ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ๑۩ﺴ Black Cross ﺴ۩๑

    ลำดับตอนที่ #2 : อดีตกาลแห่งความมืดที่เริ่มก่อตัว

    • อัปเดตล่าสุด 3 มิ.ย. 58



    อดีตกาลแห่งความมืดที่เริ่มก่อตัว




    ในโลกนี้ ยังมีสิ่งหนึ่ง ที่ทำให้ทุกคนยังเชื่อว่า โลกใบนี้ ยังมีพระเจ้าที่ทรงดูแลและปกป้องพวกเรา

    แต่ไม่เคยมีใครรู้ว่า สิ่งนั่นอยู่ที่ไหน


    ทุกคนทั้งหลายบนโลก ต่างแสวงหาสิ่งนั่น ก่อสงครามมากมายโดยที่บอกว่าเพื่อสันติภาพของโลกจึงควรนำมาเพื่อรักษา โดยที่ไม่เคยรู้เลยว่า สิ่งนั่นอยู่ที่ใด สิ่งนั่นมีความหมายอย่างอย่างไร ไม่มีใครรู้ สิ่งนั่นมีจุดประสงค์เพื่ออะไร ไม่มีใครทราบ และสิ่งนั่นจะก่อความวินาศให้แก่โลกทั้งใบ หรือจะก่อให้เกิดความสุขสงบราวกับสวรรค์ตามที่เล่าขานกันมาหรือไม่  ทุกสิ่งทุกอย่างถูกอุปโลกน์ขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุและจุดประสงค์ การดำรงอยู่เพื่ออะไร ใครจะแย่งชิง ใครจะปกป้อง ไม่มีใครสามารถให้คำตอบเรื่องเช่นนี้ได้เลย

     

    แม้แต่ตัวเราเองก็ตาม

     

    หมู่บ้านเล็กๆในภูเขาอันเงียบสงบ ตอนนี้เริ่มก่อเปลวเพลิงขนาดใหญ่ที่เริ่มลุกลามไปทั่ว ทั่วบริเวณนั่นถูกล้อมรอบด้วยเปลวเพลิงไม่อาจหนีได้ ลุกลามไปถึงป่าที่มีเหล่าสัตว์น้อยใหญ่อาศัย ทุกชีวิตวิ่งเอาตัวรอดกันอลหม่าน ไม่เว้นแม้แต่มนุษย์ หรืออาจจะยกเว้นก็ได้ สำหรับคนบางกลุ่มที่กำลังเข่นฆ่ากันเองเพียงเพื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่

    เหล่าชายชุดทหารนับสิบรายเพียบพร้อมด้วยปืนบรรจุกระสุน ยืนรายล้อมเหล่าคนกลุ่มหนึ่ง มีประมาณ 50 กว่าคน ซึ่งถือว่าเยอะ แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะลุกขึ้นต่อต้านคนจำนวนเหล่านี้ จนกระทั่งมีนายทหารคนหนึ่งที่ดูมีอำนาจกว่าคนอื่นๆได้เดินเข้ามา

    “ที่นี่อาจจะมีสิ่งนั่นหลบซ่อนอยู่...เพื่อความสงบสุขของโลก พวกแกไม่มีสิทธิ์มาขัดขวางการกระทำของพวกเรา”ชายหนุ่มในชุดทหารถือปืนจ่อกลุ่มคนที่นั่งตัวสั่นอยู่ท่ามกลางกองเพลิง

    “ขอร้องละ โปรดฟังก่อน ที่นี่เป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆเท่านั่น ไม่มีสิ่งที่ร่ำลือกันแน่นอน ได้โปรดไว้ชีวิตพวกเราและยกกองกำลังของท่านกลับไปเถอะ”

    ชายแก่พยายามที่จะลุกขึ้นยืนขึ้นอธิบาย โดยมีมือทั้งหลายที่พยายามรั้งไว้ทั้งน้ำตา ก่อนที่จะมีเสียงปืนดังขึ้น กระสุนปักเข้ากลางศีรษะชายผู้นั่นอย่างล้มทั้งยืน


    กรี๊ดดดด!


    “ผู้ใหญ่บ้าน!


    เสียงร้องระงมไปทั่วบริเวณก่อนจะถูกเสียงปืนที่ราวกับคำสั่งบอกให้เงียบลง

    “มันต้องมีแน่นอน ข้าคือตัวแทนแห่งพระเจ้า ไอ้พวกคนเลวที่คิดจะหลบซ่อนสิ่งนั่นอย่างพวกแก โดนข้าพิพากษาก็เป็นบุญแล้ว!

    ชายหนุ่มผู้ไม่มีท่าทีอ่อนข้อเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าแฝงด้วยความเหย่อหยิ่งในตนและรอยยิ้มที่ไม่สะทกสะท้าน กองกำลังทหารนายอื่นๆต่างพยายามพังประตูและกำแพงทั่วทุกหนแห่ง และสายลมที่เริ่มก่อตัวยิ่งโหมกระหน่ำไฟให้แรงมากขึ้นเท่าตัว

    “ท่านนายพล ถ้าอยู่นานกว่านี้ ไฟอาจจะลามไปที่สะพานข้ามภูเขาจนเราไม่อาจกลับได้นะครับ”นายทหารคนหนึ่งรีบรายงานสถานการณ์

    “ที่นี่มันต้องมีแน่นอน เฮ้ย! พวกแก รีบบอกที่ซ่อนมันออกมาซะ”ชายหนุ่มกระชากแขนเด็กน้อยคนหนึ่งมาจากอ้อมกอดของแม่ หญิงสาวพยายามรั้งเอาไว้แต่ก็ไร้ผล เขายิงขาหญิงสาวจนเด็กกรีดร้องด้วยความตกใจ

    “ข้าให้เวลา 1นาที ต่อ 1คน เลือกเอาว่าจะบอกหรือไม่!

    “ขอร้องละ สิ่งนั่นมันไม่มีจริงๆ ไม่มีใครทั้งเคยเห็น เคยพบ พวกเราไม่รู้อะไรจริงๆ!”ชายหนุ่มตะโกนบอกขึ้นมาอย่างสิ้นหวัง ทุกคนต่างเริ่มร้องไห้เสียงดังแต่นั่นก็ไม่ช่วยอะไรเลย เขาพยายามมองหาว่าใครที่สามารถให้คำตอบเขาได้ จนกระทั้งครบ 1 นาที


    ปัง!!


    เด็กสาวที่ยังร้องไห้ก็ล้มลงทั้งน้ำตา แม่ของเธอมองและกรีดร้องแทบขาดใจ คว้าร่างของเธอมากอดเอาไว้แน่น


    “แก ไอ้เลว คนอย่างแกต้องตกนรก!!”แม่ของเด็กสาวร่ำร้อง


    “ไม่มีนรกสำหรับผู้ที่พระเจ้าเลือก”เขาเดินไปรอบๆ คว้าร่างของหญิงชราขึ้นมา

     

     “อย่าลืมละ คนละ1 นาที”

    ทุกๆคนมองกันอย่างสิ้นหวัง ได้แต่ก้มหน้าร้องไห้ ทั้งๆที่ตั้งใจจะหนีจากสงครามเพื่อที่จะมาอาศัยอยู่อย่างสงบๆแล้วแท้ๆ แต่ผู้กระหายสงครามยังไล่ล่ามาเอาชีวิต และสิ่งนั่น สิ่งที่พวกเขาไม่มีมัน

    เวลาที่ผ่านไปเรื่อยๆและเสียงปืนที่ดังขึ้น พรากเสียงของผู้ที่ยังชีวิตไปทีละคน ทีละคน ไร้ความปราณี ไร้ความเมตตา เปลวไฟตกลงมาเผาร่างของผู้ที่ดับสูญ ผู้ที่ยังเหลือกว่า20คน แทบจะสิ้นสติ เมื่อได้มองเพื่อนตัวเองล้มลง

    ดูท่าจะไร้ประโยชน์สำหรับการขู่เข่นในเมื่อไม่มีใครพูดอะไรนอกจากร้องไห้เลย

     

    “โฮ่ ปากแข็งกันจังเลยนะ ก็ดี จะได้ถึงกาลอวสานของพวกแกเร็วๆ”สิ้นคำนั่น นายทหารก็วิ่งเข้าล้อมวง ทุกคนมองอย่างรู้ดีถึงวาระของตนเอง ได้แต่หลับตาลง บางคนสวดอ้อนวอนถึงพระเจ้าบทสวดที่กล่าวทั้งน้ำตาอย่างห้ามไม่ได้ และตรงกลางวงที่นั่งกันอยู่นั่น มีครอบครัวหนึ่งที่กอดร่างกันเอาไว้อย่างแน่น

     

    ปังๆๆๆ!!


    เหลือแต่เพียงเสียงแตกของไม้ที่โดนไฟ เสียงรอยเท้าที่เดินรอบๆ เสียงปืนหยุดลง เสียงสบถของกลุ่มคนและเสียงรถที่ขับเคลื่อนออกไป เพียงเท่านั่น และก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกเลย

     

    หลังจากนั่นผ่านไปซักพัก ฝนก็เริ่มเทลงมา ดับไฟที่กำลังลุกพร้อมล้างคราบเลือดที่เประเปื้อนไปทั่ว หยดน้ำเล็กๆที่ปลุกเด็กสาวคนหนึ่งให้รู้สึกตัว เด็กสาวที่ประคองร่างตนเองออกจากอ้อมกอด เธอไม่ได้รับอันตรายอะไร มองร่างของผู้เป็นแม่ที่มีรอยแผลกลางหลัง และร่างของผู้เป็นพ่อ ที่ยังกอดเธอเอาไว้แน่น พวกเขาพยายามปกป้องเธอไม่ให้พวกนั่นเห็นจนกระทั่งสิ้นลม 

    สายฝนที่เริ่มกระหน่ำลงมา ความเย็นของมันทำให้เธอดึงสติมองไปยังรอบๆ มองทุกๆคนรอบตัวที่เหลือแต่ร่างไร้วิญญาณ  มองหมู่บ้านที่เหลือแต่ซาก ปลอกกกระสุนกลิ้งอยู่บนพื้น คราบเลือดปะปนไปกับน้ำ และตัวเอง ที่สูญเสียทุกอย่าง ท้องฟ้าไม่มีแม้แต่แสงแดด ภาพแห่งอดีตที่ย้อนเข้ามากรีดแทง น้ำตาและเสียงร้องที่เอ่อออกมาอย่างห้ามไม่ได้

    นั่นคือจุดสิ้นสุดชีวิตอันไร้เดียงสาของเด็กสาวคนหนึ่ง

     

    นับจากวันนั่น

    ก็ผ่านมาสิบกว่าปีแล้ว....



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×