[OS] Across the Universe : KookGa - [OS] Across the Universe : KookGa นิยาย [OS] Across the Universe : KookGa : Dek-D.com - Writer

    [OS] Across the Universe : KookGa

    ทางเลือกใหม่... โลกใหม... สวัสดีมนุษย์โชคร้ายคนที่สอง

    ผู้เข้าชมรวม

    659

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    659

    ความคิดเห็น


    6

    คนติดตาม


    29
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  23 ต.ค. 60 / 17:09 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    PS. โครงเริ่องอิงมาจากหนังเรื่อง passengers สนุกมากกกไปดูๆๆ ใครเคยดูแล้วเชิญมโนตามได้ค่ะ ใครยังไม่ดูให้ไปดูค่ะดีมาก 10 10 10ไปเลยจ้าาาา








    Across the Universe 



    ... มันมีอะไรมากมายอยู่ภายในใจผม
    ผมไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี
    มันมีแสงสว่างนั้นในดวงตาของคุณที่เติมเต็มความมืดมิด
    แม้ว่าผมจะสูญเสียความเป็นตัวเองไปแล้ว
    ผมรู้ว่ามันจะไม่ใช่จุดจบหรอก 
    คุณหน่ะคือดาวตกของผม
    คุณทำให้หัวใจของผมพองโต...

    ...

    'KG73' ดาวดวงใหม่ห่างจากโลกโดยประมาณ 178,270,000 กิโลเมตร มีขนาดเล็กกว่าโลกเพียงเล็กน้อย หากแต่มีลักษณะทางกายภาพที่เหมือนโลกแทบทุกอย่าง บางทีอาจอุดมสมบูรณ์กว่า ถูกซื้อโดยมหาเศรษฐีเจ้าของบริษัท KG73 ดาวดวงใหม่จึงกลายเป็นอีกตัวเลือกของผู้คนที่ต้องการหนีออกจากความอึดอัดของประชากรโลก และการเดินทางโดยยานที่ดีที่สุดอย่าง BTS1306  จากโลกภายในเวลา90ปี KG73 จึงเป็น ทางเลือกใหม่ โลกใหม่ ชีวิตใหม่... 

    -BTS1306-

    ...เฮือก..

    วินาทีแรกที่ออกซิเจนได้เข้าไปเติมจนเต็มปอด แรงกระตุกจากเส้นประสาทสักเส้นที่ปลุกให้ผมตื่นจากนิทราที่ยาวนาน ..ผมขยับนิ้วมือเบาๆเมื่อเริ่มรู้สึก.. เปลือกตาผมค่อยๆลืมขึ้น แสงที่สาดเข้ามาจนผมต้องหรี่ตาลงอีกครั้ง ผมกระพริบตาถี่ๆจนสามารถโฟกัสภาพตรงหน้าได้ เตียงกระสรวยที่ผมนอนอยู่เปิดออกและปรับระดับจนผมลุกขึ้นมานั่งแทนอย่างกระทันหัน ผมยกมือขึ้นนวดหัวตาตัวเองเบาๆ เพราะยังคงไม่ชินกับแสงสว่าง ไม่รู้ว่านอนไปนานแค่ไหน.. ผมลุกขึ้นจากเตียงกระสวย แล้วมองไปรอบๆห้อง เดินไปตามทางที่ทอดยาว พยายามมองหาสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากผม..

    "ไฮ..มีใครอยู่มั้ยครับ?"
    ...
    "ขอโทษนะครับ มีใคร..อยู่..มั้ย.."

    ผมไม่รู้ว่าตัวผมเป็นอะไร จู่ๆก็เกิดอาการหน้ามืดจนผมหมดแรงเอาดื้อๆ ทั้งๆที่ผมค่อนข้างจะมีสุขภาพที่ดีอยู่เสมอ.. หรือว่าอาจจะเพราะผมหลับนานเกินไป ร่างกายเลยยังไม่ฟื้นดี เข่าที่ทรุดไปทีแรกผมใช้แรงเฮือกสุดท้ายพยายามจะลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ขาผมก้าวต่อไปตามทางที่มีแต่ประตูสีขาวหลายบาน 
    "มี..ใครอยู่มั้ยครับ"
    เสียงผมค่อยๆแหบแห้งลง ตาผมก็ค่อยๆพร่ามัว แรงโน้วถ่วงประหลาดดึงให้ผมดิ่งลงสู่พื้นทันที...

    คุณ...

    ผมขยับตัวเบาๆผิวสัมผัสได้ถึงที่นิ่มๆมันสบายมากกว่าที่กระสวย ผมค่อยๆลืมตาขึ้น และแสงสว่างก็ทำให้ผมแสบตาอีกหน.. 
    ..พอตาจับโฟกัสได้ ภาพห้องที่น่าจะเป็นห้องนอนปรากฎสู่สายตาผม ที่นอนสีขาวสะอาด มีไฟแอลอีดี ที่สว่างออกมาจากหัวเตียง ปลายเตียงมีโต๊ะเล็กๆพอจะนั่งทำงานหรือกินข้าวได้ มองไปอีกทางหน้าต่างขนาดกว้างที่ฉายภาพด้านนอก กาแล็กซี่ เต็มไปด้วยหมู่ดาวมากมาย ย้ำเตือนว่า ผมอยู่บนยานอวกาศ

    "ตื่นแล้วเหรอ"
    เสียงโทนต่ำที่ดังมาจากทางหน้าต่าง ผมหรี่ตามองก่อนจะเห็นแผ่นหลังเล็กบางที่นั่งหันหน้าออกนอกหน้าต่าง ร่างเล็กหันกลับมาทางผม ร่างกายขาวซีดจนตัดกับท้องฟ้าด้านนอก ใบหน้าใสติดหวานจนคล้ายผู้หญิง หากแต่ร่างกายบางนั้นฟ้องว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชาย และไหนจะเสียงต่ำขนาดนั้นอีก.. ผมมองเขาด้วยสายตางงๆแต่ยอมรับเลยว่าแอบใจเต้นตอนเห็นครั้งแรก.. คนอะไรขาวสว่างอย่างกับดวงดาวที่ส่องสว่างข้างนอกนั่น..

    "สวัสดี มนุษย์โชคร้ายคนที่สอง"
    "ผม?"
    "ใช่ นายแหละ จะให้เป็นใครหล่ะก็ในยานนี้คนที่ตื่นมีแค่นายกับฉัน JK. Jeon "
    "คุณ..รู้จักผม?"
    "อือ ฉันรู้จักทุกคนในนี้แหละ และรู้ด้วยว่านายสายตาสั้น ใส่แว่นก่อนสิ ฉันวางไว้ให้ข้างเตียงนั่น"

    ร่างขาวส่งมือชี้ไปที่กล่องแว่นตาของผม ที่เคยอยู่ในกระเป๋าเดินทางของผม.. ผมเอื้อมมือไปหยิบแว่นตาทรงกลมใสมาสวมใส่ ภาพที่เคยเบลอก่อนหน้าชัดเจนขึ้นทันที รวมถึงใบหน้าหวานของคนตรงข้ามนี่ด้วย..

    "ผมยังไม่รู้จักคุณเลย คุณชื่อ?"
    "มินยุนกิ"
    "อ่า..ยุนกิ ทำไมคุณถึงรู้เรื่องของผม แล้วทำไมมีแค่คุณกับผม คนอื่นหล่ะ?"
    "ถามเยอะจัง อ่า..แต่ก็จะตอบให้แล้วกัน ฉันรู้จักนายรวมถึงทุกคนในนี้จากโปรไฟล์ที่กระสวย และที่มีแค่นายกับฉัน เพราะว่าคนอื่นยังไม่ตื่นไง"

    มินยุนกิเอียงคอตอบคำถามผมแล้วยิ้มบางๆให้ ผมที่ยังไม่ค่อยเข้าใจอะไรก็ได้แต่ขมวดคิ้วงงๆใส่อีกคน ท่าทางนั้นคงถูกใจอีกคนหรืออะไรก็ตามแต่ ทำให้อีกคนหัวเราะออกมา ร่างบางลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินเข้ามาใกล้ๆผม เขานั่งลงบนเตียงหันหน้ามายิ้มใส่อีกที 
    "กระสวยผิดพลาด... ของฉันคนแรก และนายคนที่สอง"
    "..."
    "ฉันตื่นขึ้นมาเมื่อปีที่แล้ว อยู่คนเดียวบนนี้ และรู้ความจริงที่ว่า เหลือเวลาอีก70ปีกว่าจะถึงที่หมาย.."
    "งั้นตอนนี้ เราตื่นก่อนเวลาเหรอ แล้วจะทำยังไง?"
    "อือ..จริงๆตลอดเวลา1ปีฉันก็พยายามแล้วแต่ไม่มีทาง... คงใช้ชีวิตอยู่แบบนี้แหละ"
    "นี่มันโคตรบ้า.. ผมก็ต้องทนอยู่แบบนี้หรอ...อีก70ปี.. ผมไม่เอาหรอก"
    "อย่าโวยวายสิ ฉันอยู่มาก่อนนายตั้งปียังไม่บ่นเลย"
    "ก็ผมไม่ใช่คุณ.."

    ผมลุกขึ้นจากเตียงนอน เดินออกจากห้องตามทางเดินยาวๆนี่ ผมเดินหัวเสียกับเรื่องที่รับรู้ ... นี่ผมต้องตายที่นี่จริงๆหรอบ้าไปแล้ว.. ผมเป็นถึงนายช่างใหญ่นะ ยังไงก็ไม่ยอมง่ายๆหรอก.. จอนจองกุก ไม่มีวันยอม..

    ผมเดินมาจนถึงห้องพักของตัวเองตามหุ่นยนต์นำทางมา ตอนนี้ในหัวของผมมีแต่เรื่องหาทางกลับไปนอนในกระสวยดังเดิม ผมเดินค้นของทั้งห้อง จนได้อุปกรณ์ช่างกับคู่มือยานลำนี้ ผมนั่งอ่านคู่มือที่อธิบายสิ่งต่างๆในยาน รวมถึงบอกส่วนประกอบในกระสวย.. พออ่านจนจบผมลุกขึ้นหันไปหยิบอุปกรณ์ช่างที่ผมชำนาญ และเดินออกจากห้องทันที.. ผมต้องกลับไปในกระสวยให้ได้

    ....

    ผมกำลังทำการแยกส่วนประกอบกระสวยออกมาเป็นส่วนๆ จนหมด พยายามหาข้อผิดพลาดแต่กลับไม่พบอะไร พอประกอบกลับไปก็ขึ้น Error  ดังเดิม
    "โถ่เว้ย!!"

    "ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจอีกเหรอ"

    เสียงโทนต่ำเรียกให้ผมหันไปสนใจ คนตัวเล็กเดินตรงมาอยู่ใกล้ๆผมในมือเขาถือถ้วยกาแฟไว้ยกขึ้นจิบแล้วหันมายิ้มให้
    "รู้ว่าซ่อมไม่ได้แต่ยังพยายาม เจ๋งดีนี่ นายช่างจอน"
    "คุณเป็นใคร ผมหมายถึงนอกจากชื่อของคุณ ..อือ อาชีพ?"
    "เป็นครู"
    "ครู? ล้อเล่นหรือเปล่า อย่างคุณอะนะ?"
    ผมหันไปหรี่ตามองคนตัวเล็ก นึกภาพคนคนนี้สอนเด็กไม่ออกเลย ตัวเล็กแบบนี้ใครจะกลัว ผมนึกแล้วหัวเราะออกมา 
    "อือ ฉันเป็นครู ตอนอยู่ที่โลกฉันสอนมหาลัย เห็นงี้ฉันเก่งนะ"
    "อือออ"
    ผมพยักหน้ารับอีกคน อมยิ้มให้คนหลงตัวเองอีกครั้ง ผมก้มเก็บอุปกรณต่างๆกลับเข้ากล่องอุปกรณดังเดิม... สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดตอนนี้คงเป็น ทำตัวให้ชินกับการใช้ชีวิตต่อไปสักพักจนกว่าจะหาวิธีอื่นได้

    "มินยุนกิ"
    "หือ?"
    "นายอยู่คนเดียวในนี้มาปีนึง.. นายอยู่ได้ยังไง?"
    "อืม 1ปี7เดือนแล้วมั้ง ก็อยู่ปกตินะ ตอนแรกก็แทบบ้าเหมือนกันแต่นานๆไปก็ชิน หาไรทำไปเรื่อยแต่ก็ยังเหงาอยู่ดี"
    ผมหันหน้าไปมองคนที่นั่งบนกระสวยข้างๆ ใบหน้าหวานมีทีท่าหม่นไปกว่าตอนแรก บ่งบอกถึงความเหงาจากข้างใน คนคนนี้ต้องเข้มแข็งแค่ไหนกันกว่าจะผ่านมันมาเป็นปี ใบหน้าขาวใสเงยหน้าขึ้นมาสบตาผมพอดี รอยยิ้มบางๆถูกส่งมาให้ผมอย่างน่ารัก

    "แต่ๆไม่เหงาแล้ว มีนายมาอยู่เป็นเพื่อน"

    ผมมองยุนกิก่อนถอนหายใจออกมา จะดีใจดีมั้ยที่ตื่นมาอยู่เป็นเพื่อนคนน่ารักเนี้ยย ...

    ....

    "ยุนกิ ที่นี่มีอะไรให้ทำบ้างนอกจากนอนกับกิน"

    ครบสัปดาห์แล้วกับการใช้ชีวิตอยู่บนยาน ผมเดินสำรวจยานอยู่บ่อยๆ แต่ก็เข้าออกแค่ไม่กี่ห้องมีเพียงห้องนอนผม ห้องนอนยุนกิ ห้องอาหาร ห้องโถง ห้องกระสวย ตอนนี้ผมเลยเบื่อมาก ผมอดทึ่งกับชีวิตประจำวันมินยุนกิไม่ได้ เขาเอาแต่นอน พอหิวก็ลุกขึ้นมากินและกลับไปนอนต่อ เหมือนแมวไม่มีผิด..

    "อยากทำไรหล่ะ ร้องเพลง เต้น ดูหนัง ออกกำลังกาย ดื่ม?"
    "ทำทั้งหมดเลยได้มั้ย ยุนกิพาไปหน่อยสิ"

    ตอนนี้เราอยู่ในยิม หลังจากผมขอร้องให้เขาพาทำอย่างอื่นบ้าง ร่างเล็กก็เดินนำลิ่วมาจนถึงห้องที่อยู่ด้านในสุด เป็นยินขนาดใหญ่ที่ไว้เล่นกีฬาต่างๆ หุ่นยนต์ที่เฝ้าอยู่ด้านหน้าคอยต้อนรับและแนะนำ เพราะเทคโนโลยีที่เหนือชั้นของยานนี้ทำให้ยิมแห่งนี้ปรับเปลี่ยนได้หลายแบบตามประเภทกีฬาที่เลือก และยุนกิก็เลือกเป็นกีฬาบาสเก็ตบอล 

    "ชอบบาส?"
    "ก็นิดนึง แต่เล่นเป็นอย่างเดียวหน่ะ"
    พอตอบคำถามผมเสร็จ เราก็แยกกันไปเปลี่ยนเป็นชุดบาส ยุนกิสวมเสื้อสีขาวไว้ด้านในและทับด้วยเสิ้อบาส ต่างจากผมที่สวมเสื้อบาสเลย เขาดูตัวเล็กกว่าเดิมและกะตือรืนล้นแปลกๆ มือเล็กเอื้อมหยิบเฮดแบนด์ขึ้นสวมแล้วหันมายิ้มให้ผม
    "game on"

    เขาเริ่มเปิดเกมส์และครองลูกบาสในมืออย่างมืออาชีพ ทำเอาผมเลิกคิ้วประหลาดใจก่อนยกยิ้มถูกใจและวิ่งตามเขาไป เราเริ่มเล่นเกมส์กันอย่างสนุกจนกระทั่งจบเกมส์ เขาเอาชนะผมไปได้
    "ไหนว่าชอบนิดเดียวไง นี่มันเอซชัดๆ"
    ร่างเล็กไม่ตอบอะไรเพียงยกไหล่ให้ผมเล็กน้อย ยุนกิส่งขวดน้ำเปล่ายื่นให้ผม 
    "หายเบื่อบ้างยัง"
    "อือ สนุกดี ได้เล่นกับนาย"
    "มีสนุกกว่านี้อีก เหนื่อยยัง?"
    ผมส่ายหัวให้เขาแทนคำตอบ ยุนกิไม่พูดอะไรต่อเพียงแต่เดินไปห้องเปลี่ยนชุดแทน ผมลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามเข้าไป พออาบน้ำเปลี่ยนชุดเสร็จผมก็เดินออกมาเห็นคนตัวเล็กนั่งรออยู่บนโต๊ะหน้ากระจก หันมามองผม
    "พร้อมยัง?"
    "จะพาผมไปไหนครับ?"
    "อือ.. มาเถอะหน่า"
    ยุนกิยื่นมือเขามาจับมือผมแล้วลากตามออกไปด้วยกัน ผมมองมือตัวเองที่โดนมือเล็กอุ่นๆของคนข้างหน้าจับไว้แล้วยิ้มกว้างออกมา ..ไม่รู้ทำไมตอนนี้ยุนกิดูน่ารักจัง

    ยุนกิพาผมเดินออกมาเรื่อยๆจนถึงหน้าห้องห้องหนึ่งพอปลดล็อกประตูเขาไปก็พบกับชุดนักบินอวกาศ 2ชุด และอุปกรณ์ต่างๆของจำเป็นสำหรับนักบินอวกาศ ผมมองรอบห้องจนหันไปสบตาอีกคน ยุนกิยิ้มหวานส่งมาให้ผมตามสไตล์ 
    "ท้าดาา คุณช่างสนใจออกไปเที่ยวอวกาศกับฉันมั้ย?"
    "จะดีหรอยุนกิ มันดูอันตรายนะ"
    "ไว้ใจฉัน~"
    พูดเพียงเท่านั้นก่อนคนตัวเล็กจะดันไหล่ผมให้เดินไปหยุดตรงหน้าชุดนักบินอวกาศ ผมมองอย่างใช้หัวคิดเพียงสักพักก่อนที่จะหันไปเห็นใบหน้าขาวที่ส่งยิ้มมาให้ ใจผมก็พาลเลิดคิดทุกอย่างเอาดื้อๆ ผมหยิบชุดนักบินอวกาศออกมาใส่ ร่างเล็กก็ทำเช่นเดียวกัน ยุนกิหยิบหมวกนักบินชิ้นสุดท้ายที่ต้องใส่ของผมยื่นมาตรงหน้า ผมยืนมือออกไปรับแต่คนตัวเล็กก็ไม่ยอมปล่อย กลับเขย่งเท้าขึ้นให้สูงที่สุดแล้วสวมลงมาให้ผมแทน ผมมองอีกคนงงๆก่อนส่งยิ้มไปให้ ยุนกิชอบทำตัวน่ารักกับผมแบบนี้ ..อันตรายจริงๆ 
    พอเราสวมชุดเสร็จก็เดินไปยืนอยู่ทางออกไปนอกยาน ผมมองออกไปก่อนหายใจแรงๆอย่างกังวล จู่ๆมือผมก็รู้สึกถึงความอบอุ่นอีกครั้ง มือเล็กส่งมาจับมือผมแน่น ผมยิ้มให้อีกคนเบาๆ แล้วมือเล็กอีกข้างที่ไม่ได้จับมือผมก็กดเปิดทางออกจนเราเดินออกมานอกตัวยานกัน ภาพด้านหน้าผมคือกาแล็กซี่ที่กว้างขวาง ดวงดาวมากมายที่เคยเห็นจากพื้นโลกตอนนี้กับมองได้ใกล้กว่าทุกครั้ง ผมตกตะลึงกับความสวยงามของจักรวาล จนมือของคนตัวเล็กจับผมแน่นกว่าเก่า ผมมองอีกคนที่ดูจะชื่นชอบมันมากจนต้องยิ้มตาม ยุนกิหันมามองผมก่อนจะพยักหน้าส่งสัญญาณให้ทันทีที่สายโยงเชื่อมเรากับยานป้องกันเอาไว้ เราทั้งคู่กดเปิดตัวตัดแรงโถง จนร่างเราลอยขึ้นตามสูญญากาศ คราวนี้เป็นผมแทนที่จับมือเล็กเขาไว้แน่นทั้งสองข้างจนเราหันหน้าเข้าหากัน ยุนกิส่งยิ้มมาให้ผม และผมก็ส่งกลับไปทันที
    "สวยเนอะว่ามั้ย"
    ผมมองหน้าเขาภายใต้หมวกนักบินอวกาศ ใบหน้าใสหันมองไปรอบๆตัว
    "อือ สวยครับ สวยมาก"
    "ชอบมั้ย?"
    "ชอบครับ"
    ผมยิ้มกว้างตอบอีกคน ไม่รู้ว่าเพราะความสงบของจักรวาลหรือเปล่า ที่มันเงียบจนกระทั่งผมได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นแรง...มาก.. หรือเพราะใบหน้าสวยของคนตรงหน้ากันแน่ที่ทำใจผมเต้น.. 
    "นี่คุณช่าง มองฉันทำไมขนาดนั้นล่ะ"
    "ก็คุณครูสวยไงครับ"
    "บ้าเหรอ"
    ผมมองอีกคนที่หน้าแดงก่ำ เขาดูเขินเพราะคำพูดผม ผมจับมือเขาแน่นกว่าเดินอีกครั้ง

    "คุณครูยุนกิ คุณเคยบอกว่าคุณเหงาเพราะอยู่เดียว แต่คุณไม่เหงาแล้วเพราะมีผม.."
    "..."
    "และตอนนี้ ผมต้องอยู่ที่นี่ไปอีก70กว่าปี.."
    "..."
    "โดยไม่รู้ว่าจะมีทางรอดมั้ย... ผมโคตรกลัวเลย"
    "..."
    "ยุนกิ..ถ้าคุณมีผมแล้วหายเหงา.."
    "..."
    "ขอให้ผมมีคุณบ้างได้มั้ย.. ให้ต่อไปจากนี้...ผมได้มีคุณข้างๆ ...ต่อให้จะอีก70ปี หรือ100ปี ... ผมอยากให้มีเรา.."
    ผมมองยุนกิด้วยสายตาจริงจัง... ผมมั่นใจแล้ว แค่ผมมีเขาผมก็ไม่กลัวอะไรอีกแล้ว..

    "คุณช่าง ในบรรดาคนที่ร่วมทางมาด้วยกัน ฉันใช้เวลาว่างตลอด1ปีให้กับการทำความรู้จักทุกคน... รวมถึงนาย.. จอนจองกุก"

    "ฉันรู้สึกประทับใจนายทุกๆอย่าง จนแอบคิดว่า อยากให้นายตื่นมาคุยกับฉัน ..ใครจะไปรู้ว่าสวรรคฺ์จะมาได้ยินคำขอของฉันกัน ...ดูสิ วันนี้นายตื่นมาอยู่ตรงหน้าฉันเลย "

    "ถึงแม้มันจะเป็นความผิดพลาด ความโชคร้ายของเรา.. แต่มันก็มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นอยู่ด้วยนะ.."

    ".. เรื่องดีๆของฉันก็คือนาย"

    "นายช่วยอะไรฉันหน่อยได้มั้ย?"
    "ครับ? ได้สิ ให้ผมช่วยอะไร?"

    "ช่วยลบความเหงาที่ผ่านมาของฉันออกไปให้หมด ได้มั้ย?"
    ผมฟังคำพูดของยุนกิที่พูดประโยคยาวๆออกมา ใบหน้าขาวใสแดงก่ำจนผมต้องยิ้มกว้างๆให้อีกคน ใจผมเต้นเหมือนจะหลุดออกมา ภาพกาแล็กซี่ข้างนอกที่ว่าสวยยังเทียบเท่าใบหน้าคนตรงหน้าผมไม่ได้..  เอาแล้วสิ เหมือนจะตกหลุมรักเข้าให้แล้วไงจอนจองกุก .. ผมจับมือเขามาวางไว้บนอกข้างซ้ายของตัวเอง..

    "ผมจะลบความเหงาของยุนกิออกให้หมด และแทนที่ด้วยความรักจากผมแทน.. มินยุนกิ"

    ....

    END

    tky: ฮืออออออชอบบบหนังเรื้องนี้มากจนอดใจไม่ไหว ยาวที่สุดเท่าที่เคยแต่งมา เขินช่างจอน กะ ครูมิน ใครยังไม่ได้ดูแนะนำมากค่ะ ขอบคุณที่หลงเข้ามานะคะะะรักก

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×