คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : My I dol : : chapter 1 (Sungmin) 100%
MY I DOL
ตอนที่ 1
คุณเคยแอบชอบใครมั้ยครับ ผมรู้ว่าทุกคนต้องเคยแล้วผมก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่คนที่ผมชอบเค้าห่างไกลจากผมมากไปหน่อยเท่านั้นเอง
“ซองมิน เสาร์นี้จองบัตรมีทแล้วนะ เก็บเงินครบยังอ่ะ” เสียงหวานของฮยอกแจดังขึ้นทันทีที่มันหย่อนก้นลงนั่งข้างผม
ผมกลับฮยอกแจเป็นเพื่อนกันนานแล้ว มันแล้วผมชอบศลิปินวงเดียวกัน พากันไปดูคอนนู้น มีทนี้ตลอด แล้วเสาร์นี้ก็ต้องจองบัตรมีทแล้วด้วย เงินเก็บผลมันจะหมดไปตามคะแนนแล้วล่ะ
“ครบแล้วอ่ะ แต่ต้องประหยัดหน่อยละ นี่เค้าบอกว่าถ้าซื้อบัตรแพงสุดได้ลุ้นดินเนอร์ด้วยนะเว่ย” ผมพูดพลางเขย่าแขนไปมันไปด้วย
ผมกับฮยอกแจชอบศิลปินวงเดียวกันมานานหลายปีแล้วครับ มันยิ่งทำให้เราคุยถูกคอมากขึ้น เราคุยเรื่องเดียวกันได้ ผมกับมันนี่เรียกว่าเป็นแฝดได้เลย
ผมนั่งคุยกับฮยอกแจซักพักก็พากันขึ้นห้องเรียน เกรดเราสองคนก็ไม่ได้แย่แต่ก็ไม่สวยหรู อาจมีบางครั้งที่ผมปล่อยการเรียนไปวุ่นเรื่องศิลปินบ้าง แต่ก็แค่อดีตปัจจุบันไม่อยากได้ F มารับประทานแล้วครับมันเหนื่อย
จบคาบการเรียนการสอนไปอย่างงงงวย ผมเรียนไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ เพราะนี่เป็นวิชาหลักภาษา ปัญญาพูดภาษาคนก็บุญแล้วล่ะครับ ผมเลยนั่งมองออกนอกหน้าต่างไม่ได้ฟังที่ครูสอนซักเท่าไหร่ ส่วนฮยอกแจนี่ นั่งคุยกับยามในฝันแล้วล่ะ
.
.
.
.
.
.
.
เช้าวันเสาร์ที่แสนง่วงนอนอย่าเรียกว่าเช้าเลยนี่มันยังไม่สว่างเลยด้วยซ้ำ เนื่องจากวันนี้เป็นวันจองบัตรของศิลปินวงที่ผมชอบ ผมเลยต้องแหกขี้ตาตื่นมาเพื่อเตรียมตัวรับสงครามระดับโลก ผมนัดกับไอฮยอกแจไว้ตอนตี 4 ที่หน้าห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่หนึ่ง เรียกว่าไปรอประตูห้างเปิดกันที่นั่น
อ้อ! ผมลืมบอกไปใช่มั้ยครับ ว่าวงที่ผมชอบชื่อวงอะไร
วงนั้นชื่อ étoiles ครับ เป็นวงที่มีสมาชิกหน้าหล่ออยู่สามคน แต่พวกเค้าไม่ใช่แค่ศิลปินธรรมดาเท่านั้นนะครับ ภายใต้เบื้องหลังก็ยังเป็นลูกของประธานบริษัทที่รวยล้นฟ้าแล้วยังพ่วงมาด้วยอำนาจมากมายอีกต่างหาก เรียกว่าเป็นที่ต้องการของคนนับล้านเลย
แน่ละครับ ทั้งรวย ทั้งหล่อ ดูแบดบอยอีกต่างหาก
“ซองมิน!! โทษทีนะ มานานยัง”
“ยังอ่ะ รีบไปเถอะ” ผมกับฮยอกแจรีบบึ่งไปที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ ที่ ณ ตอนนี้ยังไม่แสงสว่างทั่วบริเวณมากนัก แอร์ก็ยังไม่เปิด มีแต่แม่บ้านเดินกวาดๆเช็ดถูกกันไปตามที่
โชคดีที่ผมกับฮยอกแจแหกขี้ตาตื่นกันแต่เช้า จนได้รับคิวซื้อบัตรแรกกันเลยทีเดียว
คนมากมายเริ่มหลั่งไหลเข้ามาต่อแถว แต่ละคนก็ดูจะเพิ่งตื่นนอนกันทั้งนั้น
“ซองมินรู้ป่ะ ว่าแฟนมีตครั้งนี้อ่ะ จับผู้โชคดี 1 คนไปดินเนอร์กับพี่คยูฮยอนด้วยนะ!”
“เห้ยจริงป่ะ?! แล้วทำไมต้องคยูคนเดียวอ่ะ” ผมถามไอฮยอกแจที่ดูเรื่องเร็วกว่าผมตลอด ผมไม่เคยเรียกคยูฮยอนว่าพี่หรอก ถึงเค้าจะอายุห่างจากผมตั้งหลายปีก็ตาม
“ก็เห็นบอกพี่ทงกับพี่เย่ติดคิวงานอ่ะ ไม่ว่างกัน มีพี่คยูคนเดียวนี่แหล่ะที่เคลียร์คิวได้”
หลังจากสิ้นคำของเพื่อนรัก ผมก็ตาประกายวับวาวเลยทีเดียว การดินเนอร์ไม่ใช่เรื่องง่ายๆสำหรับแฟนคลับเลย เรียกว่าแค่มองหน้าตรงๆชัดๆ ก็ยากแล้วล่ะ…
ผมกับฮยอกแจนั่งรออีกซักพักสงครามแย่งชิงบัตรก็เกิดขึ้น ผมกับฮยอกแจโชคดีที่ได้บัตรแถวสองจากหน้าสุด หลายคนนี่คอตกกลับบ้านประหนึ่งผู้พ่ายแพ้จากศึกครั้งยิ่งใหญ่
ผมกับมันเดินคุยกันอีกซักพักก็แยกย้ายกันกลับบ้าน วันนี้วง étoiles จะขึ้นแสดงไลฟ์โชว์ ผมต้องรีบกลับบ้านเพื่อไปรอดูวงวงนี้ผ่านทางหน้าจอคอม…
ถึงผมจะอยากเจอตัวจริง แต่ผมก็ทำได้เพียงแค่นี้ล่ะครับ
เค้าไม่ใช่คนธรรมดาที่เราสามารถเจอได้ตามสถานที่ต่างๆ
ดวงดาวที่สวยงามแบบนั้น ก็ย่อมเสียเงินแพงมหาศาลถึงเราจะได้ดูใกล้ๆด้วยตาเปล่า…
.
.
.
.
เหมือนโกหกนะครับแต่วันนี้วันแฟนมีตแล้วล่ะ ผมตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวที่จะไปงานแฟนมีตให้พร้อมที่สุด ชุดที่ผมเลือกใส่วันนี้เป็นชุดสีขาวลายกระต่ายตัวโปรดที่อยู่ตรงกลางเสื้อ เรียกว่าถ้าผมไปดูพี่คยูฮยอนแล้วผมก็ชอบใส่เสื้อตัวนี้เสมอ
ผมนัดกับฮยอกแจไว้ให้ไปเจอกันที่งานเลย และเป็นดั่งคาดผมกับฮยอกแจมาก่อนประตูเปิดเกือบหกชั่วโมง แต่เชื่อมั้ยครับ ไม่มีคำว่าเหนื่อยหรือนานสำหรับการรอครั้งนี้เลยครับ ผมสามารถรอทั้งคืนยังได้แม้แค่ผมสามารถจะเจอเค้าได้เพียงหนึ่งนาทีหรือสองนาทีก็ตาม
การที่เราได้เจอคนที่สามารถเติมพลังใจหรือสร้างรอยยิ้มกว้างๆให้เราได้ในเพียงเวลาไม่นาน ให้ตายผมก็รอได้ครับ
อาจดูไร้สาระ แต่แฟนคลับอย่างผมถึงอยากมองนานแค่ไหน ผมก็ไม่สามารถเกิดขอบเขตที่เรามีได้หรอก
ผมกับฮยอกแจเดินเล่นบริเวณงานที่มีคนมากมายเดินสวนกันไปมา มีร้านค้าตั้งขายเยอะแยะเต็มไปหมด และแน่นอนว่ามันก็ผลาญตังผมไปได้มากทีเดียว
“ซองมินประตูเปิดแล้ว เข้าเลยป่ะ ตื่นเต้นอ่ะ” เสียงหวานของฮยอกแจมันถามผมพลางกระโดดดึ๋งๆประหนึ่งมันสามขวบทั้งๆที่หน้ามันนี่สามร้อยอัพแล้วครับ
ผมพยักหน้ากลับพลางรีบไปต่อแถวเข้าไปเร็วดีกว่าไปช้านะครับ
รอไม่นานมากนักคนก็เริ่มเข้ามาและงานก็ได้เริ่มขึ้น ดวงดาวเปล่งประกายทั้งสามดวงกำลังส่องแสงอยู่ข้างหน้าผมครับ แท่งไฟที่ทุกคนเตรียมมาพร้อมใจกันเปิด เพื่อแสดงตัวตนของพวกเค้าสีน้ำเงินส่องแสงสว่างไปทั่วบริเวณงานพร้อมกับรอยยิ้มที่แต่งแต้มขึ้นบนหน้าแต่ละคน
‘พี่คยูฮยอนนนนนนนซารางเฮโย!!’
เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลังผมออกไปไกลทีเดียว พลังเสียงเธอเต็มที่ครับ แต่ผมไม่รู้ว่าคยูจะได้ยินเสียงมั้ย เพราะเค้าแค่ยิ้มและมองไปทั่วบริเวณงานเท่านั้น
“ครับ ต่อจากเพลงนี้จบลงเราจะประกาศรายชื่อของผู้โชคดีที่ได้ไปดินเนอร์อย่างใกล้ชิดกับคุณคยูฮยอนนะครับ”
สิ้นเสียงของพิธีกรทำนองเพลงสบายๆของวง étoiles ก็บรรเลงขึ้นพร้อมกับเสียงที่ไพเราะของดวงดาวทั้งสามดวง ทุกคนพลางตกอยู่ในอารมณ์ของเพลงที่ถูกถ่ายทอดออกมา ผมยิ้มและร้องคลอไปกับเพลงด้วย
ส่วนฮยอกแจนี่มองหน้าพี่ทงมันจนจะบิดเป็นปาทองโก๋แล้วครับ พี่เค้าพูดหวานๆถึงแฟนคลับทุกคน แต่ไอฮยอกแจนี่เขินประหนึ่งพี่เค้ามาเป่าลมข้างหูมันไปแล้วครับ
เมื่อโน้ตเพลงสุดท้ายของเพลงจบลงอย่างสวยงาม เสียงกรี๊ดก็ดังตามมากระหึ่มทั่วทุกทิศ ทั้งสามคนก้มโค้งอย่างสวยงาม เหล่าสตาฟทั้งหลายก็ยกของบางสิ่งที่ใช้ในการจับรางวัลมา ใจของผมเต้นตึกๆ เพราะผมก็หนึ่งในนั้นเหมือนกัน
แต่ยากครับ คนเป็นพัน คนเป็นหมื่น
ยากที่คนคนนั้นจะเป็นเรา
ยากที่หนึ่งในพันนั้นจะถูกหยิบในชื่อของผม
แผ่นกระดาษถูกหยิบขึ้นมาด้วยมือของคยูฮยอน ผมนั่งกุมมือตัวเองแน่น
“ผู้โชคดีคนนั้นคือ...”
“ลี…”
“ซองมินครับ! ขอเชิญคุณลีซองมินขึ้นมาบนเวทีเลยครับ”
เสียงพิธีกรประกาศภายในทั่วบริเวณงานเงียบสงัดประหนึ่งทุกคนพร้อมใจกันเป็นใบ้เลยทีเดียว
.
.
.
เป็นผมจริงๆหรอ
เป็นแฟนคลับคนนี้จริงๆหรอ…
“เห้ย! ซองมินแกได้นิ ขึ้นไปเร็ว โอ๊ยยยดีใจด้วยนะ” ไอฮยอกแจมันกระตุกแขนเสื้อผมพร้อมฉีกยิ้มเหมือนมันได้รับรางวัลแทนผม
ผมไม่อยากจะเชื่อ จากแฟนคลับเป็นพันเป็นหมื่นทำไมถึงเป็นผม เป็นผมได้ยังไงๆ
ผมลุกขึ้นจากที่นั่งและทอดน่องไปตามทางเดิมเพื่อจะขึ้นไปรับรางวัลจากศิลปินในดวงใจ แสงสปอร์ตไลท์สาดส่องมาที่ผมพร้อมสายตาประชาชีทั้งหลาย
“เชิญน้องซองมินขึ้นมาเลยครับ” เสียงพิธีกรกล่าวทักทายทันทีที่ผมก้าวเท้าขึ้นบันได
บอกผมที
ศิลปินที่ผมรักมาหลายปี
ตอนนี้เค้ายืนอยู่ใกล้ผมแล้ว ผมเข้ามาใกล้ดวงดาวที่สวยงามได้ขนาดนี้เชียวหรือ
“ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ เดี๋ยวหลังจากจบมีตติ้งครั้งนี้ รบกวนติดต่อกับทางทีมงานด้วยนะครับ” เสียงทุ้มพิธีกรชี้แจงรายละเอียดต่างๆ แต่ประสาทสัมผัสของผมไม่ค่อยอยู่ครบ เพราะสายตาพร้อมตอนนี้จดจ้องแค่คนคนเดียว
“และไม่ใช่เพียงแค่ดินเนอร์นะครับ แต่ทางคุณคยูฮยอนคุณเยซองและคุณทงเฮได้เตรียมของขวัญชิ้นพิเศษเพื่อผู้โชคดีโดยเฉพาะเลยนะครับ” หลังจากพิธีกรกล่าวจบ เสียงกรี๊ดที่คงตื่นเต้นแทนผมดังกระหึ่มทั่วทั้งฮอล์เรียกอาการใจเต้นของผมได้ดีทีเดียว
พี่คยูฮยอนเดินเข้ามาใกล้ผมพร้อมรอยยิ้มคุ้นเคยที่ผมมองผ่านจอคอมบ่อยๆเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ
“ครับ สิ่งของที่พวกผมเตรียมมาคือสร้อยที่พวกเราออกแบบกันเองครับ”
พี่คยูฮยอนนำสร้อยที่มีรูปดาวและมีกระต่ายอยู่ข้างในออกมาจากกล่องของขวัญที่ถูกซ่อนในเสื้อสูทของตนเอง
“สร้อยนี้พวกผมคิดแบบกันเองครับ พวกเราเลือกดวงดาวเพราะแทนความหมายตามชื่อของวงของพวกเรา” เสียงทุ้มของทงเฮดังหลังจากที่สร้อยถูกหยิบออกมา ตามมาด้วยเสียงของเยซอง
“ส่วนกระต่ายที่อยู่ในดวงดาว ก็ไม่มีอะไรมากครับ คุณคยูฮยอนเค้าชอบก็แค่นั้น ไม่ปรึกษาพวกผมเค้าก็ลงอนุมัติเองเลยครับ” เสียงพูดที่ดูอมอารมณ์ขันก็เรียกเสียงหัวเราะและเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับได้มากเลยทีเดียว
พี่คยูฮยอนยกยิ้มเล็กน้อยและบรรจงใส่สร้อยนี้ลงที่คอของผม
ตึก ตึก ตึก
“ฝากดูแลสร้อยของพวกเราด้วยนะครับน้องซองมิน”
“ฝากดูแลกระต่ายด้วยนะครับ กระต่ายน้อย เจอกันวันดินเนอร์ครับ”
เสียงทุ้มที่พูดออกไมค์แต่คือเสียงที่พี่คยูฮยอนเค้าหมายถึงผม ใจผมเต้นรัวยิ่งกว่าวงบิ๊กแอสขึ้นแสดงเสียอีก
นอกจากที่ผมจะโชคดีได้สร้อยหนึ่งเดียวในโลกแล้ว ผมยังได้ถ่ายรูปและกอดกับทั้งสามคนอีก แต่ก่อนนี่ปากหมาครับไม่เคยเรียกพวกเค้าพี่ แต่พอขึ้นเวทีนี่นิสัยนายงามเข้าสิง พี่ฮะทุกคำยิ่งกว่าทัดดาวบุษบามาเองเสียอีก
ยอมรับว่าผมทำให้ใครหลายคนได้อิจฉามากมายเลยทีเดียว
และก่อนที่ผมจะลงจากเวที เสียงนึงก็ดังขึ้นมาเรียกรอยยิ้มที่กว้างที่สุดในรอบหลายเดือนของผมได้เลยทีเดียว
“อย่าทำสร้อยหายนะครับ กระต่ายน้อยของพี่”
100%
หายไปนานขอโทษทีนะคะ เพิ่งกลับจากญี่ปุ่นตามงานอีกไม่มีเวลาว่างเลย T^T
ซองมินได้ไปด้วยดินเนอร์ด้วยอ๊ายยย
รูปสร้อยที่ซองมินได้ค่ะ
ปล. étoiles ซึ่งแปลว่าดวงดาวในภาษาฝรั่งเศสจ้า
เอาให้ตรงกับชีวิต 555
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะค้าา
ขอบคุณสำหรับคนที่เม้นด้วยนะคะ ทำให้มีกำลังใจว่ามีคนอ่าน
ความคิดเห็น