ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Laflora Secret ไขปมความรักกับสายลับ 5 สาว

    ลำดับตอนที่ #48 : ตอนที่ 37 : FloraxTears

    • อัปเดตล่าสุด 16 ส.ค. 65


    TB

    37

    FloraxTears


    4.00 pm, The same day, Bangkok Art & Culture Museum (BACM)

    FloraxTears New Collection Fashion Show

    “สวัสดีครับคุณอาทิตย์”

    “สวัสดีครับ”

    ชายกลางคนในชุดสูทสีดำขลับเดินเข้ามาทักทายอาทิตย์ พร้อมกับหันไปทักทายทิวาและไอริณที่อยู่ข้างๆ ก่อนจะผายมือไปยังด้านในของงาน

    “คุณผู้หญิงสองท่านนี้เป็นแขกของคุณอาทิตย์ใช่มั้ยครับ รบกวนทั้งสามท่านตามผมมาทางนี้เลยครับ”

    เขาใช้มือซ้ายจับที่หูฟังก่อนจะพูดอะไรสักอย่างสั้นๆเพื่อส่งข่าวให้อีกฝ่าย ก่อนจะเดินนำหน้าอาทิตย์ไปยังสถานที่จัดงาน

    “โห ทำไมเค้าทำดีกับนายจังเนี่ย ไปยัดใต้โต๊ะอะไรมารึเปล่า” สาวแก่นไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เธอแอบกระซิบที่ข้างหูเพื่อนหนุ่มก่อนจะบุ้ยใบ้ไปทางเจ้าหน้าที่

    “จะบ้าเรอะ ในไทยฉันก็ดังพอสมควรนะเว้ย แถมหลายคนก็ชอบฉันมากเพราะฉันโคตรจะหล่อ”

    “เหลือจะเชื่อ… พวกแฟนคลับพวกนั้นต้องไปล้างตาหน่อยแล้วแหละ”

    “ยัยลิง!”

    “ก็มันจริงนี่ โอ๊ย! อย่าหยิกแก้มฉันสิ!”


    เพี๊ยะ!


    “เจ็บเป็นบ้าเลยเธอนี่!!” อาทิตย์ลูบแขนตัวเองที่ถูกตีรัวๆ ความปวดหนึบที่แฝงด้วยความแสบนิดๆนี่มันอะไรกัน!!!

    “ก็นายมาหยิกแก้มฉันก่อนอ้ะ ดูดิแก้มแดงหมดแล้ว!”


    “เด็กๆ”


    น้ำเสียงเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็งของผู้ปกครองของเด็กทั้งสองดังขึ้น ไม่ต้องมีการเอ่ยครั้งที่สองก็ทำให้ทิวาและอาทิตย์เงียบลงทันที

    “อย่าเพิ่งทะเลาะกันตรงนี้ อย่าลืมว่าเรากำลังออกงานสังคมอยู่ ลาฟลอร่าสอนมายังไง ลูกน่าจะรู้ดีนะ”

    “ค่ะแม่…” ทิวาตอบรับอย่างหงอยๆ ก่อนจะวางตัวตามที่ไอริณบอก

    “ส่วนโซเล่”

    “ครับ…” ฝั่งอาทิตย์ก็จ๋อยไม่แพ้กัน เขาแทบไม่กล้าสู้สายตาของไอริณด้วยซ้ำ

    “ทะเลาะกันได้น้าไม่ว่า แต่อย่าลืมว่าเราอยู่ที่ไหน ตอนนี้หนูเป็นคนดังไปแล้ว ระวังพวกสื่อด้วย จะทำตัวกระโตกกระตากแบบตอนเด็กๆไม่ได้ และที่องค์กรสอนไว้ว่ายังไง”

    “ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เราควรสำรวมตัวครับ”

    “ดีมาก ทำตามด้วยนะ”

    “ครับ…”

    เจ้าหน้าที่ที่เดินนำหน้าพวกเขาทั้งสามขนลุกซู่ เขาไม่ได้เป็นคนโดนว่าด้วยซ้ำ แต่กลับเสียวสันหลังวาบขึ้นมาเมื่อได้ยินประโยคสนทนาเมื่อกี้ 


    ‘คนเป็นแม่โหดไม่ใช่เล่นเลยจริงๆนะเนี่ย น่ากลัว…’


    ผ่านไปไม่กี่นาที พวกเขาก็ถึงโซนที่มีนักข่าวจากหลากหลายช่องรอถ่ายรูป แบ็คดรอปสีครีมพิมพ์ลายโลโก้ของแบรนด์ในสีน้ำตาลถูกตั้งไว้เป็นพื้นหลังของงานวันนี้ ไม่ทันที่หนุ่มไทยได้ย่างก้าวเข้าไป เสียงกรี๊ดจากชั้นบนก็ดังลงมาราวกับพายุโหมกระหน่ำ

    “กรี๊ดดดดดด!!!!”

    “พี่อาทิ้ตตตตตตต รักนะค้าาา!!!!”

    “หล่อจังเลยอ้ะะะ!!!!”

    “แก!!! เค้าสบตาฉันด้วย!!!!”


    ‘หมอนี่มันดังขนาดนั้นเลยเหรอวะ ไม่เห็นหล่อเลย เหอะ’  ทิวาได้แต่นึกสงสัย แอบเบะปากในใจเพราะแสดงออกมาภายนอกไม่ได้


    “ถึงแล้วครับ เชิญคุณอาทิตย์ถ่ายรูปกับสื่อตรงนี้ได้เลยครับ”

    “ครับผม”

    ชายหนุ่มกระชับเสื้อโค้ทลายสก็อตสีครีมแบรนด์บัลเxอรี่ก่อนจะเดินไปโพสท่าราวกับมืออาชีพ ผมสีกรมท่าเข้มที่ถูกจัดทรง wolf cut และดัดลอนเล็กน้อยเพื่อเพิ่มวอลลุ่ม กางเกงสีครีมพื้นไร้ลายที่เข้ากันกับช่วงบน รองเท้าหนังด้านสีน้ำตาลเข้ม ทุกอย่างถูกดีไซน์ให้เข้ากับบุคลิกที่ติดเล่นของอาทิตย์ ช่วยขับความเป็นตัวเขาได้ออกมาอย่างดีเยี่ยม ราวกับเป็นคนละคนที่รู้จัก


    ก็ไม่แปลกที่แฟนคลับเขาจะชอบล่ะนะ


    แต่ก็ไม่ชินอยู่ดี 


    “คุณผู้หญิงทั้งสองไม่สนใจร่วมเฟรมด้วยเหรอครับ?” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งทักทิวาและไอริณที่ยืนรอข้างกลุ่มนักข่าวขึ้น

    “อ๋อ ไม่เป็นไรค่ะ” ไอริณปฏิเสธอย่างสุภาพ ก่อนจะหันกลับไปยังโซนถ่ายรูป แต่ก็ไม่วายเห็นอาทิตย์กวักมือเรียกจนข้อมือแทบสะบัดให้พวกเธอเข้าไปถ่ายรูปด้วย

    “มาเร็วน้า!”

    “เฮ้อ… เป็นแมวกวักรึไง”

    “เอาน่าแม่ สักรูปมั้ย พวกเราก็ไม่ได้ถ่ายรูปนานแล้วนะ” 

    “ก็ได้จ้ะ” ยังไงเธอก็แพ้ให้คำชักชวนของลูกตัวเองอยู่ดี ไอริณจึงจำใจเดินไปถ่ายรูปกับเด็กแสบทั้งสองตรงหน้าแบ็คดรอป


    ‘ไม่ค่อยอยากถ่ายเพราะกลัวพวกคนร้ายมันรู้การเคลื่อนไหวของเรา แต่แค่งานเดียวหวังว่าจะไม่เป็นไรนะ’


    แชะ! แชะ! แชะ! แชะ! แชะ! แชะ!


    “ขอบคุณมากครับคุณอาทิตย์! เชิญด้านนี้ได้เลยครับ!”

    “ได้ครั-”

    “เดี๋ยวก่อนค่ะ!!!”

    จู่ๆก็มีนักข่าวสาวเบรคกะทันหัน เป็นผลให้สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังเธอ ไม่เว้นแม้แต่มดที่แอบเดินอยู่แถวๆงาน

    “ขออนุญาตนะคะ แล้ววันนี้คุณอาทิตย์ไม่ได้ควงคุณราตรีมาออกงานเหรอคะ? หรือว่าขาดการติดต่อกัน?”


    ‘หืม ราตรี?’ ทิวานึก คงไม่ใช่ราตรีเดียวกันมั้ง คนไทยชื่อซ้ำกันเยอะจะตาย


    “นั่นสิครับ! เห็นปกติมักจะออกงานด้วยกันแทบทุกงาน หรือว่าจะมีการทะเลาะกัน!?”

    “เรื่องมันร้ายแรงมากมั้ยคะ!?”

    “ชิ… ให้ตายเถอะ” ชายหนุ่มเอ่ยปากบ่นด้วยความรำคาญขณะที่ยังยิ้มอยู่ “นักข่าวทุกท่านครับ ตอนนี้ผมกับราตรีไม่ได้ทะเลาะอะไรกันครับ”

    “แล้วทำไมวันนี้ถึงไม่มางานเหรอคะ??”

    “(สงสัยเก่งจริ๊งงง) พอดีว่าเธอไปเที่ยวต่างประเทศครับ ครั้งนี้ผมเลยพาคุณน้ากับเพื่อนสนิทของผมมาออกงานแทน”

    “ว้าวววว คุณน้าและเพื่อนสนิทของคุณอาทิตย์งดงามมากเลยค่ะ แต่ไม่ค่อยเห็นพวกเขาเลยนะคะ ไม่ทราบว่-”

    “พอดีว่าพวกเขาทั้งสองอาศัยอยู่ต่างประเทศครับ นานๆทีจะกลับไทย ผมเลยอยากพามาเพื่อพบเจอเพื่อนๆพี่ๆในวงการและทุกคนครับ”

    “แล้วเพื่อนของคุณอาทิตย์คนนี้ รู้จักกันมานานยังครับ!?”

    “(หยุดถามกันได้ยังฟะ) นานมากกกกแล้วครับ ตั้งแต่สมัยดูดขวดนมเลย ฮ่าๆ (ขำกลบเกลื่อนไปงั้นแหละ)”

    “แล้วอย่างนี้คุณราตรีไม่โกรธเหรอคะ!?”

    “(กุชักจะหมดความอดทนแล้วนะ) พวกผมจะโกรธกันทำไมเหรอครับ ในเมื่อพวกผมเป็นแค่เพื่อนกัน”

    “แต่มีคนถ่ายรูปได้นะคะว่าคุณไปส่งคุณราตรีถึงบ้านที่ต่างจังหวัดเลย”

    “...”

    “เรื่องนี้จะอธิบายยังไงเหรอคะ?”

    “...”

    “คุณอาทิตย์?”

    “ว้า! พวกคุณรู้แล้วเหรอเนี่ย ว่าผมรับจ๊อบเสริมเป็นแกร๊ปขับรถน่ะ อุตส่าห์จะเก็บเป็นความลับสักหน่อย”

    “อะ ห๊ะ????”

    ในตอนที่นักข่าวกำลังสับสนเป็นไก่ตาแตก สายลับหนุ่มก็รีบทำมือขอความช่วยเหลือจากพิธีกรที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เขาเข้าใจทันทีและรีบตัดบทแทรกก่อนที่นักข่าวจะถามไปมากกว่านี้

    “ทะ ทุกๆคนคร้าบ ต้องขอขอบคุณดารานักแสดงหนุ่ม อาทิตย์ ไม้งามคนนี้มากเลยนะครับ! ส่วนต่อไป ไฮไลต์ของงานวันนี้คือมีบอยแบนด์สัญชาติไทยที่กำลังโด่งดังมากในขณะนี้มาร่วมงานด้วยครับ เชิญพบกับ darkmoon คร้าบบบบ”

    พิธีกรคนนั้นรีบพาอาทิตย์และแขกของเขาออกจากโซนถ่ายรูป ก่อนที่เขาจะวิ่งกลับไปทำหน้าที่พิธีกรต่อ โดยที่ยังไม่ทันได้รับคำขอบคุณจากทั้งสามเลย

    “งั้นเดี๋ยวไว้ขอบคุณเขาตอนงานเลิกก็แล้วกัน”

    .

    .

    .

    “วอททท คนขับแกร๊ปเนี่ยนะ!?” หลังจากที่ทั้งสามมั่นใจว่าทิ้งห่างจากกลุ่มนักข่าวได้แล้ว ทิวาจึงตะโกนถามอาทิตย์จนแก้วหูแทบจะแตก

    “ตะโกนทำไมยัยบ้า! ก็มันเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้นักข่าวงงมั้ยล่ะ!”

    “แต่โซเล่ก็ฉลาดนะ เป็นน้าน้าก็งง” นานๆทีไอริณจะเอ่ยชมลิงแสบคนนี้

    “ใช่มั้ยล่า~ เชื่อสิ เดี๋ยวเย็นนี้ไม่ก็พรุ่งนี้เช้า ข่าวฉันออกแน่ว่าขับแกร๊ป ฉันนี่มันเท่จริงๆ!”

    “เฮ้อ… เชื่อเขาเล้ย” ถอนหายใจรอบที่ล้าน หญิงสาวผมน้ำตาลก็ยังไม่ชินกับเพื่อนตัวเองอยู่ดี

    “เข้างานกันเถอะเด็กๆ เดี๋ยวสายนะ”

    “ค่ะแม่”

    ทั้งสามเดินเข้างานทั้งๆที่อาทิตย์ก็ยังชมตัวเองไม่เลิก ภายในฮอลล์ตกแต่งในธีมมหาสมุทรไร้ขยะ มีตัวการ์ตูนสัตว์น้ำที่ถูกวาดอย่างน่ารักตกแต่งตามจุดต่างๆของฮอลล์ คริสตัลเม็ดเล็กนับแสนถูกห้อยลงมาเพื่อให้คล้ายกับประกายระยิบระยับบนท้องทะเล ตามทางเดินมีเหล่าตุ๊กตาปะการังนุ่มฟูพร้อมกับปลาการ์ตูนวางเรียงรายอยู่ ให้ความรู้สึกราวกับเป็นนางเงือกที่กำลังแหวกว่ายในสวนดอกไม้ของท้องทะเล

    คอลเลคชั่นในครั้งนี้ถูกออกแบบภายใต้หัวข้อการรีไซเคิล และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยที่สินค้ามีราคาจับต้องได้ เริ่มตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักแสน เป็นเสื้อผ้าและกระเป๋ารวมถึง packaging ที่ทำมาจากของรีไซเคิลทั้งหมด กำลังพัฒนาให้ทำร้ายโลกน้อยที่สุด และกำไรส่วนหนึ่งจะนำมาสนับสนุนโครงการต่างๆที่ช่วยลดปัญหาโลกร้อนด้วย นอกจากนี้ แบรนด์ยังเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนในการเก็บขยะในมหาสมุทรแปซิฟิก (Great Pacific Garbage Patch, The Ocean Cleanup) ซึ่งจะส่งเงินช่วยเหลือในทุกปีไม่ขาดสายตั้งแต่ปี 2018

    พวกเขาทั้งสามเดินมายังที่นั่งของตนที่อยู่แถวที่หกนับจากแถวที่ติดเวที ที่นั่งตรงนี้ทำให้ทิวามองโชว์ลำบากเล็กน้อยเป็นผลจากความสูงของเธอ บวกกับคนข้างหน้าที่ใส่พรอพหัวเยอะจนบังทัศนียภาพของเธอ หญิงสาวชะโงกแล้วชะโงกอีกก็ยังไม่เห็น จนอาทิตย์อดที่จะแซวไม่ได้

    “เอาเบาะเสริมของเด็กมั้ย จะได้มองเห็น”

    “บูลลี่!!”

    “เปล่าน้า โชว์เริ่มแล้ว!”

    “ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลย!”

    “แหะๆ :P” อาทิตย์แลบลิ้นใส่ทิวาก่อนจะหันไปจดจ่อกับโชว์ตรงหน้า

    เพลงสากลถูกเล่น นางแบบและนายแบบของแบรนด์เริ่มเดินสับออกมาทีละคน การลงน้ำหนักเท้าที่หนักแน่น สีหน้าที่นิ่งเฉย แผ่นหลังเชิดตรง เสื้อผ้าและเครื่องประดับที่ถูกออกแบบอย่างแหวกแนวแต่ละเอียดอ่อน ทุกอย่างถูกผสมผสานกันอย่างลงตัวภายในผู้เดินแบบทุกคน ทำให้ผู้ชมแทบจะละสายตาออกไปไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว รวมถึงไอริณด้วยเช่นกัน

    “ว้าว…”

    “เอาสักชุดมั้ยแม่” ผู้เป็นลูกถาม

    “ก็ดีเหมือนกันนะ”

    “งั้นหนูคงต้องผ่อนแหละ เงินหนูไม่เยอะขนาดนั้น ฮ่าๆๆ”

    “ลูกก็ให้โซเล่ออกด้วยครึ่งนึงสิ หารกัน”

    อาทิตย์รู้สึกเหมือนได้ยินชื่อตัวเองจึงหันไปทางแม่ลูกทั้งสองก่อนจะชี้เข้าหาตัวเองแบบงงๆ

    “ฮะ ผมเนี่ยนะ?? แล้วบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกโซเล่ในที่สาธารณะน่ะครับ”

    “ซื้อชุดนั้นให้ก่อนสิ เดี๋ยวหยุดเรียก”

    “ชุดนั้นเนี่ยนะ เป็นแสน! ผมไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมพอดีอะ”

    ไอริณหัวเราะที่ได้หยอกล้อเด็กแสบคนนี้ ก่อนจะกลับไปเชยชมคอลเลคชั่นสวยหรูต่อ

    .

    .

    .

    “ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมงานในวันนี้นะคะ พบกันใหม่ในคอลเลคชั่นหน้าค่ะ!” ดีไซน์เนอร์สาววัยสี่สิบปลายเอ่ยขอบคุณแขกในงานก่อนจะลงจากเวทีพร้อมกับผู้เดินแบบคนอื่นๆ ในขณะเดียวกันผู้เข้าชมก็ทยอยกันออกจากห้องแสดงโชว์เช่นกัน

    “เอ่อ น้าไอริณครับ” อาทิตย์ทักขึ้น

    “?”

    “น้าจะรอแสดงความยินดีกับดีไซน์เนอร์มั้ย คือผมอยากจะขอบคุณเขาที่ชวนผมมาหน่อยน่ะ”

    “ได้สิจ๊ะ น้าก็อยากแสดงความยินดีกับเขาเหมือนกัน” ไอริณยิ้มตอบ “งั้นเราไปรอใกล้ๆที่เขายืนกันมั้ย”

    “ได้ครับ”

    ทั้งสามคนเดินไปยังโซนถ่ายรูป ที่เดิมที่อาทิตย์ถูกนักข่าวรุมสาดคำถามเมื่อชั่วโมงที่แล้ว แต่ในตอนนี้ไม่มีนักข่าวเหลืออยู่สักคน ทำให้ชายหนุ่มสบายใจขึ้นเยอะ

    “เฮ้อ ดีจัง” เขาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

    “ดูท่ามีนักข่าวคอยตามมันเหนื่อยจริงๆสินะ ไม่เคยเห็นนายถอนหายใจเลย”

    “ใช่ เหนื่อยกว่างานแสดงพันเท่า”

    “เอ้อ แล้วคำถามที่เค้าถามนายอะ ฉันสงสัย” ทิวารีบหันไปจ้องอาทิตย์อย่างเค้นคำตอบ “นายควงราตรีออกงานเหรอ ราตรีไหน!?”

    “อะ เอ่อ…” อาทิตย์เลิ่กลั่กรอบที่ล้าน เขาเหลือบมองไปยังไอริณ ก็เห็นว่าเธอยืนนิ่งๆแต่สายตากำลังบอกว่า ‘น้าก็อยากรู้เหมือนกัน รีบบอกมา’ “เฮ้อ… โกหกไป เธอก็จับได้อยู่ดีสินะ”

    “ก็รีบบอกมาเร็วๆสิ!”

    “เธอเนี่ยพัฒนาขึ้นตั้งแต่ตอนไหนนะ ถึงขั้นจับไต๋คนอื่นได้แล้ว” มือหนายีผมน้ำตาลของหญิงสาวจนยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง ทิวาเลยตีไปที่แขนของเพื่อนสนิทแรงๆอีกหนึ่งที

    “นี่แน่ะ! ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่องเลยย่ะ!”

    “ฮ่าๆ ก็ได้ๆ คือ…” เขาลากเสียงยาว ให้ยัยลิงกังได้ลุ้น ก่อนจะยอมบอกจริงๆ “ราตรีที่เขาถามกัน ก็คือราตรีเดียวกับที่เธอรู้จักนั่นแหละ”

    “แล้วเป็นไงมาไงพวกนายถึงออกงานด้วยกันได้ล่ะ?”

    “ก็ จำตอนที่เธอแนะนำราตรีกับฉันใหม่ๆได้มั้ย ตอนนั้นราตรีก็ไม่มีเพื่อน ส่วนฉันก็เพิ่งได้รับงานแสดงมาหมาดๆ กองฉันไปถ่ายที่อยุธยา พวกเราเลยนัดเจอกันบ่อยๆน่ะ”

    “ว้าววว ฉํนไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ย ราตรีไม่เคยเห็นจะเล่าให้ฟังเลย”

    “ราตรีไม่ชอบฉันรึเปล่า เลยไม่เล่า”

    “ก็คงงั้น”

    “ยัยลิงนี่!! ต่อละกัน แล้วทีนี้ หนังเรื่องนั้นมันเกี่ยวกับประเทศไทยสมัยประวัติศาสตร์ แล้วราตรีก็คลั่งไคล์ของโบราณมาก กองเราเลยได้ข้อมูลมีประโยชน์เยอะมากจากราตรีนี่แหละ แล้วพอหนังเรื่องนั้นเปิดตัว ฉันเลยขอตั๋วเข้างานจากผู้กำกับมาหนึ่งใบเป็นคำขอบคุณ”

    “ราตรีเลยไปงานกับนาย?”

    “นั่นแหละ แล้วราตรีก็บอกกับฉันว่า ไปงานพวกนี้ก็เปิดโลกทัศน์เธอดี ถ้ามีครั้งหน้าก็อย่าลืมชวนด้วยล่ะ ตั้งแต่ตอนนั้นพวกเราก็เลยออกงานด้วยกันตลอด”

    “แล้วอย่างนี้พวกนายก็สนิทขึ้นมาบ้างมั้ย แบบถึงขั้นพัฒนาความสัมพัมธ์ไปสู้เพื่อนชุบแป้งทอดไรงี้”

    “จะบ้าเหรอ! พวกเราก็เพื่อนกันปกตินี่แหละ ใครล่ะจะแอบกินเพื่อนแบบเธอ”

    “อุ๊บ!” ไอริณแอบหลุดขำ “เบาได้เบาอาทิตย์ มันกระทบน้า”

    “เออว่ะลืม! ลืมว่าน้ากับน้าศิลาก็เป็นเพื่อนกันมาก่อน”

    “นั่นไงเห็นมั้ย ไอคนปากพล่อย กระทบไปทั้งงาน”

    “เว่อร์!”

    “เอ่อ… ขอโทษนะคะ” ในขณะที่ทั้งสองกำลังจะเริ่มมีปากเสียงกัน เสียงผู้หญิงวัยกลางคนก็ขัดขึ้นแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย “คุณอาทิตย์ ไม้งามรึเปล่าคะ”

    เมื่ออาทิตย์หันไปยังต้นเสียง ก็พบว่าคนคนนั้นคือดีไซน์เนอร์คนที่อาทิตย์กำลังรอแสดงความยินดีอยู่

    “โอ้! สวัสดีครับ ผมอาทิตย์เองครับคุณดีไซน์เนอร์” ชายหนุ่มรีบก้มหัวด้วยความตื่นเต้น อีกฝ่ายอมยิ้มเบาๆแล้วยื่นมือไปตรงหน้าเพื่อทักทาย

    “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อลาแวร์เทียร์ ฟิเอลนะคะ หรือจะเรียกว่าลาแวร์ก็ได้นะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”

    “ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ!”

    “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะคะ” ทิวาและไอริณกล่าวขึ้นขณะเชคแฮนด์กับดีไซน์เนอร์คนดัง 

    “ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ คอลเลคชั่นนี้ประสบความสำเร็จมากมายเลย แล้วยังต้องขอบคุณคุณลาแวร์ที่เชิญพวกผมมางานนี้ด้วยนะครับ”

    “ขอบคุณที่เชิญพวกหนูมานะคะ”

    “ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะคุณลาแวร์ นี่ช่อดอกไม้ค่ะ” ไอริณยื่นช่อดอกคาร์เนชั่นที่ฝากเจ้าหน้าที่ไว้ก่อนเข้างานให้ลาแวร์ เธอรับมันแล้วกอดไว้ที่อกอย่างเอ็นดู

    “ขอบคุณพวกคุณมากนะคะ”

    “คุณรู้มั้ยครับ ว่าคอลเลคชั่นนี้มันสุดยอดไปเลย!” อาทิตย์อดใจไม่ไหวที่จะเชยชม เขาสาธยายความหลงใหลที่เขาได้รับตั้งแต่บัตรเชิญยันแฟชั่นโชว์ภายในงาน ทางดีไซน์เนอร์สาวก็ตอบรับเป็นอย่างดี 

    ไม่นานหลังจากนั้น สายตาสีเขียวอมน้ำเงินเข้มของชายหนุ่มสังเกตได้ถึงร่างที่คุ้นตา มันคือร่างของพิธีกรที่ช่วยเคลียร์นักข่าวให้ตอนต้นงาน อาทิตย์จึงรีบรุดไปหาเขา

    “ขอตัวสักครู่นะครับ”

    “อาทิตย์ไปไหนอะแม่” ทิวาถาม

    “อ๋อ เห็นก่อนหน้านี้บอกว่าอยากจะขอบคุณพิธีกรคนนั้น แม่ว่าน่าจะใช่นะ”

    “อ๋อ…”

    “พวกคุณเป็น… แม่ลูกกันเหรอคะ?” ลาแวร์ถือวิสาสะเอ่ยถามอย่างไม่เชื่อ

    “อ๋อ ใช่ค่ะ ทิวาเป็นลูกของฉันเอง ส่วนอาทิตย์เป็นเพื่อนสนิทของทิวา ฉันดูแลเขาตั้งแต่เด็ก ก็เปรียบเสมือนลูกอีกคนไปแล้วค่ะ”

    “ดีจังเลยค่ะ พวกคุณทั้งสามคนน่ารักกันจัง ตอนนี้หนุ่มน้อยคนนั้นไม่อยู่แล้ว ถ้างั้น…” สาววัยสี่สิบปลายหยุดประโยคไปครู่นึง ก่อนจะยิ้มกว้าง จนสองสาวเริ่มสับสน

    “?”

    “พวกคุณทั้งสอง มาจากลาฟลอร่ารึเปล่าคะ?”

    “...”


    ‘เดี๋ยวนะ เธอคนนี้รู้จักลาฟลอร่าได้ยังไง ไม่มีทางที่คนนอกจะรู้การมีตัวตนของโรงเรียนนี้หนิ’

    ‘ชื่อซ้ำเหรอ ไม่น่านะ เพราะสีหน้าเธอก็ดูมั่นใจมากๆ’

    ‘เธอรู้จักลาฟลอร่า เธอรู้ได้ยังไง???’


    “คะ???” เพื่อที่จะย้ำว่าตัวเองฟังไม่ผิด ไอริณจึงถามกลับอีกครั้ง

    “ฮะๆ พวกคุณน่าจะตกใจกันนะคะ 


    แสดงว่าพวกคุณมาจากลาฟลอร่า ใช่รึเปล่าคะ?”


    _______________________________________________________


    สวัสดีค่า ผู้อ่านทุกท่าน ไม่ได้มาพูดคุยกันนานเลย หวังว่าทุกท่านจะสบายดีกันนะคะ ><

    FloraxTears อ่านว่า ฟลอแรกซ์เทียรส์ นะคะ เผื่อผู้อ่านบางคนไม่แน่ใจว่าอ่านชื่อนี้ยังไง

    ขอโทษด้วยนะคะที่หลังๆมานี้อัพไม่เป็นเวลาและไม่มีรูปภาพแถมให้ท้ายตอนเลย ตอนนี้ไรท์กำลังหาเวลาว่างวาดอยู่ค่ะ เพราะไรท์คิดว่าถ้ารอรูปวาดด้วย ผู้อ่านจะได้อ่านนิยายกันช้า ไรท์ถึงมาอัพให้ก่อนเลย รูปวาดจะตามมาติดๆนะคะ ไรท์จะลงสองที่ ในนิยายและในทวิตเตอร์นะคะ ฝากติดตามกันด้วยนะคะ!

    ขอบคุณสำหรับที่ยอดอ่านและกำลังใจเลยนะคะ มันมีความหมายสำหรับไรท์มากจริงๆค่ะ รักผู้อ่านทุกคนนะคะ! <3


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×