ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Laflora Secret ไขปมความรักกับสายลับ 5 สาว

    ลำดับตอนที่ #45 : ตอนที่ 34 : ปิดเทอม! - รุ่นพี่สายลับคนที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 16 ส.ค. 65


    34

    ปิดเทอม! - รุ่นพี่สายลับคนที่ 2


          แสงแดดส่องยามเที่ยงตกกระทบที่ร่างกายของชายหนุ่มผู้มาใหม่ เขายืนยิ้มแก้มปริ สองแขนอ้ารอการเดินทางมาของเพื่อนวัยเด็กของตน

         ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้เห็นท่าทางเซ่อซ่าแต่ก็ดูดุ๊กดิ๊กของทิวา เพราะตั้งแต่ที่เขาขึ้นมัธยม เขาก็ต้องเข้าโรงเรียนประจำ แถมเสาร์อาทิตย์ก็ไปเรียนพิเศษการแสดงเพื่อสานฝันตัวเองเป็นประจำ ทำให้กว่าแต่ละคนจะได้เจอกัน พวกเขาก็เติบโตขึ้นไปมากแล้ว

    “คิดถึงจังเลย! ไม่เจอกันตั้งนานแน่ะไอคนปากหมา”

    “เจอเพื่อนนานๆทีก็เรียกให้มันดีๆหน่อยสิยัยลิง”

    “ฮี่ๆ”

    พวกเขากอดกันแน่นเพื่อชดเชยเวลาที่ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี อาทิตย์เห็นว่าโอกาสนี้น่าจะแกล้งไอหนุ่มหน้าตี๋ได้จึงหันไปเก๊กหน้าใส่กียุลหนึ่งที เขารู้ว่าท่าทางแบบนี้มันจะยียวนกวนประสาทเขาได้ไม่มากก็น้อย แต่เอาจริงๆมันก็มากเลยอะนะ 

        สะใจว่ะที่ได้เห็นมันเดือดปุดๆแบบนี้ 

        ส่วนเพื่อนๆที่เหลือที่ยืนอยู่ที่ท่าเรือกับไอริณได้แต่เฝ้ามองเหตุการณ์อย่างงุนงงพร้อมกับครุ่นคิดว่า


    ‘ไอนี่ขี้เก๊กชะมัด’


    “ยูยอมเหรอโอปป้า แฟนยูเลยนะเว้ย”

    “หน้าฉันเหมือนยอมมากมั้ง แต่ให้ทำไงได้” กียุลว่าก่อนจะยืนทิ้งขาแล้วกอดอก “เดี๋ยว นายรู้ได้ไงว่าฉันกับทิวาเป็นแฟนกันแล้ว”

    “Are you serious oppa? มองจากดาวอังคารยังรู้เลยว่าพวกยูคบกัน”

    “บวกกับที่คุณทิวาบอกเมื่อเช้าเจ้าค่ะ”

    “อ่อ…”

    “เห็นคนนั้นกอดเลดี้ทิวาแล้วไออยากกอดยูริจังบ้างเลยอะ มามะดาร์ลิ้ง มาให้กอดมา!”

    “คะ คุณคริสเจ้าคะ!?”

    คริสโตเฟอร์สวมกอดกับยูริในขณะที่หญิงสาวไม่ได้ทันตั้งตัว ทำให้เธอตกใจไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเธอก็ชอบอ้อมกอดของแฟนหนุ่มเหมือนกัน

    “Awww สองคนนั้นน่ารักจังเลย” โรซารี่เอ่ย

    “เฮ้ย กียุล อย่าอิจฉาเขาดิ” ดันเต้เห็นเพื่อนตัวเองเริ่มหน้ามุ่ยหนักขึ้นเมื่อเห็นคริสและยูริกอดกันจึงเข้ามาทักพลางบีบไหล่เบาๆ

    “ฮึ่ย…”

    “ครูไอริณคะ คนนั้นเป็นใครเหรอคะ” ด้วยความสงสัยมาสักพัก นาซิสซ่าจึงตัดสินใจเอ่ยถาม

    “คนนั้นเป็นสายลับรุ่นพี่อีกคนที่ครูให้มาช่วยงานนี่แหละจ้ะ ชื่ออาทิตย์ แล้วเค้าก็เป็นเพื่อนสมัยเด็กของทิวาด้วย”

    อาทิตย์ที่ยืนอยู่บนเรือได้ยินคนเรียกชื่อของตนก็หันมาทำท่าหล่ออีกหนึ่งครั้งอย่างคนหลงตัวเอง

    “น่ะ น่ะ หันมาเก๊กอีกละน่อ”

    “อาทิตย์ก็งี้แหละจ้ะ ครูก็รำคาญเหมือนกันบางที”

    “อุ๊ปส์”

    “อย่าขำสินาซิสซ่า!”

    “ก็มันตลกนี่ยัยโรส อุ๊ปส์ ฮ่าๆ”

    “เราขึ้นไปคุยรายละเอียดที่เหลือกันบนเรือมั้ยจ๊ะ ตรงนี้กลัวพวกหนูร้อน”

    “ก็ดีนะคะ”

    “เฮ้! ดันเต้! อเล็กเซ!”

    “?”

    ทุกชีวิตหันไปตามต้นเสียงพร้อมกัน พบว่าเป็นเพลโตและเพื่อนของเขาอีกสามคนกำลังโบกมือทักทาย เหล่าเจ้าชายโบกมือตอบก่อนที่อเล็กเซจะกวักมือเรียกพวกเขาให้มาหา

    “สวัสดีครับครูไอริณ ว่าไงพวกนาย เก็บของกันเสร็จยัง?” เพลโตเอ่ยอย่างเป็นมิตร

    “ยังฮะ เพิ่งจะลงมาจากเรือดุ๊กนี่แหละ กำลังจะขึ้นไปแล้ว” อเล็กเซตอบ

    “อ่อ หวัดดีพวกเจ้าหญิงด้วยนะ ไม่ได้เจอกันตั้งนานแน่ะ พวกเธอสบายดีมั้ย”

    “ไม่ได้เจอกันตั้งนานอะไรยะ ก็เพิ่งเจอเมื่อตอนสำรว- อื้อ!!” ไม่ทันจบประโยค โรซารี่ก็รีบเอามือปิดปากนาซิสซ่าให้หยุดพูดเพราะเธอกำลังจะบอกในสิ่งที่คนนอกไม่ควรรู้อย่างเด็ดขาด!

    “สบายดีจ้า ไม่เจอกันตั้งนานเลย แหะๆ”

    “แต่เมื่อกี้คุณนาซิสซ่าบอกว่าเพิ่งเจอกับผม ตอนไหนเหรอ?”

    “เอ่อ…”


    ‘ซวยแล้ว จะอ้างอะไรดี คิดสิ!’


    “ก็เมื่อเดือนที่แล้วไงน่อ ที่ลื้อไปแข่งเล่านิทานที่ลาฟลอร่าแล้วแวะไปที่ชมรมปาติซิเย่ร์น่ะ”

    “อ๋อ!!” มือข้างขวาที่กำอยู่ตบลงบนฝ่ามือด้านซ้ายราวกับนึกอะไรบางอย่างออก เพลโตตาลุกวาวเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ครั้งอดีต “ชมรมปาติซิเย่ร์เชิญผมกับเพื่อนๆที่ไปแข่งด้วยกันไปลองขนมสูตรใหม่ด้วย อร่อยมากๆเลยล่ะ! ต้องขอบคุณชมรมคุณนาซิสซ่านะครับที่ให้พวกผมได้กินอะไรอร่อยๆ”

    “(ปล่อยฉันสิยะยัยโรซารี่!) ของมันแน่อยู่แล้วล่ะย่ะ ถ้าขนมนี้วางขายนายต้องไปซื้อกินด้วยนะยะ โฮะโฮะโฮะ!”

    “ไม่พลาดอยู่แล้ว ดีใจที่พวกคุณสบายดีนะ แล้วอาจารย์ลิงไม่มาด้วยเหรอ?”

    “ทิวาน่ะเหรอ อยู่ข้างบนกับเพื่อนเขาน่ะ”

    “อ่อ…” เพลโตหันไปตามทางที่นาซิสซ่าชี้ เขาพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ก่อนจะหันมาสานต่อบทสนา “จะว่าไป เอ่อ อเล็กเซ” หนุ่มกรีซหันไปเรียกเพื่อนชาวรัสเซียที่ยืนอยู่ข้างๆ

    “ฮะ?” 

    “พวกนาร์เซสหายไปไหนเหรอ ฉันไม่เห็นตั้งแต่เช้าละ”

    “หะ ฮะ?? นะ นะ นาร์เซส เอ่อ… ขะ ข้างบนมั้ง!!!”

    “ทำไมนายพูดติดอ่างอะ เป็นอะไรเปล่า”

    “ไม่มีอะไร้ ↗ จริงจริ๊ง”

    “อ่อ… โอเค ไม่มีก็ไม่มี”

    “ขะ ขึ้นไปหาได้นะ!”

    “ไม่เป็นไรๆ ฉันไม่อยากไปรบกวนพวกนั้นน่ะ แค่ไม่ค่อยได้เห็นช่วงนี้เลยมาถาม แล้ว-”

    “เพลโต! ไปกันได้แล้ว!” หนึ่งในกลุ่มเพื่อนของเพลโตตะโกนเรียก ทำให้เขาต้องรีบบอกลาเหล่าเจ้าชายทั้งๆที่ยังไม่อยากไป

    “โทษทีนะ ฉันต้องไปแล้ว ไว้คุยกันนะ”

    “อื้ม ไว้คุยกันฮะ”

    หนุ่มกรีซโบกมือลาก่อนจะวิ่งไปหากลุ่มเพื่อนตัวเอง สีหน้ายิ้มแย้มเมื่อสักครู่แปรเปลี่ยนเป็นกังวลทันทีที่เขาหันหลังให้ราชาทั้ง 5

    “เพลโต เป็นอะไรไปน่ะ?”

    “อะ ฮะ? ไม่มีอะไรๆ พวกเราก็ไปกันเถอะ! ใกล้ถึงเวลาไฟลท์บินแล้วนี่”

    “นั่นสิ”

    เพลโตรีบดันหลังเพื่อนๆให้เดินไปอีกทางอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกตะหงิดแปลกๆ ราวกับว่าพวกนาร์เซสที่เขาพูดถึงเมื่อกี้ไม่มีตัวตนจริงๆยังไงยังงั้น


    คิดมากไปเองรึเปล่านะ


    “พวกเราก็ไปกันบ้างมั้ยจ๊ะ” ไอริณหันมาถาม

    “ได้น่อ”

    “เกือบไปแล้วมั้ยล่ะอเล็กเซ” ดันเต้ถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาใช้ฝ่ามือหนาบีบไหล่ที่เพื่อนตัวเล็กเพื่อปลอบใจเขา

    “นั่นสิฮะ ถ้าผมทำความแตกผมคงรู้สึกผิดไปชั่วชีวิตเลย”

    .

    .

    .

    “โซเล่ เธออยู่ไหน?”

    [อยู่ตรงทางเดินหอพักอะน้า แล้วอย่ามาเรียกโซเล่ในที่สาธารณะสิ!]

    “โทษๆ พอดีติดปากน่ะ แล้วเธออยู่กับใคร?”

    [ผมอยู่คนเดียว เพิ่งพาทิวาไปส่งให้พวกตี๋เกาหลีเมื่อกี้]

    “โอเค กำลังไปหา”

    “ครูไอริณสวัสดีครับ” ในขณะที่หญิงสาวกำลังจะรีบวิ่งไปหาคนปลายสาย นักเรียนโนอาห์สองคนที่ผ่านมาทักทายเธอก่อนจะเดินสวนไป

    “สะ สวัสดีจ้ะ…”

    [อุ๊ปส์ โดนเข้าใจผิดอีกแล้วเหรอ ฮ่าๆๆ]

    “ก็ใช่น่ะสิ หน้าน้ามันเหมือนไอริณขนาดนั้นเลยรึไงวะ”

    [เหมือนน่ะสิ ไม่งั้นพวกนักเรียนจะทักผิดเหรอ น้าแอริณ]

    “เฮ้อ มีแฝดบางทีก็เหนื่อยใจ”

    .

    .

    .

    [กว่าจะมาถึงนะ ผมยืนรอจนเมื่อยแล้วเนี่ย]

    “น้ามาถึงแล้วก็วางสายสักทีสิยะ มันเปลืองแบต” แอริณยืนกอดอกอย่างหงุดหงิด เธอมุ่ยหน้าไปทางเด็กหนุ่มที่ตอนนี้ใกล้จะสูงเกินเธอแล้ว

    “อุ้ย ลืม :P”

    “เลิกกวน”

    “ผมอยากกินสตาร์บัคส์อะ”

    “มีตังค์ก็ซื้อสิค้า เป็นดาราไม่ใช่รึไง”

    “เป็นคนหล่อด้วย” พร้อมกับเก๊กท่าใส่แอริณหนึ่งที

    “จะอ้วก” หญิงสาวผู้มีศักดิ์เป็นน้าแขวะอาทิตย์หนึ่งทีแล้วกลอกตา ถึงแม้จะพบเจออะไรแบบนี้ทุกวัน แต่ตัวเธอก็ไม่ชินกับความหลงตัวเองนี้สักที

    “แซวผมเก่งจริง แล้วมาทำอะไรที่นี่”

    “ไม่ได้แซว อันนั้นเขาเรียกแซะ แล้วน้าก็มีเรื่องจะคุยกับเธอและไอริณด้วย แต่ไว้ค่อยเล่าตอนไอริณมาเพราะน้าขี้เกียจเล่าสองรอบ”

    “โหไรอะ!”


    ‘ประกาศ! ขอให้ราชาทั้ง 5 คลาสดุ๊กทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องผู้อำนวยการตอนนี้ครับ ประกาศ! ขอให้ราชาทั้ง 5 คลาสดุ๊กทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องผู้อำนวยการตอนนี้ครับ แบบว่าด่วนจี๋’


    “ผอ.โรงเรียนนี้ประกาศอะไรโจ่งแจ้งขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย” อาทิตย์ทักท้วงขึ้น

    “นั่นน่ะดิ คือไม่กลัวคนอื่นสงสัยเลย”

    “สงสัยกันทั้งเรือแล้วมั้งน้า”

    “ใครไม่สงสัยก็บ้าละ แต่น้าอยากรู้ด้วยอะว่ามีอะไร ตามไปกันมะ”

    “ถามจริง?”

    “ตอบจริง ปะ!”

    “เฮ้อ วิ่งอีกละ”

    หนุ่มชาวไทยมองบนพร้อมถอนหายใจก่อนจะออกตัววิ่งตามแอริณไป แต่ในระหว่างทางเขาก็บ่นไปเรื่อยตามประสาจนแอริณรำคาญแทบบ้า

    “เงียบสักทีอาทิตย์!!”

    “อุ๊ปส์”

    .

    .

    .

    “ผอ.เรียกพวกกระผมมามีอะไรเหรอขอรับ” ฮอรัสในชุดลำลองเอ่ยขึ้นขณะเปิดประตูเข้าอย่างวิสาสะ

    “พวกเธอนั่งก่อนสิ แล้วเหล่าเจ้าหญิงสุดน่ารักไม่มาด้วยเหรอ”

    “ก็ผอ.เรียกแค่พวกกระผมนี่ขอรับ”

    “ก็จริง…”

    “จะให้เรียกพวกเขามามั้ยขอรับ”

    “ได้สิ ฝากด้วยนะ ให้ไอริณมาด้วย”

    “ได้ขอรับ งั้นกระผมขอตัวสักครู่” ว่าจบฮอรัสก็ขอตัวไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกห้อง


    5 นาทีผ่านไป

    “พวกอั๊วมาแล้วน่อ!” เหมยฮัวเปิดประตูเข้ามาอย่างร่าเริงตามสไตล์ของเธอ ส่วนคนที่เหลือก็เดินตามเธอเข้ามา รวมถึงแอริณและอาทิตย์

    “อ้าว! แอริณก็มาด้วยเหรอ”

    “สวัสดีค่ะผอ. พอดีหนูมาหาพี่ไอริณ พี่เลยชวนมาน่ะค่ะ”

    “(โกหกหน้าตาย)” อาทิตย์กระซิบเบาๆที่ข้างหูของหญิงสาว เพราะความจริงไม่มีใครชวนเธอกับอาทิตย์มา ขนาดไอริณยังสับสนถึงการปรากฏตัวของน้องสาวฝาแฝดเลย

    “(เงียบไปเลยย่ะ!)”

    “เข้ามาๆ นั่งตรงนี้ได้เลยนะ”

    พวกเขาทุกคนพยักหน้า ก่อนจะนั่งตามที่ที่ผอ.ผายมือเชิญ

    “นายมาทำไม?” กียุลถามอย่างหงุดหงิด

    “ฉันก็เป็นหนึ่งในทีมพวกนายนะ อย่ามองค้อนฉันอย่างนั้นสิ” อาทิตย์ยิ้มกว้าง ต่างจากกียุลที่กำลังหน้าบูดขั้นสุด

    “ผอ.ต้องการประชุมอะไรรึเปล่าครับถึงเรียกพวกผมมา” เนื่องจากไม่อยากจะเสวนากับคนข้างๆต่อ กียุลจึงเบี่ยงประเด็นไปทางผอ.โรงเรียนโนอาห์

    “คือผอ.จะบอกว่า พวกเธอต้องออกจากเรือไปประมาณ 4-5 วันน่ะ”

    “ทำไมเหรอครับ?”

    “เดี๋ยวจะมีการทำความสะอาดเรือยกใหญ่ แล้วยังเป็นช่วงปิดเทอมของพวกเธอพอดี เธอก็รู้ว่าโรงเรียนเราไม่มีนโยบายให้นักเรียนพำนักอยู่ในเรือระหว่างปิดเทอม ยกเว้นเหตุสุดวิสัยจริงๆ”

    “ครับ”

    “ถึงแม้ว่าตอนแรกครูจะอนุญาตให้พวกเธออยู่ต่อเพราะงานจากองค์กรโลก แต่ครูต้องรบกวนให้พวกเธอบินออกไปจากเรือก่อนจริงๆ เพราะไม่อย่างนั้นนักเรียนคนอื่นจะสงสัยได้”

    “แล้วให้พวกผมกลับบ้านของตัวเองก่อนแล้วค่อยบินกลับมาเหรอครับ?”

    “ทำอย่างนั้นก็ได้นะ แต่มันจะสะดวกพวกเธอรึเปล่า หรือว่าใครมีไอเดียอีกมั้ย นำเสนอได้นะ”

    “ฉันขอเสนออะไรได้มั้ยคะ” ไอริณยกมือกลางที่ประชุมพร้อมขออนุญาต ผอ.ยิ้มให้เป็นการตอบรับก่อนจะผายมือเชิญให้ไอริณนำเสนอไอเดียของตน

    “บอกเด็กๆได้เลยนะ”

    “ค่ะ คือไหนๆครูกับทิวาคุยกันว่าปิดเทอมนี้จะกลับบ้านไปหาพ่อของทิวาสักหน่อย เลยอยากชวนทุกๆคนไปเที่ยวที่บ้านด้วยน่ะ แล้วแต่ที่พวกเธอสมัครใจกันเลยนะจ๊ะ แต่…” ไอริณเอ่ย ก่อนจะปิดจบด้วยข้อเสนออันน่าเย้ายวน “ถ้าพวกเธอไป ครูจะจ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าอาหารให้ฟรี แถม pocket money คนละ 500 ดอลล่าร์!”

    “ไปค่า!!/ไปแน่นอนครับ!!” ทุกคนต่างตื่นเต้นกับข้อเสนอที่ไอริณกล่าวมาและตอบตกลงทันทีโดยไม่ได้คิด

    “แม่ แล้วหนูได้ด้วยมั้ยอะ”

    “ไม่ ไปขอพ่อเอานะ”

    “แง”

    ทิวายู่ปาก เธอก้มลงอย่างหงอยๆ ในใจพลางนึกน้อยใจที่อดได้ pocket money แบบเพื่อนๆ

    ร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆทอดสายตามองลิงน้อยก่อนจะถอนหายใจเล็กๆอย่างเอ็นดู เขาวางมือลงบนผมสีน้ำตาลนุ่มของเธอก่อนจะลูบไปมาเบาๆ

    “โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวฉันให้เธอก็ได้นะ อยากกินอะไรจะจ่ายให้หมดเลย”

    “กรี๊ด!!! จริงเหรอ!?”

    “นี่ไงพ่อ พ่อที่ไม่ได้แปลว่าพ่อ” ไอริณแซวลูกตัวเองอย่างชอบใจ สนุกที่เห็นทิวารีบแก้ตัวอย่างร้อนรน

    “คนละพ่อแล้วแม่!!!”

    “ถ้าทุกคนตกลงกับไอเดียนี้ งั้นผอ.ก็ถือว่าตามนี้เลยนะ”

    “ครับ/ค่ะ”

    “เดี๋ยวผอ.กับครูไอริณจะจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินให้ ส่วนทุกคนกลับไปจัดกระเป๋าให้เรียบร้อยก่อนได้เลยนะ”

    “ขอบคุณมากค่ะ งั้นพวกหนูขอตัวก่อนนะคะ” โรซารี่เอ่ย ทุกคนต่างกล่าวขอบคุณก่อนจะเดินออกจากห้องไป

    .

    .

    .

    “จะได้ไปไทยด้วยล่ะเจ้าค่ะ! เราจะไปเที่ยวไหนกันดี?” ยูริเปิดบทสนทนาอย่างดีใจ ถึงแม้เธอจะเคยไปประเทศไทยมาบ้าง แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆแบบครบแก๊งแบบนี้

    “ไออยากไปเจอช้าง ช้างตัวเป็นๆ ไอว่ามันต้องน่ารักมากแน่ๆ”

    “จริงเจ้าค่ะ ยูริอยากซื้อผลไม้เยอะๆแล้วเอาไปให้คุณช้าง”

    “คนอย่างฉันเหมาะกับสถานที่ที่มีระดับเท่านั้นย่ะ เพราะฉะนั้นฉันจะไปกินอาหารไทยระดับห้าดาว โฮะโฮะโฮะ”

    “ไปขี่ช้างมั้ยล่ะ มีระดับแน่ๆ น่าจะระดับตึกสองชั้นเลยด้วยน่อ”

    “คนละระดับย่ะยัยหมวย!”

    “ครูรู้จักบาร์อยู่ที่นึง cocktail ของเขาอร่อยมากเลย เป็นร้านเปิดโล่ง บรรยากาศดีด้วย สนใจมั้ยจ๊ะ”

    “กรี๊ด! สนใจค่ะคุณครู”

    “กระผมว่าจะไปดูร้านขายผ้า ได้ยินมาว่าผ้าหลายชนิดของไทยก็เลื่องชื่อไม่น้อยขอรับ คุณเหมยฮัวสนใจไปกับกระผมรึเปล่า”

    “ได้เลยน่อ เอ แต่อั๊วก็อยากลองไปต่อยมวยดีนะ น่าสนใจเหมือนกัน”

    “คุณโรซารี่ครับ พวกเราจะไปเดทกันที่ไหนดีล่ะ ผมนึกไม่ออกเลย สถานที่น่าไปมันเยอะมากๆ”

    “ไปไหนก็ได้แต่อย่างนึงที่ห้ามลืมเลยคือครีมกันแดด ไม่งั้นฉันผิวไหม้จนลอกแน่ๆ”

    “…”

    “กียุล? ทำไมนายดูไม่ตื่นเต้นเลยอะ?”

    “ไม่-”

    “ไม่ตื่นเต้นอะไร! ดูมือยูสิ ชุ่มเหงื่อยิ่งกว่าอะไร! Are you nervous to see Tiwa’s dad?”

    “ไม่ใช่สักหน่อย!”

    “โห ชุ่มจริงด้วย นายกลัวพ่อฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?”

    “ก็… ประมาณนึง”

    “ไม่ต้องกลัวไปหรอก ถ้าพ่อฉันไม่พอใจหรือไม่ชอบนาย อย่างมากก็แค่เอาเข็มฉีดยาไซส์ใหญ่สุดจิ้มที่ก้นแล้วใช้พลาสเตอร์ลายพิ้งค์เพนเตอร์ติดให้เท่านั้นเอง”

    “เอ่อ… อันนั้นนั่นแหละที่น่ากลัว!!”


    ‘ฉันจะรอดจากเงื้อมมือของพ่อทิวามั้ยวะเนี่ย…’

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×