ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Laflora Secret ไขปมความรักกับสายลับ 5 สาว

    ลำดับตอนที่ #44 : ตอนที่ 33 : คืนดีกันนะ

    • อัปเดตล่าสุด 19 มี.ค. 65


    33

    คืนดีกันนะ


    7.00 น. ของเช้าวันต่อมา

    ห้องนั่งเล่นรวมของราชาทั้ง 5

    เสียงแอร์ทำงานดังคลอไปทั่วห้อง อากาศเย็นกว่าปกติอยู่หลายเท่าเพราะเครื่องปรับอากาศที่ทำงานทั้งคืน กียุลที่นอนหนาวสั่นภายใต้ผ้าห่มบางใช้มือทั้งสองข้างยันตัวขึ้นมาแล้วปิดการทำงานของมันลง

    “ลืมปิดแอร์เหรอวะ”

    ชายหนุ่มงัวเงียเล็กน้อย เขาหาววอดใหญ่ก่อนจะบิดขี้เกียจสองสามครั้ง สายตาเหลือบไปเห็นเพื่อนชาวอียิปต์นอนจุ้มปุ๊กอยู่ที่เดิมตั้งแต่เมื่อคืนที่เขาสลบไป เขาหัวเราะเล็กๆให้กับสภาพที่หลุดลุ่ยของเพื่อนตัวเองก่อนจะนึกในใจว่า


    ‘เมื่อคืนก็หนักใช่ย่อยนะ’


    กียุลเดินไปที่ห้องของตัวเอง หวังจะอาบน้ำให้ร่างกายสดชื่น หลังมือขวาเคาะที่ประตูสามครั้งก่อนจะถือวิสาสะเปิดเข้าไป ภายในห้องพบทิวาที่กำลังนอนหลับใหลกับเหมยฮัวที่กำลังเหงื่อซกจากการออกกำลังกายยามเช้า

    “เธอไม่แฮงค์เหรอ?”

    “แค่นี้จิ๊บๆน่อ” นิ้วชี้และนิ้วโป้งของเหมยฮัวถูกนำมาใกล้กันเพื่อแสดงว่า ‘แค่นี้เล็กน้อย’

    “คอแข็งเหมือนกันนะ ว่าแต่ทิวาเป็นยังไงบ้าง” เมื่อคืนเขาปล่อยให้เพื่อนสนิทของแฟนสาวเป็นคนดูแลเธอ ความจริงมันก็อยากจะดูแลเองอยู่หรอกนะ ถ้าไม่ติดว่าทิวากำลังงอนเขาอยู่

    วันนี้เขาบอกกับตัวเองว่าจะทำตัวดีๆเพื่อง้อสุดที่รักของเขาเองให้ได้

    “อ้วกไปสองครั้ง แต่หลังจากนั้นอั๊วให้กินยาแล้วก็นอนเลยน่อ”

    “เป็นห่วงจัง…”

    “อ้อใช้ อั๊วมีอะไรจะคุยด้วย”

    “เรื่อง?”

    “เรื่องลื้อกับอาทิวานั่นแหละ”

    .

    .

    .

    ร้านอาหารจีนแห่งหนึ่งบนเรือ

    “เมื่อคืนอาทิวาละเมอ” หลังจากพวกเขาสั่งอาหารเช้าแก้แฮงค์เสร็จ เหมยฮัวก็เปิดประเด็นที่เธอต้องการพูดทันที “คือมันก็ไม่เหมือนละเมอหรอก มันเหมือนแบบคนเมาที่กำลังเพ้อความในใจมากกว่า บอกว่าพวกลื้อเป็นแฟนกันแล้ว”

    “อ่อ เรื่องนี้ฉันก็ยังไม่ได้บอกใครเหมือนกัน แต่เป็นแล้วจริงๆ”

    “ฮั่นแน่ แอบแซ่บเหรอลื้ออะ”

    “ไม่ได้แอบเฟ้ย เพิ่งตกลงคบกันเมื่อคืน แล้วขึ้นเรือมากินเลี้ยงเลย เลยยังไม่ได้บอกพวกเธอสักที”

    “ฮ่าๆๆ เข้าใจน่อ อั๊วก็ไม่ได้จะมาเค้นความลับอะไรหรอก อั๊วเชื่อว่าถ้าพวกลื้อพร้อมจะบอกเมื่อไหร่ก็จะบอกเอง” เหมยฮัวหลุดหัวเราะให้กับท่าทางของกียุล เธอใช้มือเท้าคางก่อนจะเริ่มบทสนทนาต่อ “ดูพวกลื้อก็มีความสุขดี แต่ทำไมอาทิวาถึงพูดแบบนั้นนะ”

    “แบบไหน” ชายหนุ่มชะงักทันทีกับประโยคที่เขาได้ยิน พรอ้มกับถ้วยกระเพาะปลาสองถ้วยที่ถูกเสิร์ฟบนโต๊ะ

    “อาหารที่สั่งได้แล้วครับ”

    “ขอบคุณครับ/ขอบคุณน่อ”

    “คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้”

    .

    .

    .

    เมื่อ 6 ชั่วโมงก่อน หลังจากงานปาร์ตี้จบลง

    “เหมยฮัว… ฉันเศร้าอะ” ทิวานั่งซึมอยู่บนเตียงพร้อมกับเจ้านิลที่นอนขดตัวอยู่ในตัก มือขวากำลังลูบหัวมันแต่มือข้างซ้ายกำลังปาดน้ำตาที่ฝ่าฝืนไหลออกมาอย่างลวกๆ

    “เรื่องอะไรน่อ” สาวจีนเดินมานั่งข้างๆ หวังจะปลอบประโลมให้เพื่อนของตนรู้สึกดีขึ้นบ้าง

    “ฉันกับกียุลทะเลาะกันอีกแล้ว”

    “...”

    “พวกเราทะเลาะกันอีกแล้ว ทำไมต้องทะเลาะกันตลอดเลยนะ อยากคุยดีๆเหมือนตอนที่ไปกินข้าวเย็นด้วยกัน อย่าทะเลาะกันเลยได้มั้ย ทั้งๆที่เป็นแฟนกันแล้วแท้ๆ”

    “!?” เหมยฮัวตกใจที่รับรู้ว่าเพื่อนสองคนที่ดูใจกันมานานก็ตกลงพัฒนาความสัมพันธ์กันแล้ว ใจนึงก็ดีใจแต่อีกใจก็เป็นห่วงเพราะเรื่องที่ทิวากำลังเล่า

    เธอไม่ได้พูดอะไร ปล่อยให้ทิวาร้องไห้และพร่ำถึงสิ่งที่อัดอั้นในใจออกมา เธอเพียงคอยฟังและคอยซับน้ำตาให้อยู่ข้างๆเท่านั้น

    “ตอนที่ไปกินข้าวอะ ฉันมีความสุขมากเลยนะ ได้เจอมุนอาที่ไม่ได้เจอมานาน แถมพ่อแม่กียุลก็ยังต้อนรับฉันดี เข้ากัน คุยกันอย่างสนุกสนาน กียุลก็ดูมีความสุขไปด้วยอะ แต่พอขึ้นเรือมาก็ทะเลาะกันอีกละ คือเข้าใจนะว่าพวกเราเป็นคู่กัดกันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่พอโตขึ้นมาก็ไม่จำเป็นต้องกัดกันจนถึงขั้นทะเลาะก็ได้นะ ฉันก็น้อยใจเป็นเหมือนกัน มันหายากมากเลยนะเนี่ยที่ฉันจะร้องไห้ให้ใครแบบนี้ ฮะๆ”

    ใช่ มันหายากมากๆ 

    และเหมยฮัวก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นด้วยซ้ำ

    แต่ถ้ามันเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต เธอก็ห้ามที่จะไม่ให้เกิดขึ้นไม่ได้หรอก

    เธอหวังว่าพรุ่งนี้พวกเขาทั้งสองจะปรับใจกันแล้วอยู่กันอย่างมีความสุข

    “นึกถึงตอนคุยกับครูมารีเลยแฮะ ครูเค้าบอกว่ามีอะไรก็ใช้เหตุผลคุยกัน อย่าใช้อารมณ์ ไหนๆเราก็ได้กลับมาเจอกันอีก ก็ควรจะใช้เวลาให้สนุกสนาน รู้มั้ยตอนนั้นฉันแม่งโคตรไม่อยากเจอตาตี๋เลย เพราะรู้ว่าเจอหน้าก็ทะเลาะกันตลอด ฉันคิดว่าตานั่นเกลียดฉันเข้าไส้ไปแล้ว”

    “แต่ตอนนี้พวกลื้อก็คบกันแล้วนะ”

    “อื้ม พวกเรามากันไกลมากเลยล่ะ ใช้เวลาด้วยกันมาก็ตั้งเยอะ บอกตรงๆฉันชอบหลายๆอย่างของตาตี๋มากเลยล่ะ แม้แต่จูบของตานั่นฉันยังชอบเลย ฮึก”

    น้ำใสๆเริ่มเอ่อล้นขอบตา แต่ไม่ทันที่มันจะได้ไหลลงอาบแก้ม เหมยฮัวก็ใช้ทิชชู่ซับเบาๆ ก่อนจะละมือออก

    “ฉันชอบ ฮึก ชอบกียุลมากๆเลย”

    สิ้นเสียงสั่นเครือของหญิงสาว เธอปล่อยโฮออกมา สองมือของเหมยฮัวโอบกอดที่ตัวของทิวาแล้วคอยลูบหลังปลอบโยนเธอ ไม่กี่นาทีผ่านไปทิวาก็สงบลงและเข้านอน

    .

    .

    .

    “มันก็เป็นแบบนี้แหละน่อ”

    “...” หน้าอกของชายหนุ่มเจ็บแปล๊บขึ้นมา เขาไม่ทันคิดเลยว่าคำพูดที่พลั้งปากออกไปหลายๆครั้งจะทำให้แฟนสาวของเขาเจ็บได้ขนาดนี้ เขาได้แต่โกรธตัวเองอยู่ในใจ 

    “เอ่อ อากียุล?”

    “ฉันรู้สึกผิดต่อทิวาว่ะ” กียุลเอ่ย “ที่ฉันชอบแกล้งเป็นเพราะเห็นเธอก็โต้กลับ เลยคิดว่าเธอคงไม่ได้ว่าอะไร แถมปฏิกิริยาที่ตอบโต้ก็น่ารักดี แต่ไม่คิดเลยว่าจะทำให้เธอน้อยใจขนาดนี้”

    “คนเราพอโตขึ้น ความรู้สึกมันก็มีหลากหลายขึ้นแหละน่อ ตอนเด็กๆพวกลื้ออาจจะไม่ได้คิดอะไร แต่ตอนนี้ลื้อก็โตกันจะเป็นผู้ใหญ่กันแล้วด้วย อาการเสียใจ น้อยใจก็มีปกตินี่แหละ ลื้อลองไปคุยกับอาทิวาดีๆสิ ใช้คำพูดน่ารักๆ อาทิวาน่าจะรู้สึกดีขึ้น”

    “...”

    “นั่งโกรธตัวเองอยู่ตรงนี้มีแต่จะทำให้ลื้อแย่ลงนะ”

    “อืม ขอบคุณนะที่เล่าให้ฟัง ขอบคุณสำหรับคำแนะนำด้วย งั้นพวกเรากลับกันเลยมั้ย ฉันอยากไปเจอทิวาแล้ว”

    “เอาสิ อย่าลืมให้พนักงานห่อข้าวลื้อด้วยนะ กินไปได้แค่สามสี่คำเองมั้งเนี่ย”

    .

    .

    .

    “ทิวา” ชายหนุ่มเอ่ยเรียกแฟนสาวของตนหลังจากกลับเข้าห้อง เขาเขย่าไหล่ของเธอเบาๆ แต่เธอก็ไม่มีท่าทีจะตื่นเร็วๆนี้ เขาจึงปล่อยให้เธอพักผ่อนไปก่อน 

    ประธานนักเรียนหนุ่มเดินไปที่โต๊ะทำงานที่เคยมีกองเอกสารสูงเท่าภูเขาวางไว้ บัดนี้กลับเป็นเพียงโต๊ะไม้ที่ว่างเปล่า เขาถอนหายใจก่อนจะคิดอะไรบางอย่างกับตัวเอง

    ไม่รู้ว่าอนาคตเขาจะยังคงเป็นประธานนักเรียนอยู่มั้ย หรือจะมีคนที่ดีกว่ามาทำหน้าที่ตรงนี้แทนเขา ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ภาระของเขาคงถูกแบ่งเบาลงไปเยอะเลย

    กียุลเปิดไอแพดอ่านบันทึกเกี่ยวกับคดีและเบาะแสของแก๊งฟักทองไปพลางๆ ถ้าเรื่องนี้จบเร็วๆโดยที่ไม่มีใครได้รับอันตรายก็คงดี

    เวลาล่วงเลยนานนับชั่วโมง ชายหนุ่มมองดูนาฬิกาสีขาวบนผนังก่อนจะตัดสินใจปลุกแฟนสาวของตัวเองอีกครั้ง

    “ยัยลิ- ไม่สิ ทิวา”

    “อืม…”

    “เช้าแล้วนะ เธอหิวรึยัง”

    “กียุลเหรอ…” ตาที่บวมแดงจากการร้องไห้ผสมกับเสียงแหบแห้งที่ไม่สดใสเหมือนเคยทำให้กียุลตกใจเป็นอย่างมาก ลุกลี้ลุกลนหาน้ำให้เธอดื่มแก้กระหาย

    “ทะ ทิวา กินน้ำก่อนๆ! ทำไมเธอเสียงแหบขนาดนี้!?”

    “ไม่รู้เหมือนกัน… เจ้านิลนอนทับกล่องเสียงฉันมั้ง?”


    ‘ฉันกับกียุลทะเลาะกันอีกแล้ว พวกเราทะเลาะกันอีกแล้ว ทำไมต้องทะเลาะกันตลอดเลยนะ’


    เสียงของเหมยฮัวแล่นเข้ามาในโสตประสาท เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันคงทำให้ทิวาเป็นอย่างนี้สินะ 

    เขารู้สึกแย่ต่อตัวเองยิ่งกว่าเดิม เพิ่งคบกันได้วันเดียวก็ทำแฟนสาวร้องไห้ซะแล้ว

    เป็นแฟนที่ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ

    “ขอโทษนะทิวา”

    “ขอโทษเรื่องอะไรอะ”

    “ทุกเรื่องนั่นแหละ ที่ฉันชอบปากเสียใส่เธอ ทำนิสัยแย่ๆใส่เธอ”

    “อ๋อ… ฉันไม่ได้โกรธอะไรอยู่แล้วนี่ ปกตินายก็พูดแบบนั้นกับฉันประจำ ฉันจะไม่โอเคทำไม”

    “เราไม่ควรทำให้เรื่องนั้นเป็นเรื่องปกติสิทิวา ฉันตัดสินใจแล้วว่าต่อไปนี้จะพูดแต่สิ่งดีๆกับเธอ อีกอย่าง” ชายหนุ่มเงียบไปชั่วขณะ เขาดึงหญิงสาวให้นั่งอยู่บนตัก สองแขนกว้างกระชับเธอให้อยู่ในอ้อมกอด “ฉันอาจจะไม่เรียกเธอว่าลิงกังต่อไปแล้ว มัน-”

    “ไม่เอา!” ทิวาค้านเสียงแข็ง

    “ทำไมล่ะ?”

    “ก็ฉันชอบนี่นา เวลานายเรียกว่ายัยลิง มัน เอ่อ มันชอบอะ!”

    “ฮะๆๆ ถ้างั้นฉันก็จะเรียกเธอว่ายัยลิงต่อไปละกัน งั้นเธอก็ต้องเรียกฉันว่าตาตี๋แว่นขี้เก๊กเหมือนเดิมด้วยนะ เข้าใจมั้ย?”

    “นายไม่บอกฉันก็เรียกเหมือนเดิมอยู่แล้วย่ะ”

    “ดีแล้ว แล้วก็ขอโทษอีกเรื่องด้วยนะ”

    “เรื่องอะไร ทำไมวันนี้นายขอโทษเยอะจัง”

    “ที่ทำเธอร้องไห้ไง”

    “เมื่อคืนกินเหล้าแล้วมัน emotional เฉยๆน่า ไม่ต้องกังวลหรอก”

    “แต่ที่ร้องก็เพราะฉันใช่มั้ยล่ะ”

    “นายนี่รู้ทันจริงๆเลยนะ”

    “เหมยฮัวเล่าให้ฟังน่ะ”

    “ยัยหมวย!!”

    “ฮ่าๆๆอย่าไปว่าเหมยฮัวงั้นสิ เนี่ยดูดิ ร้องไห้จนตาบวมปากเจ่อหมดแล้ว”

    “มันเป็นเพราะใครกันล่ะ” ทิวาทำหน้ามุ่ยพลางซุกหน้าไปที่ไหล่กว้าง

    “ฮะๆ ผมขอโทษนะครับที่รัก~ แต่ว่านะ” ชายหนุ่มสะกิดให้หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมา มือหนาข้างขวาประคองใบหน้าสวย เขาเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ๆก่อนจะเหยียดยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างที่เขาชอบทำ “ฉันไม่อนุญาตให้ปากเจ่อเพราะร้องไห้หรอกนะ อนุญาตให้เฉพาะจากการจูบเท่านั้น”

    ริมฝีปากของชายหนุ่มจุมพิตลงที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างนุ่มนวล ความรู้สึกที่แผ่ซ่านทำพวกเขาใจเต้นรัวขึ้นเป็นสิบเท่า อ้อมแขนแกร่งกระชับให้ร่างของหญิงสาวใกล้ชิดกว่าที่เคย เขามอบความรักให้อย่างหนักหน่วงแต่อ่อนโยน หญิงสาวก็โต้ตอบความรักนี้ให้แก่เขาเช่นกัน

    ผละออกจากกันเพียงสองวินาที ก่อนจะประกบริมฝีปากกันดังเดิม สองแขนของทิวาค่อยๆโอบล้อมรอบคอของกียุล มือซ้ายคอยเย้าแหย่กับเส้นผมสั้นสีน้ำตาลจนทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นมากกว่าเดิม

    “ทะ ทิวา…”

    “เป็นอะไร ไม่ชอบเหรอ ถ้าไม่ชอบฉันไม่ทำ-”

    “เปล่า… จะบอกว่า ชอบมากๆ”

    ชอบจนโงหัวไม่ขึ้นเลยล่ะ

    เป็นอีกครั้งที่เขาตกอยู่ภายใต้ยัยลิงอีกแล้ว

    แบบนี้ใครจะอดใจไหวกันเล่า

    .

    .

    .

    “พวกนาย ไปกันได้แล้วนะ!” เสียงของหนุ่มเกาหลีตะโกนดังก้องทั่วห้อง บ่งบอกให้เพื่อนตัวแสบที่เหลือออกจากห้องได้แล้ว

    “ฉันว่าเราน่าจะมาช้าสุดแล้วนะ ไหงเป็นคู่แรกที่เสร็จล่ะ” ทิวาเอ่ยพลางเหงื่อตกเล็กน้อย

    “นั่นน่ะดิ แต่เมื่อกี้ถือว่าร้อนแรงใช่ย่อยนะ อยากทำอีกมั้ย?” 

    “จะบ้าเรอะตาตี๋แว่น!!”

    “พร้อมแล้วคร้าบ~ ไปกันเลยมั้ย” ดันเต้ขานตอบพร้อมเดินออกมากับสหายที่เหลือ

    “งั้นไปกันเลย”


    บันไดทางขึ้นเรือคลาสคิง

    “สวัสดีครับครูไอริณ”

    “สวัสดีค่ะครูไอริณ”

    “สวัสดีจ้าเด็กๆ”

    “What’s up mommy!” ทิวาทักทายผู้เป็นแม่อย่างร่าเริง ก่อนจะวิ่งไปสวมกอด

    “What’s up my baby ><“ 

    “โย่ว! เธอลืมใครไปรึเปล่า?” เสียงปริศนาดังขึ้นจากบนเรือ เจ้าของร่างยืนโบกมือหยอยๆพร้อมฉีกยิ้มกว้างไปทางทุกคนที่อยู่ข้างล่าง

    “ใครอ่ะ?” คริสโตเฟอร์กระซิบถามยูริ

    “ไม่รู้เหมือนกันเจ้าค่ะ”

    “ใครอ่ะแม่ หน้าเหมือนอาทิตย์เลย” ทิวาถามอย่างุนงง

    “เอ้า ก็อาทิตย์ไงลูก”

    “ฮะ!? จริงเหรอคะ!?”

    “โกหกทำไมล่ะ ไปหามั้ย”

    “ไป!!!”

    หญิงสาวรีบติดสปีดวิ่งขึ้นเรือไปหาบุคคลผู้มาใหม่ทันที อาทิตย์ในชุดลำลองยืนอ้าแขนรอการเดินทางมาของเพื่อนสาว พวกเขากอดกันอย่างสนิทชิดเชื้อ ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบอย่างสนุกสนานเพราะไม่ได้เจอกันมานานโข 

    จะมีก็แต่คนคนนึงที่ไม่พอใจเอามากๆ ได้แต่ยืนมองกัดฟันกรอดแล้วกำหมัดเกียมต่อย แต่ทำไม่ได้เพราะแม่แฟนยืนอยู่


    ‘ไอเชี้ย กุเพิ่งคืนดีกับทิวาได้ไม่ถึงชั่วโมง เป็นใครมาจากไหนมากอดกันกลมกับแฟนของกุ ฮะ!?’


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×