ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FICSJ] I LOVE YOU : MY I DOL [KYUMIN]

    ลำดับตอนที่ #3 : My I dol : : chapter 1 (Sungmin) 100%

    • อัปเดตล่าสุด 18 ส.ค. 56





    MY I DOL 




                 

       

     ตอนที่
    1

     

     

    คุณเคยแอบชอบใครมั้ยครับ ผมรู้ว่าทุกคนต้องเคยแล้วผมก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่คนที่ผมชอบเค้าห่างไกลจากผมมากไปหน่อยเท่านั้นเอง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ซองมิน เสาร์นี้จองบัตรมีทแล้วนะ เก็บเงินครบยังอ่ะ”  เสียงหวานของฮยอกแจดังขึ้นทันทีที่มันหย่อนก้นลงนั่งข้างผม


    ผมกลับฮยอกแจเป็นเพื่อนกันนานแล้ว มันแล้วผมชอบศลิปินวงเดียวกัน พากันไปดูคอนนู้น มีทนี้ตลอด แล้วเสาร์นี้ก็ต้องจองบัตรมีทแล้วด้วย เงินเก็บผลมันจะหมดไปตามคะแนนแล้วล่ะ

     

    “ครบแล้วอ่ะ แต่ต้องประหยัดหน่อยละ นี่เค้าบอกว่าถ้าซื้อบัตรแพงสุดได้ลุ้นดินเนอร์ด้วยนะเว่ย” ผมพูดพลางเขย่าแขนไปมันไปด้วย

     

    ผมกับฮยอกแจชอบศิลปินวงเดียวกันมานานหลายปีแล้วครับ มันยิ่งทำให้เราคุยถูกคอมากขึ้น เราคุยเรื่องเดียวกันได้ ผมกับมันนี่เรียกว่าเป็นแฝดได้เลย

     

    ผมนั่งคุยกับฮยอกแจซักพักก็พากันขึ้นห้องเรียน เกรดเราสองคนก็ไม่ได้แย่แต่ก็ไม่สวยหรู อาจมีบางครั้งที่ผมปล่อยการเรียนไปวุ่นเรื่องศิลปินบ้าง แต่ก็แค่อดีตปัจจุบันไม่อยากได้ F มารับประทานแล้วครับมันเหนื่อย

     

    จบคาบการเรียนการสอนไปอย่างงงงวย ผมเรียนไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ เพราะนี่เป็นวิชาหลักภาษา ปัญญาพูดภาษาคนก็บุญแล้วล่ะครับ ผมเลยนั่งมองออกนอกหน้าต่างไม่ได้ฟังที่ครูสอนซักเท่าไหร่ ส่วนฮยอกแจนี่ นั่งคุยกับยามในฝันแล้วล่ะ

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

     

    เช้าวันเสาร์ที่แสนง่วงนอนอย่าเรียกว่าเช้าเลยนี่มันยังไม่สว่างเลยด้วยซ้ำ เนื่องจากวันนี้เป็นวันจองบัตรของศิลปินวงที่ผมชอบ ผมเลยต้องแหกขี้ตาตื่นมาเพื่อเตรียมตัวรับสงครามระดับโลก ผมนัดกับไอฮยอกแจไว้ตอนตี 4  ที่หน้าห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่หนึ่ง เรียกว่าไปรอประตูห้างเปิดกันที่นั่น

     

    อ้อ! ผมลืมบอกไปใช่มั้ยครับ ว่าวงที่ผมชอบชื่อวงอะไร

     

     

    วงนั้นชื่อ étoiles ครับ เป็นวงที่มีสมาชิกหน้าหล่ออยู่สามคน แต่พวกเค้าไม่ใช่แค่ศิลปินธรรมดาเท่านั้นนะครับ ภายใต้เบื้องหลังก็ยังเป็นลูกของประธานบริษัทที่รวยล้นฟ้าแล้วยังพ่วงมาด้วยอำนาจมากมายอีกต่างหาก เรียกว่าเป็นที่ต้องการของคนนับล้านเลย 

     

    แน่ละครับ ทั้งรวย ทั้งหล่อ ดูแบดบอยอีกต่างหาก

     

     

    “ซองมิน!! โทษทีนะ มานานยัง”

     

    “ยังอ่ะ รีบไปเถอะ” ผมกับฮยอกแจรีบบึ่งไปที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ ที่ ณ ตอนนี้ยังไม่แสงสว่างทั่วบริเวณมากนัก แอร์ก็ยังไม่เปิด มีแต่แม่บ้านเดินกวาดๆเช็ดถูกกันไปตามที่

     

    โชคดีที่ผมกับฮยอกแจแหกขี้ตาตื่นกันแต่เช้า จนได้รับคิวซื้อบัตรแรกกันเลยทีเดียว

     

    คนมากมายเริ่มหลั่งไหลเข้ามาต่อแถว แต่ละคนก็ดูจะเพิ่งตื่นนอนกันทั้งนั้น

     

     

    “ซองมินรู้ป่ะ ว่าแฟนมีตครั้งนี้อ่ะ จับผู้โชคดี 1 คนไปดินเนอร์กับพี่คยูฮยอนด้วยนะ!

     

     

    “เห้ยจริงป่ะ?! แล้วทำไมต้องคยูคนเดียวอ่ะ” ผมถามไอฮยอกแจที่ดูเรื่องเร็วกว่าผมตลอด ผมไม่เคยเรียกคยูฮยอนว่าพี่หรอก ถึงเค้าจะอายุห่างจากผมตั้งหลายปีก็ตาม

     
     

    “ก็เห็นบอกพี่ทงกับพี่เย่ติดคิวงานอ่ะ ไม่ว่างกัน มีพี่คยูคนเดียวนี่แหล่ะที่เคลียร์คิวได้”

     
     

    หลังจากสิ้นคำของเพื่อนรัก ผมก็ตาประกายวับวาวเลยทีเดียว การดินเนอร์ไม่ใช่เรื่องง่ายๆสำหรับแฟนคลับเลย เรียกว่าแค่มองหน้าตรงๆชัดๆ ก็ยากแล้วล่ะ



     

    ผมกับฮยอกแจนั่งรออีกซักพักสงครามแย่งชิงบัตรก็เกิดขึ้น ผมกับฮยอกแจโชคดีที่ได้บัตรแถวสองจากหน้าสุด หลายคนนี่คอตกกลับบ้านประหนึ่งผู้พ่ายแพ้จากศึกครั้งยิ่งใหญ่

     
     

    ผมกับมันเดินคุยกันอีกซักพักก็แยกย้ายกันกลับบ้าน วันนี้วง étoiles จะขึ้นแสดงไลฟ์โชว์ ผมต้องรีบกลับบ้านเพื่อไปรอดูวงวงนี้ผ่านทางหน้าจอคอม

     

     





     

     

    ถึงผมจะอยากเจอตัวจริง แต่ผมก็ทำได้เพียงแค่นี้ล่ะครับ

     

     


     

     







     

    เค้าไม่ใช่คนธรรมดาที่เราสามารถเจอได้ตามสถานที่ต่างๆ

     

     

     











     

    ดวงดาวที่สวยงามแบบนั้น ก็ย่อมเสียเงินแพงมหาศาลถึงเราจะได้ดูใกล้ๆด้วยตาเปล่า

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    เหมือนโกหกนะครับแต่วันนี้วันแฟนมีตแล้วล่ะ ผมตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวที่จะไปงานแฟนมีตให้พร้อมที่สุด ชุดที่ผมเลือกใส่วันนี้เป็นชุดสีขาวลายกระต่ายตัวโปรดที่อยู่ตรงกลางเสื้อ เรียกว่าถ้าผมไปดูพี่คยูฮยอนแล้วผมก็ชอบใส่เสื้อตัวนี้เสมอ

     
     

    ผมนัดกับฮยอกแจไว้ให้ไปเจอกันที่งานเลย และเป็นดั่งคาดผมกับฮยอกแจมาก่อนประตูเปิดเกือบหกชั่วโมง แต่เชื่อมั้ยครับ ไม่มีคำว่าเหนื่อยหรือนานสำหรับการรอครั้งนี้เลยครับ ผมสามารถรอทั้งคืนยังได้แม้แค่ผมสามารถจะเจอเค้าได้เพียงหนึ่งนาทีหรือสองนาทีก็ตาม

     
     

    การที่เราได้เจอคนที่สามารถเติมพลังใจหรือสร้างรอยยิ้มกว้างๆให้เราได้ในเพียงเวลาไม่นาน ให้ตายผมก็รอได้ครับ

     

     

     

    อาจดูไร้สาระ แต่แฟนคลับอย่างผมถึงอยากมองนานแค่ไหน ผมก็ไม่สามารถเกิดขอบเขตที่เรามีได้หรอก

     

     

     

    ผมกับฮยอกแจเดินเล่นบริเวณงานที่มีคนมากมายเดินสวนกันไปมา มีร้านค้าตั้งขายเยอะแยะเต็มไปหมด และแน่นอนว่ามันก็ผลาญตังผมไปได้มากทีเดียว

     

     

     

    “ซองมินประตูเปิดแล้ว เข้าเลยป่ะ ตื่นเต้นอ่ะ” เสียงหวานของฮยอกแจมันถามผมพลางกระโดดดึ๋งๆประหนึ่งมันสามขวบทั้งๆที่หน้ามันนี่สามร้อยอัพแล้วครับ

     

     

    ผมพยักหน้ากลับพลางรีบไปต่อแถวเข้าไปเร็วดีกว่าไปช้านะครับ

     

     

     

    รอไม่นานมากนักคนก็เริ่มเข้ามาและงานก็ได้เริ่มขึ้น ดวงดาวเปล่งประกายทั้งสามดวงกำลังส่องแสงอยู่ข้างหน้าผมครับ แท่งไฟที่ทุกคนเตรียมมาพร้อมใจกันเปิด เพื่อแสดงตัวตนของพวกเค้าสีน้ำเงินส่องแสงสว่างไปทั่วบริเวณงานพร้อมกับรอยยิ้มที่แต่งแต้มขึ้นบนหน้าแต่ละคน

     
     

    พี่คยูฮยอนนนนนนนซารางเฮโย!!’

     
     

    เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลังผมออกไปไกลทีเดียว พลังเสียงเธอเต็มที่ครับ แต่ผมไม่รู้ว่าคยูจะได้ยินเสียงมั้ย เพราะเค้าแค่ยิ้มและมองไปทั่วบริเวณงานเท่านั้น

     

     

     

    “ครับ ต่อจากเพลงนี้จบลงเราจะประกาศรายชื่อของผู้โชคดีที่ได้ไปดินเนอร์อย่างใกล้ชิดกับคุณคยูฮยอนนะครับ”

     

     

     

     

     

    สิ้นเสียงของพิธีกรทำนองเพลงสบายๆของวง étoiles ก็บรรเลงขึ้นพร้อมกับเสียงที่ไพเราะของดวงดาวทั้งสามดวง ทุกคนพลางตกอยู่ในอารมณ์ของเพลงที่ถูกถ่ายทอดออกมา ผมยิ้มและร้องคลอไปกับเพลงด้วย

     

    ส่วนฮยอกแจนี่มองหน้าพี่ทงมันจนจะบิดเป็นปาทองโก๋แล้วครับ พี่เค้าพูดหวานๆถึงแฟนคลับทุกคน แต่ไอฮยอกแจนี่เขินประหนึ่งพี่เค้ามาเป่าลมข้างหูมันไปแล้วครับ

     

    เมื่อโน้ตเพลงสุดท้ายของเพลงจบลงอย่างสวยงาม เสียงกรี๊ดก็ดังตามมากระหึ่มทั่วทุกทิศ ทั้งสามคนก้มโค้งอย่างสวยงาม เหล่าสตาฟทั้งหลายก็ยกของบางสิ่งที่ใช้ในการจับรางวัลมา ใจของผมเต้นตึกๆ เพราะผมก็หนึ่งในนั้นเหมือนกัน

     

     

     

     

    แต่ยากครับ คนเป็นพัน คนเป็นหมื่น

     

     

     

     

     

     

     

     

    ยากที่คนคนนั้นจะเป็นเรา

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ยากที่หนึ่งในพันนั้นจะถูกหยิบในชื่อของผม

     

     

     

     

     

     

     

    แผ่นกระดาษถูกหยิบขึ้นมาด้วยมือของคยูฮยอน ผมนั่งกุมมือตัวเองแน่น

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ผู้โชคดีคนนั้นคือ...” 
     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ลี

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ซองมินครับ! ขอเชิญคุณลีซองมินขึ้นมาบนเวทีเลยครับ”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เสียงพิธีกรประกาศภายในทั่วบริเวณงานเงียบสงัดประหนึ่งทุกคนพร้อมใจกันเป็นใบ้เลยทีเดียว

     

     

    .

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    .

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    .

     

     

     

     

     

    เป็นผมจริงๆหรอ

     

     

    เป็นแฟนคลับคนนี้จริงๆหรอ

     

     

    “เห้ย! ซองมินแกได้นิ ขึ้นไปเร็ว โอ๊ยยยดีใจด้วยนะ” ไอฮยอกแจมันกระตุกแขนเสื้อผมพร้อมฉีกยิ้มเหมือนมันได้รับรางวัลแทนผม

     

    ผมไม่อยากจะเชื่อ จากแฟนคลับเป็นพันเป็นหมื่นทำไมถึงเป็นผม เป็นผมได้ยังไงๆ

     

    ผมลุกขึ้นจากที่นั่งและทอดน่องไปตามทางเดิมเพื่อจะขึ้นไปรับรางวัลจากศิลปินในดวงใจ แสงสปอร์ตไลท์สาดส่องมาที่ผมพร้อมสายตาประชาชีทั้งหลาย

     

    “เชิญน้องซองมินขึ้นมาเลยครับ” เสียงพิธีกรกล่าวทักทายทันทีที่ผมก้าวเท้าขึ้นบันได

     

     

     

     

     

     

     

    บอกผมที

     

     

     

     

     

     

     

    ศิลปินที่ผมรักมาหลายปี

     

     

     

     

     

     

     

    ตอนนี้เค้ายืนอยู่ใกล้ผมแล้ว ผมเข้ามาใกล้ดวงดาวที่สวยงามได้ขนาดนี้เชียวหรือ

     

     

     

     

    “ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ เดี๋ยวหลังจากจบมีตติ้งครั้งนี้ รบกวนติดต่อกับทางทีมงานด้วยนะครับ” เสียงทุ้มพิธีกรชี้แจงรายละเอียดต่างๆ แต่ประสาทสัมผัสของผมไม่ค่อยอยู่ครบ เพราะสายตาพร้อมตอนนี้จดจ้องแค่คนคนเดียว

     

    “และไม่ใช่เพียงแค่ดินเนอร์นะครับ แต่ทางคุณคยูฮยอนคุณเยซองและคุณทงเฮได้เตรียมของขวัญชิ้นพิเศษเพื่อผู้โชคดีโดยเฉพาะเลยนะครับ” หลังจากพิธีกรกล่าวจบ เสียงกรี๊ดที่คงตื่นเต้นแทนผมดังกระหึ่มทั่วทั้งฮอล์เรียกอาการใจเต้นของผมได้ดีทีเดียว

     

    พี่คยูฮยอนเดินเข้ามาใกล้ผมพร้อมรอยยิ้มคุ้นเคยที่ผมมองผ่านจอคอมบ่อยๆเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ

     

    “ครับ สิ่งของที่พวกผมเตรียมมาคือสร้อยที่พวกเราออกแบบกันเองครับ”

     

     พี่คยูฮยอนนำสร้อยที่มีรูปดาวและมีกระต่ายอยู่ข้างในออกมาจากกล่องของขวัญที่ถูกซ่อนในเสื้อสูทของตนเอง

     

    “สร้อยนี้พวกผมคิดแบบกันเองครับ พวกเราเลือกดวงดาวเพราะแทนความหมายตามชื่อของวงของพวกเรา” เสียงทุ้มของทงเฮดังหลังจากที่สร้อยถูกหยิบออกมา ตามมาด้วยเสียงของเยซอง

     

    “ส่วนกระต่ายที่อยู่ในดวงดาว ก็ไม่มีอะไรมากครับ คุณคยูฮยอนเค้าชอบก็แค่นั้น ไม่ปรึกษาพวกผมเค้าก็ลงอนุมัติเองเลยครับ” เสียงพูดที่ดูอมอารมณ์ขันก็เรียกเสียงหัวเราะและเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับได้มากเลยทีเดียว

     

    พี่คยูฮยอนยกยิ้มเล็กน้อยและบรรจงใส่สร้อยนี้ลงที่คอของผม

     

     

    ตึก ตึก ตึก

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ฝากดูแลสร้อยของพวกเราด้วยนะครับน้องซองมิน”

     

     

     

     

     

     

     

    “ฝากดูแลกระต่ายด้วยนะครับ กระต่ายน้อย เจอกันวันดินเนอร์ครับ”

     

     

     

     

     

     

    เสียงทุ้มที่พูดออกไมค์แต่คือเสียงที่พี่คยูฮยอนเค้าหมายถึงผม ใจผมเต้นรัวยิ่งกว่าวงบิ๊กแอสขึ้นแสดงเสียอีก

     

     

    นอกจากที่ผมจะโชคดีได้สร้อยหนึ่งเดียวในโลกแล้ว ผมยังได้ถ่ายรูปและกอดกับทั้งสามคนอีก แต่ก่อนนี่ปากหมาครับไม่เคยเรียกพวกเค้าพี่ แต่พอขึ้นเวทีนี่นิสัยนายงามเข้าสิง พี่ฮะทุกคำยิ่งกว่าทัดดาวบุษบามาเองเสียอีก

     

    ยอมรับว่าผมทำให้ใครหลายคนได้อิจฉามากมายเลยทีเดียว

     

     

    และก่อนที่ผมจะลงจากเวที เสียงนึงก็ดังขึ้นมาเรียกรอยยิ้มที่กว้างที่สุดในรอบหลายเดือนของผมได้เลยทีเดียว

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

           “อย่าทำสร้อยหายนะครับ กระต่ายน้อยของพี่”


                                         



                                                 100% 


     





     

    หายไปนานขอโทษทีนะคะ เพิ่งกลับจากญี่ปุ่นตามงานอีกไม่มีเวลาว่างเลย T^T 
    ซองมินได้ไปด้วยดินเนอร์ด้วยอ๊ายยย 

    รูปสร้อยที่ซองมินได้ค่ะ



    ปล.  étoiles ซึ่งแปลว่าดวงดาวในภาษาฝรั่งเศสจ้า 


    เอาให้ตรงกับชีวิต 555

    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะค้าา 

    ขอบคุณสำหรับคนที่เม้นด้วยนะคะ ทำให้มีกำลังใจว่ามีคนอ่าน 



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×