ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Laflora Secret ไขปมความรักกับสายลับ 5 สาว

    ลำดับตอนที่ #43 : ตอนที่ 32 : Never or Drink

    • อัปเดตล่าสุด 7 ต.ค. 65


    TB

    32

    Never or Drink

    CW : ในตอนนี้ ตัวละครมีการดื่มของมึนเมา ผู้อ่านที่อายุต่ำกว่า 18 ปีควรใช้พิจารณาในการอ่านและไม่ควรปฏิบัติตาม

    “อาหารเสร็จแล้วน่อ” เหมยฮัวถือถาดที่มีถ้วยมาม่าหม้อไฟแบบไม่เผ็ดมาพร้อมกับช้อนห้าคู่ ส่วนฮอรัสก็เดินตามหลังหญิงสาวมาในถาดที่เป็นชุดเดียวกันเพียงแต่เป็นมาม่าหม้อไฟแบบเผ็ด

    ทั้งสองคนวางถ้วยลงบนโต๊ะพลาสติกสีดำที่ถูกเปลี่ยนโดยโรซารี่และอเล็กเซ เพราะก่อนหน้านี้มันเป็นโต๊ะแก้วและทั้งสองกังวลว่าอาจจะเกิดอันตรายขึ้นได้ถ้าปล่อยคนเมาไว้กับแก้ว

    “เอวรี่น๊ายยย!!! เอวรี่ม๊ายยย!!! เอวรี่ท๊ามมม!!! เอวรี่ซ๊ายยย!!!”

    “ออดิล ค๊าโด๊ ยอกี๊น ทรอปิค่อลไน๊!!!!”

    คู่รักญี่ปุ่นอเมริกันเจ้าของสองเสียงเพี้ยนตะโกนร้องเพลงลั่นห้องด้วยเสียงที่เหินนนนนนนนนนขึ้นไปจนเทวดาแทบตกใจ หัวส้มสะบัดผมซ้ายขวาเต็มแรงตามจังหวะ ส่วนสาวหัวเขียวก็กระโดดเต้นตามเพลงแบบที่ท่าไม่เป๊ะสักท่า

    ทั้งหกคนยกเว้นทิวากียุลได้แต่นั่งมองตาปริบๆ ไม่คิดว่าไอ้วอดก้าผสมแฟนต้าสีแดงจะออกฤทธิ์ไวขนาดนี้ นาซิสซ่าที่อึ้งกับภาพความวุ่นวายตรงหน้าก็เผลออุทานออกมาโดยไม่รู้ตัวว่า

    “วอทเดอะ!@#$”

    “คุณนาซิสซ่า! Bad word นะครับ!”

    “โอัย! ตีฉันทำไมเนี่ย!?”

    “ตีเตือนคุณไง พูดบ่อยๆมันไม่ดีนะครับ” ดันเต้ที่เพิ่งตีไปที่แขนของแฟนตัวเองไปเบาๆเอ่ยปากดุ ก่อนที่หญิงสาวจะทำหน้ายู่ใส่แล้วกลับมาสนใจกับไวน์แดงสุดหรูในมือของเธอต่อ

    “โอโห ทำ dumdi dumdi เพี้ยนไปหมดเลยน่อ”

    “ถ้าศิลปินมาได้ยินอาจจะร้องไห้เอาก็ได้นะขอรับ”

    “ยูว่างายนะ!? / พวกคุณว่างายน้าเจ้าค้า!?” 

    สองคนเมาดันหูดีได้ยินสิ่งที่เหมยฮัวกับฮอรัสแอบซุบซิบกันก็หันขวับมาขึ้นเสียงใส่ทันที ทำเอาคนถามตกใจจนไปไม่ถูก

    “เอ่อ… บอกว่ามาม่านี่มันก็มันๆดีน่ะน่อ”

    “ชะ ใช่ขอรับ แต่ถ้าใส่พริกมากเกินไปจะร้องไห้เอาได้”


    ‘นี่มันแถน้ำขุ่นสุดๆไปเลยน่อ!!’


    “อ๋อ...” ยูริทำหน้าเข้าใจแล้วหันไปมองถ้วยมาม่าที่วางอยู่บนโต๊ะก่อนจะใช้ตะเกียบคีบมันขึ้นมากินอย่างรวดเร็ว “อืม.. อย่างที่คุณเหมยฮัวว่าจริงด้วยเจ้าค่า มันๆดีเน้อ งั้นยูรี้ไปร้องไปต่อก่อนน้า”

    “เชิญเลยน่อ”

    พูดจบหญิงสาวก็รีบเดินกลับไปประจำที่แล้วเริ่มเปิดคอนเสิร์ตเพลงใหม่ทันที

    “เพิ่งสี่ทุ่มแต่พวกนั้นเมาแล้วเรอะ?” โรซารี่เท้าคางงอย่างเซ็งๆ นี่มันไม่เป็นไปตามที่เธอคิดไว้เลย

    “นั่นสิครับ ผมชงให้พวกนั้นไม่หยุดเลย ตอนนี้วอดก้าก็หมดไปสองขวดแล้วด้วย” อเล็กเซเสริม

    “งั้นก็สมควรแล้วล่ะ เห้อ” หญิงสาวชาวอังกฤษถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะกระดกวอดก้าราสเบอร์รี่ผสมโค้กและมะนาวรวดเดียว ความร้อนที่กระจายวาบที่ลำคอบวกกับความซ่าและเปรี้ยวของโค้กและมะนาวทำให้หญิงสาวรู้สึกเหมือนโดนไฟแผดเผาไปทั่วร่างชั่วขณะ แต่มันก็ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมากจริง!

    “ฮ้า! โอ้โหอเล็กเซ นายไปได้สูตรนี้มาจากไหนเนี่ย? อร่อยโคตร!”

    “พ่อผมสอนมาครับ หึหึ”

    “มันขนาดนั้นเลยเหรอยะ” นาซิสซ่าที่นั่งอยู่ข้างๆโรซารี่ถาม

    “อะลองดู อเล็กเซไปชงมาให้หน่อย”

    “รับทราบครับ” ชายหนุ่มลุกไปชงเครื่องดื่มแก้วใหม่ให้เพื่อนสาว เขากลับมาพร้อมกับแก้วที่ดูยังไงก็เหมือนถูกเติมด้วยน้ำโค้กแค่อย่างเดียว

    นาซิสซ่ารับมันมาจากมือของอเล็กเซก่อนจะดมกลิ่นของเครื่องดื่มแก้วนี้ กลิ่นอ่อนๆของราสเบอร์รี่และแอลกอฮอล์ตีขึ้นจมูกมาทันทีในจุดแรก ผ่านไปสักพักเธอถึงได้กลิ่นของโค้กตามมา

    นิ้วเรียวกระชับแก้วก่อนจะยกมันขึ้นจิบ รสชาติที่หวานอมเปรี้ยวที่แฝงความซ่าทำให้ตาของเธอเบิกกว้างขึ้นพร้อมกับการจิบรอบที่สอง สาม และสี่

    “โห อร่อยจริงด้วย”

    “เห็นมั้ย บอกแล้ว”

    “งั้นฉันกินอันนี้แหละ เอาไวน์ไปเก็บเลยดันเต้”

    “อ้าว!? ไม่กินแล้วเหรอครับ”

    “มันน่าเบื่อนี่นา อันนี้อร่อยกว่าเยอะ”

    “ก็ได้ครับ”

    “งั้นเดี๋ยวกระผมช่วยคุณเอาไปเก็บละกัน” ฮอรัสรีบช่วยขนแก้วไวน์ที่อยู่บนโต๊ะตามหลังดันเต้ไป

    “ขอบคุณนะฮอรัส”

    “ยินดีขอรับ” ฮอรัสวางแก้วไวน์ลงในอ่างล้างจานอย่างเบามือก่อนจะหันไปคุยกับเพื่อนของตน “แล้วกียุลกับคุณทิวาล่ะขอรับ”

    “นั่นสิ ลืมไปตามเลย งั้นเก็บไวน์เสร็จไปตามพวกนั้นกันดีกว่า”

    “ขอรับ”

    หลังจากที่ดันเต้เก็บขวดไวน์เข้าที่ เขาและเพื่อนชาวอียิปต์ก็เดินไปตามเพื่อนของพวกเขาทั้งสองที่อยู่ในห้อง มือหนาของหนุ่มอิตาลีกำลังเงื้อขึ้นเพื่อเคาะประตูเรียก แต่แล้วก็ชะงักเพราะเสียงแปลกประหลาดที่เล็ดลอดออกมาจากห้อง

    “โอ๊ย! อ๊ะ อืมมม อึก ทะ ทิวา ใจเย็นๆ”

    “!?” ทั้งดันเต้และฮอรัสหันหน้ามองกันขวับ สองตากระพริบปริบๆพลางทำหน้าประมาณว่า ‘นายก็ได้ยินเหมือนฉันมั้ยบี 1’

    ‘ได้ยินแจ่มแจ้งเลยบี 2’

    “ทำไงดีล่ะทีนี้..”

    “ลองเคาะเรียกดูก่อนมั้-”

    “อดทนหน่อยสินายตี๋!”

    “อ๊ะ อ๊าาา อึก ทน.. จะไม่ไหวแล้ว หยุดก่อนได้มั้ย!”

    “จะเสร็จอยู่แล้วเนี่ย อีกนิดนึง ฮึบ”

    “อ๊าาาา”

    “...”


    เงิบรับประทานกันทั้งคู่…


    “เอ่อ ดันเต้ กระผมว่าเรากลับกันก่อนดีกว่านะ”

    “กะ ก็ดีๆ! ไปกันเถอะ”

    ดันเต้รีบลากฮอรัสไปจากหน้าประตูของประธานนักเรียนตัวดีก่อนจะรีบวิ่งกลับมายังห้องนั่งเล่นดังเดิม

    “อ้าว แล้วยัยลิงกับกียุลล่ะ?” นาซิสซ่าเอ่ยถาม

    “เอ่อ.. ปล่อยพวกเขาไปก่อนเถอะครับ เดี๋ยวก็คงมาเองแหละ”

    “ยังไงอะ?”

    “โธ่ คุณนาซิสซ่าอย่าเพิ่งถามมากได้มั้ย ก็สองคนนั้นเค้าxxxกันอยู่อ้ะ!!” หนุ่มหัวทองเกิดหัวเสียขึ้นมาดื้อๆแล้วเผลอพูดสิ่งที่ตนคิดออกมา ทำให้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบทันที

    “อ่า...”

    “เรื่องธรรมชาติน่า เราร้องเพลงกันต่อดีกว่าเนอะ” โรซารี่รีบทำลายบรรยากาศอึดอัดลงแล้วคว้าไมค์มาจากยูริ นิ้วเรียวพิมพ์ชื่อเพลงที่ต้องการลงในช่องค้นหา และเพลงนั้นก็ดังขึ้น

    “เฮ้อ” ดันเต้ถอนหายใจแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟาข้างๆแฟนสาวของเขา

    “ถอนหายใจทำไมยะ?”

    “ก็ผมดันไปขึ้นเสียงใส่คุณนาซิสซ่านี่นา”

    “อ๋อ เรื่องนั้น”

    “...”

    “ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่รู้ว่าเมื่อกี้นายแพนิค แล้วรู้ได้ยังไงว่าสองคนนั้นเค้ากำลัง have some fun กัน”

    “ผมกับฮอรัสได้ยินเสียงร้องของกียุลดังออกมาจากห้องน่ะครับ ใช่มั้ยฮอรัส” ดันเต้ตอบแล้วหันไปสะกิดเพื่อนชาวอียิปต์ที่นั่งข้างๆให้ช่วยเสริม

    “ใช่ขอรับ คือกระผมก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องปกตินั่นแหละ แต่แค่ตกใจเพราะไม่เคยเห็นคุณกียุลเค้าทำเสียงแบบนั้นเลยน่ะขอรับ”

    “เสียงแบบนั้น แบบไหนอะน่อ” เหมยฮัวที่นั่งฟังอยู่เงียบๆถามขึ้น

    “ก็แบบ ‘อ๊ะ อ๊า ทิวา หยุดก่อน จะทนไม่ไหวแล้ว อ๊า’ ”

    “...” สิ้นเสียงคราง ทุกคนที่อยู่ละแวกนั้นก็ได้แต่ทำหน้าอึ้งกิมกี่ เพราะไม่คิดว่าไอ้เพื่อนผู้สุขุมมันก็จะบ้าจี้ครางเป็นตัวย่างกันแบบนี้


    ‘เอ่อ… ก็เข้าใจนะว่าอยากให้เพื่อนๆได้เห็นภาพ แต่ก็ไม่ต้องนั่งครางให้ฟังถึงขนาดนี้ก็ได้นะฮอรัส!’


    “เชี่ยไรเนี่ย”

    “พูดอะไรน่ะขอรับคุณนาซิสซ่า!!”

    “ก็ตกใจ.. ที่นายมาครางให้พวกเราฟัง”

    “...”


    ‘เออว่ะ (ขอรับ)’


    “โอยยยย กระผมไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้วขอรับ ฮือออ” ฮอรัสที่เก็บเศษหน้าที่แตกไม่ทันก็ได้แต่นั่งกุมหน้าร้องไห้สมเพชตัวเองอยู่มุมห้อง โดยมีเหมยฮัวช่วยปลอบอยู่ข้างๆ

    “ฉันว่านะ ฮอรัสเมา” โรซารี่ที่นั่งดูตลกคาเฟ่อยู่เงียบๆเอ่ยขึ้นพร้อมใช้นิ้วโป้งชี้ๆไปทางเพื่อนชาวอียิปต์

    “ผมก็ว่างั้นครับ” อเล็กเซเสริม

    .

    .

    .

    “ไงทุกคน กินกันไปถึงไหนแล้ว” เสียงของชายหนุ่มชาวเกาหลีดังขึ้น ทำให้ทั้งห้องหันไปทางต้นเสียง พวกเขาก็พบว่ากียุลและทิวาได้เดินมาร่มวงพร้อมกัน แต่ไหงสภาพทิวากลับโทรมจัดๆผิดกับกียุลที่หน้าใสกิ๊งอย่างั้นล่ะ!?

    “ทะ ทำไมคุณทิวาดูเหนื่อยขนาดนั้นล่ะครับ” อเล็กเซรีบทักเพื่อนสาวขึ้นเมื่อเห็นสภาพของเธอ

    “ก็ตาตี๋เนี่ยดิ ใช้ให้ฉันนวดอย่างกับทาส นวดหลังบ้างนวดหัวบ้าง พอเจ็บก็ร้องโหยหวนอย่างกับโดนเข็มฉีดยาจิ้ม ตัวก็ไม่ใช่เล็กๆ สภาพฉันเลยกลายเป็นแบบนี้”

    “อ๋อ...”

    “เอาจริงป่ะน่อ ไอสองคนนี้เค้าบอกว่าพวกลื้อกำลังxxxกัน” เหมยฮัวหันไปพูดกับเพื่อนซี้ของตนแต่นิ้วกลับชี้ไปทางดันเต้และฮอรัสผู้เคลมว่าได้ยินเสียงครางออกมาจากห้อง

    “ก็ได้ยินจริงๆนี่ครับ! กียุลครางดังมาก”

    “อ๋อ พอดีตอนนั้นทิวานวดตรงจุดอะดิ โคตรจี๊ดเลย เลยร้องออกมา”

    “ตอนแรกกระผมคิดว่าพวกคุณจะทำกันแล้วซะอีกขอรับ แต่ละคำที่พูดมามันส่อมากๆ”

    “ตอนแรกฉันก็ว่าจะทำนั่นแหละ แต่ยัยลิงดันขัดขืน เอาแต่บอกว่าให้พ่อแม่ฉันกลับเกาหลีไปก่อ-”


    โครม!


    “บางเรื่องไม่ต้องพูดก็ได้นะยะ!”

    สองเท้าของทิวาทำการถีบกียุลสุดแรงจนเจ้าตัวกระเด็นหล่นจากโซฟาไปนอนคลุกฝุ่นอยู่ที่พื้น มิหนำซ้ำแก้วน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะยังหกใส่หัวอีกด้วย แต่โชคดีที่เป็นน้ำเปล่า ชายหนุ่มจึงไม่ต้องไปล้างหัว

    “โอ๊ย!! เจ็บนะยัยลิง!!”

    “เออ เจ็บไปเลย แล้วไม่ต้องให้ฉันนวดอีกนะ!”

    “ไม่ได้นะ! ถ้าเธอไม่นวดฉันจะไม่ให้ช็อคโกแลตที่อยู่ในตู้เย็นสักอันเดียว!”

    “ถ้างั้นฉันจะไปฟ้องแม่ว่านายมาแต๊ะอั๋งฉันเวลาอยู่กันสองคน!!”

    “อย่างนั้นฉันก็โดนครูไอริณฆ่าตายน่ะสิ!!”

    “โอ๊ย ทะเลาะกันอีกแล้วน่อคู่นี้” สิ้นเสียงของเหมยฮัว ทุกคนพร้อมใจกันใส่หูฟังที่เชื่อมต่อกับทีวีห้องนั่งเล่นจอใหญ่แล้วเปิดหนังดูทันที เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าห้ามไปก็เหนื่อยเปล่าๆสำหรับคู่นี้

    “ยูริง่วงจังเลยเจ้าค่า” ร่างบางบิดขี้เกียจสองสามครั้งก่อนจะเอนตัวลงนอนกับโซฟา แต่ไม่ทันไรก็มีมือหนาดึงร่างของเธอให้นอนลงกับตักอุ่นๆของเขา

    “นอนเลยก็ได้นะยูริจัง เดี๋ยวไอเป็นหมอนให้เอง” คริวโตเฟอร์ระบายยิ้มอ่อนๆให้แฟนสาวของตน ทำให้ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวขึ้นมา ก่อนที่เธอจะยิ้มตอบแล้วหลับตาลง

    “ขอบคุณเจ้าค่ะ”

    “นายหายแฮงค์แล้วเหรอคริส?” ดันเต้ถามขึ้น เมื่อเห็นท่าทีของเพื่อนซี้ตัวเองไม่บ้าเหมือนชั่วโมงก่อน

    “น้ำ 1 แกลลอนกับฉี่สี่ครั้งก็หายแล้ว”

    “อันหลังไม่ต้องบอกก็ได้นะ ฉันไม่อยากรู้โว้ย”

    “อ่าวเหรอ sorry sorry”

    .

    .

    .


    “ไม่ต้องมานั่งข้างๆเลย!” หญิงสาวชาวไทยแสดงความหงุดหงิดก่อนจะไล่ชายหนุ่มที่พยายามจะนั่งลงข้างๆให้ออกไปที่อื่น

    เขาที่มองหน้าเธอนิ่งๆก่อนจะหันหลังเดินไปนั่งที่อื่นจริงๆตามคำพูดของหญิงสาว เพราะเขาไม่อยากจะทะเลาะให้เรื่องมันบานปลายไปมากกว่านี้

    “หนังจบแล้ว เราทำอะไรกันดีอะ แถมเหล้าก็เหลือเยอะด้วย” ทิวาที่อยู่ในสถานะงอนกียุลและนั่งห่างกับชายหนุ่มเป็นไมล์พูดขึ้น

    “เล่นเกมวงเหล้าป่ะ” คริสโตเฟอร์เสนอ

    “ได้นะ ฉันไม่เคยเล่น อยากลองอยู่เหมือนกัน ทุกคนเอาด้วยมั้ย” โรซารี่เห็นด้วยและหันไปถามความเห็นของเพื่อนๆ ซึ่งทุกคนก็โอเคและพยักหน้าตอบรับ

    “ดี งั้นเล่นอะไรดีล่ะ”


    เป๊าะ!


    เสียงดีดนิ้วของคริสโตเฟอร์ดังขึ้นบ่งบอกว่าเจ้าตัวคิดอะไรบางอย่างสนุกๆออก

    “ไอมีเกมดีๆมาให้เล่น แต่ต้องนั่งเป็นวงกลม”

    “ทำไมอะ” ดันเต้ถาม

    “มันได้อรรถรสดี”

    “แค่เนี้ย?”

    “อ่าฮะ ป่ะนั่งๆ” คริสโตเฟอร์ค่อยๆยกหัวยูริขึ้นจากตักแล้วนำหมอนมารองให้แทน แต่ก่อนจะไปเล่นเกม เจ้าตัวก็ไม่ลืมที่จะบอกรักแฟนสาวที่นอนหลับปุ๋ยของตนด้วยการบรรจงจุ๊บที่หน้าผากก่อนจะใช้มือหนาของเขาเกลี่ยผมที่ปรกหน้าหญิงสาวออกก่อนจะเอ่ยฝันดีเบาๆข้างหู “Good night honey. I’ll be back”

    กียุลที่นั่งมองเพื่อนหัวส้มของตนก็รู้สึกอิจฉาตาร้อนอยู่ในใจ เขาอยากจุ๊บหน้าผากแบบนี้กับแฟนของตนบ้าง แต่ติดที่ตอนนี้เธอกำลังงอนเขาอยู่ ดวงตาสีน้ำทะเลลึกเหลือบไปมองแฟนสาวเป็นระยะๆ ตอนนี้เธอนั่งกอดหมอนข้างคู่ใจอยู่ข้างๆเพื่อนชาวอังกฤษของเธอ ทิวาทำแก้มป่องแล้วพูดคุยอะไรบางอย่างกับโรซารี่ ส่วนโรซารี่ได้แต่หัวเราะเบาๆแล้วลูบหลังทิวาเป็นการปลอบใจ 

    ผ่านไปสักพัก โรซารี่ที่รู้สึกถึงสายตาที่จับจ้องมาทางตน จึงเงยหน้าขึ้นและพบว่ากียุลผู้เป็นเจ้าของสายตานั้นนั่งจ้องเธอและทิวาด้วยความกระวนกระวายในใจ หญิงสาวจึงส่งซิกให้ชายหนุ่มประมาณว่าสนใจมานั่งข้างๆทิวามั้ย ไม่นานกียุลจึงพยักหน้า และต่างคนต่างก็สลับที่นั่งของตน

    “ฉันไปก่อนนะ” โรซารี่ลุกขึ้น

    “เธอจะไปไหนอะ?” ทิวาหันไปถาม ส่วนในมือข้างซ้ายกำลังหยิบกับแกล้มกินอย่างเอร็ดอร่อย

    “จะไปนั่งข้างอเล็กเซน่ะ ไปก่อนนะ”

    “อ่อ โอเค” หญิงสาวหันมาสนใจอาหารการกินของเธอต่อ

    หลังจากเคลียร์พื้นที่ให้โล่ง ทั้งเก้าคนยกเว้นยูริก็นั่งล้อมกันเป็นวงกลม โดยที่แต่ละคู่นั่งด้วยกัน 

    “นายนี่ยังฉลาดเหมือนเดิมเลยนะ รู้ด้วยว่าที่ฉันส่งซิกไปมันแปลว่าอะไร” โรซารี่แซวกียุลในระหว่างที่พวกเขาทั้งสองกำลังสลับที่นั่ง

    “อันนี้เป็นคำชมใช่มั้ยเนี่ย ฮ่าๆ”

    “ก็ชมไงงง อย่าลืมง้อยัยทิวาด้วยล่ะ งอนจนทำหน้ายู่หมดแล้วน่ะ”

    “ได้ๆ ไม่ต้องห่วง”

    หลังจากจบบทสนทนา ชายหนุ่มก็ค่อยๆนั่งลงข้างๆแฟนสาวของตน

    “นายมานั่งกับฉันทำไมเนี่ย?”

    ดูท่าจะมีแต่ทิวาที่ไม่อยากให้กียุลมานั่งด้วย

    “เริ่มเล่นเลยป่ะคริส” แต่ชายหนุ่มก็ทำเป็นไม่สนใจคำถาม แล้วหันไปคุยกับเพื่อนของตน


    ‘หนอย… เมินกันอย่างนี้เลยเหรอยะ!?’


    ฟึบ!


    “เอ๊ะ?”

    “ใครมันจะไปเมินแฟนสาวสุดที่รักกันล่ะครับ ก็มานั่งง้อเธอไงยัยลิง :)” มือหนาของชายหนุ่มลูบไปมาบนหัวของหญิงสาวก่อนจะเลื่อนลงมากุมมือเล็กๆของเธอ 

    “ย่ะ!”


    ‘สรุปก็คือแกล้งเมินสินะ’


    “อะแฮ่มๆ เรามาเริ่มเล่นกันเลยดีกว่า เกมนี้ง่ายๆ ไอจะให้แต่ละคนผลัดกันถามคำถามวนไป ใครที่เคยทำในสิ่งที่ถูกถาม ให้กินเหล้า 1 shot ถ้าไม่เคยก็ไม่ต้องกิน เช่น ใครเคยลอกข้อสอบ ถ้าเคยก็ดื่ม ไม่เคยก็ไม่ต้อง เก็ตมั้ยทุกคน” คริสโตเฟอร์อธิบายก่อนจะแจกแก้วช็อตให้คนละใบ

    “เก็ตๆ”

    “โอเค งั้นเริ่มที่ไอแล้ววนไปทางดันเต้นะ”

    “อ้าว งั้นฉันก็คนสุดท้ายอะดิ?” ทิวารีบทักท้วงขึ้น

    “ยูไม่สุดท้ายหรอกเพราะเดี๋ยวมันก็วนไปเรื่อยๆอย่างนี้แหละ”

    “อ่อ”

    “งั้นเริ่มละนะ!! ใครเคย underage drinking บ้าง??(การดื่มตอนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ)”

    “อิงตามโนอาห์หรืออิงตามกฎหมายประเทศตัวเองอะ” อเล็กเซถาม

    “อิงตามโนอาห์”

    พูดจบ ก็มีแก้วช็อตหกแก้วถูกยกดื่ม โดยที่คนที่ไม่ได้ดื่มมีแค่ทิวา เหมยฮัวและโรซารี่เท่านั้น

    “ยัยกิ้งก่าก็ด้วยเหรอ!?” ทิวาหันไปถามนาซิสซ่าทันทีที่เห็นหญิงสาวกระดกแก้วช็อตรวดเดียว

    “ไม่งั้นฉันจะรู้เรื่องไวน์ได้เยอะขนาดนี้ได้ไงล่ะยะ”

    “เออว่ะจริงด้วย”

    “ต่อไปตาผมสินะครับ” ดันเต้รินเหล้าใส่แก้วของทุกคนอย่างร่าเริงก่อนจะเริ่มโจมตีด้วยคำถามชุดใหม่ “ใคร! เคย! มี! เซ็กซ์! กัน! แล้ว! บ้าง!”

    “...”

    ทั้งวงตกอยู่ในความเงียบ ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ขยับไปหยิบแก้วช็อต เมื่อดันเต้เห็นอย่างนั้นจึงเลิ่กลั่กก่อนจะพูดต่อขึ้น

    “เอ่อ.. ไม่มีใช่ป่ะ งั้นฉันเองนี่แหละ” มือหนาของดันเต้ยกแก้วกระดกรวดเดียว และเช่นกันกับนาซิสซ่า แฟนสาวของเขาก็กระดกรวดเดียวเช่นกัน ก่อนจะใช้หลังมือสวยเช็ดปากแล้วหันไปทางอื่นพลางทำไม่รู้ไม่ชี้

    “Wowww~ ไม่เบาเลยนะพวกยู”

    “เงียบไปเลยคริส! ตาคุณนาซิสซ่าแล้วครับ” 

    “ของฉันก็ง่ายๆละกัน ใครเคยโดนครูมารีเทศนาบ้าง”

    “โอ้โห!! ของฉันไม่ต้องแก้วช็อตแล้วมั้ง” ทิวารีบยกช็อตแรกของเจ้าตัวขึ้นดื่ม “เอามาอีก เอามาๆ”

    “เอาไป~ ของเธอต้องสักสิบแก้ว” นาซิสซ่าที่ได้ใจก็รีบรินเหล้าให้ทิวาดื่มเป็นสิบแก้ว ส่วนเหมยฮัวและโรซารี่ผู้ก็เคยโดนเทศนาโดยครูมารีเช่นกันก็ดื่มกันเงียบๆ เพราะยังไม่อยากภาพตัดกันตอนนี้

    “ฮ้า! แสบคอมากเลย”

    “พอก่อนยัยลิง นี่น้ำเปล่า” กียุลยื่นแก้วน้ำให้ทิวาก่อนจะลูบหัวเบาๆ หญิงสาวรีบดื่มน้ำตามเพื่อชำระล้างความแสบร้อนที่กำลังเผาไหม้ตรงหน้าอกและลำคอ ก่อนจะกลับมามีแรงเล่นเกมรอบต่อไปทันที

    “ตากระผมนะขอรับ เอาแบบคลายเครียดละกัน ใครเคยหัวเราะแล้วตดพร้อมกันบ้างขอรับ”

    “โอ้ยยย คำถามอะไรของยูเนี่ยฮอรัส! อะดื่ม” คริสโตเฟอร์ที่ทำท่าขำกับคำถามของเพื่อนตนกระดกเหล้าเป็นคนแรก

    “โหคริส ทำไปได้ไง” กียุลถามหน้าตาย

    “อย่างกับยูไม่เคยอย่างนั้นแหละ!?”

    “ก็ไม่เคยน่ะสิโว้ย”

    “แต่ผมเคยนะครับ” อเล็กเซโพล่งขึ้นกลางวงแล้วกระดกไปอีกช็อต

    “อเล็กเซ้ซ้ซ้ซ้ซ้!!!”

    “เรื่องปกติอย่าตกใจกันสิ!!”

    “ปกติตรงไหนฟะ!?”

    “อะตาอั๊ว อืม… ถามอะไรดีนะ” เหมยฮัวรีบเล่นเกมต่ออย่างกระตือรือร้นก่อนจะฉุกคิดคำถาม 

    “เอาอะไรก็ได้ที่เข้ามาในหัวอะยัยหมวย เกมจะได้ไปเร็วๆ” หญิงสาวชาวฝรั่งเศสเสนอ เพื่อนหมวยจึงพยักหน้ารับคำแนะนำแล้วยิงคำถามใส่วงทันที

    “ใครเคยกินอาหารที่อาทิวาทำแล้วอ้วกบ้าง!”

    “ทั้งห้องเลยมั้ยเนี่ย” โรซารี่แซวก่อนจะกระดกแก้วช็อต และเพื่อนเจ้าหญิงที่เหลือก็กระดกไปพร้อมๆกัน ความทรงจำสมัยคลาสพริ้นเซสโดยเฉพาะคลาสคหกรรมยังชัดเจนเหมือนเดิมทุกอย่าง

    “โรซารี่!!”

    “ฉันก็เคยนะ ถึงแม้จะกลั้นสู้ แต่อ้วกมันสู้กลับ” กียุลพูดเสริมอีกคนก่อนจะกระดกอีกช็อตตามกันไป

    “นายตี๋!! ไม่ต้องไปบอกเค้าทุกเรื่องก็ได้นะยะ!!”

    “ไอพวกนี้น่าจะรู้เรื่องทุกอย่างหมดอยู่แล้วแหละเธอไม่ต้องห่วงหรอก”

    “พอๆ ทิวาเธอเลิกโวยวายก่อน ฉันจะเล่นต่อแล้วนะ” โรซารี่ห้ามปรามเพื่อนของตนก่อนจะดำเนินเกมต่อ “ใครเคยโดนหักอกมาบ้าง?”

    “…”


    อึก อึก อึก


    เสียงแอลกอฮอล์ที่ถูกกลืนลงคอดังก้องไปทั่วห้อง เจ้าของเสียงก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย เป็นคู่หูเพื่อนตัวแสบชาวอิตาลีและอเมริกานี่แหละ 

    “นี่จริงป่ะเนี่ย ที่ฉันถามไปเพราะคิดว่าไม่มีใครเคยโดนหักอกนะ ไหนเล่า!”

    “เริ่มจาก เอิ๊ก! ยูก่อนเลยดันเต้” คริสโตเฟอร์ใช้ขวดวอดก้าเปล่าชี้ไปทางเพื่อนสนิทของตนด้วยท่าทางที่จะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่

    “เอ่อ…” ดันเต้ลังเลเล็กน้อย เขาจะหันไปมองทางนาซิสซ่า เธอเหยียดยิ้มมุมปากเล็กๆก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงว่า ‘เล่าไปเถอะ’

    “ผมโดนคุณนาซิสซ่าหักอกนี่แหละ”

    “จริงอะ!? ทำไมฉันไม่เคยรู้?”

    “อั๊วด้วยน่อ!”

    “ก็… เรื่องมันตอนคลาสพริ้นเซสนี่แหละครับ ตอนนั้นพวกเราก็ยังเด็กๆอะนะ แหะๆ” ดันเต้เกาหัวเล็กๆแก้เขินก่อนจะต่อเรื่องราวของเขา “ตอนนั้นผมเห็นคุณนาซิสซ่าเต้นบัลเล่ต์แล้วมัน impressed มากๆ ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่าคำว่าแฟนหรือความรักมันคืออะไร ผมคิดแค่อยากได้เค้ามาอยู่ข้างๆเพราะผมอยากสนิทชิดเชื้อกับเอเลี่ยน”

    “การกระทำ so ดันเต้มาก” คริสโตเฟอร์แซว ส่วนคนที่ถูกแซวก็หันไปขู่ให้เงียบก่อนจะเล่าต่อ

    “ผมเลยพูดไปว่า คุณช่วยอยู่กับผมไปตลอดชีวิตได้มั้ย มันก็คือการขอคบกลายๆแหละครับ แต่คุณนาซิสซ่าก็ตกใจ ด่าผมไปหลายทีก่อนจะถามว่ารู้เหรอว่าการคบกันคืออะไร ผมส่ายหน้า เธอเลยบอกว่า ไปศึกษาเรื่องนี้มาก่อนเถอะ จะได้รู้ว่ามันคืออะไรและควรทำตอนไหน”

    “เอ็นดูอะ แต่ตอนนั้นพวกเราก็เด็กกันจริงๆแหละ 12 ปีเอง” โรซารี่ปลอบ

    “จริงครับ ผมเลยไปถามพ่อแม่และพวกครู พวกเค้าก็อธิบายถึงการคบกันระหว่างคนสองคนได้ดีเลยนะ แล้วพวกเค้ายังบอกอีกว่า เรื่องแบบนี้ควรพัฒนากับคนที่เรารู้สึกพิเศษด้วย หลังจากนั้นผมก็สนิทกับพวกคุณมาเรื่อยๆ จนมีบางทีที่รู้สึกต่อคุณนาซิสซ่าแปลกกว่าเพื่อนคนอื่น ผมหาคำตอบอยู่นานจนรู้ว่ามันคือความรู้สึกพิเศษที่ว่านั่นแหละครับ”

    “Awww พวกนายน่ารักกันจัง”

    “นั่นสิน่อ”

    “ยัยกิ้งก่านั่งแผงคอแดงแล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆ”

    “เงียบไปเลยนะยะยัยลิง!!”

    “ฮะๆ ขอบคุณพวกคุณนะครับ ความสัมพันธ์ของเราก็ไม่ได้หวือหวาอะไรหรอก เป็นความเรียบง่ายที่พิเศษ นี่แหละครับความรักของคู่เรา”

    “โอโห มาหวานเลี่ยนอะไรตรงนี้ยะ รีบเล่นเกมต่อได้แล้ว!”

    “อะแหนะ ยัยกิ้งก่าเปลี่ยนเรื่องอีกละ”

    “หนอยยัยลิง!!”

    แล้วเกมก็ดำเนินไปเรื่อยๆ โดยถามวนเป็นวงกลม ผลัดกันรินเหล้าผลัดกันยกซดแก้วช็อต มีแต่เสียงหัวเราะและโหวกเหวกโวยวายที่อบอวลไปทั่วทั้งห้องนั่งเล่น แต่ก็ไม่สามารถทำให้ยูริที่นอนหลับใหลตื่นขึ้นได้แม้แต่นิดเดียว


    01:55 น. ห้องนั่งเล่นของราชาทั้ง 5

    “ต่อไปตาอั๊วแล้ว คำถามคือ ใครเคยแอบขโมยจุ๊บตอนแฟนหลับบ้าง” 


    อึก อึก อึก


    ดวงตาของสาวหมวยเบิกกว้าง เมื่อพบว่าหนึ่งในคนที่กำลังกระดกเหล้าอยู่นั้นมีโรซารี่ ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสาวมาดเท่ รักวิชาการที่สุดในกลุ่มเจ้าหญิงอยู่ด้วย

    “อาโรซารี่!?”

    “จะตกใจอะไรยะ ก็ฉันเคยทำจริงๆนี่นา” โรซารี่ใช้แขนเสื้อเช็ดปากก่อนจะวางแก้วลง

    “เอ๋ จริงเหรอครับคุณโรซารี่?” อเล็กเซที่ไม่ได้สติได้ขยับมาใกล้ๆหญิงสาวก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปหาอย่างอยากรู้อยากเห็น

    “หยะ อย่าเข้ามาใกล้สิ! ฉันเขินนะ!”


    หมับ!


    “คุณโรซารี่ย์ย์~ น่ารักจังเลยง่าาาา” อ้อมแขนแกร่งคว้าตัวแฟนสาวชาวอังกฤษมากอดแน่นราวกับกอดตุ๊กตาสุดโปรดพลางหอมแก้มนวลของหญิงสาวไปหลายฟอด ทางโรซารี่ก็พยายามที่จะดันตัวอเล็กเซออกเพราะอายเพื่อนๆ แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะแรงคนเมามันช่างมหาศาลผิดกับตอนมีสติลิบลับ

    “นี่!! ฉันเขินนะอเล็กเซ! ปล่อยไปได้รึยัง!”

    “ไม่ปล่อยครับ~ ก็คุณเล่นทำตัวน่ารักขนาดนี้ มีการขโมยจุ๊บผมตอนหลับด้วย”

    “กะ ก็นายน่ารักนี่นา”

    “โง้ยยย คุณโรซารี่~”

    “ปล่อยได้แล้วววว ฉันหายใจไม่ออกกก ถ้าไม่ปล่อยก็อย่ากอดแน่น!”

    “สองคนนั้นน่ารักดีนะขอรับ”

    “ฮะๆ นั่นสินะน่อ”


    ฟุบ!


    “เอ๊ะ?” สาวชาวจีนสัมผัสได้ถึงน้ำหนักบางอย่างอยู่ตรงต้นขาของเธอ เมื่อเธอก้มลงไปก็พบกับทิวาที่นอนซุกตักด้วยใบหน้าที่แดงก่ำด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์และขวดวอดก้าเปล่าในอ้อมแขน

    “เหมย~ ฮัว~ ที่~ ร้าก~

    “อาทิวา ลื้อเมาแล้วนะน่อ ไปนอนได้แล้ว”

    “งืมมม”

    เหมยฮัวเขย่าตัวเพื่อนสาวให้ลุกขึ้น แต่ยิ่งเขย่าก็เหมือนหญิงสาวจะยิ่งหลับ จนสาวหมวยเงยหน้าไปมองกียุลแล้วชี้ๆมาทางทิวาประมาณว่า ‘ทำไมอาทิวาถึงได้เมาขนาดนี้’ ส่วนชายหนุ่มก็แบมือขึ้นพลางส่ายหัวตอบราวว่า ‘ไม่รู้เหมือนกัน’

    “เฮ้อ ให้ตายสิ ทำไมเมาขนาดนี้นะน่อ” เหมยฮัวรวบผมเพื่อนสาวของตนที่ยุ่งเหยิงให้อยู่ทรงเรียบร้อยก่อนจะพยุงเธอไปยังห้องน้ำ “เดี๋ยวอั๊วพาอาทิวาไปล้างหน้าก่อนน่อ”

    “ก็ดีย่ะ งั้นวันนี้เราพอกันแค่นี้ก่อนมั้ย สองคนนั่นก็ไม่น่าจะสนใจเกมต่อแล้วด้วย” ดวงตาสีอะเมทิสต์คู่สวยเหลือบมองไปทางคู่รักชาวอังกฤษ-รัสเซีย ก่อนที่สายตาคู่ที่เหลือจะมองตามกัน พวกเขาทุกคนเข้าใจสิ่งที่นาซิสซ่าสื่อก่อนจะเก็บกวาดพื้นห้องให้เรียบร้อย

    ส่วนสองคนที่ถูกพูดถึงเมื่อกี้ก็ตกอยู่ในโลกที่เพียงแค่เราสองคนเรียบร้อย 

    จะว่าไปพวกนั้นก็ดูน่ารักไม่น้อยเลยแฮะ

    “เหมยฮัว ฉันเอาผ้ามาให้แล้ว” กียุลรีบเดินไปทางห้องน้ำ แต่เป็นเพราะฤทธิ์ของแอกลอฮอล์ทำให้เขาเดินโซซัดโซเซไม่น้อย

    “โอ่ยๆ ใจเย็นๆน่อ ลื้อก็ค่อยๆเดิน สภาพแต่ละคนไม่ไหวเลย”

    “ฮ่าๆๆ ตอนแรกฉันก็นึกว่าตัวเองไม่ได้เมาหรอก แต่พอเดินเท่านั้นแหละ”

    “เมาเลย ใช่มั้ยน่อ”

    “ถูกต้องที่สุด เมาไม่เมาก็วัดกันตอนลุกเดินนี่แหละ แสดงว่าเธอก็เคยเป็นอะดิ”

    “บ่อยน่อ ฮ่าๆๆๆๆ เมื่อก่อนป๊าอั๊วชอบพาอั๊วกิน แต่กินไม่ค่อยเยอะหรอก”

    พวกเขาพยายามเช็ดหน้าที่เลอะเทอะของทิวาให้สะอาด มือหนาของชายหนุ่มพยุงไม่ให้เธอล้ม ส่วนเพื่อนสนิทของเธอก็จัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ก่อนจะช่วยพยุงหญิงสาวไปที่ห้องนอน

    “เหนื่อยหน่อยนะเหมยฮัว ขอบคุณมากนะ”

    “ชิลน่ออากียุล งั้นเดี๋ยวอั๊วขอเปลี่ยนชุดให้อาทิวาก่อน ลื้อไปรอข้างนอกก่อนนะ”

    “อื้อ งั้นเดี๋ยวฉันไปช่วยฮอรัสก่อนละกัน”

    .

    .

    .

    “ท่านรอง” เสียงทุ้มนุ่มของหนุ่มเกาหลีเอ่ยเรียกชื่อเพื่อนของตนด้วยฉายาที่พวกคริสโตเฟอร์ตั้งให้

    “ไงท่านประธาน” ฮอรัสเงยหน้าขึ้นมาจากการเก็บกวาดพื้นห้องนั่งเล่น

    “พรุ่งนี้ครูไอริณนัดเก้าโมงนะ ฉันลืมบอก”

    “งั้นกระผมก็ลืมบอกคุณเหมือนกัน”

    “ลืมบอกอะไร?”

    “กระผมได้โทรไปเลื่อนนัดแล้วว่าเป็น 11 โมง” ฮอรัสชูโทรศัพท์ขึ้น หน้าจอแชทขึ้นข้อความที่เจ้าตัวทักไปหาไอริณ

    “ไวจัดๆ”

    “ถ้างั้น ที่เหลือกระผมฝากคุณเก็บด้ว-”


    โครม!


    “เฮ้ย!!!! ฮอรัส!!!! เอ็งจะล้มลงไปนอนอย่างนี้ไม่ได้นะเฟ้ย!!!”

    “โผมม่ายหวายแล้ว~” หนุ่มอียิปต์ล้มลงไปนอนขดตัวบนพื้นห้อง สองแขนคว้าของใกล้ตัวมาเป็นหมอนข้างแล้วตอบโต้อย่างเมามาย

    “ตื่นมาก่อน!!!!”

    กียุลเขย่าตัวเพื่อนตัวเองอย่างไม่ยั้งมือ อีกนิดเขาก็จะจับทุ่มลงพื้นแล้ว แต่ฮอรัสก็ยังไม่มีท่าทีจะตื่นมาช่วยเขาเก็บกวาดเลยสักนิด

    พยายามอยู่นาน  สุดท้ายเขาจึงยอมแพ้ กลับไปเอาผ้าห่มที่ห้องนอนมาห่มให้หนุ่มอียิปต์แล้วจึงเริ่มเก็บกวาดต่อ

    ชายหนุ่มคิดในใจตลอดทั้งคืนว่า ต่อไปเขาจะไม่อยู่เป็นคนสุดท้ายอีกแล้ว เพราะตามเก็บมันลำบากมาก! เหนื่อยชิบหาย!!


    ‘เวลาดื่มกับเพื่อนๆ อย่าลืมดูแลกันและกันด้วยนะครับ พวกผมเป็นห่วงนะ’ - กียุล


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×