คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #45 : ตอนที่ 34 : ปิดเทอม! - รุ่นพี่สายลับคนที่ 2
34
ปิดเทอม! - รุ่นพี่สายลับคนที่ 2
แสงแดดส่องยามเที่ยงตกกระทบที่ร่างกายของชายหนุ่มผู้มาใหม่ เขายืนยิ้มแก้มปริ สองแขนอ้ารอการเดินทางมาของเพื่อนวัยเด็กของตน
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้เห็นท่าทางเซ่อซ่าแต่ก็ดูดุ๊กดิ๊กของทิวา เพราะตั้งแต่ที่เขาขึ้นมัธยม เขาก็ต้องเข้าโรงเรียนประจำ แถมเสาร์อาทิตย์ก็ไปเรียนพิเศษการแสดงเพื่อสานฝันตัวเองเป็นประจำ ทำให้กว่าแต่ละคนจะได้เจอกัน พวกเขาก็เติบโตขึ้นไปมากแล้ว
“คิดถึงจังเลย! ไม่เจอกันตั้งนานแน่ะไอคนปากหมา”
“เจอเพื่อนนานๆทีก็เรียกให้มันดีๆหน่อยสิยัยลิง”
“ฮี่ๆ”
พวกเขากอดกันแน่นเพื่อชดเชยเวลาที่ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี อาทิตย์เห็นว่าโอกาสนี้น่าจะแกล้งไอหนุ่มหน้าตี๋ได้จึงหันไปเก๊กหน้าใส่กียุลหนึ่งที เขารู้ว่าท่าทางแบบนี้มันจะยียวนกวนประสาทเขาได้ไม่มากก็น้อย แต่เอาจริงๆมันก็มากเลยอะนะ
สะใจว่ะที่ได้เห็นมันเดือดปุดๆแบบนี้
ส่วนเพื่อนๆที่เหลือที่ยืนอยู่ที่ท่าเรือกับไอริณได้แต่เฝ้ามองเหตุการณ์อย่างงุนงงพร้อมกับครุ่นคิดว่า
‘ไอนี่ขี้เก๊กชะมัด’
“ยูยอมเหรอโอปป้า แฟนยูเลยนะเว้ย”
“หน้าฉันเหมือนยอมมากมั้ง แต่ให้ทำไงได้” กียุลว่าก่อนจะยืนทิ้งขาแล้วกอดอก “เดี๋ยว นายรู้ได้ไงว่าฉันกับทิวาเป็นแฟนกันแล้ว”
“Are you serious oppa? มองจากดาวอังคารยังรู้เลยว่าพวกยูคบกัน”
“บวกกับที่คุณทิวาบอกเมื่อเช้าเจ้าค่ะ”
“อ่อ…”
“เห็นคนนั้นกอดเลดี้ทิวาแล้วไออยากกอดยูริจังบ้างเลยอะ มามะดาร์ลิ้ง มาให้กอดมา!”
“คะ คุณคริสเจ้าคะ!?”
คริสโตเฟอร์สวมกอดกับยูริในขณะที่หญิงสาวไม่ได้ทันตั้งตัว ทำให้เธอตกใจไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเธอก็ชอบอ้อมกอดของแฟนหนุ่มเหมือนกัน
“Awww สองคนนั้นน่ารักจังเลย” โรซารี่เอ่ย
“เฮ้ย กียุล อย่าอิจฉาเขาดิ” ดันเต้เห็นเพื่อนตัวเองเริ่มหน้ามุ่ยหนักขึ้นเมื่อเห็นคริสและยูริกอดกันจึงเข้ามาทักพลางบีบไหล่เบาๆ
“ฮึ่ย…”
“ครูไอริณคะ คนนั้นเป็นใครเหรอคะ” ด้วยความสงสัยมาสักพัก นาซิสซ่าจึงตัดสินใจเอ่ยถาม
“คนนั้นเป็นสายลับรุ่นพี่อีกคนที่ครูให้มาช่วยงานนี่แหละจ้ะ ชื่ออาทิตย์ แล้วเค้าก็เป็นเพื่อนสมัยเด็กของทิวาด้วย”
อาทิตย์ที่ยืนอยู่บนเรือได้ยินคนเรียกชื่อของตนก็หันมาทำท่าหล่ออีกหนึ่งครั้งอย่างคนหลงตัวเอง
“น่ะ น่ะ หันมาเก๊กอีกละน่อ”
“อาทิตย์ก็งี้แหละจ้ะ ครูก็รำคาญเหมือนกันบางที”
“อุ๊ปส์”
“อย่าขำสินาซิสซ่า!”
“ก็มันตลกนี่ยัยโรส อุ๊ปส์ ฮ่าๆ”
“เราขึ้นไปคุยรายละเอียดที่เหลือกันบนเรือมั้ยจ๊ะ ตรงนี้กลัวพวกหนูร้อน”
“ก็ดีนะคะ”
“เฮ้! ดันเต้! อเล็กเซ!”
“?”
ทุกชีวิตหันไปตามต้นเสียงพร้อมกัน พบว่าเป็นเพลโตและเพื่อนของเขาอีกสามคนกำลังโบกมือทักทาย เหล่าเจ้าชายโบกมือตอบก่อนที่อเล็กเซจะกวักมือเรียกพวกเขาให้มาหา
“สวัสดีครับครูไอริณ ว่าไงพวกนาย เก็บของกันเสร็จยัง?” เพลโตเอ่ยอย่างเป็นมิตร
“ยังฮะ เพิ่งจะลงมาจากเรือดุ๊กนี่แหละ กำลังจะขึ้นไปแล้ว” อเล็กเซตอบ
“อ่อ หวัดดีพวกเจ้าหญิงด้วยนะ ไม่ได้เจอกันตั้งนานแน่ะ พวกเธอสบายดีมั้ย”
“ไม่ได้เจอกันตั้งนานอะไรยะ ก็เพิ่งเจอเมื่อตอนสำรว- อื้อ!!” ไม่ทันจบประโยค โรซารี่ก็รีบเอามือปิดปากนาซิสซ่าให้หยุดพูดเพราะเธอกำลังจะบอกในสิ่งที่คนนอกไม่ควรรู้อย่างเด็ดขาด!
“สบายดีจ้า ไม่เจอกันตั้งนานเลย แหะๆ”
“แต่เมื่อกี้คุณนาซิสซ่าบอกว่าเพิ่งเจอกับผม ตอนไหนเหรอ?”
“เอ่อ…”
‘ซวยแล้ว จะอ้างอะไรดี คิดสิ!’
“ก็เมื่อเดือนที่แล้วไงน่อ ที่ลื้อไปแข่งเล่านิทานที่ลาฟลอร่าแล้วแวะไปที่ชมรมปาติซิเย่ร์น่ะ”
“อ๋อ!!” มือข้างขวาที่กำอยู่ตบลงบนฝ่ามือด้านซ้ายราวกับนึกอะไรบางอย่างออก เพลโตตาลุกวาวเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ครั้งอดีต “ชมรมปาติซิเย่ร์เชิญผมกับเพื่อนๆที่ไปแข่งด้วยกันไปลองขนมสูตรใหม่ด้วย อร่อยมากๆเลยล่ะ! ต้องขอบคุณชมรมคุณนาซิสซ่านะครับที่ให้พวกผมได้กินอะไรอร่อยๆ”
“(ปล่อยฉันสิยะยัยโรซารี่!) ของมันแน่อยู่แล้วล่ะย่ะ ถ้าขนมนี้วางขายนายต้องไปซื้อกินด้วยนะยะ โฮะโฮะโฮะ!”
“ไม่พลาดอยู่แล้ว ดีใจที่พวกคุณสบายดีนะ แล้วอาจารย์ลิงไม่มาด้วยเหรอ?”
“ทิวาน่ะเหรอ อยู่ข้างบนกับเพื่อนเขาน่ะ”
“อ่อ…” เพลโตหันไปตามทางที่นาซิสซ่าชี้ เขาพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ก่อนจะหันมาสานต่อบทสนา “จะว่าไป เอ่อ อเล็กเซ” หนุ่มกรีซหันไปเรียกเพื่อนชาวรัสเซียที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ฮะ?”
“พวกนาร์เซสหายไปไหนเหรอ ฉันไม่เห็นตั้งแต่เช้าละ”
“หะ ฮะ?? นะ นะ นาร์เซส เอ่อ… ขะ ข้างบนมั้ง!!!”
“ทำไมนายพูดติดอ่างอะ เป็นอะไรเปล่า”
“ไม่มีอะไร้ ↗ จริงจริ๊ง”
“อ่อ… โอเค ไม่มีก็ไม่มี”
“ขะ ขึ้นไปหาได้นะ!”
“ไม่เป็นไรๆ ฉันไม่อยากไปรบกวนพวกนั้นน่ะ แค่ไม่ค่อยได้เห็นช่วงนี้เลยมาถาม แล้ว-”
“เพลโต! ไปกันได้แล้ว!” หนึ่งในกลุ่มเพื่อนของเพลโตตะโกนเรียก ทำให้เขาต้องรีบบอกลาเหล่าเจ้าชายทั้งๆที่ยังไม่อยากไป
“โทษทีนะ ฉันต้องไปแล้ว ไว้คุยกันนะ”
“อื้ม ไว้คุยกันฮะ”
หนุ่มกรีซโบกมือลาก่อนจะวิ่งไปหากลุ่มเพื่อนตัวเอง สีหน้ายิ้มแย้มเมื่อสักครู่แปรเปลี่ยนเป็นกังวลทันทีที่เขาหันหลังให้ราชาทั้ง 5
“เพลโต เป็นอะไรไปน่ะ?”
“อะ ฮะ? ไม่มีอะไรๆ พวกเราก็ไปกันเถอะ! ใกล้ถึงเวลาไฟลท์บินแล้วนี่”
“นั่นสิ”
เพลโตรีบดันหลังเพื่อนๆให้เดินไปอีกทางอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกตะหงิดแปลกๆ ราวกับว่าพวกนาร์เซสที่เขาพูดถึงเมื่อกี้ไม่มีตัวตนจริงๆยังไงยังงั้น
คิดมากไปเองรึเปล่านะ
“พวกเราก็ไปกันบ้างมั้ยจ๊ะ” ไอริณหันมาถาม
“ได้น่อ”
“เกือบไปแล้วมั้ยล่ะอเล็กเซ” ดันเต้ถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาใช้ฝ่ามือหนาบีบไหล่ที่เพื่อนตัวเล็กเพื่อปลอบใจเขา
“นั่นสิฮะ ถ้าผมทำความแตกผมคงรู้สึกผิดไปชั่วชีวิตเลย”
.
.
.
“โซเล่ เธออยู่ไหน?”
[อยู่ตรงทางเดินหอพักอะน้า แล้วอย่ามาเรียกโซเล่ในที่สาธารณะสิ!]
“โทษๆ พอดีติดปากน่ะ แล้วเธออยู่กับใคร?”
[ผมอยู่คนเดียว เพิ่งพาทิวาไปส่งให้พวกตี๋เกาหลีเมื่อกี้]
“โอเค กำลังไปหา”
“ครูไอริณสวัสดีครับ” ในขณะที่หญิงสาวกำลังจะรีบวิ่งไปหาคนปลายสาย นักเรียนโนอาห์สองคนที่ผ่านมาทักทายเธอก่อนจะเดินสวนไป
“สะ สวัสดีจ้ะ…”
[อุ๊ปส์ โดนเข้าใจผิดอีกแล้วเหรอ ฮ่าๆๆ]
“ก็ใช่น่ะสิ หน้าน้ามันเหมือนไอริณขนาดนั้นเลยรึไงวะ”
[เหมือนน่ะสิ ไม่งั้นพวกนักเรียนจะทักผิดเหรอ น้าแอริณ]
“เฮ้อ มีแฝดบางทีก็เหนื่อยใจ”
.
.
.
[กว่าจะมาถึงนะ ผมยืนรอจนเมื่อยแล้วเนี่ย]
“น้ามาถึงแล้วก็วางสายสักทีสิยะ มันเปลืองแบต” แอริณยืนกอดอกอย่างหงุดหงิด เธอมุ่ยหน้าไปทางเด็กหนุ่มที่ตอนนี้ใกล้จะสูงเกินเธอแล้ว
“อุ้ย ลืม :P”
“เลิกกวน”
“ผมอยากกินสตาร์บัคส์อะ”
“มีตังค์ก็ซื้อสิค้า เป็นดาราไม่ใช่รึไง”
“เป็นคนหล่อด้วย” พร้อมกับเก๊กท่าใส่แอริณหนึ่งที
“จะอ้วก” หญิงสาวผู้มีศักดิ์เป็นน้าแขวะอาทิตย์หนึ่งทีแล้วกลอกตา ถึงแม้จะพบเจออะไรแบบนี้ทุกวัน แต่ตัวเธอก็ไม่ชินกับความหลงตัวเองนี้สักที
“แซวผมเก่งจริง แล้วมาทำอะไรที่นี่”
“ไม่ได้แซว อันนั้นเขาเรียกแซะ แล้วน้าก็มีเรื่องจะคุยกับเธอและไอริณด้วย แต่ไว้ค่อยเล่าตอนไอริณมาเพราะน้าขี้เกียจเล่าสองรอบ”
“โหไรอะ!”
‘ประกาศ! ขอให้ราชาทั้ง 5 คลาสดุ๊กทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องผู้อำนวยการตอนนี้ครับ ประกาศ! ขอให้ราชาทั้ง 5 คลาสดุ๊กทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องผู้อำนวยการตอนนี้ครับ แบบว่าด่วนจี๋’
“ผอ.โรงเรียนนี้ประกาศอะไรโจ่งแจ้งขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย” อาทิตย์ทักท้วงขึ้น
“นั่นน่ะดิ คือไม่กลัวคนอื่นสงสัยเลย”
“สงสัยกันทั้งเรือแล้วมั้งน้า”
“ใครไม่สงสัยก็บ้าละ แต่น้าอยากรู้ด้วยอะว่ามีอะไร ตามไปกันมะ”
“ถามจริง?”
“ตอบจริง ปะ!”
“เฮ้อ วิ่งอีกละ”
หนุ่มชาวไทยมองบนพร้อมถอนหายใจก่อนจะออกตัววิ่งตามแอริณไป แต่ในระหว่างทางเขาก็บ่นไปเรื่อยตามประสาจนแอริณรำคาญแทบบ้า
“เงียบสักทีอาทิตย์!!”
“อุ๊ปส์”
.
.
.
“ผอ.เรียกพวกกระผมมามีอะไรเหรอขอรับ” ฮอรัสในชุดลำลองเอ่ยขึ้นขณะเปิดประตูเข้าอย่างวิสาสะ
“พวกเธอนั่งก่อนสิ แล้วเหล่าเจ้าหญิงสุดน่ารักไม่มาด้วยเหรอ”
“ก็ผอ.เรียกแค่พวกกระผมนี่ขอรับ”
“ก็จริง…”
“จะให้เรียกพวกเขามามั้ยขอรับ”
“ได้สิ ฝากด้วยนะ ให้ไอริณมาด้วย”
“ได้ขอรับ งั้นกระผมขอตัวสักครู่” ว่าจบฮอรัสก็ขอตัวไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกห้อง
5 นาทีผ่านไป
“พวกอั๊วมาแล้วน่อ!” เหมยฮัวเปิดประตูเข้ามาอย่างร่าเริงตามสไตล์ของเธอ ส่วนคนที่เหลือก็เดินตามเธอเข้ามา รวมถึงแอริณและอาทิตย์
“อ้าว! แอริณก็มาด้วยเหรอ”
“สวัสดีค่ะผอ. พอดีหนูมาหาพี่ไอริณ พี่เลยชวนมาน่ะค่ะ”
“(โกหกหน้าตาย)” อาทิตย์กระซิบเบาๆที่ข้างหูของหญิงสาว เพราะความจริงไม่มีใครชวนเธอกับอาทิตย์มา ขนาดไอริณยังสับสนถึงการปรากฏตัวของน้องสาวฝาแฝดเลย
“(เงียบไปเลยย่ะ!)”
“เข้ามาๆ นั่งตรงนี้ได้เลยนะ”
พวกเขาทุกคนพยักหน้า ก่อนจะนั่งตามที่ที่ผอ.ผายมือเชิญ
“นายมาทำไม?” กียุลถามอย่างหงุดหงิด
“ฉันก็เป็นหนึ่งในทีมพวกนายนะ อย่ามองค้อนฉันอย่างนั้นสิ” อาทิตย์ยิ้มกว้าง ต่างจากกียุลที่กำลังหน้าบูดขั้นสุด
“ผอ.ต้องการประชุมอะไรรึเปล่าครับถึงเรียกพวกผมมา” เนื่องจากไม่อยากจะเสวนากับคนข้างๆต่อ กียุลจึงเบี่ยงประเด็นไปทางผอ.โรงเรียนโนอาห์
“คือผอ.จะบอกว่า พวกเธอต้องออกจากเรือไปประมาณ 4-5 วันน่ะ”
“ทำไมเหรอครับ?”
“เดี๋ยวจะมีการทำความสะอาดเรือยกใหญ่ แล้วยังเป็นช่วงปิดเทอมของพวกเธอพอดี เธอก็รู้ว่าโรงเรียนเราไม่มีนโยบายให้นักเรียนพำนักอยู่ในเรือระหว่างปิดเทอม ยกเว้นเหตุสุดวิสัยจริงๆ”
“ครับ”
“ถึงแม้ว่าตอนแรกครูจะอนุญาตให้พวกเธออยู่ต่อเพราะงานจากองค์กรโลก แต่ครูต้องรบกวนให้พวกเธอบินออกไปจากเรือก่อนจริงๆ เพราะไม่อย่างนั้นนักเรียนคนอื่นจะสงสัยได้”
“แล้วให้พวกผมกลับบ้านของตัวเองก่อนแล้วค่อยบินกลับมาเหรอครับ?”
“ทำอย่างนั้นก็ได้นะ แต่มันจะสะดวกพวกเธอรึเปล่า หรือว่าใครมีไอเดียอีกมั้ย นำเสนอได้นะ”
“ฉันขอเสนออะไรได้มั้ยคะ” ไอริณยกมือกลางที่ประชุมพร้อมขออนุญาต ผอ.ยิ้มให้เป็นการตอบรับก่อนจะผายมือเชิญให้ไอริณนำเสนอไอเดียของตน
“บอกเด็กๆได้เลยนะ”
“ค่ะ คือไหนๆครูกับทิวาคุยกันว่าปิดเทอมนี้จะกลับบ้านไปหาพ่อของทิวาสักหน่อย เลยอยากชวนทุกๆคนไปเที่ยวที่บ้านด้วยน่ะ แล้วแต่ที่พวกเธอสมัครใจกันเลยนะจ๊ะ แต่…” ไอริณเอ่ย ก่อนจะปิดจบด้วยข้อเสนออันน่าเย้ายวน “ถ้าพวกเธอไป ครูจะจ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าอาหารให้ฟรี แถม pocket money คนละ 500 ดอลล่าร์!”
“ไปค่า!!/ไปแน่นอนครับ!!” ทุกคนต่างตื่นเต้นกับข้อเสนอที่ไอริณกล่าวมาและตอบตกลงทันทีโดยไม่ได้คิด
“แม่ แล้วหนูได้ด้วยมั้ยอะ”
“ไม่ ไปขอพ่อเอานะ”
“แง”
ทิวายู่ปาก เธอก้มลงอย่างหงอยๆ ในใจพลางนึกน้อยใจที่อดได้ pocket money แบบเพื่อนๆ
ร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆทอดสายตามองลิงน้อยก่อนจะถอนหายใจเล็กๆอย่างเอ็นดู เขาวางมือลงบนผมสีน้ำตาลนุ่มของเธอก่อนจะลูบไปมาเบาๆ
“โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวฉันให้เธอก็ได้นะ อยากกินอะไรจะจ่ายให้หมดเลย”
“กรี๊ด!!! จริงเหรอ!?”
“นี่ไงพ่อ พ่อที่ไม่ได้แปลว่าพ่อ” ไอริณแซวลูกตัวเองอย่างชอบใจ สนุกที่เห็นทิวารีบแก้ตัวอย่างร้อนรน
“คนละพ่อแล้วแม่!!!”
“ถ้าทุกคนตกลงกับไอเดียนี้ งั้นผอ.ก็ถือว่าตามนี้เลยนะ”
“ครับ/ค่ะ”
“เดี๋ยวผอ.กับครูไอริณจะจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินให้ ส่วนทุกคนกลับไปจัดกระเป๋าให้เรียบร้อยก่อนได้เลยนะ”
“ขอบคุณมากค่ะ งั้นพวกหนูขอตัวก่อนนะคะ” โรซารี่เอ่ย ทุกคนต่างกล่าวขอบคุณก่อนจะเดินออกจากห้องไป
.
.
.
“จะได้ไปไทยด้วยล่ะเจ้าค่ะ! เราจะไปเที่ยวไหนกันดี?” ยูริเปิดบทสนทนาอย่างดีใจ ถึงแม้เธอจะเคยไปประเทศไทยมาบ้าง แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆแบบครบแก๊งแบบนี้
“ไออยากไปเจอช้าง ช้างตัวเป็นๆ ไอว่ามันต้องน่ารักมากแน่ๆ”
“จริงเจ้าค่ะ ยูริอยากซื้อผลไม้เยอะๆแล้วเอาไปให้คุณช้าง”
“คนอย่างฉันเหมาะกับสถานที่ที่มีระดับเท่านั้นย่ะ เพราะฉะนั้นฉันจะไปกินอาหารไทยระดับห้าดาว โฮะโฮะโฮะ”
“ไปขี่ช้างมั้ยล่ะ มีระดับแน่ๆ น่าจะระดับตึกสองชั้นเลยด้วยน่อ”
“คนละระดับย่ะยัยหมวย!”
“ครูรู้จักบาร์อยู่ที่นึง cocktail ของเขาอร่อยมากเลย เป็นร้านเปิดโล่ง บรรยากาศดีด้วย สนใจมั้ยจ๊ะ”
“กรี๊ด! สนใจค่ะคุณครู”
“กระผมว่าจะไปดูร้านขายผ้า ได้ยินมาว่าผ้าหลายชนิดของไทยก็เลื่องชื่อไม่น้อยขอรับ คุณเหมยฮัวสนใจไปกับกระผมรึเปล่า”
“ได้เลยน่อ เอ แต่อั๊วก็อยากลองไปต่อยมวยดีนะ น่าสนใจเหมือนกัน”
“คุณโรซารี่ครับ พวกเราจะไปเดทกันที่ไหนดีล่ะ ผมนึกไม่ออกเลย สถานที่น่าไปมันเยอะมากๆ”
“ไปไหนก็ได้แต่อย่างนึงที่ห้ามลืมเลยคือครีมกันแดด ไม่งั้นฉันผิวไหม้จนลอกแน่ๆ”
“…”
“กียุล? ทำไมนายดูไม่ตื่นเต้นเลยอะ?”
“ไม่-”
“ไม่ตื่นเต้นอะไร! ดูมือยูสิ ชุ่มเหงื่อยิ่งกว่าอะไร! Are you nervous to see Tiwa’s dad?”
“ไม่ใช่สักหน่อย!”
“โห ชุ่มจริงด้วย นายกลัวพ่อฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ก็… ประมาณนึง”
“ไม่ต้องกลัวไปหรอก ถ้าพ่อฉันไม่พอใจหรือไม่ชอบนาย อย่างมากก็แค่เอาเข็มฉีดยาไซส์ใหญ่สุดจิ้มที่ก้นแล้วใช้พลาสเตอร์ลายพิ้งค์เพนเตอร์ติดให้เท่านั้นเอง”
“เอ่อ… อันนั้นนั่นแหละที่น่ากลัว!!”
‘ฉันจะรอดจากเงื้อมมือของพ่อทิวามั้ยวะเนี่ย…’
ความคิดเห็น