่ฉันจัดให้ ถ้าฉันไม่ใส่ก็ไม่รู้จะใส่อะไรแล้ว”ฉันว่าและไล่เขาไปอาบน้ำ เขาใช้เวลาอาบ 10 นาทีพอดีเป๊ะและออกมาในชุดเสื้อยืด กางเกงขาสามส่วน เขาหยิบเสื้อเชิ้ตและจูงมือฉันที่สะพายกระเป๋าถือออกไปยังลานกว้างที่แดดกำลังส่องบอกเวลาเที่ยงวัน
“เราจะไปกินที่ห้องอาหารกันนะ”โซระประกาศและเดินนำไปที่ห้องอาหารซึ่งอยู่ชั้นใต้ดินของตึกแรกสุด “ฉันลืมบอกพวกเธอไป ทุกตึกมีชั้นใต้ดิน ตึกแรกนี้เป็นห้องอาหาร ตึกที่สองจะเป็นห้องที่ให้ความบันเทิงต่างๆ ห้องเกมส์ ส่วนตึกสามเป็นห้องสมุด สปา และฟิตเนส”โซระพูด มีคนหนึ่งถามขึ้นว่า
“มีผับไม๊เนี่ย”แล้วเสียงพึมพำอย่างสนใจก็ดังขึ้น
“มีสิ อยู่ใกล้ๆกับห้องเกมส์ แต่จะเปิดหลังหนึ่งทุ่มนะ”โซระตอบและขยิบตาอย่างเจ้าเล่ห์ “เอ้า ไปกินข้าวเที่ยงกันเถอะ”
เธอผายมือไปยังประตูที่เปิดอยู่ด้านหลัง เมื่อเข้าไปก็พบกับห้องที่มีอาหารนาๆชนิดอยู่พร้อมกับโต๊ะอาหารมากมายเรียงรายอยู่เช่นกัน แต่มีโต๊ะที่เด่นที่สุดคือโต๊ะสำหรับหกคนอยู่ใกล้ๆหน้าต่างที่มองเห็นทะเล
“โต๊ะนั้นพิเศษสำหรับพวกเรา”เรมิพูดยิ้มๆ “ฉันบอกให้พนักงานของพ่อเธอเตรียมไว้”เธอเสริมเมื่อโซระมองมาอย่างสงสัย แล้วฉันก็เลือกนั่งฝั่งที่เดินไปตักอาหารได้ง่ายที่สุด (เอาอีกแล้วหรือนี่) เรียวเลือกนั่งตรงข้ามฉัน ส่วนนอกนั้นมันไม่เลือกที่ เดินไปตักของกินก่อนเลย (มันไปก่อนนางเอกของเราได้ไงเนี่ย)
“นู่นก็น่ากิน นี่ก็น่ากิน มีเค้กด้วย อ๊า มีไอติมด้วยอ่ะ”ฉันร้องอย่างดีใจเมื่อลุกไปตักอาหาร
“ใจเย็นๆน่ายัยบ๊อง”เรียวเตือนเบาๆแล้วแยกไปตักข้าว โซระกับเรมิเดินเข้ามาหาฉันแล้วกระซิบเบาๆ
“เธอไปบอกเรียวรึยังว่า เธอชอบเขาน่ะ”
“ฉันไม่ได้ชอบเขา”ฉันพูดอย่างไม่พอใจ
“แล้วหน้าแดงทำไม”เรมิถาม “มัวแต่ปฏิเสธแล้วเมื่อไหร่เขาจะรู้ล่ะ”
“ฉัน...”
“เย็นนี้...”โซระพูดเบาๆพร้อมกับเรมิ
“เย็นนี้อะไร”
“เย็นนี้ ไปบอกเขาซะ ตอนอยู่ที่ทะเล”
“จะบ้าเหรอ คนเยอะแยะจะตายไป”
“แล้วเธอยอมรับรึเปล่าล่ะว่ารักเขา”
“เอ่อ...มั้งนะ”
“มั้งเหรอ เธอรักเขาจะตายไป คิดถึงเขา เธอรู้ตัวแต่เธอไม่เคยยอมรับออกมา แล้วก็มานั่งโทรบอกฉันเนี่ยนะ”โซระพูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์
“ฉันไม่เหมือนพวกเธอนะ ฉันรู้จักเรียวแค่หกเดือน แต่เธอรู้จักไทจิกับมาร์คมาตั้งหกปีแล้ว”
“แต่ฉันเพิ่งรู้ตัวว่ารักเขาแค่สามเดือน แต่เธอ...”
“เพิ่งรู้แค่สามอาทิตย์”ฉันต่อ “ยังไงฉันก็จะรอจนกว่าฉันพร้อมที่จะบอกเขา แล้วฉันก็จะไปบอกเขาด้วยตัวเอง”
“เชื่อฉันเถอะน่า เย็นนี้เป็นโอกาสดีที่สุดแล้ว”
    “ฉันไม่อยากพูดกับเขา ฉัน...ฉันเกลียดเขา”
    “พูดออกมาได้ไงน่ะ เธอแอบชอบเขามาตั้งแต่ที่ทัศนศึกษาแล้วนะ”
    “แล้วไง จะให้ฉันเดินเข้าไปตรงๆแล้วสารภาพรักกับเขาเหรอ นี่ไม่ใช่ละครนะ”
    “ฉันไม่ได้แนะนำให้เธอทำอย่างนั้น ฉันแนะนำให้เธอเปิดใจให้เขาก่อนที่มันจะสายเกินไป”
ฉันเดินไปยังจานที่วางเค้กอยู่หลายชนิดและตักมันขึ้นมาแปดเก้าชิ้นแล้วเดินตรงไปตั้งหน้าตั้งตากินที่โต๊ะ โซระส่ายหน้าอย่างไม่พอใจ เธอรู้ว่าเพื่อนรักรู้สึกอย่างไร แต่เพื่อนคนนี้ดื้อหัวชนฝาไม่ยอมทำอะไรซักที เธอจึงทำได้แค่เอาใจช่วยเท่านั้น
“ไม่กินข้าวเหรอ”ไทจิทักเมื่อฉันดื่มน้ำและลุกขึ้นจากโต๊ะ
“นั่นน่ะซิ เห็นกินแต่เค้กกับไอติม”เรียวเสริม มาร์คและเรมิเงยหน้าขึ้นมองอย่างเห็นด้วย
“ฉันไม่มีอารมณ์กิน”ฉันตอบและเดินออกจากห้องอาหารไป
โซระ นำเรื่อง
ฉันมองเพื่อนรักที่เดินออกไปด้วยความไม่สบายใจ เซริผิดปกติมาก ที่จริงเวลาแบบนี้เธอต้องกินๆๆๆ และถึงจะมีความทุกข์ยังไง เธอก็ต้องกินข้าวเป็นเรื่องเป็นราว ไม่ใช่กินแต่ขนม ยิ่งได้กินฟรีแบบนี้แล้ว อาหารทุกอย่างที่เตรียมมาอาจจะหมดเกลี้ยง ไม่สิ ยิ่งเหนื่อยมากับการว่ายน้ำเมื่อกี้แล้ว อาหารน่าจะไม่พอด้วยซ้ำ
ฉันลุกขึ้นเพื่อเดินตามเซริออกไป เรมิจับข้อมือฉันและดึงเข้าไปกระซิบถามว่า
“ปล่อยเขาอยู่คนเดียวไม่ดีกว่าเหรอ”
ฉันส่ายหน้าและตอบเบาๆไม่ให้พวกไทจิได้ยิน
“ถึงเซริไม่ได้อินโนเซ้นท์เรื่องความรัก แต่เธอไม่สังเกตเหรอว่าเขาต้องการให้มีคนปลอบใจและอยู่เคียงข้างเขา ฉันจัดการเองได้เธอคอยดูพวกนั้นไว้แล้วกัน”ฉันเสริมเมื่อเรมิทำท่าจะตามไปด้วย เธอพยักหน้าและนั่งลงตามเดิม
“โซระ ฉันจะทำยังไงดี ฉันไม่สบายใจเลย ฉันไม่กล้าบอกเขา ฉันไม่มั่นใจว่ารักเขารึเปล่า ฉันกลัวว่าจะเจ็บปวด ฉันไม่เคยมีความรัก”เซริปล่อยโฮออกมาทันทีที่เห็นฉัน ฉันถอนหายใจเบาๆ กะแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ ฉันมาเจอเธอที่สระว่ายน้ำ กำลังล้างหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย ฉันส่งผ้าเช็ดหน้าให้เธอ
“ใจเย็นๆสิ เธอไม่เหมือนเซริหมูแกร่งคนเก่าเลยนะ เธอคิดดูซิว่าแค่เธอยังไม่ทันเจ็บปวด ยังร้องไห้ขนาดนี้ เธอจะร้องทำไม ทำไมเธอไม่กลับมาเป็นคนเดิมแล้วบอกเขาไปตรงๆล่ะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเธอก็ยังมีฉันกับเรมิอยู่ใกล้ๆนี่ ฉันไม่ได้เป็นพวก มีแฟนแล้วทิ้งเพื่อนซะหน่อย”ฉันยิ้มให้เซริเพื่อนซี้ เธอยิ้มออกมาบ้าง
“นั่นสิ ทำไมฉันต้องร้องไห้ บ้าจริงๆเลย”เธอปาดน้ำตาออกแล้วสีหน้าของเธอก็กลับเป็นปกติ
“ไปกันเถอะ ป่านนี้เขาคงกินกันเสร็จแล้ว”ฉันพูดและเดินไปที่ลานกว้าง ที่นั่นเรียวพาทุกคนออกมาแล้ว
“เซริ เดี๋ยวเธอกับฉันต้องไปดูสถานที่เดินทางไกลนะ”เรียวว่าแล้วลากเซริไป ฉันคิ้วขมวดและดึงเธอกลับมา
“เขายังไม่อยากไปไหนกับนายตอนนี้”ฉันว่า
“ฉันมีเรื่องต้องคุยกับอาซึกะ เซริ”เขาตอบ
“ฉันไม่เป็นไรหรอกโซระ เธอพาคนอื่นๆไปที่ทะเลเถอะ”เซริบอกเธอกับเรียวเดินไปที่จักรยานแล้วขี่ลับสายตาไป
ติดตามต่อตอนต่อไปนะจ้ะ
จบตอนที่ 8 ซักที -_-; จะตายเอานะเนี่ยเรา *_* ยังไงก็ช่วยๆกันโหวตและเม้นด้วยนะ^-^ กำลังใจเรากำลังลดลงไปเรื่อยๆแล้ว TToTT เรารู้ว่าบางคนมาอ่านแต่ขี้เกียจเม้น ก็เข้าใจนะคะ แต่ช่วยๆกันหน่อยเหอะ เราเป็นนักเขียนที่ไม่เคยทำอะไรดองเค็มนะคะ (แต่ก็ไม่แน่) ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ โดยเฉพาะ nana aiya, g_j_n แล้วก็พี่ซินกับนอนละเมอด้วย^O^ คอยเป็นกำลังใจให้เราตลอดเลย ขอบคุณนะคะ^0^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น