ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไม้ชายเมือง

    ลำดับตอนที่ #2 : ออม

    • อัปเดตล่าสุด 1 ธ.ค. 55


    ตอนที่ ๒ - ออม
              ฝนเพิ่งขาดเม็ด เมื่อออมสะพายข้องใบเล็กออกจากบ้าน บนศีรษะนอกจากจะใช้ผ้าขาวม้าตาหมากรุกเคียนไว้แน่นแล้ว  ออมยังหยิบงอบของแม่สวมทับลงไปอีกชั้นหนึ่ง ขยับจนแน่นดีแล้วก็คว้าผ้าผวยผืนเล็กของพ่อห่มคลุมไหล่กันหนาวเดินดุ่มๆออกจากบ้าน

              ออกจากเขตหมู่บ้านเรือนไปเล็กน้อย ออมก็ถึงนาข้าวที่กว้างเวิ้งว้างสุดลูกตา  ขอบคันนาที่ขวางพาดไปพาดมาก่อให้เกิดภาพตารางสี่เหลี่ยมใหญ่บ้างเล็กบ้างดูสวยงามไม่น้อย กอข้าวในบางแปลงเริ่มมีสีสันเขียวชอุ่มในขณะที่บิ้งนาหลายๆบิ้งยังเป็นเพียงพื้นดินว่างเปล่า มีรอยไถคราดเพียงบางแห่ง แต่อีกไม่ช้าทุกบิ้งนาก็จะได้รับการไถคราดจนครบแล้วมีต้นข้าวเขียวชอุ่มขึ้นมาจนเต็มผืนนา  นาแถวนี้อุดมสมบูรณ์พอสมควร แม้จะแล้งน้ำในบางปีแต่คลองส่งน้ำของชลประทานก็พอช่วยได้บ้าง  ออมไม่สู้เข้าใจนักเกี่ยวกับเรื่องการปรับเปลี่ยนพื้นที่นาเป็นไร่นาผสมผสาน แต่ก็ฟังดูน่าตื่นเต้นน่าสนใจ และเมื่อพ่อบอกว่าดี ออมก็เชื่ออย่างนั้น ในสายตาของออม พ่อคือคนเก่ง เป็นคนมีเหตุผล น่าเชื่อถือ และข้อสำคัญพ่อเป็นคนทำงานอย่างจริงจัง  พ่อบอกออมว่าในที่นาห้าสิบไร่ของครอบครัว เราจะมีแหล่งน้ำขนาดย่อมสักสองแห่งในพื้นที่แห่งละ ๒-๓ ไร่ หรืออาจจะสักสามแห่งเพื่อเลี้ยงปลาด้วย ส่วนหนึ่งเราจะปลูกไม้ผลหลายๆชนิด ปลูกพืชผักสวนครัว และเหลือพื้นที่ส่วนใหญ่สักสามสิบไร่ไว้ปลูกข้าวพันธุ์ดี คงจะมีงานมากมายและวุ่นวายไม่น้อย  ออมไม่เคยนึกท้อกลับรู้สึกสนุกและเฝ้ารอคอยด้วยซ้ำ  ออมชอบดูโทรทัศน์เวลามีรายการเกี่ยวกับการแนะนำการทำการเกษตรแบบนี้  พ่อเอาเอกสารมาจากเจ้าหน้าที่เกษตรและซื้อมาจากในเมืองบ่อยๆ  ออมอ่านบ้างเหมือนกันแต่ก็ไม่ค่อยเข้าใจ ออมเองก็ไม่ค่อยขยันเรื่องหนังสือสักเท่าไร  ออมชอบฟังพ่อพูดคุยมากกว่า

             เป็นความตั้งใจใฝ่ฝันของออมมานานแล้ว ที่ออมอยากเป็นเจ้าของบ่อปลาสักบ่อ ไร่ผักสักไร่ หรืออะไรก็ได้ที่ออมจะได้ลงมือเอง แม้แต่เมื่อครอบครัวมีการทำนาอย่างเดียว ออมก็ยังกระตือรือร้นเป็นอย่างยิ่งที่จะออกไปช่วยไถนา เพาะกล้า ดำนา และเกี่ยวข้าวเมื่อรวงข้าวสุกได้ที่ ออมอยากจะเป็นเจ้าของรถไถและขับรถไถเองแบบฝรั่งที่รถมันสามารถเก็บเกี่ยวข้าวได้เบ็ดเสร็จเลย แต่การทำนาอย่างเดียวมันมีช่วงว่างจากงานให้ออมเบื่อหน่ายมากไปหน่อย ออมจึงออกยิงนก ตกปลา ดักปูไปตามเรื่องตามราว  โชคดีที่พ่อและแม่ไม่เคยว่าเมื่อออมจะทำอะไร  มีข้อแม้เพียงแค่ออมต้องไม่เกโรงเรียน และเที่ยวไปเป็นอันธพาลกับใครต่อใครเท่านั้น  ช่วงนี้ฝนเริ่มตกบ่อยขึ้น ดูเหมือนจะมาก่อนฤดูจนชาวนาปรับตัวแทบไม่ทัน มีข้าวในบิ้งนาบางแห่งที่ปลูกไว้เริ่มเติบโต เพราะมีน้ำทดมาจากคลองชลประทาน โคนต้นข้าวอวบอ่อนเป็นที่พิสมัยของเหล่าปูนายิ่งนัก  ออมจึงเอาลอบออกมาเที่ยววางดักปูไว้ตามร่องน้ำที่ลดหลั่นระหว่างบิ้งนาอยู่สามสี่แห่ง  ปูนาที่ได้ออมจะเอาไปให้แม่ดองเค็ม หรือไม่ก็ต้มโขลกรวมน้ำพริกจิ้มผักสดเป็นกับข้าวแสนอร่อย  บางทีก็เผาจิ้มน้ำปลากินเปล่าๆถึงเนื้อปูนาจะน้อยแต่ก็หวานและกระดองปูนาก็กรอบอร่อยลิ้นไม่เบา

             ออมเพิ่งจะอายุสิบสองปีเต็มเมื่อสองเดือนก่อนนี่เอง ปีการศึกษาใหม่นี่ออมก็จะขึ้นมัธยมต้นแล้ว  มีใครหลายคนชักชวนให้ออมไปเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมตำบลซึ่งอยู่ห่างไปอีกหมู่บ้านหนึ่ง  แต่ออมไม่ไป ที่โรงเรียนของออมเขาจะขยายชั้นเรียนจนถึงมัธยมสามเอง ถึงครูจะไม่ชักชวน ออมก็เต็มใจที่จะอยู่ ออมตั้งใจจะเป็นนักเรียน ม.หนึ่งรุ่นแรกของโรงเรียน ยิ่งพ่อมีโครงการเปลี่ยนแปลงการทำไร่นาอย่างนี้ ออมยิ่งไม่อยากไปไหนไกลๆ เสียเวลาเดินทางอย่างหนึ่งแล้ว ออมยังกลัวว่าจะถูกชักชวนให้เรียนสูงๆยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งออมไม่เห็นจะอยากทำอย่างนั้นเลย  ที่เรียนต่อมัธยมต้นนี่ก็เพราะนอกจากครูจะบอกว่าหลวงบังคับแล้วพ่อก็ยังบอกว่าต้องเรียน ไม่งั้นออมก็คงออกแล้ว  แต่พ่อไม่ว่าที่ออมจะเรียนต่อในหมู่บ้าน
             " เรียนที่ไหนก็ได้ลูก" พ่อบอก " แต่ต้องตั้งใจและเอาความรู้มาใช้ในชีวิตและความเป็นอยู่"
             ออมรับคำไปอย่างนั้น ไม่ได้คิดอะไรมาก เรียนก็คือเรียน งานในไร่นาก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย  ออมจึงนึกเบื่อเมื่อเจอครูดุๆ ครูที่เข้มงวด แล้วบางทีก็พูดถึงในสิ่งที่ออมไม่เคยพบไม่เคยเห็น  ออมนึกแปลกใจในเอื้อยพี่สาวของออมเสียจริงๆว่าทำไมจึงอยากไปเรียนโรงเรียนในเมืองนัก อยากจะเรียนสูงๆ พี่เอื้อยก็ขยันขันแข็งดีอยู่หรอกแต่ไม่เห็นจะเรียนเก่งอะไรหนักหนา  ออมเองเสียอีกที่ไม่สู้สนใจเท่าไร แต่ผลการเรียนก็ออกมาในเกณฑ์ดี

             น้ำในนาเจิ่งนองไปทั่ว แต่ก็ท่วมเพียงโคนต้นข้าว เพราะต้นข้าวขึ้นสูงพอควรแล้วแต่โคนต้นก็ยังอวบขาวอยู่ น้ำที่เจิ่งระบายออกมาทางร่องน้ำเล็กๆริมบิ้งนา และยังคงมีน้ำเหลือขังในนาอยู่บ้าง มีปูนาตัวเล็กตัวน้อยเซ่นซ่านมาให้ออมได้ดักเอาไปกินทีละหลายๆตัวและเกือบทุกวัน  
             ออมยกลอบดักปูขึ้นแล้วยิ้มด้วยความดีใจ  มีปูก้ามใหญ่ๆอยู่ในนั้นสามสี่ตัว ตัวเล็กๆอีกนับไม่ถ้วน ดูเหมือนจะมีปลาหมอปนมาด้วย วางลอบไว้ตรงร่องน้ำฝนหลากนี่ดีนัก เพียงแต่ใช้ง่ามไม้ปักกดซี่ลอบยึดไว้กับพื้นให้แน่นเท่านั้น   ออมเก็บปูใส่ข้อง แล้วปล่อยลอบไว้ที่เดิม ปล่อยปลาหมอไป เอาไปก็ไม่รู้จะทำอะไรกิน มีแค่ไม่กี่ตัวแล้วก็ยังตัวเล็กๆทั้งนั้น  ยังมีอีกสองแห่งที่ออมดักลอบไว้ในบิ้งนาถัดๆไป  ออมเดินไปบนคันนา ใจก็นึกวาดภาพผืนที่นาเหล่านี้มีสระน้ำขนาดใหญ่ มีต้นไม้หลากชนิด  มันจะดูดีขนาดไหนหนอหากในพื้นที่นาอันกว้างขวางนี้กลายเป็นไร่นาสวนผสม มีความเขียวชอุ่มตลอดปี ไม่ดูเจิ่งนองด้วยน้ำเมื่อฝนตกหนัก  แล้วก็แล้งแห้งผากเมื่อฝนขาดฤดูไม่รู้กี่เดือนต่อกี่เดือน

             ขณะที่เดินแกมกระโดดไปตามคันนาโดยมีข้องสะพายอยู่บนไหล่ และบางครั้งก็ถลากไถลเพราะดินลื่นนั้น ออมหรือเด็กชายออมสิน ใจสุขก็งึมงำร้องเพลงออกมาด้วยความสุขใจ

                                                             ****************************  
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×