คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Kick oFF.......4th Match
เศรษฐพงศ์ขับรถเข้ามาจอดยังสนามซ้อมวันนี้เขามาเร็วกว่าทุกวันเพราะเซเรน่า คนรักต้องการจะมาดูซ้อมด้วยและไปทานข้าวเย็นกันหลังซ้อมเสร็จช่วงนี้เป็นช่วงกลางฤดู การแข่งขันก็เริ่มจะหนักขึ้นและหญิงสาวเองก็มีงานเดินแบบแน่นตลอดเวลาทำให้เวลาได้เจอกันประสาคู่รักนั้นน้อยลงแม้ชายหนุ่มจะเหนื่อยเขาก็ยังอยากจะใช้เวลากับคนรักบ้าง
เต๋าจอดรถไว้หากยังนั่งคิดอะไรเพลินๆอยู่ในรถจนกระทั่งเสียงเคาะกระจกรถดังขึ้น พร้อมใบหน้าสวยแบบลูกครึ่งของแฟนสาวยิ้มและโบกมือให้ มือขาวจึงบิดกุญแจดับเครื่องรถและกดปลดล๊อคประตู
"เต๋ามาแล้วเหรอคะ"ร่างโปร่งบางในชุดเดรสสั้นสีแดงคอปาดเฉียงแนบรัดทุกสัดส่วนอวดโชว์รูปร่างที่ได้รับการดูแลอย่างดีสมกับเป็นนางแบบผมยาวดัดเป็นลอนสวยสีน้ำตาลแกมทองรับกับใบหน้าที่ตกแต่งไว้อย่างดี
"เรน่ามานานแล้วเหรอ" ชายหนุ่มลงจากรถและกดล๊อคตัวรถเปิดยิ้มให้แฟนสาว
"มาถึงก่อนเต๋าแป๊บเดียวค่ะเรน่ากำลังจะขึ้นไปรอบนห้องรับรองพอดีเห็นรถคุณเลยลงมารับ"มือเรียวที่เล็บเคลือบสีทองประกายมุขคล้องเข้ากับแขนแกร่งเอียงใบหน้ายิ้มให้อย่างน่ารัก
"งั้นไปผมไปส่งคุณรอที่ห้องรับรองจะได้ไม่ร้อนเดี๋ยวซ้อมเสร็จเราค่อยไปหาอะไรทานกัน"
"เดี๋ยวค่ะเต๋า คืนนี้ดินเนอร์เสร็จแล้วเราไปต่อกันนะคะเพื่อนๆเรน่าเขานัดกันที่นาร์ซิซัส"เสียงหวานเอ่ยอ้อน
"แต่ผมมีงานพรุ่งนี้ ไว้วันพุธได้ไหมครับ พฤหัสว่าง"
"โธ่เต๋าคะ งานคุณตอนบ่ายนะ ไม่ดึกมากหรอกค่ะ เรน่าสัญญา ไปนะคะเต๋า ไปนะเรน่าอยากควงคุณไปอวดเพื่อนๆ แฟนเรน่าทั้งหล่อ ทั้งเก่ง นะคะ"ใบหน้าสวยซบลงกับบ่าแกร่งกอดแขนกำยำไว้อย่างออดอ้อนราวลูกแมวตัวน้อยสุดท้ายชายหนุ่มก็ใจอ่อนแม้จะอยากพักและไม่ชอบเที่ยวนักแต่เขาก็ไม่อยากให้คนรักน้อยใจยิ่งช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาให้ชายหนุ่มจึงพยักหน้าตกลง
"เรน่ารักเต๋าที่สุดเลย"เซเรน่ากอดคอแกร่งก่อนจะเขย่งตัวขึ้นจูบแก้มสากๆของชายหนุ่มเป็นการให้รางวัลจากนั้นก็ควงแขนคนรักให้เดินไปส่งที่ห้องรับรองและปล่อยให้ชายหนุ่มลงไปซ้อมกับทีม
ใก้ลเวลาเลิกซ้อมเซเรน่าเก็บข้าวของและเดินลงมานั่งรอที่นั่งขอบสนามโบกมือให้คนตัวโตที่หันมายิ้มให้เมื่อเห็นเธอ รอยยิ้มที่ริมฝีปากเลือนไปเมื่อเสียงทักดังขึ้น
“สวัสดีครับ เรน่า มารอไอเต๋าเหรอ” ชายหนุ่มรูปร่างสันทัดท่าทางคล่องแคล่วและหน้าตาที่จัดว่ารูปหล่อคนนึงเอ่ยทักขึ้นพร้อมรอยยิ้ม
“ไม่ให้มารอเต๋าแล้วจะให้มารอใคร” เซเรน่าหันไปอีกด้านแล้วแอบเบ้ปาก กรอกตาขึ้นฟ้าอย่างหน่ายๆไม่ปิดบังเธอเกลียดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และกรุ้มกริ่มของผู้ชายคนนี้ ณัฐวัตร หรือ ต้น ศูนย์หน้าตัวเก่งของทีม เอเอฟ ยูไนเต็ด เรื่องฝีเท้าเป็นที่ยอมรับ แต่นิสัยทะเยอทะยานกับท่าทางที่มองเธอราวกับเสือเห็นชิ้นเนื้อทำให้เธอรังเกียจ
เซเรน่าไม่รู้ว่าถ้าเธอไม่ใช่คนรักของเต๋ากัปตันทีมและเป็นลูกสาวประธานสโมสรผู้ชายคนนี้จะสนใจเธอไหม
“ผมนั่งรอเป็นเพื่อนดีไหม เรน่าจะได้ไม่เหงา” ร่างสูงในชุดนักกีฬาเต็มตัวทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ยาวตัวเดียวกับที่เซเรน่านั่งอยู่ ณัฐวัตรเป็นนักบอลที่แฟชั่นจ๋าไปทั้งตัวเพราะทรงผมที่เซ็ทไว้ไม่กระดิกสักเส้นรองเท้าที่มีลวดลายพิเศษแบบลิมิเต็ด ต่างจากเต๋าซึ่งปล่อยทุกอย่างเป็นธรรมชาติซึ่งเธอหลงรักเขาเพราะสิ่งนั้น
“ฉันไม่เหงาหรอก คุณไม่ต้องซ้อมหรือไง” เซเรน่าขยับตัวออกห่างเอ่ยถาม
“ผมเจ็บ ซ้อมแค่ยืดเส้นยืดสายไม่ต้องลงสนาม” น้ำเสียงคนพูดมีแววขุ่นเคือง
“นี่คุณเจ็บต้นฤดูกาล กลางฤดูกาล แล้วท้ายฤดูกาลละ คงจะเหมือนกันสินะ” เสียงหญิงสาวและแววตาที่มองมามีแววหมิ่นอย่างเปิดเผย ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นมองคนรักในสนามด้วยสายตาชื่นชม
“ผมเจ็บเพราะไอเต๋า ถ้ามันไม่เปิดบอลมาห่วยๆคงไม่ต้องโดนสกัดจนกล้ามเนื้อข้อเท้าอักเสบแบบนี้”
“คุณนี่มันน่าทุเรศจริงๆ ตัวเองพลาดเองยังพาลไปโทษคนอื่น เพราะแบบนี้ไง ฉันถึงได้ไม่เคยคิดจะแลคุณเลย ไม่ว่าคุณจะพยายามแค่ไหน” พูดจบร่างเพรียวของเซเรน่าก็ลุกยืนขึ้นเต็มความสูงร่างโปร่งบางบนรองเท้าส้นสูงแหลมปรี๊ด ยืนขึ้นราวกับตอกย้ำคำที่พูดกับอีกคน ก่อนจะสะบัดหน้าเดินไปหาเศรษฐพงศ์ที่โบกมือและวิ่งมาหาจากครึ่งสนาม
“แล้ววันนึงเธอจะเสียใจที่ไม่เลือกฉัน” ณัฐวัตรนั่งนิ่งหากสองมือบีบเข้าหากันแน่นจนแทบจะแหลกมองตามแผ่นหลังและเรือนร่างสูงระหงส์ที่เดินจากไปอย่างแค้นใจ
เสียงเพลงดังผู้คนมากมายเบียดกายเข้ามาในสถานบันเทิงกลางเมืองชื่อดังยามค่ำคืน ในมือแต่ละคนล้วนมีแก้วเครื่องดื่มน้ำสีสวยที่ชวนให้มัวเมา และหลายคนโยกย้ายไปตามเสียงเพลงอย่างมีความสุขเสียงตะโกนคุยกันดังซังแซ่ฝ่าเสียงอึกทึกของเพลงเพื่อคุยกัน
เซเรน่าควงแขนเศรษฐพงศ์เข้ามาสายตาเกือบทุกคู่ต้องหันมาจ้องมองเพราะเป็นคนมีชื่อเสียงและหน้าตาที่สะดุดตาชายหนุ่มหลายคนยกแก้วเหล้าให้นางแบบสาว และหญิงสาวหลายคนมองร่างแข็งแกร่งของกัปตันทีมตาหวาน ร่างโปร่งระหงส์ควงแขนคนรักเข้าไปยังที่นั่งด้านในที่จองไว้แล้วโดยเพื่อนสาวๆของเธอโต๊ะใหญ่
สาวกรี๊ดกร๊าดกันทันทีที่เห็นหนุ่มหล่อนักฟุตบอลคนดังที่ถูกควงเข้ามา ใบหน้าสวยของนางแบบสาวยิ้มอย่างภูมิใจดันคนรักให้นั่งลงบนโซฟาด้านนึงและตัวเองเบียดลงข้างกัน
“เรน่ามาเร็วกว่าที่คิดนะ สั่งอะไรรองท้องก่อนไหมจ๊ะ” เพื่อนนางแบบสาวหน้าเฉี่ยวเอ่ยทักขึ้นพลางส่งเมนูให้
“เต๋าทานอะไรก่อนดีคะ ซ้อมมาเหนื่อยทานข้าวก่อนเนอะ” หญิงสาวหันมาหาคนรักเอ่ยเอาใจ
“ก็ดีครับ เรน่าจะเอาอะไรเดี๋ยวจะได้สั่งทีเดียว”
“ขอสลัดทูน่าแบบเย็นแล้วกันค่ะ เรน่าไดเอท”
“หุ่นเธอยังต้องไดเอทอีกเหรอยัยเรน่า ผอมจนปลิวอยู่แล้ว” วีวี่เพื่อนอีกคนที่นั่งอยู่กับแฟนหนุ่มนักธุรกิจหันมาแซวบ้างและส่งยิ้มให้เต๋า
“ไม่ได้หรอก อ้วนขึ้นมาตั้งเกือบโลแล้ว ถ้าฉันอ้วนแผละขึ้นมาทำไง”
“กลัวคุณเต๋าไม่รักเหรอ บอกหน่อยสิคะ ถ้ายัยเรน่าอ้วนเป็นตุ่มขึ้นมาคุณจะทิ้งไหม” เสียงกิ๊วก๊าวแซวชายหนุ่มดังขึ้นใบหน้าสวยหันไปมองคนรักอย่างรอคำตอบ
“ผมแล้วแต่เรน่า อยากจะอ้วน จะผอมได้ทั้งนั้น” เต๋าตอบยิ้มๆ ขณะสั่งอาหารกับบริกรที่เดินเข้ามาบริการโต๊ะลูกค้าวีไอพีทันที
“ว้าย น่าอิจฉายัยเรน่าจังที่มีแฟนแบบนี้ โอ้ยชาตินี้ ริต้าจะหาได้ไหมเนี่ย” นางแบบสาวหน้าเฉี่ยวคมเอามือกุมอกทำสีหน้าอิจฉาอย่างโอเวอร์แอคติ้งเรียกเสียง กิ๊วก๊าวแซวของเหล่าสาวๆบนโต๊ะได้อย่างดี
“เต๋าสั่งอะไรคะ ข้าวผัดหมูเนี่ยนะ โอ้ยกินอะไรธรรมดาจัง” หญิงสาวย่นจมูกเมื่อเห็นเมนูแสนจะธรรมดาของแฟนหนุ่มของเธอ ต่างกับชายหนุ่มอีกคนบนโต๊ะที่เป็นสเต็กเนื้อสันนอกอย่างหรูบ่งบอกรสนิยม
“ก็ผมอยากทานนี่ แล้วมากับเรน่าที่นี่จะให้ไปสั่งป้าร้านข้างทางเหรอ” ชายหนุ่มเอ่ยตอบเจือหัวเราะ เขารู้แฟนสาวของเขาเคยชินกับของหรูหราเพราะเติบโตมากับมันจึงไม่ได้เก็บมาคิดอะไรมาก และไม่ทันสังเกตถึงเสียงถอนใจเบาๆของหญิงสาวข้างกายด้วยซ้ำ
เศรษฐพงศ์นั่งดื่มเล็กน้อยรอแฟนสาวที่กำลังเต้นอย่างสนุกสนานกับเพื่อน เขาไม่ดื่มเยอะเพราะต้องขับรถและมีงานที่ต้องทำในวันรุ่งขึ้น ใบหน้าคมขมวดคิ้วเมื่อเห็นชายหนุ่มร่วมโต๊ะนักธุรกิจหนุ่มที่เป็นแฟนกับเพื่อนนางแบบของเซเรน่าเดินมาเต้นกับคนรักของเขาและชนแก้วอย่างใก้ลชิด ขณะที่วีวี่ หรือ วิเวียนคงจะไปเข้าห้องน้ำ
ชายหนุ่มคนนั้นเบียดกระแซะโอบเอวแฟนสาวของเขาจนดูน่าเกลียด เศรษฐพงษ์กระแทกแก้วเหล้าลงบนโต๊ะแล้วลุกขึ้น เดินตรงไปยังมุมด้านนึงที่สาวๆเต้นกันอยู่อย่างไม่ค่อยพอใจนัก
“ขอโทษนะครับ เรน่ากลับได้แล้ว” เต๋าบอกพร้อมแทรกกลางระหว่างคนรักกับชายอื่นก่อนจะออกแรงดึงร่างบางให้เดินตาม
“อะไรคะเต๋าเพิ่งจะห้าทุ่มครึ่งเองนะ ไม่เอาเรน่ายังไม่กลับ” หญิงสาวร้องประท้วงเสียงโอด
“กลับได้แล้ว ผมไม่ชอบให้ไอแฟนเพื่อนคุณมาเต้นถึงเนื้อตัวขนาดนี้ ถ้าคุณวีวี่มาเห็นจะว่าไง”
“โธ่เต๋าคะ คุณธวัชเขาเป็นเด็กนักเรียนนอกก็เลยชินกับวัฒนธรรมแบบนี้ ไม่มีอะไรหรอก”
“แต่เราเป็นคนไทยและผมก็ชินกับวัฒนธรรมไทย ที่สำคัญผมเป็นแฟนเรน่านั่งอยู่ตรงนี้ทั้งคนนะ”
“โอ้ยเต๋า คุณไดโนเสาร์เต๋าล้านปี น่าเบื่อที่สุด” หญิงสาวเริ่มแหวอย่างไม่พอใจ
“กลับเรน่า” ชายหนุ่มยัดกระเป๋าสะพายใส่มือแฟนสาวและดึงให้เดินออกมาจากผับโดยไม่คิดจะล่ำลาใครทั้งนั้น
บรรยากาศบนรถเงียบมาตลอดทางใบหน้าสวยบึ้งตึงขัดใจนั่งกอดอกเชิดหน้าออกไปจากรถของชายหนุ่มที่มุ่งตรงสู่คอนโดหรูของเธอ หญิงสาวหงุดหงิดใจกับรถญี่ปุ่นยี่ห้อเกลื่อนที่วิ่งทั่วไปของคนรักบอกให้เปลี่ยนก็ไม่ยอม วันนี้ยิ่งทวีความหงุดหงิดให้เธอมากขึ้นเมื่อรถขับเข้ามาที่คอนโดหรูหราของเธอที่เต็มไปด้วยรถยุโรปสปอร์ตราคาแพง เมื่อมาจอดเทียบกัน ยิ่งทำให้รถยนต์ของคนรักดูราคาถูกกว่าที่ควรจะเป็น
“ถ้าคุณไม่อยากพูดกับผม ผมกลับก่อนก็ได้ แต่รู้ไว้ว่าผมหึงหวงคุณกับคนอื่นได้ผมมีสิทธิ์นะเราเป็นแฟนกัน” เต๋าอธิบายเสียงห้าว ไม่ได้อ่อนหวานเอาใจเหมือนเคยแสดงให้เห็นชัดว่าเขาโกรธจริง
“เรน่าขอโทษก็ได้ค่ะ ลืมไปว่าเต๋าไม่ชินตอนอยู่เมืองนอกเขาไม่ถือกันหรอกค่ะ เพราะถือว่าเราเท่าเทียมกันทั้งชายหญิง”
“แต่ผมถือ สุภาพบุรุษต้องให้เกียรติผู้หญิง ที่สำคัญคุณธวัชเป็นแฟนเพื่อนเรน่า ไม่ควรมาทำแบบนี้” เมื่อชายหนุ่มแข็งเอาจริงเซเร่น่าก็ตัดสินใจยอมอ่อนให้ เพราะรู้ดีว่าถ้าเต๋าโกรธแบบนี้ไม่มีวันมาง้อเธอก่อนแน่นอน
“ค้างที่นี่นะคะ เรน่าขอโทษ ต่อไปจะไม่ทำแบบนี้อีกนะ” มือเรียวจับกุมต้นแขนแกร่งคนรักบีบอย่างเอาใจ และยิ้มออกมาเมื่อชายหนุ่มพยักหน้าและถอยรถเข้าที่จอดประจำ
“อือ อะ” เสียงเครื่องปรับอากาศดังคลอเครือไปกับเสียงลมหายและเสียงการเคลื่อนไหวเสียดสีกายของผิวเนื้อสะท้อนไปทั่วห้องนอนหรูหราเย็นฉ่ำไปด้วยเครื่องปรับอากาศราคาแพงหากแต่สองร่างที่ขับเคลื่อนไหวกันอยู่บนเตียงกว้างกับกำลังร้อนรุ่มจนหยาดเหงื่อไหลซึมไปทั่วร่าง
ร่างขาวเปลือยเปล่านอนหงายหอบหายใจเพราะความซ่านเสียวที่ถูกปรนเปรอจากร่างเพรียวบางระหงส์ที่กำลังขับเคลื่อนกายอยู่เหนือร่างแกร่ง เรือนร่างได้ส่วนของนางแบบสาวขยับไหวขึ้นลงเป็นจังหวะบีบรัดพร้อมเสียงครางที่หลุดออกมาจากปากสีสวยที่อ้าออก หงายเอนกายไปข้างหลัง แขนเรียวเท้าลงกับหน้าขากำยำ
“อื้อ เต๋า” ร่างงามเย้ายวนเคลื่อนกายส่ายไหวเป็นจังหวะรุนแรงขึ้นกระแทกกระทั้นเอวบางสะโพกมนลงกับตัวตนที่กำลังตื่นตัวของชายหนุ่มที่รอรับอยู่เบื้องล่าง จนได้ยินเสียงเนินเนื้อกระทบกันชัดเจนพาให้อารมณ์ที่ลุกโชนยิ่งกระเจิดกระเจิง
“อ้ะ...อ๊า” เสียงหวานกรีดครางเมื่อไปถึงจุดหมายพร้อมๆกับแรงบีบรัดที่ชักนำให้อีกคนปลดปล่อยไปด้วยกันร่างงามขยับกายออกจากร่างแกร่งอย่างรวดเร็วเมื่อถึงปลายทางเซซบลงกับอกกว้างที่สะท้อนขึ้นลง
“กลัวเหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยปนเสียงหายใจถามคนที่ซบอยู่บนอกแกร่ง
“กลัวสิคะ เรน่ายังไม่อยากท้องหรอกนะ เชปเสียหมด”ร่างเนียนปล่าวเปลือยไถลจากร่างแกร่งลงนอนข้างกันมือเรียวลูบไล้ทั่วอกกว้างอย่างพอใจกับกล้ามเนื้อแข็งแรงได้รูปชายหนุ่มสร้างความพึงพอใจให้เธอทุกครั้งที่มีอะไรกันความแข็งแรงและร้อนแรงของเต๋าทำให้เธอหลงใหล ใบหน้าที่หล่อเหลาราวเทพบุตร เสียแค่ฐานะที่แตกต่างกันแต่ก็มีชื่อเสียงที่โด่งดังทดแทนให้เธอควงได้ไม่อายใคร
“ยังไงผมก็รับผิดชอบอยู่แล้วนะ” มือใหญ่กอดร่างบางลูบผมยาวที่แผ่สยายอย่างอ่อนโยน
“ก็ลองไม่รับสิคะ เรน่าจะอาละวาดให้” หญิงสาวบีบปลายจมูกโด่งคมของชายหนุ่มสั่นไปมาเอ่ยดุๆเสียงทุ้มเพียงแต่หัวเราะและดึงร่างเพรียวมากอดไว้ก่อนจะหลับใหลกันไปทั้งคู่
คชาเข้ามาที่บริษัทแต่เช้าวันนี้มีแค่คุยงานแต่เขาอยากมาใช้เครื่องดนตรีดีดีที่นี่เพื่อแต่งเพลง
ร่างบางเข้าไปทักทายทีมโปรดิวเซอร์ที่นั่งกินมาม่ากระป๋องมีไส้กรอกยี่ห้อดังที่ตัวเขาเป็นพรีเซ็นเตอร์ของสปอนเซอร์รายใหญ่ของค่ายวางอยู่เกลื่อนโต๊ะถัดไปก็เป็นกองกระดาษสมุดจดงานจดเพลงต่างๆ ทีมโปรดิวซ์เซอร์สามคนยกมือทักทายนักร้องของตัวเองขยับที่ให้นั่งบนโซฟา
"ชากินข้าวมายัง มาม่ายังมีนะ ไส้กรอกแกเพียบเลย"พี่ยุทธหัวหน้าทีมโปรดิวเซอร์เอ่ยบอกขณะที่มือยังคีบเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปด้วย
"ไม่ละครับ ผมกินมาจากที่บ้านแล้ว"คชานั่งลงตรงที่ว่างข้างเอกสารหยิบกระดาบปึกที่เป็นเนื้อเพลงและแผนงานของเขามานั่งเปิดดู
"ขนมก็มีนะในตู้เย็นเล็กห้องพี่ยุทธ ไปเอามากินดิ เค้กของ อมอร์" พี่สาโปรดิวเซอร์หญิงเหล็กร่างเล็กแต่เสียงใหญ่วางมาม่ากระป๋องที่สองลงบนโต๊ะแล้วจิ้มไส้กรอกเข้าปากบอกขึ้นมาบ้าง
"ไอสา แกจะใช้น้องมันไปหยิบให้ใช่ไหม อยากกินเองก็บอกมา ไอท้องหลุมดำ"พี่กันอีกหนึ่งในทีมเอ่ยแซวขึ้น
"อะไรไอ้กัน หาความฉัน แต่ชาไปหยิบให้หน่อยดิ"คนตัวเล็กแต่กระเพาะไม่เล็กหันมายิ้มกะลิ้มกะเลียให้เรียกเสียงหัวเราะและเย้ยหยันของคนในห้องได้อย่างดีคชาเพียงหัวเราะคลอแล้วลุกไปเอาให้รุ่นพี่
"กินแบบนี้ ใครจะเลี้ยงไหวอะพี่สา ตัวเท่ามด แต่กินเท่า"คนตัวเล็กเดินถือเค้กมายื่นให้อดเอ่ยปากไม่ได้เมื่อเห็นไส้กรอกถุงใหม่กำลังถูกราดซอสโดยโปรดิวเซอร์หญิงร่างเล็ก
"ไม่ต้องเลี้ยงฉันเลี้ยงตัวเองได้แกนั่งดูงานแกเลยแพลนซิงเกิ้ลต่อไปฉันร่างโครงไว้แล้วแกอยากได้อะไรเตรียมไว้นะ"
"เรื่องแต่งเพลงไม่ต้องรีบนะเพราะซิงเกิ้ลนี้ยังโปรโมทไม่เสร็จทำไปเรื่อยๆ พี่อยากได้แนวสดใสนะเปิดตัวเพลงแรกมันเศร้าไป ชุดสองอยากให้มันแตกต่างกันไปแต่ถ้าแต่งไม่ทันหรือไม่ไหวบอก เดี๋ยวเอามาให้เลือกกสองสามเพลง"
"กำลังหาแรงบันดาลใจอยู่ครับพี่" คชาตอบขณะที่มองแพลนงานในมือไปด้วยเขาค่อนข้างโอเคและสบายใจในการทำงานกับพี่ๆทีมนี้เพราะทุกคนจะให้อิสระในการทำงานให้เขาเป้นตัวเขาโดยไม่ได้สร้างบุคคลิคใหม่หรือเปลี่ยนตัวเองตามแบบที่บางบริษัททำกัน
"สวัสดีครับ คุยอะไรกันอยู่"เสียงนำมาก่อนประตูห้องจะเปิดออกพร้อมกับร่างสันทัดของ ตี๋ วิวิธนักร้องรุ่นพี่เดินเข้ามา
"พี่ตี๋กำลังอยากเจอเลยอะ" คชาทักขึ้นเสียงใสขยับที่ให้ตี๋นั่งลงข้างๆ
"แกจะเอาตั๋วบอลใช่ไหม" ตี๋เอ่ยถามอย่างรู้ทัน
"ใช่พี่ ปกติต้องไปขอที่ไหนอะถ้าอยากดู" คชาเอ่ยถาม
"ศิลปินของบริษัทได้สิทธิ์ที่นั่งวีไอพีอยู่แล้วแค่โชว์หน้าแกก็เข้าไปได้แล้ว"ตี๋พูดพลางมองหน้าใสที่ดู งงๆแล้วหัวเราะ
"จริงเหรอพี่"
"ข้าโกหก เอานี่บัตรเบ่ง ปกติแกให้พี่เออาร์ไปขอเฮชอาร์มาให้แกก็ได้บัตรไม่ต้องแย่งกกันมากเพราะนักร้องๆสาวๆเขาไม่ดูบอลอยู่แล้ว"
"มาถึงก็ไม่หยุดพูดเลยนะไอตี๋" พี่ยุทธเอ่ยแซวขึ้น
"โธ่พี่ แนะนำสิ่งบันเทิงของบริษัทให้น้องมันหน่อย พี่ใช้งานมันไม่ให้มันเปิดหูเปิดตามีอย่างเหรอเป็นนักร้องของบริษัทเราไม่รู้จังทีมของบริษัท"
"โธ่พี่งานมันยุ่ง ว่าแต่นัดพรุ่งนี้พี่ไปดูปะ" คชาทำอย่างกระตือรือร้นเพราะเขาเองว่างงานและอยากไปแต่ก็ขลาดเกินกว่าจะไปคนเดียว
"ไปสิ บอกไอเต๋าไว้แล้ว"
"ผมไปด้สยนะพี่"
"เออ ดีดีไปด้วยกันเจอกันที่สนามเลยนะ"
"ฮะๆ"
“โอ้ยมัวแต่นอกเรื่อง พี่โน๊ตให้มาบอกว่างานกีฬาของบริษัทปีนี้ให้เริ่มลงชื่อได้แล้ว และไอชาในฐานะศิลปินหน้าใหม่สุดฮอท พี่โน้ตจะให้แกลงเตะบอลด้วยปีนี้แฟนๆจะได้ซื้อบัตรกันมาเยอะๆ”
“แข่งกับ AF United เหรอพี่จะไหวเหรอ” ร่างเล็กร้องถาม
“อะไรเขาก็แข่งกันทุกปี แต่ปีนี้พิเศษเพราะ นักบอลอาชีพ กับ ศิลปินจะคละกัน แล้วแบ่งสองสีโดยการจับฉลาก ไม่เหมือนทุกปีที่ศิลปินก็ศิลปิน นักบอลก็นักบอล”
“แล้วมีใครลงบ้างวะ ตี๋” กันที่นั่งเงียบอยู่นานถามขึ้นบ้าง
“ฝั่งศิลปินจะมี ผม เจ้าชา รอน พี่ณัฐ ไอต้อล เอิร์ธ บอส ไบร์ทแล้วก็พวกเออาร์กับทีมอื่นๆแล้วแต่จะลงอะพี่เดี๋ยวพี่โน้ตคงเรียกประชุมอีกครั้งเพื่อบรีฟงาน แล้วก็ต้องจับฉลากด้วยว่าจะได้อยู่ทีมไหม เขียวกับแดงพี่”
“เออ ปีนี้น่าสนุกอะ มีอะไรใหม่ๆ ตอนซ้อมทีมสาวๆบริษัทเราคงยกขบวนไปเต็มที่เหมือนเดิม กระทบไหล่นักบอล แปลกนะนักบอลทีมบริษัทเราหน้าตาดีซะเกือบครึ่งทีมสมเป็นทีมบอลของบริษัทบันเทิงจริงๆถ้าไม่มีฝีมือขนาดนี้ คงโดนค่อนขอดว่าคัดหน้าตามาแหงมๆ”
“ไอสาวๆบนแสตนด์เขาสนกัปตันทีมและนักบอลมากกว่าเกมส์ในสนามซะอีก” หนุ่มๆในห้องก็ประสานเสียงหัวเราะ
“นินทาผู้หญิง ก็ไม่ใช่ไอกองเชียร์สาวๆเหรอที่พาให้ทีมดัง กองเชียร์เยอะและเรียบร้อย หนุ่มๆอะเขาหลงไหลความเก่งก็หมั่นไส้ความหล่อ” หนึ่งสาวคนเดียวในห้องรีบเอ่ยค้าน
“โอ้ยใครว่าพี่สา กองเชียร์สาว ลีดเดอร์เซ็กซี่นี่แหละกำลังใจสำคัญของนักบอลอย่างพวกผม” ตี๋และกันเอ่ยขึ้นพร้อมกันอย่างทะเล้น
จากนั้นทุกคนก็นั่งพูดคุยกันอีกสักพักก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงาน คชารับบรีฟงานแล้วก็ไปใช้ห้องอัดลองอัดเพลงและมีอัดสปอร์ตสั้นๆโปรโมทซิงเกิ้ลกับรายการของช่องต่อช่วงเวลาว่างๆจากการรอเวลาทำงาน คชาแอบคิดถึงพี่ชายในอดีตที่เวลานำพาให้เขาได้กับมาเจอ ฮีโร่ที่อยู่ในหัวใจตลอดมาคนนั้นอีกครั้ง รอยยิ้มมักจะติดขึ้นมาที่ใบหน้าใสทุกครั้งแบบที่เจ้าตัวก็ไม่รู้
สนามฟุตบอล เดอะเน็ท เป็นเหมือนทุกทีคือคนแน่นขนัดแม้นัดนี้จะไม่ได้หนักอะไรเพราะพบกับทีมล่างของตารางการแข่งขันและยังได้เป็นเจ้าบ้านแต่กองเชียร์ก็ยังมาให้กำลังใจกันจนสีแดงพราวไปทั่วอัฒจันทร์กลางสนามหญ้าสีเขียวที่หญ้าเริ่มบางตาเพราะแข่งกันมาเกือบครึ่งฤดูกาลแล้วกำลังได้รับการเตรียมเพื่อการแข่งขันที่กำลังจะเริ่มขึ้น
คชามาถึงก่อนเวลาลงแข่งเล็กน้อยเขาตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก พี่ตี๋ยังมาไม่ถึงร่างบางเดินเข้ามาคนเดียวฝั่งอัฒจันทร์ของกองเชียร์เดอะเน็ท แต่เมื่อยื่นบัตรที่พี่ตี๋ให้มาเจ้าหน้าที่ตรวจบัตรก็ให้หญิงสาวคนนึงพาเขาลอดใต้อุโมงค์ด้านล่างเพื่อขึ้นสแตนวีไอพีจากในสนาม
นักฟุตบอลและเจ้าหน้าที่สนามดูวุ่นวายสีแดงของทีม AF United และ สีฟ้าขาวของอีกทีมซึ่งคชาไม่แน่ใจว่าเป็นทีมอะไรเพราะตัวเขาเองก็ไม่เชี่ยวชาญด้านฟุตบอลลีกของไทยนัก หญิงสาวมาส่งเขาที่ทางขึ้นและขอถ่ายรูปพร้อมลายเซ็นก่อนจะจากไป บนแสตนด์วีไอพีมีคนนั่งอยู่แล้วสองสามคนเป็นพนักงานในบริษัทที่เขารู้จักจึงไม่เขินมากนักเมื่อเดินขึ้นไปนั่งเก้าอี้หมายเลขเดิม 23 ที่ยังว่างรอเขาอยู่
ร่างบางนั่งเท้าคางมองความวุ่นวายและสดับฟังเสียงเชียร์โห่ร้องอย่างตั้งใจร่างขาวจัดในชุดเสื้อกล้ามแขนกุดกับกางเกงบอลของทีมโผล่ออกมาตรงหน้าอัฒจันทร์วีไอพีที่เป็นเกาอี้นั่งของผู้จัดการทีมเพื่อมาคุยอะไรบางอย่างกับเจ้าที่ข้างสนามและดูเหมือนจะยังไม่มีใครมองเห็นเขา หากแต่คชามองเห็นอย่างชัดเจนกลีบปากบางเผยอยิ้มออกมาอยากจะร้องเรียกออกไปแต่ก็ไม่กล้าพอจึงเพียงแค่มอง
“อ้าวคุณนักร้อง” เสียงทุ้มห้าวตะโกนทักขึ้นมาเรียกเขาออกจากภวังค์หัวใจเต้นแรงจนเผลอสะดุ้ง
“ฮะ” เมื่อไม่รู้จะทำยังไงดีคชาจึงร้องทักตอบไปพร้อมโบกมือให้
“ถ้าผมยิงได้วันนี้ต้องเห็นคุณลุกขึ้นเซิ้งนะ” คนตัวสูงยังไม่เดินกลับไปแต่หยุดตะโกนคุย
“ขอให้ยิงได้ก่อนเถอะ ผมจะลุกขึ้นเซิ้งแน่ๆ” คชาโต้กลับน้ำเสียงหมั่นไส้แต่ใบหน้าใสกลับเกลื่อนด้วยรอยยิ้ม
“เตรียมตัวไว้เลยครับ” ร่างสง่ายกมือขึ้นตะเบ๊ะใส่และโบกมือให้พร้อมรอยยิ้มก่อนจะวิ่งหายเข้าอุโมงค์ไปเพราะใกล้เวลาแล้ว
กัปตันทีมตัวโตเดินหายเข้าไปในอุโมงค์แล้วหากแต่รอยยิ้มบนใบหน้ากลับไม่ได้จางหายไปด้วยตาคู่สวยยังคงมองตามไปทางที่อีกคนเดินไป ความรู้สึกอุ่นซ่านแผ่ไปทั่วเพราะรอยยิ้มและการโบกมือครั้งนี้มันเป็นของเขาจริงๆ ไม่ใช่แบบครั้งแรก คชาคว้าสมุดเล่มเล็กที่พกติดตัวขึ้นมาและขีดเขียนอะไรบางอย่างลงในนั้น
“เฮ้ย ชาพี่มาแล้วโทษทีว่ะงานเลท แถมรถติดบรรลัยเลย” เสียงห้าวดังของรุ่นพี่คนสนิทดังขึ้นก่อนร่างหนาจะทรุดตัวลงนั่งเคียงข้าง
“มาทันพอดีพี่ ใกล้เริ่มแล้วแหละ” คชาเงยหน้าขึ้นตอบก่อนจะเก็บสมุดโน๊ตใส่กระเป๋าสะพายข้างของตัวเองและยืดตัวขึ้นเมื่อเสียงสัญญาณในสนามเริ่มดังขึ้นบอกเวลาเริ่มเกมส์
ได้เวลาแล้วนะครับสำหรับเกมส์การแข่งขันนัดนี้ AF United จัดลงฟูลทีมเปิดบ้านให้เกียรติทีมที่ลุ้นหนีตกชั้นท้ายตาราง อย่างทีม พัทยายูไนเต็ด หรือ โลมาฟ้าขาว นักกีฬาทั้งสองทีมเดินลงสนามแล้วนะครับ เกมส์การแข่งขัน พัทยายูไนเต็ดจะเป็นคนเริ่มเขี่ยลูกก่อน เกมส์เริ่มแล้วครับ
ทีมเจ้าโลมาไม่เกรงศักดิ์ศรีทีมลุ้นแชมป์เริ่มเปิดเกมส์บุกเต็มที่ศูนย์หน้าของทีมวิ่งไปจะได้จังหวะยิงแล้วครับแต่ถูกน้ำแข็งมิดฟิลล์ตัวรับคนเก่งของ อินทรีย์ผยอง สกัดไว้ได้ทัน และเปิดบอลให้กับทีมตัวเอง เสียงหวีดร้องมาแล้วทุกคนเมื่อกัปตันทีมอินทรีย์หิมะได้บอลและหลุดเดี่ยวเข้าไปยังแดนหน้าของเจ้าโลมา ง้างเท้าแล้วครับ โอ้ย!! โดนกองหลังฝ่ายตรงข้ามเข้าสกัดบอลจากข้างหลังจนล้มกลิ้งลงไปในสนาม กรรมการแจกใบเหลือฝั่ง พัทยายูไนเต็ดและให้ฟรีคิกกับทาง อินทรีย์ผยองแทน
คชานั่งดูนั่งไม่ติดเก้าอี้เขาลุ้นพี่ชายจนผุดลุกผุดนั่งชะเง้อ ชะโงก เพื่อจะมองให้ชัดเจนทั้งที่ที่นั่งตัวเองนั้นเห็นเกมส์ในสนามชัดอยู่แล้ว ร่างเล็กตกใจเมื่อฝ่ายตรงข้ามวิ่งเข้าเสียบสกัดจากด้านหลังจนร่างสูงขาวกลิ้งล้มลงไปกับพื้น และชะงักอยู่สักพักด้วยอาการเจ็บข้อเท้า เมื่อเห็นว่าแพทย์สนามลงไปดูและฉีดพ่นสเปรย์คลายกล้ามเนื้อให้และกัปตันทีมคนเก่งก็ลุกขึ้นมาได้ก็โล่งใจจนอดขำอาการตัวเองไม่ได้ ถ้าจะลุ้นขนาดนี้
“ชาแกลุ้นไปนะ นี่ไม่ใช่เชลซีกะแมนยูนะเว้ย”
“โอ้ย มันตื่นเต้นอะพี่”
“เออ แต่ฝ่ายตรงข้ามมันเกินไปเล่นแรงจริงๆ” วิวิธส่ายหัวกับการเล่นแบบถึงลูกถึงคนของฝ่ายตรงข้ามก่อนจะสนใจเกมส์ในสนามต่อ
เอาละครับตอนนี้ฝ่าย อินทรีย์ผยองได้ลูกฟรีคิก กัปตันทีมเดินไปจะเตะเอง แต่ ณัฐวัตร ศูนย์หน้าของทีมเดินมาถึงลูกก่อน อะไรยังไงครับเหมือนไม่ได้นัดกันมา เบนจมินทร์ทำท่าจะเข้าไปคุยแต่ กัปตันทีมดึงเอาไว้และเดินไปยืนหน้าประตูด้วยกันเพื่อรอรับลูกฟรีคิกแทน ศูนย์หน้าของทีมง้างเท้าแล้วโอ้ย น่าเสียดายค่ะ ลูกสูงเหินข้ามคานไป บอบตกไปอยู่กับทีมเจ้าโลมาอีกครั้ง
จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่นะครับแต่ฝ่ายเจ้าโลมาที่วันนี้ไม่รู้แปลงร่างเป็นฉลามหรือไรเล่นวิ่งใส่ เล่นแรงจนรับไป 4ใบเหลืองขณะที่ฝ่าย อินทรีย์หิมะ ก็มีไป 1 ใบเหลืองของ เบนจามินทร์ที่ปะทะกับกองหลังของฝ่ายตรงข้ามจนเกือบจะมีปัญหาแต่กัปตันทีมสุดหล่อเพื่อนซี้เข้าไปสกัดไว้เหตุการณ์จึงเป็นแค่เพียงรับใบเหลืองเท่านั้น พักกันสักครู่พบกันครึ่งหลังครับ
เหล่านักฟุตบอลเดินออกมาจากสนามคชาจ้องมองกัปตันทีมร่างขาวที่พราวไปด้วยเหงื่อจนเสื้อที่ใส่อยู่แนบลู่ไปกับลำตัวเปียกชุ่มเจ้าหน้าที่ส่งผ้าเย็นให้นักกีฬาแต่ละคนซับหน้าขณะที่พากันทยอยไปยังห้องพักใต้อุโมงค์ ร่างสูงของกัปตันทีมเศรษฐพงศ์เงยขึ้นมองคนบนแสตนด์วีไอพีแล้วยิ้มให้พร้อมกับโบกมือท่าเซิ้งใส่และตะเบ๊ะอย่างล้อเลียน คนตัวเล็กที่มองอยู่เผลอทำปากยื่นย่นใส่อย่างหมั่นไส้ท่าทางมั่นใจเต็มร้อยก่อนจะหลุดยิ้มออกมาและโบกมือตอบ
“เฮ้ย มันโบกมือให้พี่ว่ะ” รุ่นพี่ที่นั่งข้างกันโบกมือให้กัปตันทีมสุดตัวเพราะคิดว่าเต๋าโบกให้ตัวเอง
“เฮ้ย ไอเต๋า ไอเต๋า สู้ๆโว้ย” พี่ตี๋ลุกขึ้นยืนและตะโกนเรียกจนเศรษฐพงศ์หันมามองและโบกมือกลับก่อนเดินหายเข้าไปในอุโมงค์
We're flying We're flying จงโบยบินอัศวินวิหคกล้า
ดั่งพญาอินทรีย์ผู้ผยอง คนเลี้ยงนกโบกธงศึกคึกคะนอง
แหงนหน้ามองเหล่าปักษาล่าตะวัน
Here we go Af united ความสำเร็จก่อเกิดปาฏิหาริย์
เทวดาแห่งโชคชัยให้รางวัล รอวิหคหวนคืนรังฉลองชัย
เสียงร้องเชียร์ดังกึกก้องข่มขวัญคู่ต่อสู้และให้กำลังใจเหล่าวิหคนักสู้ของทีมใน สนาม เดอะเน็ท ดังขึ้นทั้งเสียงกลองเสียงแตรเมื่อครึ่งหลังกำลังจะเริ่มต้นขึ้น เหล่านักฟุตบอลของทั้งสองทีมเดินออกจากอุโมงค์และพบกันที่กลางสนามก่อนจะเริ่มเขี่ยลูกตั้งเตะและเกมส์เริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็วทีมที่ต้องการคะแนนอย่างเจ้าโลมา
เจ็ดสิบนาทีของครึ่งหลังแล้วนะครับยังทำประตูกันไม่ได้แถมเกมส์ก็ดุเดือดขึ้นเรื่อยๆโดยทีมเจ้าโลมาได้ไปแล้วหกใบเหลืองซึ่งทำให้ลำบากแน่ในนัดต่อไปเพราะผู้เล่นตัวหลักคนสำคัญต้องถูกแบน ขณะที่ฝ่ายอินทรีย์ผยองก็สี่ใบเหลืองเกมส์ดุเดือดเกินความจำเป็นไม่รู้โค้ชศรัทธาจะตัดสินใจเปลี่ยนผู้เล่นคนสำคัญออกหรือไม่ อ้าว ณัฐวัตรศูนย์หน้าถูกเปลี่ยนออกแล้วครับแล้วให้ ซุปเปอร์ซับอย่าง วีกิจ ขวัญใจสาวใหญ่ลงมาแทน ดูท่าศูนย์หน้าของทีมจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่ถูกเปลี่ยนออก
โอ้ยเอาละครับทุกคน อินทรีย์หิมะที่วิ่งพล่านพยายามทำประตูอยู่นาน หลุดเดี่ยวจากกองกลางของทีมพัทยาขึ้นไปแล้วครับบอลที่ติดเท้าไม่มีหลุด โอ้ย ลีลาหลอกล่อ กองหลังฝ่ายตรงข้ามที่วิ่งมาขวางจนหลุดออกด้านข้าง ตอนนี้มี น้ำแข็ง เบน กำลังวิ่งตามริมเส้นขึ้นไปช่วยทำทาง
โอ้ย!!!! หัวใจจะวาย ยิงแล้วครับลูกแรก โอ้ย!!!! ติดมือผู้รักษาประตู
ลูกกระเด็นออกมาอีกครั้งนึงครับ อินทรีย์หิมะวิ่งเข้าไปเตะซ้ำอย่างสุดแรง
เรียบร้อยครับ เรียบร้อยทีมเจ้าบ้าน ขึ้นนำไปแล้วท่ามกลางเสียงกรีดร้องอย่างหวาดเสียวของเหล่ากองเชียร์ 1-0 จากการทำประตูของอินทรีย์หิมะที่วันนี้วิ่งพล่านหาโอกาสทำประตูแทบตลอดเกมส์
โอ้ว!!! มาแล้วครับท่าเซิ้งอันลือลั่นเหล่ากองเชียร์ที่กดดันมาตลอดเกมส์ที่ข้นหนักอึดอัดได้โอกาสลุกขึ้นเซิ้งไปทางเดียวกันทั้งอัฒจันทร์เป็นภาพที่สวยงามมากเหล่านักเตะในสนามต่างวิ่งมาเซิ้งกับกองเชียร์ของพวกเขา นั่นกัปตันทีมจอมเก๋าวิ่งมาที่หน้าแสตนด์แล้วครับ
นักเตะผิวขาวตาคม น่าชมเสียนี่กระไร
ลีลาเขาช่างถึงใจ บุกขึ้นไปในแดนศรัตรู
อินทรีย์หิมะรูปหล่อ ทีมไหนพ่อใครไม่รู้
ระวังอย่าให้เห็นรู!! ฮิ๊ว !! ระวังอย่าให้เห็นรู!!
เต๋าจะยิงประตูทันที!! เต๋าจะยิงประตูทันที !!
“เฮ้ย เย้ !!!” คชาผุดลุกขึ้นเผลอตัวกระโดดโห่ร้องอย่างดีใจเมื่อกัปตันทีมทำประตูได้เขากอดคอกับพี่ตี๋อย่างดีใจ
เมื่อเสียงเพลงดังขึ้น ตี๋เริ่มเซิ้งอย่างบ้าคลั่ง คชาก็เริ่มทำตาม
กัปตันทีมตัวขาววิ่งมาที่อัฒจันทร์พร้อมเป่านกหวีดสีเขียวที่ห้อยคออยู่ไปด้วย ก่อนจะโบกมือมาอย่างทวงสัญญาคนตัวเล็กโบกตอบแล้วทำท่าเซิ้งตามกองเชียร์โดยดูแบบท่าจากผู้ชายเจ้าของประตูที่เพิ่งยิงไปยิ้มหัวเราะและเซิ้งไปพร้อมกันใบหน้าใสทอดยิ้มหวานใส่ตาคนหน้าคมด่านล่างอย่างลืมตัว ยิ่งเห็นนกหวีดสีเขียวจ้ายิ่งทำให้รอยยิ้มสดใสขึ้น
กล้องจับไปยังคนที่กำลังเซิ้งอยู่ที่แสตนด์วีไอพี เมื่อใบหน้าคชา และ ตี๋ปรากฎขึ้นบนจอสกรีนใหญ่กลางสนามก็เรียกเสียงกรีดร้องให้ดังขึ้นอีกเมื่อแฟนบอลจำนักร้องหน้าทะเล้นชื่อดัง และ นักร้องดาวรุ่งคนใหม่ของค่ายที่กำลังมีผลงานเพลงเป็นที่จับตามองอยู่ในขณะนี้ พ่วงตำแหน่งขวัญใจแฟนคลับเพราะมีแฟนคลับเยอะเป็นอันดับต้นๆไม่แพ้ใคร
“ซวยแล้วเอ็ง กล้องจับมาแบบนี้ต้องกลับก่อนเกมส์จบว่ะ” ตี๋โบกมือใส่กล้องให้แฟนคลับ ส่วนคชาทำเพียงยิ้มหวานตอบและหยุดเซิ้งใบหน้าใสแดงกล่ำจากการตื่นเต้นและอากาศร้อนในสนาม หากรอยยิ้มก็เพียงพอแล้วจะเรียกเสียงกรีดครางในสนามที่เริ่มสับสนว่าจะกรี๊ดให้กับนักบอลขวัญใจหรือนักร้องหน้าหวานดี
โอ้โห วันนี้เรามีนักร้องชื่อดังจากค่ายมาดูด้วยนะครับ แถมยังลุกขึ้นเซิ้งให้เราได้เห็นเป็นขวัญตาอีกด้วย แบบนี้กองเชียร์คึกกันสุดกำลังงานหนักกว่าเดิมตกเป็นของทีมโลมาฟ้าขาวแล้วครับ เกมส์เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งแล้วครับ
คชาและตี๋กลับไปก่อนเกมส์จะจบหลังทำประตูกัปตันทีมตัวเก่งของทีมก็ถูกเปลี่ยนตัวออกเพื่อใช้ในนัดสำคัญและผลจบออกมาตามคาดคือ เอเอฟ ยูไนเต็ด ชนะ 1-0 จากการทำประตูของกัปตันทีม
“ไอเต๋าเก่งมากเลย ไม่เสียแรงที่พี่มาเชียร์”
“ถ้าพี่ไม่มาผมคงทำได้สองลูก เจอเสียงแปดหลอดของพี่ดังไปถึงกลางสนาม ผมสะดุ้งเลย” คนตัวขาวหันมาเย้ารุ่นพี่และยิ้มให้คนตัวเล็กที่อมยิ้มขำเดินข้างกัน
“ปากแบบนี้ เอ็งน่าโดนจริงๆ ข้าไปแล้วมีนัดต่อว่ะ เดี๋ยวเกมส์จบกลับลำบาก”
“ขอบคุณนะพี่แล้วเจอกันครับ” ชายหนุ่มยกมือไหว้รุ่นพี่
“ชาเอารถมาใช่ไหม พี่เดินไปส่งปะ” ตี๋หันมาถามคชาที่เดินอยู่อีกข้าง
“ไปเหอะพี่ผมเดินไปเองได้จอดคนละฝั่งกัน แล้วเจอกันที่บริษัทครับ” คชายกมือไหว้บอกลาและโบกมือให้รุ่นพี่ที่เดินไป
“ผมเดินไปส่ง” เต๋าหันมาบอกร่างสูงยังอยู่ในชุดนักกีฬาเต็มยศสะพายแค่กระเป๋าใส่ข้าวของไม่ได้อาบน้ำเปลี่ยนชุดเลยเหมือนทุกที
“ไม่เป็นไรครับผมเดินไปเองได้”
“ไปเถอะยังไงก็จอดฝั่งเดียวกัน ” ชายหนุ่มออกเดินเมื่อร่างเล็กพยักหน้าและเดินเคียงกันไปยังลายจอดรถ
“ขอบคุณที่มาส่งนะครับ” เจ้าของรถมินิสีน้ำเงินเข้มเอ่ยบอกกัปตันทีมร่างสูงที่เดินมาส่งถึงรถ เพราะรถชายหนุ่มจอดตรงโซนของนักบอลโดยเฉพาะแม้จะฝั่งเดียวกันแต่กั้นไปอีกด้าน
“ไม่เป็นไรยังไงก็ทางผ่านของพี่อยู่แล้ว” คชาเงยหน้าขึ้นมองสรรพนามที่เปลี่ยนไปของอีกคน แต่ใบหน้าคมยังมองเฉยเหมือนเป็นเรื่องปกติร่างเล็กจึงไม่ได้เอ่ยอะไร
“ขอบคุณพี่เต๋ามากนะครับ” หลุดพูดออกไปหัวใจก็เต้นรัวแปลกๆ ยิ่งใบหน้าเข้มยิ้มให้อย่างพึงใจที่ได้ยินคำเรียกยิ่งทำให้ใบหน้าหวานซับสีเรื่อขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“แล้วเจอกัน” เศรษฐพงศ์บอกก่อนจะเดินกลับไปยังรถของตัวเองเมื่อเห็นคนตัวเล็กมุดเข้ารถคันเล็กสมตัวไปแล้ว
คชาสตาร์ทรถแต่ยังไม่ออกตัวไปไหน คำว่า “พี่” สะท้อนก้องไปมาอยู่ในหัว อยากเหลือเกินจะเอ่ยไปว่า “พี่จ๋า” เหมือนที่เคยหากแต่ก็เพียง “พี่เต๋า” ก็มากพอ พี่จ๋า จะคงยังไม่ลืมน้องคนนึงที่เคยวิ่งตาม น้องคนนึงที่มีพี่ชายเป็นฮีโร่ แม้จะเป็นเพียงในความทรงจำเสี้ยวนึงก็ตาม “นกหวีดสีเขียว” เป็นสิ่งที่ยืนยันชัดว่าเขายังมีตัวตนอยู่ในความทรงจำของ “ของพี่จ๋า” มันก็มากพอแล้ว….
To Be Con………………
Talk Wiz me
กราบแทบตักทุกคนที่รอคิก ออฟ ขอโทษจริงๆ เรายุ่งวุ่นวายมาก
ไม่มีเวลามาต่อคิก ออฟเลย สารถภาพจากใจเลยค่ะ ว่าแต่งเิลิฟ ออ ลัท เสร้จ
ไปทำฟิึคโปรเจค #Naked แล้วหยุดไม่ได้คือสลัดไม่หลุด บวกกับยุ่งรวมเล่มเลิฟ ออ ลัท
ใครสนใจยังโอนเงินได้นะคะ รายละเอียดที่กระทุ้นี้เลยค่ะ http://http://writer.dek-d.com/tkatove/writer/viewlongc.php?id=836961&chapter=26
และกำลังจะมีโปรเจคที่สอง คือ #Darkness ที่ @Nakedstation เร็วๆนี้โปรเจคที่ฉีกความเป็นตัวของเรามากที่สุด
ยังไงฝากติดตามไว้้ด้วยนะคะ สำหรับคิก ออฟ บอกเลยว่ายังไงก็แต่งจนจบแน่นอน ^_^
ปล. อ้อนขอคอมเม้นท์อย่งาจริงๆจัง หรือ บอกกันว่า ยังมีใครรออยู่บ้างก็ยังดี เพื่อกำลังใจให้เรานะคะ >3<
Rosana Keane.....
ความคิดเห็น